Top Banner
แคลคูลัสเบื้องต ้น 1 PAT 1 (เม.ย. 57) 17. กำหนดให้ เป็นฟังก์ชัน นิยำมโดย () = { − + , ≤ −2 2 5 + , −2 < < 3 2 − 6 + 11 , >3 เมื่อ , เป็นจำนวนจริง ถ้ำฟังก์ชัน มีควำมต่อเนื่องที = −2 และ 3 lim x () หำค่ำได้ แล้วค่ำของ | + 5| เท่ำกับข้อใดต่อไปนี 1. 8 2. 18 3. 88 5 4. 102 5 18. กำหนดให้ > 1 และ b 1 −1 +√ = 4 ค่ำของ 1 + + 2 เท่ำกับข้อใดต่อไปนี 1. 21 2. 31 3. 91 4. 111 19. กำหนดให้ () = 2 + + เป็นพหุนำมกำลังสอง เมื่อ , , เป็นจำนวนจริง และ ≠ 0 โดยที(1) = 0 และ มีค่ำสูงสุดที = 1 3 ให้ (, ) = () โดยที(0, ) = (1, ) + 1 สำหรับจำนวนจริง > 1 พิจำรณำข้อควำมต่อไปนี (ก) (1,2) = (2,3) + 10 (ข) อนุพันธ์ของ () 2 เท่ำกับ −3 2 −2−2 3 ข้อใดต่อไปนี ้ถูกต ้อง 1. (ก) ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก) ถูก แต่ (ข) ผิด 3. (ก) ผิด แต่ (ข) ถูก 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด 12 Nov 2014
25

88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

Nov 01, 2019

Download

Documents

dariahiddleston
Welcome message from author
This document is posted to help you gain knowledge. Please leave a comment to let me know what you think about it! Share it to your friends and learn new things together.
Transcript
Page 1: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 1

PAT 1 (เม.ย. 57)

17. ก ำหนดให้ 𝑓 เป็นฟังก์ชนั นิยำมโดย 𝑓(𝑥) = {

−𝑥 + 𝑎 , 𝑥 ≤ −2

−2

5𝑥 + 𝑏 , −2 < 𝑥 < 3

𝑥2 − 6𝑥 + 11 , 𝑥 > 3

เมื่อ 𝑎, 𝑏 เป็นจ ำนวนจริง ถ้ำฟังก์ชนั 𝑓 มีควำมตอ่เนื่องที ่ 𝑥 = −2 และ 3

limx

𝑓(𝑥) หำคำ่ได้

แล้วคำ่ของ |𝑎 + 5𝑏| เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้ 1. 8 2. 18 3. 88

5 4. 102

5

18. ก ำหนดให้ 𝑏 > 1 และ b

1

𝑥−1

𝑥+√𝑥 𝑑𝑥 = 4 คำ่ของ 1 + 𝑏 + 𝑏2 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 21 2. 31 3. 91 4. 111

19. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = 𝑎𝑥2 + 𝑏𝑥 + 𝑐 เป็นพหนุำมก ำลงัสอง เมื่อ 𝑎, 𝑏, 𝑐 เป็นจ ำนวนจริง และ 𝑎 ≠ 0

โดยที่ 𝑓(1) = 0 และ 𝑓 มีคำ่สงูสดุที่ 𝑥 = 1

3 ให้ 𝐹(𝛼, 𝛽) =

𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 โดยที่ 𝐹(0, 𝑡) = 𝐹(1, 𝑡) + 1

ส ำหรับจ ำนวนจริง 𝑡 > 1 พิจำรณำข้อควำมตอ่ไปนี ้ (ก) 𝐹(1,2) = 𝐹(2,3) + 10

(ข) อนพุนัธ์ของ 𝑓(𝑥)

𝑥2 เทำ่กบั −3𝑥2−2𝑥−2

𝑥3

ข้อใดตอ่ไปนีถ้กูต้อง 1. (ก) ถกู และ (ข) ถกู 2. (ก) ถกู แต ่(ข) ผิด

3. (ก) ผิด แต ่(ข) ถกู 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด

12 Nov 2014

Page 2: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

2 แคลคลูสัเบือ้งต้น

41. ก ำหนดให้ ℝ แทนเซตของจ ำนวนจริง และ 𝑎, 𝑏 เป็นจ ำนวนจริง และให้ 𝑓 : ℝ → ℝ เป็นฟังก์ชนัท่ีนยิำมโดย

𝑓(𝑥) = 𝑎 + 𝑏𝑥 + 𝑥3 ส ำหรับทกุจ ำนวนจริง 𝑥 ถ้ำเส้นตรง 5𝑥 − 𝑦 + 13 = 0 สมัผสักรำฟของ 𝑓 ที่ 𝑥 = 1

แล้ว 2

0

𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 เทำ่กบัเทำ่ใด

42. ให้ ℝ แทนเซตของจ ำนวนจริง ถ้ำ 𝑓 : ℝ → ℝ เป็นฟังก์ชนั โดยที่ 𝑓(3) = 111 และ 3

limx

𝑥𝑓(𝑥)−333

𝑥−3 = 2013

แล้วอตัรำกำรเปลีย่นแปลงของ 𝑓(𝑥) เทียบกบั 𝑥 ขณะที่ 𝑥 = 3 เทำ่กบัเทำ่ใด

PAT 1 (มี.ค. 57)

