อ.ดร. สกุลรัตน รัตนาเกียรติ์ ยาในชีวิตประจําวัน (Drug in Daily Life) ติดตามข+าวสาร ประกาศ สอบถาม เอกสารประกอบการสอน http://www.facebook.com/drugindailylife http://drugindailylife.wordpress.com อ.ดร. สกุลรัตน รัตนาเกียรติ์
อ.ดร. สกุลรัตน รัตนาเกียรติ์
ยาในชีวิตประจําวัน (Drug in Daily Life)ติดตามข+าวสาร ประกาศ สอบถาม เอกสารประกอบการสอน
http://www.facebook.com/drugindailylifehttp://drugindailylife.wordpress.com
อ.ดร. สกุลรัตน รัตนาเกียรติ์
วัตถุประสงค
เพื่อให�นิสิตสามารถ
• อธบิายโครงสร�างของอวยัวะในทางเดินหายใจ
• ปฏบิตัิตนถูกต�องเพื่อป"องกันโรค
• แยกอาการที่เกิดขึ้นได�ว(าเป)นการติดเชือ้ไวรัสหรือแบคทีเรีย
• เลือกวธิีการรักษาเบือ้งต�นได�อย(างถูกต�อง: ยา การปฏิบตัิตัว
หัวข?อ
1. โครงสร�างและหน�าที่ของอวัยวะในทางเดินหายใจ
2. สาเหตุของโรคในระบบทางเดินหายใจ
3. โรคระบบทางเดินหายใจที่พบบ(อย
4. ยาที่ใช�ในระบบทางเดินหายใจ
1. โครงสร?างของอวัยวะทางเดินหายใจ1.1 อวัยวะทางเดินหายใจส(วนบน• จมูก (nose) • โพรงอากาศข�างจมูก (sinus)• คอ (pharynx)•• กล(องเสียง (larynx)1.2 อวัยวะทางเดินหายใจส(วนล(าง• หลอดลมใหญ(• หลอดลมย(อย• ปอด • หลอดลมฝอย ถุงลม หลอดเลือด
รูปแสดงโพรงจมูกหรือไซนัส
รูปแสดงส+วนของคอหอย (pharynx)
2.1 สารก(อภูมิแพ� – ฝุIนละออง ขนสัตวJ เกสรดอกไม� แมลง2.2 สารก(อการระคายเคือง – ทําลายเยื่อบุทางเดินหายใจ – ควนับุหรี่
แอมโมเนีย2.3 เชื้อจุลชีพ
2. สาเหตุของโรคทางเดินหายใจ
2.3 เชื้อจุลชีพ• เชือ้ไวรัส: Rhinovirus, Influenza virus• เชือ้แบคทีเรีย�ปRจจัยการติดเชื้อ/ความรุนแรงoภูมิต�านทาน พันธุกรรมของคนoอายุ ภาวะโภชนาการ สิ่งแวดล�อม โรคoชนิดเชือ้ สายพันธุJ เชื้อที่ดื้อยา
สิ่งแวดล?อม/ธรรมชาติคดัเลือก:•แข็งแรงกว(า ปรับตัวได�ดีกว(า จะถูก
คัดเลือกให�มีชีวิตรอดอยู(ได�มากกว(า
คนเราใช?ยาปฏิชีวนะไม+เหมาะสม:•ติดเชื้อไวรัสแต(ใช�ยาปฏิชีวนะ (ฆ(า
แบคทีเรีย)•ติดแบคทีเรีย แต(ใช�ยาปฏิชีวนะไม(ครบ
เชื้อดื้อยา:• การปRVมยาออกจากเซลลJแบคทีเรียเร็วขึ้น
• ป"องกันการจับตัวของยากับเชื้อแบคทีเรยี
• เชื้อแบคทีเรียปล(อยเอนไซมJทําลายยา
• เชื้อแบ(งตัวอย(างรวดเร็ว
•ติดแบคทีเรีย แต(ใช�ยาปฏิชีวนะไม(ครบระยะการรักษา
• ผลเสียต(อตนเอง � สังคม � โลก
• เปลืองเงิน
• ปRญหาการแพ?ยา และผลข�างเคียงอื่นจากยาปฏชิวีนะ
Butterfly effectเชื้อดื้อยา แล?วไง?
