แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ Backward Design แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแ ชชชชชชชชชชชชชชชชชชช 1 ชชชช 1 ชชชชชชชชชชช 3 แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแ แแแแแแแแแแ 2544 แแแแแแ แแแแแแแแแแแแแแแ แแแ. แแแแแแ แแแ แแแแแแแ แแแแแแแ แแแแแแแแแแ แแแแแ (1)
แผนการจั�ดการเร�ยนร �ตามแนว Backward Design
ประกอบสื่��อการเร�ยนร � สื่�มฤทธิ์��มาตรฐาน
ชั้�!นม�ธิ์ยมศึ#กษาป%ท�� 1 เล่'ม 1 ชั้'วงชั้�!นท�� 3
ตามหล่�กสื่ ตรการศึ#กษาขั้�!นพื้�!นฐาน พื้,ทธิ์ศึ�กราชั้ 2544
บร�ษ�ท อ�กษรเจัร�ญท�ศึน. อจัท. จั/าก�ด
โดย
นวล่น�อย เจัร�ญผล่ จั�นทร.เพื้1ญ ชั้,มคชั้
จั�นดา อย 'เป3นสื่,ขั้ ธิ์�ญสื่�น� ฐานา
(1)
คชั้าธิ์�ศึ ร,'งรอด จั/าร ญล่�กขั้ณ์. สื่,ขั้สื่�มพื้�นธิ์.
ขั้ว�ญตา พื้�นธิ์,.บ�านแหล่ม
จากการที่��กระที่รวงศึ�กษาธิ�การได้�ประกาศึให้�ห้ลั�กสู�ตรการศึ�กษาขั้��นพื้��นฐาน พื้!ที่ธิศึ�กราช 2544 เป$นห้ลั�กสู�ตรแกนกลัางขั้องประเที่ศึ โด้ยมี�มีาตรฐานการเร�ยนร� �ก*าห้นด้ไว�ในระด้�บชาต� 8 กลั!,มีสูาระการเร�ยนร� � เป$นเป-าห้มีายแลัะกรอบที่�ศึที่างในการพื้�ฒนาห้ลั�กสู�ตรสูถานศึ�กษา การจ�ด้กระบวนการเร�ยนการสูอน แลัะการว�ด้แลัะประเมี�นผลั เพื้��อพื้�ฒนาให้�เด้1กไที่ยเป$นคนด้� คนเก,ง มี�ความีสู!ขั้ มี�ค!ณภาพื้ช�ว�ตที่��ด้� เพื้��อพื้�ฒนาศึ�กยภาพื้ขั้องเยาวชนไที่ยให้�มี�มีาตรฐานสู�งขั้��น ก�าวที่�นความีก�าวห้น�าที่างเที่คโนโลัย�แลัะการเปลั��ยนแปลังขั้องโลัก
เพื้��อให้�การปฏิ�ร�ปการศึ�กษาเป$นไปในที่�ศึที่างที่��พื้�งประสูงค6แลัะมี�ประสู�ที่ธิ�ภาพื้สู�งสู!ด้คร�ผ��สูอนเป$นผ��ที่��มี�บที่บาที่สู*าค�ญในการปฏิ�ร�ปการศึ�กษาแลัะขั้�บเคลั��อนไปสู�,เป-าห้มีาย โด้ยคร�จะต�องมี�การเปลั��ยนแปลังแนวค�ด้ ว�ธิ�การ ร�ปแบบการสูอนแลัะกระบวนที่�ศึน6 ( Paradigm shift) จากแนวค�ด้เด้�มีสู�,ปร�ชญาแนวค�ด้ให้มี, ความีร� �ให้มี, ว�ธิ�การ แลัะแนวปฏิ�บ�ต�ให้มี,
บร�ษ�ที่อ�กษรเจร�ญที่�ศึน6 อจที่.จ*าก�ด้ ได้�เลั1งเห้1นความีสู*าค�ญขั้องการปฏิ�ร�ปการศึ�กษาจ�งร,วมีเป$นพื้ลั�งในการขั้�บเคลั��อนให้�การปฏิ�ร�ปการศึ�กษาสู�,เป-าห้มีายความีสู*าเร1จ จ�งได้�ค�ด้ค�นนว�ตกรรมีให้มี,ที่างการศึ�กษาเพื้��อช,วยคร�ผ��
(2)
สูอน โด้ยการจ�ด้ที่*าสู��อสูาระการเร�ยนร� �พื้��นฐานสู�มีฤที่ธิ�9มีาตรฐาน มี.1-มี.3
ซึ่��งประกอบด้�วย ว�ชาคณ�ตศึาสูตร6 ว�ที่ยาศึาสูตร6 พื้ระพื้!ที่ธิศึาสูนา ห้น�าที่��พื้ลัเมี�องแลัะการด้*าเน�นช�ว�ตในสู�งคมี เศึรษฐศึาสูตร6 ประว�ต�ศึาสูตร6 ภ�มี�ศึาสูตร6 แลัะสู!ขั้ศึ�กษา โด้ยออกแบบเป$นห้น,วยการเร�ยนร� � (Unit plan)
แลัะออกแบบแผนการจ�ด้การเร�ยนร� �แบบ Backward Design ซึ่��งถ�อเป$นการออกแบบกระบวนการจ�ด้การเร�ยนการสูอนแนวที่างให้มี,ที่��ใช�แลัะร� �จ�กแพื้ร,ห้ลัายในต,างประเที่ศึ โด้ยผ��เช��ยวชาญด้�านห้ลั�กสู�ตรจ*านวนมีากเสูนอแนะว,าเป$นการออกแบบห้ลั�กสู�ตรที่��มี�ประสู�ที่ธิ�ภาพื้ ซึ่��งในห้น,วยการเร�ยนร� �จะมี�รายลัะเอ�ยด้ขั้องก�จกรรมีการเร�ยนการสูอน สู��อ แห้ลั,งการเร�ยนร� � การว�ด้แลัะประเมี�นผลั เป$นการน*ามีาตรฐานไปสู�,การปฏิ�บ�ต�ในช��นเร�ยนอย,างแที่�จร�ง ถ�อเป$นขั้��นตอนสู*าค�ญที่��สู!ด้ขั้องการจ�ด้ที่*าห้ลั�กสู�ตรอ�งมีาตรฐาน
เพื้��อให้�ผ��เร�ยนบรรลั!มีาตรฐานการเร�ยนร� � ห้ว�งเป$นอย,างย��งว,าการออกแบบห้น,วยการเร�ยนร� �แบบ
Backward Design ประกอบสู��อสูาระการเร�ยนร� �พื้��นฐาน สู�มีฤที่ธิ�9มีาตรฐาน จะเป$นแนวที่างห้น��งในการร,วมีขั้�บเคลั��อนการปฏิ�ร�ปการเร�ยนการสูอนให้�สู*าเร1จลั!ลั,วงไปสู�,เป-าห้มีายเพื้��อพื้�ฒนาผ��เร�ยนได้�เต1มีศึ�กยภาพื้อย,างแที่�จร�ง
คณ์ะผ �จั�ดท/า
ห้น�า
การรจ�ด้การเร�ยนร� �ตามีแนว Backword Design (5)
แนวที่างการจ�ด้การเร�ยนร� �(18)
ตารางโครงสูร�างแผนการจ�ด้การเร�ยนร� � (22)
(3)
1 สื่มบ�ต�ขั้องจั/านวนน�บ 01-85
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 1 จ*านวนเฉพื้าะแลัะการแยกต�วประกอบ10
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 2 ต�วห้ารร,วมีมีากแลัะการน*าไปใช�38
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 3 ต�วค�ณร,วมีน�อยแลัะการน*าไปใช�57
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 4ความีสู�มีพื้�นธิ6ระห้ว,างห้.ร.มี.แลัะค.ร.น.ก�บจ*านวนน�บที่��งสูอง 75
2 ระบบจั/านวนเต1ม 86-203
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 1 จ*านวนเต1มี99
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 2 การบวกจ*านวนเต1มี117
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 3 การลับจ*านวนเต1มี147
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 4 การค�ณจ*านวนเต1มี162
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 5 การห้ารจ*านวนเต1มี177
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 6 สูมีบ�ต�ขั้องจ*านวนเต1มี191
3 เล่ขั้ยกก/าล่�ง 204-277
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 1 ความีห้มีายขั้องเลัขั้ยกก*าลั�ง213
(4)
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 2 การค�ณเลัขั้ยกก*าลั�งที่��เลัขั้ช��ก*าลั�งเป$นจ*านวนเต1มีบวก227
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 3 การห้ารเลัขั้ยกก*าลั�งที่��เลัขั้ช��ก*าลั�งเป$นจ*านวนเต1มีบวก243
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 4 สู�ญกรณ6ว�ที่ยาศึาสูตร6263
4 ความยาว 278-312
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 1 ห้น,วยการว�ด้ความียาว286
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 2 การเปลั��ยนห้น,วยการว�ด้ความียาวต,างระบบ 300
5 พื้�!นท�� 313-386
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 1 ชน�ด้ขั้องร�ปสูามีเห้ลั��ยมีแลัะร�ปสู��เห้ลั��ยมี326
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 2 การห้าพื้��นที่��ขั้องร�ปสู��เห้ลั��ยมีมี!มีฉาก341
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 3 การห้าพื้��นที่��ขั้องร�ปสู��เห้ลั��ยมีด้�านขั้นาน352
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 4การห้าพื้��นที่��ขั้องร�ปสูามีเห้ลั��ยมีแลัะร�ปห้ลัายเห้ลั��ยมีใด้ๆ 364
