Top Banner
บบบบบ 1 บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ บบบบ บบบบบ 2 บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ บบบบบบ บบบบบ 3 บบบบบบบบบบบบ บบบบบ 4 บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ บบบบบ 5 บบบบบบบ (Color Theory) บบบบบ 6 บบบบบบบบบบบบบ (Psycology of Colour) 1
93

มัดย้อม(30 Apr 08)

Nov 14, 2014

Download

Documents

api-3782287
Welcome message from author
This document is posted to help you gain knowledge. Please leave a comment to let me know what you think about it! Share it to your friends and learn new things together.
Transcript
Page 1: มัดย้อม(30 Apr 08)

บทท�� 1 ความหมายและประว�ติ�ความเป�นมาของผ้�าม�ดย�อม บทท�� 2 ส่�วนประกอบของค ณส่มบ�ติ�ทางกายภาพของเส่�นใยบทท�� 3 การเติร�ยมผ้�าบทท�� 4 ส่�ย�อมและการจำ&าแนกส่�บทท�� 5 ทฤษฎี�ส่� (Color Theory)

บทท�� 6 จำ�ติว�ทยาของส่� (Psycology of Colour)

บทท�� 1

1

Page 2: มัดย้อม(30 Apr 08)

ความหมายและประว�ติ�ความเป�นมาของผ้�าม�ดย�อม

ความหมายการทำ�าผ้�ามัดและย้�อมัสี� หมัาย้ถึ�ง การทำ�าผ้�าให�เก�ดรอย้ด�าง ซึ่��งเป็�น

ศาสีตร"แขนงหน��งของการย้�อมัสี� อาจเก�ดข�%นโดย้ไมั�ต%งใจของผ้(�ทำ�าการย้�อมัสี�มัาต%งแต�สีมัย้โบราณ ซึ่��งมัองด(แล�วเก�ดความัสีวย้งามั จ�งได�ใช้�เสี�นด�าย้มัามัดและน�ามัาไป็ย้�อมัสี� และน�ามัาทำอเป็�นผ้�าผ้.นเก�ดเป็�นลวดลาย้ทำ��ได�ออกแบบไว� และได�รบการพัฒนาจากการมัดเสี�นด�าย้มัาเป็�นการมัดผ้.นผ้�า ดงทำ��ได�เห1นกนทำ2กวนน�% ซึ่��งสีามัารถึทำ�าผ้�ามัดย้�อมัได�กบผ้�าทำ2กช้น�ด เช้�น ผ้�าล�น�น ผ้�าฝ้4าย้ ผ้�าไหมั หร.อผ้�าทำ��ทำ�าจากเสี�นใย้ป็ระด�ษฐ์" จะเล.อกช้น�ดของสี�ย้�อมัให�ถึ(กกบช้น�ดของเสี�นใย้ทำ��น�ามัาทำ�า สี�ย้�อมัทำ��ใช้�ย้�อมัเสี�นใย้แต�ละป็ระเภทำ มั�ความัเหมัาะสีมัและว�ธี�การย้�อมัเฉพัาะอย้�างเทำ�าน%น จะน�าสี�ป็ระเภทำทำ��ไมั�เหมัาะสีมักบช้น�ดของเสี�นใย้ๆ ไป็ย้�อมั สี�ก1จะไมั�ต�ด หร.อต�ดจะไมั�ได�ความัเข�มัและความัทำนตามัทำ��ต�องการ

ภาพท�� 1.1แสีดงร(ป็ภาพั ผ้�ามัดย้�อมัทำ��มัา : Kennedy, J. and Varrall, J. 1994 : 37

2

Page 3: มัดย้อม(30 Apr 08)

ประว�ติ�ความเป�นมาของผ้�าม�ดย�อมกระบวนการกนสี�ย้�อมัทำ��ทำ�าสี.บทำอดกนมัา รวมัทำ%งการมัด (Tying)

ผ้(กป็มั (Knotting) การผ้(กพัน (Binding) หร.อการเย้1บ (Stitching)

ผ้�าก�อนน�าไป็จ2�มัหร.อแช้�ในสี�ย้�อมั จากการพั�จารณาว�าแหล�งก�าเน�ดอย้(�ในบร�เวณภาคพั.%นเอเช้�ย้ตะวนออก ได�มั�การช้�%แจงสี��งทำ��มั�การขดแย้�งกบหลกฐ์านทำ��ค�นพับ และได�มั�การค�นคว�าหาสี��งทำ��ทำ�าข�%นจากแหล�งก�าเน�ดทำ��ถึ(กต�อง หลกฐ์านทำ��ให�ความัร( �ทำ��พัอจะเช้.� อถึ.อได�มั�การทำ�า ในย้2คแรกๆ ในอ�นเด�ย้ (India) จ�น (China) ญี่��ป็2<น (Japan) ช้วา (Java) และบาหล� (Bali)

ในอาฟร�กา (Africa) มั�ความัค2�นเคย้กบเทำคน�คการใช้�สี�ย้�อมัทำ��มั�อย้�างอ2ดมัสีมับ(รณ" เป็�นป็ระโย้ช้น"และสี�าคญี่มัากเช้�นเด�ย้วกบสี��งทำออ.�นๆ

ความัสี�าคญี่ของการออกแบบจากอาฟร�กา มั�ความัแตกต�างกนจากการค�นพับสี��งเหล�าน�%ในเอเซึ่�ย้ สี��งทำอย้2คแรกๆ ทำ��การค�นพับช้�%นสี�วนของผ้�ามัดย้�อมัจากเป็ร( (Peru) เป็�นสี��งทำอทำ��เช้.�อว�าได�มั�การเร�ย้นร( �กระบวนการเหล�าน�%ได�แพัร�หลาย้จากเป็ร(เข�าไป็ในเมั1กซึ่�โก (Mexico) กวเตมัาลา (Guatemala) โ บ ร� เ ว� ย้ (Bolivia) ป็ า ร า ก ว ย้ (Paraguay)

อาร"เจนต�นา (Argentina) และตะวนตกเฉ�ย้ง ใต� ของอาฟร�กา (Southwestern United States) ได�มั�การศ�กษาความัเป็�นไป็ได�ในการใช้�เทำคน�คการกนสี�ย้�อมัทำ��ใช้�กนอย้(�ในทำว�ป็อเมัร�กาเหน.อ (North

American Continent) อ ย้� า ง ไ ร ก1 ต า มั อ� ทำ ธี� พั ล ข อ ง ช้ า ว เ ป็ ร( (Peruvian) ทำ��แพัร�หลาย้มัากอย้�างต�อเน.�องและป็ระย้2กต"ใช้�ทำ��หลากหลาย้ใน เอ เ ช้�ย้ตะ วนออก (East Asian) และอาร ย้ธีรรมัตะ วนออก (Oriental Civilizations)

นกมัน2ษย้ว�ทำย้าพับร(ป็แบบแรกๆ สี�าหรบการกนสี�ในวฒนธีรรมัด%งเด�มัทำ%งหมัดของข%นตอนการฟอกสี�ออกด�วย้ดวงอาทำ�ตย้" จะโดย้บงเอ�ญี่หร.อโดย้ตรงของการไป็ถึ�งผ้�วหน�าร(ป็แบบโดย้กนสี�จากการทำ�าให�เป็�นจร�ง การเตร�ย้มัวสีด2กนสี�ย้�อมัมั�การพัฒนามัาตลอด ในย้2คแรกๆ ของ

3

Page 4: มัดย้อม(30 Apr 08)

งานมัดและย้�อมัสี�บนผ้�าทำอ ซึ่��งเป็�นไป็ได�ว�า คนสีมัย้โบราณมั�การป็รบให�เข�ากบสี��งแวดล�อมัเป็�นเทำคน�คของ “Ikat” เป็�นทำ��ทำราบแล�วว�าเก�ดข�%นในช้�วงระย้ะเวลาเก�นกว�าศตวรรษทำางทำ�ศตะวนออกของอ�นโดน�เซึ่�ย้ (Eastern Indonesia) โดย้เฉพัาะอย้�างย้��งในบาหล� (Bari) ใช้�การกนสี�ย้�อมับนเสี�นด�าย้ทำอหร.อเสี�นด�าย้ทำ��แก�แล�ว การออกแบบถึ�าเป็�นสี�วนหน��งของการทำ�าผ้�าสี�าหรบการป็4องกนสี�ย้�อมัอย้�างด�เย้��ย้มั เมั.�อหลาย้ร�อย้ป็>ป็ระช้าช้นเหล�าน�%ผ้ล�ตสี��งทำอทำ��มั�ความัป็ราณ�ตทำ%งร(ป็แบบและใช้�เป็�นเคร.�องป็ระดบอย้�างสีวย้งามั

กระบวนการทำ�าทำ��สี.บทำอดกนมัา ป็ระกอบด�วย้ การมัดทำ��แย้กออกจากกนและการมัดเล1กๆ อย้�างแน�นหนา มั�การควบค2มัว�ธี�การทำ�าอย้�างละเอ�ย้ดตามัป็กต� การจดร(ป็แบบจะเป็�นลาย้เรขาคณ�ต (Geometric)

วงกลมั (Circlets) เป็�นร�%ว (Stripes) มัดด�วย้เช้.อกจากธีรรมัช้าต�เพั.�อป็4องกนสี�ย้�อมัภาย้หลงการย้�อมัสี�และแก�มัดเช้.อกออกจะป็รากฎเป็�นลวดลาย้ออกมัา ร(ป็แบบพั.%นฐ์านจ�านวนมัากในการมัดและย้�อมัสี�เป็�นร(ป็วงกลมัเล1กๆ มั�อย้(�ทำ�วๆ ไป็บนผ้�าจากอ�นเด�ย้ (India) ช้(ดาน (Sudan) สี�วนต�างๆ ของอาฟร�กา (Africa) และมัอร@อกโค (Morocco) แมั�กระน%นเทำคน�คง�าย้ๆ ของการจบให�แน�นและมัดสี�วนทำ��เล1กจ�Aวของผ้�า ซึ่��งเป็�นร(ป็แบบทำ��มั�การเป็ล��ย้นแป็ลงเป็�นจ�านวนมัาก สี�วนใหญี่�ของผ้�าอาจเก1บโดย้การรวบรวมัเข�าด�วย้กน มั�การก�าหนดขอบเขตโดย้ว�ธี�การพับตามัย้าว มั�การผ้(กมัดให�เป็�นวงกลมั (Circles) สี�เหล��ย้มั (Squares) เรขาคณ�ต (Geometric)

4

Page 5: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 1.2 แสีดงร(ป็ภาพัผ้�ามัดย้�อมัจากไนจ�เร�ย้ (Nigeria) ทำ��มัา : Gillow, J. 2001 : 62

ในการเย้1บ หร.อ “Tritik” ว�ธี�ทำ�า น�%มั�อย้(�ทำ�วๆ ไป็ในสี��งทำอของอาฟร�กา (African Textiles) ด�าย้ทำ��ย้าวและเหน�ย้วเมั.�อเย้1บเข�าไป็ในผ้�าระหว�างเสี�นทำ��ก�าหนดไว�ล�วงหน�าเป็�นตวช้�%ทำางอาจจะตรง (Straight) เป็�นคล.�น (Wavy) ร(ป็ซึ่�กแซึ่ก (Zigzag) และอ.�นๆ ต�องด�งเสี�นด�าย้ให�ต�ง จากน%นก1เก1บรวบผ้�าจะเป็�นกล2�มัก�อนข�%น มัดให�แน�นระหว�างเสี�นของด�าย้ เป็�นการไป็เพั.�อสีร�างเป็�นร(ป็ร�างกนสี�ย้�อมัไมั�ให�ผ้�านทำะล2เข�าไป็

ภาพท�� 1.3 แสีดงร(ป็ภาพัผ้�าทำ��มัดย้�อมัโดย้การเย้1บ “Tritik” ทำ��มัา : Gillow, J. 1992 : 98

เทำคน�คการกนสี�ทำ%งหมัดเหล�าน�%มั�ข�%นและเป็�นทำ��ร( �จกกนโดย้ทำ�วไป็ มั�การป็ฏิ�บต�กนมัาในหมั(�บ�านช้นบทำของอ�นเด�ย้ (India) โดย้เฉพัาะอย้�างย้��ง ในตอนกลางของหมั(�บ�านได�มั�การศ�กษาผ้�าเหล�าน�% เป็�นผ้ลงานทำ��สีร�างสีรรค"จากทำ��เคย้พับเศษผ้�า ซึ่��งทำ�าข�%นย้�อนหลง 5,000 ป็> สีะทำ�อนให�เห1นภาพัคนทำ�วๆ ไป็ หร.อป็ระเพัณ�ตามัช้นบทำของอ�นเด�ย้ ซึ่��งมั�ความัร( �และป็ระสีบการณ"การใช้�สี�ย้�อมั เช้�น ช้2ดสีาหร� (Saris) กระโป็รงบาน (Flared Skirts) และผ้�าโพักหว (Head Scarves) มัาตรฐ์านและข�อป็ล�กย้�อย้ของการทำ�าผ้�ามัดย้�อมัทำ��เป็�นแถึวของสี�ทำ��สีดใสี แต�ละเฉดสี�มั�ความัเก��ย้วเน.�องทำางสีญี่ลกษณ"ทำ��มั�ความัหมัาย้มัากทำ��สี2ดตามัทำ��กระทำ�าอย้(�เสีมัอเฉพัาะแห�งและพั�ธี�ทำางศาสีนา ช้าวอ�นเด�ย้ร( �จกผ้�ามัดย้�อมัว�า บนดานะ (Bhandhana) (Belfer, N. 1972 : 73 – 74)

ป็ระเทำศญี่��ป็2<นเร�ย้กผ้�ามัดย้�อมัว�า ซึ่�โบร2 (Shiboru) เหมัาะสี�าหรบทำ�าผ้�าโกโซึ่ดะ (Kosode) หร.อ ก�โมัโน (Kimono) ของพัวกช้นช้%นสี(ง

5

Page 6: มัดย้อม(30 Apr 08)

พัระ ทำ�าจากผ้�าไหมัมั�ความัสีวย้งามัมัาก จากน%นได�น�าผ้�าฝ้4าย้มัาทำ�ามัดย้�อมัและเป็�นทำ��ร( �จกกนด� ในสีมัย้โมัโนย้ามัา (Monoyama) มั�การทำ�าผ้�ามัดย้�อมัสีลบสี�ทำ�าให�เก�ดลวดลาย้แตกต�างออกไป็ (Belfer, N. 1972 : 8)

ภาพท�� 1.4แสีดงร(ป็ภาพัผ้�ามัดย้�อมั ซึ่�โบร2 “ (Shiboru)” ทำ��มัา : Wada, et al. 1983 : 39

การทำ�าผ้�ามัดย้�อมัในป็ระเทำศไทำย้ร( �จกกนในนามั ผ้�ามัดหมั�� ตามั“ ”

ภาษาช้าวบ�าน หมัาย้ถึ�ง การมัดเสี�นด�าย้เพั.�อให�เก�ดลวดลาย้ก�อนทำ��จะน�าไป็ทำอโดย้มัดเฉพัาะเสี�นด�าย้ โดย้ใช้�วสีด2ทำ��ไมั�ด(ดซึ่�มัสี�มัดบร�เวณทำ��ไมั�ต�องการให�ถึ(กย้�อมั ทำ�าให�เก�ดลวดลาย้บนเสี�นด�าย้ ซึ่��งจะถึ(กน�าไป็ทำอออกมัาเป็�นผ้.นผ้�าตามัแบบทำ��ได�ก�าหนดไว�แล�ว มั�อย้(� 2 ว�ธี� ค.อ การมัดแบบไมั�ได�ก�าหนดลวดลาย้และการมัดแบบก�าหนดลวดลาย้ (กรมัสี�งเสีร�มัอ2ตสีาหกรรมั. 2526 : 11)

การทำ�าผ้�ามัดย้�อมัในแต�ละป็ระเทำศจะมั�ร(ป็แบบสี�สีนทำ��แตกต�างกนไป็ มั�ลกษณะเฉพัาะตามัแต�ผ้(�สีร�างสีรรค" ช้�วงเวลา วฒนธีรรมั แต�ก1ย้งมั�ความัคล�าย้คล�งกนบ�าง ผ้�าทำ��ใช้�ก1มั�ความัหลากหลาย้ เน.%อด�บางใช้�ผ้(กมัดลาย้เล1กๆ ผ้�าหนาเหมัาะกบการทำ�าลวดลาย้ทำ��ใหญี่� ในแต�ละวฒนธีรรมัจะมั�เทำคน�คพั.%นฐ์านทำ��เหมั.อนกน ผ้�าจะถึ(กมัด พับ ผ้(ก เย้1บ แล�วน�าไป็ย้�อมัสี� เพัราะการย้�อมัเป็�นสี�วนหน��งของการมัดเพั.�อสีร�างสี� ทำ2กเทำคน�คมั�การพัฒนามัาตลอดมัาจนถึ�งทำ2กวนน�% และเก�ดว�ธี�ใหมั�ๆ มั�การผ้สีมัผ้สีานกน ซึ่��งการทำ�าผ้�ามัดย้�อมัไมั�ได�ข�%นอย้(�กบจ�านวนการมัด แต�เก��ย้วเน.�องภาย้ใน

6

Page 7: มัดย้อม(30 Apr 08)

พั.%นทำ��ทำ%งหมัดของผ้�าและการใช้�สี�ได�อย้�างเหมัาะสีมั (Meilach, Dona Z. 1973 : 18-19)

ล�กษณะของผ้�าม�ดย�อมการมัดย้�อมัสี� (Tie – Dye) เป็�นการทำ�าลวดลาย้ให�เก�ดบนผ้.นผ้�าทำ��

เป็�นแบบ Resist Dyeing หมัาย้ถึ�ง การน�าเอาวสีด2 อ2ป็กรณ"อย้�างหน��งอย้�างใด ไป็ป็Cดบงสี�วนหน��งของผ้.นผ้�าเพั.�อมั�ให�สี�แทำรกซึ่�มัเข�าไป็ในเน.%อผ้�าได�โดย้สีะดวก โดย้ว�ธี�การผ้(ก มัด พัน รด ผ้(กป็มั หร.อหน�บจบผ้.นผ้�า แล�วน�าไป็ย้�อมัสี� ก1จะทำ�าให�เก�ดลวดลาย้ข�%น ลกษณะของการทำ�าผ้�ามัดย้�อมัและการทำ�าผ้�าบาต�ก (Batik) มั�ลกษณะคล�าย้คล�งกน จะแตกต�างกนก1เพั�ย้งแต�ผ้�าบาต�กใช้�การป็4องกนสี�ไมั�ให�แทำรกซึ่�มัลงบนผ้�าตรงสี�วนทำ��ไมั�ต�องการให�ต�ดสี�ด�วย้ข�%ผ้�%ง เทำ�ย้นทำ��หลอมัละลาย้ แต�ผ้�ามัดย้�อมัใช้�เช้.อก เสี�นด�าย้ เช้.อกฟาง หนงย้าง (ย้างรด) หร.ออ2ป็กรณ"อ.� นๆ ทำ��ใช้�ป็4องกนสี�บนสี�วนของผ้.นผ้�าไว� การผ้(กมัดด�วย้เสี�นด�าย้หร.อเช้.อกน�% ทำ�าให�เก�ดแรงด�งซึ่��งเป็�นหลกเกณฑ์"ง�าย้ๆ จะมั�ผ้ลทำ�าให�เก�ดแรงกดดนลงไป็ในผ้.นผ้�าสี�วนน%นๆ จะสีามัารถึป็4องกนมั�ให�สี�แทำรกซึ่�มัเข�าไป็ในบร�เวณทำ��มั�แรงดนของเช้.อกหร.อเสี�นด�าย้ดงกล�าว

การย้�อมัสี�ผ้�ามัดย้�อมัสีามัารถึใช้�สี�ได�หลาย้ป็ระเภทำ ย้�อมัได�ทำ%งทำ��ใช้�ความัร�อนในอ2ณหภ(มั�สี(ง และสี�ย้�อมัเย้1น (อ2ณหภ(มั�ห�อง) เหมั.อนกบการย้�อมัมัดหมั��บนเสี�นด�าย้ซึ่��งเป็�นงานฝ้>มั.อทำ��เช้�ดหน�าช้(ตาของช้าวตะวนออกเฉ�ย้งเหน.อของป็ระเทำศไทำย้ การทำ�าผ้�ามัดหมั��เป็�นการมัดเสี�นด�าย้ให�เก�ดลวดลาย้ แล�วจ�งน�าไป็ทำอเป็�นผ้.นผ้�าให�เก�ดเป็�นลวดลาย้ สี�วนการทำ�าผ้�ามัดย้�อมัเป็�นการน�าผ้�าเป็�นผ้.นหร.อเสี.%อผ้�าสี�าเร1จร(ป็แล�วน�าไป็ย้�อมั ลวดลาย้ทำ��ได�จ�งไมั�เหมั.อนกน การทำ�าผ้�าบาต�กและการทำ�าผ้�ามัดหมั��จะได�ลวดลาย้ทำ��คมัช้ดและละเอ�ย้ดมัากกว�าผ้�ามัดย้�อมั ซึ่��งงานแต�ละอย้�างมั�เอกลกษณ"ความังดงามัอย้(�ในตวของมันเองโดย้เฉพัาะ (กรมัสี�งเสีร�มัอ2ตสีาหกรรมั. 2540: 1)

7

Page 8: มัดย้อม(30 Apr 08)

บทท�� 2ส่�วนประกอบของค ณส่มบ�ติ�ทางกายภาพของเส่�นใย

เสี�นใย้ผ้�า มั�ทำ%งทำ��เก�ดข�%นเองตามัธีรรมัช้าต� จากพั.ช้ สีตว" สีารอน�นทำร�ย้" และทำ��ผ้ล�ตข�%นได�จากวตถึ2ด�บทำ��มั�ใช้�เสี�นใย้ก1มั�วตถึ2ด�บเหล�าน�% บางทำ�ก1เป็�นสี��งทำ��เก�ดข�%นตามัธีรรมัช้าต�แล�วน�ามัาดดแป็ลงให�เป็�นเสี�นใย้ บางทำ�ก1เป็�นเพั�ย้งธีาต2ต�างๆ น�ามัารวมักนเข�าด�วย้กน ทำ�าให�เก�ดป็ฏิ�ก�ร�ย้าเคมั�รวมักนเป็�นสีารป็ระกอบช้น�ดใหมั� มั�ค2ณสีมับต�ทำ�า เป็�นเสี�นใย้ได� มั�อย้(�มัากมัาย้หลาย้สี�บช้น�ด ซึ่��งว�ระศกด�E อ2ดมัก�จเดช้า. มั�นาคมั - เมัษาย้น 2546 : 13