• โรคติดเชื้อดื้อยารักษายาก ต�องใช�ยาแพงขึ้น แพร(กระจายง(าย
• การค�นพบยาปฏชิีวนะชนิดใหม(มีน�อยลง
• ปRญหาเชือ้ดื้อยาเป)นวาระของโลก
3. โรคทางเดินหายใจที่พบบ+อย
3.1 โรคหวดั (Common cold)
3.2 โรคหวดัจากการแพ� (Allergic rhinitis)
3.3 โรคไข�หวัดใหญ( (Influenza)3.3 โรคไข�หวัดใหญ( (Influenza)
3.4 คออักเสบ (Pharyngitis) หรือต(อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis)
3.5 โรคไซนัสอักเสบ (Sinusitis)
3.6 โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute bronchitis)
3.1 โรคหวัด (common cold)
เชื้อไวรัส (Rhinovirus)
ไข� ปวดหัว คัดจมูก น้ํามูกใส ไอ มีเสมหะ (<1 สัปดาหJ)
ยารักษาตามอาการ- กินเมื่อมีอาการ หยุดเมื่อหาย
การปฏิบัติตัว-พักผ(อน ทําตัวอบอุ(น ดื่มน้ําอุ(น - กินเมื่อมีอาการ หยุดเมื่อหาย
- ยาแก�ปวดลดไข� ลดน้ํามูก แก�แพ� ลดอาการคัดจมูก แก�ไอ
-พักผ(อน ทําตัวอบอุ(น ดื่มน้ําอุ(น กินอาหารอ(อน ใช�ผ�าชุบน้ําธรรมดาเช็ดตัว หมั่นล�างมือ
สัมผัสเชื้อ ไอ จามรดกัน ติดต(อแพร(กระจาย
ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ�อน (ทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ)
อาการ?+ ยาปฏิชีวนะให�ครบระยะการรักษา
กินอาหารปรุงสุกใหม(ๆ และใช�ช�อนกลางในการกินอาหารร(วมกัน
ปlดปากและจมูกเมื่อจาม ทิ้งกระดาษทิชชูลงถังขยะ และล�างมือทุกครั้ง
สวมหน�ากากอนามัย (เมื่อต�องออกนอกบ�าน)
กินร?อน ช?อนกลาง ล?างมือ สวมหน?ากากอนามัย
วิธีล�างมืออย(างถูกวิธี
บริเวณที่มักล�างได�ไม(บริเวณที่มักล�างได�ไม(สะอาด มีสิ่งสกปรกตกค�าง
3.2 โรคหวัดจากการแพ? (allergic rhinitis) สิ่งกระตุ?น � ฮิสตามีนหลั่ง
เป)นทันทีทันใด คัดจมูก น้ํามูกใส ตอนเช�า/อากาศเปลี่ยน มักไม(มีไข�
การปฏิบัติตัว: ยารักษาตามอาการ: การปฏิบัติตัว: - สังเกต เลี่ยงสิ่งที่แพ�- เพิ่มภูมิคุ�มกัน พักผ(อน อาหาร ออกกําลังกาย
ยารักษาตามอาการ: - ยาแก�แพ� ลดคัดจมูก
เป)นหวัดบ(อย
ติดเชื้อแบคทีเรีย (ไซนัสอักเสบ) + ยาปฏิชีวนะให�ครบระยะการรักษา
3.3 โรคไข?หวัดใหญ+ (Influenza)
เชื้อไวรัส (Influenza virus)
ไข?สูง ปวดเมื่อยกล?ามเนื้อมาก + อาการอื่นเหมือนไข�หวัด