10. พิจำรณำข้อควำมตอ่ไปนี ้

(ก) ให้ P(𝑥, 𝑦) เป็นจดุใดๆ ในระนำบ ถ้ำผลบวกของระยะทำงจำกจดุ P(𝑥, 𝑦) ไปยงัจดุ (0, –2)

และระยะทำงจำกจดุ P(𝑥, 𝑦) ไปยงัจดุ (2, –2) เทำ่กบั 2√5 แล้ว

เซตของจดุ P(𝑥, 𝑦) คือ { (𝑥, 𝑦) | 4𝑥2 + 5𝑦2 − 8𝑥 + 20𝑦 − 12 = 0 }

(ข) จดุ (1, 1) เป็นจดุบนพำรำโบลำ 𝑦 = 𝑥2 อยูใ่กล้กบัเส้นตรง 𝑦 = 2𝑥 – 4 มำกที่สดุ

ข้อใดตอ่ไปนีถ้กูต้อง 1. (ก) ถกู และ (ข) ถกู 2. (ก) ถกู แต ่(ข) ผิด

3. (ก) ผิด แต ่(ข) ถกู 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด

Page 3: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 3

17. ให้ 𝑎 และ 𝑏 เป็นจ ำนวนจริง และให้ 𝑓(𝑥) = {𝑥2 + 𝑎𝑥 + 𝑏 , 𝑥 < 2

√𝑥 − 1 , 2 ≤ 𝑥 ≤ 5𝑎𝑥 + 𝑏 , 𝑥 > 5

ถ้ำ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัตอ่เนื่องบนเซตของจ ำนวนจริง แล้ว 𝑎 − 𝑏 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้ 1. 5 2. 8 3. 11 4. 12

18. ถ้ำ 2

2

|𝑥2 − 7𝑥 + 6| 𝑑𝑥 = 𝑎

𝑏 เมื่อ 𝑎 และ 𝑏 เป็นจ ำนวนเต็มที่ 𝑏 ≠ 0 และ ห.ร.ม. ของ 𝑎 และ 𝑏 เทำ่กบั 1

แล้วคำ่ของ 𝑎 + 𝑏 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้ 1. 33 2. 69 3. 102 4. 104

19. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = 4𝑥3

𝑥6−3𝑥3+64 เมื่อ 𝑥 เป็นจ ำนวนจริงบวกใดๆ พิจำรณำข้อควำมตอ่ไปนี ้

(ก) 𝑓 เป็นฟังก์ชนัเพิ่มบนชว่ง (0, 3)

(ข) คำ่สงูสดุสมัพทัธ์ของ 𝑓 เทำ่กบั 4

13

ข้อใดตอ่ไปนีถ้กูต้อง 1. (ก) ถกู และ (ข) ถกู 2. (ก) ถกู แต ่(ข) ผิด

3. (ก) ผิด แต ่(ข) ถกู 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด

Page 4: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

4 แคลคลูสัเบือ้งต้น

38. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = 𝑥2 + 𝑎𝑥 + 𝑏 เมื่อ 𝑎 และ 𝑏 เป็นจ ำนวนจริง

ถ้ำ 𝑓(1) = 2 และ (𝑓 ∘ 𝑓)(0) = 10 แล้วคำ่ของ 2

1

𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 เทำ่กบัเทำ่ใด

42. ให้ ℝ แทนเซตของจ ำนวนจริง ถ้ำ 𝑓 : ℝ → ℝ เป็นฟังก์ชนัซึง่ 𝑓′′(𝑥) = 3 + 6𝑥 ส ำหรับทกุจ ำนวนจริง 𝑥 และควำมชนัของเส้นสมัผสัโค้ง 𝑦 = 𝑓(𝑥) ณ จดุ (2, 22) เทำ่กบั 20 แล้วคำ่ของ

4limx

𝑓(𝑥) เทำ่กบัเทำ่ใด

PAT 1 (มี.ค. 56)

20. ก ำหนดให้ C เป็นเส้นโค้ง 𝑦 = 3𝑥4−2

𝑥3 เมื่อ 𝑥 > 0 และให้ L เป็นเส้นตรงที่สมัผสักบัเส้นโค้ง C ที่จดุ (1, 1)

ถ้ำเส้นตรง L ตดักบัพำรำโบลำ 𝑥(𝑥 − 1) = 𝑦 − 1 ที่จดุ A และจดุ B

แล้วระยะหำ่งระหวำ่งจดุ A และจดุ B เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้ 1. 4√82 2. 8√82 3. 4√41 4. 8√41

Page 5: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 5

38. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = {

2𝑥−8

2𝑥−√4𝑥2−3𝑥+12, 𝑥 < 4

𝑘𝑥

3, 𝑥 ≥ 4

โดยที่ 𝑘 เป็นจ ำนวนจริง ถ้ำ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัตอ่เนื่องที่จดุ 𝑥 = 4

แล้ว 𝑓(𝑘 + 1) เทำ่กบัเทำ่ใด

39. ให้ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัซึง่มีโดเมนและเรนจ์เป็นสบัเซตของจ ำนวนจริง โดยที่อตัรำกำรเปลีย่นแปลงของ 𝑓(𝑥) เทียบกบั 𝑥 เทำ่กบั 𝑎𝑥3 + 𝑏𝑥 เมื่อ 𝑎 และ 𝑏 เป็นจ ำนวนจริง และให้ 𝑔(𝑥) = (𝑥3 + 2𝑥)𝑓(𝑥) ถ้ำ 𝑓′(1) = 18 ,

