แผนการสอน...แผนการสอน รห สว ชา/ช อว ชา PNS 1122ช อว ชา การเจร ญเต บโตและพ...

แผนการสอน รหัสวิชา/ชื่อวิชา PNS 1122ชื่อวิชา การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ จ านวนหน่วยกิต 2 หน่วยกิต ( 2 – 0 – 4 ) เรื่อง มโนทัศน์ทางจิตวิทยาพัฒนาการ จ านวนชั่วโมง 2 ชั่วโมง นักศึกษาหลักสูตร พยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา ปีการศึกษา 2/2559 ผู้สอน อาจารย์วชิรพร โชติพานัส วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม

1. บอกแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการได้ 2. อธิบายความหมายของค าว่าการเจริญเติบโต พัฒนาการ วุฒิภาวะ และการเรียนรู้ได้ 3. อธิบายความส าคัญของการศึกษาพัฒนาการได้ 4. อธิบายวิธีการศึกษาพัฒนาการได้ 5. อธิบายหลักพัฒนาการของมนุษย์ได้ 6. อธิบายองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการได้ 7. อธิบายบทบาทพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการและการปรับตัวของมนุษย์ได้

การพัฒนาผลการเรียนรู้ตาม มคอ.3 1 มีความรู้ความเข้าใจในหลัก/ศาสนาและจรรยาบรรณวิชาชีพ ตลอดจนสิทธิมนุษยชน สิทธิเด็ก

สิทธิผู้บริโภค สิทธิผู้ปุวย ตลอดจนสิทธิของผู้ประกอบวิชาชัพการพยาบาลที่มีความสัมพันธ์ ต่อการปฏิบัติการพยาบาล (1.1) . 2 สามารถแยกแยะความถูกต้อง ความดีความชั่วได้ (1.2) 3 เคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ (1.3)

หัวข้อเรื่อง มโนทัศน์ทางจิตวิทยาพัฒนาการ

วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรมการเรียน

การสอน สื่อการสอน การประเมินผล

1. เพ่ือให้นักศึกษาบอกแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการได้

แนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการ การเจริญเติบโตเป็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายไปสู่วุฒิภาวะด้านปริมาณ ส่วนพัฒนาการด้านการเปลี่ยนแปลงไปสู่วุฒิภาวะด้านคุณภาพ

1. การศึกษาพัฒนาการของมนุษย์จะช่วยให้พยาบาลเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อ่ืน ยอมรับในความเป็นบุคคล และความแตกต่างระหว่างบุคคล

2. มนุษย์ทุกชาติ ทุกภาษา มีหลักพัฒนาการเป็นแบบฉบับเดียวกัน แต่อัตราพัฒนาการของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันอันเป็นผลเนื่องมาจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม

3. การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ได้รับอิทธิพลจากองค์ประกอบทั้งภายใน และ ภายนอกร่างกาย ซึ่งหมายถึงพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม

- บรรยาย - ตั้งค าถามให้นักศึกษาตอบค าถามเก่ียวกับแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการ

- Power point - เอกสารประกอบการสอนเรื่องมโนทัศน์ทางจิตวิทยาพัฒนาการ

- สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเกี่ยวกับแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการ

วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนการ

สอน สื่อการสอน การประเมินผล

2. เพ่ือให้นักศึกษาอธิบายความหมายของค าว่าการเจริญเติบโต พัฒนาการ วุฒิภาวะ และการเรียนรู้ได้

ความหมาย การเจริญเติบโต ( Growth)หมายถึง การเปลี่ยนแปลงในด้านการเพิ่มขนาดของร่างกาย หรือการเปลี่ยนแปลงด้านปริมาณ โดยการเพ่ิมจ านวนเซลล์และ/หรือขนาดของเซลล์ รวมทั้งสัดส่วนของร่างกาย ซึ่งสามารถสังเกต วัดและประเมินได้อย่างชัดเจน พัฒนาการ ( Development) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงของร่างกายด้านสมรรถภาพและหน้าที่ เป็นการเปลี่ยนแปลงด้านคุณภาพ ท าให้เกิดทักษะ ความสามารถใหม่ ๆ และการปรับตัวด้านต่าง ๆ อย่างมีแบบแผน และด าเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นขั้น ๆ วุฒิภาวะ ( Maturation) หมายถึง การบรรลุถึงข้ันการเจริญเติบโตเต็มที่ในระยะใดระยะหนึ่งตามข้ันของพัฒนาการ และมีความพร้อมที่จะท ากิจกรรมนั้นได้เหมาะสมกับวัย

- บรรยาย - ตั้งค าถามให้นักศึกษาตอบค าถามเกี่ยวกับความหมายของค าว่าการเจริญเติบโต พัฒนาการ วุฒิภาวะ และการเรียนรู้


- สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเกี่ยวกับความหมายของค าว่าการเจริญเติบโต พัฒนาการวุฒิภาวะ และการเรียนรู้

วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนการสอน สื่อการสอน การประเมินผล 3.เพ่ือให้นักศึกษาอธิบายความส าคัญของการศึกษาพัฒนาการได้

การเรียนรู้ ( Learning) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคลอย่างถาวร ซึ่งเป็นผลมาจากการได้รับประสบการณ์หรือจากการฝึกหัด ไม่ใช่เป็นผลมาจากการตอบสนองตามธรรมชาติ หรือสัญชาติญาณ หรือล าดับขั้นของการเจริญเติบโตตามพัฒนาการ ความส าคัญของการศึกษาพัฒนาการ

1. ท าให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับตนเองและผู้อ่ืน

2. ช่วยให้เกิดการยอมรับความเป็นปัจเจกบุคคลของแต่ละคน

3. ส าหรับผู้ให้การพยาบาลจะช่วยให้สามารถประเมินและคัดกรองการเจริญเติบโต และพัฒนาการที่ปกติ และผิดปกติของผู้รับบริการได้

- บรรยาย - ตั้งค าถามให้นักศึกษาตอบค าถามเก่ียวกับความส าคัญของการศึกษาพัฒนาการ


- สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเกี่ยวกับความส าคัญของการศึกษาพัฒนาการ

สัปดาห์ที ่

วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนการ

สอน สื่อการสอน การประเมินผล

1 4.เพ่ือให้นักศึกษาอธิบายวิธีการศึกษาพัฒนาการได้

วิธีการศึกษาพัฒนาการ 1. วิธีการศึกษาแบบภาคตัดขวาง (Cross

SectionalMethod) 2. วิธีการศึกษาแบบระยะยาว

(Longitudinal Method) เทคนิคต่าง ๆ ในการศึกษาพัฒนาการของมนุษย์ มีดังนี้

1. การสังเกต (Observation) 2. การใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) 3. การสัมภาษณ์ (Interview) 4. การศึกษาอัตตะชีวประวัติ

(Autobiography) 5. การทดลอง(Experimental

techniques) 6. การศึกษารายกรณี (Case study) 7. การทดสอบมาตรฐาน ( Standardized

testing)

- บรรยาย - ตั้งค าถามให้นักศึกษาตอบค าถามเก่ียวกับวิธีการศึกษาพัฒนาการ


- สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเกี่ยวกับวิธีการศึกษาพัฒนาการ


วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนการสอน

สื่อการสอน การประเมินผล

1 4.เพ่ือให้นักศึกษาอธิบายหลักพัฒนาการของมนุษย์ได ้

หลักพัฒนาการของมนุษย์ 1.พัฒนาการจะเป็นไปตามแบบฉบับ ขั้นตอนแน่นอนไม่มีการกระโดดหรือข้ามขั้น 2.พัฒนาการมนุษย์มีลักษณะเป็นระเบียบและมีทิศทางของการพัฒนาที่แน่นอน 3.พัฒนาการเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 4.พัฒนาการเริ่มจากการท าสิ่งง่าย ๆ ไปสู่ความซับซ้อนมากขึ้น 5.พัฒนาการของคุณลักษณะต่าง ๆ มักจะสัมพันธ์กัน 6.อัตราพัฒนาการของบุคคลแต่ละคนมีความแตกต่างกัน 7.อัตราของพัฒนาการส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจะแตกต่างกัน 8.พัฒนาการของเด็กอาจท านายได ้9.หลักแห่งวุฒิภาวะหรือความพร้อม

- บรรยาย - ตั้งค าถามให้นักศึกษาตอบค าถามเก่ียวกับหลักพัฒนาการของมนุษย์


- สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเกี่ยวกับหลักพัฒนาการของมนุษย์




1 4.เพ่ือให้นักศึกษาอธิบายองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการได้

องค์ประกอบท่ีมีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ

1. พันธุกรรม 1.1 ลักษณะทางกาย 1.2 ลักษณะทางสติปัญญา 1.3 โรคและความผิดปกติ

2. สิ่งแวดล้อม 2.1 สิ่งแวดล้อมระยะตั้งครรภ์ 2.2 สิ่งแวดล้อมระยะคลอด 2.3 สิ่งแวดล้อมระยะหลังคลอด

3. อิทธิพลร่วมกันระหว่างพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม

- บรรยาย - ตั้งค าถามให้นักศึกษาตอบค าถามเก่ียวกับอธิบายองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ


- สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเกี่ยวกับอธิบายองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ

บันทึกหลังสอน นักศึกษาให้ความสนใจต่อบทเรียน และวีดีทัศน์ นักศึกษาตอบค าถาม และร่วมแสดงความคิดเห็น




1 4.เพ่ือให้นักศึกษาอธิบายบทบาทพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการและการปรับตัวของมนุษย์ได้

บทบาทพยาบาลกับการส่งเสริมพัฒนาการและการปรับตัวของมนุษย์ 1.บทบาทในการดูแลผู้รับบริการให้ครอบคลุมทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ 2.บทบาทในด้านการส่งเสริม และการปูองกันเป็นส าคัญ 3.บทบาทของพยาบาล ในการส่งเสริมให้ผู้รับบริการมีพัฒนาการเป็นไปตามวัย 4.คัดกรองความผิดปกติของพัฒนาการของบุคคล และร่วมแก้ไขปัญหาอันเกิดจากพัฒนาการที่ไม่เหมาะสม

- บรรยาย - ตั้งค าถามให้นักศึกษาตอบค าถามเก่ียวกับบทบาทพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการและการปรับตัวของมนุษย์ - ให้นักศึกษาร่วมกันสรุปสาระส าคัญของเนื้อหาที่ได้เรียน - เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น และซักถามข้อสงสัย - ผู้สอนตอบค าถาม และสรุปสาระส าคัญอีกครั้ง - มอบหมายให้ท าแบบฝึกหัดทบทวน


- สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเก่ียวกับบทบาทพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการและการปรับตัวของมนุษย์ - สังเกตความสนใจ ความมีส่วนร่วมในการสรุปสาระส าคัญของเนื้อหา การแสดงความคิดเห็น และการซักถามข้อสงสัย

รายการอ้างอิง

กัลยา นาคเพ็ชร์ และคณะ. (2548). จิตวิทยาพัฒนาการส าหรับพยาบาล. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : ส านักพิมพ์สุภา จ ากัด. เติมศักดิ์ คทวณิช. (2546). จิตวิทยาทั่วไป.กรุงเทพมหานคร: บริษัท ส. เอเชียเพรส (1989) จ ากัด. ทิพย์ภา เชษฐ์เชาวลิต. (2541). จิตวิทยาพัฒนาการส าหรับพยาบาล. พิมพ์ครั้งที่ 6. สงขลา: ชานเมืองการพิมพ์. วิไลวรรณ ศรีสงคราม และคณะ. (2549). จิตวิทยาทั่วไป. กรุงเทพมหานคร: ทริปเพิ้ล เอ็ดดูเคชั่น. ศรีเรือน แก้วกังวาล. (2545). จิตวิทยาพัฒนาการชีวิตทุกช่วงวัย. พิมพ์ครั้งที ่8. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. สุชา จันทร์เอม. (2540).จิตวิทยาพัฒนาการ.พิมพ์ครั้งที ่4. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช จ ากัด. อรพรรณ ลือบุญธวัชชัย. (2541). การบริบาลทารกและเด็กก่อนวัยเรียน. กรุงเทพมหานคร: บริษัทบุ๊คเน็ท จ ากัด. Kail, R,V,& Cavanaugh, J. C. (2000). Human Development: A Lifespan View. 2nd ed. Belmonts, CA: Wadsworth/Thomson Learning. Sigelman, C.K. & Shaffer, D.R. (1994).Life-Span Human Development. 2nd ed. California: Brook/Cole Publishing Company. Vander Zanden, J.W. (1993). Human Development. 5nded. New York: McGrill-Hill, Inc.

แผนการสอน รหัสวิชา/ชื่อวิชา PNS 1122ชื่อวิชา การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ จ านวนหน่วยกิต 2 หน่วยกิต ( 2 – 0 – 4 ) เรื่อง จิตวิทยาพัฒนาการกับการพยาบาล จ านวนชั่วโมง 2 ชั่วโมง นักศึกษาหลักสูตร พยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา ปีการศึกษา 2/2559 ผู้สอน อาจารย์วชิรพร โชติพานัส วัตถุประสงค์ทั่วไป เพ่ือทราบและเข้าใจแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการบทบาทพยาบาล และวิธีการวางแผน

การพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการ วัตถุประสงค์ เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนนักศึกษาสามารถ

1. อธิบายแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการกับการพยาบาลได้ 2. บอกบทบาทของพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการได้ 3. บอกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินพัฒนาการ ได้ 4. บอกขั้นตอนและกระบวนการในการประเมินพัฒนาการ ได้ 5. อธิบายการใช้แบบทดสอบทางจิตวิทยาต่างๆและแบบประเมินพัฒนาการได้ 6. บอกวิธีการวางแผนการพยาบาลเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้

การพัฒนาผลการเรียนรู้ตาม มคอ.3

1. มีความรู้ความเข้าใจในหลัก/ศาสนาและจรรยาบรรณวิชาชีพ ตลอดจนสิทธิมนุษยชน สิทธิเด็ก สิทธิผู้บริโภค สิทธิผู้ปุวย ตลอดจนสิทธิของผู้ประกอบวิชาชัพการพยาบาลที่มีความสัมพันธ์ ต่อการปฏิบัติการพยาบาล (1.1)