การปฏิบัติตัว: - เหมือนไข�หวัดธรรมดา
ยารักษาตามอาการ: - เหมือนไข�หวัดธรรมดา
ไข?หวัดใหญ+ 2009 (Influenza A H1N1)ไข?สูง 38°°°°C+ ไอ เจ็บคอ
•กลุ+มเสี่ยง � พบแพทยJทันที•อายุ <5 ปo หรือ > 65 ปo•สตรีมีครรภJ•มีโรคประจําตัว ปอด ไต ตับ หัวใจ ความดันโลหิตสูง•มีโรคประจําตัว ปอด ไต ตับ หัวใจ ความดันโลหิตสูง•ภูมิคุ�มกันบกพร(อง (เอดสJ, ได�รับยากดภูมิคุ�มกัน)•ผิดปกติทางสมอง แขน ขา กล�ามเนื้อ � อาจหายใจไม(ปกติ•BMI (kg/m2) > 30
•ไม+ใช+กลุ+มเสี่ยง � พาราเซตามอล 1-2 เม็ด ลดไข� ซ้ําได�ทุก 4-6 ขม. ไม(เกิน 8 เม็ด/วัน พักอยู(บ�านจนกว(าจะหาย
สูตร 1 + 1 ใน 5 ถ�ากินยาพาราเซตามอลแล�วยัง - -•ไข?สูง >38°C ไอ/เจ็บคอ > เกิน 24 ชม. � พบแพทยJ•ไข�ลดลงบ�างใน 48 ชม. แรก แต(มีอาการเพิ่ม 1 ใน 5 ต(อไปนี้ �พบแพทยJ
1. ปวดหัวมาก พาราเซตามอลไม(ช(วยให�ทุเลา2. เบื่ออาหารอย+างมาก คลื่นไส� อาเจียน2. เบื่ออาหารอย+างมาก คลื่นไส� อาเจียน3. ปวดเมือ่ยกล?ามเนื้อ พาราเซตามอลไม(ช(วยให�ทุเลา4. ไอแล?วเหนื่อย หรือเจ็บเฉพาะที่หรือมีเลือดปน5. ท?องเสีย 3-4 ครั้งต(อวนั
•แม�พ�นระยะสังเกตอาการ 48 ชม. แต(ไข?กลับมาอีก + อาการ1 ใน 5 � พบแพทยJ�แยกผู?ปbวย สวมหน�ากากอนามัย
3.4 คออักเสบ/ต+อมทอนซิลอักเสบ
จากเชื้อไวรสั1. ไข�ต่ํา2. ไอ3. น้ํามูก จาม
จากเชื้อแบคทีเรีย 5-10%1. ไข�สูง2. ไม(ไอ3. มีตุ(มหนองที่ต(อมทอนซิล 3. น้ํามูก จาม
4. ไม(มีตุ(มหนองที่ต(อมทอนซิล3. มีตุ(มหนองที่ต(อมทอนซิล4. ต(อมน้ําเหลืองใต�คางโต กดเจบ็
รักษาตามอาการรักษาตามอาการ + ยาปฏิชวีนะ
• อาการแทรกซ?อน: หูชั้นกลางอักเสบ ข�ออักเสบ กรวยไตอักเสบ เยื่อหุ�มสมองอักเสบ โรคหัวใจรูหJมาติก
• การรักษา:
1. การใช�ยา
• ไวรัส: เหมือนในไข�หวัด ฟ"าทะลายโจร
• แบคทีเรีย: ยาปฏิชีวนะ ฟ"าทะลายโจร
2. การปฏิบัติตัว: เหมือนในไข�หวัด กลั้วคอด�วยน้ําเกลือ (เกลือ 1 ช�อนชา + น้ําอุ(น 1 แก�ว) น้ําผึ้งผสมมะนาว ยาอมสมุนไพร ลดการใช�เสียง งดอาหารมัน/รสจัด ใช�ความชื้นหรือไอระเหย
3.5 โรคไซนัสอักเสบ (sinusitis)เป)นหวดับ(อย ภาวะแทรกซ�อนของหวัด (แบคทีเรีย) สัมผัสสิ่งที่ก(อให�ระคายเคอืง
