Page 1
ระเบี�ยบีวิ�ธี�การวิ�จั ย (Research
Methodology)❶
ก�าหนดห วิข้�อ
❹ ก�าหนดประชากรเป�าหมาย
❺ก�าหนดที่��มาข้องข้�อม�ล
❻จั ดระเบี�ยบีข้�อม�ล
❼ร�างรายงาน
❽ตี�พิ�มพิ"รายงาน กำ��หนดประเด�น
สร �งกำรอบแนวคว�มค�ด
ออกำแบบกำ�รว�จั�ย
ส��มตั�วอย��งสร �งและทดสอบ
ว�ธี�กำ�รเกำ�บ/รวบรวมข้ อม!ล
ว�เคร�ะห"ข้ อม!ล
ปร�บปร�งร�ยง�น
เผยแพร�ใช้ ประโยช้น"
การวิ�จั ย
❷
ที่บีที่วินวิรรณกรรม
วิ ตีถุ%ประสงค์"สมมตี�ฐาน
Page 2
ประเด)นป*ญหาหร,อ
ส��งที่��ตี�องการหาค์�าตีอบี
กระบีวินการแสวิงหาค์�าตีอบี ก�าหนดประชากรและกล%�มตี วิอย�าง ก�าหนดเค์ร,�องม,อที่��ใช�ในการวิ�จั ย วิ�ธี�การเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ล การวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล
ผลการวิ�จั ย
ที่��ถุ�กตี�องเช,�อถุ,อได�
และเก�ดประโยชน"
ตี�องานที่��ที่�าค์�าถุาม วิ�ธี�ที่�า ค์�าตีอบี
ส�ม�รถน��ไปตัอบค��ถ�มตั�มประเด�นท�*ตั� +งไว ได
แผนภาพิแสดงวิงจัรค์วิามหมายข้องการวิ�จั ย
Page 3
(2)กำ�รออกำแบบกำ�รว�จั�ย
(4)กำ�รว�เคร�ะห"ข้ อม!ล
(3)กำ�รรวบรวมข้ อม!ล
(5)กำ�รตั�คว�มหม�ย
(1)กำ�รเล,อกำป-ญห�ข้องกำ�รว�จั�ยและตั�+งสมมตั�ฐ�น
วิงจัรภาพิการวิ�จั ยข้อง เดล�ย"(Dailey, 1978:5)
Page 4
ค์�าถุามเพิ,�อการวิ�จั ยค์�าถุามเพิ,�อการวิ�จั ยที่�าอะไร What . . . To do ?
ที่�าที่�าไม Why ?
(ที่�าเพิ,�ออะไร) ที่�าก บีใค์ร Who ? ที่�าที่��ไหน Where ? ที่�าอย�างไร How ? ที่�าเม,�อไร When ?
ข้�อม�ล
ค์รบีถุ�วิน
ถุ�กตี�อง
เช,�อถุ,อได�
Page 5
ป*ญหา
ตี 3งสมมตี�ฐา
นรวิบีรวิมข้�อม�ล
วิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล
สร%ป
แผนภาพิ ข้ 3นตีอนวิ�ธี�การที่างวิ�ที่ยาศาสตีร"
Page 6
กำ��หนดป-ญห�กำ�รว�จั�ยข้ 3นป*ญหาศึ1กำษ�เอกำส�รและง�นว�จั�ยท�*เกำ�*ยวข้ องให ค��จั��กำ�ดคว�มข้องป-ญห�กำ��หนดจั�ดม��งหม�ยกำ�รว�จั�ยกำ��หนดสมมตั�ฐ�นกำ�รว�จั�ย
ข้ 3นสมมตี�ฐาน
กำ��หนดประช้�กำรและและกำล��มตั�วอย��งเล,อกำและสร �งเคร,*องม,อด��เน�นกำ�รรวบรวมข้ อม!ล
ข้ 3นรวิบีรวิมข้�อม�ล
ว�เคร�ะห"ข้ อม!ล
เสนอผลกำ�รว�เคร�ะห"ข้ อม!ลข้ 3นวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล
สร�ปและอภิ�ปร�ยผลกำ�รว�จั�ย
เข้�ยนร�ยง�นกำ�รว�จั�ยข้ 3นสร%ปผล
ข้ 3นตีอนข้องกระบีวินการวิ�จั ย
Page 7
ห วิข้�องานวิ�จั ย
วิ ตีถุ%ประสงค์"ข้องงานวิ�จั ย
ประโยชน"ที่��ได�ร บี
ประเด)นป*ญหาข้องงานวิ�จั ย
ภาพิ แสดงค์วิามส มพิ นธี"ข้องกระบีวินการวิ�จั ยโดยส งเข้ป
ประชากรและกล%�มตี วิอย�างเค์ร,�องม,อที่��ใช�ในการวิ�จั ย
การเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ลการวิ�เค์ราะห"และการแปรผล
ตี วิแปรและ
สมมตี�ฐาน
กำ��หนดกำ��หนดกำ��หนดกำ��หนด
เป4นข้ อม!ลหร,อแนวท�งเพ,*อน��ไปใช้ แกำ ไข้หร,อบรรเท�ป-ญห�
สอดคล องและสน�บสน�น
กำ��หนด กำ��หนดส�มพ�นธี"
ส�มพ�นธี"น�าไปค์าดการณ"
Page 8
หล กเกณฑ์"การเล,อกห วิข้�องาน
วิ�จั ย
แกำ ป-ญห�ได ประเด�นน��สนใจั เกำ�ดประโยช้น"ตั�อส�วนรวม
ม�คว�มเช้�*ยวช้�ญม�ข้ อม!ลสน�บสน�นมองทะล�ถ1งตัอนจับได อย!�ในส�ยง�นท�*เกำ�*ยวข้ อง
ไม�กำว �งหร,อแคบจันเกำ�นไปท�นตั�อเหตั�กำ�รณ์"ใช้ ทร�พย�กำรในกำ�รว�จั�ย อย��งค� มค��
เป4นประโยช้น"หร,อไม�
ท��ได หร,อไม�
ค� มค��หร,อไม�
ห วิข้�องานวิ�จั ย
ม�ประโยชน"
ที่�าได�
ค์%�มค์�า
ไม�ค์วิรที่�า
ไม�ค์วิรที่�า
ไม�ค์วิรที่�า
ไม�ม�ประโยช้น"
ท��ไม�ได
ไม�ค� มค��
ภาพิ แสดงแนวิที่างการตี ดส�นใจัเล,อกห วิข้�องานวิ�จั ย
Page 9
ระด บีการวิ ดตี วิแปร (Level of Measurement)
ข้�อม�ลหยาบี ข้�อม�ลหยาบี 1. มาตีรานามบี ญญ ตี�(Nominal Scale)
2 . มาตีราเร�ยงล�าด บี(Ordinal Scale)
3 . มาตีราอ นตีรภาค์ช 3น(Interval Scale)
4 . มาตีราอ ตีราส�วิน(Ratio Scale)
ข้�อม�ลละเอ�ยดมากที่��ส%ด
ภาพิ แสดงระด บีการวิ ดตี วิแปรจัากข้�อม�ลหยาบีไปย งข้�อม�ลละเอ�ยดมากที่��ส%ด
Page 10
ภิ�พแสดงกำ�รเปร�ยบเท�ยบระด�บกำ�รว�ดตั�วแปร ท�+ง 4 ม�ตัร� 1. มาตีรานามบี ญญ ตี�
(Nominal Scale) 2. มาตีราเร�ยงล�าด บี
(Ordinal Scale)
3 . มาตีราอ นตีรภาค์ช 3น(Interval Scale)
4 . มาตีราอ ตีราส�วิน(Ratio Scale)
เช้�น ตั�วแปรเพศึ, สถ�นภิ�พสมรส เช้�น ตั�วแปรว�ฒิ�กำ�รศึ1กำษ�, ระด�บยศึ
1. จั�ดเป4นกำล��มได 1.จั�ดเป4นกำล��มได 2.บอกำระด�บคว�มม�กำน อยหร,อเร�ยงล��ด�บได
1. จั�ดเป4นกำล��มได 2. บอกำระด�บคว�มม�กำน อยหร,อเร�ยงล��ด�บได 3. ม�ค��เป4นตั�วเลข้และม�ช้�วงห��งเท��กำ�น
1. จั�ดเป4นกำล��มได 2. บอกำระด�บคว�มม�กำน อยหร,อเร�ยงล��ด�บได 3. ม�ค��เป4นตั�วเลข้และม�ช้�วงห��งเท��กำ�น4. ม�จั�ดเร�*มตั นจั�กำ 0 (ม�ศึ!นย"แท )
เช�น ตี วิแปรระด บีอ%ณหภ�ม� เช้�น ตั�วแปรน�+�หน�กำ, ส�วนส!ง
Page 11
ตี วิแปรที่��เก�ดข้63นมาก�อน
ตี วิแปรที่��เป7นเหตี%
ตี วิแปรค์งที่��
ภิ�พ -แสดงล�กำษณ์ะตั�วแปรตั นหร,อตั�วแปรอ�สระ
(Independent Variables)
ตี วิแปรตี�น
Page 12
ตี วิแปรที่��เก�ดข้63นภายหล ง
ตี วิแปรที่��เป7นผล
ตี วิแปรที่��ปร บีเปล��ยน
แปลงได�
ภิ�พ - แสดงล�กำษณ์ะตั�วแปรตั�ม(Dependent Variables)
ตี วิแปรตีาม
Page 13
สถุ�ตี�เช�งพิรรณนา
Descriptive
Statistics
สถ�ตั�อ �งอ�ง
Inference
Statistics
ค��ร อยละ (Percentage)ค��เฉล�*ย(Mean)
ค��ม�ธียฐ�น(Median)ค��ฐ�นน�ยม(Mode)ค��พ�ส�ย(Range)
ค��ส�วนเบ�*ยงเบนควอไทล"(Quartile Deviation)ค��ส�วนเบ�*ยงเบนม�ตัรฐ�น(Standard Deviation)
สถ�ตั�อ �งอ�งแบบม�พ�ร�ม�เตัอร"Parametric Inference
สถ�ตั�อ �งอ�งแบบไม�ม�พ�ร�ม�เตัอร"Non Parametric Inference
กำ�รแจักำแจังแบบท�t-test
กำ�รแจักำแจังแบบปกำตั�ม�ตัรฐ�นZ-test
กำ�รว�เคร�ะห"คว�มแปรปรวนANOVA
กำ�รแจักำแจังแบบไคสแควร"Chi-Square
ส�มประส�ทธี�:สหส�มพ�นธี"Correlation Coefficient
ประช้�กำรกำล��มเด�ยวOne Sample Test
ประช้�กำร 2 กำล��มอ�สระกำ�นIndependence Samples Test
ประช้�กำร 2 กำล��มอ�สระตั�อกำ�น
Paired Sample Test
ภาพิ แสดงโค์รงสร�างการค์�านวิณที่างสถุ�ตี�ที่��น�ยมใช�ในงานวิ�จั ยที่างส งค์ม
สถ�ตั�Statistics
กำ�รจักำแจังคว�มถ�*Frequency
กำ�รว�ดแนวโน มเข้ �ส!�ส�วนกำล�งCentral Tendency
กำ�รว�ดกำ�รกำระจั�ยMeasure of Variation
Page 14
สถ�ตั�อ �งอ�งแบบม�พ�ร�ม�เตัอร"Parametric Inference
สถ�ตั�อ �งอ�งแบบไม�ม�พ�ร�ม�เตัอร"Non Parametric Inference
กำ�รแจักำแจังแบบท�t-test
กำ�รแจักำแจังแบบปกำตั�ม�ตัรฐ�นZ-test
กำ�รว�เคร�ะห"คว�มแปรปรวนANOVA
กำ�รแจักำแจังแบบไคสแควร"Chi-Square
ส�มประส�ทธี�:สหส�มพ�นธี"Correlation Coefficient
ประช้�กำรกำล��มเด�ยวOne Sample Test
ประช้�กำร 2 กำล��มอ�สระกำ�นIndependence Samples Test
ประช้�กำร 2 กำล��มอ�สระตั�อกำ�น
Paired Sample Test
สถ�ตั�อ �งอ�ง
Inference
Statistics
ภาพิ แสดงโค์รงสร�างการค์�านวิณที่างสถุ�ตี�อ�างอ�ง
Page 15
โค์รงสร�างการรายงานการวิ�จั ยส�วินน�า(Preliminary) ส�วินเน,3อเร,�อง (Body
of Report)ส�วินน�า ประกอบีด�วิย ปกนอก/ส นปก ใบีร บีรอง ปกใน บีที่ค์ ดย�อ ก�ตีตี�กรรมประกาศ สารบี ญ ค์�าอธี�บีายส ญล กษณ"และค์�าย�อ
ส�วินเน,3อเร,�องประกอบีด�วิยบีที่ที่��1 บีที่น�า•คว�มเป4นม�และคว�มส��ค�ญข้องป-ญห�•ว�ตัถ�ประสงค"ข้องกำ�รว�จั�ย•สมมตั�ฐ�นกำ�รว�จั�ยข้อบเข้ตัข้องกำ�รว�จั�ย•ข้ อตักำลงเบ,+องตั น•ข้ อจั��กำ�ดข้องกำ�รว�จั�ย•น�ย�มศึ�พท"เฉพ�ะ•ประโยช้น"ข้องผลกำ�รว�จั�ย
บีที่ที่�� 2 เอกสารและงานวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�อง•แนวค�ดและทฤษฎี�จั�กำเอกำส�รและตั��ร�ท�*เกำ�*ยวข้ อง•เอกำส�รและง�นว�จั�ยท�*เกำ�*ยวข้ อง•สร�ปเอกำส�รและง�นว�จั�ยเข้ �ส!�ประเด�นป-ญห�กำ�รว�จั�ย
บีที่ที่�� 3 วิ�ธี�ด�าเน�นการวิ�จั ย•ประช้�กำรและกำล��มตั�วอย��ง•เคร,*องม,อในกำ�รว�จั�ย•กำ�รเกำ�บรวบรวมข้ อม!ล•สถ�ตั�ท�*ใช้ ในกำ�รว�เคร�ะห"ข้ อม!ล