. 2. สามารถแยกแยะความถูกต้อง ความดีความชั่วได้ (1.2) 3 เคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ (1.3)

หัวข้อเรื่อง จิตวิทยาพัฒนาการกับการพยาบาล



1.อธิบายแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการกับการพยาบาลได้

2.บอกบทบาทของพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการได้

แนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการกับการพยาบาล

1. การส่งเสริมพัฒนาการ การปูองกัน การแก้ไขปัญหาพัฒนาการตลอดจนการฟ้ืนฟูสภาพตามวัย

2. 2.การวางแผนการพยาบาลด้านพัฒนาการ

3. การส่งเสริมพัฒนาการเป็นหัวใจหลักของการพยาบาล ควรท าอย่างสม่ าเสมอและต่อเนื่อง

บทบาทของพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการ

-ให้การส่งเสริมพัฒนาการ การปูองกัน การดูแลรักษาและฟ้ืนฟูสภาพผู้ที่มีปัญหาพัฒนาการ

- ให้ความรู้ให้ค าปรึกษาแนะน า วีธีการการสังเกตพัฒนาการ กิจกรรมการกระตุ้นพัฒนาการแก่บิดามารดาหรือผู้เลี้ยงดูและชุมชน

ตั้งค าถามน าเข้าสู่เนื้อหา

-ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันอธิบายแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการกับการพยาบาล

-ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันบอกบทบาทของพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการ

-เอกสารประกอบการสอน

- Power point เรื่อง

จิตวิทยาพัฒนาการกับการพยาบาล

-สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเก่ียวกับ

แนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการกับการพยาบาลได้นักศึกษา 2-3 คน มีParticipate ดี ตั้งใจฟังจน

จบเรื่อง -สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3

คนเก่ียวกับบทบาทของพยาบาล ในการส่งเสริมพัฒนาการ



3.บอกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินพัฒนาการ ได้

- การประเมินพัฒนาการ - การวางแผนส่งเสริมพัฒนาการ - การจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการ

- การประเมินความเหมาะสมของกิจกรรมและประเมินความก้าวหน้าของพัฒนาการ

การรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินพัฒนาการประกอบด้วย

- ข้อมูลด้านร่างกาย - ด้านจิตสังคม - การประเมินพัฒนาการ

-ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันบอกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินพัฒนาการ

บทบาทของพยาบาล ในการส่งเสริมพัฒนาการ

และจากการที่นักศึกษาสนใจในการตั้งใจแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 คน

-สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเกี่ยวกับวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินพัฒนาการ นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 คน



4.บอกขั้นตอนและกระบวนการในการประเมินพัฒนาการ ได้

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลในการประเมินพัฒนาการเด็ก มี 2 วิธี คือ

1.การซักประวัติข้อมูลพัฒนาการเด็กจาก

บิดา-มารดา หรือผู้เลี้ยงดู

2.การสังเกตพัฒนาการและการแสดงออกของเด็กโดยตรงวิธีการประเมินจะขึ้นกับวัตถุประสงค์ของการประเมิน มี 2 ประการ

2.1.การประเมินพัฒนาการเพื่อการคัดกรอง

2.2.การประเมินพัฒนาการเพื่อการวินิจฉัย

-

-ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันบอกขั้นตอนและกระบวนการใน

การประเมินพัฒนาการ

สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเกี่ยวกับ ขั้นตอนและกระบวนการในการประเมินพัฒนาการ

นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

5-6 คน

วัต วัตถุประสงค์

เนื้อหา กิจกรรมการเรียนการสอน


6. บอกวิธีการวางแผนการพยาบาลเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้

(Projective tests)

3.แบบทดสอบความบกพร่องทางสมอง (organic test)

การปฏิบัติการพยาบาล

1.สร้างสัมพันธภาพกับเด็กและผู้เลี้ยงดูก่อนในระยะแรก เพื่อเด็กและผู้เลี้ยงดูเด็กให้ความร่วมมือ

2.ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย ทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ จิตใจ และสังคม

3.ให้ความรู้ในเรื่องการส่งเสริมพัฒนาการและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง

-

ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันบอกวิธีการวางแผนการพยาบาลเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการเด็ก

สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเก่ียวกับวิธีการวางแผนการพยาบาลเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการเด็ก นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 ค

วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนการสอน สื่อการสอน การประเมินผล

4 .เสริมพลังแรงจูงใจให้พ่อแม่ /ญาติมีก าลังใจ และ กระตุ้นมารดา/ผู้เลี้ยงดูให้เห็นความส าคัญในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กและฝึกปฏิบัติได้ถูกต้อง

สรุปการน าจิตวิทยาพัฒนาการไปใช้ในการพยาบาลพยาบาลมีบทบาทในการดูแลพัฒนาการของบุคคลทั้งในด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การปูองกัน การดูแลรักษาและฟ้ืนฟูสภาพผู้ที่มีปัญหาพัฒนาการ ดังนั้นพยาบาลจึงมีหน้าที่ให้ความรู้ให้ค าปรึกษาแนะน าแก่บิดามารดาหรือผู้เลี้ยงดูถึงวีการการสังเกตพัฒนาการ วิธีการส่งเสริมพัฒนาการในครอบครัวและชุมชน รวมทั้งการประเมินพัฒนาการและกิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการ พยาบาลต้องค านึงถึงการพยาบาลแบบองค์รวมและเหมาะสมกับสภาพของผู้รับบริการ ครอบครัว และชุมชน สิ่งที่พยาบาลวิชาชีพน ามาเป็นหลักในการปฏิบัติการพยาบาล คือ การน ากระบวนการพยาบาลมาใช้ในการบริการพยาบาล

-ตั้งค าถามให้นักศึกษาตอบ

และให้นักศึกษา ร่วมกันสรุปประเด็นต่างๆและครูช่วยเพ่ิมเติมปรเด็นที่ส าคัญ

สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนและการมีส่วนร่วมในการสรุปของนักศีกษา และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6

คน



สรุปประเมินผลการสอน

นกัศึกษามีความตั้งใจเรียนดี ตอบค าถามไดต้รงประเด็น และนักศึกษาบางคนได้ซักถามเนื้อหาเมื่อเกิดความสงสัย และช่วยกันสรุปเนื้อเรื่องได้ตรงประเด็น นักศึกษาได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันในชั้นเรียนได้ดี

บันทึกหลังสอน นักศึกษาให้ความสนใจต่อบทเรียน และวีดีทัศน์ นักศึกษาตอบค าถาม และร่วมแสดงความคิดเห็น เอกสารอ้างอิง

กัลยา นาคเพ็ชร์, จุไร อภัยจิรรรัตน์ และ สมพิศใยสุ่น.( 2557 ).จิตวิทยาพัฒนาการส าหรับพยาบาล. พิมพ์ครัง้ท่ี 2 . กรุงเทพฯ.วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย. บุญส่ง นิลแก้ว. (2519). การวัดผลทางจิตวิทยา. กรุงเทพมหานคร : แพร่พิทยา.

