� � �ា ្ ា ា �ា � �ា ា ា
� ��ញ�� ��� � � �� ឌញ
� � � គ ា
วรรณคดีวจิักษ์ា
ชัน้มัธยมศกึษาปีที่ា๔ា
ครพี่ตี่ตี๋ា ាอพรีะเสกាាบริสทธ์ิบัวทพิย์ា
ประวัติผูประพันธ
ประวัติผูประพันธ นายนรนิทรธเิบศร (อนิ)
- นายนรินทรธเิบศร มีนามเดมิวา อนิ - ไมมีหลักฐานเกี่ยวกับประวัตทิี่ชัดเจน
- กลาวกันวาเกดิที่ ต. บางบอ จ. ฉะเชงิเทรา
- เขารับราชการเปนมหาดเล็กหุมแพร ในสมเด็จพระบวรราชเจา
วังหนาในรัชกาลที่ ๒
- มีบรรดาศักดิ์เปน นรินทรธเิบศร
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
นิราศนรินทรคําโคลง
นริาศนรินทร นายนรินทรธเิบศร (อนิ) แตงขึ้นเมื่อคราว
ตามเสด็จพระบวรราชเจามหาเสนานุรักษ ไปปราบพมาซึ่งยก
มาตเีมอืงถลางและชุมพรใน พ.ศ. ๒๓๕๒
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
นริาศ เปนคําที่ใชเรียกวรรณกรรมที่มเีน้ือหา การพลัด
พรากจากบุคคลอันเปนที่รัก แทรกอารมณความเศราและ
ความคดิถงึนาง
โดยทั่วไปนิราศ มักแตงดวยกลอนสุภาพ ขึ้นตนดวย
กลอนนริาศ แตนิราศนรินทรขึ้นดวยรายสุภาพและดําเนินเร่ือง
ดวยโคลงสี่สุภาพ จึงเรียกชื่อใหมวา นิราศนรินทรคําโคลง
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
การต้ังชื่อนิราศแตละเร่ืองน้ัน สวนใหญต้ังตาม
- ชื่อสถานที่ที่เปนจุดหมายปลายทางของกว ี เชน นริาศ
เมอืงแกลง นิราศเมอืงเพชร นิราศพระบาท
- ต้ังชื่อตามชื่อของกว ี เชน นิราศนรินทร ของนายนรินทร
ธเิบศร (อนิ)
- ต้ังชื่อตามเน้ือเร่ือง เชน นิราศเดอืน ของนายมี
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
ลักษณะคําประพันธ
ลักษณะคําประพันธ
แตงเปนรายสุภาพนํา ๑ บท และตามดวย
โคลงสี่สุภาพจํานวน ๑๔๓ บท
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
รายสุภาพ
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
อธบิายฉันทลักษณ
- มวีรรคละ ๕ คํา หรอืเกนิ ๕ คําได แตไมควรเกนิ ๕ จังหวะ
ในการอาน
- แตงยาวกี่วรรคก็ได
- สามวรรคสุดทายกอนจบ ตองเปนโคลง ๒ สุภาพเสมอ
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
สัมผัส
- คําสุดทายของวรรคหนา ตองสัมผัสกับคําที่ ๑, ๒ หรอื ๓
ของวรรคตอๆ ไป ยกเวน ๒ วรรคสุดทาย
- ถาคําสุดทายของวรรคหนาเปนคําเอกหรอืคําโท คําที่รับ
สัมผัสในวรรคตอไปจะตองเปนคําเอกหรอืโทเชนเดยีวกัน
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- เอกโท มีโท ๓ เอก ๓ เชนเดยีวกับโคลง ๒ สุภาพ
- คําเปนคําตาย ถาคําที่สงสัมผัสเปนคําเปนหรือคําตาย คําที่รับ
สัมผัสก็ตองเปนคําเปนหรือคําตายดวย แตคําสุดทายของบท (ยกเวนคํา
สรอย) หามใชคําตายหรือคําที่มีรูปวรรณยุกต
- คําสรอย เตมิสรอยในตอนสุดทายของบทได ๒ คํา หรือจะเตมิทุก
วรรคก็ได แตพอถงึโคลง ๒ ตองงด เวนไวแตสรอยของโคลง ๒ สรอย
ชนิดน้ีถาใชเหมือนกันทุกวรรค เรียกวา สรอยสลับวรรค
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
โคลงสองสุภาพ
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
อธบิายฉันทลักษณ
- บทหน่ึงม ี๓ วรรค
- วรรคที่ ๑ และ ๒ มวีรรคละ ๕ คํา
- วรรคที่ ๓ ม ี๔ คํา และ ๒ คําสุดทายเปนคําสรอย
จะมหีรือไมก็ได
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- คําที่ ๕ ของวรรคที่ ๑ ตองสัมผัสกับคําที่ ๕ ของ
วรรคที่ ๒
- เอกโท มโีท ๓ คํา และ เอก ๓ คํา
- คําตาย หามใชคําตายในคําสุดทายของบท
- คําสรอย ใสคําสรอยตอวรรคที่ ๓ ได ถายังไมจบ
ความ ถาจบความแลวไมตองใส
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
ตัวอยางรายสุภาพและโคลงสองสุภาพ
“ศรีสทิธิ์พิศาลภพ เลอหลาลบลมสวรรค จรรโลงโลกกวา
กวาง แผนแผนผางเมอืงเมรุ ศรอียุธเยนทรแยมฟา.....