บีที่ที่�� 4 ผลข้องการวิ�จั ย•ผลกำ�รว�เคร�ะห"ข้ อม!ล
บีที่ที่�� 5 สร%ปอภ�ปรายและข้�อเสนอแนะ•สร�ปผลกำ�รว�จั�ย•อภิ�ปร�ยผลกำ�รว�จั�ย•ข้ อเสนอแนะ
Page 16
ส�วินอ�างอ�งReferenced Material
ส�วินอ�างอ�งประกอบีด�วิย บรรณ์�น�กำรม ภิ�คผนวกำ ภาค์ผนวิก ก
-หน�งส,อข้อเช้�ญตั��ง ๆ-หน�งส,อข้อคว�มร�วมม,อ
*ร�ยช้,*อผ! เช้�*ยวช้�ญ ภาค์ผนวิก ข้ -แบบสอบถ�ม (หร,อเคร,*องม,อท�*ใช้ ในกำ�รว�จั�ยตั��งๆ) ภาค์ผนวิก ค์ -ร�ยละเอ�ยดบ�งอย��งท�*ไม�ได ใส�ไว ในส�วนข้องเน,+อเร,*อง(ถ �ม�) ประว�ตั�ผ! ว�จั�ย
ตี�อ
Page 17
ภาพิ แสดงค์วิามส มพิ นธี"ระหวิ�างประชากร(Population)และกล%�มตี วิอย�าง(Sample)
ประชากร(Population)ใช�ค์�าพิาราม�เตีอร"
กล%�มตี วิอย�าง(Sample)
ใช�ค์�าสถุ�ตี�
ส%�มตี วิอย�าง(Sampling)
เป7นตี วิแที่นประชากร
สร%ปหร,ออ�างอ�งประชากรที่ 3งกล%�มได�
Page 18
กล%�มตี วิอย�าง(Samples)
กำล��มตั�วอย��งหม�ยถ1ง ส�วนหน1*งข้องประช้�กำรท�*ใช้ ในกำ�รว�จั�ย เช้�นถ �ประช้�กำรหม�ยถ1งน�กำเร�ยนม�ธียมศึ1กำษ�ตัอนตั นท�กำคนใน
กำร�งเทพมห�นคร กำล��มตั�วอย��งข้องประช้�กำรได แกำ� ส�วนหน1*งข้อง น�กำเร�ยนม�ธียมศึ1กำษ�ตัอนตั น อ�จัจัะ300-400 คน ใน
กำร�งเทพมห�นครกำล��มตั�วอย��งท�*ใช้ ในกำ�รว�จั�ยท�*ด�จัะตั องเป4นตั�วแทนข้องประช้�กำรท�*
ศึ1กำษ� ซึ่1*งจัะตั องได ม�ด วยว�ธี�กำ�รส��มตั�วอย��งและตั องม�ข้น�ดเพ�ยงพอ
Page 19
การก�าหนดข้นาดข้องกล%�มตี วิอย�างด�วิยการค์�านวิณจัากส�ตีร
โดยใช้ กำ�รกำ��หนดค��คล�ดเคล,*อนท�*น�ยมใช้ แบ�งออกำได เป4น 2 ว�ธี�
กำ�รกำ��หนดข้น�ดข้องตั�วอย��ง ในกำรณ์�ท�*ทร�บจั��นวนประช้�กำร
2Ne1
Nn
ส!ตัร
n = ข้น�ดข้องกำล��มตั�วอย��งN = ข้น�ดข้องประช้�กำรท�*ใช้ ในกำ�รว�จั�ยe = ค��เปอร"เซึ่�นคว�มคล�ดเคล,*อนจั�กำตั�วอย��ง
Page 20
ตี วิอย�าง ถุ�าประชากรที่��ใช�ในการวิ�จั ยม�จั�านวิน 2,000 ยอมร บีค์�าค์วิามค์ลาดเค์ล,�อนจัากการส%�มตี วิอย�างได� 5
% หร,อ 0.05 ข้นาดข้องกล%�มตี วิอย�างจัะค์�านวิณได�ด งน�3
333.3336
000,251
000,2
)05.0(000,21
000,2Ne1
Nn
2
2
ว�ธี�ท��
หร,อ 333 ราย
Page 21
การค์�านวิณข้องข้นาดกล%�มตี วิอย�างในกรณ�ที่��ไม�ที่ราบีจั�านวินประชากร
ส�ตีร
n = ข้น�ดข้องกำล��มตั�วอย��งP = ค��เปอร"เซึ่�นตั"ท�*ตั องกำ�รส��มจั�กำประช้�กำรท�+งหมดe = ค��เปอร"เซึ่�นตั"คว�มคล�ดเคล,*อนจั�กำกำ�รส��มตั�วอย��งZ = ระด�บคว�มเช้,*อม�*นท�*ผ! ว�จั�ยกำ��หนดไว ซึ่1*งน�ยมใช้ กำ�นม� 2 ระด�บ ได แกำ�ณ์ ระด�บคว�มเช้,*อม�*น 95% Z ม�ค��เท��กำ�บ 196.ณ์ ระด�บคว�มเช้,*อม�*น 99% Z ม�ค��เท��กำ�บ 258
2
2
e
Z)P1(Pn
Page 22
ตี วิอย�าง ถ �ผ! ว�จั�ยตั องกำ�รส��มตั�วอย��งเป4น 50% หร,อ .50 จั�กำประช้�กำรท�+งหมด ตั องกำ�รระด�บคว�มเช้,*อม�*น
95% และยอมร�บค��คว�มคล�ดเคล,*อนจั�กำกำ�รส��มตั�วอย��งได 5%หร,อ 005. ข้น�ดข้องกำล��มตั�วอย��งจัะค��นวณ์ได ด�งน�+ว�ธี�ท��
16.3840025.0
9604.00025.0
)8416.3)(05.0(05.005.0
)96.1)(05.01(50.0n
2
2
หร,อ 384 ราย
Page 23
%คว�มคล�ดเคล,*อน
102030405060708090
100
100 200... N
จั��นวนกำล��มตั�วอย��ง
ภาพิ แสดงค์วิามส มพิ นธี"ระหวิ�างการก�าหนดจั�านวินข้องกล%�มตี วิอย�างก บี การก�าหนดค์�าค์วิามค์ลาดเค์ล,�อน
Page 24
หล กในการส มภาษณ"เตีร�ยมค์วิามพิร�อม
ด�าเน�นการส มภาษณ"
ป9ดการส มภาษณ"
* ท��คว�มเข้ �ใจัว�ตัถ�ประสงค"* น�ดหม�ย ว�น/เวล�/ สถ�นท�* ส�มภิ�ษณ์"* เตัร�ยมว�สด�อ�ปกำรณ์" เช้�น แบบส�มภิ�ษณ์" ด�นสอ เทป ฯลฯ* อบรมท�มผ! ส�มภิ�ษณ์" ซึ่�กำซึ่ อม ท�องจั��ค��ถ�ม
* แสดงคว�มเค�รพ แนะน��ตั�วและจั�ดม��งหม�ยกำ�รส�มภิ�ษณ์"* สร �งสรรค"บรรย�กำ�ศึท�*ด� แล วเร�*มกำ�รส�มภิ�ษณ์"
* ทบทวนประเด�นส��ค�ญข้องข้ อม!ลท�*ได ร�บจั�กำกำ�รส�มภิ�ษณ์"* กำล��วข้อบค�ณ์และแสดงคว�มเค�รพ
Page 25
การส%�มตี วิอย�าง(Random sample)
ใช้ หล�กำคว�มน��จัะเป4นในกำ�รส��มตั�วอย��ง(Probability Sampling)
กำ�รส��มแบบง��ย(Sample random Sampling)
กำ�รส��มอย��งม�ระบบ(Systematic Sampling)
กำ�รส��มแบบแบ�งช้�+น(Stratified Sampling)
กำ�รส��มแบบแบ�งกำล��ม(Cluster Sampling)
กำ�รส��มแบบหล�ยข้�+น(Multi-stage Sampling)
ไม�ใช้ หล�กำคว�มน��จัะเป4นในกำ�รส��มตั�วอย��ง(Nonprobability Sampling)
กำ�รส��มแบบบ�งเอ�ญ(Accidental Sampling)
กำ�รส��มแบบโควตั �(Quota-Sampling)
กำ�รส��มแบบเจั�ะจัง(Purposive Sampling)
กำ�รส��มแบบบอกำตั�อ(Snowball Sampling)
ภิ�พแสดงประเภิทกำ�รส��มตั�วอย��ง
Page 26
ภาพิ แสดงการเปร�ยบีเที่�ยบีล กษณะข้องการส%�มแบีบีแบี�งช 3นก บีการส%�มแบีบีแบี�งกล%�ม
AB
C900 AA
A900
ล กษณะข้องการส%�มแบีบีแบี�งช 3น(Stratified Sampling)
ล กษณะข้องการส%�มแบีบีแบี�งกล%�ม(Cluster Sampling)
ล�กำษณ์ะข้องประช้�กำรม�คว�มแตักำตั��งกำ�น จั1งตั องจั�ดแบ�งประช้�กำร ออกำเป4นกำล��ม
ล�กำษณ์ะข้องประช้�กำรม�คว�มคล �ยคล1งกำ�นแตั�อ�จัม�กำ�รแบ�ง
เป4นกำล��มได ตั�มอ�ณ์�เข้ตั
A300 B
300
C300
ส��มตั�วอย��ง100 ส��มตั�วอย��ง 100
ส��มตั�วอย��ง100
กำล��มตั�วอย��ง 300
A
300
A300
A300
ส��มตั�วอย��งจั�กำA กำล��มเด�ยว กำล��มตั�วอย��ง 300
ประช้�กำร ประช้�กำร
Page 27
ภาพิ แสดงข้ 3นตีอนในการสร�างแบีบีสอบีถุาม
เสนอท�*ปร1กำษ�
เสนอผ! เช้�*ยวช้�ญ
ทดลองใช้ แบบสอบถ�มกำ�บ
กำล��มทดลองห�ค�ณ์ภิ�พข้องแบบสอบถ�ม
จั�ดท��แบบสอบถ�มฉบ�บสมบ!รณ์"
ปร�บปร�งและแกำ ไข้
ไม�ผ��น
ผ��น
ศึ1กำษ�และรวบรวมข้ อม!ล เพ,*อน��ม�กำ��หนดโครงสร �งข้องข้ อค��ถ�มกำ��หนดโครงสร �งข้องแบบสอบถ�มและส��นวน
ภิ�ษ�ข้องข้ อค��ถ�ม
เสนอท�*ปร1กำษ�
เสนอท�*ปร1กำษ�
ปร�บปร�งและแกำ ไข้
ปร�บปร�งและแกำ ไข้
1
32
4
5
67
ผ��น
ผ��น
ไม�ผ��น
ไม�ผ��น
Page 28
ภาพิ แสดงโค์รงสร�างข้�อค์�าถุามข้องงานวิ�จั ยเร,�อง การศ6กษาค์วิามพิ6งพิอใจัในการร บีฟั*งค์ล,�นวิ�ที่ย% FM 103
คว�มพ1ง
พอใจัในกำ�รร�บฟั-งว�ทย�คล,*นF
M 103
สถ�นภิ�พผ! ตัอบ
ล�กำษณ์ะโดยท�*วไปข้องร�ยกำ�ร
คว�มพ1งพอใจัในร!ปแบบร�ยกำ�ร
ข้ อเสนอแนะเพ,*อกำ�รปร�บปร�งและพ�ฒิน�ร!ปแบบร�ยกำ�ร
เพศึอ�ย�ประเภิทร�ยกำ�รท�*ช้อบฟั-ง
ช้�วงเวล�ท�*ช้อบฟั-ง
พ�ธี�กำรผ! จั�ด
ผ! โทรเข้ �ร�วมร�ยกำ�รคว�มถ!กำตั องแม�นย��ข้องคล,*น
คว�มช้�ดเจันข้องคล,*น
Page 29
ภาพิ แสดงโค์รงสร�างแบีบีสอบีถุามข้องงานวิ�จั ยเร,�อง การศ6กษาค์วิามพิ6งพิอใจัในการร บีฟั*งค์ล,�นวิ�ที่ย% FM 103
คว�มพ1ง
พอใจัในกำ�รร�บฟั-งว�ทย�คล,*นF
M 103
สถ�นภิ�พผ! ตัอบ
ล�กำษณ์ะโดยท�*วไปข้องร�ยกำ�ร
คว�มพ1งพอใจัในร!ปแบบร�ยกำ�ร
ข้ อเสนอแนะเพ,*อกำ�รปร�บปร�งและพ�ฒิน�ร!ปแบบร�ยกำ�ร
เพศึอ�ย�ประเภิทร�ยกำ�รท�*ช้อบฟั-ง
ช้�วงเวล�ท�*ช้อบฟั-งพ�ธี�กำรผ! จั�ด
ผ! โทรเข้ �ร�วมร�ยกำ�รคว�มถ!กำตั องแม�นย��ข้องคล,*น
คว�มช้�ดเจันข้องคล,*น
ร�ปแบีบีข้�อค์�าถุามตี วิแปร/ข้�อค์�าถุาม
ตัรวจัสอบ
ร�ยกำ�ร
ม�ตัร�ส�วนประม�ณ์ค��
ค��ถ�มปล�ยเปAด
Page 30
ภาพิ แสดงโค์รงสร�างการเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ล
Data
Primary Data Secondary Data
Observation MethodSurvey MethodExperiment Method
Interview Mail Survey
TelephoneSurvey
InternetSurvey
Page 31
ภาพิ แสดงโค์รงสร�างการค์�านวิณที่างสถุ�ตี�เช�งพิรรณนา
การแจักแจังค์วิามถุ��Frequency
ค์�าร�อยละPercentage
ค์�าเฉล��ย (Mean)
ค์�าม ธียฐาน (Median)
ค์�าฐานน�ยม (Mode)
ค์�าพิ�ส ย (Rage)
ค์�าส�วินเบี��ยงเบีนค์วิอไที่ล"Quartile Deviationค์�าส�วินเบี��ยงเบีนมาตีรฐาน
Standard Deviation
การวิ ดแนวิโน�มเข้�าส��ส�วินกลาง
Central tendency
การวิ ดการกระจัายmeasure of variation
สถุ�ตี�เช�ง
พิรรณนา
Descriptive
Statistics
Page 32
ภาพิ แสดงโค์รงสร�างเค์ร,�องม,อที่��ใช�ในงานวิ�จั ยเร,�อง การศ6กษาค์วิามพิ6งพิอใจัในการร บีฟั*งค์ล,�นวิ�ที่ย% FM 103
คว�มพ1ง
พอใจัในกำ�รร�บฟั-งว�ทย�คล,*นF
M 103
สถ�นภิ�พผ! ตัอบ