– 17 ได�จ�าแนกเสี�นใย้ไว�ดงน�%

1.เส่�นใยธรรมชาติ� (Natural Fibers)

เสี�นใย้ธีรรมัช้าต�ทำ��ใช้�กนอย้(�มั�มัากมัาย้หลาย้ช้น�ด ทำ%งช้น�ดทำ��ได�จากพั.ช้ และช้น�ดทำ��ได�จากสีตว" เป็�นเสี�นใย้ทำ��เก�ดจากผ้ลผ้ล�ตทำางเกษตรกรรมัและมั�การใช้�งานสี.บทำอดอย้�างย้าวนาน มัาต%งแต�คร%งป็ระวต�ศาสีตร"จนถึ�ง

8

Page 9: มัดย้อม(30 Apr 08)

ป็Fจจ2บน อย้�างไรก1ด� ในการแบ�งช้น�ดย้�อย้ลงไป็ของเสี�นใย้ธีรรมัช้าต�แบ�งออกเป็�น 3 ช้น�ด ดงน�%

1.1 เสี�นใย้จากพั.ช้ (Vegetable Fibers)

เสี�นใย้จากพั.ช้ มั�โครงสีร�างทำางเคมั�ทำ��ป็ระกอบไป็ด�วย้เซึ่ลล(โลสีเป็�นตวหลก ดงน%น สีมับต�โดย้ทำ�วไป็ของเสี�นใย้พั.ช้ ค.อ ด(ดซึ่�มัความัช้.%นด� น�าความัร�อนได�ด� ความัสีามัารถึในการทำนต�ออ2ณหภ(มั�สี(ง การค.นตวจากแรงอดต��า เสี�นใย้สีามัารถึเกาะกนแน�นในขณะเป็�นด�าย้ เป็�นตวน�าไฟฟ4าทำ��ด� ความัหนาแน�นสี(ง (1.5 ±) ถึ(กทำ�าลาย้ได�ด�วย้กรดจ�าพัวกกรดแร� (mineral acid) แต�มั�ผ้ลเล1กน�อย้ เน.�องจากกรดอ�นทำร�ย้" ทำนต�อแมัลง ถึ(กทำ�าลาย้ด�วย้รา และจ2ดต�ดไฟ นอกจากน%น สีมับต�ทำางเคมั�ทำ��คล�าย้กนก1มั� เช้�น ทำนกรดอ�อน หร.อกรดอ�นทำร�ย้" แต�ไมั�ทำนกรดแก� สีามัารถึทำนต�อด�างได�ด� ทำนต�อสีารละลาย้อ�นทำร�ย้" สีามัารถึซึ่กแห�งได� ทำนได�ด�ต�อสีารซึ่กฟอกทำ��มั�จ�าหน�าย้ทำ�วไป็ แต�ต�องระวงสีารซึ่กฟอกป็ระเภทำออกซึ่�ไดสี" เช้�น โป็แตสีเซึ่�ย้มัเป็อร"แมังกาเนต และโซึ่เด�ย้มัไฮโป็คลอไรทำ" อาจทำ�า ให�ความัแข1งแรงลดลงขาดง�าย้และเป็ล��ย้นเป็�นสี�เหล.อง ข�อเด�นป็ระการหน��งของเสี�นใย้พั.ช้ ค.อ ความัสีามัารถึในการรบสี�ย้�อมัได�หลาย้ช้น�ด เช้�น สี�ร�แอคทำ�ฟ สี�แว@ต สี�ไดเร1กทำ" เป็�นต�น เสี�นใย้เหล�าน�%มั�ทำ%งเสี�นใย้ทำ��ได�จากสี�วนต�างๆ ของพั.ช้ เช้�น

เสี�นใย้จากล�า ต�น เช้�น ล�น�น (Flax) ป็อกระเจา (Jute) ป็<านเฮมัป็H (Hemp) ป็<านรามั� (Ramie)

เ สี� น ใ ย้ จ า ก เ มั ล1 ด เ ช้� น ฝ้4 า ย้ (Cotton) น2� น (Kapok)

เสี�นใย้จากใบ เช้�น สีบป็ะรด (Sative) กล�วย้ (Abaca) ป็<านศรนาราย้ณ" (Sisal)

1.2 เสี�นใย้สีตว" (Animal Fibers)

9

Page 10: มัดย้อม(30 Apr 08)

เสี�นใย้สีตว" จะต�างจากเสี�นใย้พั.ช้โดย้สี�%นเช้�ง ทำ%งน�%องค"ป็ระกอบหลกทำางเคมั�ของเสี�นใย้สีตว"จะเป็�นจ�าพัวกโป็รต�น ซึ่��งมั�ลกษณะการต�อกนของกรดอะมั�โนเช้.�อมัต�อกนด�วย้แขนทำ��เร�ย้กว�า Amide หร.อ Peptide ทำ�าให�มั�น�%าหนกโมัเลก2ลสี(ง เสี�นใย้สีตว"ทำ��ร( �จกกนกว�างขวางทำ��สี2ด ค.อ เสี�นใย้ทำ��ได�จากสี�วนใดสี�วนหน��งของสีตว" ได�แก� ขนแกะ (Wool Hair) ไหมั (Silk) ผ้มัและขนสีตว"อ.�นๆ (Hair) เช้�น ขนอ(ฐ์ แคช้เมั�ย้ร" โมัแฮร" เป็�นต�น ซึ่��งต�างก1มั�องค"ป็ระกอบทำางเคมั�ทำ��สี�าคญี่คล�าย้กน ต�างกนอย้(�บ�างทำ��ป็ร�มัาณก�ามัะถึน หร.อซึ่ลเฟอร"ทำ��พับในขนสีตว" แต�แทำบไมั�พับในไหมัเลย้ ดงน%น สีมับต�โดย้ทำ�วไป็ของเสี�นใย้สีตว"การค.นตวด� การด(ดซึ่�มัความัช้.%นด� ความัแข1งแรงลดลงเมั.� อเป็>ย้ก ความัถึ�วงจ�า เพัาะต��า ถึ(กทำ�าลาย้ได�ด�วย้ด�าง ถึ(กทำ�าลาย้ได�ด�วย้สีารทำ��ทำ�าให�เก�ดการออกซึ่�ไดสี" ถึ(กทำ�าลาย้ได�ด�วย้ความัร�อนแห�ง และทำนต�อเป็ลวไฟ เสี�นใย้โป็รต�นจะมั�ความัแข1งแรงลดลงเล1กน�อย้เมั.�อเป็>ย้ก ทำ%งเสี�นใย้ขนสีตว"และไหมั โดย้เฉพัาะอย้�างย้��ง ขนสีตว"จะมั�ป็Fญี่หาในด�านการหดตวด�วย้ แต�มั�ความัสีามัารถึในการด(ดซึ่�มัความัช้.%นได�สี(ง ทำ�าให�ด(ดซึ่�มัสี�ย้�อมัได�ด�ไมั�ว�าจะเป็�นสี�แอสี�ค สี�เบสี�ก หร.อ สี�ไดเร1กทำ" ผ้�าไหมัเมั.�อย้�อมัสี�จะได�สี�ทำ��เข�มักว�าขนสีตว"

1.3 เสี�นใย้จากแร�ธีาต2 (Mineral Fibers)

เป็�น เสี�น ใย้ธีรรมัช้าต�ทำ�� ได� จากแร� ได�แก� ใย้ห�น (Asbestos)

2.เส่�นใยประด�ษฐ์- (Man – Made Fibers)

เป็�นเสี�นใย้ป็ระด�ษฐ์"ทำ��มัน2ษย้"จดทำ�า ข�%นมัาเพั.� อทำดแทำนเสี�นใย้ธีรรมัช้าต� ทำ��นบวนก1จะมั�ป็ร�มัาณไมั�เพั�ย้งพัอต�อความัต�องการทำ��เพั��มัข�%นตลอดเวลา เสี�นใย้ป็ระด�ษฐ์"ทำ��ทำ�าข�%นหลกการโดย้ทำ�วไป็ ค.อ ความัพัย้าย้ามัลอกเล�ย้นเสี�นใย้ธีรรมัช้าต� ให�ใกล� เค�ย้งมัากทำ��สี2ด และพัฒนาให�มั�ค2ณสีมับต�เฉพัาะด�านทำ��ด�ข�%น ป็Fจจ2บนช้น�ดของเสี�นใย้ป็ระด�ษฐ์"จ�งมั�จ�านวน

10

Page 11: มัดย้อม(30 Apr 08)

เพั��มัข�%น ดงน%น การจดแบ�งช้น�ดของเสี�นใย้จ�งต�องมั�ระบบรองรบเพั.�อความัเข�าใจทำ��ถึ(กต�องด�วย้การแบ�งตามัองค"ป็ระกอบทำางเคมั�ของเสี�นใย้ ซึ่��งอธี�บาย้ได�ดงต�อไป็น�%

2.1 เสี�นใย้ป็ระด�ษฐ์"เซึ่ลล(โลสี (Natural Polymer)

กล2�มัเสี�นใย้น�% เป็�นเสี�นใย้ทำ��มั�องค"ป็ระกอบทำางเคมั�เป็�นเซึ่ลล(โลสี ทำ%งน�% เน.�องจากวตถึ2ด�บทำ��ใช้�เป็�นเย้.�อไมั�และเศษผ้�า ซึ่��งล�วนแต�เป็�นวตถึ2ด�บทำ��ได�จากธีรรมัช้าต� ได�แก� พัวกว�สีโคสี (Viscose) เรย้อน (Rayon) โป็ล�โนซึ่�ค (Polynosic)

อะซึ่�เตต (Acetate) ไตรอะซึ่�เตทำ (Tri Ace Tate) เสี�นใย้เรย้อนสีามัารถึรบสี�ย้�อมัได�สีมั��าเสีมัอ และหลาย้ช้น�ดไมั�ว�าจะเป็�น สี�ไดเร1กทำ" สี�แอสี�ด และสี�ด�สีเพัอร"สี สี�วนเสี�นใย้อะซึ่�เตตกบมั�ป็Fญี่หาในการรบสี�ย้�อมั สี�วนมัากจ�งน�ย้มัย้�อมัในลกษณะทำ��ทำ�าเป็�น Solution Dyes เพั.�อให�การต�ดสี�เป็�นไป็อย้�างถึาวรแทำน

2.2 เสี�นใย้ป็ระด�ษฐ์"ช้น�ดพัอล�เมัอร"ทำ��ไมั�ใช้�เซึ่ลล(โลสี (Synthetics Fibers)

เสี�นใย้กล2�มัน�%ครอบคล2มัเสี�นใย้ป็ระด�ษฐ์"อย้�างกว�างขวาง โดย้รอบเสี�นใย้ทำ2กช้น�ดทำ��ผ้ล�ตข�%นด�วย้วตถึ2ด�บทำ��เป็�นพัอล�เมัอร"สีงเคราะห" อนเป็�นผ้ลผ้ล�ตจากอ2ตสีาหกรรมัป็Cโตรเล�ย้มัทำ%งหมัด ดงน%น จ�งไมั�น�าแป็ลกใจทำ��จะเร�ย้กเสี�นใย้น�%ว�าเสี�นใย้สีงเคราะห" (Synthetic Fibers) ทำ��ในวงการอ2ตสีาหกรรมัสี��งทำอร( �จกกนด�และใช้�งานอย้�างกว�างขวาง มั�ต%งแต�โพัล�เอสีเทำอร" (Polyester) ไนลอน (Nylon) อะคร�ล�ก (Acrylic) เป็�นต�น ด�วย้เหต2ผ้ลทำ��เสี�นใย้เหล�าน�%ล�วนแต�เป็�นเสี�นใย้ทำ��ได�จากการสีงเคราะห" ทำางเคมั� ดงน%น จ�งมักมั�สีมับต�ทำ��มั�ความัคล�าย้คล�งกนในหลาย้ป็ระเด1นดงต�อไป็น�% อ�อนไหวต�อความัร�อน ทำนต�อสีารเคมั�สี�วนใหญี่� ทำนต�อแมัลงและรา การด(ดซึ่�มัความัช้.%นต��า เป็�นพัวกทำ��เข�ากบน�%ามันได�

11

Page 12: มัดย้อม(30 Apr 08)

ไฟฟ4าสีถึ�ตย้" ทำนทำานต�อการขดถึ(ได�ด� (เสี�นใย้อะคร�ล�กต��าทำ��สี2ด) ความัแข1งแรง การค.นตวจากแรงอดด� ทำนทำานต�อแสีงแดด ความัหนาแน�นหร.อความัถึ�วงจ�าเพัาะ และการเก�ดข2ย้

สีมับต�ทำ��ต�างไป็จากเสี�นใย้ธีรรมัช้าต� ในด�านความัสีามัารถึในการด(ดซึ่�มัความัช้.%นต��า ซึ่��งเป็�นผ้ลโดย้ตรงจากองค"ป็ระกอบทำางเคมั�ของเสี�นใย้ทำ��เป็�นพัวกไมั�ช้อบน�%า สีมับต�ดงกล�าวสี�งผ้ลสีะทำ�อนต�อไป็ถึ�งสีมับต�อ.�นๆ ตามัมัาไมั�ว�าจะเป็�นเร.�องป็Fญี่หาการเก�ดไฟฟ4าสีถึ�ต ป็Fญี่หาของความัไมั�สีบาย้ในการใช้�งาน ตลอดจนถึ�งการย้�อมัสี� ตวอย้�างทำ��เห1นได�ช้ดเจน ค.อ เสี�นใย้โพัล�เอสีเตอร" ในระย้ะแรกทำ��ผ้ล�ตออกมัามั�ป็Fญี่หาอย้�ามัากกบการย้�อมัสี� จนในทำ��สี2ดได�มั�การพัฒนาสี�ย้�อมัช้น�ดด�สีเพัอร"สี เข�ามัาแก�ป็Fญี่หา เป็�นต�น

บทท�� 3การเติร�ยมผ้�า

12

Page 13: มัดย้อม(30 Apr 08)

การเตร�ย้มัผ้�า เป็�นข%นตอนหน��งทำ��มั�ความัสี�าคญี่มัากต�อค2ณภาพัของผ้ล�ตภณฑ์"ทำ��จะผ้ล�ตข�%นมัา และต�อความัสี�าเร1จของกระบวนการใช้�สี�และตกแต�งสี�าเร1จทำ��จะตามัมัา เพัราะข%นตอนน�%เป็�นการน�าผ้�าด�บมัาผ้�านกระบวนการต�างๆ เพั.�อเตร�ย้มัผ้�าให�อย้(�ในสีภาพัทำ��สีามัารถึน�าไป็ได�เป็�นอย้�างด� ซึ่��งนนทำย้า ย้าน2เมัศ. มั.ป็.ป็. อดสี�าเนา: 2-6 ได�ให�จ2ดมั2�งหมัาย้ของการเตร�ย้มัผ้�าดงต�อไป็น�%

1. เพั.�อขจดสี��งสีกป็รกในเสี�นใย้ให�มั�ความัขาวสีะอาดมั�การด(ดต�ดสี�ย้�อมั พั�มัพั" และสีารเคมั�ต�างๆ อย้�างสีมั��าเสีมัอ–

2. เพั.� อ ให� เสี�น ใย้หร.อผ้� ามั�การด(ดซึ่�มัน�%า ได�ด�ข�% น อนจะทำ�า ให�กระบวนการย้�อมั พั�มัพั" และตกแต�งสี�าเร1จทำ��ตามัมัาสีามัารถึ–

ด�าเน�นไป็อย้�างมั�ป็ระสี�ทำธี�ภาพัทำ��สี2ด ป็ระหย้ดเวลา และสีารเคมั�3. เพั.�อทำ�าให�เสี�นใย้มั�การด(ดต�ดสี�และสีารเคมั�ได�มัากข�%น4. เพั.�อให�เสี�นใย้คงร(ป็ไมั�เสี�ย้ร(ป็ในระหว�างข%นตอนการตกแต�งอ.�นๆ

ในภาย้หลง

ข�. น ติ อ น ก า ร เ ติ ร� ย ม ผ้� ากระบวนการต�างๆ ในการเตร�ย้มัผ้�า มั�ดงต�อไป็น�%

1. การเผ้าขน (Singeing) ค.อ การขจดเสี�นขนใย้สี%นทำ��โผ้ล�ข�%นมัาเหน.อพั.%นผ้�วของเสี�นด�าย้เป็�นจ�านวนมัาก โดย้การผ้�านผ้�าไป็ย้งเป็ลวแก@สีหร.อแผ้�นทำองแดง ด�วย้การใช้�ความัร�อนก�า จดป็ลาย้เสี�นใย้น�% เสี�ย้ กระบวนการเผ้าขนมั�จ2ดมั2�งหมัาย้ทำ��สี�าคญี่ ดงน�%

ก) เพั.� อทำ�า ให�ผ้�ามั�พั.% นผ้�วทำ��ด( เร�ย้บ และมั�ความัเงามันด�ข�% น กระบวนการน�%มั�ความัจ�าเป็�นโดย้เฉพัาะสี�าหรบผ้�าทำ��จะน�าไป็ช้2บมัน อดร�ด หร.อขดมัน

ข) การเผ้าขนเป็�นสี��งจ�าเป็�นสี�าหรบผ้�าย้�อมั พั�มัพั" ทำ�าให�การด(ด–

ซึ่�มัสี�และจะไมั�มั�ป็Fญี่หาความัคมัช้ดต�อการพั�มัพั"ลาย้ค)ลดป็Fญี่หาการเก�ดข2ย้บนผ้�าโพัล�เอสีเตอร"เมั.�อใช้�ไป็นานๆ

2. การลอกแป็4ง (Desizing) เป็�นข%นตอนทำ��มั�ความัจ�าเป็�นสี�าหรบผ้�าทำอ เน.�องจากในการทำอผ้�าจะต�องมั�การลอกแป็4งเสี�นด�าย้ย้.นก�อน เพั.�อให�เก�ดป็ระสี�ทำธี�ภาพัในการทำอ แต�เมั.�อน�าผ้�าทำ��ทำอเสีร1จแล�วไป็ทำ�าการฟอก

13

Page 14: มัดย้อม(30 Apr 08)

ย้�อมั แป็4งทำ��เคล.อบอย้(�บนเสี�นด�าย้จะมั�ผ้ลกระทำบต�อค2ณสีมับต�ในการด(ดซึ่�มัน�%าและสีารเคมั�ของเสี�นใย้ ดงน%น จ�งจ�าเป็�นทำ��จะต�องทำ�าการขจดออกไป็ การลอกแป็4งมั�ความัสี�าคญี่พัอสีร2ป็ได�ดงน�%

ก)การลอกแป็4งทำ�า ให�ผ้� ามั�ค2ณสีมับต� ในการเป็>ย้กน�%า ได�ด�สีมั��าเสีมัอ ช้�วย้ทำ�าให�การตกแต�งผ้�าในข%นตอนต�อไป็เป็�นไป็อย้�างมั�ป็ระสี�ทำธี�ภาพัย้��งข�%น

ข) ทำ�าให�มั�ค2ณสีมับต�ในการด(ดต�ดสี�และสีารเคมั�อย้�างสีมั��าเสีมัอทำ�วผ้.น

ค)ทำ�าให�ผ้�ามั�ความัน2�มัต�อการสีมัผ้สี ไมั�หย้าบ และแข1งกระด�าง

บทท�� 4ส่�ย�อมและการจำ&าแนกส่�

ประว�ติ�ความเป�นมาของส่�ย�อมป็ระวต�การใช้�สี�ย้�อมัของมัน2ษย้"สีามัารถึสี.บย้�อนหลงไป็ถึ�งเก.อบ

5,000 ป็> อาจกล�าวได�ว�าศ�ลป็ะการย้�อมัสี�มั�ว�วฒนาการข�%นมัาพัร�อมัๆ กบความัเจร�ญี่อ.� นๆ หลกฐ์านของการย้�อมัผ้�าได�ถึ(กค�นพับในป็ระเทำศจ�น อ�นเด�ย้ และอ�ย้�ป็ต" ซึ่��งเป็�นอารย้ธีรรมัอนเก�าแก�ของมัน2ษย้" และศ�ลป็ะแขนงน�%ได�รบการป็รบป็ร2งข�%นมัาเร.�อย้ๆ อนแสีดงให�เห1นถึ�งธีรรมัช้าต�ของมัน2ษย้"ทำ��มั�ความัรกสีวย้รกงามั และมั�ความัพัย้าย้ามัทำ��จะป็รบป็ร2งเสีร�มัแต�งเสี.%อผ้�าเคร.�องป็ระดบให�สีวย้งามัย้��งข�%นอย้(�เสีมัอ ในสีมัย้ก�อนน%น สี�ย้�อมัทำ��ใช้�ล�วนได�จากธีรรมัช้าต�ทำ%งสี�น เช้�น จากพั.ช้ สีตว" และอ�นทำร�ย้"สีารต�างๆ สี�ย้�อมัทำ��มั�ป็ระวต�เก�าแก�ทำ��สี2ดเป็�นจะได�จากสี�ครามั ซึ่��งได�จากการหมักใบจากต�นครามั แมั�ในป็Fจจ2บนสี�ครามัจากต�นครามัก1ย้งมั�การใช้�กนอย้(�โดย้เฉพัาะในช้2มัช้นบทำ ตวอย้�างสี�ทำ��ได�จากสีตว" ได�แก� สี�มั�วง (Tyrian

Purple) ซึ่��งช้าวโรมันใช้�เป็�นสี�ป็ระจ�าตระก(ลช้%นสี(ง ได�มัาจากหอย้ช้น�ดหน��งทำ��จบได�ในแถึบทำะเลเมัด�เตอร"เรเน�ย้น การใช้�สี�ธีรรมัช้าต�ในการย้�อมัผ้�าน�%ได�ด�าเน�นมัาเร.�อย้ๆ จนกระทำ�งในป็> ค.ศ. 1856 (พั.ศ. 2399) ได�มั�การค�นพับว�ธี�สีงเคราะห"สี�ย้�อมัข�%นคร%งแรก โดย้นาย้ว�เล�ย้มั เป็อร"ก�น (William Perkin) ซึ่��งขณะน%นอาย้2 18 ป็> สี�ทำ��ผ้ล�ตข�%นตวแรก ช้.� อ Mauveine ผ้ล�ตโดย้การน�า สีารอะน�ล�น (Aniline) มัาทำ�า ป็ฏิ�ก�ร�ย้า