แผนการสอน

รหัสวิชา/ชื่อวิชา PNS 1122ชื่อวิชา การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ จ านวนหน่วยกิต 2 หน่วยกิต ( 2 – 0 – 4 ) เรื่อง พัฒนาการของมนุษย์ จ านวนชั่วโมง 2 ชั่วโมง นักศึกษาหลักสูตร พยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา ปีการศึกษา 2/2559 ผู้สอน อาจารย์วชิรพร โชติพานัส วัตถุประสงค์ทั่วไป เพ่ือทราบและเข้าใจแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการบทบาทพยาบาล และวิธีการวางแผน

การพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการ วัตถุประสงค์ เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนนักศึกษาสามารถ

1. อธิบายแนวคิดหลักของพัฒนาการของมนุษย์ได้ 2. อธิบายพัฒนาการระยะภายในครรภ์ได้ 3. อธิบายภาวะจิตสังคมของมารดาขณะตั้งครรภ์ 3 ไตรมาสได ้4. อธิบายการการส่งเสริมภาวะจิตสังคมของมารดา

ขณะตั้งครรภ์ 3 ไตรมาสที่ส่งผลพัฒนาการระยะภายในครรภ์ได้

การพัฒนาผลการเรยีนรูต้าม มคอ.3 1 มีความรู้ความเข้าใจในหลัก/ศาสนาและจรรยาบรรณวิชาชีพ ตลอดจนสิทธิมนุษยชน สิทธิเด็ก

สิทธิผูบ้รโิภค สิทธิผูป้วุย ตลอดจนสิทธิของผู้ประกอบวิชาชัพการพยาบาลทีมี่ความสัมพันธ ์ ต่อการปฏิบัติการพยาบาล (1.1) . 2 สามารถแยกแยะความถูกต้อง ความดีความชั่วได้ (1.2) 3 เคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ (1.3)

หัวข้อ เรื่อง พัฒนาการของมนุษย์


1.อธิบายแนวคิดหลักของพัฒนาการของมนุษย์ได้

ความหมายพัฒนาการ คือ การเพ่ิมข้ึนของความสามารถหรือการท าหน้าที่ของบุคคล (Ball,&

Bindler,20008 )ท าให้มีความสามารถใหม่ๆ เกิดข้ึนทุกๆด้าน ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม

พัฒนาการของมนุษย์ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ - พัฒนาการระยะภายในครรภ์ -พัฒนาการระยะภายนอกครรภ์พัฒนาการเด็กแบ่งออกเป็น

1. พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

1.1 การใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ 1.2 การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก


-ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันอธิบายแนวคิดของพัฒนาการของมนุษย์ -ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันบอกแนวคิดหลัของพัฒนาการของมนุษย์

-เอกสารประกอบการสอน - Power point เรื่อง พัฒนาการของมนุษย์

-สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเก่ียวกับแนวคิดหลักของพัฒนาการของมนุษย์ได้ ( นักศึกษา2-3 คนมีParticipateดี ตั้งใจฟังจนจบเรื่อง ) -สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเก่ียวกับแนวคิดหลักของพัฒนาการของมนุษย์ได้


2.อธิบายพัฒนาการระยะภายในครรภ์

3.อธิบายภาวะจิตสังคมของมารดาขณะตั้งครรภ์ 3

ไตรมาสได้

2.พัฒนาการด้านการช่วยเหลือตนเองและสังคม

3.พัฒนาการด้านสติปัญญาและจริยธรรม

4.พัฒนาการด้านภาษา( Language development ) เริ่มจากการปฏิสนธิ ( Fertilization ) ระหว่างไข่ ( Ovum) หญิง ผสมกับอสุจิ ( Sperm ) ชาย มีการเจริญเติบโต เป็น 3 ระยะ

-ระยะที่ 1ไซโกต( Zygote )ฝังตัวในผนังมดลูก 2 สัปดาห์-ระยะที่ 2 ตัวอ่อน ( Embryo ) 8สัปดาห์ ระบุเพศไม่ได้ ระยะที่ 3 ทารกในครรภ์ ( Fetus )สัปดาห์ที่ 9 – คลอด

ระยะสามเดือนแรก ( Trimester1;สัปดาห์ที ่1-13 ) เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่ไม่คล่องตัวเหมือนก่อน รวมกับอาการแพ้ท้อง ระยะนี้อารมณ์ของคุณแม่ท่ีตั้งครรภ์จึงเปลี่ยนแปลงได้ง่ายมาก หงุดหงิด โมโหง่าย ใจน้อย เกิดความสับสนในจิตใจ บางคนก็ไม่แน่ใจว่าอยากมีลูกอารมณ์แปรปรวนมากขึ้น

ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันบอกพัฒนาการระยะภายในครรภ์ได้ 3 ระยะ จนคลอด

ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันบอกภาวะจิตสังคมของมารดาขณะตั้งครรภ์ 3 ไตรมาส

-

สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเก่ียวกับพัฒนาการระยะภายในครรภ์ 3 ระยะ จนคลอด -นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 คน

สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเก่ียวกับภาวะจิตสังคมของมารดาขณะตั้งครรภ์ 3 ไตรมาส -นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 คน


4.อธิบายการส่งเสริมภาวะจิตสังคมของมารดา

ขณะตั้งครรภ์ 3 ไตรมาสที่ส่งผลพัฒนาการระยะภายในครรภ์ได้

ระยะสามเดือนที่สอง (Trimester2;สัปดาห์ท่ี 14-27 ) ช่วงนี้อารมณ์ของคุณแม่จะคงท่ีมากขึ้น ตัวเองก็ปรับตัวได้ดีขึ้น มีความรู้สึกที่ดีต่อการตั้งครรภ์ เริ่มคิดแล้วว่าลูกจะเป็นอย่างไร หน้าตาเป็นอย่างไร จะเป็นลูกสาวหรือลูกชาย ระยะสามเดือนสุดท้าย ( Trimester 3;

สัปดาห์ที ่ 28 – กระทั่งคลอด) ใกล้คลอด กลัวการเจ็บท้อง กลัวการคลอดยาก คลอดล าบาก กลัวตกเลือด ปัญหาในการคลอดอ่ืน - บางคนอาจมีโรคแทรกซ้อน เช่นบวมหรือความดันโลหิตสูง

การส่งเสริมสริมการส่งเสริมสริมภาวะจิตสังคมของมารดา ขณะตั้งครรภ์3 ไตรมาสที่ส่งผลพัฒนาการระยะภายในครรภ์ 1. ตัวคุณแม่เอง

2. บรรยากาศในครอบครัว

ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันบอกการส่งเสริมภาวะจิตสังคมของมารดาขณะตั้งครรภ์ 3 ไตรมาสที่ส่งผลพัฒนาการระยะภายในครรภ์

-

สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเกี่ยวกับ การส่งเสริมภาวะจิตสังคมของมารดาขณะตั้งครรภ์ 3

ไตรมาส


4

สรุป

ผู้หญิงท่ีตั้งครรภ์ต้องมีความวิตกกังวล สาเหตุนั้นมีหลายประการ ดังนี้1

1 วิตกกังวลในเรื่องของตัวเอง

2 วิตกกังวลเรื่องลูกในครรภ์ 3 วิตกกังวลเรื่องการคลอด 4 วิตกกังวลเรื่องการเลี้ยงดูลูก 5 วิตกกังวลเรื่องสามี 6 วิตกกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจของครอบครัว



-ตั้งค าถามให้นักศึกษาตอบ และให้นักศึกษา ร่วมกันสรุปประเด็นต่างๆและครูช่วยเพ่ิมเติมปรเด็นที่ส าคัญ

ที่ส่งผลพัฒนาการระยะภายในครรภ์ -นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 คน

สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนและการมีส่วนร่วมในการสรุปของนักศีกษา และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 คน


เอกสารอ้างอิง

กัลยา นาคเพ็ชร์, จุไร อภัยจิรรรัตน์ และ สมพิศใยสุ่น.(2557).จิตวิทยาพัฒนาการส าหรับพยาบาล. พิมพ์ครั้ง ที่ 2. กรุงเทพฯ.วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย. ทิศนา แขมณี และ คณะ. (2557). หลักการและรูปแบบการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย. กรุงเทพ ฯ : ส านักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

แผนการสอน รหัสวิชา/ชื่อวิชา PNS 1122ชื่อวิชา การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ จ านวนหน่วยกิต 2 หน่วยกิต ( 2 – 0 – 4 ) เรื่อง เรื่อง พัฒนาการวัยทารก(Infancy) และการส่งเสริพัฒนาการวัยทารก จ านวนชั่วโมง 2 ชั่วโมง นักศึกษาหลักสูตร พยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา ปีการศึกษา 2/2559 ผู้สอน อาจารย์วชิรพร โชติพานัส วัตถุประสงค์ทั่วไป เพ่ือทราบและเข้าใจแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการบทบาทพยาบาล และวิธีการวางแผน การพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการ วัตถุประสงค์การเรียนรู้ เมื่อสิ้นสุดการศึกษาวิชานี้แล้ว นักศึกษามีความรู้ความสามารถดังนี้

1. อธิบายลักษณะและปฏิกิริยาต่างๆของวัยทารกได้ 2. อธิบายพัฒนาการ 4 ด้านต่างๆ ของวัยทารกได้ 3. อธิบายหลักในการส่งเสริมพัฒนาการวัยทารกได้ 4. อธิบายกิจกรรมการกระตุ้นพัฒนาการวัยทารกได้ การพัฒนาผลการเรียนรู้ตามมคอ.3

1 สามารถแยกแยะความถูกต้อง ความดีความชั่วได้ (1.2) 2 มีความรู้ความเข้าใจในสาระของกระบวนการพยาบาลและการน าไปใช้ (2.3)

หัวข้อ เรื่อง พัฒนาการวัยทารก(Infancy) และการส่งเสริพัฒนาการวัยทารก


1.อธิบายลักษณะและปฏิกิริยาต่างๆของวัยทารกได้

ขั้นจิตสังคม (อิริคอิริคสัน) วัยทารกอยู่ในช่วงความรู้สึกเชื่อถือไว้วางใจและความรู้สึกไม่เชื่อถือไว้วางใจ ขั้นจิตเพศ (ซิกมันด์ฟรอยด)์ ทารกอยู่ในขั้นความสุขความพอใจทางปากการดูดการกัด

ขั้นความคิดความเข้าใจ (จีน เพียเจท์) วัยทารกอยู่ในขั้นการรับความรู้สึกทางอวัยวะเคลื่อนไหว แรกเกิดถึง 1 เดือน ใช้ปฏิกิริยาสะท้อน และเมื่ออายุ 1-4 เดือน เริ่มการกระท าโดยเจตนา พัฒนาการด้านร่างกายการเคลื่อนไหวพลิกศีรษะไปมาได้เมื่อจับนอนคว่ าจะหันศีรษะไปทางข้างใดข้างหนึ่งไม่ตั้งตรง ถ้าจับนอนหงาย ดึงมือเด็กข้ึน ศีรษะจะตกห้อยไปทางด้านความรู้สึกพิเศษการสัมผัสวัยทารก สามารถรับรู้ด้านการสัมผัสมากที่สุด โดยความรู้สึกสัมผัสได้ทุกส่วน แม้แต่บนใบหน้า


-ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันอธิบายลักษณะและปฏิกิริยาต่างๆของวัยทารก

-เอกสารประกอบการสอน


พัฒนาการวัยทารก(Infancy) และการส่งเสริมพัฒนาการ

วัยทารก

-สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเกี่ยวกับลักษณะและปฏิกิริยาต่างๆของวัยทารกได้

นักศึกษา 2-3 คน มีParticipate ดี ตั้งใจฟังจนจบเรื่อง


2.อธิบายพัฒนาการ 4 ด้านต่างๆ ของวัยทารกได้

และไวต่อความรู้สึกอย่างมาก บริเวณปาก มือ ฝุาเท้าการเห็นทารกเม่ืออายุ 1 สัปดาห์แรก จะเพ่งมองวัตถุที่ใกล้ประมาณ 9 นิ้ว และระยะจากลูกถึงหน้าแม่ในขณะที่ให้นม (kalvger, 1979) การได้ยินทารกตอบสนองต่อความดังของเสียงได้ในระยะ 3-7 วัน การรับรสของเด็กตั้งแต่แรกเกิด พัฒนามากกว่าการเห็นหรือการได้ยิน ซึ่งส่งผลมาจากการได้กลิ่น และสามารถจ าแนกความแตกต่างระหว่างรสได้ กลิ่นพัฒนาตั้งแต่แรกเกิดโดย เด็กได้กลิ่นน้ านมที่ไหลจะพยายามหันหน้าเข้าหาหัวนมแม่ พัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กแรกเกิด - 1 ปี -พัฒนาการด้านร่างกาย -พัฒนาการด้านพฤติกรรมสังคมและการเล่น -พัฒนาการทางอารมณ ์พัฒนาการทางปัญญา

ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกัน

อธิบายพัฒนาการ 4 ด้านต่างๆ ของวัยทารก




-สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเก่ียวกับ

พัฒนาการ 4 ด้านต่างๆ ของวัยทารกได้ นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6


3. อธิบายหลักในการส่งเสริมพัฒนาการวัยทารกได้

4. อธิบายกิจกรรมการกระตุ้พัฒนาการวัยทารกได้

การส่งเสริมพัฒนาการวัยทารก 1.ด้านร่างกาย

กล้ามเนื้อมัดเล็ก

การส่งเสริมความสัมพันธ์ของประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว

ควรระวังอันตรายจากของเล่น

2.ด้านอารมณ์ 3.ด้านสังคม

4.ด้านสติปัญญา

กิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการ -กระตุ้นพัฒนาการทางร่างกาย

-กระตุ้นพัฒนาการการเรียนรู้และจิตใจ

- กระตุ้นพัฒนาการการพูดและการฟัง

-กระตุ้นพัฒนาการการเรียนรู้และการแก้ปัญหา


อธิบายหลักในการส่งเสริมพัฒนาการวัยทารก


อธิบายกิจกรรมการกระตุ้นพัฒนาการวัยทารก




- Power point เรื่องพัฒนาการวัยทารก(Infancy) และการส่งเสริมพัฒนาการวัยทารก

-สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเก่ียวกับหลักในการส่งเสริมพัฒนาการวัยทารกได้

นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 คน

-สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเก่ียวกับกิจกรรมการกระตุ้นพัฒนาการวัยทารกได้นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 คน