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 5 การห้าพื้��นที่��ขั้องร�ปวงกลัมี376
6 พื้�!นฐานทางเรขั้าคณ์�ต 387-443
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 1 สู,วนขั้องเสู�นตรง397
(5)
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 2 การสูร�างมี!มี413
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 3 การสูร�างเสู�นต��งฉาก427
แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� 4 การน*าการสูร�างพื้��นฐานไปสูร�างร�ปเรขั้าคณ�ตอย,างง,าย 435
โดย เอกร�นทร. สื่��มหาศึาล่
แผนการจั�ดการเร�ยนร � ชั้,ดสื่�มฤทธิ์��มาตรฐาน ชั้�!นม�ธิ์ยมศึ#กษาป%ท�� 1-3 จ�ด้ที่*าขั้��นสู*าห้ร�บคร�ผ��สูอนใช�เป$นค�,มี�อพื้�ฒนาสูาระห้ลั�กสู�ตร แลัะออกแบบการเร�ยนร� �เพื้��อพื้�ฒนาค!ณภาพื้ผ��เร�ยนให้�สูอด้คลั�องก�บนโยบายการ
(6)
จ�ด้การศึ�กษาขั้อง สู*าน�กงานคณะกรรมีการการศึ�กษาแห้,งชาต� (สูพื้ฐ.) แลัะเกณฑ์6ประเมี�นมีาตรฐานว�ชาช�พื้คร�ด้�านสูมีรรถนะประจ*าสูายงาน โด้ยจ�ด้ที่*าเป$นห้น,วยการเร�ยนร� �ตามีแนวที่างการออกแบบการเร�ยนร� �แบบย�อนกลั�บ (Backward Design) แลัะใช�ขั้อบขั้,ายสูาระการเร�ยนร� � จากสู��อการเร�ยนร� � ขั้องสู�มีฤที่ธิ�9มีาตรฐาน เป$นฐานในการออกแบบจ�ด้ที่*าเป$นแผนการจ�ด้การเร�ยนร� � ตามีห้ลั�กสู�ตรอ�งเกณฑ์6มีาตรฐาน (Standard Based Curriculum) ขั้องกลั!,มีสูาระการเร�ยนร� �คณ�ตศึาสูตร6 ว�ที่ยาศึาสูตร6 สู�งคมีศึ�กษา ศึาสูนาแลัะว�ฒนธิรรมี แลัะกลั!,มีสูาระการเร�ยนร� �สู!ขั้ศึ�กษาแลัะพื้ลัศึ�กษา ช,วงช��นที่�� 3 ห้ลั�กสู�ตรการศึ�กษาขั้��นพื้��นฐานแห้,งชาต� พื้.ศึ. 2544
การจ�ด้ที่*าแผนการจ�ด้การเร�ยนร� � สูาระการเร�ยนร� �พื้��นฐาน ช!ด้สื่�มฤทธิ์��มาตรฐาน ช��นมี�ธิยมีศึ�กษาป?ที่�� 1-3 ประกอบด้�วยรายว�ชา ต,อไปน��
คณ�ตศึาสูตร6 มี.1 มี.2 มี.3 ว�ที่ยาศึาสูตร6มี.1 มี.2 มี.3
พื้ระพื้!ที่ธิศึาสูนา มี.1 มี.2 มี.3 ห้น�าที่��พื้ลัเมี�องฯมี.1 มี.2 มี.3
เศึรษฐศึาสูตร6 มี.1 มี.2 มี.3 ภ�มี�ศึาสูตร6มี.1 มี.2 มี.3
ประว�ต�ศึาสูตร6 มี.1 มี.2 มี.3 สู!ขั้ศึ�กษามี.1 มี.2 มี.3
แนวค�ดในการออกแบบการเร�ยนร � (Instructional Design)
ภารก�จสู*าค�ญขั้องคร�ตามีเกณฑ์6สูมีรรถนะประจ*าสูายงาน ค�อ การออกแบบการเร�ยนร� �ไปสู�,เป-าห้มีายการเร�ยนร� �ที่��ต�องการ รวมีที่��งออกแบบเคร��องมี�อว�ด้ประเมี�นผลัเพื้��อย�นย�นว,าผ��เร�ยนบรรลั!เป-าห้มีายตามีมีาตรฐานการเร�ยนร� �ที่��เที่�ยบเค�ยงไว�ห้ร�อไมี, การออกแบบตามีแนวที่าง Backward Design เป$นว�ธิ�การห้น��งที่��มี!,งเน�นให้�ผ��สูอนเป$นน�กออกแบบห้ลั�กสู�ตรการเร�ยนการสูอน แลัะการว�ด้ผลัประเมี�นผลั โด้ยเร��มีจากว�น�จฉ�ยปAญห้าแลัะ
(7)
ความีต�องการขั้องผ��เร�ยน เพื้��อออกแบบการจ�ด้ประสูบการณ6เร�ยนร� �ให้�เห้มีาะสูมีก�บสูภาพื้ผ��เร�ยน แลัะเมี��อผ��เร�ยนบรรลั!เป-าห้มีายที่��ก*าห้นด้ไว� จะต�องมี�ห้ลั�กฐานการเร�ยนร� �ที่��สูามีารถสูะที่�อนผลัว,า ผ��เร�ยนได้�เก�ด้ความีร� �ความีเขั้�าใจในระด้�บที่��พื้�งประสูงค6ไว�จร�ง ผ��สูอนจ�งต�องก*าห้นด้เป-าห้มีายการเร�ยนร� �แลัะห้ลั�กฐานแสูด้งผลัการเร�ยนร� �ให้�ช�ด้เจนเสู�ยก,อน จ�งค,อยด้*าเน�นการออกแบบก�จกรรมีการเร�ยนการสูอนให้�สูอด้คลั�องก�บเป-าห้มีายที่��พื้�งประสูงค6 ว�ธิ�การน��สูร�างความีมี��นใจได้�ว,า ผ �เร�ยนม�ผล่สื่�มฤทธิ์��ทางการเร�ยน แล่ะม�ค,ณ์ภาพื้ตามมาตรฐานการเร�ยนร �ท��ก/าหนดไว�ในหล่�กสื่ ตรอย'างแท�จัร�ง ขั้�!นตอนการออกแบบการเร�ยนร �
การออกแบบการเร�ยนร� �เป$นห้ลั�กฐานร,องรอยในการประเมี�นความีสูามีารถขั้องคร�ผ��สูอนว,า คร�ได้�จ�ด้การเร�ยนร� �ตรงก�บเจตจ*านงที่��ก*าห้นด้ไว�ใน พื้.ร.บ. การศึ�กษาแห้,งชาต� พื้.ศึ. 2542 (ฉบ�บปร�บปร!ง พื้.ศึ. 2545) แลัะสูอด้คลั�องก�บห้ลั�กการขั้องห้ลั�กสู�ตรการศึ�กษาขั้��นพื้��นฐาน พื้.ศึ. 2544
ห้ร�อไมี, จ�งเป$นภารก�จสู*าค�ญขั้องคร�ในการเร��มีต�นพื้�ฒนาว�ชาช�พื้ เพื้��อเขั้�าสู�,การมี�แลัะเลั��อนว�ที่ยฐานะที่!กระด้�บ การออกแบบการเร�ยนร� �เพื้��อพื้�ฒนาค!ณภาพื้ผ��เร�ยนจ�งเป$นภาระงานที่��ต�องกระที่*าอย,างรอบคอบ ตามีขั้��นตอนต,อไปน��
(8)
ว�เคราะห.สื่าระแล่ะมาตรฐานการเร�ยนร �
ว�เคราะห.สื่าระแล่ะมาตรฐานการเร�ยนร �
ก/าหนดผล่การเร�ยนร �ท��คาดหว�ง
ก/าหนดผล่การเร�ยนร �ท��คาดหว�ง
จั�ดท/าสื่าระการเร�ยนร �
จั�ดท/าสื่าระการเร�ยนร �
จั�ดท/าค/าอธิ์�บายรายว�ชั้า
จั�ดท/าค/าอธิ์�บายรายว�ชั้า
ก/าหนดหน'วยการเร�ยนร �
ก/าหนดหน'วยการเร�ยนร �
วางแผนการเร�ยนร �วางแผนการเร�ยนร �
ออกแบบการจั�ดก�จักรรมแล่ะ
ประสื่บการณ์.การเร�ยนร �ตามแนวค�ด
Backward Design
ออกแบบการจั�ดก�จักรรมแล่ะ
ประสื่บการณ์.การเร�ยนร �ตามแนวค�ด
Backward Design
“... การจ�ด้การศึ�กษาต�องเป$นไปเพื้��อพื้�ฒนาคนไที่ยให้�เป$นมีน!ษย6ที่��สูมีบ�รณ6ที่��งร,างกาย จ�ตใจ สูต�ปAญญา ความีร� � แลัะค!ณธิรรมี มี�จร�ยธิรรมี แลัะว�ฒนธิรรมี ในการด้*ารงช�ว�ต
องค.ประกอบขั้องการออกแบบการเร�ยนร �การออกแบบการเร�ยนร� � เป$นภาระงานที่��คร�ผ��สูอนจะต�องมี�ความีร� �
ความีสูามีารถในการพื้�ฒนาระบบการเร�ยนการสูอนโด้ยเลั�อกใช�ที่ฤษฎี�การเร�ยนร� � (Learning theory) แลัะที่ฤษฎี�การสูอน (Instructional theory) เป$นแนวที่างจ�ด้การเร�ยนร� � ให้�สูอด้คลั�องก�บเป-าห้มีายการเร�ยนร� �แลัะความีต�องการขั้องผ��เร�ยน รวมีที่��งการพื้�ฒนาสู��อประกอบการเร�ยนร� � การจ�ด้ก�จกรรมีการเร�ยนร� � การที่ด้ลัองใช�นว�ตกรรมีการเร�ยนร� � แลัะการว�ด้ประเมี�นผลัก�จกรรมีการเร�ยนการสูอนที่��จ�ด้ขั้��นที่��งห้มีด้ โด้ยใช�ว�ธิ�การว�จ�ยเป$นเคร��องมี�อพื้�ฒนาเที่คน�คว�ธิ�การจ�ด้การเร�ยนร� �แบบต,างๆ ให้�มี�ค!ณภาพื้ตามีเจตจ*านงขั้อง พื้.ร.บ. การศึ�กษาแห้,งชาต� พื้.ศึ. 2542 แลัะฉบ�บแก�ไขั้เพื้��มีเต�มี พื้.ศึ. 2545 ที่��ก*าห้นด้ในมีาตรา 6 ความีว,า
คร�ผ��สูอนจ�งต�องพื้�ฒนาระบบการเร�ยนการสูอนแลัะการออกแบบการจ�ด้การเร�ยนร� � ตามีห้ลั�กการสู*าค�ญต,อไปน��
3.1 แนวการจั�ดการเร�ยนการสื่อน1)ต�องย�ด้ห้ลั�กว,า ผ��เร�ยนที่!กคนมี�ความีสูามีารถเร�ยนร� �แลัะ
พื้�ฒนาตนเองได้�ตามีมีาตรา 22
2)ต�องย�ด้ถ�อว,าผ��เร�ยนมี�ความีสู*าค�ญที่��สู!ด้3)ต�องสู,งเสูร�มีให้�ผ��เร�ยนแต,ลัะคน สูามีารถพื้�ฒนาตนเองตามี