𝑓′′(0) = 6 และ 𝑓(2) = 𝑓(1) + 𝑓(0) แล้วคำ่ของ 𝑔′(−1) เทำ่กบัเทำ่ใด

40. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) เป็นพหนุำมก ำลงัสำม ซึง่มีสมัประสทิธ์ิเป็นจ ำนวนจริง โดยท่ีมี 𝑥 + 1 เป็นตวัประกอบของ 𝑓(𝑥)

5 + 2i เป็นค ำตอบชองสมกำร 𝑓(𝑥) = 0 และ 𝑓(0) = 58 คำ่ของ 2

0

[𝑓(𝑥) − 𝑓(−𝑥)]𝑑𝑥 เทำ่กบัเทำ่ใด

Page 6: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

6 แคลคลูสัเบือ้งต้น

PAT 1 (ต.ค. 55)

19. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = 𝑥3 − 26𝑥2 + 𝑏𝑥 − 216 เมื่อ 𝑏 เป็นจ ำนวนจริง ถ้ำ 𝑎1, 𝑎2, 𝑎3 เป็นจ ำนวนจริงสำมจ ำนวนเรียงกนัแบบล ำดบัเรขำคณิต และเป็นค ำตอบของสมกำร 𝑓(𝑥) = 0

แล้ว คำ่ของ 𝑓′(1) เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้ 1. 211 2. 107 3. 101 4. 85

20. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) เป็นพหนุำมก ำลงัสอง โดยที่ 𝑓(0) = 1 และ 𝑓(𝑥 + 1) = 𝑓(𝑥 − 1) + 𝑥 + 1 ส ำหรับ

จ ำนวนจริง 𝑥 ใดๆ คำ่ของ 1

2

𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 3 2. 2 3. 2

3 4. 1

3

21. คำ่ของ 1

limx

|1+𝑥−2𝑥2|

√𝑥+3−2 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. −12 2. 0 3. 12 4. หำคำ่ไมไ่ด้

Page 7: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 7

37. ก ำหนดให้ R แทนเซตของจ ำนวนจริง ให้ 𝑓 : R → R เป็นฟังก์ชนั โดยที่ 1. (𝑓𝑔)(𝑥) = 2𝑥 + 3 ส ำหรับทกุจ ำนวนจริง 𝑥

2. ฟังก์ชนั 𝑓 และ 𝑔 มีอนพุนัธ์ทกุอนัดบัส ำหรับทกุจ ำนวนจริง 𝑥

3. ฟังก์ชนั 𝑓 มีคำ่สงูสดุสมัพทัธ์เทำ่กบั 2 ที่ 𝑥 = 1

4. 𝑔′′(𝑥) = 2 ส ำหรับทกุจ ำนวนจริง 𝑥

ฟังก์ชนั 𝑔 มีคำ่ต ่ำสดุสมัพทัธ์เทำ่กบัเทำ่ใด

38. ก ำหนดให้ 𝑃(𝑥) เป็นพหนุำมที่สอดคล้องกบั 𝑃(𝑥2 + 3) = 3𝑥4 + 24𝑥2 + 40 และให้ 𝑓(𝑥) = x

0

𝑃(𝑡) 𝑑𝑡

คำ่ของ 2

limx

√𝑃(𝑥) − 𝑓(𝑥) เทำ่กบัเทำ่ใด

39. ก ำหนดให้ 𝑃(𝑥) เป็นพหนุำมโดยที่ 𝑃(0) = 1 และสอดคล้องกบั 0

limh

3ℎ𝑥+2ℎ

𝑃(𝑥+ℎ+2)+𝑃(ℎ+2)−𝑃(𝑥+2)−𝑃(2) = 1

คำ่ของ 𝑃(12) เทำ่กบัเทำ่ใด

Page 8: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

8 แคลคลูสัเบือ้งต้น

PAT 1 (มี.ค. 55)

16. ให้ R แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้ 𝑓 : R → R เป็นฟังก์ชนัท่ีมีอนพุนัธ์ทกุอนัดบั โดยที่ 𝑓′′(𝑥) = 2𝑥 + 1 และ 𝑓′(2) = 2

สมกำรของเส้นตรงทีต่ัง้ฉำกกบัเส้นสมัผสัเส้นโค้ง 𝑦 = 𝑓(𝑥) ที่จดุ (1, 3) คือข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 𝑦 = −1

2𝑥 + 2 2. 𝑦 =

1

2𝑥 +

5

2

3. 𝑦 = −1

2𝑥 +

5

2 4. 𝑦 =

1

2𝑥 + 2

17. ให้ R แทนเซตของจ ำนวนจริง ให้ 𝑓 : R → R , 𝑔 : R → R และ ℎ : R → R เป็นฟังก์ชนั โดยที ่

𝑓(𝑥) = 𝑎𝑥+1

𝑥2+1 เมื่อ 𝑎 เป็นจ ำนวนจริง 𝑔(𝑥) = (𝑥2 + 1)𝑓′(𝑥) และ ℎ(𝑥) = {

𝑓(𝑥) เมื่อ 𝑥 ≥ 2

𝑔(𝑥) เมื่อ 𝑥 < 2

ถ้ำฟังก์ชนั ℎ ตอ่เนื่องที่ 𝑥 = 2 แล้ว คำ่ของ 2ℎ(−2) − ℎ(2) เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้ 1. 0.6 2. 0.8 3. 1 4. 3

18. ให้ R แทนเซตของจ ำนวนจริง ให้ 𝑓 : R → R , 𝑔 : R → R และ ℎ : R → R เป็นฟังก์ชนัท่ีมีอนพุนัธ์ทกุอนัดบั