ขยายแผนฟาใหแผว เลี้ยงทแกลวใหกลา พระยศไทเทดิฟา
เฟองฟุงทศธรรม ทานแฮ”
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
เนื้อเรื่อง
เรื่องยอ นิราศนรินทรคําโคลง เร่ิมตนยอพระเกยีรตพิระมหากษัตริยและชมบานเมือง จากน้ันจงึกลาวถงึการจากนางและการเดนิทางผานสถานที่ใดก็ครํ่าครวญถงึหญงิ
คนรัก
การเดนิทางเขาคลองบางกอกใหญ ผานวัดหงส บางยี่เรือ บางขุนเทยีน
บางกก โคกขาม แมกลอง ปากนํ้า บานแหลม เพชรบุรี ขึ้นบกที่ชะอํา
ผานเขาสามรอยยอด บางสะพาน จงึถงึตะนาวศรี มีการชมนก ชมไม
ชมสัตว ตลอดระยะทาง
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
นิราศนรินทรคําโคลง ศรีสทิธพิิศาลภพ เลอหลาลบลมสวรรค จรรโลงโลกกวากวาง
แผนแผนผางเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทรแยมฟา แจกแสงจาเจดิจันทร
เพียงรพิพรรณผองดาว ขุนหาญหาวแหนบาท สระทุกขราษฎรรอนเสี้ยน
สายเศิกเหลี้ยนลงหลา ราญราบหนาเภริน เข็ญขาวยนิยอบตัว ควบคอม
หัวไหวละลาว ทุกไทนาวมาลยนอม ขอออกออมมาออน ผอนแผนดนิให
ผาย ขยายแผนฟาใหแผว เลี้ยงทแกลวใหกลา พระยศไทเทดิฟา
เฟองฟุงทศธรรม ทานแฮ
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
นิราศนรินทรคําโคลง
บทชมเมือง อยุธยายศลมแลว ลอยสวรรค ลงฤา
สิงหาสนปรางครัตนบรร เจิดหลา
บุญเพรงพระหากสรรค ศาสนรุง เรืองแฮ
บังอบายเบิกฟา ฝกฟนใจเมือง
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
เรืองเรืองไตรรัตนพน พันแสง
รินรสพระธรรมแสดง คํ่าเชา
เจดียระดะแซง เสียดยอด
ยลยิ่งแสงแกวเกา แกนหลาหลากสวรรค
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
พระอาทิตย (ทาวพันแสง)
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
พลอยนพเกา
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
เพชร
มรกต
ทับทมิ
บุษราคัม
โกเมน มุกดาหาร
เพทาย
ไพฑูรย
ไพลนิ
โบสถระเบียงมณฑปพ้ืน ไพหาร
ธรรมาสนศาลาลาน พระแผว
หอไตรระฆังขาน ภายคํ่า
ไขประทีปโคมแกว กํ่าฟาเฟอนจันทร
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
บทนิราศ จําใจจากแมเปล้ือง ปลิดอก อรเอย
เยียววาแดเดียวยก แยกได
สองซีกแลงทรวงตก แตกภาค ออกแม
ภาคพ่ีไปหนึ่งไว แนบเนื้อนวลถนอม
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
โฉมควรจักฝากฟา ฤๅดิน ดีฤๅ
เกรงเทพไทธรณินทร ลอบกลํ้า
ฝากลมเล่ือนโฉมบิน บนเลา นะแม
ลมจะชายชักช้ํา ชอกเนื้อเรียมสงวน
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
ฝากอุมาสมรแมแล ลักษมี เลานา
ทราบสวยมภูวจักรี เกลือกใกล
เรียมคิดจบจนตรี โลกลวง แลวแม
โฉมฝากใจแมได ยิ่งดวยใครครอง
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
จากมามาล่ิวลํ้า ลําบาง
บางยี่เรือราพลาง พ่ีพรอง
เรือแผงชวยพานาง เมียงมาน มานา
บางบรับคําคลอง คลาวน้ําตาคลอ
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
บานบอน้ําบกแหง ไปเห็น
บอเนตรคงขังเปน เลือดไล
อาโฉมแมแบบเบญ- จลักษณ เรียมเอย
มาซับอัสสุชลให พ่ีแลวจักลา
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
เห็นจากจากแจกกาน แกมระกํา
ถนัดระกํากรรมจํา จากชา
บาปใดท่ีโททํา แทนเทา ราแม
จากแตคาบนี้หนา พ่ีนองคงถนอม
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
ผลจาก ผลระกํา
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
ชมแขคิดใชหนา นวลนาง
เดือนตําหนิวงกลาง ตายแตม
พิมพพักตรแมเพ็ญปราง จักเปรียบ ใดเลย
ขํากวาแขไขแยม ยิ่งยิ้มอัปสร
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
ความเชื่อ กระตายบนดวงจันทร
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
ถึงตระนาวตระหน่ําซ้ํา สงสาร อรเอย
จรศึกโศกมานาน เนิ่นชา
เดินดงทงทางละหาน หิมเวศ
สารส่ังทุกหยอมหญา ยานน้ําลานาง
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
พันเนตรภูวนาถตั้ง ตาระวัง ใดฮา
พักตรส่ีแปดโสตฟง อื่นอื้อ
กฤษณนิทรเลอหลัง นาคหลับ ฤาพอ
สองพิโยคร่ํารื้อ เทพทาวทําเมิน
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
พระอนิทร (ทาวพันตา) พระนารายณ (พระจักรี)
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
พระพรหม (ผูมีส่ีพักตร)
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
นทีส่ีสมุทรมวย หมดสาย
ติมิงคลมังกรนาคผาย ผาดสอน
หยาดเหมพิรุณหาย เหือดโลก แลงแม
แรมราคแสนรอยรอน ฤเถา เรียมทน
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
ลมพัดคือพิษตอง ตากทรวง
หนาวอกรุมในดวง จิตช้ํา
โฉมแมพิมลพวง มาเลศ กูเอย
มือแมวีเดียวลํ้า ยิ่งลํ้าลมพาน
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
เอียงอกเทออกอาง อวดองค อรเอย
เมรุชุบสมุทรดินลง เลขแตม
อากาศจักจารผจง จารึก พอฤๅ
โฉมแมหยาดฟาแยม อยูรอนฤๅเห็น
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
ตราบขุนคิริขน ขาดสลาย แลแม
รักบหายตราบหาย หกฟา
สุริยจันทรขจาย จากโลก ไปฤา
ไฟแลนลางส่ีหลา หอนลางอาลัย
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
ร่ํารักร่ําเรื่องราง แรมนวล นาฏฤา
เสนาะสนั่นดินครวญ ครุนฟา
สารส่ังพ่ีกําสรวล แสนเสนห นุชเอย
ควรแมไวตางหนา พ่ีพูนภายหลัง
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
คุณคาของนิราศนรินทร