14

Page 15: มัดย้อม(30 Apr 08)

ออกซึ่�เดช้น เก�ดเป็�นตะกอนสี�ด�า จากน%นน�าตะกอนดงกล�าวมัาสีกดด�วย้แอลกฮอล"ก1จะได�สี�มั�วงสีด (Mauve) และต%งช้.�อว�า “Anilin Purple”

หร.อ “Tyrian Purple” ผ้ลจากการค�นพับคร%งน%น ทำ�า ให�เก�ดมั�การค�นคว�าว�จย้เพั.�อหาว�ธี�การสีงเคราะห"สี�ใหมั�ๆ ข�%นอย้�างกว�างขวางในป็ระเทำศต�างๆ โดย้เฉพัาะในป็ระเทำศเย้อรมัน องกฤษ และสีหรฐ์อเมัร�กา ในป็Fจจ2บนสี�สีงเคราะห"ได� เข�ามัาแทำนทำ��สี�ธีรรมัช้าต� เก.อบทำ%งหมัดแล�ว เน.�องจากสี�ย้�อมัสีงเคราะห"มั�การผ้ล�ตและมั�ค2ณภาพัทำ��แน�นอนกว�าสี�ย้�อมัธีรรมัช้าต�และย้งทำ�าได�ง�าย้กว�า โดย้ทำ�วไป็มั�ราคาถึ(กกว�าสี�ย้�อมัธีรรมัช้าต�ป็ระเภทำเด�ย้วกนด�วย้ มั�ผ้(�ป็ระเมั�นจ�านวนสี�ย้�อมัสีงเคราะห"ทำ��ใช้�กนอย้�างทำ2กวนน�%ว�า มั�อย้(�ป็ระมัาณ 8,000 ช้น�ดต�างๆ กน (อจฉรพัร ไศละสี2ต. 2527:1-5)

ชน�ดของส่�ย�อมสี�ย้�อมัจดเป็�นสีารให�สี�ทำ��สีามัารถึละลาย้น�%าหร.อกระจาย้ตวในน�%าหร.อ

วสีด2ได� โดย้ทำ�วไป็แล�ววสีด2หน��งๆ จะมั�ความัสีามัารถึในการย้�ดเหน��ย้วสี�ย้�อมัแต�ละช้น�ดแตกต�างกนไป็ และหากแบ�งกล2�มัของสี�ย้�อมัตามัความัสีามัารถึในการละลาย้แล�วจะแบ�งได�เป็�น 2 กล2�มัใหญี่� ค.อ1. สี�ย้�อมัทำ��ละลาย้น�%าได�

สี�ย้�อมัทำ��สีามัารถึละลาย้น�%า ได� สี�วนใหญี่�แล�วจะมั�หมั(�เกล.ออย้(�ในโครงสีร�างอย้�างน�อย้ 1 หมั(� เกล.อทำ��พับมัากทำ��สี2ด ได�แก� เกล.อของกรดซึ่ลโฟน�ค (Sulphonic Acid) ซึ่��งมักเต�มัเข�าไป็ในโครงสีร�างของสีารตวกลางระหว�างการผ้ล�ตสี� นอกจากกรดซึ่ลโฟน�คแล�ว กรดทำ��น�ย้มัเต�มัเข� า ไป็ในสีารต วกลางให� เก�ด เป็�น เกล.อ ได�แก� กรดคาร"บอซึ่�ล� ก (Carboxylic Acid) สี�ย้�อมัทำ��ละลาย้น�%าได�เหล�าน�%มักอย้(�ในร(ป็ของเกล.อโซึ่เด�ย้มั และเมั.�อละลาย้ในน�%าสี�ช้น�ดน�%จะมั�ป็ระจ2ลบ (Anion) เก�ดข�%นโดย้สี�วนทำ��มั�ป็ระจ2ลบน�%เองทำ��เป็�นสี�วนทำ��ให�สี� ตวอย้�างของสี�กล2�มัน�% ได�แก� สี�ไดเร1กทำ" สี�แอสี�ด และสี�ร�แอคทำ�พั

2. สี�ย้�อมัทำ��ไมั�ละลาย้น�%าสี�ย้�อมัทำ��ไมั�ละลาย้น�%าสีามัารถึจ�าแนกได�เป็�น 3 กล2�มั ค.อ

15

Page 16: มัดย้อม(30 Apr 08)

2.1ทำ��ละลาย้ในเน.%อวสีด2 (Dyes Soluble in The Substrate)

สี�กล2�มัน�% ได�แก� สี�ด�สีเพัอสี ซึ่��งย้�อมัโดย้การเตร�ย้มัให�สี�กระจาย้ตวในน�%าก�อนทำ��จะย้�อมับนเสี�นใย้สีงเคราะห" นอกจากน�%ย้งได�แก� สี�ทำ��ละลาย้ได�ตวทำ�าละลาย้ (Solvent–Soluble Dyes) ซึ่��งหมัาย้ถึ�ง สี�ทำ��สีามัารถึละลาย้ในตวทำ�าละลาย้ทำ2กช้น�ด

2.2ละลาย้น�%าได�ช้�วคราว (Temporarily Solubilised Dyes)

สี�เหล�าน�% ได�แก� สี�ทำ��ในสีภาวะป็กต�จะไมั�สีามัารถึละลาย้น�%าได� แต�สีามัารถึเป็ล��ย้นให�อย้(�ในร(ป็ทำ��ละลาย้น�%าได�โดย้กระบวนการทำางเคมั� จากน%นน�าสีารละลาย้สี�น%นไป็ย้�อมัเสี�นใย้ แล�วจ�งเป็ล��ย้นกลบให�อย้(�ในร(ป็สี�ทำ��ไมั�ละลาย้น�%าเมั.�อสี�แทำรกซึ่�มัเข�าไป็ในเสี�นใย้แล�ว ตวอย้�างของสี�กล2�มัน�% ได�แก� สี�ซึ่ลเฟอร" และสี�แว@ต ซึ่��งถึ(กเป็ล��ย้นให�อย้(� ในร(ป็ทำ��ละลาย้น�%า ได� โดย้ป็ฏิ�ก�ร�ย้าร�ดกช้�นในสีารละลาย้ด�าง และสีามัารถึเป็ล��ย้นกลบให�มัาอย้(�ในร(ป็ทำ��ไมั�ละลาย้น�%าได�โดย้ป็ฏิ�ก�ร�ย้าออกซึ่�เดช้�นด�วย้อากาศหร.อสีารเคมั�

2.3สี�ผ้น�กควบ (Poly Condensation Dyes) สี�ช้น�ดน�% ได�แก� สี�ทำ��สีามัารถึเก�ดพันธีะโควาเลนทำ" (Covalent Bond) กบโมัเลก2ลสี�ด�วย้กนหร.อกบสีารป็ระกอบอ.�นๆ (ทำ��ไมั�ใช้�วสีด2สี��งทำอ)

เก�ดเป็�นสีารป็ระกอบหร.อโมัเลก2ลทำ��มั�ขนาดใหญี่�ข�%น มักเร�ย้กสี�ช้น�ดน�%ว�า สี�ผ้น�กควบ “ ” (Condense Dyes)

2.4สี� ทำ�� เ ก� ด ภ า ย้ ใ น เ สี� น ใ ย้ (Dyes Formed Within the

Fiber) สี�กล2�มัน�% ได�แก� สี�อะโซึ่อ�ค (Azoic Dyes) ซึ่��งจดเป็�นสี�อะโซึ่ทำ��ไมั�ละลาย้น�%า (Insoluble Azo) การย้�อมัสี�ช้น�ดน�%ทำ�าโดย้การใช้�สีารเคมั�ค(�ควบ (Coupling Component) ทำ�าป็ฏิ�ก�ร�ย้ากบสีารไดอะโซึ่ (Diazo Component) เก�ดเป็�นสี�อะโซึ่ข�%นภาย้ในเสี�นใย้ จากน%นเมั.�อน�าวสีด2สี��งทำอมัาทำ�าการก�าจดสี�สี�วนเก�นออก โดย้ต�มักบน�%าสีบ(�ก1จะทำ�าให�ผ้น�กต�ดเสี�นใย้ได�ด�ย้��งข�%นทำ�าให�สี�ช้น�ดน�%มั�ความัคงทำนต�อการซึ่ก

2.5พั�กเมั�นทำ" (Pigments) พั�กเมั�นทำ"ต�างจากสี�ย้�อมัทำ��พั�กเมั�นทำ"ไมั�มั�ความัสีามัารถึในการย้�ดเหน��ย้วกบเสี�นใย้หร.อวสีด2 นอกจากน%นอาจรวมัตวกนเพั�ย้งไมั�ก��โมัเลก2ลเป็�นเมั1ดสี� พั�กเมั�นทำ"มักใช้�ใน

16

Page 17: มัดย้อม(30 Apr 08)

ร(ป็สีารแขวนลอย้ในน�%ามันหร.อสีารทำ��มั�ลกษณะคล�าย้เรซึ่�น ซึ่��งมักเป็�นสีารทำ�� ไมั�ละลาย้น�%า (องคณา อมัรศร�. มั�นาคมั – เมัษาย้น 2546 : 21- 22)

การจำ&าแนกติ�วส่�ติามว�ธ�ท��ใช�สี�ย้�อมั (Dyes) ค.อ สีารทำ��มั�สี�ทำ��ละลาย้น�%าได�หร.ออาจทำ�าให�อย้(�ในร(ป็ทำ��

ละลาย้น�%าได�เวลาใช้�มักจะถึ(กด(ดซึ่�มัเข�าไป็ในวสีด2ทำ��ถึ(กย้�อมัจากสีารละลาย้ในน�%า ป็ระโย้ช้น"ทำ��สี�าคญี่ทำ��สี2ดของสี�ย้�อมัก1ค.อ การให�สี�แก�วสีด2สี��งทำอในป็Fจจ2บนสีามัารถึแบ�งสี�ย้�อมัออกได�เป็�น 2 ป็ระเภทำ ค.อ

1. สี�ย้�อมัธีรรมัช้าต� (Natural Dyes)

2. สี�ย้�อมัสีงเคราะห" (Synthetic Dyes)

1. สี�ย้�อมัธีรรมัช้าต� (Natural Dyes)

สี�ย้�อมัธีรรมัช้าต�เป็�นสี�ย้�อมัต%งแต�ด%งเด�มัจะเป็�นสี�ทำ��ได�จากธีรรมัช้าต� ตามัหลกฐ์านศ�ลป็ะการย้�อมัสี�ทำ��เก�ดข�%นทำางภาคพั.%นตะวนออก เช้�น จ�น อ�นเด�ย้ เป็อร"เซึ่�ย้ และอ�ย้�ป็ต" ซึ่��งทำ�า ใช้�กนในสีมัย้ก�อนป็ระวต�ศาสีตร"ป็ระมัาณ 5,000 ป็> สี�ย้�อมัทำ��ได�จากธีรรมัช้าต� ซึ่��งได�จากพั.ช้และสีตว" สี�วนทำ��ได�จากพั.ช้น%นได�จากต�นไมั� เป็ล.อก ราก แก�น ใบ และผ้ล มั�ว�ธี�การย้�อมัแบบ พั.%นบ�าน โดย้เฉพัาะช้าวอ�สีานและภาคเหน.อน�ย้มัใช้�สี�ธีรรมัช้าต�ในการย้�อมัด�าย้ฝ้4าย้ เพัราะมั�ความัเช้.�อกนว�า สี�สีงเคราะห"มักจะได�สี�ทำ��ไมั�ค�อย้สีดใสี ในสีมัย้โบราณน�ย้มัใช้�ย้�อมัผ้�าไหมั สีไบ จ�วรพัระ ผ้�าฝ้4าย้ แห และอวน ซึ่��งจะต�องน�าต�น เป็ล.อก หร.อราก ฯลฯ ดงกล�าวมัาบด สีบ และมั�ตวช้�วย้เสีร�มัให�สี�น %นต�ดแน�น สี�ย้�อมัจากธีรรมัช้าต�ทำ��ย้งใช้�อย้(�ในป็Fจจ2บนน�%มั�ดงต�อไป็น�%

1)สี�แดง ได�จากรากย้อ แก�นฝ้าง ล(กด�าแสีด เป็ล.อกสีมัอ น�ย้มัใช้�ย้�อมัไหมั

2)สี�ครามั ได�จากต�นครามัหร.อต�นฮ�อมั โดย้ใช้�ใช้�รากและใบต�นครามั ผ้สีมักบป็(นขาวและน�%า

3)สี�เหล.อง ได�จากแก�นเข หร.อแก�นตาล แก�นขน2น เน.%อไมั�ของต�นหมั�อนใช้�ย้�อมัผ้�าไหมั ใบเสีน�ย้ด ย้างของต�นธีงทำอง แก�นของสี2

17

Page 18: มัดย้อม(30 Apr 08)

พัรรณ�การ" ล(กมัะคาย้ ล(กมัะแสีดรวมักบด�างไมั�สีะแกและหวขมั�%นสีวน และเป็ล.อกไมั�นมัแมัว

4)สี�ตองอ�อน ได�จากเป็ล.อกของต�นมัะพั(ด เป็ล.อกผ้ลทำบทำ�มั แก�นแกแลรวมักบต�นครามั ใบห(กวาง เป็ล.อกและผ้ลสีมัอพั�เภก ใบสี�มัป็อย้ผ้สีมักบผ้งขมั�%น จะให�สี�เข�ย้ว นอกจากน�%ย้งมั�ใบสีบป็ะรดอ�อน ใบแค

5)สี�ด�า ได�จากล(กมัะเกล.อ ล(กกระจาย้ ต�นกระเมั1ง ผ้ลและเป็ล.อกของสีมัอ

6)สี�สี�มั ได�จากเป็ล.อกและรากย้อ เป็ล.อกรากจะให�สี�แดง เน.%อของรากย้อจะให�สี�เหล.อง ถึ�าใช้�เป็ล.อกรากผ้สีมักบเน.%อรากจะให�สี�สี�มั น�ย้มัใช้�ย้�อมัผ้�าฝ้4าย้ ผ้�าไหมั ไหมัพัรมั หลอดสี�สี�มัของดอกกรรณ�การ"น�ามัาตากแห�งแล�วต�มัจะได�น�%าสี�สี�มั เมัล1ดของล(กสีะต�

7)สี�เหล.องอมัสี�มั ได�จากดอกค�าฝ้อย้8)สี�มั�วงอ�อน ได�จากล(กหว�า9)สี�ช้มัพั( ได�จากต�นฝ้าง ต�นมัหากาฬ10)สี�น�%าตาลแก� ได�จากเป็ล.อกไมั�โกงกาง11)สี�กาก�แกมัเหล.อง ได�จากหมัากสีงกบแก�นแกแล12)สี�เข�ย้ว ได�จากเป็ล.อกต�นมัะร�ดไมั� ใบห(กวาง เป็ล.อกสีมัอ เป็ล.อก

กระห(ด ครามั แล�วทำบด�วย้แถึลง13)สี�เป็ล.อกไมั� ได�จากต�นล(กฟ4า หนามักราย้ ไมั�โกงกาง เป็ล.อก

ตะบ(น (กรมัสี�งเสีร�มัอ2ตสีาหกรรมั. 2529:150-151)

2. สี�ย้�อมัสีงเคราะห" (Synthetic Dyes)

อจราพัร ไศละสี(ต. 2527 : 80-85 ได�กล�าวถึ�งสี�สีงเคราะห"ว�า สี�สีงเคราะห" ได�แก� สี�ทำ��ได�ค�นคว�าผ้ล�ตข�%นโดย้การน�าสีารเคมั�มัาป็ระกอบกน

18

Page 19: มัดย้อม(30 Apr 08)

เป็�นตวสี� โดย้เก�ดป็ฏิ�ก�ร�ย้าระหว�างตวสีารเคมั� ซึ่��งถึ�ามั�การจ�าแนกสี�ตามัสี�วนป็ระกอบจะมั�ความัย้2�งย้ากมัาก ขณะทำ��สี�ในกล2�มัเคมั�เด�ย้วกนมั�ว�ธี�การย้�อมัแตกต�างกน ใช้�กบเสี�นใย้แตกต�างกน เช้�น สี�ในกล2�มัอะโซึ่ (Azo) บางตวย้�อมัง�าย้โดย้ตรงเป็�นสี�ไดเร1กทำ" (Direct) บางตวจ�าเป็�นต�องมั�สีารบางอย้�างมัาช้�วย้จ�งจะต�ดเสี�นใย้ได� เร�ย้กว�า สี�มัอร"แดนทำ" จะเห1นได�ว�าจดจ�าได�ย้าก จ�าแนกตามัว�ธี�เด�มั ค.อ เร�ย้กตามักระบวนการย้�อมัและตามัลกษณะของสี�เพั.�อความัสีะดวกแก�ผ้(�ใช้�จ�งพัอจะแย้กได� ดงน�%

1)สี�เบสี�ค (Basic Dyes) ค.อ สี�ย้�อมัซึ่��งเมั.�อละลาย้ในน�%า โมัเลก2ลสี�จะมั�ป็ระจ2บวก ใช้�ย้�อมัเสี�นใย้อะคร�ล�ค โป็รต�น และไนลอนได� ต�ดด� การเกาะต�ดของสี�ย้�อมัป็ระเภทำน�%ในเสี�นใย้ อาศย้แรงด�งด(ดระหว�างป็ระจ2บวกบนสี�ย้�อมักบป็ระจ2บนเสี�นใย้เป็�นสี�าคญี่

2)สี�แอสี�ด (Acid Dyes) ค.อ สี�ย้�อมัเมั.�อละลาย้ในน�%าแล�ว โมัเลก2ลของสี�จะมั�ป็ระจ2เป็�นลบ และมักจะใช้�ย้�อมัในน�%าย้�อมัทำ��มั�ความัเป็�นกรด ใช้�ย้�อมัเสี�นใย้โป็รต�น และไนลอนได� ต�ดด� การเกาะต�ดของสี�ย้�อมัป็ระเภทำน�%ในเสี�นใย้อาศย้แรงด�งด(ดระหว�างป็ระจ2ลบบนโมัเลก2ลของสี� กบป็ระจ2บวกบนโมัเลก2ลของเสี�นใย้เป็�นสี�า ค ญี่ สี� ก ล2� มั น�% มั ก จ ะ มั� ก ล2� มั ซึ่ ล โ ฟ น� ค (Sulphonic

Groups) ซึ่��งให�ป็ระจ2ลบในน�%า สี�แต�ละช้น�ดในกล2�มัน�%มั�ความัคงทำนต�อแสีงสีว�างมั�ความัคงทำนต�อการซึ่กและเหง.อไคลไมั�เทำ�ากน ซึ่��งจ�าเป็�นต�องเล.อกใช้�ให�เหมัาะสีมักบป็ระโย้ช้น"ใช้�สีอย้

3)สี�ไดเร1กทำ" (Direct Dyes) ค.อ สี�ย้�อมัซึ่��งเมั.�อละลาย้ในน�%าแล�วโมัเลก2ลสี�จะมั�ป็ระจ2ลบ ใช้�ย้�อมัพัวกเสี�นใย้เซึ่ลล(โลสีได� ต�ดด� และโดย้ป็กต�ในการย้�อมัมักจะต�องมั�การใสี�สีารพัวกอ�เลคโตรไลทำ" เช้�น พัวกเกล.อโซึ่เด�ย้มัคลอไรด" ลงไป็ช้�วย้ในการย้�อมัด�วย้การเกาะต�ดบนโมัเลก2ลของเสี�นใย้อาศย้แรงด�งด(ดแวนเดอวาลสี" (Van Der Waals’s Forces) เป็�นสี�าคญี่ สี�ไดเร1กทำ"สี�วนใหญี่� ไมั�ทำนต�อกระบวนการทำ��ใช้�น�%า เช้�น ซึ่กการทำ�าความัสีะอาด สี�บางตวทำนแดดได�ด� บางตวใช้�ไมั�ได�เลย้ ข�อบกพัร�องน�%แก�ไขด�วย้การตกแต�งภาย้หลงโดย้การย้�อมัทำบ (Coupling) ด�วย้

19

Page 20: มัดย้อม(30 Apr 08)

ฟ>นอล หร.อสีาร Aromatic Amine ทำ�า ให�สี� ไมั�ตก แต�สี� (Hue) จะเป็ล��ย้นไป็ตามัแต�ละช้น�ดของสีารทำ��น�ามัาย้�อมัทำบ

4)สี�แว@ต (Vat Dyes) ค.อ สี�ย้�อมัทำ�� ไมั�ละลาย้น�%า ทำ��มั�กล2�มัค� โต (Keto Group C=O) อย้(� ป็กต�ใช้�ย้�อมัเสี�นใย้ฝ้4าย้เป็�นสี�วนใหญี่� ในการย้�อมัจะต� องน�%า สี�ย้� อมัมัาทำ�า ป็ฏิ� ก� ร�ย้ า เค มั� (Redyction) ให�อย้(�ในร(ป็ทำ��ละลาย้ได�ในน�%าทำ��มั�ความัเป็�นด�าง เพั.�อให�ด(ดซึ่�มัเข�าไป็ในเสี�นใย้ได�เมั.�อเข�าไป็อย้(�ในเสี�นใย้แล�วจ�งทำ�าป็ฏิ�ก�ร�ย้าเคมั� (Oxidation) ให�กลบไป็อย้(�ในร(ป็เด�มัทำ��ละลาย้น�%าไมั�ได� ด�วย้ว�ธี�น�%สี�ย้�อมัจะมั�ความัต�ดทำนอย้(�ในเสี�นใย้ไมั�หล2ดกลบออกมัาในการซึ่ก สี�แว@ต ใช้�ย้�อมัเสี�นใย้เซึ่ลล(โลสี โดย้เฉพัาะฝ้4าย้ ไมั�น�ย้มัย้�อมัเสี�นใย้โป็รต�น เพัราะในกระบวนการย้�อมัต�องใช้�สีารละลาย้ทำ��เป็�นด�างซึ่��งทำ�าลาย้เสี�นใย้โป็รต�น ความัคงทำนของสี�แว@ตไมั�เทำ�ากนทำ2กตว บางตวค�อนข�างสี(ง