ล�กำษณ์ะโดยท�*วไปข้องร�ยกำ�ร
คว�มพ1งพอใจัในร!ปแบบร�ยกำ�ร
ข้ อเสนอแนะเพ,*อกำ�รปร�บปร�งและพ�ฒิน�ร!ปแบบร�ยกำ�ร
เพศึอ�ย�ประเภิทร�ยกำ�รท�*ช้อบฟั-ง
ช้�วงเวล�ท�*ช้อบฟั-งพ�ธี�กำรผ! จั�ด
ผ! โทรเข้ �ร�วมร�ยกำ�รคว�มถ!กำตั องแม�นย��ข้องคล,*น
คว�มช้�ดเจันข้องคล,*น
ร�ปแบีบีข้�อค์�าถุามตี วิแปร/ข้�อค์�าถุาม ตัรวจัสอบ
ร�ยกำ�ร
ม�ตัร�ส�วนประม�ณ์ค��
ค��ถ�มปล�ยเปAด
ค��ถ�มปล�ยเปAด
เร�ยงล��ด�บตั�วเล,อกำ
เล,อกำค��ตัอบได ม�กำกำว��1 ข้ อ
Page 33
การวิ�จั ย(Research)
กำ�รว�จั�ยเป4นกำระบวนกำ�รค นคว �ห�ข้ อเท�จัจัร�งหร,อปร�กำฏกำ�รณ์"ตั�มธีรรม
ช้�ตั�อย��งม�ระบบระเบ�ยบและม�จั�ดม��งหม�ยท�* แน�นอน เพ,*อให ได คว�มร! ท�*เช้,*อถ,อได
ประกอบีด�วิยล กษณะส�าค์ ญ 3 ประการค์,อ เป4นกำระบวนกำ�รค นคว �ห�ข้ อเท�จัจัร�งหร,อปร�กำฏกำ�รณ์"ตั�มธีรรมช้�ตั�
เป4นกำระบวนกำ�รหร,อกำ�รกำระท��ท�*ม�ระบบระเบ�ยบ เป4นกำ�รกำระท��ท�*ม�จั�ดม��งหม�ยท�*แน�นอน
Page 34
ตี�อ
คว�มหม�ยในล�กำษณ์ะน�ย�มเช้�งแนวค�ด เช้�น กำ�รว�จั�ย1. เป4นกำ�รท��ให ประจั�กำษ" 9. เป4นเหม,อนกำ�บน�+�แข้�งลอยน�+�2. เป4นเคร,*องกำ��หนดคว�มร! 3. เป4นกำระบวนกำ�รศึ1กำษ�ค นคว �ซึ่�+�ๆ4. เป4นกำรรมว�ธี�ท�*ม�กำ�รว�งแผนอย��งเป4นระบบระเบ�ยบ5. เป4นกำระบวนกำ�รท�*ใช้ เหตั�ผล6. เป4นกำ�รประด�ษฐ"ค�ดค น7. เป4นว�ถ�แห�งป-ญญ�8.เป4นเหม,อนกำ�บกำ�รข้�ดทอง
Page 35
การที่บีที่วินเอกสารและงานวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�อง(Review Related Literatures๗
เป4นส�วนท�*ส��ค�ญม�กำข้องกำ�รว�จั�ย ช้�วยให ว��จัะท��ว�จั�ยอย��งไร จัะเข้�ยน ร�ยง�นกำ�รว�จั�ยท�กำห�วข้ อได อย��งไร เป4นส�วนท�*ช้�วยสน�บสน�นกำ�ร
กำ��หนดกำรอบแนวค�ดและสมมตั�ฐ�นในกำ�รท��ว�จั�ย
งานวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�องค์วิรที่บีที่วินในเร,�องตี�อไปน�3 สภิ�พป-ญห�ท�*เป4นป-ญห� อ�ปสรรคข้องเร,*องน�+นม�ร�องรอยเป4นม�
อย��งไรม�ข้ อม!ลอะไรสน�บสน�นว��เป4นป-ญห�
Page 36
การออกแบีบีการวิ�จั ย(Research Design)
กำ�รออกำแบบกำ�รว�จั�ยเป4นท�+งแผนกำ�รท��ว�จั�ย และเทคน�คว�ธี�กำ�รท�*
เล,อกำม�ใช้ ศึ1กำษ�ค นคว �ห�ค��ตัอบในป-ญห�กำ�รว�จั�ยรวมท�+งกำลว�ธี�
ตั��งๆ ท�*จัะท��ให กำ�รว�จั�ยน�+นม�แระส�ทธี�ภิ�พส!งส�ด โดยม�จั�ดม��ง หม�ย
เพ,*อห�ค��ตัอบข้องป-ญห�กำ�รว�จั�ยและเพ,*อควบค�มคว�มแปรปรวนท�*เกำ�ดข้1+น
Page 37
การออกแบีบีการวิ�จั ยจั6งแผนการที่��ระบี%เก��ยวิก บี
กำรอบแนวค�ด(conceptual framework) ในกำ�รท��ว�จั�ยเร,*องน�+น
ป-ญห�และสมมตั�ฐ�นกำ�รว�จั�ยระเบ�ยบว�ธี�กำ�รว�จั�ยเทคน�คกำ�รส��มตั�วอย��ง เทคน�คกำ�รรวบรวมข้ อม!ลว�ธี�กำ�รว�เคร�ะห"ข้ อม!ล
Page 38
สมมตี�ฐานที่างการวิ�จั ย(Research Hypothesis)
สมมตั�ฐ�นท�งกำ�รว�จั�ย หม�ยถ1งข้ อคว�มท�*เด�หร,อค�ดคะเนค��ตัอบท�*ได
จั�กำกำ�รว�จั�ย กำ�รเด�หร,อค�ดคะเนน�+จัะ ตั องเด�หร,อค�ดคะเนอย��งม�เหตั�ผล
อ�ศึ�ยทฤษฎี� แนวค�ดผลกำ�รว�จั�ยเร,*อง กำ�อน ๆ คว�มร! และประสบกำ�รณ์"ข้องผ!
ว�จั�ยด วยประกำอบกำ�น ม�ใช้�เด�อย��งเล,อน ลอย ข้�ดเหตั�ผล
Page 39
ประเด)นป*ญหาการวิ�จั ย (Research Problems)
ประเด�นป-ญห�กำ�รว�จั�ย หม�ยถ1ง ค��ถ�มท�*ตั องกำ�รค��ตัอบซึ่1*งม�กำจัะกำล��วถ1งคว�มส�มพ�นธี"ระหว��ง
ตั�วแปรสองตั�วหร,อม�กำกำว��สองตั�วข้1+นไปว��ม�คว�ม ส�มพ�นธี"กำ�นอย��งไร เช้�น ตั องกำ�รทร�บว�� กำ�รใช้
ร�งว�ลม�คว�มส�มพ�นธี"กำ�บกำ�รอน�ร�กำษ"ปC�ไม ข้องน�กำเร�ยนหร,อไม�
Page 40
ประเด)นป*ญหาการวิ�จั ยก)ค์,อวิ ตีถุ%ประสงค์" การวิ�จั ย ซึ่6�งเข้�ยนในร�ปข้องประโยค์บีอก
เล�าหร,อประโยค์ค์�าถุามที่��ตี�องการค์�าตีอบีเช�น ตั องกำ�รศึ1กำษ�พฤตั�กำรรมกำ�รด!แลตันเองข้องผ! ปCวยเบ�
หว�น (ผ! ปCวยเบ�หว�นม�พฤตั�กำรรมกำ�รด!แลตันเองอย��งไร)
เพ,*อศึ1กำษ�คว�มส�มพ�นธี"ระหว��งคะแนนสอบ Entrance กำ�บคะแนนกำ�รเร�ยนในปDหน1*งส�มพ�นธี"กำ�นหร,อไม�อย��งไร)
Page 41
ข้�อเสนอโค์รงการวิ�จั ย(Research Proposal)
เป4นแผนง�น โครงกำ�รและกำลว�ธี�ในกำ�รท��ว�จั�ยท�* กำ��หนดไว ล�วงหน � โครงเสนอกำ�รว�จั�ยม�หน �ท�* หล�กำ 2 ประกำ�ร ค,อ เป4นตั�วช้�+น��(guideline)ในกำ�รท��ว�จั�ยในเร,*อง
น�+นๆว��ม�แนวคว�มค�ด ทฤษฎี�อย!�อย��งไรตั องกำ�รห�ค��ตัอบอะไรและจัะห�ค��ตัอบน�+นได อย��งไร
เป4นเกำณ์ฑ์"ในกำ�รประเม�นง�นค นคว �ว�จั�ยเร,*องน�+นว��ประสบผลส��เร�จัเพ�ยงใด
Page 42
รายงานการวิ�จั ย(Research Report)
ร�ยง�นกำ�รว�จั�ยเป4นเอกำส�รท�*ได จั�กำกำ�รศึ1กำษ�และเกำ�บรวบรวมข้ อม!ลม�
ว�เคร�ะห"น��ม�เร�ยบเร�ยงข้1+นใหม�อย��งม�ระบบระเบ�ยบตั�มส�กำลน�ยมและได
เน,+อห�ส�ระครบถ วนสมบ!รณ์" ร�ยง�นกำ�รว�จั�ยท��ให ผ! อ��นทร�บว��ท��อะไรท��อย��งไรท��ไมจั1งตั องท��ม�กำรอบแนวค�ดหล�กำกำ�รและเหตั�ผลอย��งไรท��แล วได ผลอย��งไร
Page 43
การที่บีที่วินเอกสารและงานวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�อง(Review Related Literatures๗
เป4นส�วนท�*ส��ค�ญม�กำข้องกำ�รว�จั�ย ช้�วยให ว��จัะท��ว�จั�ยอย��งไร จัะเข้�ยน ร�ยง�นกำ�รว�จั�ยท�กำห�วข้ อได อย��งไร เป4นส�วนท�*ช้�วยสน�บสน�นกำ�ร
กำ��หนดกำรอบแนวค�ดและสมมตั�ฐ�นในกำ�รท��ว�จั�ย
งานวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�องค์วิรที่บีที่วินในเร,�องตี�อไปน�3 สภิ�พป-ญห�ท�*เป4นป-ญห� อ�ปสรรคข้องเร,*องน�+นม�ร�องรอยเป4นม�
อย��งไรม�ข้ อม!ลอะไรสน�บสน�นว��เป4นป-ญห�
Page 44
ตี�อ
เน,+อห�ข้องเร,*องน�+นม�อะไรบ �ง ม�ข้อบเข้ตัม�กำน อยแค�ไหนค��และข้ อคว�มท�*เกำ�*ยวข้ องม�คว�มหม�ยท�งว�ช้�กำ�รและกำ�รว�จั�ยอย��งไร แนวค�ดและทฤษฎี�ม�อะไรบ �ง ใจัคว�มทฤษฎี�ว��อย��งไร ร!ปแบบกำ�รว�จั�ย กำ�รท��ว�จั�ยเร,*องน�+ใช้ กำ�รท��ว�จั�ยอย��งไรบ �ง
ม�กำรอบแนวค�ดอย��งไร ม�ตั�วแปรอ�สระ ตั�วแปรตั�ม ว�ตัถ�ประสงค"และ
สมมตั�ฐ�นตั�+งกำ�นไว อย��งไร กำ�รส��มตั�วอย��ง ว�ธี�กำ�รรวบรวบข้ อม!ลและ
ว�เคร�ะห"อย��งไร
Page 45
ตี�อ
ว�สด�อ�ปกำรณ์"และเคร,*องม,อท�*ใช้ ในกำ�รท��ว�จั�ย และรวบรวมข้ อม!ลม�อะไรบ �งม�ค�ณ์บ�ตั�อย��งไร
ม�กำ�รพ�ฒิน�หร,อทดสอบค�ณ์ภิ�พอย��งไรบ �ง ง�นว�จั�ยท�*เกำ�*ยวข้ อง ม�ใครท��อะไรบ �ง เร,*อง
อะไร ท��ท�*ไหน เม,*อไร ได ผลอย��งไร รวมท�+งม�ป-จัจั�ยหร,อตั�วแปรอะไรบ �งท�*เกำ�*ยวข้ องหร,อม�ผลตั�อกำ�รว�จั�ย
Page 46
ข้นาดกล%�มตี วิอย�าง(sample size)
ข้น�ดกำล��มตั�วอย��งเป4นจั��นวนตั�วอย��งท�*ตั องกำ�รใช้ กำ�รท��ว�จั�ยกำ�รจัะ
ใช้ ข้น�ดกำล��มตั�วอย��ง�ม�กำน อยเท��ใด ข้1+นอย!�กำ�บป-จัจั�ยหล�ยอย��งท�*ส��ค�ญ
คว�มเสมอเหม,อนกำ�นข้องหน�วยประช้�กำรท�*ศึ1กำษ� ถ �เหม,อนกำ�น ม�กำ ใช้ น อยกำ�พอ ถ �ตั��งกำ�นม�กำกำ�ตั องเอ�ม�ม�กำหน�อย
จั��นวนตั�วแปรท�*ตั องศึ1กำษ� ถ �ม�ตั�วแปรอ�สระม�กำ หล�ยตั�ว และ แตั�ละตั�วแบ�งประเภิทเป4นหล�ยระด�บจัะตั องเอ�ม�ม�กำ ม�ฉะน�+น
เม,*อแบ�งเป4นกำล��มแล วจัะไม�พอว�เคร�ะห" ถ �เปร�ยบเท�ยบแตั�ละ กำล��มไม�พอว�เคร�ะห" ถ �เปร�ยบเท�ยบแตั�ละกำล��มไม�ควรน อยกำว��
10 ตั�วอย��ง แตั�เพ,*อคว�มปลอดภิ�ยควรใช้ กำล��มละประม�ณ์ 20
Page 47
ตี�อ
ว�ธี�กำ�รเกำ�บรวบรวมข้ อม!ล ถ �ใช้ ส�งแบบสอบถ�มใช้ ม�กำกำ�ได แตั�ถ �ใช้ กำ�รส�มภิ�ษณ์"หร,อกำ�รส�งเกำตัควรใช้ น อยหน�อย
เวล� กำ��ล�งคน และ เง�น ถ �ม�ม�กำ�ใช้ ม�กำ ถ � น อยกำ�ใช้ ให พอเหม�ะ คว�มคล�ดเคล,*อนท�*เกำ�ดข้1+น ตั�มทฤษฎี�ถ �ใช้ ข้น�ดกำล��มตั�วอย��ง
น อยจัะม�คว�มคล�ดเคล,*อนม�กำ แตั�ถ �เพ�*มข้น�ดกำล��มตั�วอย��งม�กำข้1+น คว�มคล�ดคล,*นจัะลดลงเม,*อเพ�*มข้น�ดกำล��มตั�วอย��งถ1งจั�ดหน1*ง คว�มคล�ดจัะคงท�*และถ �เพ�*มม�กำข้1+นอ�กำ คว�มคล�ดเคล,*อนอ�จัจัะ
เพ�*มข้1+นอ�กำ ส!ตัรกำ�รห�ข้น�ดกำล��มตั�วอย��งท�*ส�มรถใช้ ได ด�เม,*อม�โอกำ�สเกำ�ดและไม�เกำ�ดเหตั�กำ�รณ์"ท�*ตั องกำ�รศึ1กำษ�เท��กำ�น ค,อส!ตัรข้อง
Yamane N ค,อจั��นวนสม�ช้�กำประช้�กำร eค,อคว�มคล�ดเคล,*อนท�*ยอมร�บได ถ � e= 0.05 จัะม�ค��ใกำล เค�ยงกำ�บ