ธิรรมีชาต�แลัะเต1มีตามีศึ�กยภาพื้
(9)
4)ต�องเน�นความีสู*าค�ญที่��งความีร� � ค!ณธิรรมี กระบวนการเร�ยนร� � แ ลั ะ สู, ง เ สู ร� มี ก า ร เ ร� ย น ร� �
บ�รณาการตามีความีเห้มีาะสูมีขั้องแต,ลัะช,วงว�ยการศึ�กษา3.2 แนวการจั�ดกระบวนการเร�ยนร �
1)จ�ด้เน��อห้าสูาระแลัะก�จกรรมีการเร�ยนร� � ให้�สูอด้คลั�องก�บความีสู น ใ จ แ ลั ะ ค ว า มี ถ น� ด้ ขั้ อ ง
ผ��เร�ยน โด้ยค*าน�งถ�งความีแตกต,างระห้ว,างบ!คคลั2)ฝึDกฝึนที่�กษะการค�ด้ กระบวนการค�ด้ การจ�ด้การเผช�ญ
สู ถ า น ก า ร ณ6 แ ลั ะ ก า ร ป ร ะ ย! ก ต6 ใ ช�ความีร� � เพื้��อป-องก�นแลัะแก�ไขั้ปAญห้าขั้องตนเอง ครอบคร�ว
แลัะช!มีชนได้�3)จ�ด้ก�จกรรมีให้�ผ��เร�ยนได้�เร�ยนร� �จากประสูบการณ6จร�ง ฝึDกการ
ป ฏิ� บ� ต� ใ ห้� ค� ด้ เ ป$ น ที่*า เ ป$ น แก�ปAญห้าเป$น เก�ด้น�สู�ยร�กการอ,าน แลัะการใฝึEร� �ใฝึEเร�ยนอย,าง
ต,อเน��อง4)จ�ด้การเร�ยนการสูอนโด้ยผสูมีผสูานสูาระเร�ยนร� �ด้�านต,างๆให้�
สู มี ด้! ลั ก� น มี!, ง ป ลั� ก ฝึA งค!ณธิรรมี แลัะค,าน�ยมีอ�นพื้�งประสูงค6ไว�ในที่!กรายว�ชา
3.3 แนวการออกแบบหน'วยการเร�ยนร �1)ก*าห้นด้ช��อห้น,วยการเร�ยนร� � สูะที่�อนให้�เห้1นถ�งสูาระสู*าค�ญขั้อง
การเร�ยนร� �ในแต,ลัะห้น,วย2)ก*าห้นด้มีาตรฐานการเร�ยนร� �ช,วงช��น ที่��เป$นเป-าห้มีายการเร�ยนร� �
แลัะเกณฑ์6ในการพื้�ฒนาค!ณภาพื้ผ��เร�ยนขั้องห้น,วยน��นๆ3)ก*าห้นด้สูาระสู*าค�ญขั้องห้น,วยการเร�ยนร� � ครอบคลั!มีที่��งสูาระ
ห้ลั�กแลัะที่�กษะกระบวนการที่��บ,งบอกว,าผ��เร�ยนต�องร� �อะไร แลัะสูามีารถปฏิ�บ�ต�อะไรได้�บ�าง
ในห้น,วยน��นๆ
(10)
4)ออกแบบขั้��นตอนก�จกรรมีแลัะกระบวนการเร�ยนร� �ที่��ช,วยให้�ผ��เร�ยนมี�ความีร� �แลัะที่�กษะตามี
มีาตรฐานการเร�ยนร� �ที่��ระบ!ไว�ในห้น,วย รวมีที่��งการปลั�กฝึAงค!ณธิรรมี จร�ยธิรรมี ค,าน�ยมี
แลัะค!ณลั�กษณะอ�นพื้�งประสูงค6 ประกอบด้�วย(1) ก�จกรรมีน*าเขั้�าสู�,บที่เร�ยน เพื้��อกระต!�นความีสูนใจขั้องผ��
เร�ยน(2) ก�จกรรมีการเร�ยนร� � เพื้��อพื้�ฒนาผ��เร�ยนให้�มี�ความีร� �แลัะ
ที่�กษะตามีมีาตรฐานการเร�ยนร� �(3) ก�จกรรมีรวบยอด้ เพื้��อแสูด้งว,าผ��เร�ยนได้�เร�ยนร� �แลัะพื้�ฒนา
ตามีมีาตรฐานที่��ก*าห้นด้ไว�5)ออกแบบช��นงานห้ร�อภาระงาน เพื้��อสูะที่�อนพื้�ฒนาการการ
เ ร� ย น ร� � ขั้ อ ง ผ�� เ ร� ย น ว, า มี� ค ว า มี ร� �แลัะที่�กษะตามีมีาตรฐานการเร�ยนร� �อย�,ในระด้�บใด้บ�าง
6)ก*าห้นด้ว�ธิ�การประเมี�นผลั แลัะเกณฑ์6การประเมี�นที่��คร�แลัะผ��เ ร� ย น ช, ว ย ก� น ก*า ห้ น ด้ ร ว มี ที่�� ง
ออกแบบเคร��องมี�อว�ด้ผลัที่��สูอด้คลั�องก�บว�ธิ�การประเมี�นตามีสูภาพื้จร�งขั้องผ��เร�ยน
7)ก*าห้นด้เวลัาเร�ยนโด้ยระบ!จ*านวนช��วโมีงที่��ใช�ตามีจร�งขั้องแต,ลัะห้น,วย
8)ก*า ห้นด้เกณฑ์6การประเมี�นค!ณภาพื้ผ��เร�ยนโด้ยใช�ร�ปแบบ Rubric Assessment เพื้��อจ*าแนก
ระด้�บค!ณภาพื้แลัะความีสู*าเร1จในการเร�ยนขั้องผ��เร�ยนแต,ลัะคนให้�ช�ด้เจน
3.4 ค,ณ์ล่�กษณ์ะขั้องการออกแบบหน'วยการเร�ยนร �ท��ด�1)มี�การก*าห้นด้ผลัการเร�ยนร� �ขั้องผ��เร�ยนที่��เน�นการค�ด้ว�เคราะห้6 แ ลั ะ ก า ร ป ร ะ ย! ก ต6 ใ ช� ค ว า มี ร� �
(11)
ได้�เห้มีาะสูมีก�บกลั!,มีสูาระการเร�ยนร� �2)มี�การก*าห้นด้ผลัการเร�ยนร� �ขั้องผ��เร�ยนเน�นความีแตกต,างแลัะ
ธิรรมีชาต�ขั้องผ��เร�ยนแต,ลัะคน3)มี�การก*าห้นด้ก�จกรรมีการเร�ยนร� �ที่��ผ��เร�ยนได้�สูะที่�อนความีร� �
ค ว า มี สู า มี า ร ถ ขั้ อ ง ต น เ อ ง ต า มีขั้�อก*าห้นด้ในผลัการเร�ยนร� �
4) มี�การออกแบบการประเมี�นผลัการเร�ยนร� �อย,างต,อเน��อง สูอด้คลั�องก�บผลัการเร�ยนร� �ที่��
ระบ!ไว�5)มี�การออกแบบก�จกรรมีการเร�ยนร� �อย,างห้ลัากห้ลัาย แสูด้ง
กระบวนการเร�ยนร� �ที่��ใช�อย,างช�ด้เจน
6)ก�จกรรมีการเร�ยนร� �สู, งผลัให้�ผ�� เ ร�ยนได้� ร�บการพื้�ฒนาพื้ ฤ ต� ก ร ร มี ด้� า น ต, า ง ๆ ต า มี ที่�� บ, ง ช�� ไ ว� ใ น
ผลัการเร�ยนร� �7)ก�จกรรมีการเร�ยนร� �สู,งเสูร�มีให้�ผ��เร�ยนมี�ความีสูามีารถในการ
ค�ด้ว�เคราะห้6 ค�ด้สู�งเคราะห้6 สูามีารถค�ด้ประย!กต6แลัะค�ด้ร�เร��มีสูร�างสูรรค6ได้�เห้มีาะสูมีก�บว�ย
แลัะศึ�กยภาพื้ขั้องผ��เร�ยน8)ก�จกรรมีการเร�ยนร� �สูอด้คลั�องก�บความีต�องการขั้องที่�องถ��น
ช! มี ช น แ ลั ะ จ� ต ว� ที่ ย า ก า ร เ ร� ย น ร� �ขั้องผ��เร�ยน
9)ผ��เร�ยนมี�สู,วนร,วมีในการก*าห้นด้ก�จกรรมีการเร�ยนร� �แลัะเกณฑ์6การประเมี�นผลัการจ�ด้
การเร�ยนร� �10) มี�การน*าห้น,วยการเร�ยนร� �ไปใช�จร�ง แลัะมี�การปร�บแผนการ
จ�ด้การเร�ยนร� �จนเก�ด้ผลัก�บผ��เร�ยนตามีที่��คาด้ห้ว�งจร�ง
(12)
11) มี�การประเมี�นผลัการออกแบบการเร�ยนร� �อย,างเป$นระบบ แลัะสูามีารถใช�สู��อแนะน*า
ความีร� �ให้�เพื้��อนคร�ที่ด้ลัองใช�นว�ตกรรมีการจ�ด้การเร�ยนร� �ได้�จร�ง
ว�ธิ์�การออกแบบหน'วยการเร�ยนร �แบบย�อนกล่�บ (Backward Unit Design)
ห้ลั�กการสู*าค�ญขั้องการออกแบบห้น,วยการเร�ยนร� �ตามีแนวที่าง Backward Design จะเน�นความีสู*าค�ญไปที่��เป-าห้มีายการเร�ยนร� � แลัะการบรรลั!ผลัตามีมีาตรฐานการเร�ยนร� �ที่��ก*าห้นด้ โด้ยผ��เร�ยนต�องเก�ด้ความีเขั้�าใจที่��ต�ด้ต�วอย,างย��งย�น (Enduring Understanding) ที่��งน��ผ��สูอนต�องมี�ความีสูามีารถในการออกแบบลั*าด้�บขั้��นการเร�ยนร� �ที่��จะพื้�ฒนาผ��เร�ยนไปสู�,จ!ด้ห้มีายที่��พื้�งประสูงค6ได้�อย,างแที่�จร�ง
4.1 การวางแผนการจั�ดการเร�ยนร �แบบย�อนกล่�บก,อนลังมี�อจ�ด้ที่*าห้น,วยการเร�ยนร� �แต,ลัะห้น,วย ผ��สูอนต�อง
วางแผนไว�ลั,วงห้น�าตามีประเด้1นความีค�ด้ที่��สู*าค�ญต,อไปน��1)ผ��เร�ยนควรเร��มีปฏิ�บ�ต�การเร�ยนร� � แลัะด้*าเน�นการเร�ยนร� �ตามีว�ธิ�
การที่��ก*าห้นด้ไว�ในห้น,วยอย,างไรบ�าง
2)ผ��เร�ยนจ*าเป$นต�องมี�พื้��นฐานความีร� � ที่�กษะ แลัะกระบวนการเร�ยนร� �อะไรบ�าง ที่��จะน*าผ��เร�ยนไปสู�,ความีสู*าเร1จในการสูร�างองค6ความีร� �ห้ร�อประสูบการณ6การเร�ยนร� �ให้มี,
3)ผ��สูอนจะด้*าเน�นการอย,างไรให้�ผ��เร�ยนมี�พื้��นฐานความีร� � ที่�กษะแลัะกระบวนการเร�ยนร� �เพื้�ยงต,อการลังมี�อปฏิ�บ�ต�ก�จกรรมี
4) เมี��อด้*าเน�นการจ�ด้การเร�ยนร� �ในแต,ลัะห้น,วยจบสู��นแลั�ว ผ��เร�ยนต�องร� �อะไร แลัะสูามีารถที่*าอะไรได้�บ�างตามีมีาตรฐานการเร�ยนร� �ที่��ก*าห้นด้ไว�ในห้ลั�กสู�ตร ที่��งมีาตรฐานระด้�บช,วงช��น แลัะระด้�บรายช��นป?