5)สี�ด�สีเพัอสี (Disperse Dyes) ค.อ สี�ย้�อมัทำ��มั�การละลาย้น�%าได�ต��า ใช้�ย้�อมัเสี�นใย้ทำ��มั�การด(ดซึ่�มัน�%า น�อย้ (Hydrophobic

Fibers) โดย้เฉพัาะพัวกเสี�นใย้สีงเคราะห"ต�างๆ ได�ด� เช้�น เสี�นใย้อาซึ่�เตทำ โพัล�เอสีเตอร" อะคร�ล�ค และไนลอน เป็�นต�น ในน�%า ย้�อมัสี�สี�วนใหญี่�จะไมั�ละลาย้ในน�%า แต�จะอย้(� ในน�%า ย้�อมัในลกษณะของสีารกระจาย้ (Dispersion) ทำ��เหมัาะสีมัใช้�ย้�อมัในน�%าย้�อมัธีรรมัดาไมั�ต�องใช้�สีารเคมั�อย้�างอ.�นช้�วย้อ�กนอกจากสีารพัา (Carrier) ให�ตวสี�เข�าไป็ใกล�เสี�นใย้เทำ�าน%น สี�ด�สีเพัอสี มั�ความัคงทำนต�อแสีง การซึ่กฟอกและเหง.�อไคลได�ด� สี�มักซึ่�ดเมั.�อแขวนไว�ให�ถึ(กกบไนโตรเจนในบรรย้ากาศนานๆ โดย้เฉพัาะอย้�างย้��งผ้�าอาซึ่�เตรทำ

6)สี�อะโซึ่อ�ค (Azoic Dyes) ค.อ สี�ย้�อมัทำ��ไมั�ละลาย้น�%าได�จากการสีงเคราะห"ข�%นภาย้ในเสี�นใย้ด�วย้การทำ�า ป็ฏิ�ก�ร�ย้าทำางเคมั� (Coupling Reaction) ร ะ ห ว� า ง เ ก ล. อ ไ ด อ ะ โ ซึ่ เ น� ย้ มั (Diazo Component) ก บ สี า ร ป็ ร ะ ก อ บ ทำ�� เ ห มั า ะ สี มั (Coupling Component) เ ก� ด เ ป็� น สี� ย้� อ มั ทำ�� มั� สี( ต รโครงสีร�างของสี�อะโซึ่ ในการย้�อมัตวทำ�าป็ฏิ�ก�ร�ย้าทำ%งสีองจะถึ(ก

20

Page 21: มัดย้อม(30 Apr 08)

ย้�อมัเข�าไป็ในเสี�นใย้ก�อน แล�วจ�งน�าผ้�าทำ��ย้�อมัแล�วไป็จ2�มัในสีารเคมั�ซึ่��งจะทำ�า ให�สีารทำ��สีองตวทำ�าป็ฏิ�ก�ร�ย้ากน เก�ดเป็�นสี�ย้�อมัภาย้ในเสี�นใย้ สี�ย้�อมัป็ระเภทำน�%น�ย้มัใช้�กบการย้�อมัเสี�นใย้ฝ้4าย้มัากทำ��สี2ด ต�ดทำนมัากกว�าสี�ช้น�ดอ.�น ย้กเว�น สี�แว@ต ทำนต�อการซึ่ก ทำนกรด ด�าง แสีงสีว�าง และคลอร�น แต�เน.�องจากเป็�นสี�ทำ��ต�ดบนเสี�นใย้จ�งอาจหล2ดออกเมั.�อถึ(แรงๆ

7)สี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive Dyes) ค.อ สี�ย้�อมัทำ��ละลาย้น�%า ได� สีามัารถึทำ�าป็ฏิ�ก�ร�ย้าทำางเคมั�กบเสี�นใย้โดย้ตรง ทำ�าให�เกาะต�ดอย้(�ก บ โ มั เ ล ก2 ล ข อ ง เ สี� น ใ ย้ พั น ธี ะ ทำ า ง เ ค มั� (Covalent

Bonding) สี�วนใหญี่�ใช้�ย้�อมัเสี�นใย้เซึ่ลล(โลสี เน.�องจากสี�รวมักบเสี�นใย้เป็�นโมัเลก2ลเด�ย้วกนจ�งต�ดทำน เวลาซึ่กน�%าสี�ไมั�ตกเหมั.อนสี�แว@ต ทำ%งย้งย้�อมัง�าย้ ให�สี�สีดใสี

8)ซึ่ลเฟอร" (Sulphur Dyes) ค.อ สี�ย้�อมัทำ��ไมั�ละลาย้น�%า และมั�ซึ่ลเฟอร"เป็�นสี�วนป็ระกอบในโครงสีร�างทำ��ทำ�าให�เก�ดสี� ใช้�ในการย้�อมัเสี�นใย้ฝ้4าย้เป็�นสี�วนใหญี่� ว�ธี�ย้�อมัคล�าย้กบสี�แว@ต กล�าวค.อ ก�อนย้�อมัจะต�องน�าไป็ทำ�าป็ฏิ�ก�ร�ย้าให�อย้(�ในร(ป็ทำ��ละลาย้น�%าได�ก�อนเมั.�อย้�อมัเสีร1จแล�วจ�งทำ�าป็ฏิ�ก�ร�ย้าให�กลบไป็อย้(�ในร(ป็เด�มัทำ��ไมั�ละลาย้น�%า สี�ซึ่ลเฟอร" ใช้�ย้�อมัเสี�นใย้เซึ่ลล(โลสี ให�สี�ค�อนข�างขร�มั เช้�น ด�า น�%าตาล น�%าเง�น เข�ย้ว เป็�นต�น ผ้�าทำ��ย้�อมัแล�วสี�ต�ดทำนมัาก ทำนต�อการซึ่ก ทำนต�อแสีงแดด เหง.�อไคล กรด ด�าง แต�ไมั�ทำนต�อสีารฟอกสี�ป็ระเภทำคลอร�น

9)สี�มัอร"แดนทำ" (Mordant Dyes) ค.อ สี�ย้�อมัทำ��เกาะต�ดอย้(�ภาย้ในเสี�นใย้ในลกษณะของสีารป็ระกอบเช้�งช้�อนกบโลหะ สี�วนใหญี่�ใช้�ในการย้�อมัเสี�นใย้โป็รต�นและไนลอน การย้�อมัในข%นตอนแรกเป็�นไป็อย้�างธีรรมัดาคล�าย้กบการย้�อมัด�วย้สี�แอสี�ด แต�เมั.�อเสีร1จแล�วจะต�องน�าไป็ทำ�าป็ฏิ�ก�ร�ย้ากบสีารละลาย้ของเกล.อโลหะ เช้�น เกล.อและโลหะโครเมั�ย้มั เพั.�อให�เก�ดเป็�นป็ระกอบเช้�งซึ่�อนข�%นในเสี�นใย้ การเก�ดสีารป็ระกอบเช้�งซึ่�อนในเสี�นใย้น�% ทำ�าให�สี�ย้�อมัมั�ความัต�ดทำนอย้(�ในเสี�นใย้ได�ด�ข�%น เน.�องจากโมัเลก2ลสี�มั�ขนาดทำ��ใหญี่�ข�%น

21

Page 22: มัดย้อม(30 Apr 08)

10)สี�อ@อกซึ่�เดช้น (Oxidation Dyes) ค.อ สี�ย้�อมัทำ��สีามัารถึถึ(กอ@อกซึ่�ไดซึ่"ให�อย้(�ในร(ป็ทำ��ละลาย้น�%า ภาย้หลงทำ��ได�ย้�อมัให�เข�าไป็เกาะต�ดในเสี�นใย้แล�ว สี�วนใหญี่�ใช้�ในการย้�อมัเสี�นใย้ฝ้4าย้ สี�พัวกน�%ถึ(กอ@อกซึ่�ไดซึ่"ในเสี�นใย้จะทำ�าป็ฏิ�ก�ร�ย้าเก�ดเป็�นโมัเลก2ลขนาดใหญี่� ซึ่��งย้งไมั�เป็�นทำ��ทำราบแน�ช้ดว�าป็ฏิ�ก�ร�ย้าทำ��เก�ดข�%นเป็�นไป็ในร(ป็ใด และโมัเลก2ลขนาดใหญี่�ทำ��เก�ดข�%นมั�สี(ตรทำางเคมั�อย้�างใด

11)สี� อ� น เ ก ร น (Ingrain Dyes) ค. อ สี� ย้� อ มั ทำ�� ไ ด� จ า ก ก า รสีงเคราะห"ข�%นในเสี�นใย้ด�วย้การทำ�าป็ฏิ�ก�ร�ย้าระหว�างสีารตวกลาง (Intermediates) ในเสี�นใย้ นอกเหน.อจากพัวกทำ��เป็�นสี�อะโซึ่อ�ค ตวอย้�างทำ��สี�าคญี่ ได�แก� สี�ธีอลโลไช้ย้าน�น ซึ่��งใช้�ย้�อมัเสี�นใย้ฝ้4าย้เป็�นสี�วนใหญี่�

12)สี�โอเน�ย้มั (Onium Dyes) เป็�นทำ��พั�กเมั�นทำ"ทำ��ละลาย้น�%าได� โดย้เล.อกเอาตวสี�พั�กเมั�นทำ"ทำ��มั�ความัคงทำนต�อสีารเคมั�และแสีงน�ามัาป็รบป็ร2งให�มั�กล2�มัเคมั�ทำ��ละลาย้น�%าได� กลว�ธี�การย้�อมัจะด�าเน�นแบบเด�ย้วกบสี�แว@ตทำ��ละลาย้น�%าได� โดย้ให�สี�ด(ดซึ่�มัเข�าไป็ ในผ้�าแล�วเป็ล��ย้นกลบมัาเป็�นตวสี�ทำ��ไมั�ละลาย้น�%าอ�กคร%ง ป็กต�ใช้�พั�มัพั"มัากกว�าย้�อมั

22

Page 23: มัดย้อม(30 Apr 08)

บทท�� 5ทฤษฎี�ส่� (Color Theory)

สี� (Color) หมัาย้ถึ�ง ลกษณะความัเข�มัของแสีงทำ��กระทำบกบสีาย้ตาให�เห1นเป็�นสี�มั�ผ้ลถึ�งจ�ตว�ทำย้า ค.อ มั�อ�านาจบนดาลให�เก�ดอารมัณ" และความัร( �สี�กได�จากการทำ��ได�เห1นสี�จากสีาย้ตาและสี�งความัร( �สี�กทำ��ร บร( �ไป็ย้งสีมัองทำ�าให�เก�ดความัร( �สี�กต�างๆ ตามัอ�ทำธี�พัลของสี� เช้�น สีดช้.�น ร�อน ต.�นเต�น เศร�า สี�มั�ความัหมัาย้อย้�างมัาก เพัราะศ�ลป็Cนต�องการใช้�สี�เป็�นสี.�อสีร�างความัป็ระทำบใจในผ้ลงานของศ�ลป็ะและสีะทำ�อนความัป็ระทำบใจน%นให�ย้งเก�ดแก�ผ้(�ด(

ความเป�นมาของส่� (Colour History)

สี�มั�อย้(�ในธีรรมัช้าต�ทำ�วๆ ไป็ มั�ความักลมักล.น มั�ความัสีมัพันธี"และมั�ความัแตกต�างกน มั�ถึ��นก�าเน�ดจากธีรรมัช้าต� นกว�ช้าการทำางทำฤษฎ�สี�ได�ให�ค�าจ�ากดความัได�ว�า สี� ค.อ คล.� นของแสีงหร.อความัเข�มัของแสีงทำ��มัากระทำบตาเรา ลกษณะของแสีงทำ��ป็รากฎแก�สีาย้ตาเราให�เห1นเป็�นสี�ขาว ด�า เข�ย้ว เป็�นต�น ซึ่��งสีามัารถึมัองเห1นด�วย้จกษ2สีมัผ้สีจากการสีะทำ�อนรศมั�ของแสีง (Spectrum) มัาสี(�ตาเราน�นเอง สี�สีามัารถึแย้กออกเป็�น 2

ป็ระเภทำ ค.อ 1. สี�ธีรรมัช้าต� เป็�นสี�ทำ�� เก�ดเองตามัธีรรมัช้าต� เช้�น สี�ของแสีง

อาทำ�ตย้" สี�ของทำ�องฟ4าย้ามัเช้�า-เย้1น สี�ของร2 �งก�นน�%า เหต2การณ"ทำ��

23

Page 24: มัดย้อม(30 Apr 08)

เก�ดข�%นเองตามัธีรรมัช้าต� ตลอดจนสี�ของดอกไมั� ต�นไมั� พั.%นด�น ทำ�องฟ4า น�%าทำะเล เป็�นต�น

2. สี�ทำ��มัน2ษย้"สีร�างข�%นหร.อได�จากการสีงเคราะห" เช้�น สี�ว�ทำย้าศาสีตร" มัน2ษย้"ได�ทำดลองจากแสีงต�างๆ เช้�น ไฟฟ4า หร.อแสีงพั�เศษ น�ามัาผ้สีมัโดย้การทำอแสีงป็ระสีานกน น�ามัาใช้�ป็ระโย้ช้น"ในด�านการละคร การจดฉากเวทำ� ภาพัย้นตร" โทำรทำศน" การตกแต�งสีถึานทำ�� และการออกแบบงานด�านต�างๆ

สี�ทำ��มัน2ษย้"สีร�างข�%น ย้งมั�สี�วตถึ2ธีาต2ทำ��จดเป็�นวสีด2ของสี� เช้�น สี�น�%า สี�น�%ามัน สี�เมัจ�ก สี�ช้อล"ก สี�โป็สีเตอร" ตลอดจนสี�ย้�อมัและสี�เพันทำ"สี��งทำอ ซึ่��งสี�เหล�าน�%น�ามัาสีร�างสีรรค"งานต�างๆ ได�เป็�นอย้�างด� และมั�การผ้สีมัทำ��เข�าด�วย้กนต%งแต� 2 สี�ข�%นไป็ ก1จะทำ�าให�เก�ดสี�ทำ��แตกต�างออกไป็จากเด�มัและแต�ละสี�จะทำ�าให�เก�ดความัร( �สี�กผ้�านการสีมัผ้สีโดย้ใช้�ตาเป็�นสี.�อมัองเห1น

สี�สี�วนใหญี่�น�ามัาจากวตถึ2ในธีรรมัช้าต�มัาใช้�เป็�นสี�สี�าหรบเข�ย้น เช้�น สี�ขาวได�จากด�นขาว สี�เหล.อง สี�แดง ได�มัาจากด�นเหล.องและด�นแดง สี�ด�าเอามัาจากเขมั�าไฟหร.อตวหมั�ก ช้นช้าต�จ�นมั�ความัสีามัารถึค�นหาสี�จากธีรรมัช้าต�ได�มัาก ค.อ น�าเอาห�นสี�มัาบดเป็�นสี�ต�างๆ สี�เหล.องทำ�าจากย้างรงค" สี�ครามัได�จากต�นครามั สี�วนใหญี่�ค�ดค�นสี�มัาย้�อมัเสี.%อผ้�าหร.อเสี�นด�าย้สี�าหรบทำอผ้�า แต�ไมั�น�ย้มัเอามัาใช้�ในการเข�ย้นภาพั เพัราะจ�นมั�คต�การเข�ย้นภาพัด�วย้สี�ด�าเพั�ย้งสี�เด�ย้ว สี�วนภาพัเข�ย้นของไทำย้โบราณใช้�สี�หลาย้สี�เทำ�าทำ��จะหาได�จากธีรรมัช้าต�จ�งมั�เพั�ย้งสี�ด�า สี�ขาว สี�ด�นแดง และสี�เหล.อง เทำ�าน%น ผ้�ดกบสีมัย้น�% มัน2ษย้"สีามัารถึผ้ล�ตสี�ได�มัากมัาย้หลาย้ช้น�ด การใช้�สี�จ�งเป็�นเร.�องย้าก สี�สีดๆ บางสี�เมั.�ออย้(�ใกล�เค�ย้งกนเข�ากนไมั�ได� สี�บางตวจะตดกนอย้�างร2นแรง เช้�น สี�เข�ย้วกบสี�แดง สี�เหล.องกบสี�มั�วง และสี�สี�มักบสี�น�%าเง�น เป็�นต�น จ�งจ�าเป็�นอย้�างย้��งทำ��ต�องเร�ย้นร( �กฎเกณฑ์"ในการใช้�สี�ก�อนจ�งจะป็ฏิ�บต�งานได�เป็�นผ้ลสี�าเร1จตามัจ2ดมั2�งหมัาย้ (ทำว�เดช้ จ�Aวบาง. 2536 : 1-4)ค ณล�กษณะเฉพาะของส่� (Colour Characteristic)

สี�เก�ดจากการผ้สีมัของเน.% อสี� (Pigment Colours) มั�ลกษณะเฉพัาะ 3 ช้น�ด ค.อ

24

Page 25: มัดย้อม(30 Apr 08)

1. วรรณะ (Hue) ค.อ ค2ณสีมับต�ทำ��แสีดงให�เห1นถึ�งความัแตกต�างของสี�ว�าเป็�นสี�ใดสี�หน��ง เช้�น สี�แดงแตกต�างจากสี�เข�ย้ว โดย้ไมั�ต�องค�าน�งถึ�งน�%าหนกอ�อนแก� และความัเข�มัของสี� เพัราะความัเป็�นวรรณะ (Hue)

จะคงเด�มัอย้(�เสีมัอ เช้�น สี�ช้มัพั( ค.อ สี�หน��งของสี�แดง เป็�นต�น แย้กออกได�เป็�น 2 ป็ระเภทำ ดงน�%

1. Charomatic Colours ค.อ สี�ทำ�� มั� ว รรณะของ สี�อย้(� สีามัารถึจ�าแนกออกเป็�นสี�ข�ย้ว สี�แดง สี�เหล.อง เป็�นต�น ได�อย้�างแน�ช้ด

2. Achromatic Colours ค.อ สี�ทำ��ไมั�มั�วรรณะของสี� Hue

ผ้สีมัอย้(� จ�าแนกเป็�นน�%าหนกอ�อน เข�มั ได�แก� สี�ขาว สี�เทำา สี�ด�า

2. ความัเข�มัของสี� (Chrome หร.อ Intensity หร.อ Saturation) ค.อ ค2ณสีมับต�ของสี�เก��ย้วกบความัค�ด (Brightness) เช้�น สี�แดงเป็�นสี�ทำ��สีดทำ��สี2ด หร.อ ความัหมั�น (Dullness) ทำ��เก�ดข�%นเพัราะมั�การผ้สีมัสี�ตรงข�ามั (Contrast) ทำ�าให�ความัสีดใสีลดน�อย้ลง เช้�น สี�มั�วงเจ.อจางในสี�เหล.อง เป็�นต�น

3. ค2ณค�าของสี� (Tonal Value) ค.อ ค2ณสีมับต�เก��ย้วเน.�องกบน�%าหนกอ�อนแก� (Lightness Darkness) เพั.� อใช้�เป็ร�ย้บเทำ�ย้บค�าของสี�ทำ��แตกต�างกนของสี�ทำ2กสี� เช้�น สี�ช้มัพั( ค.อน�%าหนกอ�อนของสี�แดง สี�น�%าตาล ค.อน�%าหนกอ�อนแก�ของสี�สี�มั เป็�นต�น โดย้มั�สี�ขาวอ�อนทำ��สี2ด สี�ด�าเป็�นสี�แก�ทำ��สี2ด ระหว�างสี�ขาวถึ�งสี�ด�า จะมั�สี�เทำาอ�ก 7 น�%าหนก มั�น�%าหนกทำ�� 5 เป็�นน�%าหนก (Middle Value) ดงน%น ถึ�าต�องการให�สี�ใดสี�หน��งเป็�นสี�อ�อนก1ผ้สีมัสี�ขาว สี�อ�อนทำ��เก�ดข�%นจะมั�น�%าหนกอ�อนกว�าน�%าหนกกลาง เร�ย้กว�า Shade ถึ�าต�องการให�สี�ใดสี�หน��งแก�ย้��งข�%น ก1ผ้สีมัสี�ด�า สี�เข�มัทำ��เก�ดข�%นมั�น�%าหนกแก�กว�าน�%าหนกกลาง เร�ย้กว�า Shade

4. ค2ณสีมับต�สีะทำ�อนแสีง (Finish) ค.อ ค2ณสีมับต�ของสี�เก��ย้วเน.�องกบป็ระสี�ทำธี�ภาพัทำางด�านสีะทำ�อนแสีงทำ�า ให�เก�ดป็ฏิ�ก�ร�ย้าค�าของสี�แป็ลเป็ล��ย้นไป็จากเด�มั (ทำว�เดช้ จ�Aวบาง. 2536 : 8-9)

แม�ส่� (Primaries)

25

Page 26: มัดย้อม(30 Apr 08)

สี�ต�างๆ น%นมั�อย้(�มัากมัาย้ แหล�งก�าเน�ดของสี� และว�ธี�การผ้สีมัสี�ตลอดจนความัร( �สี�กทำ��มั�ต�อสี�ของมัน2ษย้"แต�ละกล2�มัย้�อมัจะไมั�เหมั.อนกน สี�ต�างๆ ทำ��ป็รากฎน%นย้�อมัเก�ดข�%นจากแมั�สี�ในลกษณะทำ��แตกต�างกนตามัช้น�ดและป็ระเภทำของสี�1. แมั�สี�วตถึ2ธีาต2 (Pigmentary Primries) แมั�สี�วตถึ2ธีาต2น%น หมัาย้

ถึ�ง วตถึ2ทำ��มั�สี�อย้(�ในตวสีามัารถึน�ามัาระบาย้ ทำา ย้�อมั และผ้สีมัได� เพัราะมั�เน.%อสี�และสี�เหมั.อนกน เร�ย้กอ�กอย้�างหน��งว�า แมั�สี�ของช้�างเข�ย้น ดงมั�ราย้ละเอ�ย้ดต�อไป็น�%

สี� ข% น ทำ�� 1 (Pigmentary

Primaries) เป็�นสี�แทำ�ไมั�ถึ(กผ้สีมัด�วย้สี�ใดเลย้ ดงน�%ก. สี�น�%าเง�น (Prussian Blue)

ข. สี�แดง (Crimson Leke)

ค. สี�เหล.อง (Gamboge Tint)

แมั�สี�ทำ%งสีามัถึ�าน�ามัาผ้สีมักบจะได�เป็�นสี�กลาง (Neutra Tint)

26

ภาพท�� 5.1 แสีดงร(ป็ภาพั สี�ข %นทำ�� 1ทำ��มัา : กรมัสี�งเสีร�มัอ2ตสีาหกรรมั. 2545 : 6