ส!ตัร
2Ne1
Nn
N399
N400n
Page 48
ค์วิามค์ลาดเค์ล,�อนเช�งการส%�ม (Sampling Error)
คว�มคล�ดเคล,*อนเช้�งกำ�รส��มเป4นคว�มคล�ดเคล,*อนข้องค��ส�งเกำตั(Observation)ท�*เกำ�ดจั�กำกำ�รส��มตั�วอย��ง หร,ออ�กำน�ยหน1*งเป4นผลตั��งข้องค��ส�งเกำตัท�*ได จั�กำประช้�กำรกำ�บท�*ได จั�กำกำล��มตั�วอย��ง น�*นค,อ
E
XE
X
ค��คว�มคล�ดเคล,*อนค��เฉล�*ยข้องประช้�กำร
ค��เฉล�*ยข้องกำล��มตั�วอย��ง
Page 49
วิ�ธี�การที่างวิ�ที่ยาศาสตีร"(Scientific Approach)
ว�ธี�กำ�รท�งว�ทย�ศึ�สตัร"เป4นร!ปแบบเช้�งระบบโดยเฉพ�ะข้องกำ�รค�ดค นห�เหตั�ผลและส,บเส�ะ
แสวงห�คว�มร! ใหม� ๆ ซึ่1*งม� 5 ข้�+นตัอน ได แกำ� (Van Dalen, 1979 : 12)1 . ม�คว�มร! ส1กำว��เป4นป-ญห�ค,อม�เร,*องท�*เกำ�ดสงส�ยเป4นป-ญห� อ�ปสรรค ตั องกำ�ร
ท��คว�มเข้ �ใจั ใคร�ห�ค��ตัอบ2. กำ��หนดและท��คว�มเข้ �ใจัป-ญห�น�+นให ช้�ดเจัน3. เสนอค��ตัอบข้องป-ญห�ด วยกำ�รตั�+งเป4นสมมตั�ฐ�น4. ค�ดค นห�เหตั�ผลเช้�งอน�ม�นและอ�ปม�นว�ธี�เพ,*อตัรวจัสอบสมมตั�ฐ�นให แน�ใจัว��
สมมตั�ฐ�นท�*ม�เหตั�ผลและถ!กำตั อง5. ทดสอบสมมตั�ฐ�นท�*ตั� +งไว ด วยกำ�รรวบรวมข้ อม!ลน��ม�ว�เคร�ะห"ย,นย�นสมมตั�ฐ�น
ท�*ตั� +งไว
Page 50
กาวิ�จั ยที่างวิ�ที่ยาศาสตีร" (Scientific Research)
กำ�รว�จั�ยท�งว�ทย�ศึ�สตัร"เป4นกำ�รค นคว �ห�เหตั�ผลข้องปร�กำฏกำ�รณ์"ตั�มธีรรมช้�ตั�
อย��งเป4นระบบ เช้�งประจั�กำษ"และม�กำ�รควบค�มตั�วแปรภิ�ยนอกำ เพ,*อน��ไปส!�กำ�รสร �ง
ทฤษฎี�และสมมตั�ฐ�นท�*แสดงถ1ง คว�มส�มพ�นธี"ระหว��งปร�กำฏกำ�รณ์"น�+นกำ�รว�จั�ยท�งว�ทย�ศึ�สตัร"น�+นจัะตั อง (Kerlinger, 1982 : 11-2)1 . เป4นกำระบวนกำ�รค นคว �ท�*เป4นระบบและม�กำ�รควบค�มตั�วแปรท�*
เกำ�*ยวข้ อง เพ,*อให ผลกำ�รว�จั�ยท�*ได เช้,*อถ,อได ส!งส�ด2. เป4นกำ�รค นคว �ห�เหตั�ผลเช้�งประจั�กำษ" ด วยกำ�รตัรวจัสอบข้ อม!ล
หล�กำฐ�นท�*เกำ�ดข้1+นตั�มคว�มเป4นจัร�งและตัรวจัสอบอย��งเป4นปรน�ย
Page 51
การวิ�จั ยที่างส งค์มศาสตีร" (Social Sciences Research)
กำ�รว�จั�ยท�งส�งคมเป4นกำ�รว�จั�ยท�*เกำ�*ยวข้ องกำ�บพฤตั�กำรรมข้องมน�ษย" เป4นเร,*องท�*
เกำ�*ยวกำ�บช้�มช้นและส�งคมท�*มน�ษย"อย!� เช้�น คว�มร! คว�มเช้,*อ ประเพณ์� ว�ฒินธีรรม
คว�มค�ดเห�น และกำ�รปฏ�บ�ตั�ในล�กำษณ์ะตั��งๆ เป4นตั นโดยแบ�งย�อยตั�มส�ข้�ข้องส�งคมศึ�สตัร"ได อ�กำเช้�น1. กำ�รว�จั�ยท�งส�งคมว�ทย� 7. กำ�รว�จั�ยท�งปร�ช้ญ�2. กำ�รว�จั�ยท�งม�น�ษยว�ทย� 8. กำ�รว�จั�ยท�งกำ�รศึ1กำษ�3. กำ�รว�จั�ยท�งเศึรษฐกำ�จั ฯลฯ4. กำ�รว�จั�ยท�งร�ฐศึ�สตัร"5. กำ�รว�จั�ยท�งจั�ตัว�ทย�6. กำ�รว�จั�ยท�งน�ตั�ศึ�สตัร"
Page 52
การวิ�จั ยเช�งส�ารวิจั (Survey Research)
เป4นกำ�รศึ1กำษ�ค นคว �ห�ข้ อเท�จัจัร�งท�*ปร�กำฏอย!� ม�อย!�ว��อย��งใด ท�+งน�+เพ,*อบรรย�ย
สถ�นภิ�พท�*ปร�กำฏอย!� ม�อย!�น� +น เพ,*อเปร�ยบเท�ยบกำ�บสถ�นภิ�พท�*ปร�กำฏอย!�ใน ล�กำษณ์ะตั��งๆ และเปร�ยบเท�ยบกำ�บสถ�นภิ�พท�*เป4นม�ตัรฐ�น โดยไม�สนใจัว��
ท��ไมจั1งปร�กำฏอย!�หร,อม�อย!�อย��งน�+น กำ�รว�จั�ยเช้�งส��รวจัม�กำศึ1กำษ�ในข้อบเข้ตัท�*กำว �ง เกำ�*ยวกำ�บเร,*องร�ว 4 ประกำ�ร
1. ล�กำษณ์ะท�งประช้�กำร เช้�น เพศึ อ�ย� สถ�นภิ�พสมรส ล�กำษณ์ะครอบคร�วเป4นตั น
2. สภิ�พท�งส�งคม- เศึรษฐกำ�จั เช้�น อ�ช้�พ ร�ยได กำ�รศึ1กำษ� สภิ�พส�งคมท�*วไป เป4นตั น
Page 53
ตี�อ
3. พฤตั�กำรรมและกำ�จักำรรมข้องประช้�ช้น เช้�น กำ�รใช้ เวล�ว��ง ล�กำษณ์ะกำ�รใช้ จั��ย กำ�รด!โทรท�ศึน" กำ�รฟั-งว�ทย� กำ�รอ��น
หน�งส,อพ�มพ" เป4นตั น4. คว�มค�ดเห�น เจัตัคตั� และคว�มเช้,*อข้องประช้�ช้น เช้�น คว�มค�ด
เห�นเกำ�*ยวกำ�บกำ�รเล,อกำตั�+งผ! ว��ร�ช้กำ�รจั�งหว�ด เป4นตั น
และแบ�งตั�มล�กำษณ์ะส�*งท�*ใช้ ส��รวจั ได เป4น 5 ประเภิท ได แกำ� กำ�รส��รวจั
โรงเร�ยน กำ�รว�เคร�ะห"ง�น กำ�รว�เคร�ะห"เอกำส�ร กำ�รส��รวจัประช้�มตั� กำ�รส��รวจัช้�มช้น
Page 54
การที่บีที่วินเอกสารและงานวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�อง(Review Related Literatures๗
เป4นส�วนท�*ส��ค�ญม�กำข้องกำ�รว�จั�ย ช้�วยให ว��จัะท��ว�จั�ยอย��งไร จัะเข้�ยน ร�ยง�นกำ�รว�จั�ยท�กำห�วข้ อได อย��งไร เป4นส�วนท�*ช้�วยสน�บสน�นกำ�ร
กำ��หนดกำรอบแนวค�ดและสมมตั�ฐ�นในกำ�รท��ว�จั�ย
งานวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�องค์วิรที่บีที่วินในเร,�องตี�อไปน�3 สภิ�พป-ญห�ท�*เป4นป-ญห� อ�ปสรรคข้องเร,*องน�+นม�ร�องรอยเป4นม�
อย��งไรม�ข้ อม!ลอะไรสน�บสน�นว��เป4นป-ญห�
Page 55
และ
โดยผศ.ปราโมที่ย"
ค์รองย%ที่ธี
การแสวิงหาค์วิามร��และป*ญญาโดยบี�รณาการการวิ�จั ย และสถุ�ตี�
เช�งวิ�ที่ยาศาสตีร"
Page 56
ค์วิามร�� : ข้�อม�ลและสารสนเที่ศกล �นกรองแล�วิ
สารสนเที่ศ : ข้�อม�ลที่��ประมวิลผลแล�วิ วิ�เค์ราะห" / ส งเค์ราะห"
ข้�อม�ล : - ข้�อเที่)จัจัร�ง - ข้�าวิสาร เน,3อหา สาระ - ที่��เป7นค์วิามจัร�ง - เป7นตี วิเลข้,ข้�อค์วิาม - ได�มาจัากการส งเกตี%วิ ดน บีจัด
บี�รณาการ
ค์วิามร��Knowledge
สารสนเที่ศInformation
ข้�อม�ลData
Page 57
1. การส งเกตี2. การระบี%ป*ญหา
3. กรอบีที่ฤษฎี�ที่��เก��ยวิข้�อง4. สมมตี�ฐาน
5. การรวิบีรวิมข้�อม�ล/วิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล6. การสร%ปผล
Page 58
1. ป*ญหาระเบี�ยบีวิ�ธี�การที่างสถุ�ตี�
2. การวิางแผน3. การเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ล4. การวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล5. การสร%ปผล6. การน�าไปใช�
Page 59
ข้ 3นตีอนการวิ�จั ยการศ6กษาป*ญหา
ออกแบีบีการวิ�จั ยการรวิบีรวิมข้�อม�ล
ประมวิลผล/วิ�เค์ราะห"ข้�อม�ลสร%ปผล
การน�าไปใช�
Page 60
การศ6กษาค์�นค์วิ�า การศ6กษาค์�นค์วิ�า วิ�เค์ราะห" หร,อที่ดลองอย�างม� วิ�เค์ราะห" หร,อที่ดลองอย�างม�
ระบีบีโดยอาศ ยอ%ปกรณ"หร,อระบีบีโดยอาศ ยอ%ปกรณ"หร,อ วิ�ธี�การ เพิ,�อให�พิบีข้�อเที่)จัจัร�ง วิ�ธี�การ เพิ,�อให�พิบีข้�อเที่)จัจัร�ง
หร,อหล กการไปใช�ในการตี 3งหร,อหล กการไปใช�ในการตี 3ง กฎี ที่ฤษฎี� หร,อแนวิที่างใน กฎี ที่ฤษฎี� หร,อแนวิที่างใน
การปฏิ�บี ตี� การปฏิ�บี ตี�
Page 61
การวิ�จั ยที่างวิ�ที่ยาศาสตีร" หมายถุ6ง การส�ารวิจั
วิ�เค์ราะห" ที่ดลองอย�างม� ระบีบี และเป7นข้ 3นตีอน ด�วิยอ%ปกรณ"
หร,อวิ�ธี�พิ�เศษ เก��ยวิก บี ธีรรมชาตี� ส��งม�ช�วิ�ตี
ปรากฏิการณ"ธีรรมชาตี� ตีลอดจันส��งที่��มน%ษย"ได�สร�างสรรข้63น
มาด�วิยค์วิามร�� หร,อ ประสบีการณ" เพิ,�อเสนอค์วิามร��
ใหม� เพิ,�อส%ข้ภาพิอนาม ย ค์วิาม ผาส%ข้ และค์วิามเจัร�ญก�าวิหน�า
ข้องมน%ษยชาตี�
Page 62
การวิ�จั ยที่างส งค์มศาสตีร" หมายถุ6งการศ6กษา
ค์�นค์วิ�าหาค์วิามจัร�งด�วิยระบีบีและวิ�ธี�การที่างวิ�ที่ยาศาสตีร"
เก��ยวิก บี พิฤตี�กรรม ปรากฏิการณ" หร,อปฏิ�ก�ร�ยา
ตีลอดจันค์วิามร��ส6กน6กค์�ดข้อง มน%ษย"และส งค์ม เพิ,�อให�ที่ราบี
ถุ6งค์วิามร��และค์วิามจัร�งที่��จัะน�า มาแก�ป*ญหาข้องส งค์ม หร,อก�อ
ให�เก�ดค์วิามร��ใหม�
Page 63
น กวิ�จั ย หมายถุ6ง ผ��ที่��ด�าเน�นการ
ค์�นค์วิ�าหาค์วิามร��อย�างเป7นระบีบี เพิ,�อตีอบีประเด)นที่��สงส ย โดยม�
ระเบี�ยบีวิ�ธี�อ นเป7นที่��ยอมร บีในแตี�ละ ศาสตีร"ที่��เก��ยวิข้�อง ซึ่6�งค์รอบีค์ล%ม
ที่ 3งแนวิค์�ด มโนที่ ศน" และวิ�ธี�การที่��ใช�ในการรวิบีรวิมและวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล
Page 64
ค์%ณล กษณะที่��จั�าเป7นส�าหร บีน กวิ�จั ยค์�าวิ�า วิ�จั ย “ ” = RESEARCH = ร�เส�ร"ช จัากที่��ประช%ม Pan pacific Science Congress
ในปB ค์.ศ. 1961 “ได�แยกอธี�บีายตี วิอ กษรตี�าง ๆ ข้องค์�าวิ�า RESEARCH” ไวิ�ด งน�3R = Recruitment & Relationship
การฝึEกฝึนตีนให�ม�ค์วิามร�� รวิมที่ 3งรวิบีรวิมผ��ที่��ม�ค์วิามเพิ,�อปฏิ�บี ตี�งานร�วิมก น ตี�ดตี�อและประสานงานก นE = Eclucation & Efficiency