โดยที่ ℎ(𝑥) = 𝑥2 + 4 , 𝑔(𝑥) = ℎ(𝑓(𝑥) − 1) และ 𝑓′(1) = 𝑔′(1) = 1

แล้วคำ่ของ 𝑓(1) เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้ 1. 2 2. 1.5 3. 1 4. 0.5

Page 9: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 9

37. ก ำหนดให้ R แทนเซตของจ ำนวนจริง ถ้ำ 𝑓 : R → R และ 𝑔 : R → R เป็นฟังก์ชนั โดยที่ 𝑓(𝑥) = 2𝑥 + 3

และ (𝑔 ∘ 𝑓)(𝑥) = 8𝑥3 + 44𝑥2 + 80𝑥 + 48 ส ำหรับทกุจ ำนวนจริง 𝑥

แล้วคำ่ของ ∫ 𝑓(𝑔(𝑥)) 𝑑𝑥6

0 เทำ่กบัเทำ่ใด

39. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = 𝑥3 + 𝑎𝑥 + 𝑏 เมื่อ 𝑎 และ 𝑏 เป็นจ ำนวนจริงที่แตกตำ่งกนั และให้ L1 และ L2 เป็นเส้นสมัผสัเส้นโค้ง ท่ี 𝑥 = 𝑎 และ 𝑥 = 𝑏 ตำมล ำดบั

ถ้ำ L1 ขนำนกบั L2 และ 0

limh

9ℎ

𝑓(1+ℎ)−𝑓(1) = 1 แล้วคำ่ของ ∫ 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥

2

0 เทำ่กบัเทำ่ใด

40. จงหำคำ่ของ 4

lim

x

(cot3 𝑥−1) cosec2 𝑥

1+cos 2𝑥−2 sin2 𝑥

Page 10: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

10 แคลคลูสัเบือ้งต้น

PAT 1 (ธ.ค. 54)

17. ก ำหนดให้ 𝑓 : R → R โดยที่ 𝑓(𝑥) = 𝑥2

3

ถ้ำ N เป็นเส้นตรงทีต่ัง้ฉำกกบัเส้นสมัผสักรำฟของ 𝑓(𝑥) ที่จดุ (𝑎, 𝑓(𝑎)) , 𝑎 > 0

และ N มีระยะตดัแกน 𝑦 เทำ่กบั 52 หนว่ย แล้ว ข้อใดเป็นพิกดัของจดุบนเส้นตรง N

1. (−2, 7) 2. (−1, 4) 3. (2, −4) 4. (3, −5)

18. ก ำหนดให้ A(0, 0), B(1, 0) และ C( 1

2 ,

√3

2 ) เป็นจดุยอดของรูปสำมเหลีย่ม ABC

ถ้ำกรำฟของ 𝑓(𝑥) = 𝑎𝑥2 + 𝑏𝑥 + 𝑐 ผำ่นจดุ A(0, 0), B(1, 0)

โดยที่ AC และ BC เป็นเส้นสมัผสักรำฟของ 𝑓 ที่จดุ A(0, 0), B(1, 0) ตำมล ำดบั

แล้วพื่นที่ท่ีปิดล้อมด้วยกรำฟของ 𝑓 และเส้นตรง AB มีคำ่เทำ่ใด

1. √3

6 2. √3

3 3. √3

2 4. 2√3

3

28. ฟังก์ชนั 𝑓, 𝑔, ℎ มีสมบตัวิำ่ (𝑓 ∘ 𝑔)(𝑥) = 3𝑥 − 14

𝑓 (𝑥+6

3) = 𝑥 − 2 , ℎ(2𝑥 − 1) = 6𝑔(𝑥) + 12 จงหำคำ่ของ ℎ′(0)

Page 11: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 11

38. ก ำหนดให้ 𝑓 : R → R 𝑓′′(𝑥) = 0 ทกุๆจ ำนวนจริง

ถ้ำ 𝑓(0) = 23 และ 𝑓(1) = 103 แล้ว จงหำคำ่ของ 1

0 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥

39. ให้ L เป็นเส้นตรงที่ผำ่นจดุ (0, 10) และมีควำมชนัมำกกวำ่ −1 แตน้่อยกวำ่ 0

ถ้ำพืน้ท่ีของอำณำบริเวณทีถ่กูปิดล้อมด้วยเส้นตรง L กบัแกน 𝑥 จำก 𝑥 = 0 ถึง 𝑥 = 6 มีคำ่เทำ่กบั 51 ตำรำงหนว่ย แล้ว จงหำพืน้ท่ีของอำณำบริเวณที่ถกูปิดล้อมด้วยเส้นตรง L กบัแกน 𝑥 จำก 𝑥 = 0 ถึง 𝑥 = 3

40. จงหำคำ่ของ 0

limx

𝑥

√𝑥+83

+ √𝑥−83

Page 12: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

12 แคลคลูสัเบือ้งต้น

PAT 1 (มี.ค. 54)

18. คำ่ของ 0

limx

√𝑥3+𝑥2+𝑥

𝑥2 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. −1

2 2. 1

2 3. −1 4. 1

19. ก ำหนดให้ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัพหนุำมทีม่ี 𝑓′′(𝑥) = 𝑎𝑥 + 𝑏 เมื่อ 𝑎 และ 𝑏 เป็นจ ำนวนจริง ถ้ำ 𝑓(0) = 2 และกรำฟของ 𝑓 มีจดุต ่ำสดุสมัพทัธ์ที่ (1, −5) แล้ว 2𝑎 + 3𝑏 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. −12 2. 20 3. 42 4. 48