คัดจมูก ปวดหนักๆ มักปวดตอนเช�า ปวดหัวตาร�าวไปคัดจมูก ปวดหนักๆ มักปวดตอนเช�า ปวดหัวตาร�าวไปขมับ กดเจบ็ตรงโหนกแก�ม ขมับ ไข�ต่าํๆ ประวัติใช�ยาลดน้ํามูกไม(ได�ผล
เพิ่มภูมิต?านทาน ยาปฏิชีวนะ 10-14 วัน+
3.6 โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลันไวรัส > แบคทีเรีย สัมผัสสิ่งที่ก(อให�ระคายเคอืง ไอมาก (กลางคืน) เจ็บหน�าอก ไข�ต่ํา 1-3 สัปดาหJ
การปฏิบัติตัว: - พักผ(อน ดื่มน้ําอุ(นมากๆ- พักผ(อน ดื่มน้ําอุ(นมากๆ- งด น้ําเย็น บุหรี่ ที่ผู�คนหนาแน(น ฝุIนละอองมาก
ยารักษาตามอาการ: - ยาละลายเสมหะ ขับเสมหะ
4. ยาที่ใช?ในระบบทางเดินหายใจ1. ยาแก�ปวด ลดไข�
2. ยาแก�ไอ
1. ยาขับเสมหะและละลายเสมหะ
2. ยาระงับการไอ2. ยาระงับการไอ
3. ยาลดอาการคัดจมูก
4. ยาแก�แพ�
5. ยาปฏชิีวนะ ***
***ไม+ใช?พร่าํเพรือ่ เมื่อต?องใช?ต?องกินให?ครบระยะการรกัษา***
4.1 ยาลดไข? แก?ปวด• Paracetamol–500 – 1000 mg ทุก 4-6 ชม.
– ไม(ควรกินติดต(อกันเกิน 5 วนั พิษต(อตับ
• NSAIDs (Non-steroidal anti-inflammatory drugs)• NSAIDs (Non-steroidal anti-inflammatory drugs)
–Aspirin, Ibuprofen
– กินหลังอาหารทันที ระคายเคอืงกระเพาะอาหาร
–ห�ามใช�ในคนที่เป)นโรคกระเพาะ โรคเลือด
–ห�ามใช�ในเด็ก < 12 ปo
4.2 ยาแก?ไอ• ไอแห?ง ใช�ยาระงับอาการไอ (antitussive)
� ไม(ใช�กรณีไอเฉียบพลันและมีเสมหะ� Dextromethorphan, codeine, diphenhydramine
• ไอมีเสมหะ� ยาขับเสมหะ (expectorant)� ยาขับเสมหะ (expectorant)• น้ําอุ(น, ammonium chloride, guainfenesin
� ยาละลายเสมหะ (mucolytic)• Bromhexine, Ambroxol, Acetylcysteine
4.3 ยาแก?แพ? (Antihistamine)• ลดน้ํามูก จาม อาการแพ�• ยาแก�แพ�ที่กินแล�วง(วง–CPM (chlorpheniramine maleate)– ถูก ออกฤทธิเ์ร็ว ทําให�ง(วง ห�ามขับขี่ยานพาหนะ ทํางานกับ– ถูก ออกฤทธิเ์ร็ว ทําให�ง(วง ห�ามขับขี่ยานพาหนะ ทํางานกับ
เครื่องจักรกล• ยาแก�แพ�ที่กินแล�วไม(ง(วง–Cetirizine, Loratadine
4.4 ยาลดอาการคัดจมูก• ในร�านขายยาเป)นสูตรผสม
–Pseudoephridine/Phenylephrine + ยาแก�แพ�
• ข�อควรระวังข�อควรระวัง
–ใช�ติดต(อกันไม(เกิน 3-5 วัน