ผ��วิ�จั ยตี�องม�การศ6กษาม�ค์วิามร��ประส�ที่ธี�ภาพิS = Sciences & Stimulation
เป7นศาสตีร"หร,อค์วิามร��ที่��ตี�องม�การพิ�ส�จัน" ค์�นค์วิ�าเพิ,�อหาค์วิามจัร�ง ผ��วิ�จั ยม�พิล งค์วิามค์�ดร�เร��มและกระตี,อร,อร�นE = Evaluation & Environmentร��จั กประเม�นวิ�าม�ประโยชน"ที่��จัะที่�าตี�อไปหร,อไม�และตี�องร��จั กใช�เค์ร,�องม,อและอ%ปกรณ"
ตี�าง ๆ ในการวิ�จั ย
Page 65
ค์%ณล กษณะที่��จั�าเป7นส�าหร บีน กวิ�จั ย (ตี�อ)
A = Aim & Attitude ตี�องม�จั%ดม%�งหมาย เป�าหมายที่��ช ดเจัน แน�วิแน�และม�ที่ ศนค์ตี�ที่��ด�ตี�อการที่�าวิ�จั ย
R = Result ผลการวิ�จั ยที่��ออกมาจัากการศ6กษาค์�นค์วิ�าอย�างเป7นระบีบี ตี�องยอมร บีโดยด%ษฎี�
C = Curiosity ผ��วิ�จั ยตี�องม�ค์วิามอยากร��อยากเห)น ม�ค์วิามสนใจั และข้วินข้วิายในงานวิ�จั ยอย��ตีลอด
เวิลา แม�ค์วิามอยากร��อยากเห)นจัะม�เพิ�ยงเล)กน�อยH = Horizon
เม,�อได�ผลการวิ�จั ยปรากฎีออกมาจัะที่�าให�ที่ราบีและเข้�าใจัป*ญหาเหล�าน 3นได� เหม,อนเก�ดแสงสวิ�างหร,อป*ญญาข้63น
Page 66
1. การวิ�จั ยเบี,3องตี�น/บีร�ส%ที่ธี�F Basic/Pure Research
2. การวิ�จั ยประย%กตี" Applied Research
Page 67
ประเภที่ข้องการวิ�จั ยประเภที่ข้องการวิ�จั ยตีามวิ ตีถุ%ประสงค์"ตีามวิ ตีถุ%ประสงค์"
1. การวิ�จั ยเช�งพิรรณนา Descriptive Research
2 . การวิ�จั ยเช�งส,บีเสาะ Exploratory Research
3 . การวิ�จั ยเช�งสาเหตี% Casual Research
Page 68
ประเภที่ข้องการวิ�จั ยประเภที่ข้องการวิ�จั ยตีามล กษณะข้องข้�อม�ลตีามล กษณะข้องข้�อม�ล
1. การวิ�จั ยเช�งค์%ณภาพิ Qualitative Research
2 . การวิ�จั ยเช�งปร�มาณ Quantitative Research
Page 69
บีที่ที่�� 1 บีที่น�า
RESEARCH PROPOSAL
แบีบีเสนอโค์รงการวิ�จั ย
• แสดงที่�ศที่างป*ญหาที่��ตี�องการแสดงที่�ศที่างป*ญหาที่��ตี�องการ• กะที่ ดร ด ช ดเจัน กะที่ ดร ด ช ดเจัน
• แสดงค์วิามส มพิ นธี"ข้องตี วิแปรแสดงค์วิามส มพิ นธี"ข้องตี วิแปร• เป7นประโยค์บีอกเล�าเป7นประโยค์บีอกเล�า
• สามาถุบีอกข้องเข้ตีข้องการวิ�จั ยสามาถุบีอกข้องเข้ตีข้องการวิ�จั ย
1. 1. ช,�อโค์รงการวิ�จั ย ช,�อโค์รงการวิ�จั ย (Project Title)(Project Title)
Page 70
ตี วิอย�าง
* ……ผลกระที่บี .* …การศ6กษาป*จัจั ย ...* การศ6กษาค์วิาม
……ส มพิ นธี"* ……ค์วิามพิ6งพิอใจั
Page 71
กราฟัช�วิ�ตีน กวิ�จั ย
อ%ปสรรค์
ค์วิามหวิ ง
ค์วิามส�าเร)จั
Page 72
1 . วิ�ที่ยาศาตีร"ธีรรมชาตี�และค์ณ�ตีศาสตีร"
2. ค์อมพิ�วิเตีอร"และเที่ค์โนโลย�การส,�อสาร
3 . วิ�ที่ยาศาสตีร"การแพิที่ย" 4 . เกษตีรศาสตีร" 5 . ส งค์มศาสตีร" 6 . มน%ษยศาสตีร"
สาข้าวิ�จั ย
Page 73
1. ศ6กษาศาสตีร"และการฝึEกห ดค์ร�
2. มน%ษยศาสตีร" ศาสนา และเที่วิวิ�ที่ยา
3. วิ�จั�ตีรศ�ลปGและประย%กตี"ศ�ลปG
4. น�ตี�ศาสตีร" 5 . ส งค์มศาสตีร" 6. วิ�ที่ยาศาสตีร"ธีรรมชาตี�
สาข้าวิ�ชาการ
Page 74
7. แพิที่ยศาสตีร"และวิ�ชาที่��เก��ยวิข้�องก บีส%ข้ภาพิ8. วิ�ศวิกรรมศาสตีร"9. เกษตีรศาสตีร"10. วิ�ชาอ,�นๆ ได�แก�
เที่ค์โนโลย�ส��งแวิดล�อม ส��งแวิดล�อมการศ6กษา
สาข้าวิ�ชาการ (ตี�อ)
Page 75
Theories Empirical HypothesesGeneralizations
Observations
The Wheel of Science
INDUCTION DEDUCTION
Page 76
…เร��มที่��ไหน …เร��มที่��ไหน .. .. เม,�อเห)นเม,�อเห)น//เก�ดป*ญหาเก�ดป*ญหา จั�าเป7นหร,อไม�จั�าเป7นหร,อไม�// …เพิราะอะไร …เพิราะอะไร .. .. ค์วิามค์วิามส�าค์ ญส�าค์ ญ// ค์วิามเป7นมา ค์วิามเป7นมา ข้องป*ญหาข้องป*ญหา ที่�าไปที่�าไม ที่�าไปที่�าไม…….. .. วิ ตีถุ%ประสงค์"วิ ตีถุ%ประสงค์" เป7นเร,�องข้องเป7นเร,�องข้อง
อะไร อะไร ..... ..... กรอบีกรอบีแนวิค์�ดแนวิค์�ด เร,�องน 3นน�าจัะเป7นเพิราะอะไร เร,�องน 3นน�าจัะเป7นเพิราะอะไร .…. .…. สมมตี�ฐานการวิ�จั ยสมมตี�ฐานการวิ�จั ย
Page 77
((ตี�อตี�อ)) …ที่�าละเอ�ยดแค์�ไหน …ที่�าละเอ�ยดแค์�ไหน .. .. ((ข้อบีเข้ตีการวิ�จั ยข้อบีเข้ตีการวิ�จั ย)) ใช�ได�ก บีค์นอ,�นหร,อไม� …ใช�ได�ก บีค์นอ,�นหร,อไม� … .. ( .. (ข้�อข้�อจั�าก ดการวิ�จั ยจั�าก ดการวิ�จั ย))
GGeneralizationeneralization …จัะให�เข้�าใจัการวิ�จั ยได�อย�างไร …จัะให�เข้�าใจัการวิ�จั ยได�อย�างไร .. .. ((ข้�อตีกลงเบี,3องตี�นข้�อตีกลงเบี,3องตี�น)) …ที่�าวิ�จั ยเร,�องอะไรบี�าง …ที่�าวิ�จั ยเร,�องอะไรบี�าง ... ... ((น�ยามเช�งปฏิ�บี ตี�การน�ยามเช�งปฏิ�บี ตี�การ))
Page 78
แบีบีเสนอโค์รงการวิ�จั ย 1. ช,�อแผนงานวิ�จั ย 2. หน�วิยงานหล กที่��ร บีผ�ดชอบี 3. ค์ณะผ��บีร�หารแผนงานวิ�จั ย 4. ประเภที่ข้องการวิ�จั ย 5. สาข้าวิ�ชาการหล ก และกล%�มวิ�ชาการหล ก 6. ค์�าส�าค์ ญข้องแผนงานวิ�จั ย 7. ค์วิามส�าค์ ญและที่��มาข้องแผนงานวิ�จั ย และ การที่บีที่วินเอกสารที่��เก��ยวิข้�อง 8. วิ ตีถุ%ประสงค์"หล กข้องแผนงานวิ�จั ย 9. ประโยชน"ที่��ค์าดวิ�าจัะได�ร บี และหน�วิยงานที่��จัะน�าผลการ วิ�จั ยไปใช�ประโยชน"
Page 79
10. ที่ฤษฎี� สมมตี�ฐานหร,อกรอบีแนวิค์�ด11. เอกสารอ�างอ�ง12. ระเบี�ยบีวิ�ธี�วิ�จั ย13. ข้อบีเข้ตีข้องแผนงานวิ�จั ย14. ระยะเวิลาที่��ที่�าการวิ�จั ยและสถุานที่��ที่�าการที่ดลอง และหร,อเก)บีข้�อม�ล15. แผนการบีร�หารและแผนการด�าเน�นงานวิ�จั ย16. แผนการถุ�ายที่อดเที่ค์โนโลย�หร,อผลการวิ�จั ยส��กล%�มเป�าหมาย17. อ%ปกรณ"ที่��จั�าเป7นข้องแผนงานวิ�จั ย (ถุ�าม�)18. งบีประมาณข้องแผนงานวิ�จั ย19. แผนงานวิ�จั ยตี�อเน,�องปBที่��สองข้63นไป20. การวิ�จั ยอ,�น ๆ ถุ�าม�
Page 80
1. ช,�อโค์รงการ2. ประเภที่ข้องโค์รงการ3. สาข้าวิ�ชาที่��ที่�าการวิ�จั ย4. ผ��ด�าเน�นการวิ�จั ย
5. ค์วิามส�าค์ ญและค์วิามเป7นมา ข้องป*ญหา
Page 81
6. วิ ตีถุ%ประสงค์"ข้องโค์รงการวิ�จั ย7. ประโยชน"ที่��ค์าดวิ�าจัะได�ร บี
8. เอกสารและผลงานวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�อง9. ระเบี�ยบีวิ�ธี�วิ�จั ย
10. ข้อบีเข้ตีข้องการวิ�จั ย
((ตี�อตี�อ))
Page 82
11. สถุานที่��ที่�าการเก)บีข้�อม�ล12. ระยะเวิลาที่�าการวิ�จั ย
13. แผนการด�าเน�นงาน 14. อ%ปกรณ"ในการวิ�จั ย
15. รายละเอ�ยดงบีประมาณ
((ตี�อตี�อ))
Page 83
2. ค์วิามส�าค์ ญข้องป*ญหา• บีอกค์วิามเป7นมาและค์วิาม
ส�าค์ ญข้องป*ญหา โดย วิ�เค์ราะห"ป*ญหา เสนอค์วิามค์�ด
ที่ฤษฎี� การค์�นพิบี และกล�าวิถุ6งสภาพิป*ญหาซึ่6�งเป7นเหตี%ผลให�ที่�าการวิ�จั ย• แสดงให�เห)นข้นาดปร�มาณหร,อค์วิามร%นแรงข้องป*ญหา
Page 84
3. วิ ตีถุ%ประสงค์"ข้องการวิ�จั ย• เพิ,�อที่ราบีข้�อเที่)จัจัร�งที่��ม�อย��• เพิ,�อที่ราบีสาเหตี%แห�งป*ญหา
และสามารถุน�าไปตี 3ง เป7นสมมตี�ฐานตี�อไป• แยกตี วิแปรย�อยเป7นข้�อ ๆ• เป7นเร,�องการน�าผลการวิ�จั ยไป
ใช�ประโยชน"
Page 85
4. สมมตี�ฐาน• ข้�อค์วิามสมมตี�ฐานที่��ผ��วิ�จั ยค์าดไวิ�
เก��ยวิก บีค์%ณล กษณะ และค์วิามส�าค์ ญข้องตี วิแปร• ข้�อค์วิามก�าหนดที่�ศที่างข้องส��งที่��
ค์�นหา เพิ,�อตีอบีวิ ตีถุ% ประสงค์"• ม�เหตี%ผลสน บีสน%น• สมมตี�ฐานการวิ�จั ย และสมมตี�ฐานที่าง
สถุ�ตี� (ที่ดสอบี)
Page 86
5. ข้อบีเข้ตีข้องการวิ�จั ย• ค์วิามค์รอบีค์ล%มข้องเร,�องที่��ที่�าการวิ�จั ย• กรอบีข้องประชากรและตี วิอย�าง• พิ,3นที่��การวิ�จั ย• เวิลา
Page 87
6 . 6 . น�ยามเช�งปฏิ�บี ตี�การน�ยามเช�งปฏิ�บี ตี�การ• เป7น เป7น keyword keyword ในการวิ�จั ย ซึ่6�งในการวิ�จั ย ซึ่6�งหมายถุ6งตี วิแปรในการวิ�จั ยหมายถุ6งตี วิแปรในการวิ�จั ย• ช ดเจัน ตีรงประเด)น ให�ค์วิามหมายช ดเจัน ตีรงประเด)น ให�ค์วิามหมายที่��เข้�าใจัตีรงก นที่��เข้�าใจัตีรงก น• เป7นร�ปธีรรม สามารถุวิ ด และเป7นร�ปธีรรม สามารถุวิ ด และที่ดสอบีได�ที่ดสอบีได�
Page 88
7. ข้�อจั�าก ดข้องการวิ�จั ย• เป7นการอ�างอ�ง ซึ่6�งเป7นผลมาจัากการก�าหนดข้อบีเข้ตีในการวิ�จั ย
Page 89
8. ข้�อตีกลงเบี,3องตี�น• ม กเป7นเร,�องข้�อผ�ดพิลาดที่��อาจัจัะ