ช่วงอายุ 0-6 เดือน ส่งเสริมการใช้กล้ามเนื้อศีรษะ การบังคับกล้ามเนื้อและคอ ซึ่งนอกจากจะส่งเสริมการบังคับกล้ามเนื้อคอแล้วยังส่งเสริมการประสานสัมพันธ์ระหว่างตาและมือรวมทั้งช่วยในการฝึกฟังเสียงด้วย

ช่วงอายุ 6-12 เดือน ส่งเสริมการใช้กล้ามเนื้อคอ กล้ามเนื้อหลัง และขา เช่น จับให้นั่งในช่วงอายุ 6 เดือน ช่วงอายุ 9-12 เดือน ทารกจะเริ่มทรงตัวยืนได้ ควรส่งเสริมโดยจัดให้มีที่ส าหรับให้ทารกเกาะและเหนี่ยวตัวยืนขึ้น หรือจับมือทารกแล้วดึงให้ยืนขึ้น เมื่อทารกทรงตัวยืนได้ดีแล้วอาจกระตุ้นให้เดิน

ช่วงอายุ 1-2 ปี ส่งเสริมให้ทารกมีการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ให้ได้ออกก าลัง วิ่ง ปีน ปุาย เล่นของเล่นประเภทลาก จูง เข็นซึ่งมีเสียงด้วย เครื่องเล่นกลางแจ้งส าหรับคลาน


สรุป

ส่งเสริมให้ทารกมีการเจริญเติบโตสมวัย มีอัตราการเพ่ิมของน้้าหนัก และส่วนสูงตามอัตราการเพ่ิมโดยเฉลี่ยของเด็กปกติ โดยดูแลให้ได้ดื่มนมมารดาเป็นหลักในขวบปีแรกและได้รับอาหารเสริมที่เหมาะสมหลังอายุ 3 เดือนไปแล้ว รวมทั้งให้ได้พักผ่อนและออกก้าลังกายอย่างเพียงพอ โดยส่งเสริมพัฒนาการให้สมวัยด้วยกิจกรรมการกระตุ้นพัฒนาการอย่างเหมาะสม

สรุปประเมินผลการสอน นกัศึกษามีความตั้งใจเรียนดี ตอบค้าถามได้ตรงประเด็น และนักศึกษาบางคนได้ซักถามเนื้อหาเมื่อเกิดความสงสัย และช่วยกันสรุปเนื้อเรื่องได้ตรงประเด็น นักศึกษาได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันในชั้นเรียนได้ดี

-ตั้งค้าถามให้นักศึกษาตอบ

และให้นักศึกษา ร่วมกันสรุปประเด็นต่างๆและครูช่วยเพ่ิมเติมปรเด็นที่ส้าคัญ

สังเกตความตั้งใจและการตอบค้าถามได้ถูกต้อง 2-3คนและการมีส่วนร่วมในการสรุปของนักศีกษา และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 คน



กัลยา นาคเพ็ชร์, จุไร อภัยจิรรรัตน์ และสมพิศใยสุ่น.( 2557 ).จิตวิทยาพัฒนาการส าหรับพยาบาล.พิมพ์ครั้งที่ 2.กรุงเทพฯ.วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย

จันทรนีวัทธ์ เกษมสันต์ล,ม.ร.ว.และบุญชอบ พงษ์พานิช. ( 2556).กุมารเวชศาสตร์ เล่ม 1. กรุงเทพฯ; โครงการต าราศิริราช.

แผนการสอน รหัสวิชา/ชื่อวิชา PNS 1122ชื่อวิชา การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ จ านวนหน่วยกิต 2 หน่วยกิต ( 2 – 0 – 4 ) เรื่อง พัฒนาการวัยเด็กตอนต้น และการส่งเสริมพัฒนาการ จ านวนชั่วโมง 2 ชั่วโมง นักศึกษาหลักสูตร พยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา ปีการศึกษา 2/2559 ผู้สอน อาจารย์วชิรพร โชติพานัส วัตถุประสงค์ทั่วไป เพ่ือทราบและเข้าใจแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการบทบาทพยาบาล และวิธีการวางแผน การพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการ วัตถุประสงค์การเรียนรู้ เมื่อสิ้นสุดการศึกษาวิชานี้แล้ว นักศึกษามีความรู้ความสามารถดังนี้ 1 อธิบายลักษณะพัฒนาการด้านต่างๆ ของวัยเด็กตอนต้นได้ 2 บอกพัฒนาการของวัยเด็กตอนต้น 4ด้านได้ 3 บอกหลักการส่งเสริมพัฒนาการและวิธีการกระตุ้นพัฒนาการในวัยเด็กตอนต้นได้ การพัฒนาผลการเรียนรู้ตามมคอ.3

1 สามารถแยกแยะความถูกต้อง ความดีความชั่วได้ (1.2) 2 มีความรู้ความเข้าใจในสาระของกระบวนการพยาบาลและการน าไปใช้ (2.3)

หัวข้อ เรื่องพัฒนาการวัยเด็กตอนต้น และการส่งเสริมพัฒนาการ



1.อธิบายลักษณะพัฒนาการด้านต่างๆ ของวัยเด็กวัยก่อนเรียนได้

ขั้นจิตสังคม พื้นฐานจิตสังคมของเด็กวัยก่อนเรียนคือ ความรู้สึกริเริ่มสร้างสรรค์กับความรู้สึกผิดเมื่อเด็กเริ่มรู้ตัวเองเป็นบุคคลหนึ่ง ที่มีสิทธิเป็นของตัวเอง

ขั้นจิตเพศ เด็กวัยนี้อยู่ในขั้นอวัยวะเพศ รู้ว่าเพศมีเอกลักษณ์เฉพาะ ผู้หญิง ผู้ชาย เด็กรักพ่อแม่เพศตรงข้าม เด็กผู้หญิงจะรักพ่อ เด็กผู้ชายจะรักแม่

ขั้นความรู้ปัญญา เด็ก 3-4 ปี อยู่ในระยะ ความคิด คิดล่วงหน้า 4-5 ขวบ อยู่ในช่วงความคิดในการหยั่งรู้ฟันเด็กอายุ 2-3 ปี ฟันน้ านมเริ่มหลุด ฟันแท้ข้ึนมาแทนที่ อาจเริ่มขึ้นเมื่อ 5 ขวบและ เมื่ออายุ 3 ปี เด็กจะเป็นคนช่างปฏิเสธน้อยลงเข้าใจค าพูดดีขึ้น สามารถให้เหตุผล ค าอธิบายง่าย ๆ เด็กสนใจในกิจกรรมใหม่ ๆ เดินขึ้นบันไดตามล าพังสลับเท้า ลงบันได กระโดด เช่น โดยกระโดด 2 เท้า


-ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันอธิบายลักษณะพัฒนาการด้านต่างๆ ของวัยเด็กก่อนเรียน

-เอกสารประกอบการสอน - Power point เรื่อง พัฒนาการวัยเด็กก่อนเรียนและการส่งเสริมพัฒนาการวัยเด็กก่อนเรียน

สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเก่ียวกับลักษณะและพัฒนาการด้านต่างๆ ของวัยเด็กตอนต้นได้



2.บอกพัฒนาการของวัยเด็กก่อนเรียน4ด้านได้ 3.บอกหลักการส่งเสริมพัฒนาการและวิธีการกระตุ้นพัฒนาการในวัยเด็กก่อนเรียนได้