คุณคาของนิราศนรินทร
๑. คุณคาดานวรรณศิลป - การเลอืกสรรคํา (เลนเสยีงสัมผัส) - การใชภาพพจน
- การใชรสวรรณคด ี - การรักษาวธิกีารแตง
๒. คุณคาดานสังคม
- การบันทกึเหตุการณทางประวัตศิาสตร
- แสดงแผนที่การเดนิทาง
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
๑. คุณคาดานวรรณศลิป - การเลอืกสรรคํา (เลนเสยีงสัมผัส)
ในบทประพันธนิราศนรินทร ผูประพันธไดมกีารเลอืกคํา
ที่ทําใหบทประพันธมคีวามโดดเดนเปนอยางมาก ในที่น้ีคอื
การเลนเสยีงพยัญชนะ
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
การเลนเสยีงพยัญชนะ
เปนการเลอืกคําที่มเีสยีงพยัญชนะเดยีวกันหรือเสยีง
พยัญชนะใกลเคยีงกันมาใสไวในวรรคหรือบทเดยีวกัน ทําให
เวลาอานออกเสยีงเกดิความไพเราะ เชน
* เลนเสยีง “อ” “เอยีงอกเทออกอาง อวดองค อรเอย”
* เลนเสยีง “ร” “รํ่ารักรําเร่ืองราง แรมนวล นาฏฤา”
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
การใชภาพพจน
ภาพพจนท่ีใชในนิราศนรินทร เทาที่ปรากฏ ไดแก
- อุปลักษณ
- บุคคลวัต
- อธิพจน
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- อุปลักษณ
อุปลักษณ คอืการเปรียบเทยีบสิ่งหนึ่งเปนสิ่งหน่ึง
ที่มลีักษณะคลายกันหรือความหมายเหมอืนกัน คําที่ใชใน
การเปรียบไดแก เปน คอื ใช เทา ตาง
อุปลักษณ อาจเรียกวาชื่อหนึ่งวา การเปรียบเปน
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- ตัวอยางการใชอุปลักษณ
ลมพัดคอืพษิตอง ตากทรวง
หนาวอกรุมในดวง จิตช้ํา
โฉมแมพิมลพวง มาเลศ กูเอย
มอืแมวเีดยีวล้ํา ยิ่งล้ําลมพาน
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- บุคคลวัต
บุคคลวัต เปนการทําใหสิ่งไมมชีวีติ แสดงกริยาอาการ
ไดเหมอืนสิ่งมชีวีติ เชน รองไห เดนิ ยิ้ม หัวเราะ เปนตน
บุคคลวัต อาจเรียกอกีชื่อหนึ่งวา บุคลาธษิฐาน
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- ตัวอยางการใชบุคคลวัต
เอียงอกเทออกอาง อวดองค อรเอย
เมรุชุบสมุทรดนิลง เลขแตม
อากาศจักจารผจง จารกึ พอฤๅ
โฉมแมหยาดฟาแยม อยูรอนฤๅเห็น
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- อธพิจน
อธพิจน คอื การใชถอยคําหรือการเรียบเรียงเนื้อหา
ที่มกีารกลาวเกินกวาความเปนจรงิ หรือแปลกประหลาดไป
จากเดมิ
อธพิจน อาจเรียกอกีชื่อวา อตพิจน
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- ตัวอยางการใชอธพิจน
นทสีี่สมุทรมวย หมดสาย
ตมิงิคลมังกรนาคผาย ผาดสอน
หยาดเหมพิรุณหาย เหอืดโลก แลงแม
แรมราคแสนรอยรอน ฤเถา เรียมทน
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- การใชรสวรรณคด ี
รสวรรณคด ี เปนรูปแบบของเน้ือหาวาเน้ือหาในตอนน้ัน บอกอารมณวากําลังรูสกึอยางไร แสดงอาการอยางไร เชน ดใีจ เศราใจ
รสวรรณคดไีทย มีทั้งหมด ๔ รส คอื
* เสาวรจนี * นารีปราโมทย
* พโิรธวาทัง * สัลลาปงคพิสัย ปรากฏในนริาศนรนิทรม ี๒ รสคอื เสาวรจนแีละสัลลาปงคพสิัย
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- เสาวรจนี
คอืการเลาชมความงามของตัวละครในเร่ือง ซึ่งอาจเปนตัว
ละครที่เปนมนุษย อมนุษย หรือสัตว ซึ่งการชมน้ีอาจจะเปน
การชมความเกงกลาของกษัตริย ความงามของปราสาทราชวัง
หรือความเจริญรุงเรืองของบานเมอืง
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- ตัวอยางการใชเสาวรจนี
อยุธยายศลมแลว ลอยสวรรค ลงฤา
สงิหาสนปรางครัตนบรร เจิดหลา
บุญเพรงพระหากสรรค ศาสนรุง เรืองแฮ
บังอบายเบกิฟา ฝกฟนใจเมอืง
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- สัลลาปงคพสิัย
การกลาวขอความแสดงอารมณโศกเศรา
อาลัยตอบุคคลอันเปนที่รัก ทั้งที่เกดิจากการพลัดพรากจากลา
หรือตองเสยีชวีติไป
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- ตัวอยางการใชสัลลาปงคพิสัย
จําใจจากแมเปลื้อง ปลดิอก อรเอย
เยยีววาแดเดยีวยก แยกได
สองซกีแลงทรวงตก แตกภาค ออกแม
ภาคพ่ีไปหน่ึงไว แนบเน้ือนวลถนอม
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- การรักษาวธิกีารแตง
นิราศนรินทร เปนโคลงที่มลีักษณะตรงตามสัมผัส
คําเอก คําโท ถูกตองตามแบบแผนแทบทุกบท
นิราศนรินทรจงึแบบอยางในการประพันธรอยกรอง
ประเภทโคลง
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- ตัวอยางบที่ตรงตามบังคับคําเอก คําโท
จากมามาลิ่วล้ํา ลําบาง
บางยี่เรือราพลาง พ่ีพรอง
เรือแผงชวยพานาง เมยีงมาน มานา
บางบรับคําคลอง คลาวนํ้าตาคลอ
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
๒. คุณคาดานสังคม
- การบันทกึเหตุการณทางประวัตศิาสตร
นิราศนรินทร แตงเมื่อคร้ังนายนรินทรธเิบศร (อนิ)
ตามเสด็จสมเด็จพระบวรราชเจามหาเสนานุรักษ ยกทัพไปรบ
พมาที่ยกมาตเีมอืงถลางและชุมพร เมื่อป พ.ศ. ๒๓๕๒
จึงสังเกตไดวานิราศเร่ืองน้ี สะทอนเหตุการณ
บานเมอืงในสมัยน้ัน แมไมไดกลาวถงึโดยตรงก็ตาม
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
- แสดงแผนที่การเดนิทาง
นิราศนรินทร แสดงเสนทางการเดนิทัพทางเรือจาก
กรุงเทพฯ ถงึเพชรบุรี แลวเดนิทางบกตอไปถงึตะนาว
ซึ่งเปนการเดนิทางที่ใชเวลานานมาก
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
แผนท่ีการเดินทาง
ในนิราศนรินทร
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี – อ. พรีะเสก บรสิุทธิ์บัวทพิย
แบบทดสอบหลังเรียน
๑.