เก�ดข้63นจัากการวิ�จั ย เช�น การวิ�จั ยค์ร 3งน�3กระที่�าในยามที่��เหตี%การณ"
ปกตี� / ไม�เก��ยวิข้�องก บีการเปล��ยนแปลงข้องอ ตีราแลก
เปล��ยน / ใช�เค์ร,�องม,อเป7นที่��ยอมร บีโดยที่ �วิไปย งไม�ม�เค์ร,�องม,อใหม�มา
ที่ดแที่น เป7นตี�น• ข้�อตีกลงเก��ยวิก บีการกระจัาย
ข้องข้�อม�ล เช�น ม�การแจักแจังแบีบี ปกตี� เป7นตี�น
Page 90
9. 9. ประโยชน"ที่��ค์าดวิ�าจัะได�ร บีประโยชน"ที่��ค์าดวิ�าจัะได�ร บี• สอดค์ล�องก บีสอดค์ล�องก บีวิ ตีถุ%ประสงค์"ที่��ตี 3งไวิ�วิ ตีถุ%ประสงค์"ที่��ตี 3งไวิ�
11. 11. งบีประมาณงบีประมาณ• แยกตีามรายหมวิดแยกตีามรายหมวิด
10. 10. ระยะเวิลาในการวิ�จั ยระยะเวิลาในการวิ�จั ย• ระยะเวิลาที่��ใช�ในการวิ�จั ยระยะเวิลาที่��ใช�ในการวิ�จั ย• แผนปฏิ�บี ตี�การ แผนปฏิ�บี ตี�การ
Page 91
บีที่ที่�� 2 แนวิค์�ด ที่ฤษฎี� และวิรรณกรรมที่��เก��ยวิข้�อง
Review of Literatures• แยกเป7นประเภที่ ๆ อย��ในหมวิดหม��เด�ยวิก น • Review เฉพิาะในส�วินที่��ใช�ที่ดสอบีสมมตี�ฐานและเพิ,�อ ย,นย นการค์�นพิบี
Page 92
แนวิค์�ดตี วิแปรอ�สระ ตี วิแปรตีาม
เพิศ พิฤตี�กรรมการใช�ส�ที่ธี�Fเล,อกตี 3ง
อาย%
การศ6กษาภ�ม�ภาค์
รายได�
Page 93
ตี วิแบีบี (Model)
- แสดงค์วิามส มพิ นธี"ข้องตี วิแปรที่��ตี�องการศ6กษา อย��ในร�ปข้อง Chart หร,อ สมการ- ที่ดสอบีแนวิค์�ด ค์วิามเช,�อ สมมตี�ฐาน
Page 94
บีที่ที่�� 3 วิ�ธี�ด�าเน�นการวิ�จั ย (Research Methodology)
1. แบีบีข้องการวิ�จั ย• เป7น survey / descriptive / experiment ใช� design แบีบีใด
• เป7น qualitative หร,อ quantitative
2. ประชากร
Page 95
3. 3. ตี วิอย�างตี วิอย�าง• ข้นาด ข้นาด ((เที่�าไรเที่�าไร))
• การส%�มตี วิอย�าง การส%�มตี วิอย�างเป7นแบีบีใดเป7นแบีบีใด 4 . 4 . การเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ลการเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ล
• วิ�ธี�การจั ดเก)บีวิ�ธี�การจั ดเก)บี• ม�การให� ม�การให� treatment treatment หร,อไม�หร,อไม�
Page 96
5 . เค์ร,�องม,อ• แบีบีสอบีถุาม / แบีบีส มภาษณ" / การส งเกตี• รายละเอ�ยด แบีบีสอบีถุาม• ม�การที่ดสอบี reliability หร,อไม� ค์�าเป7นเที่�าไร
Page 97
6. การที่ดสอบีข้�อม�ล• ตี วิแปรในการวิ�จั ย ประกอบี
ด�วิยตี วิแปรอ�สระ ตี วิแปรตีามอะไรบี�าง• สถุ�ตี�ที่��ใช�ในการที่ดสอบี7. การวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล
• ใช�วิ�ธี�การใด
Page 98
การวิ ดค์�ากระบีวินการแปรสภาพิแนวิค์วิามค์�ด (concepts) หร,อตี วิแปร (variables) ซึ่6�งม�ล กษณะเป7นนามธีรรมให�เป7นข้�อม�ลที่างสถุ�ตี�เช�งปร�มาณหร,อเช�งค์%ณภาพิ
Measurement
Page 99
1. Individuals2. Groups3. Organizations4. Social Artifacts
Units of Analysis
Page 100
1. Cross-Sectional Studies2. Longitudinal Studies
The Time Dimension
Page 101
1. Nominal scale นามบี ญญ ตี�• จั ดกล%�ม ค์รอบีค์ล%ม ค์รบีถุ�วิน• ไม�สามารถุด�าเน�นการที่างค์ณ�ตีศาสตีร"ได�
ระด บีข้องการวิ ดค์�า
Page 102
เพิศ1. ชาย 2. หญ�ง
ภาค์1. เหน,อ 2. กลาง 3. อ�สาน4. ใตี� 5. กที่ม.
2 - 1 ไม�เที่�าก บี 5 - 4
2 ไม�มากกวิ�า 1
Page 103
2. Ordinal scale เร�ยงล�าด บี /อ นด บีมาตีรา • จั ดกล%�ม ค์รบีถุ�วิน + จั ดล�าด บี• ด�าเน�นการที่างค์ณ�ตีศาสตีร"ได� เพิ�ยงมากกวิ�า น�อยกวิ�าตี�าแหน�ง 1 = อาจัารย" 2 = ผศ.
3 = รศ. 4 = ศ. 2 > 1 4 > 3
แตี� - 2 1 =/= 4 -3
Page 104
IIIIIIII IIIII 3
อ นตีรภาค์• Nominal + Ordinal
• ด�าเน�นการที่างค์ณ�ตีศาสตีร"ได�ถุ6ง +,-
• ไม�ม�ศ�นย"ส มบี�รณ"(absolute zero)
อ%ณหภ�ม�oF
oC
Page 105
4. Ratio scale อ ตีราส�วิน• Nominal + Ordinal
• ศ�นย"ส มบี�รณ" ด�าเน�นการที่างค์ณ�ตีศาสตีร"ได�ค์รบีน�3าหน ก0 20 40 ก�โลกร ม
ส�วินส�ง0 50 100
เซึ่นตี�เมตีร
Page 106
การแปลงระด บี …อาย% .. ปB
อ ตีราส�วินอาย% [ ] 0 - 4 ปB [ ] 5 - 9 ปB
อ นด บี [ ] 10 - 14 ปB [ ] 15
- 19 ปBอาย% [ ] ตี��ากวิ�า 20 ปB [ ]
20 ปBข้63นไป นามบี ญญ ตี�
Page 107
ATTITUDEAffective component
ค์วิามร��ส6กCognitive component
ค์วิามค์�ดbehavioral component
พิฤตี�กรรม
Page 108
Comparative scales Noncomparative scalesNoncomparative scales
Scaling Techniques
Paired
Comparison
Paired
ComparisonRank
Order
Rank
OrderConstant
sum
Constant
sumQ-sort
Others
Q-sort
OthersContinuons
Rating Scales
Continuons
Rating ScalesItemized
Rating Scales
Itemized
Rating Scales
LikertLikert Sematic Differential
Sematic Differential
StapleStaple
Page 109
-Paired comparison
- Rank order
- constant sum
- Q-sort
Comparative scalesComparative scales
Page 110
Paired comparison Scaling
รร.1 รร.2 รร.3 รร.4
รร.1 0 0 0
รร.2 1 0 0
รร.3 1 1 0
รร.4 1 1 1
รวิม 3 2 1 0
1 = col > row 0 = col < row
Page 111
Rank order scalingโปรดจั ดอ นด บีพิรรค์การเม,องที่��ที่�านชอบี
พิรรค์ อ นด บี A
B
C
D
E
Page 112
Constant sum scalingโปรดให�ค์ะแนนค์วิามน�ยมพิรรค์การเม,องค์%ณล กษณะ พิรรค์ ก.
พิรรค์ ข้.
นโยบีายผลงานห วิหน�าพิรรค์ผ��สม ค์รรวิม 100 100
Page 113
- Continuous rating scales
- Itemized rating scales
- Likert
- Semantic differential
- Staple1
Noncomparative scalesNoncomparative scales
Page 114
Continuous rating scales
ที่�านพิ6งพิอใจัห�างบี วิข้าวิอย�างไรแย�ที่��ส%ด ด�ที่��ส%ดแย�ที่��ส%ด ด�ที่��ส%ด
แย�ที่��ส%ด ด�ที่��ส%ด 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100
0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100
แย�มาก ปานกลาง ด�ที่��ส%ด
Page 115
Likert scale1 = ไม�เห)นด�วิยอย�างย��ง 4 = เห)นด�วิย2 = ไม�เห)นด�วิย 5 = เห)นด�วิย อย�างย��ง3 = เฉย ๆ
รายการรายการ 11 22 33 44 55
1. ………….1. ………….
2. …………..2. …………..
Page 116
Semantic differential scales
ค์วิามเห)นตี�อห�างบี วิข้าวิ ล�าสม ย -- -- -- -- -- -- -- ที่ นสม ย
บีร�การไม�ด� -- -- -- -- -- -- -- บีร�การด� ราค์าถุ�ก -- -- -- -- -- -- -- ราค์าแพิง
ที่��จัอดรถุไม�สะดวิก -- -- -- -- -- -- -- ที่��จัอดรถุสะดวิก
X
XX
X
Page 117
Stapel scales ค์วิามค์�ดเห)นตี�อโรงพิยาบีาล ก ข้ ค์
-3 -2 -1 บีร�การด� +1 +2 +3
-3 -2 -1 ราค์าเหมาะสม +1 +2+3
Page 118
หล กเกณฑ์"1. จั�านวินระบีบีค์ะแนนที่��จัะใช�2. Balanced vs Unbalance scale
3. เลข้ค์�� vs เลข้ค์��4. บี งค์ บี vs ไม�บี งค์ บีการแสดงค์วิามค์�ดเห)น5. ร�ปแบีบี
Page 119
Thermometer scale
Smiling face scale
1007550250
ชอบีมาก
ไม�ชอบีมาก
1 2 3 4 5
Page 120
Scale Evaluation
ReliabilityReliabilityGeneralizability
Page 121
ข้�อม�ลที่��ใช�ในการวิ�จั ยข้�อม�ลที่��ใช�ในการวิ�จั ย
1. 1. ข้�อม�ลปฐมภ�ม� ข้�อม�ลปฐมภ�ม� (primary data)(primary data)
2. 2. ข้�อม�ลที่%ตี�ยภ�ม� ข้�อม�ลที่%ตี�ยภ�ม� (secondary data)(secondary data)
Page 122
เค์ร,�องม,อที่��ใช�ในการเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ล
1. แบีบีสอบีถุาม (Questionnaire)
2. แบีบีส มภาษณ" (Interview schedule)
3. แบีบีตีรวิจัรายการ (Check list)
4. แบีบีที่ดสอบี (Test)
5. การส งเกตี (Observation)
Page 123
• ข้�อค์�าถุามที่��เก��ยวิข้�องก บีข้�อ เที่)จัจัร�ง ค์วิามค์�ดเห)น ค์วิาม
เช,�อ ที่ ศนค์ตี� ที่��รวิบีรวิมอย�างม� หล กเกณฑ์"เป7นระบีบี เพิ,�อให�
ประชากร / ตี วิอย�างเป7นผ��ตีอบี• สร�างจัากวิ ตีถุ%ประสงค์"สมมตี�ฐานการวิ�จั ย
แบีบีสอบีถุาม
Page 124
1. 1. ค์�าถุามปลายเป9ด ค์�าถุามปลายเป9ด (Open (Open end question)end question)
ที่�านชอบีอาช�พิราชการเพิราะ ที่�านชอบีอาช�พิราชการเพิราะ …………....