20. ก ำหนดให้ 𝑅 แทนเซตของจ ำนวนจริง ให้ 𝑔: 𝑅 → 𝑅 เป็นฟังก์ชนัก ำหนดโดย 𝑔(𝑥) = 1

2𝑥+3 เมื่อ 𝑥 ≠ −

3

2

ถ้ำ 𝑓: 𝑅 → 𝑅 เป็นฟังก์ชนัท่ี (𝑓 ∘ 𝑔)(𝑥) = 𝑥 ส ำหรับทกุจ ำนวนจริง 𝑥 แล้ว 𝑓′′ (1

2) เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. −1

2 2. 1

2 3. −8 4. 8

Page 13: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 13

42. ก ำหนดให้ 𝑅 แทนเซตของจ ำนวนจริง ถ้ำ 𝑓: 𝑅 → 𝑅 และ 𝑔: 𝑅 → 𝑅 เป็นฟังก์ชนัท่ีหำอนพุนัธ์ได้ทกุ 𝑥 ∈ 𝑅

โดยที่ 𝑔(𝑥) = 𝑥2 − 2𝑥 + 5 , (𝑔 ∘ 𝑓)(𝑥) = 𝑥6 + 2𝑥4 − 2𝑥3 + 𝑥2 − 2𝑥 + 5 และ 𝑓(0) = 0

คำ่ของ (𝑓′ ∘ 𝑔′)(1) + (𝑔′ ∘ 𝑓′)(0) เทำ่กบัเทำ่ใด

43. ก ำหนดให้เส้นโค้ง 𝑦 = 𝑓(𝑥) สมัผสักบัเส้นตรง 2𝑥 − 𝑦 + 3 = 0 ที่จดุ (0, 3) และ 2

0

𝑓′′(𝑥) 𝑑𝑥 = −3

ถ้ำ 𝑔(𝑥) = √𝑥 + 2 𝑓(𝑥) และ 𝑔′(2) = 0 แล้ว 𝑓(2) เทำ่กบัเทำ่ใด

44. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = {

𝑥−3

√2𝑥+10−√𝑥+13เมื่อ 𝑥 ≠ 3

𝑎 เมื่อ 𝑥 = 3

โดยที่ 𝑎 เป็นจ ำนวนจริง

ถ้ำ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัตอ่เนื่องทีจ่ดุ 𝑥 = 3 แล้ว 𝑎 เทำ่กบัเทำ่ใด

Page 14: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

14 แคลคลูสัเบือ้งต้น

PAT 1 (ต.ค. 53)

18. ก ำหนดให้ 𝑅 แทนเซตของจ ำนวนจริง ให้ 𝑓: 𝑅 → 𝑅 เป็นฟังก์ชนัตอ่เนื่อง ท่ี 𝑥 = 1 และ ให้ 𝑔 เป็นฟังก์ชนัท่ีก ำหนดโดย

𝑔(𝑥) = {

√𝑥+3−2

√𝑥−1เมื่อ 𝑥 > 1

𝑓(𝑥)

|𝑥|+7เมื่อ 𝑥 ≤ 1

ถ้ำฟังก์ชนั 𝑔 มีควำมตอ่เนื่องที่ 𝑥 = 1 แล้ว คำ่ของ (𝑔 ∘ 𝑓)(1) เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้ 1. 2 − √3 2. 2 3. 2 − √7 4. √7 − 2

19. ก ำหนดให้ 𝑎 และ 𝑏 เป็นจ ำนวนจริง และให้ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัพหนุำม โดยที่ 𝑓(𝑥) = 𝑥4 + 2𝑥3 − 𝑥2 + 𝑎𝑥 + 𝑏

ถ้ำมีฟังก์ชนัพหนุำม 𝑄(𝑥) โดยที่ 𝑓(𝑥) = (𝑄(𝑥))2 แล้วคำ่ของ

1

0 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 71

30 2. 31

30 3. 11

30 4. 1

30

47. ให้ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัซึง่มีโดเมนและเรนจ์เป็นสบัเซตของเซตของจ ำนวนจริง โดยที่ 𝑓(2𝑥 + 1) = 4𝑥2 + 14𝑥

คำ่ของ 𝑓 (𝑓′(𝑓′′(2553))) เทำ่กบัเทำ่ใด

Page 15: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 15

PAT 1 (ก.ค. 53)

19. ก ำหนดให้ 𝑎 และ 𝑏 เป็นจ ำนวนจริง และให้ 𝑓 เป็นฟังก์ชนั โดยที่ 𝑓(𝑥) = {

|𝑥3−1|

𝑥−1, −1 < 𝑥 < 1

𝑎𝑥 + 𝑏 , 1 ≤ 𝑥 < 55 , 𝑥 ≥ 5

ถ้ำ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัตอ่เนื่องบนช่วง (−1, ∞) แล้วคำ่ของ 𝑎𝑏 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้ 1. 5

4 2. −

7

4 3. 15 4. −10

36. โรงงำนผลติตุ๊กตำแหง่หนึง่ มต้ีนทนุในกำรผลติตุ๊กตำ 𝑥 ตวั โรงงงำนจะต้องเสยีคำ่ใช้จำ่ย 𝑥3 − 450𝑥2 + 60,200𝑥 + 10,000 บำท ถ้ำขำยตุ๊กตำรำคำตวัละ 200 บำท โรงงำนจะต้องผลติตุ๊กตำก่ีตวั จึงจะได้ก ำไรมำกที่สดุ

37. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) เป็นฟังก์ชนัพหนุำมก ำลงัสอง ถ้ำควำมชนัของเส้นสมัผสัเส้นโค้ง 𝑦 = 𝑓(𝑥) ที่จดุ (1, 2) มีคำ่

เทำ่กบั 4 และ 2

1 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 = 12 แล้ว 𝑓(−1) + 𝑓′′(−1) มีคำ่เทำ่กบัเทำ่ใด

Page 16: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

16 แคลคลูสัเบือ้งต้น

38. ก ำหนดให้ ℎ(𝑥) = 𝑓(𝑥)𝑔(𝑥) โดยที่ควำมชนัของเส้นสมัผสัเส้นโค้ง 𝑦 = 𝑓(𝑥) ที่จดุ (𝑥, 𝑦) เทำ่กบั 2 − 2𝑥 และเส้นโค้ง 𝑦 = 𝑓(𝑥) มีคำ่สงูสดุสมัพทัธ์ เทำ่กบั 5 ถ้ำ 𝑔 เป็นฟังก์ชนัพหนุำม ซึง่มีสมบตัิ 𝑔(2) = 𝑔′(2) = 5 แล้ว ℎ′(2) มีคำ่เทำ่กบัเทำ่ใด

PAT 1 (มี.ค. 53)

18. ก ำหนดให้ 𝑅 แทนเซตของจ ำนวนจริง ถ้ำ 𝑓: 𝑅 → 𝑅 และ 𝑔: 𝑅 → 𝑅 เป็นฟังก์ชนั โดยที่ 𝑓(𝑥) = 3𝑥2

3 ,

𝑔(1) = 8 และ 𝑔′(1) =2

3 คำ่ของ (𝑓 ∘ 𝑔)′(1) เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 1

3 2. 2

3 3. 1 4. 4

3

37. ก ำหนดให้ 𝑎 และ 𝑏 เป็นจ ำนวนจริง และ 𝑓 เป็นฟังก์ชนั ซึง่ก ำหนดโดย 𝑓(𝑥) = {

𝑥3−3𝑥−2

𝑥−2, 𝑥 < 2

𝑎 − 𝑏 , 𝑥 = 2

𝑥2 + 𝑎𝑥 + 1 , 𝑥 > 2

ถ้ำ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัตอ่เนื่องบนเซตของจ ำนวนจริงแล้ว คำ่ของ 𝑎2 + 𝑏2 เทำ่กบัเทำ่ใด

Page 17: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 17

38. ก ำหนดให้ 𝑅 แทนเซตของจ ำนวนจริง ถ้ำ 𝑓: 𝑅 → 𝑅 เป็นฟังก์ชนัโดยที่ 𝑓′(𝑥) = 3√𝑥 + 5 ส ำหรับทกุจ ำนวนจริง 𝑥

และ 𝑓(1) = 5 แล้วคำ่ของ 4

limx

𝑓(𝑥2)−2

𝑓(𝑥) เทำ่กบัเทำ่ใด

39. ก ำหนดให้ 𝑅 แทนเซตของจ ำนวนจริง ถ้ำ 𝑓: 𝑅 → 𝑅 เป็นฟังก์ชนั โดยที่ 𝑓′′(𝑥) = 6𝑥 + 4 ส ำหรับทกุจ ำนวนจริง 𝑥 และควำมชนัของเส้นสมัผสัโค้ง 𝑦 = 𝑓(𝑥) ที่จดุ (2, 19) เทำ่กบั 19 แล้ว คำ่ของ 𝑓(1) เทำ่กบัเทำ่ใด

PAT 1 (ต.ค. 52)

ตอนที่ 2

17. ถ้ำ 𝑓′(𝑥) = 𝑥2 − 1 และ 1

0 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 = 0 แล้ว |𝑓(1)| มีคำ่เทำ่กบัเทำ่ใด

Page 18: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

18 แคลคลูสัเบือ้งต้น

18. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = 𝑎𝑥2 + 𝑏√𝑥 เมื่อ 𝑎 และ 𝑏 เป็นจ ำนวนจริงที่ 𝑏 ≠ 0

ถ้ำ 2𝑓′(1) = 𝑓(1) แล้ว 𝑓(4)

𝑓′(9) มีคำ่เทำ่ใด

19. ก ำหนดให้ 𝑦 = 𝑓(𝑥) เป็นฟังก์ชนัซึง่มคีำ่สงูสดุที่ 𝑥 = 1 ถ้ำ 𝑓′′(𝑥) = −4 ทกุ 𝑥 และ 𝑓(−1) + 𝑓(3) = 0 แล้ว 𝑓 มีคำ่สงูสดุเทำ่ใด

PAT 1 (ก.ค. 52)

32. ถ้ำ 𝑓′(𝑥) = 3𝑥2 + 𝑥 − 5 และ 𝑓(0) = 1 แล้ว 1

1 𝑓(𝑥) 𝑑𝑥 มีคำ่เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 5

3 2. 7

3 3. 2

3 4. 1

3

Page 19: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 19

33. ถ้ำ 𝑓, 𝑔 และ ℎ สอดคล้องกบั 𝑓(1) = 𝑔(1) = ℎ(1) = 1 และ 𝑓′(1) = 𝑔′(1) = ℎ′(1) = 2 แล้วคำ่ของ (𝑓𝑔 + ℎ)′(1) เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 1 2. 2 3. 4 4. 6