“เอียงอกเทออกอาง อวดองค อรเอย
เมรุชุบสมุทรดินลง เลขแตม
อากาศจักจารผจง จารึก พอฤๅ
โฉมแมหยาดฟาแยม อยูรอนฤๅเห็น”
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
๑. ขอใดถอดคําประพันธไมตรงกับความหมายของคําประพันธน้ี
ก. เอยีงอกเทความรูสกึเพ่ือบอกความในใจแกนอง
ข. นองจะรูหรือไมวาพ่ีทุกขรอนคดิถงึนองเพียงใดโปรดบอกพ่ีดวย
ค. แมจะใชเขาพระสุเมรุเปนปากกาจุมนํ้าในมหาสมุทรละลายดินเปนหมึก
ง. ใชอากาศเปนแผนกระดาษเพ่ือพรรณนาความรักความอาลัยก็ยังไมพอ
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
๒. “เอยีงอกเทออกอาง อวดองค อรเอย
เมรุชุบสมุทรดนิลง เลขแตม
อากาศจักจารผจง จารึก พอฤๅ
โฉมแมหยาดฟาแยม อยูรอนฤๅเห็น”
คําประพันธขางตนมกีารใชโวหารภาพพจนแบบใด
ก. อุปมา ข. อธพิจน
ค. บุคคลวัต ง. อุปลักษณ
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
๓. “จําใจจากแมเปลื้อง ปลดิอก อรเอย
เยยีววาแดเดยีวยก แยกได
สองซกีแลงทรวงตก แตกภาค ออกแม
ภาคพ่ีไปหน่ึงไว แนบเน้ือนวลถนอม” คําประพันธบทนี้มรีสวรรณคดตีรงตามขอใด
ก. เสาวรจน ี ข. นารปีราโมทย
ค. พโิรธวาทัง ง. สัลลาปงคพสิัย
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
๔. “เห็นจากจากแจกกาน แกมระกํา
ถนัดระกํากรรมจํา จากชา
บาปใดที่โททํา แทนเทา ราแม
จากแตคาบน้ีหนา พ่ีนองคงถนอม”
จากโคลงนิราศนรินทรบทน้ี บาทใดมเีน้ือหาแสดงความหวัง
ก. บาทที่ ๑ ข. บาทที่ ๒
ค. บาทที่ ๓ ง. บาทที่ ๔
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
๕. ขอใดมเีนื้อหาสรรเสรญิพระเกยีรตขิองพระมหากษัตรยิ
ก. อยุธยายศลมแลว ลอยสวรรค ลงฤๅ
ข. สงิหาสนปรางรัตนบรร เจิดหลา
ค. บุญเพรงพระหากสรรค ศาสนรุง เรืองแฮ
ง. บังอบายเบกิฟา ฝกฟนใจเมอืง
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
๖. คําประพันธใดไมมคีวามเดนดานสัมผัสอักษร
ก. เสนาะสน่ันดนิครวญ ครุนฟา
ข. ควรแมไวตางหนา พ่ีพูนภายหลัง
ค. สารสั่งพ่ีกําสรวล แสนเสนห นุชเอย
ง. รํ่ารักรํ่าเร่ืองราง แรมนวล นาฏฤๅ
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
๗. “ไขประทปีโคมแกว กํ่าฟาเฟอนจันทร”
คําประพันธขางตนมกีารใชภาพพจนแบบใด
ก. อุปมา
ข. อธพิจน
ค. บุคคลวัต
ง. อุปลักษณ
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
๘. ธรรมเนียมนิยมในการแตงคําประพันธประเภทนิราศ
มักจะพิถพิีถันที่จะแสดงรสใดเปนสําคัญ
ก. รสบรรยายสถานที่
ข. รสชมความงาม
ค. รสคํา รสความ
ง. รสรัก รสอาลัย
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
๙. คําประพันธขอใดไมใชบุคคลวัต
ก. เอยีงอกเทออกอาง อวดองค อรเอย
ข. เมรุชุบสมุทรดนิลง เลขแตม
ค. อากาศจักจานผจง จารึก พอฤา
ง. โฉมแมหยาดฟาแยม อยูรอนฤาเห็น
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
๑๐. “ชมแขคดิใชหนา นวลนาง
เดอืนตําหนิวงกลาง ตายแตม
พิมพพักตรแมเพ็ญปราง จักเปรียบ ใดเลย
ขํากวาแขไขแยม ยิ่งยิ้มอัปสร”
จากคําประพันธขางตน มกีารใชภาพพจนชนิดใด
ก. อุปลักษณ ข. อุปมา
ค. อธพิจน ง. บุคคลวัต
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
ภาษาไทยกับครูพี่ต่ีต๋ี
ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋ា–ាอ.ាพรีะเสกាាบริสุทธ์ิบัวทพิย์ា