Page 27: มัดย้อม(30 Apr 08)

สี� ข% น ทำ�� 2 (Secondary Hues) เ ก� ดจ า ก ก า ร น�า สี�ข %นทำ�� 1 จ�านวน 2 สี�มัาผ้สีมักนโ ด ย้ ป็ ร�มั า ณเ ทำ� า ๆ ก น จ ะเก� ด สี� ใหมั� ข�% น ดงน�%

ก. สี�น�%าเง�น ผ้สีมั สี�แดง ได� สี�มั�วง (Violet)

ข. สี�น�%าเง�น ผ้สีมั สี�เหล.อง ได� สี�เข�ย้ว (Green)

ค. สี�แดง ผ้สีมั สี�เหล.อง ได� สี�สี�มั (Orange)

สี� ข% น ทำ�� 3 (Tertiary Hues) เ ก� ดจากการผ้สีมัสี�ข % น ทำ�� 2 ก บแ มั� สี� (สี� ข %น ทำ�� 1) ได�สี�เพั��มัข�%นอ�ก ดงน�%

ก. สี�เหล.อง ผ้สีมั สี�เข�ย้ว เป็�น สี�เข�ย้วอ�อน (Yellow Creen)

ข. สี�น�%าเง�น ผ้สีมั สี�เข�ย้ว เป็�น สี�เข�ย้วแก� (Blue – Creen)

ค. สี�น�%าเง�น ผ้สีมั สี�มั�วง เป็�น สี�มั�วงน�%าเง�น (Blue Violet)

ง. สี�แดง ผ้สีมั สี�มั�วง ได� สี�มั�วงแดง (Red – Violet)

27

ภาพท�� 5.2 แสีดงร(ป็ภาพั สี�ข %นทำ�� 2ทำ��มัา : กรมัสี�งเสีร�มัอ2ตสีาหกรรมั. 2545 : 6

ภาพท�� 5.3 แสีดงร(ป็ภาพั สี�ข %นทำ�� 3ทำ��มัา : กรมัสี�งเสีร�มัอ2ตสีาหกรรมั. 2545 : 6

Page 28: มัดย้อม(30 Apr 08)

จ. สี�แดง ผ้สีมั สี�สี�มั ได� สี�แดงสี�มั (Red – Orange)

ฉ. สี�เหล.อง ผ้สีมั สี�สี�มั ได� สี�เหล.องสี�มั (Yellow – Orange)

จากการผ้สีมัสี�ของสี�ข %นทำ�� 1 ข%นทำ�� 2 และข%นทำ�� 3 จะได�สี�รวมัทำ%งหมัด 12 สี� ถึ�าทำ�าผ้งผ้สีมัสี�เป็�นวงกลมัจะได�สี�เร�ย้งจากสี�อ�อนไป็หาสี�แก� เร�ย้กว�า วงจรสี� (Colour Wheel)

- วงจรสี� (Colour

Wheel) เห1นได�ว�าสี�จะเร�ย้งไป็ตามัล�าดบอ�อนแก� สี�ทำ��อ�อนทำ��สี2ด ค.อ สี�เหล.อง สี�วนสี�ทำ��แก�ทำ��สี2ด ค.อ สี�มั�วง น�%าหนกของสี�อย้(�ในระบบทำ��กล�าวได�ว�าผ้สีมักลมักล.นกนและเอาสี�เหล.องไว�บนสี2ด สี�มั�วง ซึ่��งอย้(�ทำ�ศทำางตรงกนข�ามัจะอย้(�เบ.%องล�าง จะทำ�าให�เห1นว�า สีภาพัของสี�แย้กออกเป็�น 2 ฝ้<าย้ ฝ้<าย้หน��งป็ระกอบด�วย้ สี�เหล.อง สี�เหล.องสี�มั สี�สี�มั สี�แดงสี�มั สี�แดง สี�แดงมั�วง และสี�มั�วง อ�กฝ้<าย้หน��งป็ระกอบด�วย้ สี�เหล.อง สี�เข�ย้วเหล.อง สี�เข�ย้วน�%าเง�น สี�น�%าเง�น สี�มั�วงน�%าเง�น สี�มั�วงแดง เป็�นต�น

แม�ส่�ว�ทยาศาส่ติร- (Spectrum Primaies)

แมั�สี�ว�ทำย้าศาสีตร" เป็�นสี�ทำ��เก�ดจากแสีงไฟฟ4า หร.อแสีงพั�เศษผ้สีมัด�วย้การสีะทำ�อนแสีงป็ระสีานกน จะเห1นได�จากการทำดสีอบโดย้การให�แสีงผ้�านแทำ�งแก�วร(ป็สีามัเหล��ย้มัจะเก�ดเป็�นสี�ร2 �ง ป็รากฏิว�ามั�สี�อ�อนแก�ตามัความัเข�มัของแสีง ในระย้ะเวลาทำ��ทำ�าการทำดลอง เช้�น เช้�าอาจมั�สี�เหล.องมัาก กลางวนอาจจะมั�สี�เหล.องแดง เย้1นมั�สี�เหล.อง แดง มั�วง มัาก

สี�ว�ทำย้าศาสีตร" เป็�นการผ้สีมัสี�ด�วย้แสีง มั�ใช้�ผ้สีมัด�วย้เน.%อสี� ดงน�%

28

ภาพท�� 5.4 แสีดงร(ป็ภาพั วงจรสี�ทำ��มัา : กรมัสี�งเสีร�มัอ2ตสีาหกรรมั. 2545 : 6

Page 29: มัดย้อม(30 Apr 08)

สี� ข% น ทำ�� 1 มั�อย้(� 3 สี� ค.อ

ก.

สี�

สี�มัแดง (Vermilion Red)

ข. สี�เข�ย้ว (Emerald Green)

ค. สี�มั�วง (Violet)

สี�ข%นทำ�� 2 การผ้สีมัสี�สีว�างน�% จะต�องผ้สีมัโดย้การใช้�แสีงของสี�น%นซึ่�อนกนจะได�สี�ดงต�อไป็น�%

ก. สี�มั�วง ผ้สีมั สี�เข�ย้ว เป็�น สี�น�%าเง�นข. สี�มั�วง ผ้สีมั สี�แดงสี�มั เป็�น สี�แดงค. สี�เข�ย้ว ผ้สีมั สี�แดงสี�มั เป็�น สี�เหล.อง

ถึ�าเราน�าสี�สีว�าง สี�แดงสี�มั สี�เข�ย้ว และสี�มั�วง มัาผ้สีมักน ทำ%งสีามัสี�ก1จะกลาย้เป็�นสี�ของอากาศรอบๆ ตวเราทำ��เห1นคล�าย้จะเป็�นสี�ขาวแทำ�ทำ��จร�งก1 ค.อ ไมั�มั�สี�น �นเอง (โช้ดก เก�งเขตรก�จ. 2528 : 36-39)

บทท�� 6จำ�ติว�ทยาของส่� (Psycology Of Colour)

สี�ทำ2กสี�ย้�อมัมั�อ�ทำธี�พัลอย้(�เหน.อจ�ตใจมัน2ษย้"ทำ�วไป็ ดงน%น สี�กบมัน2ษย้"จ�งเป็�นสี��งทำ��แย้กกนไมั�ออกทำ2กคนจะร( �สี�กในอารมัณ"ทำนทำ�เมั.�อได�เห1นสี� โดย้เฉพัาะถึ�าได�เห1นสี�ทำ��ตนเองช้อบเป็�นพั�เศษ หร.อได�เห1นสี�ทำ��ตนเองไมั�ช้อบ เพัราะมัน2ษย้"ทำ2กคนย้�อมัมั�อารมัณ"ช้อบบางสี�มัากทำ��สี2ดและร( �สี�กเฉย้ๆ ใน

29

ภาพท�� 5.5 แสีดงร(ป็ภาพั แมั�สี�ว�ทำย้าศาสีตร"ทำ��มัา : เสีน�ห" ธีนารตนสีฤษด�E. 2547 : 2

Page 30: มัดย้อม(30 Apr 08)

บางสี�และไมั�ช้อบบางสี�เอาเสี�ย้เลย้ ซึ่��งจะต�องเห1นคนบางคนช้อบใช้�สี�เพั�ย้งบางสี�อย้(�ตลอดเวลา น�นเป็�นเพัราะความัผ้(กพันและเคย้ช้�นกบสี�น%นจนไมั�ย้�อมัใช้�สี�อ.�น หร.อถึ�าจะใช้�บ�างก1หล�กเล��ย้งไมั�พั�นจะควรกรณ�ใดๆ ก1ตามัจะเก�ดความัร( �สี�กขดเข�นด(ไมั�ค�อย้มั�นใจในตวเอง ในลกษณะการวางตวหร.อบ2คล�กทำ�าทำาง (ทำว�เดช้ จ�Aวบาง. 2536 : 58) นอกจากน�% ช้ลอ พังษ"สีามัารถึ. 2526 : 47 ได�เข�ย้นไว�ในศ�ลป็ะสี�าหรบคร(มัธีย้มัว�า มัน2ษย้"มั�น�สีย้ช้อบและพัอใจในสี��งใหมั�ๆ อนเป็�นผ้ลเน.� องมัาจากสีมัย้น�ย้มัหร.อช้าต�น�ย้มั เช้�น ช้าวจ�นช้อบสี�แดง ถึ.อว�าสี�แดงมั�อาน2ภาพั ช้าวตะวนตกช้อบสี�แดงเล.อดนก หมัาย้ถึ�ง ความัเป็�นผ้(�ด�มั�เช้.%อสีาย้สี(งศกด�E การน�ย้มัเสี.%อผ้�าสี�สีดน�ย้มักนในหมั(�สีตร� ให�ข�อค�ดว�าสี�แทำ�ทำ2กสี�เป็�นสี�สีวย้ แต�บางสี�ก1มั�ข�อแมั�ว�าให�ใช้�ป็ร�มัาณน�อย้หร.อมัากจ�งสีวย้ ความัร( �สี�กของคนเราจ�งข�%นอย้(�กบการใช้�สี�และสี�มั�อ�านาจอ�ทำธี�พัลต�อจ�ตใจของบ2คคล ดงน�%

- สี�น�%าเง�น เง�ย้บขร�มัเอาการเอางาน สีงบสี2ข มั�สีมัาธี�- สี�เข�ย้ว ป็กต� มั�ช้�ว�ต มั�พัลง มั�ความัสี2ข บ�าบดโรคป็ระสีาทำได�

ด�- สี�แดง กระต2�นให�เก�ดความัต.�นเต�น เร�าใจ- สี�เหล.องแก� เก�ดพัลง กระช้2 �มักระช้วย้ เป็�นสีญี่ลกษณ"ความัมั�งมั�

มั�งค�ง- สี�เหล.อง สีดใสี ร�าเร�ง เบ�กบาน- สี�สี�มั ทำ�าให�เก�ดก�าลงวงช้า- สี�เข�ย้วเหล.อง มั�ช้�ว�ต เป็�นสี�แห�งความัเจร�ญี่วย้ เป็�นหน2�มั เป็�น

สีาว- สี�มั�วง ช้ย้ช้นะ เสีน�ห" ความัเร�นลบ มั�อ�านาจ- สี�เทำา ความัเศร�า เง�ย้บขร�มั แก�ช้รา สีงบน��ง สีลดใจ- สี�ขาว บร�สี2ทำธี�E ใหมั� สีดใสี สีะอาด ร�าเร�ง- สี�ช้มัพั( ป็ระณ�ต มั�ความัหวง อ�อนโย้น ร�าเร�ง มั�ช้�ว�ตช้�วา

เบาบาง- สี�แดงเข�มั มั�งค�ง สีมับ(รณ"- สี�เทำาอมัเข�ย้ว ช้รา ห�อเห��ย้ว ไมั�มั�พัลง

30

Page 31: มัดย้อม(30 Apr 08)

- สี�น�%าตาล อบอ2�น แห�งแล�ง น�าเบ.�อ- สี�ด�า มั�งค�ง หนกแน�น มั.ด โศกเศร�า

บทท�� 7ว�ธ�การย�อมส่� (Dyeing)

การย้�อมัสี�เป็�นการตกแต�งผ้�าว�ธี�หน��งซึ่��งเป็�นก�จกรรมัในฝ้>มั.อทำางช้�างทำ��มั�ป็ระโย้ช้น"มัาก ทำ�าให�เก�ดความัพั�งพัอใจ และย้งเป็�นว�ธี�ทำ��ง�าย้กบสี��งทำ��เก�ดจากการกระทำ�าให�บรรล2ผ้ลได�อย้�างรวดเร1ว การควบค2มัเวลาตามัความัต�องการทำ��ไมั�เหมั.อนกน

ในพั�พั�ธีภณฑ์"ช้าต�พันธี2"วรรณนาแห�งช้าต� ทำ��น �นมั�ตวอย้�างศ�ลป็ะของช้าวแอฟร�กา (African) ช้าวญี่��ป็2<น (Japanese) และอ�นเด�ย้ (Indian)

ทำ��ซึ่��งสีามัารถึช้�วย้ให�เก�ดสี��งดลใจเก��ย้วกบแนวความัค�ดใหมั�ๆ ในเทำคน�คการย้�อมัสี�ทำ��เก�าแก�อนหน��ง ถึ�าย้�อนกลบไป็ในช้�วงย้2คก�อนป็ระวต�ศาสีตร"และจนกระทำ�งถึ�งทำ2กวนน�%ก1ย้งได�รบการพั�จารณาให�เป็�นศ�ลป็ะสีมัย้ใหมั�ทำ%งหมัด

ผ้�าไหมั เป็�นสี��งสี�าคญี่อย้�างหน��งทำ��สี�าคญี่น�ามัาสีร�างงานศ�ลป็ะบวกกบความัช้าญี่ฉลาดในการจดวางสี�ย้�อมั เพั.�อจะน�าไป็ใช้�ทำ�าการตกแต�งพั.%นทำ��นอกเหน.อจากความัเหมัาะสีมั ซึ่��งการกระทำ�าเหล�าน�%จะเก��ย้วข�องกบการกนสี�ย้�อมั ถึ�าสี�วนทำ��แตกต�างกนของช้�%นสี�วนวสีด2ทำ��ได�เป็�นการมัด (Tied) ผ้(กป็มั (Knotted) ผ้(กมัดเข�าด�วย้กน (Bound Together)

รอย้พับ (Pleated) หร.อการเย้1บ (Sewn) เป็�นร(ป็แบบของพั.%นทำ��ทำ��สี�ย้�อมัไมั�แทำรกซึ่�มัเข�าไป็ได� หร.ออาจจะย้อมัให�ผ้�านทำะล2เพั�ย้งป็ร�มัาณน�อย้เทำ�าน%น

- อ2ป็กรณ" และวสีด2 (Equipment and Materials)

31

Page 32: มัดย้อม(30 Apr 08)

อ2ป็กรณ"พั.% นฐ์านและวสีด2ต�างๆ ทำ��จ�า เป็�นต�องใช้� ได�แก� ผ้�า (Fabric) สี�ย้�อมั (Dyes) เกล.อ (Salt) เสี�นด�าย้ (Thread) ภาช้นะสี�าหรบย้�อมัสี� (Containers for The Dyes) และพั.%นทำ��การทำ�างานทำ��เหมัาะสีมัสี�าหรบการซึ่ก-ล�าง และการทำ�าให�ผ้�าทำ��ย้�อมัแล�วแห�ง สี�วนภาช้นะจ�าเป็�นต�องใหญี่�พัอกบความัต�องการสี�าหรบใสี�ผ้�าอย้�างเพั�ย้งพัอ แต�ก1ไมั�ใหญี่�จนเก�นไป็ ทำ%งน�%ก1เพั.�อไมั�ให�สี�%นเป็ล.องสี�ย้�อมั สี�าหรบการซึ่ก-ล�าง อ�างน�%าทำ��ใช้�ต�องเป็�นอ�างทำ��มั�น�%า ไหลออกได�ด� แต�ถึงน�%าหร.อช้ามัขนาดใหญี่�สีามัารถึน�าไป็ใช้�ได�เหมั.อนกนเพัราะอาจเป็�นไป็ได�ว�าเมั.�อไรก1ตามัทำ��จ�าเป็�นต�องเป็ล��ย้นน�%าบ�อย้ๆ

อ2ป็กรณ"ทำ��เพั��มัเต�มัทำ��ต�องใช้�แทำ�งไมั� หร.อแทำ�งแก�วเล1กๆ สี�าหรบผ้สีมัสี�ย้�อมั (Small Wooden or Glass Sticks for Mixing The

Dye) ถึ2งมั.อย้าง (Rubber Globes) หนงสี.อพั�มัพั" (Newspaper)

และเหย้.อก หร.อขวดฝ้าเกล�ย้วสี�าหรบเก1บสี� (Screw–Top Japs หร.อ Bottles in Which to Keep The Dye)

- ช้น�ดของสี�ย้�อมั (Types of Dye)

สี�ย้�อมั (Dyes) สีามัารถึแบ�งออกได�เป็�น 2 ช้น�ด ได�แก� สี�ย้�อมัจากธีรรมัช้าต� (Natural Dyes) และสี�ย้�อมัสีงเคราะห" (Synthetic

Dyes) ซึ่��งสี�ย้�อมัธีรรมัช้าต�มั�จ�านวนหน��งเทำ�าน%นทำ��ใช้�ให�เป็�นป็ระโย้ช้น"ได� จนกระทำ�งได�ค�นพับสี�สีงเคราะห"ในช้�วงย้2คกลางของศตวรรษทำ�� 19 สีารสี�เหล�าน�% ได�มัาจากหลากหลาย้ช้น�ด เช้�น พั.ช้ผ้ก (Vegetable) สีตว" (Animal) หร.อแหล�งแร� (Mineral Sources) ช้.�อเหล�าน�%ได�จากการก�อตวของสี��งทำ��มั�อย้(�ตามัธีรรมัช้าต� ลกษณะทำ�วไป็ไมั�ทำนต�อสีภาพักลางแจ�งทำ��ถึ(กแสีง หร.อการซึ่ก-ล�าง ดงเช้�น สี�ย้�อมัสีงเคราะห"

สี�ย้�อมัสีงเคราะห" เช้�น สี�แอสี�ด (Acid) สี�อะโซึ่อ�ค (Azoic) สี�พั�กเมันทำ" (Pigments) และอ.� นๆ ซึ่��งสี�ย้�อมัทำ��น�ามัาใช้�กนบ�อย้ๆ ในหมั(�ศ�ลป็Cนและนกออกแบบเป็�นจ�า พัวกสี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive Dyes)

เน.�องจากสี�เหล�าน�%เคย้เป็�นสี�ทำ��ใช้�กนอย้�างกว�างขวางกบช้น�ดของผ้�าทำ��ไมั�ต�องใช้�เคร.�องจกรกลพั�เศษในการผ้น�กต�ดสี�ย้�อมั

- ว�ธี�การย้�อมัสี� (Dyeing Methodes)

32

Page 33: มัดย้อม(30 Apr 08)

เป็�นกรรมัว�ธี�ธีรรมัดาทำ��สี2ดของการย้�อมัสี�ผ้�าทำ%งในน�%าร�อนและในน�%าเย้1น การกนสี�เป็�นป็Fจจย้สี�าคญี่ต�ออ2ณหภ(มั�ทำ��เหมัาะสีมัสี�าหรบว�ธี�การสีมัย้ก�อน ในขณะทำ��ต�อมัาใช้�เฉพัาะสี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive Dyes)

เทำ�าน%นการย้�อมัผ้�าสีามัารถึทำ�าให�เก�ดสี�สีดใสี ให�เฉดสี�และเพั��มัความัเด�น

การผ้สีมัสี�น�%าโดย้ไมั�ทำ�าให�ผ้�าเป็ล��ย้นแป็ลง จะพับว�าสี�ย้�อมัในร(ป็ของแป็4งหร.อน�%าสีามัารถึใช้�เทำคน�คเฉพัาะและสีามัารถึป็รบเป็ล��ย้นได�เก.อบทำ2กอย้�าง สี�ย้�อมัทำ�� ได�รบความัน�ย้มัสี(งสี2ด ค.อ สี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive Dyes)

Procion MX ในร(ป็สี�ผ้งผ้สีมัและใช้�ได�ทำ��อ2ณหภ(มั�ห�อง ใช้�สี�าหรบย้�อมัผ้�าเสี�นใย้ธีรรมัช้าต� เช้�น ผ้�าไหมั (Silk), ผ้�าฝ้4าย้ (Cotton), ผ้�าเรย้อน (Rayon), หร.อ ผ้�าขนสีตว" (Wool) เป็�นต�น

ถึ�งแมั�ว�าสี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive Dyes) จะไมั�เป็�นพั�ษ แต�ก1ควรระมัดระวงในการใช้�ควรจะสีวมัหน�ากากกนฝ้2<น เมั.�อผ้สีมัสี�ย้�อมัควรหล�กเล��ย้งการสี(ดดมั สีวมัถึ2งมั.อย้าง และใช้�อ2ป็กรณ"ภาช้นะในการผ้สีมัแย้กต�างหากไมั�ป็ะป็นกบภาช้นะใสี�อาหาร เก1บสี�วนผ้สีมัทำ%งหมัดให�พั�นมั.อเด1กและสีตว"เล�%ย้งสี�ย้�อมัทำ��ผ้สีมัแล�วไมั�ได�ใช้�สีามัารถึเทำทำ�%งได�โดย้ไมั�เป็�นอนตราย้ต�อสี��งแวดล�อมั (Morgades, C. 2001 : 128-129)

เทคน�ค ช�โบร� (Shibori Technique)

เทำคน�ค ช้�โบร� (Shibori Technique) เป็�นร(ป็แบบของการทำ�าผ้�ามัดย้�อมัทำ��ร �เร��มัในป็ระเทำศญี่��ป็2<น ขอบเขต และเทำคน�คทำ�วๆ ไป็ เป็�นการป็กป็Cดสี��งทำอในสี�วนของพั.%นทำ��ทำ��จะทำ�าให�เก�ดสี�ทำ��ต�องการ ตลอดจนเพั��มัข�อป็ล�กย้�อย้ การจดเก1บทำ��ต�องมัดลวดลาย้และสี�สีนตามัต�องการ เพัราะเหต2ว�าด�วย้ว�ธี�การทำ��มั�ความัหลากหลาย้ในการทำ�างานโดย้สีามัารถึมัด (Tie)