(13)
5)ผ��สูอนจะที่ราบได้�อย,างไรว,า ผ��เร�ยนแต,ลัะคนได้�ร� �สู��งน��นแลัะสูามีารถปฏิ�บ�ต�สู��งน��นๆ ได้�มี�ร,องรอยห้ลั�กฐานแลัะภาระงานอะไรบ�างที่��ใช�เป$นเคร��องมี�อประเมี�นผลัอย,างห้ลัากห้ลัาย
6)ผ��สูอนจ*าเป$นต�องที่*าอะไรบ�าง เพื้��อช,วยให้�ผ��เร�ยนเก�ด้การเร�ยนร� �แลัะเก�ด้องค6ความีร� �ตามีที่��ต�องการ โด้ยออกแบบห้น,วยการเร�ยนร� �แลัะจ�ด้ลั*าด้�บแผนการเร�ยนร� �ให้�ช�ด้เจน พื้ร�อมีที่��งระบ!ร�ปแบบขั้��นตอนก�จกรรมีแลัะแห้ลั,งการเร�ยนร� �ที่��จ*าเป$นต�องใช�ในการจ�ด้ประสูบการณ6แก,ผ��เร�ยน
7)ผ��สูอนควรที่*าอะไรบ�าง ถ�าผ��เร�ยนย�งไมี,ร� �ในสู��งที่��ควรร� � ห้ร�อไมี,สูามีารถปฏิ�บ�ต�ได้�ตามีเง��อนไขั้ที่��ก*าห้นด้ เช,น จ�ด้การสูอนซึ่*�า ซึ่,อมีเสูร�มีเฉพื้าะกลั!,มี ห้ร�อออกแบบสู��อการเร�ยนร� �ให้มี, เป$นต�น
การวางแผนว�เคราะห้6ประเด้1นเห้ลั,าน��ไว�ลั,วงห้น�า พื้ร�อมีที่��งด้*าเน�นการออกแบบก�จกรรมีการเร�ยนร� � สู��อการเร�ยนร� �แลัะแห้ลั,งการเร�ยนร� � เคร��องมี�อว�ด้ประเมี�นผลั แลัะจ�ด้เตร�ยมีที่ร�พื้ยากรต,างๆ ที่��เป$นปAจจ�ยเสูร�มีสูร�างการเร�ยนร� �ให้�แก,ผ��เร�ยน จะช,วยให้�ผ��สูอนประสูบความีสู*าเร1จ ในการจ�ด้การเร�ยนการสูอน แลัะที่��สู*าค�ญ ผ��เร�ยนแต,ลัะคนจะมี�ร,องรอยห้ลั�กฐานช��นงานแสูด้งผลัการเร�ยนร� �ที่��ช�ด้เจน ซึ่��งสูะที่�อนระด้�บความีร� � ความีสูามีารถตามีเป-าห้มีายที่��ผ��สูอนก*าห้นด้เกณฑ์6ไว� เป$นที่��ยอมีร�บได้�ว,า ผ��เร�ยนมี�ผลัสู�มีฤที่ธิ�9ที่างการเร�ยนตามีพื้ฤต�กรรมีบ,งช��ในมีาตรฐานการเร�ยนร� �จร�ง
4.2 การออกแบบการจั�ดการเร�ยนร �แบบย�อนกล่�บการออกแบบการเร�ยนร� �แบบย�อนกลั�บตามีขั้�อเสูนอขั้อง Grant
Wiggins แลัะ Jay McTighe แบ,งเป$น 3 ขั้��นตอน ค�อ
ก/าหนดเป8าหมายหล่�กขั้องการเร�ยนร � (Indentity desired
goals) ผ��สูอนต�องว�เคราะห้6ค*าห้ร�อวลั�ที่��สู*าค�ญตามีที่��บ,งบอกไว�ในมีาตรฐาน
(14)
ขั้�!นตอนท�� 1
สูาระการเร�ยนร� �ขั้องรายว�ชาที่��น*ามีาออกแบบ แลัะต�องที่*าความีเขั้�าใจให้�ช�ด้เจนว,า มีาตรฐานการเร�ยนร� �แต,ลัะขั้�อ รวมีที่��งจ!ด้มี!,งห้มีายสู*าค�ญขั้องรายว�ชาน��นๆ ต�องการให้�ผ��เร�ยนได้�เร�ยนร� � มี�ความีเขั้�าใจแลัะเก�ด้ที่�กษะห้ร�อเจตคต�ในเร��องใด้บ�าง โด้ยต��งค*าถามีสู*าค�ญ (Essential Questions) เพื้��อก*าห้นด้เป$นกรอบความีค�ด้ห้ลั�กว,า เมี��อจบห้น,วยการเร�ยนร� �แลั�ว
1)ผ��เร�ยนควรร� �อะไร แลัะมี�ความีเขั้�าใจในห้�วขั้�อความีร� �ห้ร�อสูาระการเร�ยนร� �เร��องใด้บ�าง
2)ผ��เร�ยนควรปฏิ�บ�ต�แลัะแสูด้งความีสูามีารถในเร��องใด้บ�าง จนเป$นพื้ฤต�กรรมีต�ด้ต�วคงที่น
ห้ร�อเป$นค!ณลั�กษณะอ�นพื้�งประสูงค63)สูาระสู*าค�ญที่��ควรค,าแก,การเร�ยนร� �แลัะน*าไปประย!กต6ใช�ใน
ช�ว�ตจร�ง ได้�แก,เร��องอะไรบ�าง เพื้��อจะช,วยให้�ผ��เร�ยนด้*ารงช�ว�ตอย,างมี�ค!ณภาพื้ที่��ง
การที่*างานห้ร�อการเร�ยนต,อในช,วงช��นที่��สู�งขั้��น
4)ผ��เร�ยนควรมี�ความีร� �แลัะเก�ด้ความีเขั้�าใจที่��ลั!,มีลั�กย��งย�น เก��ยวก�บเร��องอะไรบ�างที่��จะต�ด้ต�วผ��เร�ยนแลัะสูามีารถน*าไปบ�รณาการเช��อมีโยงก�บประสูบการณ6ในช�ว�ตประจ*าว�นได้�อย,างมี�ประสู�ที่ธิ�ภาพื้
5)ผ��เร�ยนควรเร�ยนร� �ในสูภาพื้จร�งแลัะ/ห้ร�อจ�ด้ที่*าโครงงานตามีสูาระการเร�ยนร� �ใด้บ�างที่��จะเก�ด้ประโยชน6สู�งสู!ด้
ก/าหนดหล่�กฐานแล่ะว�ธิ์�ว�ดประเม�นผล่การเร�ยนร � (Determine
Aceptable Evidence) ระบ!เคร��องมี�อแลัะว�ธิ�การว�ด้ประเมี�นผลั โด้ยเน�นการว�ด้จากพื้ฤต�กรรมีการเร�ยนร� �รวบยอด้ (Performance
Assessment) เพื้��อประเมี�นว,าผ��เร�ยนสูามีารถแสูด้งพื้ฤต�กรรมีการเร�ยนร� �ที่��เป$น
(15)
ขั้�!นตอนท�� 2
ผลัมีาจากการมี�ความีร� �ความี เขั้�าใจตามีเกณฑ์6ที่��ได้�ก*าห้นด้ไว�ในเป-าห้มีายห้ลั�กขั้องการจ�ด้การเร�ยนร� �ได้�จร�งห้ร�อไมี, ที่��งน��ผ��สูอนควร
ด้*าเน�นการว�ด้ประเมี�นผลัก,อนเร�ยน ในระห้ว,างเร�ยน แลัะเมี��อสู��นสู!ด้การเร�ยน โด้ยใช�เคร��องมี�อการว�ด้ประเมี�นผลัย,อยๆ ที่!กขั้��นตอนขั้องการจ�ด้ก�จกรรมีการเร�ยนร� � ประกอบก�บการรวบรวมีห้ลั�กฐานร,องรอยขั้องการเร�ยนร� �ที่��ผ��เร�ยนแสูด้งออกอย,างครบถ�วน เช,น
การใช�แบบที่ด้สูอบย,อยๆ การสู�งเกตความีพื้ร�อมีที่างการเร�ยน การสู�งเกตการที่*าก�จกรรมี การตรวจการบ�าน การเขั้�ยนบ�นที่�กประจ*าว�น (Learning Log) การสูะที่�อนผลัจากช��นงานต,างๆ เป$นต�น
ขั้�อพื้�งระมี�ด้ระว�ง ค�อ การก*าห้นด้ห้ลั�กฐานขั้องการเร�ยนร� �ที่��เก�ด้ก�บผ��เร�ยนน��น ต�องเป$นห้ลั�กฐานที่��บ,งช��ได้�ว,า ผ��เร�ยนบรรลั!เป-าห้มีายตามีมีาตรฐานการเร�ยนร� �ที่��ก*าห้นด้ไว�ด้�วยว�ธิ�การประเมี�นอย,างห้ลัากห้ลัาย แลัะมี�ความีต,อเน��องจนจบสู��นกระบวนการเร�ยนร� �ที่��จ�ด้ขั้��น แลัะห้ลั�กฐานการประเมี�นต�องมี�ความีเที่��ยงตรง เอ��อต,อการเร�ยนร� �ตามีสูภาพื้จร�งขั้องผ��เร�ยน ผ��สูอนจ�งควรตรวจสูอบห้ลั�กฐานการเร�ยนร� �ก�บว�ธิ�การว�ด้ประเมี�นผลัว,ามี�ความีสูอด้คลั�องสู�มีพื้�นธิ6ก�นห้ร�อไมี, ตามีผ�งการประเมี�นด้�งน��
ผ�งการประเม�น : เพื้��อตรวจสูอบรายการห้ลั�กฐานการเร�ยนร� �แลัะว�ธิ�การว�ด้แลัะประเมี�นผลั
เคร��องม�อประเภทแบบทดสื่อบ/
ใบงานเคร��องม�อประเภทชั้�!นงาน/ภาระ
งาน/ร'องรอยการเลั�อกค*า
ตอบที่��ถ�กต�อง
การตอบค*าถามี
อย,างสู��นๆ
การเขั้�ยนแบบ
อ�ตน�ย
การปฏิ�บ�ต�งานภายในโรงเร�ยน
การปฏิ�บ�ต�งานในช�ว�ต
จร�ง
การสู�งเกต
อย,างต,อเน��อง
(16)
หล่�กฐานการเร�ยนร �
ว�ธิ์�การ
ความเขั้�าใจัท��คงทน
ความีร� � (K)
ที่�กษะ กระบวนการ (P)
ค!ณลั�กษณะที่��พื้�ง
ประสูงค6 (A)
ท�กษะการเร�ยนร �เฉพื้าะว�ชั้า
ท�กษะการเร�ยนร �ร'วมว�ชั้า
วางแผนการจั�ดก�จักรรมแล่ะเสื่ร�มสื่ร�างประสื่บการณ์.การเร�ยนร � เพื้��อให้�ผ��เร�ยนบรรลั!เป-าห้มีายการเร�ยนร� � แลัะมี�ห้ลั�กฐานที่��เป$นร�ปธิรรมีช�ด้เจน ผ��สูอนควรวางแผนการเร�ยนการสูอน ตามีประเด้1นต,อไปน��
1)ผ��เร�ยนจ*าเป$นต�องมี�ความีร� �แลัะที่�กษะพื้��นฐานอะไรบ�างจ�งจะช, ว ย ใ ห้� ผ�� เ ร� ย น เ ก� ด้ ค ว า มีเขั้�าใจห้ร�อมี�ความีสูามีารถบรรลั!เป-าห้มีายที่��ก*าห้นด้
2)ผ��สูอนจ*าเป$นต�องจ�ด้ก�จกรรมีอะไรบ�างจ�งจะช,วยพื้�ฒนาผ��เร�ยนไปสู�,เป-าห้มีายด้�งกลั,าว
3)ผ��สูอนควรใช�สู��อการสูอนอะไรบ�างที่��จะช,วยกระต!�นผ��เร�ยนแลัะเห้มีาะสูมีก�บการจ�ด้
ก�จกรรมีการเร�ยนร� �ขั้�างต�น4)การก*าห้นด้ขั้อบขั้,ายสูาระการเร�ยนร� � ร�ปแบบก�จกรรมี แลัะสู��อ
ก า ร เ ร� ย น ร� � มี� ค ว า มี
(17)
ขั้�!นตอนท�� 3
สูอด้คลั�องก�นห้ร�อไมี, จะช,วยสู,งผลัต,อการว�ด้ประเมี�นผลัได้�ช�ด้เจนห้ร�อไมี,
ที่��งน��ผ��สูอนอาจย�ด้ห้ลั�กเที่คน�ค WHERE TO (ไปที่างไห้น)
ช,วยพื้�ฒนาให้�ผ��เร�ยนเก�ด้พื้ฤต�กรรมีการเร�ยนร� �ตามีที่��ก*าห้นด้ไว� ด้�งน��
เทคน�ค ความหมาย
W
- ห้มีายถ�ง Where to go แลัะ What to learn ผ��สูอนต�องช��แจงให้�ผ��เร�ยนเขั้�าใจจ!ด้ประสูงค6การเร�ยนร� � ขั้องห้น,วยการเร�ยนร� �ห้ร�อแผนการจ�ด้การเร�ยนร� � ค�ออะไร คาด้ห้ว�งให้�ผ��เร�ยนได้�เร�ยนร� �แลัะมี�ความี เขั้�าใจในเร��องใด้บ�าง ผ��เร�ยนจะต�องมี�ความีร� �อะไรบ�างที่��จะช,วยให้� ผ��เร�ยนไปสู�,เป-าห้มีายได้�อย,าง ราบร��น
H- ห้มีายถ�ง Hook แลัะ Hold ผ��สูอนจะใช�กลัว�ธิ�อย,างไร เพื้��อด้�งด้�ด้ความีสูนใจขั้องผ��เร�ยน ใ ห้�ต� ด้ ต า มี บ ที่ เ ร�ย น ห้ ร�อ ร,ว มี ป ฏิ� บ� ต�ก�จกรรมีจนจบสู��นกระบวนการเร�ยนร� �ขั้องห้น,วยน��นๆ
E- ห้มีายถ�ง Equip Experience แลัะ Explore ผ��สูอนจะใช�กลัว�ธิ�อย,างไรเพื้��อกระต!�นสู,งเสูร�มี แลัะ สูน�บสูน!นให้�ผ�� เร�ยนเก�ด้ประสูบการณ6การเร�ยนร� �แลัะสูามีารถที่*าความีเขั้�าใจองค6ความีร� �ต,างๆที่�� ก*าห้นด้ไว�
R- ห้มีายถ�ง Rethink แลัะ Revise ผ��สูอนต�องเปFด้โอกาสูให้�ผ��เร�ยนแต,ลัะคนได้�ตรวจสูอบความีร� � ความีเขั้�าใจที่บที่วนผลัการปฏิ�บ�ต�แลัะตรวจที่านช��นงานขั้องตนเองเพื้��อปร�บปร!งแก�ไขั้ให้�สูมีบ�รณ6 ตามีเกณฑ์6ที่��ก*าห้นด้