บทที่ ๓ เรื่องที่ ๕ �นิราศนรินทร์คำโคลงSlide Number 2���ประวัติผู้ประพันธ์ �นายนรินทร์ธิเบศร์ (อิน)�- นายนรินทร์ธิเบศร์ มีนามเดิมว่า อิน �- ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับประวัติที่ชัดเจน�- กล่าวกันว่าเกิดที่ ต. บางบ่อ จ. ฉะเชิงเทรา�- เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็กหุ้มแพร ในสมเด็จพระบวรราชเจ้า วังหน้าในรัชกาลที่ ๒ �- มีบรรดาศักดิ์เป็น นรินทร์ธิเบศร์ ���นิราศนรินทร์คำโคลง��นิราศนรินทร์ นายนรินทรธิเบศร์ (อิน) แต่งขึ้นเมื่อคราวตามเสด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ ไปปราบพม่าซึ่งยกมาตีเมืองถลางและชุมพรใน พ.ศ. ๒๓๕๒������นิราศ เป็นคำที่ใช้เรียกวรรณกรรมที่มีเนื้อหา การพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก แทรกอารมณ์ความเศร้าและความคิดถึงนาง�โดยทั่วไปนิราศ มักแต่งด้วยกลอนสุภาพ ขึ้นต้นด้วยกลอนนิราศ แต่นิราศนรินทร์ขึ้นด้วยร่ายสุภาพและดำเนินเรื่องด้วยโคลงสี่สุภาพ จึงเรียกชื่อใหม่ว่า นิราศนรินทร์คำโคลง � ����การตั้งชื่อนิราศแต่ละเรื่องนั้น ส่วนใหญ่ตั้งตาม�- ชื่อสถานที่ที่เป็นจุดหมายปลายทางของกวี เช่น นิราศเมืองแกลง นิราศเมืองเพชร นิราศพระบาท �- ตั้งชื่อตามชื่อของกวี เช่น นิราศนรินทร์ ของนายนรินทร์ธิเบศร (อิน) �- ตั้งชื่อตามเนื้อเรื่อง เช่น นิราศเดือน ของนายมี�Slide Number 7ลักษณะคำประพันธ์�� แต่งเป็นร่ายสุภาพนำ ๑ บท และตามด้วยโคลงสี่สุภาพจำนวน ๑๔๓ บท ��ร่ายสุภาพ�����อธิบายฉันทลักษณ์��- มีวรรคละ ๕ คำ หรือเกิน ๕ คำได้ แต่ไม่ควรเกิน ๕ จังหวะ ในการอ่าน�- แต่งยาวกี่วรรคก็ได้�- สามวรรคสุดท้ายก่อนจบ ต้องเป็นโคลง ๒ สุภาพเสมอ�สัมผัส��- คำสุดท้ายของวรรคหน้า ต้องสัมผัสกับคำที่ ๑, ๒ หรือ ๓ ของวรรคต่อๆ ไป ยกเว้น ๒ วรรคสุดท้าย�- ถ้าคำสุดท้ายของวรรคหน้าเป็นคำเอกหรือคำโท คำที่รับสัมผัสในวรรคต่อไปจะต้องเป็นคำเอกหรือโทเช่นเดียวกัน��- เอกโท มีโท ๓ เอก ๓ เช่นเดียวกับโคลง ๒ สุภาพ�- คำเป็นคำตาย ถ้าคำที่ส่งสัมผัสเป็นคำเป็นหรือคำตาย คำที่รับสัมผัสก็ต้องเป็นคำเป็นหรือคำตายด้วย แต่คำสุดท้ายของบท (ยกเว้นคำสร้อย) ห้ามใช้คำตายหรือคำที่มีรูปวรรณยุกต์ �- คำสร้อย เติมสร้อยในตอนสุดท้ายของบทได้ ๒ คำ หรือจะเติมทุกวรรคก็ได้ แต่พอถึงโคลง ๒ ต้องงด เว้นไว้แต่สร้อยของโคลง ๒ สร้อยชนิดนี้ถ้าใช้เหมือนกันทุกวรรค เรียกว่า สร้อยสลับวรรค�โคลงสองสุภาพ�������อธิบายฉันทลักษณ์��- บทหนึ่งมี ๓ วรรค �- วรรคที่ ๑ และ ๒ มีวรรคละ ๕ คำ�- วรรคที่ ๓ มี ๔ คำ และ ๒ คำสุดท้ายเป็นคำสร้อย จะมีหรือไม่ก็ได้����- คำที่ ๕ ของวรรคที่ ๑ ต้องสัมผัสกับคำที่ ๕ ของวรรคที่ ๒�- เอกโท มีโท ๓ คำ และ เอก ๓ คำ�- คำตาย ห้ามใช้คำตายในคำสุดท้ายของบท�- คำสร้อย ใส่คำสร้อยต่อวรรคที่ ๓ ได้ ถ้ายังไม่จบความ ถ้าจบความแล้วไม่ต้องใส่����ตัวอย่างร่ายสุภาพและโคลงสองสุภาพ��“ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ากว้าง แผนแผ่นผ้างเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า.....�ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว เลี้ยงทแกล้วให้กล้า พระยศไท้เทิดฟ้า เฟื่องฟุ้งทศธรรม ท่านแฮ”���Slide Number 17��เรื่องย่อ นิราศนรินทร์คำโคลง�เริ่มต้นยอพระเกียรติพระมหากษัตริย์และชมบ้านเมือง จากนั้นจึงกล่าวถึงการจากนางและการเดินทางผ่านสถานที่ใดก็คร่ำครวญถึงหญิงคนรัก�การเดินทางเข้าคลองบางกอกใหญ่ ผ่านวัดหงส์ บางยี่เรือ บางขุนเทียน บางกก โคกขาม แม่กลอง ปากน้ำ บ้านแหลม เพชรบุรี ขึ้นบกที่ชะอำ ผ่านเขาสามร้อยยอด บางสะพาน จึงถึงตะนาวศรี มีการชมนก ชมไม้�ชมสัตว์ ตลอดระยะทาง���นิราศนรินทร์คำโคลง�ศรีสิทธิพิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ากว้าง แผนแผ่นผ้างเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า แจกแสงจ้าเจิดจันทร์ เพียงรพิพรรณผ่องด้าว ขุนหาญห้าวแหนบาท สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน ส่ายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า