พัฒนาการของวัยเด็กก่อนเรียน4ด้าน -พัฒนาการด้านร่างกาย -พัฒนาการ ด้านภาษา -พัฒนาการด้านอารมณ์ -พัฒนาการด้านสังคม / การช่วยเหลือตัวเอง -การเล่น -พัฒนาการด้านปัญญา การส่งเสริมพัฒนาการ อายุ 3-5ปี ของเล่นไม้บล็อกรูปทรงต่าง ๆ กันของเล่นที่เลียนแบบของจริง กิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการ ด้านทางร่างกาย แบ่งเป็น 2 ประเภท 1.กระตุ้นพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ 2. กระตุ้นพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก ด้านสังคมและการช่วยเหลือตนเอง

ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกัน อธิบายพัฒนาการ 4 ด้านต่างๆ ของวัยเด็กก่อนเรียน4ด้านได้ ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกัน อธิบายหลักในการส่งเสริมพัฒนาการและวิธีการกระตุ้นพัฒนาการในวัยเด็กก่อนเรียน

-สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเก่ียวกับพัฒนาการ 4 ด้านต่างๆ ของเด็กก่อนเรียนด้ นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 คน สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเก่ียวกับหลักในการส่งเสริมพัฒนาการและวิธีการกระตุ้นพัฒนาการในวัยเด็กก่อนเรียนได้ นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยความคิดเห็นกัน 5-6 คน


2. กระตุ้นพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก (ต่อ ) ด้านจริยธรรม ด้านสติปัญญาและภาษา ตระหนักในตนเอง

ส่งเสริมจินตนาการและการเลียนแบบ

ให้เรียนรู้เรื่องเวลา

ตั้งค าถามให้เด็กคิดหรือเปรียบเทียบ

สรุป

เด็กวัยนี้ การกระท าของเด็กอยู่ในโลกของจินตนาการเท่า ๆ กับอยู่ในโลกของความจริง

ขั้นจิตสังคม พื้นฐานจิตสังคมของเด็กวัยก่อนเรียนคือ ความรู้สึกริเริ่มสร้างสรรค์กับความรู้สึก



ตั้งค าถามให้นักศึกษาตอบ

และให้นักศึกษา ร่วมกันสรุปประเด็นต่างๆและครูช่วยเพิ่มเติมประเด็นที่ส าคัญ




กัลยา นาคเพ็ชร์, จุไร อภัยจิรรัตน์ และ สมพิศ ใยสุ่น.( 2557).จิตวิทยาพัฒนาการส าหรับพยาบาล. พิมพ์ครัง้ ท่ี 2 . กรุงเทพฯ.วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย. ยุวดี พงษ์สาระนันทกุล. ( 2558 ) .การเจริญเติบโตและพัฒนาการ. ใน บุญเพียร จันทวัฒนา,

ฟองค า ตลิกสกุลชัย ,ปัญจางค์ สุขเจริญ, วิไล ธรรมเทว,ี ศรีสมบูรณ์ มุสิกสุคนธ์ ( บรรณาธิการ ), ต าราการพยาบาลเด็ก เล่ม 1; คณาจารย์

แผนการสอน

รหัสวิชา/ชื่อวิชา PNS 1122ชื่อวิชา การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ จ านวนหน่วยกิต 2 หน่วยกิต ( 2 – 0 – 4 ) เรื่อง พัฒนาการเด็กวัยเรียนและการส่งเสริมพัฒนาการ จ านวนชั่วโมง 2 ชั่วโมง นักศึกษาหลักสูตร พยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา ปีการศึกษา 2/2559 ผู้สอน อาจารย์วชิรพร โชติพานัส วัตถุประสงค์ทั่วไป เพ่ือทราบและเข้าใจแนวคิดหลักจิตวิทยาพัฒนาการบทบาทพยาบาล และวิธีการวางแผน การพยาบาลในการส่งเสริมพัฒนาการ วัตถุประสงค์การเรียนรู้ เมื่อสิ้นสุดการศึกษาวิชานี้แล้ว นักศึกษามีความรู้ความสามารถดังนี้ 1. อธิบายพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กวัยเรียนได้ 2. บอกการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัยเรียนได้ 3. สามารถให้ค าแนะน าในการส่งเสริมพัฒนาการของวัยเรียนได้ การพัฒนาผลการเรียนรู้ตามมคอ.3

1. สามารถแยกแยะความถูกต้อง ความดีความชั่วได้ (1.2) 2. มีความรู้ความเข้าใจในสาระของกระบวนการพยาบาลและการน าไปใช้ (2.3)

7

\หัวข้อ)เรื่อง พัฒนาการเด็กวัยเรียนและการส่งเสริมพัฒนาการ


1.อธิบายพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กวัยเรียนได้

อายุ 6ปี พัฒนาการด้านร่างกาย การ เคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายคล่องแคล่วมาก พัฒนาการด้านสติปัญญา สนใจในเรื่องร่างกายมนุษย์ รูปร่าง เพศ เสื้อผ้าโรงเรียน ศาสนา มักถามเรื่องการแต่งงาน การเกิด การตั้งครรภ์ เรื่องเพศ พัฒนาการด้านอารมณ์ ขาดความม่ันคงในการที่ต้องออกจากบ้านไปโรงเรียน หวนกลับไปสู่พฤติกรรมเดิม กลัว โกรธ กังวลใจ กลุ้มใจ อาย ริษยา อิจฉา รัก ร่าเริง พัฒนาการ ด้านสังคม/การเล่น การท ากิจกรรมต่าง ๆ เพื่อต้องการเข้ากลุ่ม มักทะเลาะกับเพื่อน


-ตั้งค าถามให้นักศึกษา ช่วยกันอธิบายพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กวัยเรียน

-เอกสารประกอบการสอน - Power point เรื่อง พัฒนาการเด็กวัยเรียน และการส่งเสริมพัฒนาการของวัยเด็กกวัยเรียนได้

-สังเกตความสนใจในการตอบค าถามเก่ียวกับพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กวัยเรียนได้




อายุ 7 ปี

พัฒนาการด้านร่างกาย ชอบเดินทรงตัวบนรั้วมากกว่าจะเดินบนทางเดินธรรมดา ทักษะในการใช้เท้าเตะส าคัญ พัฒนาการด้านอารมณ์ เลิกกลัวสิ่งท่ีไม่มีตัวตนกังวลว่าคนจะไม่ชอบ อะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเรื่องที่กังวลคือ โรงเรียน คนครอบครัว พัฒนาการด้านสังคม เป็นสมาชิกในครอบครัวที่ร่วมมือดี โกรธต่อค าส่งของแม่เป็นบางครั้ง ด้านการเล่น ชอบเล่นออกก าลังเป็นหมู่คณะฝึกสมองและไหวพริบ เล่นกีฬาที่คล่องว่องไว เด็กอายุ 7 ปี ชอบเล่นตามล าพังเริ่มแยกความสนใจระหว่างเพศ พัฒนาการด้านความเข้าใจความคิดสติปัญญา การคิดหาเหตุผลขั้นต้นเกี่ยวกับขนาด ระยะน้ าหนัก ปริมาตร จ านวน เวลา


อายุ 8 ปี พัฒนาการด้านร่างกาย การเคลื่อนไหว มือใหญ่โตขึ้น แขนยาวขึ้นเมื่อเทียบกับสัดส่วนของร่างกาย การเคลื่อนไหวมีความนุ่มนวล เรียบร้อยกว่าเดิม พัฒนาการด้านอารมณ์ กลัวการต่อสู้ กลัวสอบตก กลัวคนอื่นเห็นว่าตัวเองท าผิด พัฒนาการด้านสังคมวัยนี้ไม่ชอบอยู่ตามล าพัง ต้องการพื่อน ชอบรวมกลุ่ม เมื่อมีวูฒิภาวะเพิ่มขึ้น ร่วมการเล่นท่ีกฏเกณฑ์กับกลุ่ม

อายุ 9 ปี พัฒนาการด้านร่างกาย ตาและมือประสานงานกันดี เช่น สนเข็มได้ ท าการฝึมือได ้พัฒนาการด้านอารมณ ์ ความอยากรู้อยากเห็น กังวลมักเป็นเรื่องเรียน กลัวไปไม่ทันโรงเรียน กลัวสอบตก อิจฉาเพื่อนที่เก่งกว่า อิจฉาน้อง ด้านการเล่น การเคลื่อนไหวแสดงความสนใจกีฬาท่ีมีการแข่งขัน เช่น เบสบอล


อายุ 10 ปี

พัฒนาการด้านร่างกาย การเคลื่อนไหว และการใช้กล้ามเนื้อเล็กขั้นพ้ืนฐานสมบูรณ์ความแตกต่างระหว่างเพศเห็นได้ชัด พัฒนาการด้านภาษา เขียนได้เร็วและนานขึ้น เขียนจดหมายสั้น ๆ นับได้เกิน 100 ด้วยความเข้าใจ คิดเศษส่วนง่าย ๆ ได้ ด้าน การเล่น การเล่นในวัยนี้มีกฎเกณฑ์ เด็กหญิงร่วมกิจกรรมกับเด็กชายได้ดี ชอบนิยายลึกลับ เรื่องวิทยาศาสตร์ที่ประดิษฐ์ขึ้น พัฒนาการด้านสังคม เด็กรู้ว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นแตกต่างกัน แม้ผู้ใหญ่ที่ตนรัก ชอบ ก็มีมาตรฐานในเรื่องการถูก ผิด ดี ไม่ดี แตกต่างกัน พัฒนาการด้านสมอง สติปัญญาเด็กหญิงมีวุฒิภาวะและมีสติปัญญามากกว่าเด็กชาย ในแง่ของเหตุและผล



อายุ 10-12 ปี

พัฒนาการด้านร่างกาย ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อดี ทักษะ ในการท าสิ่งต่าง ๆ เทียบเท่าผู้ใหญ่ เด็กหญิงมักสูงกว่าเด็กชาย รู้จักควบคุมพฤติกรรม เมื่อเครียดจะระบายออกด้วยการกระแทกเท้ากับพ้ืน ใช้นิ้วเคาะพัฒนาการด้านสังคม อายุระหว่าง 12-13 ปี เด็กชายไม่ค่อยใกล้ชิดพ่อ เด็กเหญิงใกล้ชิดกว่า พัฒนาการด้านอารมณ ์ มีอิสระในการเลือกเพื่อน ซึ่งมีความสนใจคล้ายกัน

ด้านการเล่น วัยนี้นิยมเล่นเป็นทีม ชอบเล่นกับเพื่อนเพศเดียวกัน แต่ก็ยอมรับเพศตรงข้ามในด้านกิจกรรมกลุ่มผู้ชายจะยอมรับกลุ่มผู้หญิง ถ้าต้องการเล่นร่วมกันในเรื่องกีฬา

พัฒนาการด้านสมอง สติปัญญา พัฒนาทางศีลธรรม เข้าใจเหตุผลของความถูกผิด ตัดสินปัญหาแยกแยะข้อมูลชนิดต่าง ๆ ได ้


2. บอกการส่งเสริมและการกระตุ้นพัฒนาการของเด็กวัยเรียนได้

การส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัยเรียน -ให้เด็กได้เคลื่อนไหว ออกก าลังกาย และเล่นกีฬาประเภทต่าง ๆ

-ให้เด็กได้ท ากิจกรรมที่ต้องใช้มือ เช่น วาดรูป งานศิลปะต่างๆ หรือการเย็บปัก

1. 2.ด้านสังคมและการช่วยเหลให้ 2. -ให้เด็กได้เข้ากลุ่มและอยู่ร่วมกัน

- มอบหมายให้เด็กได้รับผิดชอบกิจกรรมภายในบ้านตามสมควร 3. 3. ด้านสติปัญญาและจริยธรรม 4. –ส่งเสริมการอ่าน 5. - ให้เด็กได้คิด และแก้ปัญหาด้วยตนเองอย่างอิสระ และสร้างสรรค์

บนพื้นฐานของเหตุผล 6. - ปลูกฝังระเบียบวินัย และความรับผิดชอบทั้งทางด้านการเรียน และ

เรื่องส่วนตัว


อธิบายการส่งเสริมและการกระตุ้นพัฒนาการของวัยเด็กตอนปลาย (วัยเรียน)

สังเกตความตั้งใจและการตอบค าถามได้ถูกต้อง 2-3คนเก่ียวกับกิจกรรมการส่งเสริมและการกระตุ้นพัฒนาการวัยเด็กกตอนปลาย (วัยเรียน)ได้ได้นักศึกษาสนใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 5-6 คน


3.สามารถให้ค าแนะน าในการปูองกันและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กวัยเรียนได้

สรุป

วัยนี้เป็นวัยที่เข้าโรงเรียนอย่างแท้จริง แม้บางคนจะมีประสบการณ์จากโรงเรียนอนุบาลมาแล้ว

แต่การเรียนในช่วงนี้เปลี่ยนไป รับผิดชอบมากขึ้น ควบคุมตังเองมากขึ้น มีความผูกพันกับครู ซึ่งเป็นผู้ที่เด็กต้องเชื่อฟัง นับถือ รักใคร่


นักศึกษามีความตั้งใจเรียนดี ตอบค าถามได้ตรงประเด็น และนักศึกษาบางคนได้ซักถามเนื้อหาเมื่อเกิดความสงสัย และช่วยกันสรุปเนื้อเรื่องได้ตรงประเด็น นักศึกษาได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันในชั้นเรียนได้ดี

ตั้งค าถามให้นักศึกษาตอบ

และให้นักศึกษา ร่วมกันสรุปประเด็นต่างๆและครูช่วยเพ่ิมเติมปรเด็นที่ส าคัญ




กัลยา นาคเพ็ชร์,จุไร อภัยจิรรรัตน์ และ สมพิศใยสุ่น.(2557 ).จิตวิทยาพัฒนาการส าหรับพยาบาล. พิมพ์ครั้ง ที่2. กรุงเทพฯ.วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย. ทิศนา แขมณี และคณะ.(2557).หลักการและรูปแบบการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย. กรุงเทพ ฯ : ส านักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

แผนการสอน...แผนการสอน รห สว ชา/ช อว ชา PNS 1122ช อว ชา การเจร ญเต บโตและพ...

Documents