E- ห้มีายถ�ง Evaluation ผ��สูอนช��แนะให้�ผ��เร�ยนประเมี�นผลัแลัะเห้1นแนวที่างประย!กต6ใช�ผลังานขั้อง ตนเองให้�เก�ด้ประโยชน6ต,อการเร�ยนร� �ในโอกาสูต,อๆไป
T- ห้มีายถ�ง Be Tailored ผ��สูอนต�องตระห้น�กถ�งการจ�ด้การเร�ยนร� �ให้�ตอบสูนองความีสูนใจ ความี ต�องการ แลัะความีถน�ด้ขั้องผ��เร�ยนแต,ลัะคนที่��มี�ความีสูามีารถแตกต,างก�น
(18)
เทคน�ค ความหมาย
O- ห้มีายถ�ง Organised ผ��สูอนต�องบร�ห้ารจ�ด้การช��นเร�ยนอย,างเห้มีาะสูมี สูอด้คลั�องก�บก�จกรรมีการ เร�ยนร� �ที่��จ�ด้ขั้��น โด้ยตระห้น�กถ�งความีสูนใจ แลัะการมี�สู,วนร,วมีขั้องผ��เร�ยนแต,ลัะคน
เที่คน�คว�ธิ�การ WHERE TO น�� ผ��สูอนจะเร��มีด้*าเน�นการจากขั้��นตอนใด้ก,อนก1ได้� ย�ด้ห้ย!,นได้�ตามีสูถานการณ6ขั้องบที่เร�ยนแลัะสูภาพื้ปAญห้าขั้องผ��เร�ยน แต,ต�องค*าน�งถ�งความีเช��อมีโยงสู�มีพื้�นธิ6ก�นขั้องจ!ด้มี!,งห้มีายการเร�ยนร� � ก�จกรรมีการเร�ยนร� � แลัะการว�ด้ประเมี�นผลัการเร�ยนร� �ต�องสูอด้คลั�องก�นที่!กคร��ง จ�งจะบรรลั!เป-าห้มีายการเร�ยนร� �อย,างมี�ประสู�ที่ธิ�ภาพื้
ผ��สูอนจ�งควรตรวจสูอบรายลัะเอ�ยด้ก,อนน*าไปปฏิ�บ�ต�ตามีตาราง ด้�งน��ผ�งการประเม�น : เพื้��อตรวจสูอบความีสูอด้คลั�องขั้องก�จกรรมี สู��อแลัะการประเมี�น
ผลัการเร�ยนร� �
การประเม�นก�จักรรมการเร�ยน
การสื่อนทร�พื้ยากร/สื่��อ จั/านวนชั้��วโมง
4.3 ขั้�อควรค/าน#งถึ#งในการออกแบบการเร�ยนร �แบบย�อนกล่�บ
(19)
1) การก*าห้นด้ขั้อบขั้,ายสูาระการเร�ยนร� �ที่��มี�ค!ณค,าที่��ผ��เร�ยนจะต�องที่*าความีเขั้�าใจอย,างลั�กซึ่��งน��นควรเป$นสูาระที่��สู�มีพื้�นธิ6ก�บมีาตรฐานการศึ�กษาชาต� นโยบายการจ�ด้การศึ�กษาขั้องเขั้ตพื้��นที่�� แลัะเป-าห้มีายการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่��ระบ!ไว�ในธิรรมีน�ญโรงเร�ยน ห้ร�อห้ลั�กสู�ตรการศึ�กษาขั้��นพื้��นฐาน พื้.ศึ. 2544
2) ควรเป$นสูาระการเร�ยนร� �ที่��ผ��เร�ยนได้�มี�โอกาสูเร�ยนร� �ในสูภาพื้จร�ง (Authentic Learning)
ควรจ�ด้ก�จกรรมีการเร�ยนร� �แบบบ�รณาการ สู,งเสูร�มีให้�ผ��เร�ยนสูามีารถค�ด้เป$น ที่*าเป$น
แก�ปAญห้าเป$น ด้�วยการลังมี�อจ�ด้ที่*าโครงงานตามีความีถน�ด้แลัะความีสูนใจ
3) ห้ลั�กฐานแสูด้งความีเขั้�าใจอย,างย��งย�นคงที่น (Enduring Understanding) ขั้ อ ง ผ�� เ ร� ย น ต� อ ง
มี�ความีตรงประเด้1น มี�ความีเที่��ยงตรง แลัะความีเช��อมี��นสู�ง อ� น เ ก� ด้ จ า ก ก า ร ว� ด้ ป ร ะ เ มี� น ผ ลั
ตามีสูภาพื้จร�ง (Authentic Assessment) ด้�วยว�ธิ�การห้ลัากห้ลัาย มี�ค!ณภาพื้มีาตรฐาน
ถ�กต�องตามีห้ลั�กว�ชา4) ควรเลั�อกร�ปแบบกระบวนการเร�ยนร� � ก�จกรรมีการเร�ยนการ
สูอน แลัะเที่คน�คว�ธิ�การสูอนที่��ผ,านกระบวนการว�จ�ยที่ด้ลัองใช�อย,างได้�ผลัมีาแลั�ว แลัะ
เป$นกระบวนการที่��เอ��อต,อการเร�ยนร� � ความีสูนใจ แลัะความีเป$นเลั�ศึขั้องผ��เร�ยน
4.4 ต�วอย'างร ปแบบการออกแบบหน'วยการเร�ยนร �แบบย�อนกล่�บโครงสื่ร�างหน'วยการเร�ยนร �ตามแนว Backward
Design
(20)
หน'วยการเร�ยนร �ท��................เร��อง.....................................................................................
ชั้�!นม�ธิ์ยมศึ#กษาป%ท��.................เวล่าเร�ยน.............ชั้��วโมง
เป8าหมายการเร�ยนร �
ผล่การเร�ยนร �ท��คาดหว�ง
หล่�กฐานการเร�ยนร �
ชั้�!นงาน / ร'องรอย
ว�ธิ์�สื่อน / กระบวนการเร�ยนร �
(21)
เร��อง...........................................................................................
กล่,'มสื่าระการเร�ยนร �คณ์�ตศึาสื่ตร.ชั้�!นม�ธิ์ยมศึ#กษาป%ท��.............
(22)
ผ�งมโนท�ศึน. หน'วยการ
ชั้��อหน'วยการ
เร�ยนร �
1
26
4
5 3
การออกแบบหน'วยการเร�ยนร �ตามแนว Backward Design
หน'วยการเร�ยนร �ท��............เร��อง.....................................................................................
ชั้�!นม�ธิ์ยมศึ#กษาป%ท��............เวล่าเร�ยน...........ชั้��วโมง
1. มาตรฐานการเร�ยนร � ชั้'วงชั้�!นท�� 3 (ม.1-ม.3)
..............................................................................................................................................
....................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
....................................................................................................................................
2. ความค�ดรวบยอด / ความร � เจัตคต� แล่ะท�กษะ2.1 สื่าระหล่�ก : Knowledge (K) ⇒ น�กเร�ยนต�องร �อะไร............................................................................................................................................................................................................................................................
2.2 ท�กษะ / กระบวนการ : Process (P)⇒ น�กเร�ยนสื่ามารถึปฏิ�บ�ต�อะไรได�
...................................................................................................................................
.........................................................................................................................
2.3 ค,ณ์ล่�กษณ์ะท��พื้#งประสื่งค. : Attitude (A) ⇒ น�กเร�ยนแสื่ดงพื้ฤต�กรรมอะไรบ�าง
...................................................................................................................................
.........................................................................................................................
3. ความเขั้�าใจัท��คงทน..................................................................................................................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
....................................................................................................................................
4. ค,ณ์ล่�กษณ์ะ ................................................................................................................................................................................................................................................................................
(23)
..............................................................................................................................................
....................................................................................................................................
5. ท�กษะเฉพื้าะว�ชั้า..................................................................................................................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
....................................................................................................................................
6. ท�กษะร'วมว�ชั้า..................................................................................................................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
....................................................................................................................................
การวางแผนการจั�ดการเร�ยนร �เพื้��อพื้�ฒนาค,ณ์ภาพื้ผ �เร�ยน
หน'วยการเร�ยนร �ท��..............เร��อง...............................................................