34. เส้นตรงซึง่ตดัตัง้ฉำกกบัเส้นสมัผสัของเส้นโค้ง 𝑦 = 2𝑥3 −1

√𝑥 ที่จดุ 𝑥 = 1 คือเส้นตรงในข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 13𝑥 − 2𝑦 − 11 = 0 2. 13𝑥 + 2𝑦 − 15 = 0

3. 2𝑥 − 13𝑦 + 11 = 0 4. 2𝑥 + 13𝑦 − 15 = 0

PAT 1 (มี.ค. 52)

31. ถ้ำ 𝑎1, 𝑎2, 𝑎3, … เป็นล ำดบัเรขำคณิตซึง่

1n

𝑎𝑛 = 4 แล้วคำ่มำกที่สดุที่เป็นไปได้ของ 𝑎2 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 4

2. 2

3. 1

4. หำคำ่ไมไ่ด้เพรำะ 𝑎2 มีคำ่มำกได้อยำ่งไมม่ีขีดจ ำกดั

Page 20: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

20 แคลคลูสัเบือ้งต้น

32. ก ำหนดให้

𝐴 แทนพืน้ท่ีของอำณำบริเวณที่ปิดล้อมด้วยเส้นโค้ง 𝑦 = 1 − 𝑥2 และแกน X

𝐵 แทนพืน้ท่ีของอำณำบริเวณทีใ่ต้เส้นโค้ง 𝑦 =𝑥2

4 เหนือแกน X จำก 𝑥 = −𝑐 ถึง 𝑥 = 𝑐

คำ่ของ 𝑐 ที่ท ำให้ 𝐴 = 𝐵 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. √2 2. 2 3. 2√2 4. 4

33. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = 𝑥4 − 3𝑥2 + 7 𝑓 เป็นฟังก์ชนัเพิ่มบนเซตในข้อใดตอ่ไปนี ้

1. (−3, −2) ∪ (2, 3) 2. (−3, −2) ∪ (1, 2)

3. (−1, 0) ∪ (2, 3) 4. (−1, 0) ∪ (1, 2)

34. ถ้ำ 𝑓′(𝑥) =1

2(

1

√𝑥+

1

√𝑥3) แล้วคำ่ของ

0limh

𝑓(1+ℎ)−𝑓(1)

𝑓(4+ℎ)−𝑓(4) เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 1 2. 16

5 3. 7

5 4. 1

5

Page 21: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 21

A-NET 51

ตอนที่ 1

2. ก ำหนดให้ 𝐼(𝑎) = a

a (𝑥2 − 1) 𝑑𝑥 ส ำหรับ 𝑎 ∈ [0, ∞)

ประโยคในข้อใดตอ่ไปนีม้คีำ่ควำมจริงเป็นจริง เมื่อเอกภพสมัพทัธ์คือช่วง [0, ∞)

1. ∀𝑎[𝐼(𝑎) > 0] 2. ∀𝑎[(𝐼(𝑎) = 0) → (𝑎 = 0)]

3. ∃𝑎[(𝑎 > 2) ∧ (𝐼(𝑎) < 0)] 4. ∃𝑎[(𝑎 ≠ 0) ∧ (𝐼(𝑎) = 0)]

19. ก ำหนดให้ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัท่ีนิยำมบนช่วง (0, ∞) โดยที่ 𝑓(2) = 2𝑓(1) และ 𝑓′(𝑥) = 27𝑥 −

1

𝑥2 ถ้ำ L เป็นเส้นสมัผสักรำฟของ 𝑦 = 𝑓(𝑥) ที่จดุ (1, 𝑓(1)) แล้ว จดุในข้อใดตอ่ไปนีอ้ยูบ่น L

1. (2, 64) 2. (2, 66) 3. (3, 94) 4. (3, 96)

20. ก ำหนดให้ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัพหนุำมก ำลงัสำม ซึง่นิยำมบนช่วง [−2, 2] โดยที่ 𝑓(0) = 1, 𝑓(1) = 0 และ 𝑓 มีคำ่ต ่ำสดุที่ 𝑥 = 1, มีคำ่สงูสดุที่ 𝑥 = −1 พิจำรณำข้อควำมตอ่ไปนี ้

ก. 𝑓(−2) ≤ 𝑓(𝑥) ทกุ 𝑥 ∈ [−2, 2]

ข. 𝑓(2) ≥ 𝑓(𝑥) ทกุ 𝑥 ∈ [−2, 2]

ข้อใดตอ่ไปนีถ้กู

1. ก. ถกู และ ข. ถกู 2. ก. ถกู และ ข. ผิด

3. ก. ผิด และ ข. ถกู 4. ก. ผิด และ ข. ผิด

Page 22: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

22 แคลคลูสัเบือ้งต้น

ตอนที่ 2

9. ก ำหนดให้ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัตอ่เนื่อง ที่นิยำมโดย

𝑓(𝑥) = {𝑎𝑥2 + 𝑏 เมื่อ 𝑥 ≥ 0

𝑥3 + 1 เมื่อ 𝑥 < 0

ถ้ำ 𝑓′(1) = 4 แล้ว (𝑓 ∘ 𝑓) (−1

√23 ) มีคำ่เทำ่ใด

10. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = {𝑥 + 3 เมื่อ 𝑥 < −1

−2𝑥3 เมื่อ 𝑥 ≥ −1

พืน้ท่ีที่ปิดล้อมด้วยกรำฟของ 𝑓 บนช่วง [−4, 0] มีคำ่เทำ่ใด

A-NET 50

ตอนที่ 1 20. ก ำหนดให้ 𝑎, 𝑏 เป็นจ ำนวนจริง และ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัซึง่นิยำมโดย