ราญราบหน้าเภริน เข็ญข่าวยินยอบตัว ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว ทุกไทน้าวมาลย์น้อม ขอออกอ้อมมาอ่อน ผ่อนแผ่นดินให้ผาย ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว เลี้ยงทแกล้วให้กล้า พระยศไท้เทิดฟ้า เฟื่องฟุ้งทศธรรม ท่านแฮ��นิราศนรินทร์คำโคลง�บทชมเมือง�อยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา�สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร เจิดหล้า�บุญเพรงพระหากสรรค์ ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ�บังอบายเบิกฟ้า ฝึกฟื้นใจเมือง����เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น พันแสง�รินรสพระธรรมแสดง ค่ำเช้า�เจดีย์ระดะแซง เสียดยอด�ยลยิ่งแสงแก้วเก้า แก่นหล้าหลากสวรรค์���������พระอาทิตย์ (ท้าวพันแสง)���พลอยนพเก้า�����������โบสถ์ระเบียงมณฑปพื้น ไพหาร�ธรรมาสน์ศาลาลาน พระแผ้ว�หอไตรระฆังขาน ภายค่ำ�ไขประทีปโคมแก้ว ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์�����บทนิราศ�จำใจจากแม่เปลื้อง ปลิดอก อรเอย�เยียวว่าแดเดียวยก แยกได้�สองซีกแล่งทรวงตก แตกภาค ออกแม่�ภาคพี่ไป่หนึ่งไว้ แนบเนื้อนวลถนอม������โฉมควรจักฝากฟ้า ฤๅดิน ดีฤๅ�เกรงเทพไท้ธรณินทร์ ลอบกล้ำ�ฝากลมเลื่อนโฉมบิน บนเล่า นะแม่�ลมจะชายชักช้ำ ชอกเนื้อเรียมสงวน������ฝากอุมาสมรแม่แล้ ลักษมี เล่านา�ทราบสวยมภูวจักรี เกลือกใกล้�เรียมคิดจบจนตรี โลกล่วง แล้วแม่�โฉมฝากใจแม่ได้ ยิ่งด้วยใครครอง������จากมามาลิ่วล้ำ ลำบาง�บางยี่เรือราพลาง พี่พร้อง�เรือแผงช่วยพานาง เมียงม่าน มานา�บางบ่รับคำคล้อง คล่าวน้ำตาคลอ������บ้านบ่อน้ำบกแห้ง ไป่เห็น�บ่อเนตรคงขังเป็น เลือดไล้�อ้าโฉมแม่แบบเบญ- จลักษณ์ เรียมเอย�มาซับอัสสุชลให้ พี่แล้วจักลา������เห็นจากจากแจกก้าน แกมระกำ�ถนัดระกำกรรมจำ จากช้า�บาปใดที่โททำ แทนเท่า ราแม่�จากแต่คาบนี้หน้า พี่น้องคงถนอม���������ผลจากผลระกำ����ชมแขคิดใช่หน้า นวลนาง�เดือนตำหนิวงกลาง ต่ายแต้ม�พิมพ์พักตร์แม่เพ็ญปราง จักเปรียบ ใดเลย�ขำกว่าแขไขแย้ม ยิ่งยิ้มอัปสร��������ความเชื่อ กระต่ายบนดวงจันทร์���ถึงตระนาวตระหน่ำซ้ำ สงสาร อรเอย�จรศึกโศกมานาน เนิ่นช้า�เดินดงท่งทางละหาน หิมเวศ�สารสั่งทุกหย่อมหญ้า ย่านน้ำลานาง������พันเนตรภูวนาถตั้ง ตาระวัง ใดฮา�พักตร์สี่แปดโสตฟัง อื่นอื้อ�กฤษณนิทรเลอหลัง นาคหลับ ฤาพ่อ�สองพิโยคร่ำรื้อ เทพท้าวทำเมิน���������� พระอินทร์ (ท้าวพันตา) พระนารายณ์ (พระจักรี)�����พระพรหม (ผู้มีสี่พักตร์)������นทีสี่สมุทรม้วย หมดสาย�ติมิงคล์มังกรนาคผาย ผาดส้อน�หยาดเหมพิรุณหาย เหือดโลก แล้งแม่�แรมราคแสนร้อยร้อน ฤเถ้า เรียมทน������ลมพัดคือพิษต้อง ตากทรวง�หนาวอกรุมในดวง จิตช้ำ�โฉมแม่พิมลพวง มาเลศ กูเอย�มือแม่วีเดียวล้ำ ยิ่งล้ำลมพาน������เอียงอกเทออกอ้าง อวดองค์ อรเอย�เมรุชุบสมุทรดินลง เลขแต้ม�อากาศจักจารผจง จารึก พอฤๅ�โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม อยู่ร้อนฤๅเห็น������ตราบขุนคิริข้น ขาดสลาย แลแม่�รักบ่หายตราบหาย หกฟ้า�สุริยจันทรขจาย จากโลก ไปฤา�ไฟแล่นล้างสี่หล้า ห่อนล้างอาลัย������ร่ำรักร่ำเรื่องร้าง แรมนวล นาฏฤา�เสนาะสนั่นดินครวญ ครุ่นฟ้า�สารสั่งพี่กำสรวล แสนเสน่ห์ นุชเอย�ควรแม่ไว้ต่างหน้า พี่พู้นภายหลัง���Slide Number 43คุณค่าของนิราศนรินทร์�๑. คุณค่าด้านวรรณศิลป์�- การเลือกสรรคำ (เล่นเสียงสัมผัส)- การใช้ภาพพจน์�- การใช้รสวรรณคดี- การรักษาวิธีการแต่ง�๒. คุณค่าด้านสังคม�- การบันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์�- แสดงแผนที่การเดินทาง��๑. คุณค่าด้านวรรณศิลป์�- การเลือกสรรคำ (เล่นเสียงสัมผัส)�ในบทประพันธ์นิราศนรินทร์ ผู้ประพันธ์ได้มีการเลือกคำที่ทำให้บทประพันธ์มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ในที่นี้คือ การเล่นเสียงพยัญชนะ ���การเล่นเสียงพยัญชนะ �เป็นการเลือกคำที่มีเสียงพยัญชนะเดียวกันหรือเสียงพยัญชนะใกล้เคียงกันมาใส่ไว้ในวรรคหรือบทเดียวกัน ทำให้เวลาอ่านออกเสียงเกิดความไพเราะ เช่น �* เล่นเสียง “อ” “เอียงอกเทออกอ้าง อวดองค์ อรเอย”�* เล่นเสียง “ร” “ร่ำรักรำเรื่องร้างแรมนวล นาฏฤา”�������การใช้ภาพพจน์��ภาพพจน์ที่ใช้ในนิราศนรินทร์ เท่าที่ปรากฏ ได้แก่ - อุปลักษณ์ �- บุคคลวัต �- อธิพจน์ - อุปลักษณ์ ��อุปลักษณ์ คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งหนึ่ง ที่มีลักษณะคล้ายกันหรือความหมายเหมือนกัน คำที่ใช้ใน การเปรียบได้แก่ เป็น คือ ใช่ เท่า ต่าง �อุปลักษณ์ อาจเรียกว่าชื่อหนึ่งว่า การเปรียบเป็น ���- ตัวอย่างการใช้อุปลักษณ์ ��ลมพัดคือพิษต้อง ตากทรวง�หนาวอกรุมในดวง จิตช้ำ�โฉมแม่พิมลพวง มาเลศ กูเอย�มือแม่วีเดียวล้ำ ยิ่งล้ำลมพาน����- บุคคลวัต��บุคคลวัต เป็นการทำให้สิ่งไม่มีชีวิต แสดงกริยาอาการได้เหมือนสิ่งมีชีวิต เช่น ร้องไห้ เดิน ยิ้ม หัวเราะ เป็นต้น�บุคคลวัต อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า บุคลาธิษฐาน ���- ตัวอย่างการใช้บุคคลวัต ��เอียงอกเทออกอ้าง อวดองค์ อรเอย�เมรุชุบสมุทรดินลง เลขแต้ม�อากาศจักจารผจง จารึก พอฤๅ�โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม อยู่ร้อนฤๅเห็น�����- อธิพจน์��อธิพจน์ คือ การใช้ถ้อยคำหรือการเรียบเรียงเนื้อหา ที่มีการกล่าวเกินกว่าความเป็นจริง หรือแปลกประหลาดไปจากเดิม �อธิพจน์ อาจเรียกอีกชื่อว่า อติพจน์�- ตัวอย่างการใช้อธิพจน์��นทีสี่สมุทรม้วย หมดสาย�ติมิงคล์มังกรนาคผาย ผาดส้อน�หยาดเหมพิรุณหาย เหือดโลก แล้งแม่�แรมราคแสนร้อยร้อน ฤเถ้า เรียมทน��- การใช้รสวรรณคดี�รสวรรณคดี เป็นรูปแบบของเนื้อหาว่าเนื้อหาในตอนนั้น บอกอารมณ์ว่ากำลังรู้สึกอย่างไร แสดงอาการอย่างไร เช่น ดีใจ เศร้าใจ �รสวรรณคดีไทย มีทั้งหมด ๔ รส คือ�* เสาวรจนี* นารีปราโมทย์�* พิโรธวาทัง* สัลลาปังคพิสัย�ปรากฏในนิราศนรินทร์มี ๒ รสคือ เสาวรจนีและสัลลาปังคพิสัย���- เสาวรจนี��คือการเล่าชมความงามของตัวละครในเรื่อง ซึ่งอาจเป็นตัวละครที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ หรือสัตว์ ซึ่งการชมนี้อาจจะเป็นการชมความเก่งกล้าของกษัตริย์ ความงามของปราสาทราชวังหรือความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ����- ตัวอย่างการใช้เสาวรจนี��อยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา�สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร เจิดหล้า�บุญเพรงพระหากสรรค์ ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ�บังอบายเบิกฟ้า ฝึกฟื้นใจเมือง�����- สัลลาปังคพิสัย��การกล่าวข้อความแสดงอารมณ์โศกเศร้า อาลัยต่อบุคคลอันเป็นที่รัก ทั้งที่เกิดจากการพลัดพรากจากลา หรือต้องเสียชีวิตไป������- ตัวอย่างการใช้สัลลาปังคพิสัย��จำใจจากแม่เปลื้อง ปลิดอก อรเอย�เยียวว่าแดเดียวยก แยกได้�สองซีกแล่งทรวงตก แตกภาค ออกแม่�ภาคพี่ไป่หนึ่งไว้ แนบเนื้อนวลถนอม��������- การรักษาวิธีการแต่ง��นิราศนรินทร์ เป็นโคลงที่มีลักษณะตรงตามสัมผัสคำเอก คำโท ถูกต้องตามแบบแผนแทบทุกบท �นิราศนรินทร์จึงแบบอย่างในการประพันธ์ร้อยกรองประเภทโคลง ��������- ตัวอย่างบที่ตรงตามบังคับคำเอก คำโท��จากมามาลิ่วล้ำ ลำบาง�บางยี่เรือราพลาง พี่พร้อง�เรือแผงช่วยพานาง เมียงม่าน มานา�บางบ่รับคำคล้อง