–ระมัดระวังการใช�ในคนที่เป)นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เด็ก
4.5 ยาสูตรผสม
• มักมีพาราเซตามอล (แก�ไข�) + CPM (ลดน้ํามูก) + pseudoephridine (ลดอาการคัดจมูก)
• ควรเลือกใช�ยาเดี่ยวมากกว(ายาสูตรผสม• ควรเลือกใช�ยาเดี่ยวมากกว(ายาสูตรผสม
4.6 ยาปฏิชีวนะ (antibiotics)/ยาต?านจุลชีพ (antimicrobial agents)
• ≠ ยาแก�อักเสบ
• ยาที่มีฤทธิ์ในการฆ(า/ยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรียJ (ส(วนใหญ(-แบคทีเรีย)แบคทีเรีย)
• มีหลายกลุ(ม ซึ่งเหมาะสมต(อเชื้อที่แตกต(างกัน
ตัวอย+างยาปฏิชีวนะ• Penicillins: penicillin, amoxycillin, ampicillin• Tetracyclines: tetracycline, doxycycline,
chlortetracycline• Chloramphenicols: chloramphenicol• Chloramphenicols: chloramphenicol• Aminoglycosides: gentamicin, neomycin• Quinolones: norfloxacin, ofloxacin• Cephalosporins: cefaclor, cefuroxime• Carbapenems: imipenem, meropenem
การแพ?ยา• มีตั้งแต(ระดับไม(
รุนแรงจนถึงขั้นพิการและเสียชีวิตเสียชีวิต
สิ่งที่ควรรู?เกี่ยวกับยาปฏิชีวนะ1. โรคหวัด(รวมทั้งท�องเสีย แผลสะอาด)ไม(ต�องใช�ยาปฏิชีวนะเสมอ
ไป2. ความคิด “กินกันไว�ก(อน” ไม(ถูกต�อง3. ไม(ควรเก็บสะสมยา นํายาเก(าจากการเจ็บปIวยครั้งก(อนมากิน3. ไม(ควรเก็บสะสมยา นํายาเก(าจากการเจ็บปIวยครั้งก(อนมากิน4. ไม(ควรแบ(งยาตนเองให�ผู�อื่น แม�มีอาการคล�ายกัน5. ไม(เรียกหาซื้อยาปฏิชีวนะ (ยาแก�อักเสบ) เอง (ยาอันตรายในร�าน
ชําเป)นสิ่งผิดกฎหมาย)6. ไม(กดดันให�บุคลากรทางการแพทยJจ(ายยาปฏิชีวนะ
สิ่งที่ควรรู?เกี่ยวกับยาปฏิชีวนะ7. เมื่อได�รับยาปฏชิวีนะ ต�องกินยาติดต(อกัน 7-10 วนัหรือตามแพทยJสั่ง
รวมถึงวธิีการกินที่ถูกต�อง เพื่อป"องกันไม(ให�เชือ้แบคทีเรียดื้อยา8. หากใช�แล�วมีผื่นขึ้น อาจเป)นอาการแพ�ยา ควรหยุดใช�ยาทันทีและพบ
แพทยJแพทยJ9. ป"องกันการติดเชือ้ รักษาสุขภาพ ใช�สมุนไพรและการแพทยJทางเลือก
ป"องกันการแพร(กระจายเชือ้10. งดการใช�สารเคมีที่เป)นยาปฏชิีวนะเพื่อเร(งการเจริญเติบโตแก(สัตวJที่
เลี้ยงเพื่อบริโภค11. เผยแพร(ความรู�ที่ถูกต�องแก(คนรอบข�าง