เก1บรวมั (Gather) เย้1บ (Sew) หร.อวสีด2ห�อห2�มั (Fold Material)

และการวางแผ้นการใช้�สี�ทำ��มั�อย้(�เป็�นผ้ลให�สีามัารถึสีร�างความัป็ระหลาดใจมัากกว�าทำ��จะคาดค�ดได�

เพั.�อเป็�นการให�สีอดคล�องกบค�าอธี�บาย้ภาพั ช้�โบร� (Shibori) เป็�นสี��งทำ��ป็ระด�ษฐ์"โดย้ช้าวญี่��ป็2<น จากการสีงเกตสี��งทำ��บงเก�ดข�%นเมั.�อซึ่��งเข�าผ้ลกดนช้�%นกระดาษเข�าไป็ในกล�องย้าสี(บ เขาได�สีงเกตด(ว�าเวลามันเคล.�อนทำ��และ

33

Page 34: มัดย้อม(30 Apr 08)

ย้.ดออกไป็ บางช้�%นรอย้ย้.ดออกมั�ความัน�าสีนใจกบสี��งทำ��เก�ดข�%นเป็�นการสีร�างสีรรค"โดย้ข�%เถึ�าจากย้าสี(บ จากเหต2การณ"ดงกล�าวเข�าได�มั�การทำดสีอบต�อไป็อ�กว�าจะเก�ดอะไรข�%นเมั.�อเขากดทำบผ้�าในอ�างย้�อมัในสีภาวะทำ��เหมั.อนกน นอกจากน�%มั�ว�ธี�การทำ��หลากหลาย้จ�านวนมัาก เก��ย้วกบการใช้�เทำคน�ค ช้�โบร� (Shibori Technique) ข�%นอย้(�กบจะบงคบผ้�าอย้�างไร การเพั��มัเต�มัจ�นตนาการและความัสีามัารถึหร.อกระบวนการสีร�างสีรรค"จะก�อให�เก�ดความัหลากหลาย้อย้�างกว�างขวาง ในสี�วนน�%จะอธี�บาย้ว�ธี�การของ ช้�โบร� (Shibori) น%น เร�ย้กว�า “Arashi” ซึ่��งมั�ความัหมัาย้ว�า พัาย้2 เพัราะร(ป็“ ”

แบบของเสี�นเป็�นผ้ลเน.�องมัาจากภาย้หลงว�ธี�การระล�กถึ�งความัหลงของการเก�ดป็รากฏิการณ"ไหลเช้��ย้วของน�%า เทำคน�คพั�เศษเฉพัาะน�%เป็�นการสีร�างสีรรค"ในป็> 1880 โดย้ Kanezo Suzuki in Arimatsu จากน%นเป็�นต�นมัา ช้าวญี่��ป็2<นก1กลาย้เป็�นแบบอย้�างทำ��สี�า คญี่ของ Arashi

Shibori และต�อมัาได�สีร�างสีรรค"ข�%นอ�กมัากกว�า 100 ร(ป็แบบทำ��ให�ความัแตกต�างกน

Karla De Ketelaere จาก เบลเย้��ย้มั (Belgium) เป็�นศ�ลป็Cนทำ��ไดรบการย้อมัรบจากนานาช้าต� ทำ�างานเก��ย้วกบเทำคน�ค ช้�โบร� (Shibori

Technique) เธีอเป็�นผ้(�เช้��ย้วช้าญี่การตกแต�งการเพันทำ"สี�บนผ้�า ในป็> 1984 ถึ�งแมั�ว�าจะมั�การทำ�าสี.บทำอดต�อๆ มัากบครอบครว ซึ่��งต�ดสีอย้ห�อย้ตามักนมัา เธีอเร��มัต�นเมั.�อตอนเป็�นเด1กหญี่�ง Karla มั�การพัฒนาแนวความัค�ดทำ��มั�อ�กมัากมัาย้ในงานศ�ลป็ะบนผ้.นผ้�า ซึ่��งการทำ�างานทำ��เต1มัไป็ด�วย้ความัพั�ถึ�พั�ถึน อนเป็�นป็ระสีบการณ"สี�วนตวเธีอเก��ย้วกบการตกแต�งอนเป็�นศ�ลป็ะตามัจาร�ตป็ระเพัณ�ของแอฟร�กา (Africa) และเอเซึ่�ย้ (Asia)

ในป็> ค.ศ. 1987 เธีอได�ไป็ต%งถึ��นฐ์านในสีเป็น (Spain) ทำ��น��เธีอได�ให�ค�าแนะน�าเก��ย้วกบแนวทำางในการป็ฏิ�บต�เป็�นจ�านวนมัาก โดย้เฉพัาะเทำคน�คการทำ�าผ้�าบาต�ก (Batik) และเทำคน�คช้�โบร� (Shibori) ในทำ2กวนน�% เธีอเป็�นหน��งในสีองของผ้(�เช้��ย้วช้าญี่เก��ย้วกบผ้�า โดย้การน�าขบวนการทำ%งสีองมัารวมักน Karla มั�การเล.อกสีรรสี�าหรบหวข�อทำ��ตามัมัาทำ�ละน�อย้ ซึ่��งเป็�นร(ป็แบบงานหน��งในร�อย้ของ Arashi Shibori เพัราะเธีอพั�จารณาแล�วว�าเป็�นว�ธี�ทำ��ง�าย้ แต�ขณะเด�ย้วกนก1สีนองความัพั�งพัอใจ เป็�นการน�าไป็ใช้�กบเสี�นใย้ไหมัเพั.�อพั�สี(จน"ให�เห1นป็ฏิ�ก�ร�ย้ากบผ้�าไหมัช้น�ดอ.�นๆ ย้งจ�าได�ว�า

34

Page 35: มัดย้อม(30 Apr 08)

เสี�นใย้ไหมัทำ�ามัาจากเสี�นใย้สี%นเป็�นผ้�าค�อนข�างหนา เน.%อผ้�าไมั�เหมั.อนกน ช้�โบร� (Shibori) สีามัารถึน�ามัาใช้�ได�เหมั.อนกนเป็�นการป็ระย้2กต"ใช้�กบผ้�าช้น�ดอ.�นๆ (Morgades, C. 2001 : 130)

1. วสีด2 อ2ป็กรณ" สี�า หรบเทำคน�คช้�โบร� (Shibori) ทำ�อ PVC (PVC Pipe),

ผ้�าไหมั (Silk) ซึ่��งผ้�านการทำ�าความัสีะอาดแล�ว เข1มั (Needle) ด�าย้เย้1บผ้� า (Sewing Thread) เ ข1มั ห มั2 ด (Ping) ด�นสีออ�อน (Soft Pencil)

ย้างรด (Rubber Bands) ภาช้นะสี�าหรบย้�อมัสี� สี�แอสี�ด (Acid Dyes) สีารเคมั� (Chemicals) บ�Lกเกอร" (Beaker), แทำ�งแก�ว ไมั�พัาย้ ย้างรด (Rubber Bands)

ภาพท�� 12.1 แสีดงร(ป็ภาพั วสีด2 อ2ป็กรณ" ทำ��ใช้�ในเทำคน�คน�%

2. เตร�ย้มัผ้�าไหมั ทำ�อ PVC เข1มัเย้1บผ้�า เสี�นด�าย้ กรรไกร ให�พัร�อมั

ภาพท�� 12.2 แสีดงร(ป็ภาพั เตร�ย้มัวสีด2และอ2ป็กรณ" ให�พัร�อมั3. สี��งสี�าคญี่ทำ��ต�องทำ�า ค.อ การวดเสี�น

รอบวงของทำ�อ PVC กบงานทำ��จะทำ�าเพั.�อก�าหนดความักว�างของผ้�าไหมัทำ��จะน�ามัาป็กคล2มัได�อย้�างเหมัาะสีมั

ภาพท�� 12.3 แสีดงร(ป็ภาพั การวดเสี�นรอบวงทำ�อ PVC

35

Page 36: มัดย้อม(30 Apr 08)

4. หล งจาก วดขนาดของ ทำ� อแ ล� ว ใ ห�ก�าหนดรอย้ด�วย้เข1มัหมั2ด

ภาพท�� 12.4 แสีดงร(ป็ภาพั การก�าหนดรอย้ด�วย้เข1มัหมั2ด

5. จากน%นข�ดเสี�นด�วย้ด�นสีอเป็�นเสี�นตรงตามัทำ��ได�ก�าหนดไว�ตามัขนาดของทำ�อ

ภาพท�� 12.5 แสีดงร(ป็ภาพั การข�ดเสี�นด�วย้ด�นสีอ

6. จากน%นน�าผ้�าไหมัไป็ห2�มัทำ�อแล�วกลดด�วย้เข1มัหมั2ดให�แน�นและเร��มัต�นเย้1บ

36

Page 37: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 12.6 แสีดงร(ป็ภาพั การกลดด�วย้เข1มัหมั2ด7. เย้1บสี�วนหน��งก�อนแล�วตรวจด(ว�าผ้�า

ไหมัน%นคล2มัทำ�อ PVC ด�หร.อย้ง ถึ�าด�แล�วให�เย้1บต�อได�เลย้จนสี�าเร1จเสี�นด�าย้ทำ��ใช้�เย้1บควรจะมั�ความัเหน�ย้ว ทำนทำานเพัราะต�องการให�ผ้�าไหมัฟCตกบทำ�อ รดให�แน�น และเร��มัต�นเย้1บ

ภาพท�� 12.7 แสีดงร(ป็ภาพั การเย้1บผ้�าไหมัให�รดแน�นกบทำ�อ

8. เล.�อนและร(ดผ้�าเข�าหากนและให�แน�น

ภาพท�� 12.8 แสีดงร(ป็ภาพั การร(ดผ้�าเข�าหากนให�แน�น

9. บ�บอดผ้�าไหมัทำ��ป็กคล2มัทำ�อ PVC

โดย้อดผ้�าเข�าหากนให�แน�นด�วย้มั.อทำ%งสีองข�างอย้�างสีมั��าเสีมัอแล�วใช้�

37

Page 38: มัดย้อม(30 Apr 08)

ย้างรด (Rubber Bands) สี�วนทำ�าย้ให�แน�นเพั.�อไมั�ให�ผ้�าไหมัคลาย้ออก

ภาพท�� 12.9 แสีดงร(ป็ภาพั การบ�บอดผ้�าไหมัให�แน�น10. เตร�ย้มัการย้�อมัสี� : สี�แอสี�ด

(Acid Dyes), โซึ่เด�ย้มัซึ่ลเฟต (Sodium Sulfate), กรดสี�มั (Acftic Acid), Levelling Agent) หร.อ สีบ(�เทำ�ย้มั (Wetting Agent)

ภาพท�� 12.10 แสีดงร(ป็ภาพั การเตร�ย้มัการย้�อมัสี�

11. การผ้สีมัสี�ย้�อมัและสีารเคมั�ตามัทำ��ค�านวณไว�และคนให�เข�ากน

ภาพท�� 12.11 แสีดงร(ป็ภาพั การผ้สีมัสี�ย้�อมั

38

Page 39: มัดย้อม(30 Apr 08)

12. น�าผ้�าไหมัไป็ช้2บน�%าก�อนทำ��จะน�าไป็ย้�อมัสี� เพั.�อให�ผ้�าด(ดซึ่�มัสี�ได�ด�

ภาพท�� 12.12 แสีดงร(ป็ภาพั น�าผ้�าไหมัช้2บน�%าก�อนลงย้�อมัสี�13. น�าผ้�าไหมัลงย้�อมัสี�ในอ2ณหภ(มั�

90-95°C ใช้�เวลาย้�อมั 1 ช้�วโมัง ต�องคอย้คนผ้�าอย้(�เสีมัอ

ภาพท�� 12.13 แสีดงร(ป็ภาพั การย้�อมัสี�

14. เมั.�อครบเวลาการย้�อมัสี� น�าทำ�อ PVC ทำ��ทำ�อห2�มัด�วย้ผ้�าไหมัข�%นจากหมั�อย้�อมั ล�างผ้�าไหมัให�สีะอาด โดย้การเป็Cดน�%าให�ผ้�านจนน�%าล�างใสี

ภาพท�� 12.14 แสีดงร(ป็ภาพั การซึ่ก-ล�าง ผ้�าไหมัให�สีะอาด

39

Page 40: มัดย้อม(30 Apr 08)

15. การเตร�ย้มัการต�มัน�%าสีบ(� เพั.�อขจดสี�สี�วนเก�นและสีารเคมั�ออกให�หมัดโดย้ใช้�อตราสี�วนน�%า 1 ล�ตร ต�อสีบ(�เทำ�ย้มั 1 กรมั

ภาพท�� 12.15 แสีดงร(ป็ภาพั การเตร�ย้มัการต�มัน�%าสีบ(�16. ข%นตอนสี2ดทำ�าย้ของการย้�อมัสี�

ค.อ น�าผ้�าทำ��ย้�อมัสี�แล�วลงต�มักบน�%าสีบ(�ทำ��เตร�ย้มัไว�ในอ2ณหภ(มั� 100°C เวลา 20 นาทำ�

ภาพท�� 12.16 แสีดงร(ป็ภาพั น�าผ้�าทำ��ย้�อมัแล�วลงต�มักบน�%าสีบ(�

17. น�าผ้�าไหมัออกจากทำ�อจะเห1นเป็�นลวดลาย้อนเก�ดจากการอดผ้�าให�แน�น

40

Page 41: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 12.17 แสีดงร(ป็ภาพั การน�าผ้�าออกจากทำอ

18. เมั.�อน�าผ้�าไหมัออกจากทำ�อหมัดแล�วให�ตดเสี�นด�าย้ทำ��เย้1บไว�ให�หมัดแล�วคล��ผ้�าด(จะเห1นลวดลาย้ช้ดเจน

ภาพท�� 12.18 แสีดงร(ป็ภาพั ตดเสี�นด�าย้ทำ��เย้1บออก19. น�าผ้�าไหมัไป็ซึ่กล�างอ�กคร%งให�

สีะอาด แล�วน�าไป็ผ้��งหร.อตากให�แห�ง

ภาพท�� 12.19 แสีดงร(ป็ภาพั การซึ่ก-ล�าง ผ้�าไหมัอ�กคร%งเพั.�อให�สีะอาด

20. ผ้�าย้�อมัเทำคน�คช้�โบร� (Shibori) ทำ��สี�าเร1จแล�ว

41

Page 42: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 12.20 แสีดงร(ป็ภาพั ผ้�าไหมัทำ��สี�าเร1จแล�วด�วย้เทำคน�ค ช้�โบร� (Shibori)

ศ�ลปะ Arashi บนผ้�วผ้�าโดยการบ�ดเกล�ยว(Arashi Art on Fabric by Twisting)

การบ�ดเกล�ย้ว หมัาย้ถึ�ง การน�าผ้�ามัาพับกบไป็-มัา หร.อน�าผ้�ามัามั�วนให�ตลอดผ้.น จากน%นจบป็ลาย้ผ้�าทำ%งสีองด�านหวบ�ดไป็คนละทำางบ�ดให�แน�นจนเป็�นเกล�ย้วแล�วน�ามัาพันรอบๆ ทำ�อนไมั�กลมัหร.อ ทำ�อ PVC ให�แน�นแล�วน�าไป็เพันทำ"สี�หร.อย้�อมัสี�ตามัต�องการ เป็�นการสีร�างสีรรค"การทำ�างานและได�ลวดลาย้ทำ��แป็ลกใหมั�ผ้�าทำ��ใช้�ควรเป็�นผ้�าทำ��มั�ความัเบาบาง น2�มันวล

1. วสีด2 อ2ป็กรณ" ทำ��จ�า เป็�นในเทำคน�คน�% ผ้�าไหมั (Silk) ทำ��ผ้�านการทำ�าความัสีะอาดแล�ว สี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive

Dyes) ทำ� อ PVC (PVC Pipe)

ย้างรด (Rubber Bands) ภาช้นะสี�า ห ร บ ย้� อ มั สี� สี า ร เ ค มั� (Chemicals) บ�L ก เ ก อ ร" (Beaker) แทำ�งแก�ว ไมั�พัาย้

ภาพท�� 12.21 แสีดงร(ป็ภาพั วสีด2 อ2ป็กรณ" ทำ��ใช้�ในเทำคน�คน�%

42

Page 43: มัดย้อม(30 Apr 08)

2. เตร�ย้มัผ้�าไหมั, ทำ�อ PVC, กรรไกร,

ย้างรด ให�พัร�อมั

ภาพท�� 12.22 แสีดงร(ป็ภาพั การเตร�ย้มัวสีด2 อ2ป็กรณ" ให�พัร�อมั

3. น�าผ้�าไหมัมัามั�วนโดย้มั�วนจากร�มัหร.อป็ลาย้ผ้�าทำ%ง 2 ด�าน เข�าหากนและมัาบรรจบกนทำ��ก��งกลางผ้.นผ้�า

43

Page 44: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 12.23 แสีดงร(ป็ภาพั การมั�วนผ้�า

4. บ�ดผ้�าให�เป็�นเกล�ย้วตลอดทำ%งผ้.นให�แน�น ถึ�าผ้�าบ�ดเกล�ย้วไมั�แน�นสี�ย้�อมัจะซึ่�มัเข�าไป็ได�

ภาพท�� 12.24 แสีดงร(ป็ภาพั การบ�ดผ้�าให�เป็�นเกล�ย้ว

5. เร��มัต�นพันผ้�าทำ��บ�ดเป็�นเกล�ย้วโดย้จ2ดเร��มัต�นให�ย้างรด เพั.�อไมั�ให�ผ้�าหล2ดออกและเป็�นการกนไมั�ให�ผ้�าเคล.�อนทำ��ออกไป็จากน%นพันผ้�าให�รอบทำ�อ PVC จนหมัดผ้�าแล�วใช้�ย้างรดคาดทำบตรงจ2ดจบเหมั.อนตอนเร��มัต�น

ภาพท�� 12.25 แสีดงร(ป็ภาพั การพันผ้�าทำ��บ�ดเป็�นเกล�ย้วรอบทำ�อ PVC

6. ผ้�าทำ��บ�ดเป็�นเกล�ย้วพันรอบทำ�อ PVC เร�ย้บร�อย้แล�ว

44

Page 45: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 12.26 แสีดงร(ป็ภาพั ผ้�าทำ��พันรอบทำ�อเร�ย้บร�อย้

7. เตร�ย้มัสี�ย้�อมัให�ครบจ�านวนสี�ทำ��ต�องการ ซึ่��งในทำ��น�%สี�ทำ��ใช้� ได�แก� สี�เหล.อง (Yellow MX-8G), สี�ฟ4า (Turquoise MX-G), สี�น�%าเง�น (Blue MX-G)

ภาพท�� 12.27 แสีดงร(ป็ภาพั การเตร�ย้มัสี�ย้�อมั

8. ว�ธี�การใช้�สี�จะกระทำ�าได�โดย้การใช้�พั( �กนจ2�มัสี�และเพันทำ"สี�ลงไป็บนผ้�าได�เลย้ หร.อจะใช้�ว�ธี�การเทำสี�ดงในภาพัก1กระทำ�าได� ซึ่��งในทำ��น�%สี�แรกเป็�นสี�เหล.อง (Yellow)

ภาพท�� 12.28 แสีดงร(ป็ภาพั การเทำสี�เหล.อง (Yellow) ลงบนผ้�าเป็�นสี�แรก

45

Page 46: มัดย้อม(30 Apr 08)

9. เมั.�อเทำสี�เหล.อง (Yellow) เป็�นทำ��พัอใจแล�ว ก1เร��มัเทำสี�ฟ4าน�%าทำะเล (Turquoise) ต�อเป็�นสี�ทำ�� 2 เล.อกเทำตามัทำ��ต�องการ ซึ่��งเมั.�อเทำสี�ฟ4าลงไป็ผ้สีมักบ สี�เหล.อง ก1จะได�สี�ใหมั�เป็�นสี�เข�ย้ว (Green)

ภาพท�� 12.29 แสีดงร(ป็ภาพั การเทำสี�ฟ4าน�%าทำะเล (Turquoise) ลงบนผ้�าเป็�นสี�ทำ�� 2

10. เมั.�อต�องการสี�เข�ย้ว (Green) ทำ��เข�มักว�าจ�งจ�าเป็�น ต�องใช้�สี�น�%าเง�น (Blue) เทำลงไป็อ�กคร%งหน��งเป็�นสี�ทำ�� 3

ภาพท�� 12.30 แสีดงร(ป็ภาพั การเทำสี�น�%าเง�น (Blue) ลงบนผ้�าเป็�นสี�ทำ�� 3

11. เตร�ย้มัสี�ย้�อมัและสีารเคมั� อ�กคร%งเพั.�อจะทำ�าการย้�อมัสี� โดย้ใช้�สี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive Dyes),

46

Page 47: มัดย้อม(30 Apr 08)

โซึ่เด�ย้มัซึ่ลเฟต (Sodium Sulfate), โซึ่ดาแอช้ (Soda Ash), สีบ(�เทำ�ย้มั (Wetting Agent)

ภาพท�� 12.31 แสีดงร(ป็ภาพั การเตร�ย้มัสี�เพั.�อย้�อมั

12. การผ้สีมัสีารเคมั�และสี�ย้�อมัตามัทำ��ค�านวณไว�และคนให�เข�ากนในการย้�อมัคร%งน�%ใช้�สี�น�%าเง�น (Blue)

ภาพท�� 12.32 แสีดงร(ป็ภาพั การผ้สีมัสีารเคมั�และสี�ย้�อมั

13. น�าผ้�าไหมัลงย้�อมัสี�ต�อในอ2ณหภ(มั�ห�องใช้�เวลาย้�อมั 1 ช้�วโมัง

ภาพท�� 12.33 แสีดงร(ป็ภาพั การย้�อมัสี�

47

Page 48: มัดย้อม(30 Apr 08)

14. เมั.�อครบเวลาทำ��ก�าหนด น�าทำ�อ PVC ทำ��พันรอบด�วย้ผ้�าไหมับ�ดเป็�นเกล�ย้วข�%นจากหมั�อย้�อมั ล�างผ้�าไหมัให�สีะอาดโดย้การเป็Cดน�%าให�ผ้�านจนน�%าล�างใสี

ภาพท�� 12.34 แสีดงร(ป็ภาพั การซึ่ก-ล�าง ผ้�าให�สีะอาด

15. การเตร�ย้มัการต�มัน�%าสีบ(� เพั.�อขจดสี�ทำ��ไมั�เกาะต�ดเสี�นใย้ออกให�หมัดโดย้ใช้�อตราสี�วนน�%า 1 ล�ตร ต�อ สีบ(�เทำ�ย้มั 1 กรมั