ชั้�!นม�ธิ์ยมศึ#กษาป%ท��...............เวล่าเร�ยน...............ชั้��วโมง
คณะผ��จ�ด้ที่*าห้น,วยการเร�ยนร� �แลัะแผนการจ�ด้การเร�ยนร� � ได้�ศึ�กษาแนวค�ด้การออกแบบการเร�ยนร� �แบบย�อนกลั�บ ผสูมีผสูานก�บว�ธิ�การจ�ด้ที่*าแผนการเร�ยนร� �ที่�� สู*าน�กงานขั้�าราชการคร�แลัะบ!คลัากรที่างการศึ�กษา (กคศึ.
) ก*าห้นด้ไว�เด้�มี เพื้��อคร�ผ��สูอนจะได้�น*าไปปร�บประย!กต6ใช�ได้�อย,างสูะด้วก ไมี,เก�ด้ความีสู�บสูน โด้ยจ�ด้ที่*ารายลัะเอ�ยด้ต,อไปน��
1) ก/าหนดหน'วยการเร�ยนร � ครอบคลั!มีมีาตรฐานสูาระ แลัะผลัการเร�ยนร� �ที่��คาด้ห้ว�งในรายว�ชา
2) ก/าหนดความค�ดรวบยอด สู*าห้ร�บเป$นกรอบในการจ�ด้การเร�ยนร� �ครอบคลั!มีที่��งด้�านความีร� � เจตคต� แลัะที่�กษะขั้องแต,ลัะห้น,วย
3) ก/าหนดความร �ความเขั้�าใจัท��คงทน เพื้��อเป$นเป-าห้มีายในการจ�ด้การเร�ยนร� �ขั้องแต,ลัะห้น,วย
(24)
4) ก/าหนดขั้อบขั้'ายความร �แล่ะท�กษะท��สื่/าค�ญ สู*าห้ร�บตรวจสูอบพื้��นฐานการเร�ยนร� �ขั้องผ��เร�ยน
5) ระบ,มาตรฐานการจั�ดการเร�ยนร � เพื้��อเป$นที่�ศึที่างในการจ�ด้ก�จกรรมีการเร�ยนร� �แลัะการว�ด้ประเมี�นผลัผ��เร�ยน
6) ระบ,ท�กษะร'วมว�ชั้าแล่ะท�กษะเฉพื้าะว�ชั้า เพื้��อเป$นแนวที่างออกแบบก�จกรรมีการเร�ยนร� � สู��อการเร�ยนร� � แลัะเคร��องมี�อว�ด้ประเมี�นผลั
7) ก/าหนดร'องรอยหล่�กฐานแล่ะชั้�!นงาน ที่��ใช�แสูด้งผลัการเร�ยนร� �ขั้องแต,ลัะห้น,วย
8) ออกแบบกระบวนการเร�ยนร �แล่ะก�จักรรมการเร�ยนร � เพื้��อเป$นแนวที่างน*าไปจ�ด้ประสูบการณ6การเร�ยนร� �แก,ผ��เร�ยน
การออกแบบห้น,วยการเร�ยนร� �แลัะแผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ตามีห้�วขั้�อด้�งกลั,าว คณะผ��จ�ด้ที่*าได้�กระที่*าอย,างรอบคอบ มี�การที่ด้ลัองใช�แลัะตรวจสูอบผลัการใช�ในกลั!,มีที่ด้ลัองที่��มี�ผ��เร�ยนห้ลัากห้ลัายความีสูามีารถ จนได้�ผลัสู�มีฤที่ธิ�9เป$นที่��พื้�งพื้อใจมีาแลั�ว จ�งน*าขั้�อมี�ลัมีาปร�บปร!งแก�ไขั้ให้�เป$นแผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่��มี�ค!ณภาพื้ เพื้��ออ*านวยความีสูะด้วกแก,คร�ผ��สูอนที่��จะน*าไปประย!กต6ด้�ด้แปลังใช�เป$นนว�ตกรรมีพื้�ฒนาผ��เร�ยนขั้องที่,านให้�เก�ด้ผลัสู�มีฤที่ธิ�9ตรงตามีมีาตรฐานการเร�ยนร� �ที่��สูถานศึ�กษาได้�ก*าห้นด้ไว� แลัะมี�ความีสูามีารถในการค�ด้ว�เคราะห้6 สู�งเคราะห้6 สูามีารถแสูวงห้าความีร� �เพื้��มีเต�มีด้�วยตนเองได้�อย,างมี�ประสู�ที่ธิ�ภาพื้ อ�นเป$นเป-าห้มีายสู*าค�ญขั้องการปฏิ�ร�ปห้ลั�กสู�ตรการเร�ยนการสูอน แลัะห้�วใจสู*าค�ญขั้องการปฏิ�ร�ปการศึ�กษา ค�อ ผ �เร�ยนเป3นคนด� คนเก'ง แล่ะม�ความสื่,ขั้จัากการเร�ยนร �ท,กประการ
(25)
กล่,'มสื่าระการเร�ยนร �คณ์�ตศึาสื่ตร.1. ขั้อบขั้'ายเน�!อหากล่,'มสื่าระการเร�ยนร �คณ์�ตศึาสื่ตร.
สูาระการเร�ยนร� �ที่��ก*าห้นด้ไว�น��เป$นสูาระห้ลั�กที่��จ*าเป$นสู*าห้ร�บผ��เร�ยนที่!กคน ประกอบด้�วยเน�� อห้าว�ชาคณ�ตศึาสูตร6แลัะที่�กษะกระบวนการที่างคณ�ตศึาสูตร6 ในการจ�ด้การเร�ยนร� �ผ��สูอนควรบ�รณาการสูาระต,างๆเขั้�าด้�วยก�นเที่,าที่��จะเป$นไปได้�
สูาระที่�� เป$นองค6ความีร� �ขั้องกลั!,มีสูาระการเร�ยนร� �คณ�ตศึาสูตร6 ประกอบด้�วย
สูาระที่�� 1 จ*านวนแลัะการด้*าเน�นการสูาระที่�� 2 การว�ด้สูาระที่�� 3 เรขั้าคณ�ตสูาระที่�� 4 พื้�ชคณ�ตสูาระที่�� 5 การว�เคราะห้6ขั้�อมี�ลัแลัะความีน,าจะเป$นสูาระที่�� 6 ที่�กษะ/กระบวนการที่างคณ�ตศึาสูตร6
2. การจั�ดการเร�ยนร �กล่,'มสื่าระการเร�ยนร �คณ์�ตศึาสื่ตร.สู*าห้ร�บค�,มี�อคร�แลัะแผนการจ�ด้การเร�ยนร� �กล่,'มสื่าระการเร�ยนร �
คณ์�ตศึาสื่ตร. ชั้�!นม�ธิ์ยมศึ#กษาป%ท�� 1 เล่'ม 1 น�� ได้�ใช�ว�ธิ�การออกแบบห้น,วยการเร�ยนร� �แบบย�อนกลั�บ (Backward Design) ซึ่��งห้ลั�กการสู*า ค�ญขั้องการออกแบบห้น,วยการเร�ยนร� �ตามีแนวที่าง Backward
Design จะเน�นความีสู*าค�ญไปที่��เป-าห้มีายการเร�ยนร� �แลัะการบรรลั!ผลัตามีมีาตรฐานการเร�ยนร� �ที่��ก*าห้นด้ โด้ยผ��เร�ยนต�องเก�ด้ความีเขั้�าใจที่��ต�ด้ต�วอย,างย��งย�น (Enduring Understanding) ซึ่�� งคร�ผ��สูอนจะต�องมี�ความีสูามีารถในการออกแบบตามีลั*าด้�บขั้��นการเร�ยนร� �ที่��จะพื้�ฒนาผ��เร�ยนไปสู�,จ!ด้ห้มีายที่��พื้�งประสูงค6ได้�อย,างแที่�จร�ง
2.1 หน'วยการเร�ยนร �การออกแบบห้น,วยการเร�ยนร� �เป$นขั้��นตอนสู*าค�ญขั้องการจ�ด้ที่*า
ห้ลั�กสู�ตรอ�งมีาตรฐาน ในห้น,วยการเร�ยนร� �แต,ลัะห้น,วยจะต�องน*าห้ลั�กสู�ตร
(26)
แกนกลัางขั้องกลั!,มีสูาระการเร�ยนร� �คณ�ตศึาสูตร6 มีาตรฐานการเร�ยนร� �ขั้องแต,ลัะช,วงช��นแลัะต�วช��ว�ด้ขั้องแต,ลัะช��นป?มีาที่*าการว�เคราะห้6 แลั�วจ�ด้ที่*าเป$นห้น,วยการเร�ยนร� �
ในห้น,วยการเร�ยนร� �ห้น��งจะประกอบไปด้�วย1. เน�!อหาสื่าระ ว�เคราะห้6จากมีาตรฐานการเร�ยนร� � ต�วช��ว�ด้ จาก
ห้ลั�กสู�ตรแกนกลัาง จ�ด้พื้�มีพื้6เป$นสู��อสูาระการเร�ยนร� �พื้��นฐาน สู�มีฤที่ธิ�9มีาตรฐาน คณ�ตศึาสูตร6 มี.1 เลั,มี 1
2. รายล่ะเอ�ยดขั้องการจั�ดก�จักรรมการเร�ยนการสื่อน การออกแบบการเร�ยนร� �แบบย�อนกลั�บตามีแนว Backward Design จ�ด้พื้�มีพื้6ในร�ปแบบขั้อง CD แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �ตามีแนวที่าง Backward Design
ในห้น,วยการเร�ยนร� �มี�มีาตรฐานเป$นเป-าห้มีายขั้องการพื้�ฒนาผ��เร�ยน มี�การก*าห้นด้แก,นเร��อง (Theme) ห้ลัอมีรวมีเน��อห้าสูาระต,างๆ จ�ด้ก�จกรรมีแบบบ�รณาการ ก*าห้นด้งานให้�ผ��เร�ยนได้�ปฏิ�บ�ต� มี�การว�ด้แลัะประเมี�นผลัว,าผ��เร�ยนมี�ความีสูามีารถถ�งระด้�บที่��ก*าห้นด้ไว�ในมีาตรฐานห้ร�อไมี, โด้ยมี�ร,องรอย ช��นงาน การว�ด้แลัะประเมี�นผลัที่��ช�ด้เจน
ด้�งน��น บร�ษ�ที่อ�กษรเจร�ญที่�ศึน6 อจที่. จ*าก�ด้ ได้�ออกแบบห้น,วยการเร�ยนร� �แบบย�อนกลั�บ Backward Design โด้ยคร�ผ��สูอนจะต�องน*าเน��อห้าจากห้น,วยการเร�ยนร� �จากสื่��อสื่าระการเร�ยนร �พื้�!นฐาน สื่�มฤทธิ์��มาตรฐาน มีาจ�ด้ก�จกรรมีการเร�ยนการสูอนในร�ปแบบ CD แผนการจั�ดการเร�ยนร �ตามแนว Backward Design ขั้องว�ชาน��นๆ การจ�ด้กระบวนการเร�ยนการสูอนจ�งจะสูมีบ�รณ6