คล่าวน้ำตาคลอ����������๒. คุณค่าด้านสังคม�- การบันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์�นิราศนรินทร์ แต่งเมื่อครั้งนายนรินทร์ธิเบศร (อิน) ตามเสด็จสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ ยกทัพไปรบพม่าที่ยกมาตีเมืองถลางและชุมพร เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๕๒�จึงสังเกตได้ว่านิราศเรื่องนี้ สะท้อนเหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยนั้น แม้ไม่ได้กล่าวถึงโดยตรงก็ตาม����������- แสดงแผนที่การเดินทาง��นิราศนรินทร์ แสดงเส้นทางการเดินทัพทางเรือจากกรุงเทพฯ ถึงเพชรบุรี แล้วเดินทางบกต่อไปถึงตะนาว ซึ่งเป็นการเดินทางที่ใช้เวลานานมาก�������แผนที่การเดินทาง�ในนิราศนรินทร์����Slide Number 64���๑. �“เอียงอกเทออกอ้าง อวดองค์ อรเอย�เมรุชุบสมุทรดินลง เลขแต้ม�อากาศจักจารผจง จารึก พอฤๅ�โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม อยู่ร้อนฤๅเห็น”����๑. ข้อใดถอดคำประพันธ์ไม่ตรงกับความหมายของคำประพันธ์นี้���ก. เอียงอกเทความรู้สึกเพื่อบอกความในใจแก่น้อง�ข. น้องจะรู้หรือไม่ว่าพี่ทุกข์ร้อนคิดถึงน้องเพียงใดโปรดบอกพี่ด้วย�ค. แม้จะใช้เขาพระสุเมรุเป็นปากกาจุ่มน้ำในมหาสมุทรละลายดินเป็นหมึก�ง. ใช้อากาศเป็นแผ่นกระดาษเพื่อพรรณนาความรักความอาลัยก็ยังไม่พอ����๒. “เอียงอกเทออกอ้าง อวดองค์ อรเอย�เมรุชุบสมุทรดินลง เลขแต้ม�อากาศจักจารผจง จารึก พอฤๅ�โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม อยู่ร้อนฤๅเห็น”�คำประพันธ์ข้างต้นมีการใช้โวหารภาพพจน์แบบใด�ก. อุปมาข. อธิพจน์�ค. บุคคลวัตง. อุปลักษณ์���๓. “จำใจจากแม่เปลื้อง ปลิดอก อรเอย�เยียวว่าแดเดียวยก แยกได้�สองซีกแล่งทรวงตก แตกภาค ออกแม่�ภาคพี่ไปหนึ่งไว้ แนบเนื้อนวลถนอม”�คำประพันธ์บทนี้มีรสวรรณคดีตรงตามข้อใด�ก. เสาวรจนีข. นารีปราโมทย์�ค. พิโรธวาทังง. สัลลาปังคพิสัย���๔. “เห็นจากจากแจกก้าน แกมระกำ�ถนัดระกำกรรมจำ จากช้า�บาปใดที่โททำ แทนเท่า ราแม่�จากแต่คาบนี้หน้า พี่น้องคงถนอม”�จากโคลงนิราศนรินทร์บทนี้ บาทใดมีเนื้อหาแสดงความหวัง�ก. บาทที่ ๑ข. บาทที่ ๒�ค. บาทที่ ๓ง. บาทที่ ๔���๕. ข้อใดมีเนื้อหาสรรเสริญพระเกียรติของพระมหากษัตริย์��ก. อยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤๅ�ข. สิงหาสน์ปรางรัตน์บรร เจิดหล้า�ค. บุญเพรงพระหากสรรค์ ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ�ง. บังอบายเบิกฟ้า ฝึกฟื้นใจเมือง ���๖. คำประพันธ์ใดไม่มีความเด่นด้านสัมผัสอักษร��ก. เสนาะสนั่นดินครวญ ครุ่นฟ้า�ข. ควรแม่ไว้ต่างหน้า พี่พู้นภายหลัง�ค. สารสั่งพี่กำสรวล แสนเสน่ห์ นุชเอย�ง. ร่ำรักร่ำเรื่องร้าง แรมนวล นาฏฤๅ���๗. “ไขประทีปโคมแก้ว ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์”�คำประพันธ์ข้างต้นมีการใช้ภาพพจน์แบบใด�ก. อุปมา�ข. อธิพจน์�ค. บุคคลวัต�ง. อุปลักษณ์� ���๘. ธรรมเนียมนิยมในการแต่งคำประพันธ์ประเภทนิราศ มักจะพิถีพิถันที่จะแสดงรสใดเป็นสำคัญ� ก. รสบรรยายสถานที่ �ข. รสชมความงาม � ค. รสคำ รสความ �ง. รสรัก รสอาลัย����๙. คำประพันธ์ข้อใดไม่ใช่บุคคลวัต��ก. เอียงอกเทออกอ้าง อวดองค์ อรเอย�ข. เมรุชุบสมุทรดินลง เลขแต้ม�ค. อากาศจักจานผจง จารึก พอฤา �ง. โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม อยู่ร้อนฤาเห็น� ���๑๐. “ชมแขคิดใช่หน้านวลนาง�เดือนตำหนิวงกลางต่ายแต้ม�พิมพ์พักตร์แม่เพ็ญปรางจักเปรียบ ใดเลย�ขำกว่าแขไขแย้มยิ่งยิ้มอัปสร”�จากคำประพันธ์ข้างต้น มีการใช้ภาพพจน์ชนิดใด�ก. อุปลักษณ์ข. อุปมา�ค. อธิพจน์ง. บุคคลวัต���ภาษาไทยกับครูพี่ตี่ตี๋� ��