ภาพท�� 12.35 แสีดงร(ป็ภาพั การเตร�ย้มัการต�มัน�%าสีบ(�

16. น�าผ้�าไหมัลงต�มัน�%าสีบ(�ในอ2ณหภ(มั� 100°C เวลา 20 นาทำ�

ภาพท�� 12.36 แสีดงร(ป็ภาพั การต�มัผ้�าด�วย้น�%าสีบ(�

48

Page 49: มัดย้อม(30 Apr 08)

17. เมั.�อต�มัน�%าสีบ(�เสีร1จ น�าออกซึ่ก-ล�าง น�%าให�สีะอาด ด�งย้างรดออกและน�าเอาผ้�าไหมัทำ��พันไว�กบทำ�อ PVC ออก พัร�อมัทำ%งคล��ผ้�าจากการบ�ดเกล�ย้วและการมั�วน

ภาพท�� 12.37 แสีดงร(ป็ภาพั การคล��ผ้�าออก

18.น�าผ้�าไหมัลงซึ่ก-ล�างอ�กคร%ง เพั.�อให�สี�และสีารเคมั�ออกให�หมัด

ภาพท�� 12.38 แสีดงร(ป็ภาพั การซึ่ก-ล�าง ผ้�าไหมัให�สีะอาด

19. ผ้�าทำ��ย้�อมัสี�าเร1จแล�ว ซึ่��งเป็�นศ�ลป็ะ Shibori หร.อ Arashi บนผ้�วผ้�า โดย้การบ�ดเกล�ย้วทำ��สีวย้งามั

49

Page 50: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 12.39 แสีดงร(ป็ภาพั ผ้�าไหมัย้�อมัศ�ลป็ะ Shibori หร.อ Arashi

บนผ้�วผ้�าโดย้การบ�ดเกล�ย้ว (Arashi Art On Fabric By

Twisting)

ศ�ลปะ Arashi บนผ้�วผ้�าโดยการพ�บ (Arashi Art On Fabric By Folding)

เทำคน�คในการทำ�า Shibori หร.อ Arashi อ�กป็ระเภทำหน��งเป็�นการใช้�ความัย้าวของไมั�หร.อวสีด2อ.�นในการทำ�าเป็�นการพับผ้�าแล�วมั�วนป็กคล2มัทำ�อ PVC หร.อไมั�กลมัย้าวในขนาดต�างๆ กน เพัราะเสี�นรอบวงหร.อความักว�างของทำ�อตลอดการพันเสี�นด�าย้รอบๆ ผ้�า การจดช้�องไฟให�มั�ความัเหมัาะสีมัซึ่��งมั�ความัสี�าคญี่มัากต�อลวดลาย้ทำ��จะออกมัา

1. วสีด2 อ2ป็กรณ" ทำ��จ�าเป็�นในเทำคน�คน�% : ผ้�าไหมั (Silk) ทำ��ผ้�านการทำ�าความัสีะอาดแล�ว, สี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive

Dyes), ทำ�อ PVC (PVC Pipe), ด�าย้เย้1บผ้�า (Sewing Thread), ย้างรด (Rubber Bands), ภาช้นะสี�าหรบย้�อมัสี�, สีารเคมั� (Chemicals), บ�Lกเกอร" (Beaker), แทำ�งแก�ว, ไมั�พัาย้

ภาพท�� 12.40 แสีดงร(ป็ภาพั วสีด2 อ2ป็กรณ" ทำ��จ�าเป็�นในเทำคน�คน�%

50

Page 51: มัดย้อม(30 Apr 08)

2. เตร�ย้มัผ้�าไหมั, ทำ�อ PVC, เสี�นด�าย้,

กรรไกร, ย้างรด ให�พัร�อมั

ภาพท�� 12.41 แสีดงร(ป็ภาพั เตร�ย้มัวสีด2 อ2ป็กรณ" ให�พัร�อมั

3. พับผ้�ากลบไป็-มัา ขนาดของการพับ เล1ก ใหญี่� ตามัใจช้อบการพับกลบไป็-

มัา เพั.�อให�ผ้�าด(ดซึ่�มัสี�ได�ด�

ภาพท�� 12.42 แสีดงร(ป็ภาพั การพับผ้�ากลบไป็-มัา

4. วางทำ�อ PVC ตามัแนวเฉ�ย้งของผ้�าแล�วเร��มัมั�วนผ้�าตามัแนวเฉ�ย้งให�แน�น

51

Page 52: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 12.43 แสีดงร(ป็ภาพั การวางทำ�อ PVC บนผ้�าตามัแนวเฉ�ย้ง

5. เร��มัพันเสี�นด�าย้จากป็ลาย้ทำ�อให�แน�นระหว�างทำ��พับควรพันให�มั�ช้�องไฟเทำ�าๆ กน เมั.�อพันไป็ได�ระย้ะหน��งให�ทำ�าการร(ดผ้�าลงมัาทำ��ป็ลาย้ทำ�อให�ย้�นและแน�น เสี�นด�าย้ทำ��พันจะต�องมั�ความัเหน�ย้วเวลาด�งจะได�ไมั�ขาด

ภาพท�� 12.44 แสีดงร(ป็ภาพั การพันเสี�นด�าย้รอบทำ�อ

6. การบ�บอดผ้�าไหมัทำ��มั�วนพันทำ�อ PVC

โดย้การอดผ้�าเข�าหากนให�แน�นด�วย้มั.อให�มั�ความัสีมั��าเสีมัอ แล�วใช้�ย้างรด (Rubber Bands) สี�วนทำ�าย้ทำ%งสีองด�านเพั.�อไมั�ให�ผ้�าคลาย้ออก

ภาพท�� 12.45 แสีดงร(ป็ภาพั การบ�บอดผ้�าไหมัให�แน�น

52

Page 53: มัดย้อม(30 Apr 08)

7. การเตร�ย้มัการย้�อมัสี� : สี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive Dyes),

โซึ่เด�ย้มัซึ่ลเฟต (Sodium Sulfate), โซึ่ดาแอช้ (Soda Ash), สีบ(�เทำ�ย้มั (Wetting Agent)

ภาพท�� 12.46 แสีดงร(ป็ภาพั การเตร�ย้มัสี�ย้�อมัและสีารเคมั�

8. การผ้สีมัสีารเคมั�และสี�ย้�อมัตามัทำ��ค�านวณไว�และคนให�เข�ากน โดย้ในการย้�อมัคร%งน�%ย้�อมั 2 สี� 2 คร%ง

- การผ้สีมัสีารเคมั�

- การผ้สีมัสี�ย้�อมักบสีารเคมั�

ภาพท�� 12.47 แสีดงร(ป็ภาพั การผ้สีมัสีารเคมั�และสี�ย้�อมั

9. น�าผ้�าไหมัไป็ช้2บน�%าก�อนทำ��จะน�าไป็ย้�อมัสี�เพั.�อให�ผ้�าด(ดซึ่�มัสี�

53

Page 54: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 12.48 แสีดงร(ป็ภาพั น�าผ้�าไหมัช้2บน�%าก�อนลงย้�อมัสี�

10.น�าผ้�าไหมัลงย้�อมัสี�ในอ2ณหภ(มั� 60°C ใช้�เวลาย้�อมั 1 ช้�วโมัง ต�องคอย้คนผ้�าอย้(�เสีมัอ ซึ่��งในการย้�อมัสี�แรกเป็�นสี�แดง (Red)

ภาพท�� 12.49 แสีดงร(ป็ภาพั การย้�อมัสี�แรกเป็�นสี�แดง (Red)

11. เมั.�อการย้�อมัสี�แรกครบเวลา ให�น�าทำ�อข�%นจากสี�ย้�อมัและน�าไป็ล�างน�%าให�สีะอาดหลาย้ๆ คร%ง ต�อจากน%นให�ย้�อมัต�อในสี�ทำ�� 2 ซึ่��งเป็�น สี�น�%าเง�นทำ��เข�มักว�า สี�าหรบการเตร�ย้มัน�%าย้�อมัเหมั.อนกบคร%งแรกเพั�ย้งแต�ค�าของสี�จะเข�มั กว�าเทำ�าน%น ย้�อมัในอ2ณหภ(มั� 60°C เวลา 1 ช้�วโมัง เช้�น

กน

ภาพท�� 12.50 แสีดงร(ป็ภาพั การย้�อมัสี�ทำ�� 2 เป็�นสี�น�%าเง�น (Blue)

54

Page 55: มัดย้อม(30 Apr 08)

12. เมั.�อครบเวลาทำ��ก�าหนด น�าทำ�อ PVC ทำ��ห�อห2�มัด�วย้ผ้�าไหมัข�%นจากหมั�อย้�อมั ล�างผ้�าไหมัให�สีะอาดโดย้การเป็Cดน�%าให�ผ้�านจนน�%าล�างใสี

ภาพท�� 12.51 แสีดงร(ป็ภาพั การซึ่ก-ล�าง ผ้�าให�สีะอาด

13. การเตร�ย้มัการต�มัน�%าสีบ(� เพั.�อขจดสี�ทำ��ไมั�ทำ�าป็ฏิ�ก�ร�ย้ากบเสี�นใย้ให�หล2ดไป็โดย้ใช้�อตราสี�วนน�%า 1 ล�ตร ต�อสีบ(�เทำ�ย้มั 1 กรมั

ภาพท�� 12.52 แสีดงร(ป็ภาพั การเตร�ย้มัการต�มัน�%าสีบ(�14.น�าผ้�าทำ��ย้�อมัสี�แล�วลงต�มักบน�%าสีบ(�ใน

อ2ณหภ(มั� 100°C เวลา 20 นาทำ�

ภาพท�� 12.53 แสีดงร(ป็ภาพั การต�มัน�%าสีบ(�

55

Page 56: มัดย้อม(30 Apr 08)

15. เมั.�อต�มัน�%าสีบ(�เสีร1จน�ามัาล�างน�%าอ�กคร%งโดย้เป็Cดให�น�%าไหลผ้�านผ้�าจนแน�ใจว�าไมั�มั�สี�หล2ดออกแล�ว

ภาพท�� 12.54 แสีดงร(ป็ภาพั ล�างผ้�าโดย้การให�น�%าไหลผ้�านผ้�าจนสีะอาด16.ตดเสี�นด�าย้ทำ��พันผ้�าออกและค�อย้ๆ

คล��ผ้�าออกจากทำ�อทำ�าให�เห1นลวดลาย้ผ้�าเด�นช้ดข�%น

ภาพท�� 12.55 แสีดงร(ป็ภาพั คล��ผ้�าออกจากทำ�อ17. เมั.�อคล��ผ้�าออกแล�วน�าไป็ซึ่กล�างอ�ก

คร%งเพั.�อให�สี�และสีารเคมั�ทำ��ย้งต�ดเคล.อบอย้(�จากรอย้ย้�นของผ้�าไหมัออกให�หมัด

ภาพท�� 12.56 แสีดงร(ป็ภาพั การซึ่ก-ล�าง

56

Page 57: มัดย้อม(30 Apr 08)

18. ผ้�าทำ��ย้�อมัสี�าเร1จแล�ว ซึ่��งเป็�นศ�ลป็ะ Shibori หร.อ Arashi บนผ้�วผ้�าโดย้การพับและพันรอบผ้�า

ภาพท�� 12.57 แสีดงร(ป็ภาพั ผ้�าย้�อมัศ�ลป็ะ

Shibori หร.อ Arashi บนผ้�วผ้�าโดย้การพับและพันรอบผ้�า (Arashi Art On Fabric By Folding)

การย�อมแบบจำ �ม (Dip – Dyes)

เทำคน�คน�%จะจ2�มัผ้�าลงในสี�ย้�อมัทำ��ทำ�าข�%นเพั�ย้งบางสี�วน ซึ่��งสี�จะจางจากสี�อ�อนไป็สี�ย้งเข�มั ซึ่��งง�าย้มัากในการทำ�าและด(เหมั.อนจะเป็�นผ้�าทำางด�านตะวนออกย้�อมัได�ทำ%งสี�ย้�อมัร�อนและสี�ย้�อมัเย้1น ซึ่��งผ้�าทำ��เหมัาะทำ��สี2ดในการย้�อมัว�ธี�น�%ผ้ล�ตจากเสี�นใย้ธีรรมัช้าต� เช้�น ผ้�าไหมั (Silk), ผ้�าขนสีตว" (Wool), ผ้�าฝ้4าย้ (Cotton) หร.อ ผ้�าล�น�น (Liner) เป็�นต�น ซึ่��งผ้�าเหล�าน�%จะด(ดซึ่�มัสี�ย้�อมัผ้�าได�อย้�างสีมั��าเสีมัอกนสี�ย้�อมัผ้�าจะใช้�แบบสี�ผ้งหร.อสี�น�%า

ก1ได� (Stokoe, S. 1999 : 47)

1. วสีด2 อ2ป็กรณ" ทำ��จ�าเป็�นในเทำคน�คน�% : ผ้�าไหมั (Silk) ทำ��ผ้�านการทำ�าความัสีะอาดแล�ว, สี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive Dyes),

โซึ่เด�ย้มัซึ่ลเฟต (Sodium Sulfate),

57

Page 58: มัดย้อม(30 Apr 08)

โซึ่ดาแอช้ (Soda Ash), สีบ(�เทำ�ย้มั (Wetting Agent), อ�างย้�อมั (Dye Bath), ทำ��หน�บผ้�า (Clother Pegs), ผ้�าคล2มักนเป็M% อน (Drop

Cloth), ถึ2งมั.อย้าง (Rubber Gloves), บ�Lกเกอร" (Beaker), เตาไฟฟ4า (Hot Plate), ไมั�พัาย้

ภาพท�� 12.58 แสีดงร(ป็ภาพั วสีด2 อ2ป็กรณ" ทำ��จ�าเป็�นในเทำคน�คน�%

2. เล.อกอ�างย้�อมัหร.อภาช้นะย้�อมัสี�ให�มั�ขนาดใหญี่�เพั�ย้งพัอทำ��จะบรรจ2ความักว�างของผ้�าโดย้ไมั�ต�องพับผ้�าข�%นมัากเก�นไป็ และให�ล�กเพั�ย้งพัอทำ��จะย้�ดผ้�าไว� เมั.�อจ2�มัผ้�าลงไป็ในสี�ย้�อมั

ภาพท�� 12.59 แสีดงร(ป็ภาพั ภาช้นะสี�าหรบย้�อมัสี�

3. เตร�ย้มัสี�และสีารเคมั� เช้�น เมั.�อย้�อมัด�วย้สี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive Dyes) สีารเคมั�ทำ��จ�าเป็�นต�องใช้� ได�แก� โซึ่เด�ย้มัซึ่ลเฟต (Sodium

Sulfate), โซึ่ดาแอช้ (Soda Ash),

สีบ(�เทำ�ย้มั (Wetting Agent) เป็�นต�น

58

Page 59: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 12.60 แสีดงร(ป็ภาพั การเตร�ย้มัสี�และสีารเคมั�4. ผ้สีมัสี�ย้�อมัโดย้ละลาย้สี�ในเป็อร"เซึ่1นต"

เฉดทำ��ต��าเพั.�อให�ได�สี�ทำ��อ�อน

ภาพท�� 12.61 แสีดงร(ป็ภาพั การผ้สีมัสี�ในน�%าย้�อมัทำ��เตร�ย้มัไว�

5. น�าผ้�าจ2�มัน�%าสีะอาดก�อนเพั.�อให�ผ้�าเป็>ย้กและด(ดซึ่�มัสี�ได�ด�

ภาพท�� 12.62 แสีดงร(ป็ภาพั ทำ�าให�ผ้�าไหมัเป็>ย้กตลอดทำ%งผ้.น

6. ต�อจากน%นน�าผ้�าหน�บกบไมั�หร.อสี��งหน��งสี��งใดทำ��ทำ�าให�ผ้�าย้�ดเกาะได� แล�วจ2�มัผ้�าด�านล�างสี2ดลงในอ�างย้�อมั และแกว�งผ้�าบ�างในบางคร%งเพั.�อไมั�ให�สี�ย้�อมัเป็�นแนวเสี�นตรง จนครบเวลา น�าออกซึ่ก-ล�าง และพัร�อมัทำ��จะย้�อมัสี�ต�อไป็

59

Page 60: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 12.63 แสีดงร(ป็ภาพั การย้�อมัแบบจ2�มัทำ��มั�เฉดอ�อนเป็�นการย้�อมัสี�แรก

7. เตร�ย้มัสี�ย้�อมัและสีารเคมั� อ�กคร%งเพั.�อจะย้�อมัสี�ทำ��เข�มักว�าสี�แรก โดย้ใช้�สี�ร�แอคทำ�ฟ (Reactive Dyes)

สี�น�%าเง�น (Blue), โซึ่เด�ย้มัซึ่ลเฟต (Sodium Sulfate), โซึ่ดาแอช้ (Soda Ash), สีบ(�เทำ�ย้มั (Wetting Agent)

ภาพท�� 12.64 แสีดงร(ป็ภาพั การเตร�ย้มัสี�เพั.�อย้�อมัสี�ทำ�� 2

8. ผ้สีมัสี�ย้�อมัโดย้ละลาย้สี�ในเป็อร"เซึ่1นต"เฉดทำ��สี(งเพั.�อจะได�สี�ทำ��เข�มักว�าสี�แรก

ภาพท�� 12.65 แสีดงร(ป็ภาพั การผ้สีมัสี�ในน�%าย้�อมัทำ��เข�มักว�า

60

Page 61: มัดย้อม(30 Apr 08)

9. ในกรณ�ทำ��ผ้�าแห�งต�องน�าผ้�าลงช้2บน�%าก�อนแล�วจ�งน�าลงย้�อมัสี�

ภาพท�� 12.66 แสีดงร(ป็ภาพั น�าผ้�าลงช้2บน�%าก�อนย้�อมั10. น�าผ้�าลงย้�อมัต�อทำ�าเหมั.อนกบ

ว�ธี�แรก ด�งผ้�าข�%นลงจนกว�าสี�จะซึ่�มัต�ดอย้(�ในผ้�า เมั.�อได�ผ้�าสี�เข�มัตามัทำ��ต�องการและจ�าไว�ว�าผ้�าเป็>ย้กสี�จะเข�มักว�าผ้�าแห�ง เพัราะฉะน%นการย้�อมัสี�จะต�องเผ้.�อสี�วนน�%ด�วย้

ภาพท�� 12.67 แสีดงร(ป็ภาพั การย้�อมัสี�ทำ�� 2 ทำ��มั�เฉดสี�เข�มัข�%น

11. เมั.�อย้�อมัจนครบเวลาให�น�าผ้�าข�%นจากอ�างย้�อมัแล�วน�าไป็ซึ่ก-ล�าง ให�สีะอาดหลาย้ๆ คร%ง

61

Page 62: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 12.68 แสีดงร(ป็ภาพั การซึ่ก-ล�าง ภาย้หลงย้�อมัสี�

12. การเตร�ย้มัการต�มัน�%าสีบ(�ในอตราสี�วนน�%า 1 ล�ตร ต�อ สีบ(�เทำ�ย้มั 1

กรมั

ภาพท�� 12.69 แสีดงร(ป็ภาพั การเตร�ย้มัการต�มัน�%าสีบ(�

13. ต�มัน�%าสีบ(�ในอ2ณหภ(มั� 100°C เวลา 20

นาทำ� เพั.�อขจดสี�ทำ��ไมั�เกาะต�ดเสี�นใย้ออกให�หมัด

ภาพท�� 12.70 แสีดงร(ป็ภาพั การต�มัน�%าสีบ(�

62

Page 63: มัดย้อม(30 Apr 08)

14. เมั.�อต�มัน�%าสีบ(�เสีร1จ น�ามัาซึ่ก-

ล�าง อ�กคร%งให�สีะอาดแล�วผ้��งหร.อตากให�แห�ง

ภาพท�� 12.71 แสีดงร(ป็ภาพั การซึ่ก-ล�าง15. ผ้�าทำ��ย้�อมัแบบจ2�มัทำ��สี�าเร1จแล�ว

พัร�อมัทำ��จะน�าไป็ใช้�ทำ�าเป็�นผ้ล�ตภณฑ์"สี��งทำอ หร.อเคหะสี��งทำอได�อย้�างสีวย้งามัและขบวนการทำ�าก1ง�าย้

ภาพท�� 12.72 แสีดงร(ป็ภาพั ผ้�าไหมัทำ��ย้�อมัแบบจ2�มั (Dip – Dyes)

การม�ดผ้�าย�อมเป�นลวดลายติ�าง ๆการออกแบบลวดลาย

การออกแบบลวดลาย้บนผ้.นผ้�าในการทำ�าผ้�ามัดย้�อมัทำ�วๆ ไป็ ผ้(�ออกแบบมักจะต%งจ2ดมั2�งหมัาย้ทำ��จะให�ได�ลวดลาย้แป็ลกๆ อย้(�เสีมัอ ตลอดจนป็ระโย้ช้น"ใช้�สีอย้ในด�านต�างๆ ด�วย้ เช้�น ผ้�าเช้1ดหน�า ผ้�าพันคอ ผ้�าป็(โต@ะ ผ้�ามั�าน ผ้�าตดเสี.%อ เป็�นต�น การออกแบบลวดลาย้จ�าเป็�นต�องให�ได�ตามัเป็4าหมัาย้ทำ��ต %งไว� ตวอย้�างผ้�าทำ��ต�องใช้�เป็�นป็ระจ�าก1ควรจะเป็�นลวดลาย้ทำ��เร�ย้บง�าย้ ไมั�ฉ(ดฉาด ผ้(�ออกแบบลวดลาย้และสี�สีนไป็พัร�อมัๆ กนว�าควรใช้�สี�เด�ย้วหร.อหลาย้สี� เมั.�อได�แบบทำ��ต�องการจ�งร�างด�วย้ด�นสีอหร.อช้อล"คสี�อ�อนๆ ไมั�ควรเป็�นลวดลาย้ทำ��ย้2�งย้าก สีลบซึ่บซึ่�อนมัากนก ซึ่��งจะไมั�สีะดวกในการมัดหร.อเนา

63

Page 64: มัดย้อม(30 Apr 08)

1.เทคน�คการออกแบบการก�นส่�ในม�ดย�อมเทำคน�คการกนสี�โดย้การผ้(กมัดอนเป็�นเร.�องพั�เศษเฉพัาะ