2.2 การว�ดแล่ะประเม�นผล่การว�ด้ผลัแลัะการประเมี�นผลัที่างคณ�ตศึาสูตร6น��น ผ��สูอนไมี,ควรมี!,ง
ว� ด้ แ ต, ด้� า น ค ว า มี ร� � เ พื้� ย ง ด้� า น เ ด้� ย ว ค ว ร ว� ด้ ใ ห้�ค ร อ บ ค ลั! มี ด้� า นที่�กษะ/กระบวนการ แลัะด้�านค!ณธิรรมี จร�ยธิรรมี แลัะค,าน�ยมีด้�วย ที่��งน��ต�องว�ด้ให้�ได้�สู�ด้สู,วนแลัะสูอด้คลั�องก�บมีาตรฐานการเร�ยนร� �ที่��ได้�ก*าห้นด้ไว�ในห้ลั�กสู�ตร
(27)
การว�ด้ผลัแลัะการประเมี�นผลัควรใช�ว�ธิ�การที่��ห้ลัากห้ลัายที่��สูอด้คลั�องแลัะเห้มีาะสูมีก�บว�ตถ!ประสูงค6ขั้องการว�ด้ เช,น การว�ด้ผลัเพื้��อปร�บปร!งค!ณภาพื้การเร�ยนการสูอนแลัะพื้�ฒนาผ��เร�ยน (Formative Test) การว�ด้ผลัเพื้��อว�น�จฉ�ยห้าจ!ด้บกพื้ร,องขั้องผ��เร�ยน (Diagnostic Test) การว�ด้ผลัเพื้��อต�ด้สู�นผลัการเร�ยนขั้องผ��เร�ยน (Summative Test ห้ร�อ Achievement) การว�ด้ผลัตามีสูภาพื้จร�ง (Authentic Test) การสู�ง เกต แฟ้-มีสูะสูมีผลังาน (Portfolio) โครงงานคณ�ตศึาสูตร6 (Mathematics Project) การสู�มีภาษณ6 (Interview)
การว�ด้ผลัแลัะการประเมี�นผลัที่างคณ�ตศึาสูตร6ควรมี!,งเน�นการว�ด้สู มี ร ร ถ ภ า พื้ โ ด้ ย ร ว มี ขั้ อ ง ผ�� เ ร� ย น เ ป$ น ห้ ลั� ก (Performance
Examination) แลัะผ��สูอนต�องถ�อว,าการว�ด้ผลัแลัะการประเมี�นผลัเป$นสู,วนห้น��งขั้องกระบวนการจ�ด้การเร�ยนร� � อย,างไรก1ตามีสู*าห้ร�บการเร�ยนร� �คณ�ตศึาสูตร6น��น ห้�วใจขั้องการว�ด้ผลัแลัะการประเมี�นผลั ไมี,ใช,อย�,ที่��การว�ด้ผลัเพื้��อประเมี�นต�ด้สู�นได้�ห้ร�อตกขั้องผ��เร�ยนเพื้�ยงอย,างเด้�ยว แต,อย�,ที่��การว�ด้ผลัเพื้��อว�น�จฉ�ยห้าจ!ด้บกพื้ร,องตลัอด้จนการว�ด้ผลัเพื้��อน*าขั้�อมี�ลัมีาใช�ในการปร�บปร!งการเร�ยนการสูอนที่��ช,วยพื้�ฒนาให้�ผ��เร�ยนได้�สูามีารถเร�ยนร� �คณ�ตศึาสูตร6อย,างมี�ประสู�ที่ธิ�ภาพื้แลัะเต1มีศึ�กยภาพื้
การประเมี�นผลัที่��ด้�น� �นต�องมีาจากการว�ด้ผลัที่��ด้� กลั,าวค�อ จะต�องเป$นการว�ด้ผลัที่�� มี�ความีถ�กต�อง (Validity) แลัะมี�ความีเช�� อมี��น (Reliability) แลัะการว�ด้ผลัน��นต�องมี�การว�ด้ผลัด้�วยว�ธิ�ต,าง ๆ ที่��ห้ลัากห้ลัายตามีสูภาพื้ แลัะผ��สูอนจะต�องว�ด้ให้�ต,อเน��อง ครอบคลั!มีแลัะที่��วถ�ง เมี��อน*าผลัการว�ด้ที่��งห้ลัายมีารวมีสูร!ปก1จะที่*าให้�การประเมี�นผลัน��นถ�กต�องใกลั�เค�ยงตามีสูภาพื้จร�ง
2.3 การจั�ดก�จักรรมการเร�ยนร �ก�จกรรมีการเร�ยนร� �น�บว,าเป$นห้�วใจสู*าค�ญขั้องการจ�ด้กระบวนการ
เร�ยนร� � (Learning Process) เพื้��อให้�ผ��เร�ยนเก�ด้การเร�ยนร� � แสูวงห้า
(28)
ความีร� � สูร�างความีเขั้�าใจ รวมีไปถ�งสูามีารถสูร�างองค6ความีร� �แลัะพื้�ฒนาตนเองให้�มี�ความีร� �ความีสูามีารถตามีที่��มี!,งห้ว�งในห้ลั�กสู�ตร
คร�ผ��สูอนเป$นผ��มี�บที่บาที่สู*าค�ญให้�น�กเร�ยนเก�ด้การเร�ยนร� � ด้�งน��น คร�ผ��สูอนควรใช�ว�ธิ�การสูอนห้ร�อเที่คน�คการจ�ด้ก�จกรรมีการเร�ยนการสูอนห้ลัาย ๆ ว�ธิ� เพื้��อพื้�ฒนาผ��เร�ยนให้�เป$นบ!คคลัแห้,งการเร�ยนร� � พื้�ฒนาผ��เร�ยนที่��งด้�านพื้!ที่ธิ�พื้�สู�ย ที่�กษะพื้�สู�ย จ�ตพื้�สู�ย โด้ยถ�อว,าผ��เร�ยนมี�ความีสู*าค�ญเป$นไปตามีพื้ระราชบ�ญญ�ต�การศึ�กษาแห้,งชาต� พื้.ศึ. 2542
การจ�ด้การเร�ยนร� �ที่�� เน�นผ��เร�ยนเป$นสู*าค�ญ (Child-centered)
เป$นการจ�ด้การเร�ยนการสูอนที่��มี�สู,วนร,วมีแลัะมี�บที่บาที่สู*าค�ญในกระบวนการเร�ยนร� � บที่บาที่ขั้องคร�จะเปลั��ยนแปลังจากผ��ช��น*าห้ร�อผ��ถ,ายที่อด้ความีร� �ไปเป$นผ��ช,วยเห้ลั�อ อ*านวยความีสูะด้วก สู,งเสูร�มีสูน�บสูน!นผ��เร�ยนในการแสูวงห้าความีร� �แลัะลังมี�อปฏิ�บ�ต� แลัะสูร�างสูรรค6ความีร� �โด้ยใช�ว�ธิ�การต,าง ๆ ห้ลัากห้ลัายร�ปแบบ ที่��งน��โด้ยค*าน�งถ�งความีถน�ด้ ความีสูนใจ แลัะความีแตกต,างระห้ว,างบ!คคลั เพื้��อให้�ผ��เร�ยนเก�ด้การสูร�างสูรรค6ความีร� �แลัะน*าความีร� �ไปใช�อย,างมี�ประสู�ที่ธิ�ภาพื้
ว�ธิ�สูอนแลัะกระบวนการเร�ยนร� �ที่��มี�ความีเห้มีาะสูมี สูามีารถน*ามีาจ�ด้กระบวนการเร�ยนร� �กลั!,มีสูาระการเร�ยนร� �คณ�ตศึาสูตร6 มี�มีากมีายห้ลัายว�ธิ� แต,ในที่��น��จะยกต�วอย,างบางว�ธิ�เที่,าน��น
1. การจ�ด้การเร�ยนร� �แบบร,วมีมี�อ (Cooperative Learning)
เป$นการสูอนที่��ฝึDกให้�ผ��เร�ยนได้�เร�ยนร� �ว�ธิ�การที่*างานร,วมีก�นในกลั!,มีที่��สูมีาช�กมี�ความีสูามีารถแตกต,างก�น โด้ยจะต�องร,วมีมี�อ ช,วยเห้ลั�อ แลักเปลั��ยนความีค�ด้เห้1น แลัะมี�ความีร�บผ�ด้ชอบร,วมีก�น
2. เที่คน�คค�,ค�ด้ (Think-Pair-Share) เป$นเที่คน�คที่��ผ��สูอนน�ยมีใช�ค�,ก�บว�ธิ�สูอนแบบอ��น เป$นเที่คน�คที่��ผ��สูอนต��งค*าถามีห้ร�อก*าห้นด้ปAญห้าให้�แก,ผ��เร�ยน ซึ่��งอาจจะเป$นใบงานห้ร�อแบบฝึDกห้�ด้ก1ได้� แลัะให้�ผ��เร�ยนแต,ลัะคนค�ด้ห้าค*าตอบขั้องตนก,อน แลั�วจ�บค�,ก�บเพื้��อนอภ�ปรายห้าค*าตอบ เมี��อมี��นใจว,าค*าตอบขั้องตนถ�กต�องแลั�วจ�งน*าค*าตอบไปอธิ�บายให้�เพื้��อนที่��งช��นฟ้Aง
(29)
3. ว�ธิ�สูอนโด้ยเน�นที่�กษะกระบวนการ (Teaching Process)
ห้มีายถ�ง แนวที่างในการด้*าเน�นการในเร��องใด้เร��องห้น��งที่��มี�ลั*าด้�บขั้��นตอนที่��ต,อเน�� องต��งแต,ต�นจนเสูร1จตามีจ!ด้ประสูงค6ที่��ก*าห้นด้ ซึ่��งช,วยให้�งานน��นสู*าเร1จได้�อย,างมี�ประสู�ที่ธิ�ภาพื้โด้ยใช�เวลัาแลัะที่ร�พื้ยากรน�อยที่��สู!ด้
4. กระบวนการสูร�างความีค�ด้รวบยอด้ เป$นกระบวนการที่��ต�องการให้�ผ��เร�ยนเก�ด้การร�บร� � บอกได้� อธิ�บายได้� แลัะเขั้�าใจในสู��งที่��เร�ยนว,าค�ออะไร ห้มีายถ�งสู��งใด้
5. ว�ธิ�สูอนแบบศึ�นย6การเร�ยน (Learning Center) เป$นการจ�ด้การเร�ยนร� �ที่��เน�นผ��เร�ยนเป$นสู*าค�ญร�ปแบบห้น��ง โด้ยจ�ด้สูถานที่��ห้ร�อบรรยากาศึให้�ผ��เร�ยนสูามีารถเขั้�าศึ�กษาห้าความีร� �เป$นศึ�นย6ห้ร�อเป$นฐาน โด้ยการเร�ยนจากสู��อประสูมีในร�ปขั้องโปรแกรมีการสูอนที่��จ�ด้ไว�เป$นช!ด้การสูอนตามีห้มีวด้ห้มี�,ขั้องเน��อห้าแลัะประสูบการณ6ต,างๆ ผ��เร�ยนจะห้าประสูบการณ6การเร�ยนร� �จากการศึ�กษาแลัะที่*าก�จกรรมีให้�ครบที่!กศึ�นย6 โด้ยผ��สูอนเป$นผ��จ�ด้เตร�ยมีเอกสูาร เน��อห้าสูาระ สู��อแลัะอ!ปกรณ6การสูอนอ��นๆให้�ที่!กกลั!,มี รวมีที่��งก*าห้นด้ก�จกรรมีต,างๆให้�ผ��เร�ยนเป$นผ��ประสูานงาน เป$นที่��ปร�กษาแลัะเป$นผ��ควบค!มีโปรแกรมีการเร�ยนขั้องผ��เร�ยน