𝑓(𝑥) = {

(𝑥 − 1)2 + 1 เมื่อ 𝑥 < 0

𝑥3 + 𝑎𝑥 + 𝑏 เมื่อ 0 ≤ 𝑥 ≤ 1

𝑥 − 𝑏 เมื่อ 𝑥 > 1

ถ้ำ 𝑓 เป็นฟังก์ชนัตอ่เนื่องบนช่วง [−2, 2] แล้ว 𝑓 (1

2) เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 0 2. 0.25 3. 0.5 4. 0.75

Page 23: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 23

21. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = 1 +𝑎

𝑥 และ 𝑔(𝑥) = 𝑥2 + 𝑏 ถ้ำ (𝑓 ∘ 𝑔)(0) =

1

2 และ 𝑓′′(−1) = 2 แล้ว (𝑓

𝑔)

′(𝑎 + 𝑏)

เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้ 1. −

1

3 2. −

1

4 3. 1

4 4. 1

3

22. พืน้ท่ีของบริเวณที่ปิดล้อมด้วยเส้นโค้ง 𝑦 = 𝑥3 − 2𝑥2 + 2𝑥 และแกน X จำก 𝑥 = 0 ถึง 𝑥 = 4 เทำ่กบัข้อใด

ตอ่ไปนี ้ 1. 16 ตำรำงหนว่ย 2. 16.25 ตำรำงหนว่ย

3. 16.5 ตำรำงหนว่ย 4. 17 ตำรำงหนว่ย

ตอนที่ 2

5. 1

limx

(1

1−𝑥−

1

2−3𝑥+𝑥2) มีคำ่เทำ่ใด

Page 24: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

24 แคลคลูสัเบือ้งต้น

A-NET 49

ตอนที่ 1

17. ก ำหนดให้ 𝑓(𝑥) = {𝑥2 เมื่อ 𝑥 < 0

2𝑥 − 1 เมื่อ 0 ≤ 𝑥 < 1

3𝑥 เมื่อ 𝑥 > 1

คำ่ของ 0

limx

𝑓(𝑥2) +0

limx

𝑓(1 − 𝑥) เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 0 2. 1 3. 2 4. 3

18. ถ้ำ 𝑃(𝑥) เป็นพหนุำมดีกรีสำม ซึง่มี 1, 2, 3 เป็นค ำตอบของสมกำร 𝑃(𝑥) = 0 และ 𝑃(4) = 5 แล้ว 𝑃′(1) มีคำ่

เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. −6

7 2. −

5

6 3. 4

5 4. 5

3

19. ก ำหนดให้ กรำฟของ 𝑦 = 𝑓(𝑥) มีควำมชนัที่จดุ (𝑥, 𝑦) ใดๆ เป็น 2𝑥 + 2 และ 𝑓 มีคำ่ต ำ่สดุสมัพทัธ์เทำ่กบั −3

พืน้ท่ีของอำณำบริเวณที่ปิดล้อมด้วยกรำฟของ 𝑦 = 𝑓(𝑥) แกน X เส้นตรง 𝑥 = −1 และเส้นตรง 𝑥 = 0 เทำ่กบัข้อใดตอ่ไปนี ้

1. 7

3 ตำรำงหนว่ย 2. 8

3 ตำรำงหนว่ย

3. 9 ตำรำงหนว่ย 4. 12 ตำรำงหนว่ย

Page 25: 88 102 · 8 แคลคูลัสเบื้องต้น pat 1 (มี.ค. 55) . ให้ r แทนเซตของจ ำนวนจริง ก ำหนดให้

แคลคลูสัเบือ้งต้น 25

เฉลย

PAT 1 (เม.ย. 57) 17. 2 18. 3 19. 2 41. 38 42. 634 PAT 1 (มี.ค. 57) 10. 3 17. 2 18. 4 19. 3 38. 12 42. 100 PAT 1 (มี.ค. 56) 20. 2 38. 24 39. 354 40. 168 PAT 1 (ต.ค. 55) 19. 2 20. 1 21. 3 37. 2.25 38. 3 39. 157 PAT 1 (มี.ค. 55) 16. 2 17. 4 18. 2 37. 990 39. 4 40. 3 PAT 1 (ธ.ค. 54) 17. 2 18. 1 28. 3 38. 63 39. 27.75 40. 6 PAT 1 (มี.ค. 54) 18. 1 19. 3 20. 4 42. 1 43. 8 44. 8 PAT 1 (ต.ค. 53) 18. 4 19. 3 47. 120 PAT 1 (ก.ค. 53) 19. 4 36. 0 37. 18 38. 10 PAT 1 (มี.ค. 53) 18. 2 37. 53 38. 6 39. 7 PAT 1 (ต.ค. 52) 2/17. 0.25 2/18. 12 2/19. 8 PAT 1 (ก.ค. 52) 32. 2 33. 4 34. 4 PAT 1 (มี.ค. 52) 31. 3 32. 2 33. 3 34. 2 A-NET 51 1/2. 4 1/19. 2 1/20. 1 2/9. 1.5 2/10. 3 A-NET 50 1/20. (0.125) 1/21. 4 1/22. (37.33) 2/5. 1 A-NET 49 1/17. 3 1/18. 4 1/19. 2