และมั�การสี�ารวจช้น�ดของสี�ย้�อมัเพั.�อทำ��จะป็รบให�มั�ความัเหมัาะสีมัระหว�างผ้(�ออกแบบและสี�วนป็ระกอบต�างๆ ตลอดจนอ�ทำธี�พัลจากการมัองเห1นซึ่��งเป็�นความัสีมัพันธี"ระหว�างการระบาย้สี� การย้�อมัสี�อย้�างมั�อ�สีระ โดย้เฉพัาะความัโป็ร�งใสีผ้�านทำะล2ตลอด แมั�จะมั�การย้�อมัทำบหลาย้คร%ง สี��งเหล�าน�%มั�ความัช้ดเจนมัากในงานศ�ลป็ะ

การควบค2มั เป็�นการบงคบการจดรอย้จ�บ การเย้1บและการมัด ซึ่��งต�องใช้�ความัค�ดก�าหนดล�วงหน�า ซึ่��งจะทำ�าให�เก�ดผ้ลตามัทำ��ตามัองเห1น การแนะน�าผ้(�ทำ��เร��มัต�นทำดลอง นอกเหน.อจากการบรรย้าย้ ควรทำ�าบนผ้�าหร.อกระดาษช้�%นเล1กๆ และทำ�าซึ่�%าๆ กน หลาย้ๆ คร%ง ให�มั�ความัถึ(กต�อง แมั�นย้�า หร.ออาจป็ระย้2กต" เป็ล��ย้นแป็ลงแบบให�มั�ความัหลากหลาย้

การเป็ล��ย้นแป็ลงความัหนาและขนาดของผ้�า โดย้ให�ความัสี�าคญี่ต�อเสี�นใย้ ว�ธี�การพับเป็�นจ�บ การผ้(ก และการมัดให�แน�น ตลอดจนอ2ณหภ(มั�และเวลาทำ��เหมัาะสีมัของการย้�อมัสี� ซึ่��งสี��งเหล�าน�%มั�ร(ป็แบบทำ��เป็ล��ย้นแป็ลงได�ตลอดเวลา อย้�างไรก1ตามั ลกษณะทำ��แน�นอนของเทำคน�คเหล�าน�%เป็�นแบบแผ้นและความัร( �พั.%นฐ์าน สี�วนป็ระกอบทำ��สี�าคญี่สี�าหรบการก�าหนดตวกนสี�และทำ�ศทำางของร(ป็แบบของช้�%นงานทำ��ใหญี่� ว�ธี�การทำ��หลากหลาย้ของการพับ การจ�บเป็�นความัคงเสี�นคงวาในการก�าหนดทำ�ศทำาง เป็�นร�%วหร.อลาย้ย้าวในแนวต%งตรงแนวนอน เสี�นทำะแย้งมั2มัเป็�นร(ป็ตวว� (V)

หร.อสี��เหล��ย้มัเก��ย้วกบการเย้1บและการใช้�เคร.�องหน�บจบ ซึ่��งเป็�นไป็ได�

ต�อการควบค2มัการจดวาง การก�าหนดพั.%นทำ��ทำ%งสีองด�านทำ%งร(ป็แบบทำ��ใหญี่�และเล1กเทำคน�ค “Tritk” เป็�นความัพั�เศษอย้�างเหมัาะสีมัสี�าหรบการทำ�างานของผ้(�มั�อารมัณ"ทำ��อ�อนไหว และมั�เหต2ผ้ลโดย้การก�าหนด ล�ลา จงหวะ บนผ้�วหน�าผ้�าไว�ล�วงหน�าสี�าหรบผ้(�เร��มัต�นไป็สี(�การจดวาง เพั��มัเต�มัเข�าไป็จ�านวนหน��งโดย้เฉพัาะว�ธี�

64

Page 65: มัดย้อม(30 Apr 08)

การทำ�างานให�มั�ความัสีมับ(รณ"โดย้บงเอ�ญี่ ซึ่��งจะป็รากฏิผ้ลต�อความัร( �สี�กของการออกแบบทำ��ไมั�เสี�ย้ไป็ สี��งตอบแทำนในการทำ�างานในกระบวนการเหล�าน�%มัาจากการเร�ย้นร( �สี(�การป็ระย้2กต"ทำ��พัย้ากรณ"ไมั�ได� ซึ่��งเป็�นผ้ลมัาจากการสีร�างสีรรค" การค�ดค�นข�%นเองมัากกว�าการแก�ป็Fญี่หา ดงน%น ในข�อน�%เป็�นสี��งสี�าคญี่มัากต�อการค�นพับโดย้การทำดลองทำ�าเป็�นตวอย้�างและหาข�อผ้�ดพัลาดซึ่��งเป็�นสี��งทำ��เป็�นไป็ได� การบงเอ�ญี่อาจเก�ดข�%นได�เสีมัอและสีามัารถึกลาย้เป็�นจ2ดเร��มัต�นของความัค�ดใหมั�ๆ ในความัร( �สี�กอาจจะเป็�นผ้ลให�เก�ดความัย้2�งย้ากซึ่บซึ่�อน

เทำคน�คการทำ�างานในสี��งเหล�าน�%มั�ระย้ะเวลาอนย้าวไกล การทำ�างานโดย้ช้�างผ้(�มั�ฝ้>มั.อมั�ความัล�กซึ่�%ง มั�สีต�ป็Fญี่ญี่า ความัร( �สี�กทำ��อย้ากร( �อย้ากเห1นของความัสีมัด2ลระหว�างว�ธี�การและสี��งทำ��ไมั�อาจพัย้ากรณ"ได� ซึ่��งเทำคน�คของคนสีมัย้โบราณป็รากฏิข�%นทำ%งทำางด�านความัค�ด การป็ระด�ษฐ์" สีามัารถึน�ามัาใช้�ป็ระโย้ช้น"และมั�ว�ธี�การทำ�าทำ��แตกต�างกน บางสี��งบางอย้�างมั�การป็ฏิ�บต�ทำ��เป็�นพั.%นฐ์านสี(�ความัต�องการกลาย้เป็�นความัค2�นเคย้อนเป็�นว�ธี�การทำ��บรรล2ผ้ลจากการสีงเกตและการสีร�างสีรรค"ทำ��เป็�นแบบแผ้น (Belfer, N. 1972 : 80)

2.การม�ดให�เก�ดลวดลายการทำ�า ผ้�ามัดย้�อมั บางทำ�ก1ให�ความัสีน2กสีนานเมั.� อได�

พั�จารณาถึ�งการออกแบบและว�ธี�การมัดทำ��แตกต�างกนต�อผ้ลทำ��ออกมัา การฝ้Nกหดทำ�าผ้�ามัดย้�อมัแต�ละว�ธี�เป็�นการเร�ย้นร( �ว�ธี�การทำ�างานเป็�นอย้�างไร จากการทำ�างานแต�ละช้�%น แต�ละว�ธี�ของการมัดย้�อมัและมั�การจ�าแนก เพั.�อให�เห1นผ้ลงานทำ��มั�ค2ณค�าในช้�%นงานโดย้พัย้าย้ามัออกแบบ ตลอดจนเอาแบบอย้�างงานทำ�วๆ ไป็ ให�เทำ�าเทำ�ย้มัหร.อด�กว�า

การมัดมั�ความัหลากหลาย้ สีามัารถึจดเป็�นหมัวดหมั(�อย้�างง�าย้ๆ เช้�น ทำ�าเป็�นวงกลมั การรวบรวมั การพับ การใช้�เคร.�องหน�บจบ หร.อใช้�วสีด2ทำ��ใช้�ห2�มัห�อสี��งของภาย้ในการเย้1บ เป็�นต�น รวมัทำ%งแบบอย้� างทำ�� ไมั�สีลบซึ่บซึ่�อนมั�ร(ป็แบบทำ��

65

Page 66: มัดย้อม(30 Apr 08)

เป็ล��ย้นแป็ลงได�ง�าย้ๆ และรวมัถึ�งว�ธี�การมัดแบบพั.%นฐ์าน การใช้�เช้.อกมัดเป็�นการวางการมัดด�วย้เช้.อกบนผ้�าเพั.�อให�เสี�นของเช้.อกเป็�นตวกนสี� มั�การทำดลองอนหลากหลาย้ว�ธี�ของการมัดด�วย้เช้.อกบนช้�%นงานและการน�าไป็ย้�อมัสี� ซึ่��งสีงเกตได�จากผ้ลงานทำ��ออกมัา ถึ�าวสีด2ในการมัดทำ��มั�ความักว�าง เช้�น ย้างรดทำ��หนา หร.อแผ้�นย้างย้.ดจะทำ�าให�พั.%นทำ��สี�วนน%นจะย้งคงขาวซึ่��งเป็�นสี�วนกว�างของการมัด ถึ�ามัดด�วย้เช้.อกห�างออกไป็เพั�ย้งเล1กน�อย้จะทำ�าให�ผ้ลทำ��ออกมัาในเสี�นเก��ย้วกบสี�จะค�อย้ๆ เข�ามัาระหว�างเช้.อก วสีด2ทำ��ใช้�ห�อห2�มัน%นต�องมัดให�แน�นๆ จากสี�วนบนสี(�ตอนล�างสี2ดจะให�ผ้ลของเสี�นช้ดเจน ถึ�าสี�วนบนและตอนล�างสี2ดมัดอย้�างหลวมัๆ ไมั�แน�นเสี�นจะอ�อนไมั�ค�อย้ช้ดเจนนก (Meilach. Dona Z. 1973 : 179 –185)

เช้.อกทำ��ผ้�านการเล.อกมัาสี�าหรบผ้(กมัด มันจะไมั�ขาดง�าย้ๆ ซึ่��งจะเป็�นป็Fญี่หาต�อการด�งอย้�างร2นแรง เมั.�อเร��มัต�นมัดควรเผ้.�อป็ลาย้ให�ย้าวเมั.�อจบจะหาต�าแหน�งของการผ้(กมัดตลอดจนเมั.�อต�องการแก�จะทำ�าได�ง�าย้ข�%น การมัดผ้�าก�อนการย้�อมัสี�มั�ว�ธี�การมัดหลาย้แบบหลาย้ว�ธี�ข�%นอย้(�กบความัต�องการของผ้(�ทำ�าหร.อเพั.�อความัเหมัาะสีมัในงานทำ��น�า ไป็ใช้�แต�เพั.�อเป็�นหลกในการป็ฏิ�บต�เบ.%องต�น (กรมัสี�งเสีร�มัอ2ตสีาหกรรมั. 2540 : 19-20) ได�ให�แนวทำางในการมัดมั�อย้(� 2 ว�ธี� ดงน�%

การมัดแบบไขว�ไป็มัา เร�ย้กว�า มัดโป็ร�ง เป็�นการมัดทำ��ต�องการให�สี�แทำรกซึ่�มัเข�าไป็ในบางสี�วนของผ้�าทำ��ไมั�ถึ(กเช้.อกมัด ทำบ ซึ่��งหลงจากย้�อมัสี�เสีร1จแล�ว ช้�องว�าง ในระหว�างเช้.อกทำ��ไขว�ไป็มัา สี�จะแทำรกซึ่�มัเข�าไป็ได�จะเก�ดเป็�นลาย้ในตวและมั�รอย้เช้.อกทำ��มัดเป็�นสี�ขาวไขว�ไป็มัา สี�วนด�านในของผ้�าก1จะเป็�นสี�ขาวสีลบกบบางสี�วนทำ��สี�แทำรกเข�าไป็ได� การมัดโป็ร�งน�%สีามัารถึมัดผ้�าให�ได� ค ว า มักว�างเทำ�าไรก1ได�แล�วแต�ความัต�องการของเรา โดย้การมัด จ ะ เ ร�� มัต�นในสี�วนของผ้�าทำ��ต�องการ จะเก1บสี�

66

Page 67: มัดย้อม(30 Apr 08)

ไว� โดย้เร��มัจรดป็ลาย้เช้.อกให�ป็ลาย้เช้.อกเหล.อไว�ป็ระมัาณ 4-5

น�%ว มัดเช้.อกไป็รอบผ้�าป็ระมัาณ 2-3 รอบ ให�เช้.อกทำบกบป็ลาย้เช้.อกแล�วจ�งเร��มัไขว�ไป็ตามัความัต�องการ ซึ่��งจะให�มั�ความักว�างของสี�วนทำ��จะเก1บสี�เด�มัไว�เทำ�าใด เมั.�อได�ตามัต�องการแล�ว จ�งวนเช้.อกไขว�กลบมัาหาป็ลาย้เช้.อกทำ��เร��มัต�นแล�วจ�งมัดให�แน�น

การมัดแบบไขว� มัดโป็ร�ง“ ” ผ้ลของการมัดแบบไขว�

ภาพท�� 2.1 แสีดงร(ป็ภาพั ว�ธี�การมัดผ้�าแบบไขว� และผ้ลจากการมัดไขว�

การมัดโดย้ว�ธี�ให�ร�มัของเช้.อกซึ่�อนทำบกนไป็เร.�อย้ๆ เร�ย้กว�า มัดทำ�บ เป็�นการซึ่�อนเช้.อกทำบกนจนได�ความักว�างทำ��ต�องการ เก1บบร�เวณผ้�าทำ��ไมั�ต�องการให�สี�แทำรกซึ่�มัเข�าไป็ จ�งพับกลบมัาทำ��จ2ดเร��มัต�นโดย้ใช้�ว�ธี�เด�มั (เช้.อกทำ��ใช้�ควรเป็�นเช้.อกฟาง เพัราะคล��ขย้าย้ให�กว�างเทำ�าใดก1ได�) ให�ร�มัของเช้.อกฟางน%นทำบกนพัอป็ระมัาณและเมั.�อป็ลาย้เช้.อกทำ%งสีองมัาบรรจบกน ก1ผ้(กมัดให�แน�น ซึ่��งจะเห1นได�ว�าบร�เวณทำ��มัดโดย้ใช้�ร�มัเช้.อกซึ่�อนกนน%นจะป็Cดบงไมั�ให�สี�เข�าไป็ได�เลย้ จ2ดป็ระสีงค"ของการมัดว�ธี�น�% ค.อ ไมั�ต�องการให�สี�ทำ��เราจะย้�อมัแทำรกซึ่�มัเข�าไป็ไมั�ว�าจะย้�อมัสี�แรกหร.อการเก1บสี�แรก

67

Page 68: มัดย้อม(30 Apr 08)

ว�ธี�การมัดแบบทำ�บ ผ้ลของการมัดแบบทำ�บ

ภาพท�� 2.2 แสีดงร(ป็ภาพั ว�ธี�การมัดแบบทำ�บ และผ้ลจากการมัดแบบทำ�บ

1.การออกแบบการพ�บและม�ดให�เก�ดลวดลายการทำ�าผ้�ามัดย้�อมัแต�ละคร%ง ผ้(�ป็ฏิ�บต�ทำ2กคนจะมั�ความัป็รารถึนาทำ��จะ

ไมั�ต�องการให�ลวดลาย้ซึ่�%าๆ กน แต�ต�องการความัแป็ลกใหมั�ของลวดลาย้ ดงน%น การเตร�ย้มัลวดลาย้จ�งเป็�นสี��งจ�าเป็�น การทำ�าผ้�ามัดย้�อมัน�%มั�ทำ%งลวดลาย้ทำ��เป็�นระเบ�ย้บและไมั�เป็�นระเบ�ย้บ สี�วนมัากแล�วจะเตร�ย้มัลาย้ทำ��เป็�นระเบ�ย้บเทำ�าน%นด�วย้การใช้�ด�นสีอหร.อช้อล"คสี�อ�อนๆ ร�างลวดลาย้เบาๆ หร.อจ2ดให�ทำราบต�าแหน�งทำ��ต�องการเพั.�อให�ได�ช้�องไฟของลาย้เทำ�าๆ กน หร.ออาจหาต�าแหน�ง เสี�นตรง วงกลมั วงร� สี��เหล��ย้มั เสี�นโค�ง เป็�นต�น

การออกแบบลวดลาย้ทำ��จะก�าหนดลงบนผ้�าน%น ในเบ.%องต�นน�%การป็ระด�ษฐ์"ลวดลาย้ต�างๆ สีามัารถึทำดลองป็ระด�ษฐ์"ข�%นมัาได�ด�วย้ตวเอง โดย้การพับกระดาษแล�วใช้�ว�ธี�การสีมัมั2ต�ว�าตรงไหนเป็�นรอย้พับและการพับคร%งสี2ดทำ�าย้สีมัมั2ต�เป็�นรอย้ทำ��ถึ(กเสี�นด�าย้ หร.อเช้.อกมัดซึ่��งจะต�องพับกระดาษให�เป็�นรอย้ช้�%า หร.อจ2�มัสี� แล�วค�อย้ๆ คล��กระดาษออกด(พั�จารณาตามัรอย้พับคร%งสี2ดทำ�าย้ ซึ่��งจะเป็�นลาย้ทำ��แทำ�จร�ง เมั.�อได�ลาย้ทำ��ต�องการแล�วน�าลาย้ทำ��ได�มัาถึ�าย้แบบ ค.อ พับลวดลาย้น%นลงบนผ้�า และรอย้พับกระดาษคร%งสี2ดทำ�าย้ ค.อ รอย้เช้.อกมัด น�าผ้�าทำ��พับและมัดเสีร1จแล�วน�าไป็ย้�อมัสี� รอย้เช้.อกมัดก1จะไมั�ต�ดสี�แล�วลองเป็ร�ย้บเทำ�ย้บด(กบแมั�แบบทำ��พับกระดาษ ด(ว�าเหมั.อนกนหร.อไมั�ดงตวอย้�าง ต�อไป็น�%

1. การออกแบบลวดลาย้การพับและมัด

68

Page 69: มัดย้อม(30 Apr 08)

1.1 ลวดลาย้เสี�นตรง

ลวดลาย้จากการพับ มัดกระดาษสีา– ลวดลาย้จากการพับ มัดผ้�า–

ภาพท�� 2.3 แสีดงร(ป็ภาพัว�ธี�การพับ มัด กระดาษสีาและผ้�าให�เก�ด–

ลวดลาย้ เสี�นตรง“ ”

1.2 ลวดลาย้เสี�นซึ่�กแซึ่ก

69

Page 70: มัดย้อม(30 Apr 08)

ลวดลาย้จากการพับ มัดกระดาษสีา– ลวดลาย้จากการพับ มัดผ้�า–

ภาพท�� 2.4 แสีดงร(ป็ภาพัว�ธี�การพับ มัด กระดาษสีาและผ้�าให�เก�ด–

ลวดลาย้ ซึ่�กแซึ่ก“ ”

1.3 ลวดลาย้วงกลมัจากจ2ดศ(นย้"กลาง

ลวดลาย้จากการพับ มัด กระดาษสีา–

ลวดลาย้จากการพับ มัด ผ้�า–

ภาพท�� 2.5 แสีดงร(ป็ภาพั ว�ธี�การพับ มัด กระดาษสีาและผ้�าให�เก�ด–

ลวดลาย้ วงกลมั จากจ2ดศ(นย้"กลาง“ ”

70

Page 71: มัดย้อม(30 Apr 08)

1.4 ลวดลาย้วงกลมัทำ��เก�ดจากการพับและมัด

ร(ป็ทำรงสีามัเหล��ย้มั

ลวดลาย้จากการพับ มัด กระดาษสีา– ลวดลาย้จากการพับ –

มัดผ้�า

71

11

Page 72: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 2.6 แสีดงร(ป็ภาพัว�ธี�การพับ มัด กระดาษสีาและผ้�าให�เก�ด–

ลวดลาย้ วงกลมั อนเก�ดจากการพับและมัดร(ป็ทำรง“ ”

สีามัเหล��ย้มั

1.5 ลวดลาย้วงกลมัทำ��เก�ดจากการพับและมัดในลกษณะการพับแนวทำแย้งมั2มั

72

Page 73: มัดย้อม(30 Apr 08)

ลวดลาย้จากการพับ มัด กระดาษสีา– ลวดลาย้จากการพับ – มัด ผ้�า

ภาพท�� 2.7 แสีดงร(ป็ภาพัว�ธี�การพับ มัด กระดาษสีาและผ้�าให�เก�ด–

ลวดลาย้ วงกลมั ในลกษณะการพับแนวทำแย้ง“ ”

มั2มั

1.6 ลวดลาย้วงกลมัทำ��เก�ดจากการพับและหน�บด�วย้ทำ��หน�บผ้�า ร(ป็สีามัเหล��ย้มั

ลวดลาย้จากการพับ หน�บจบกระดาษสีา– ลวดลาย้จากการพับ หน�บจบผ้�า–

73

11

Page 74: มัดย้อม(30 Apr 08)

ภาพท�� 2.8 แสีดงร(ป็ภาพัว�ธี�การพับ หน�บจบกระดาษสีาและผ้�าให�เก�ด–

ลวดลาย้ วงกลมั อนเก�ดจากการพับและหน�บจบร(ป็“ ”

สีามัเหล��ย้มั

1.7 ลวดลาย้สี��เหล��ย้มัด�วย้ว�ธี�การพับทำ��แตกต�างกน

ว�ธ�ท�� 1

ลวดลาย้จากการพับ มัด กระดาษสีา–

ลวดลาย้จากการพับ มัด ผ้�า–

ภาพท�� 2.9 แสีดงร(ป็ภาพัว�ธี�การพับ มัด กระดาษสีาและผ้�าให�เก�ด–

ลวดลาย้ สี��เหล��ย้มั ว�ธี�ทำ�� “ ” 1

ว�ธ�ท�� 2

74

Page 75: มัดย้อม(30 Apr 08)

ลวดลาย้จากการพับ มัด กระดาษสีา– ลวดลาย้จากการพับ มัด ผ้�า–

ภาพท�� 2.10 แสีดงร(ป็ภาพัว�ธี�การพับ มัด กระดาษสีาและผ้�าให�เก�ด–

ลวดลาย้ สี��เหล��ย้มั ว�ธี�ทำ�� “ ” 2

ว�ธ�ท�� 3

75

Page 76: มัดย้อม(30 Apr 08)

ลวดลาย้จากการพับ มัด กระดาษสีา– ลวดลาย้จากการพับ มัด ผ้�า–

ภาพท�� 2.11 แสีดงร(ป็ภาพัว�ธี�การพับ มัด กระดาษสีาและผ้�าให�เก�ด–

ลวดลาย้ สี��เหล��ย้มั ว�ธี�ทำ�� “ ” 3

76