ที่��กลั,าวมีาที่��งห้มีด้น��เป$นเพื้�ยงต�วอย,างว�ธิ�การสูอน คร�ผ��สูอนอาจใช�ว�ธิ�การสูอนอ��น ๆ นอกเห้น�อจากที่��ยกต�วอย,าง แต,ที่��งน��สู��งสู*าค�ญคร�ผ��สูอนจะต�องที่*าความีเขั้�าใจในกระบวนการจ�ด้การเร�ยนร� �ขั้องแต,ลัะว�ธิ�สูอนให้�ลั�กซึ่��ง ก1สูามีารถจ�ด้กระบวนการเร�ยนร� �ให้�ก�บน�กเร�ยนได้�อย,างสูมีบ�รณ6
2.4 สื่��อ/แหล่'งการเร�ยนร �สู�� อเป$นต�วช,วยให้�เก�ด้การเร�ยนร� �ได้�ด้�แลัะเร1วขั้��น สู�� อจ�งเป$นองค6
ประกอบสู*าค�ญขั้องแผนการจ�ด้การเร�ยนร� � ผ��สูอนจะต�องวางแผนว,าจะใช�สู��อใด้ประกอบการจ�ด้ก�จกรรมีเร�ยนร� �ในแต,ลัะขั้��นตอน สู��อบางประเภที่ผ��สูอนสูามีารถผลั�ตเองได้� แต,สู��อบางประเภที่ต�องไปจ�ด้ซึ่��อจ�ด้ห้ามีาใช�ประกอบการสูอน สู��อการเร�ยนร� �จ�งอาจจะมี�ที่��งสู��อว�สูด้! สู��อเอกสูาร แลัะสู��อบ!คคลั ผ��สูอนจะเขั้�ยนช��อประเภที่ขั้องสู��อที่!กชน�ด้ที่��ใช�ในก�จกรรมีการเร�ยนร� �ไว�ในห้�วขั้�อน�� สู��อการเร�ยนร� �ที่��ใช�ก�นอย�,ที่��วไป เช,น ว�ด้�ที่�ศึน6 สูไลัด้6 CAI ห้!,นจ*าลัอง
(30)
ตารางโครงสู างแผนการจั�ด้การเร�ยนรั�
ร�ปภาพื้ เอกสูารประกอบการสูอน เอกสูารประกอบการเร�ยน บที่เร�ยนสู*าเร1จร�ป ช!ด้การสูอน ใบความีร� � ใบงาน ขั้,าว ห้น�งสู�อสู*าห้ร�บค�นคว�า ฯลัฯ ถ�าเป$นสู��อบ!คคลัก1มี�กจะเป$นผ��ที่��เช�ญมีาเป$นว�ที่ยากรให้�ความีร� �เฉพื้าะเร��อง บ!คคลัต�วอย,าง บ!คคลัที่��ผ��สูอนมีอบห้มีายให้�ผ��เร�ยนไปสู�มีภาษณ6เพื้��อเพื้��มีความีร� �แลัะประสูบการณ6 เป$นต�น
สู*าห้ร�บแห้ลั,งการเร�ยนร� �น� �นมี�ความีสู*าค�ญต,อผ��เร�ยนมีาก ซึ่��งผ��สูอนควรจ�ด้แห้ลั,งการเร�ยนร� �ให้�มีากพื้อแลัะน*า ผ�� เร�ยนไปเร�ยนร� �แลัะห้าประสูบการณ6ตรง ในปAจจ!บ�นแห้ลั,งเร�ยนร� �ที่��สู*าค�ญนอกเห้น�อจากห้�องสูมี!ด้ ที่�องถ��นห้ร�อช!มีชน ผ��ที่��มี�ความีร� �ความีเช��ยวชาญในสูาขั้าต,าง ๆ แลั�ว ย�งมี�แห้ลั,งขั้�อมี�ลัที่��ให้ญ,ที่��สู!ด้ค�อ การสู�บค�นขั้�อมี�ลัที่างอ�นเที่อร6เน1ต ซึ่��งเป$นแห้ลั,งรวบรวมีขั้�อมี�ลัที่��วโลัก แต,ขั้�อมี�ลัที่างอ�นเที่อร6เน1ตมี�ที่��งเช��อถ�อได้�แลัะขั้�อมี�ลัที่��ต�องน*ามีาตรวจสูอบความีถ�กต�อง ด้�งน��นคร�ผ��สูอนจ�งต�องเป$นผ��ที่��ให้�ค*าแนะน*าก�บผ��เร�ยน แลัะแนะน*าเว1บไซึ่ต6ที่��น,าเช��อถ�อได้�ให้�ก�บน�กเร�ยน
2.5 บ�นท#กหล่�งการสื่อนห้ลั�งจากที่��คร�ผ��สูอนได้�จ�ด้กระบวนการเร�ยนร� �ตามีแผนการจ�ด้การ
เร�ยนร� �แลั�ว คร�ผ��สูอนจะต�องมี�การบ�นที่�กห้ลั�งจากการใช�แผนการจ�ด้การเร�ยนร� �น� �น เพื้��อมีาสูร!ปผลัจากการใช�แผน โด้ยการบ�นที่�กผลัจากการใช� ปAญห้า อ!ปสูรรค แนวที่างการแก�ไขั้ เพื้��อประเมี�นการใช�แผนว,าแผนที่��ใช�ประสูบผลัสู*าเร1จ ผ��เร�ยนมี�ผลัสู�มีฤที่ธิ�9ที่างการเร�ยน มี�ค!ณลั�กษณะที่��พื้�งประสูงค6 ห้ร�อแผนที่��ใช�ย�งมี�ปAญห้าอ!ปสูรรคที่��ควรปร�บปร!งแก�ไขั้ จะได้�ห้าแนวที่างการปร�บปร!งแลัะน*า ไปสู�,การว�จ�ยในช��นเร�ยนเพื้�� อแก�ปAญห้าแลัะพื้�ฒนาผ��เร�ยนต,อไป
(31)
ว�ชั้าคณ์�ตศึาสื่ตร. ม.1 เล่'ม 1 เวล่าเร�ยน 77 ชั้��วโมง
หน'วยการเร�ยน
ร �แผนการจั�ดการเร�ยนร �
มฐ.
การเร�ยนร �รายชั้�!น
ป%
ว�ธิ์�สื่อน/กระบวนการจั�ดการเร�ยนร �
เวล่า(ชั้��วโมง)
1. สูมีบ�ต�ขั้อง จ*านวนน�บ
1. จ*านวนเฉพื้าะแลัะการแยกต�วประกอบ2. ต�วห้ารร,วมีมีากแลัะการน*าไปใช�3. ต�วค�ณร,วมีน�อยแลัะการน*าไปใช�4. ความีสู�มีพื้�นธิ6ระห้ว,างห้.ร.มี.แลัะค.ร.น.
ก�บจ*านวนน�บที่��งสูอง
ค 1.4.1
1. การเร�ยนแบบร,วมีมี�อ2. กระบวนการกลั!,มี3. กระบวนการแก�ปAญห้า4. กระบวนการค�ด้อย,างมี� ว�จารณญาณ5. กระบวนการคณ�ตศึาสูตร66. ว�ธิ�การสูอนแบบค�นพื้บ7. กระบวนการสูร�างความีค�ด้ รวบยอด้
17
2. ระบบ จ*านวนเต1มี
1. จ*านวนเต1มี2. การบวกจ*านวนเต1มี3. การลับจ*านวนเต1มี4. การค�ณจ*านวนเต1มี5. การห้ารจ*านวนเต1มี6. สูมีบ�ต�ขั้องจ*านวนเต1มี
ค 1.1.1
ค 1.2.1
1. ว�ธิ�สูอนแบบใช�การถามีตอบ2. ว�ธิ�สูอนแบบอ!ปน�ย3. ว�ธิ�สูอนแบบสูาธิ�ต4. กระบวนการกลั!,มี5. กระบวนการปฏิ�บ�ต�6. กระบวนการแก�ปAญห้า
26
(32)
7. กระบวนการสูร�างความีค�ด้ รวบยอด้
3. เลัขั้ยก ก*าลั�ง
1. ความีห้มีายขั้องเลัขั้ยกก*าลั�ง2. การค�ณเลัขั้ยกก*าลั�งที่��มี�เลัขั้ช��ก*าลั�งเป$น จ*านวนเต1มีบวก3. การห้ารเลัขั้ยกก*าลั�งที่��มี�เลัขั้ช��ก*าลั�งเป$น จ*านวนเต1มีบวก4. สู�ญกรณ6ว�ที่ยาศึาสูตร6
ค 1.1.2
1. กระบวนการสูร�างความีค�ด้ รวบยอด้แบบอ!ปมีาน2. กระบวนการกลั!,มีสู�มีพื้�นธิ63. การจ�ด้การเร�ยนร� �แบบร,วมีมี�อ
12
หน'วยการเร�ยน
ร �แผนการจั�ดการเร�ยนร �
มฐ.
การเร�ยนร �รายชั้�!น
ป%
ว�ธิ์�สื่อน/กระบวนการจั�ดการเร�ยนร �
เวล่า(ชั้��วโมง)
4. ความียาว
1. ห้น,วยการว�ด้ความียาว2. การเปลั��ยนห้น,วยการว�ด้ความียาวต,าง ระบบ
ค 2.1.1
1. การเร�ยนแบบร,วมีมี�อ2. กระบวนการกลั!,มี
5
5. พื้��นที่�� 1. ชน�ด้ขั้องร�ปสูามีเห้ลั��ยมีแลัะร�ปสู��เห้ลั��ยมี2. การห้าพื้��นที่��ขั้องร�ปสู��เห้ลั��ยมีมี!มีฉาก3. การห้าพื้��นที่��ขั้องร�ปสู��เห้ลั��ยมีด้�านขั้นาน
ค 2.2.1
1. การเร�ยนแบบร,วมีมี�อ2. กระบวนการกลั!,มี3. กระบวนการสูร�างความีค�ด้ รวบยอด้
5
(33)
4. การห้าพื้��นที่��ขั้องร�ปสูามีเห้ลั��ยมีแลัะ ร�ปห้ลัายเห้ลั��ยมีใด้ๆ5. การห้าพื้��นที่��ขั้องร�ปวงกลัมี
6. พื้��นฐาน ที่าง เรขั้าคณ�ต
1. สู,วนขั้องเสู�นตรง2. การสูร�างมี!มี3. การสูร�างเสู�นต��งฉาก4. การน*าการสูร�างพื้��นฐานไปสูร�าง ร�ปเรขั้าคณ�ตอย,างง,าย
ค 3.1.1
ค 3.1.2
1. ว�ธิ�สูอนแบบค�นพื้บ2. กระบวนการปฏิ�บ�ต�3. กระบวนการคณ�ตศึาสูตร64. กระบวนการค�ด้อย,างมี� ว�จารณญาณ5. กระบวนการสูร�างความีค�ด้ รวบยอด้6. การเร�ยนแบบร,วมีมี�อ
12
(34)