ที่�านเห)นด�วิยก บีร�าง พิรบีที่�านเห)นด�วิยก บีร�าง พิรบี . .การศ6กษาเพิราะ …การศ6กษาเพิราะ …..
ค์�าถุามในแบีบีสอบีถุาม
Page 125
2. ค์�าถุามปลายป9ด (Close end question)
2.1 แบีบีเล,อกตีอบี 1 จัาก 2 ข้�อ (Check list)
ที่�านเห)นด�วิยก บีนโยบีายการจั ดระเบี�ยบีส งค์มหร,อไม�[ ] 1. เห)นด�วิย [ ] 2. ไม�เห)นด�วิย
Page 126
22. แบีบีเล,อกตีอบี 1 ข้�อจัากหลายข้�อ (Multiple choices)
อาช�พิหล กข้องที่�านค์,อ [ ] 1. ร บีราชการ [ ]
2. ร ฐวิ�สาหก�จั[ ] 3 . บีร�ษ ที่เอกชน [ ] 4 .อาช�พิส�วินตี วิ[ ] 5 . อ,�น ๆ (ระบี% ) ………. .
Page 127
23. แบีบีเล,อกตีอบีได�หลายข้�อ (Multi-response)
สถุานประกอบีการข้องที่�านปร บีปร%งก�จัการอย�างไร[ ] 1. กวิดข้ นผ��มาใช�บีร�การมากข้63น[ ] 2. จั�าง รปภ . เพิ��มข้63น[ ] 3. ปร บีเวิลาการให�บีร�การเร)วิข้63น[ ] 4. ลดราค์าค์�าบีร�การ[ ] 5. อ,�น ๆ (ระบี% ) ………….
Page 128
24. แบีบีเร�ยงล�าด บีค์วิามส�าค์ ญ (Rank priority)
ที่�านเห)นด�วิยก บีนโยบีายใดมากที่��ส%ด (ให�เล,อกหมายเล,อก 1 , 2, 3, 4 ตีามล�าด บีที่��เห)นด�วิยมากที่��ส%ดไปหาน�อยที่��ส%ด)
[ ] การจั ดระเบี�ยบีส งค์ม[ ] 30 บีาที่ร กษาที่%กโรค์[ ] หน6�งตี�าบีลหน6�งผล�ตีภ ณฑ์"[ ] เง�นก��หม��บี�านละ 1 ล�านบีาที่
Page 129
25. แบีบีให�มาตีราส�วินประมาณค์�า (Rating scale)
ที่�านม�ค์วิามเห)นเก��ยวิก บีนโยบีาย 30
บีาที่ร กษาที่%กโรค์อย�างไร[ ] 1. ไม�เห)นด�วิยอย�างย��ง[ ] 2. ไม�เห)นด�วิย[ ] 3. ไม�ม�ค์วิามเห)น[ ] 4. เห)นด�วิย[ ] 5. เห)นด�วิยอย�างย��ง
Page 130
1. ใช�ค์วิามน�าจัะเป7น (Probability sampling)
2. ไม�ใช�ค์วิามน�าจัะเป7น (Non probability sampling)
วิ�ธี�การส%�มตี วิอย�าง
Page 131
1. Simple random sampling อย�างง�าย2. Systematic random sampling เป7นระบีบี3. Stratified random sampling ช 3นภ�ม�4. Cluster random sampling กล%�ม
Probability sampling
Page 132
IIIIIIIII III IIIII1
แบีบีเจัาะจัง 2. Convenience
IIIIIIII สะดวิก / บี งเอ�ญ 3. Quota sampling
โค์วิตี�า
Non probability sampling
Page 133
ข้63นอย��ก บี 1. ล กษณะข้องประชากร 2. วิ�ธี�การวิ�จั ย 3. วิ�ธี�การวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล 4. ข้นาดข้องประชากร 5. ข้นาดข้องค์วิามค์ลาดเค์ล,�อนที่��ยอมร บีได� 6. งบีประมาณ ระยะเวิลา
ข้นาดตี วิอย�าง
Page 134
หล กการออกแบีบีวิ�จั ยหล กการออกแบีบีวิ�จั ย
MAX - MIN - CONMAX - MIN - CON
MAX MAX = Maximize the = Maximize the experimental varianceexperimental variance
MIN = Minimize the MIN = Minimize the error varianceerror variance
CON = CON = Control the Control the extraneous independent extraneous independent variablevariable
Experimental ResearchExperimental Research
Page 135
1. แบีบีที่ดสอบีหล งกระที่�าการกล%�มเด�ยวิ
X O
2. แบีบีที่ดสอบีก�อนและหล งกระที่�าการกล%�มเด�ยวิ
O X O
3. แบีบีที่ดสอบีหลายค์ร 3งเป7นระยะกล%�มเด�ยวิ
O O O X O O O
Classical Designs
Page 136
4. แบีบีที่ดสอบีหล งกระที่�าการม�กล%�มเปร�ยบีเที่�ยบี
X O
O
Page 137
5. แบีบีที่ดสอบีก�อนและหล งกระที่�าการม�กล%�มเปร�ยบีเที่�ยบี
X O
O X O
Page 138
6. แบีบีที่ดสอบีหลายค์ร 3งเป7นระยะม�กล%�มเปร�ยบีเที่�ยบีO O O X O O O
O O O O O O
Page 139
7 . แบีบีที่ดสอบีหล งกระที่�าการม�กล%�มค์วิบีค์%ม
R X O
R O
8 . แบีบีที่ดสอบีก�อนและหล งกระที่�าการม�กล%�มค์วิบีค์%ม
R O X O
R O O O
Page 140
9 . แบีบีที่ดสอบีหลายค์ร 3งเป7นระยะม�กล%�มค์วิบีค์%มR O O O X O O O
R O O O O O O
แบีบีปร บีปร%งแบีบีที่ดสอบีก�อนและหล งกระที่�าการแยกกล%�มก นและม�กล%�มค์วิบีค์%ม
R O
R X O
Page 141
แบีบีโซึ่โลมอน 4 กล%�ม
R O1 X O2
R O3 O4
R X O5
R O6
Page 142
Statistical Designs
1. Completely Randomized Design2. Randomized - Block Design3. Latin Square Design4. Factorial Design
Page 143
การแจักแจังข้�อม�ล• การวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล• การที่ดสอบีสมมตี�ฐาน
บีที่ที่�� 4 การวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล
Page 144
สถุ�ตี�ที่��เหมาะสมก บีสถุ�ตี�ที่��เหมาะสมก บีระด บีการวิ ดระด บีการวิ ด
1. Nominal
Percentage
Mode
Chi-square
Binomial test
สถุ�ตี�ที่��ใช�ตีามระด บีข้�อม�ล
Page 145
2. Ordinal
สถุ�ตี�ที่��ใช�ตีามระด บีข้�อม�ล
PercentileMedian
rank-order correlation
Page 146
3 . Interval
สถุ�ตี�ที่��ใช�ตีามระด บีข้�อม�ล
RangeMeanS.D.
Product - moment correlation
Page 147
4. Ratio
Geometric mean
Coefficient of correlation
สถุ�ตี�ที่��ใช�ตีามระด บีข้�อม�ล
Page 148
Descriptive StatisticsDescriptive Statistics
( . . , . . , . . )ModeMeadian
ค์�ากลางค์�ากลาง
การกระจัายการกระจัายRange Interquartile rangeADSD
Page 149
ค์วิามส มพิ นธี"Parametric Statistics
I IIIIII IIIIIII I II III IIIIIIIIIII I Point biserial correlation Ipb
I IIIIIII IIIIIIIIIII I b
Multiple correlation R1.23
I IIIIIII IIIII IIIIIIIIIIIIIIII II IIII IIIII IIIIIIIIIII
I IIIIII’s tau correlation
Page 150
Univariate technique
Metric DataNonmetric Data
Page 151
Metric Data
One sample– t-test– Z test
Two or more sample– Independent - Related
Two groups t test - Paired t test
Z test One way ANOVA
Page 152
Nonmetric Data
One sample Two or more sample– Frequency - Independent– Chi-square
- Chi-square– K-S - Mann-Whitney– Runs - K-S– Binomial - K-W ANOVA
- Related - Sign - Wilcoxon
- McNemar - Chi-square
Page 153
Multivariate techniques
Dependent techniques
Interdependent techniques
Page 154
Dependent techniques
- One dependent variable - More than one Dependent Variable
- Cross Tabulation (More than two variable)
- Multivariate Analysis of Variance
- Analysis of Variance and Covariance and Covariance
- Multiple regression - Canonical Correlation
- Two-Group Discriminant Analysis - Multiple Discriminant Analysis
- Conjoint Analysis
Page 155
Interdependent techniques
Variable Interdependent– Factor
Analysis
Interobject Similarity– Cluster
Analysis– Multidimensi
onal Scaling
Page 156
บีที่ที่�� 5 สร%ป รายงานผลและข้�อเสนอแนะ
ภาค์ผนวิกบีรรณาน%กรม
Page 157
องค์"ประกอบีข้องงานวิ�จั ยที่��ด�น กวิ�จั ยจัะตี�อง1. ม�ค์วิามร��ในเร,�องน 3น ๆ2. ม�ค์วิามสามารถุในการระบี%ป*ญหาได�แม�นย�า3. ม�ค์วิามร��ในระเบี�ยบีวิ�ธี�การวิ�จั ย4. ม�ค์วิามร��ในเร,�องสถุ�ตี�เพิ,�อการที่ดสอบี
Page 158
ที่�ศที่างการวิ�จั ยในอนาค์ตี
* บี�รณาการ ช%ดโค์รงการวิ�จั ย * Action - Research
* Area - Base* ม�ส�วินร�วิม
Page 159
ตี วิอย�างระด บีชาตี�* ย%ที่ธีศาสตีร"การเสร�มสร�างการพิ ฒนาที่��ย �งย,นข้องประเที่ศ* ย%ที่ธีศาสตีร"การพิ ฒนาส งค์ม* ย%ที่ธีศาสตีร"ค์วิามม �นค์ง การตี�างประเที่ศและการอ�านวิย ค์วิามย%ตี�ธีรรม* ย%ที่ธีศาสตีร"การบีร�หารจั ดการประเที่ศ
Page 160
* ธี%รก�จัข้นาดกลางและข้นาดเล)ก * OTOP
* พิ ฒนาค์ม* ช%มชนส%ข้ภาพิ* พิล งงาน* การใช�ที่��ด�น* น�3า* ที่�านายผลผล�ตีการเกษตีร* ศ�ลปวิ ฒนธีรรมและการที่�องเที่��ยวิ* ภ ยพิ�บี ตี�
ระด บี มข้.
Page 161
จัรรยาบีรรณน กวิ�จั ย 1. 1. ซึ่,�อส ตีย" ม�ค์%ณธีรรมซึ่,�อส ตีย" ม�ค์%ณธีรรม
2. 2. พิ นธีะกรณ� ในการที่�าพิ นธีะกรณ� ในการที่�าวิ�จั ยวิ�จั ย
3. 3. ม�พิ,3นฐานค์วิามร��ม�พิ,3นฐานค์วิามร��
4. 4. ร บีผ�ดชอบีตี�อส��งที่��ร บีผ�ดชอบีตี�อส��งที่��ศ6กษาวิ�จั ยศ6กษาวิ�จั ย
5. 5. เค์ารพิศ กด"ศร�และเค์ารพิศ กด"ศร�และส�ที่ธี�ข้องมน%ษย"ส�ที่ธี�ข้องมน%ษย"
6. 6. อ�สระที่างค์วิามค์�ด อ�สระที่างค์วิามค์�ด ปราศจัากอค์ตี�ปราศจัากอค์ตี�
Page 162
7. น�าผลงานวิ�จั ยไปใช�ในที่างที่��ชอบี8. เค์ารพิค์วิามค์�ดเห)นที่างวิ�ชาการข้องผ��อ,�น9. ม�ค์วิามร บีผ�ดชอบีตี�อส งค์มที่%กระด บี
จัรรยาบีรรณน กวิ�จั ย (ตี�อ)
Page 163
แผนภ�ม� 1 : ค์วิามส มพิ นธี"ค์วิามร��เด�ม ป*ญหาข้�อเที่)จัจัร�ง และค์วิามร��ใหม�
ค์วิามร��เด�ม
ค์วิามร��ใหม� ป*ญหา
ข้�อเที่)จัจัร�ง
ค์วิามส มพิ นธี"
Page 164
ตีารางที่�� 1 การแบี�งประเภที่ข้องการวิ�จั ยตีามเกณฑ์"ตี�าง ๆแบี�งตีาม
ล กษณะข้องข้�อม�ล
แบี�งตีามวิ ตีถุ%ประสงค์"ข้องการ
วิ�จั ย
แบี�งตีามศาสตีร"ที่��เก��ยวิข้�อง
แบี�งตีามการค์วิบีค์%มตี วิแปร
แบี�งตีามเวิลา แบี�งตีามระเบี�ยบีวิ�ธี�
วิ�จั ย- กำ�รว�จั�ยเช้�ง
ปร�ม�ณ์- กำ�รว�จั�ยเช้�ง
ค�ณ์ภิ�พ* Mixed - Method
- กำ�รว�จั�ยม!ลฐ�นหร,อกำ�รว�จั�ยบร�ส�ทธี�:
- กำ�รว�จั�ยประย�กำตั"
- กำ�รว�จั�ยเช้�งปฏ�บ�ตั�
- กำ�รว�จั�ยเฉพ�ะศึ�สตัร"
- กำ�รว�จั�ยสหว�ทย�กำ�ร
- กำ�รว�จั�ยในห องปฏ�บ�ตั�กำ�ร
- กำ��รว�จั�ยสน�ม
- กำ�รว�จั�ยเอกำส�ร
- กำ�รศึ1กำษ�เฉพ�ะกำรณ์�
- กำ�รว�จั�ยเช้�งปฏ�บ�ตั�กำ�ร
- กำ�รว�จั�ยภิ�คตั�ดข้ว�ง
- กำ�รว�จั�ยระยะเวล�หร,อ
- กำ�รว�จั�ยเช้�งประว�ตั�ศึ�สตัร"
- กำ��รว�จั�ยเช้�งป-จัจั�บ�น
- กำ�รว�จั�ยอน�คตั
- กำ�รว�จั�ยเช้�งว�เคร�ะห"
- กำ�รว�จั�ยเช้�งบรรย�ย
- กำ��ร�จั�ยเช้�งทดลอง
Page 165
2. ตี วิแปร (Variable)
ตี วิแปร- ส��งที่��สนใจัที่��โดยที่ �วิ ๆ ไปแล�วิสามารถุแปรค์�าได�ตี�าง ๆ ก น เช�น เพิศ,อาย%, น�3าหน ก, ส�วินส�ง, รายได� ฯลฯ
ตี วิแปรอ�สระ(Independent )
ตี วิแปรตีามDependent
ตี วิแปรแที่รกซึ่�อน(Extraneous)
ตี วิแปรสอดแที่รก(Intervening)
Page 166
3. ล กษณะข้องตี วิแปร
ตี วิแปรเช�งค์%ณล กษณะ(Qualitative)
ตี วิแปรไม�ตี�อเน,�อง(Discreate)
ตี วิแปรเช�งปร�มาณ
(Quantitative)
ตี วิแปรตี�อเน,�อง
(Continuous)
ล กษณะล กษณะ ปร�มาณปร�มาณ
Page 167
4. มาตีรวิ ด ตี วิแปร (Measuvenent)
- นามบี ญญ ตี� (Norminal Scales)- เร�ยงอ นด บี (Ordinal Scales)- มาตีราส�วิน (Interval Scales)- อ ตีราส�วิน (Ration Scales)
กล%�ม,พิวิกมาก > น�อย
หน�วิยวิ ดเที่�าก น ,ม�ศ�นย"เที่�ยมม�ศ�นย"แที่�
Page 168
5. เค์ร,�องม,อวิ ดค์�าข้องตี วิแปร เค์ร,�องม,อวิ�จั ย
- แบีบีที่ดสอบี- แบีบีมาตีราส�วินประมาณค์�า- แบีบีสอบีถุาม- แบีบีส งเกตี - แบีบีส มภาษณ"- ฯลฯ
ข้�อม�ลตี วิแปร
เค์ร,�องม,อวิ ด
Page 169
ค์%ณภาพิข้องข้�อม�ล1. การค์วิบีค์%มค์%ณภาพิข้องข้�อม�ลจัากการปฏิ�บี ตี�งานสนาม
1. การวิางแผน การที่ดสอบีเค์ร,�องม,อ - แบีบีสอบีถุาม - แบีบีส มภาษณ" การเก)บีข้�อม�ลเช�งค์%ณภาพิ Case Study
ภาษาล�าด บีข้�อค์วิามที่ดลองใช�เวิลาที่��ใช�
2. ช�วิงเวิลาที่��ส�ารวิจั- เวิลาที่��อ�างอ�ง
- เวิลาที่��เหมะสมในการเก)บีข้�อม�ล- ค์วิามสะดวิกในการเด�นที่างค์�าใช�จั�าย
Page 170
3. การเตีร�ยมอ%ปกรณ"* บี ตีรประจั�าตี วิ* แบีบีสอบีถุาม/ส มภาษณ"* ค์��ม,อปฏิ�บี ตี�งาน* แฟั�ม/ถุ%งพิลาสตี�ก/ร�ม* แผนที่�� + รถุยนตี"
ปากกา/ด�นสอ
ข้องตีอบีแที่น ?
4. การประสานงานก บีบี%ค์ค์ลในเข้ตีส�ารวิจั * ก�าน น/ผ��ใหญ�บี�าน/อบีตี . ฯลฯ > ผ��วิ�า “CEO” * เบีอร"โที่รศ พิที่" [ปกตี� + ฉ%กเฉ�น]
* จั%ดน ดหมาย เวิลา/สถุานที่��
Page 171
2. บีที่บีาที่และค์%ณสมบี ตี�ผ��ปฏิ�บี ตี�งานสนาม1. บีที่บีาที่
* อธี�บีายให�ผ��ตีอบีเห)นค์วิามส�าค์ ญ และประโยชน"ข้องงานวิ�จั ย* ถุามค์�าถุามให�ผ��ตีอบีเข้�าใจั ตีอบีวิ ตีถุ%ประสงค์"ที่��ผ��วิ�จั ยตี�องการ* ตี�องเก)บีข้�อม�ลด�วิยค์วิามซึ่,�อส ตีย" ไม�ล�าเอ�ยง (ไม�สร�างข้�อม�ลเที่)จั)* ส งเกตีพิฤตี�กรรม และสภาพิแวิดล�อม
Page 172
2. ค์%ณสมบี ตี�* ค์วิามร��/ประสบีการณ"* ค์วิามตี 3งใจั/อดที่น/ซึ่,�อส ตีย"/ร บีผ�ดชอบี* บี%ค์ล�กภาพิ/ที่ ศนค์ตี�
เห)นประโยชน"และค์วิามส�าค์ ญข้องข้�อม�ลจัร�ง3. การฝึEกอบีรมผ��ปฏิ�บี ตี�งานสนาม
* หล กส�ตีรการฝึEกอบีรม ( วิ ตีถุ%ประสงค์" กตี�กา ฯ )* วิ�ธี�การฝึEกอบีรม บีรรยาย/ส มมนา/ฝึEกปฏิ�บี ตี�ฯ* หล กการส มภาษณ" ที่ดลองปฏิ�บี ตี�
ค์รบีถุ�วิน ? ถุ�กตี�อง ? เช,�อถุ,อได� ?ก�อน ส มภาษณ" หล ง
Page 173
3. การส มภาษณ"/วิ�ธี�ปฏิ�บี ตี�ตี�อผ��ให�ส มภาษณ"1. สร�างค์วิามเป7นม�ตีร เป7นก นเอง2. บีอกวิ ตีถุ%ประสงค์"ข้องการส มภาษณ"3. “ ”ให�ค์วิามม �นใจัวิ�า ข้�อม�ลส�วินตี วิเป7นค์วิามล บี4. แสดงค์วิามสนใจัค์�าพิ�ด ค์�าตีอบี อย�างจัร�งจั ง5. ถุ�าส มภาษณ"ตีามแบีบี/ โค์รงสร�าง ค์วิรเร�ยงตีามแบีบี ไม�ม�แบีบี/ กรอบี ค์วิรสอดค์ล�องตี�อเน,�อง6. อย�าตี 3งค์�าถุามนอกเร,�องโดยไม�จั�าเป7น7. ระม ดระวิ งในการตี 3งค์�าถุาม
- ค์วิามเร�ยบีง�ายข้องถุ�อยค์�า- ค์�าถุามน�า/ ……ช กจั�ง .(ตีอบีตีามใจัผ��ส มภาษณ")
Page 174
8. ค์วิรใช�การส งเกตี% ม�ไหวิพิร�บี ระหวิ�างส มภาษณ"9. อย�าใช�ตี วิย�อ/ ส ญล กษณ" บี นที่6กค์�าตีอบี10. ข้อบีค์%ณผ��ตีอบีส มภาษณ"และกล�าวิอ�าลา
ค์วิามผ�ดพิลาดข้องน กวิ�จั ย
- ข้าดประสบีการณ" ม,อใหม�- เตีร�ยมตี วิไม�มากพิอ- สถุานการณ"แวิดล�อมค์%กค์าม
3. การส มภาษณ"/ วิ�ธี�ปฏิ�บี ตี�ตี�อผ��ให�ส มภาษณ" (ตี�อ)
“ RESEARCHER ”
Page 175
ค์%ณล กษณข้องน กวิ�จั ยที่��ด� 1. ค์%ณล กษณะด�านอารมณ"และค์วิามร��ส6ก (Emotion)
1.1 ม�ค์วิามสนใจั อยากร�� อยากเห)น ตีลอดเวิลา1.2 ม�ที่ ศนค์ตี�ที่��ด�ตี�อการแสวิงหาค์วิามร�� หร,อการวิ�จั ย1.3 ม�ค์วิามร�� และสน%กในการที่�างาน1.4 ม�จั�ตีใจัด� ประสานงานก บีผ��อ,�นได�1.5 ม�ค์วิามกระตี,อร,อร�นในการที่�างานวิ�จั ย 2 . ค์%ณล กษณะด�านค์วิามร�� (Knowledge)
2.1 ม�ค์วิามร��ค์วิามสามารถุในการวิ�เค์ราะห"2.2 ที่�างานอย�างม�ระบีบี ตีามแผนงานที่��วิางไวิ�2.3 ม�ค์วิามร��ในระเบี�ยบีวิ�ธี�การวิ�จั ย วิ�ธี�การวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล โดยเฉพิาะวิ�ธี� การที่างสถุ�ตี� และเค์ร,�องม,อสน บีสน%นการวิ�จั ย2.4 ม�ค์วิามร��ค์วิามสามารถุในการส งเค์ราะห"และสร%ปผล
Page 176
ค์%ณล กษณข้องน กวิ�จั ยที่��ด� (ตี�อ)
3 . ค์%ณล กษณะด�านการตี ดส�นใจั (Decision)3.1 กล�าค์�ด กล�าตี ดส�นใจั3.2 ม�ค์วิามรอบีค์อบี ตี ดส�นใจัด�วิยเหตี%ผล3.3 เป7นค์นม�เหตี%ผล3.4 ม�ค์วิามสามารถุในการค์วิบีค์%มตีนเองให�กระที่�าตีามหล กวิ�ชาและแผน ที่��วิางไวิ�3.5 ม�ค์วิามสามารถุในการประเม�นส��งตี�าง ๆ ได�ถุ�กตี�อง
4. ฝึEกฝึนตีนเองให�เป7นค์นช�างส งเกตี จัดจั�าส��งตี�าง ๆ ได�อย�างแม�นย�า5. ฝึEกฝึนตีนเองให�ยอมร บีค์วิามจัร�งและค์วิามค์�ดเห)นข้องผ��อ,�น
Page 177
ระเบี�ยบีวิ�ธี�การวิ�จั ย (Research Methodology) จัะเป7นการน�าเอาวิ�ธี�การที่างวิ�ที่ยาศาสตีร" มาประย%กตี"ใช�ก บีการศ6กษาข้�อเที่)จัจัร�งในเร,�องหน6�งเร,�องใด โดยม�ข้ 3นตีอนพิ,3นฐานส�าค์ ญ ด งน�3
1. การก�าหนดประเด)นป*ญหา (Statement of the Problem)
2. การที่บีที่วินวิรรณกรรม (Review of Literature)
3 . การก�าหนดวิ ตีถุ%ประสงค์"และกรอบีแนวิค์�ด (Conceptual Framework)
4 . การออกแบีบีวิ�จั ย (Research Design) 5 . การก�าหนดประชากรและการเล,อกตี วิอย�าง
(Target Population and Samples) 6 . การเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ล (Data Collection) 7 . การวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล (Data Analysis) 8 . การน�าเสนอและการเข้�ยนรายงาน
(Reporting) 9 . การวิางแผนและการค์วิบีค์%มงานวิ�จั ย
(Research Planning and Controling)
Page 178
แผนภ�ม� 2 : ร�ปแบีบีการเข้�ยนวิ ตีถุ%ประสงค์"งานวิ�จั ยที่างด�านส งค์มศาสตีร"
• ศึ1กำษ�…• ว�เคร�ะห"…• เปร�ยบเท�ยบ…• เข้ �ใจัถ1ง...
• พฤตั�กำรรม• ผลกำระทบ• ป-ญห�• คว�มร! • ท�ศึนคตั�• ค��น�ยม• ข้ อเท�จัจัร�ง• คว�มส�มพ�นธี"
• เพ,*อ …….
Page 179
ตี วิอย�าง : โค์รงการวิ�จั ยเร,�อง : “พิฤตี�กรรมการร บีข้�าวิสารข้องเยาวิชนเก��ยวิก บี การรณรงค์"ป�องก นโรค์เอดส"”
วิ ตีถุ%ประสงค์"
1. เพิ,�อศ6กษาถุ6งพิฤตี�กรรมการร บีข้�าวิสารการรณรงค์"ป�องก นโรค์เอดส"ข้องเยาวิชน2. เพิ,�อศ6กษาถุ6งส,�อที่��เข้�าถุ6งเยาวิชนในการรณรงค์"ป�องก นโรค์เอดส"บี�อยค์ร 3งที่��ส%ด3. เพิ,�อศ6กษาค์วิามร�� ที่ ศนค์ตี�ข้องเยาวิชนในการรณรงค์"ป�องก นโรค์เอดส"
Page 180
ตี วิอย�าง : บี ตีรแข้)งบี นที่6กข้�อม�ล Memo Card ข้นาด 5”x 8” หร,อ 4” x 6”
ด�านหน�า ด�านหล งเลข้ที่��……..
ช,�อ - นามสก%ล/หน�วิยงาน………………………….ช,�อ/ประเภที่หน งส,อ……………………………….ห วิข้�อเร,�อง……….. ……………………………….หมายเลข้หน�า ……………………………………..หน�วิยงาน/สถุานที่��พิ�มพิ" …………………………..ปBที่��พิ�มพิ" ……… ……เล�มที่�� ..ค์ร 3งที่��พิ�มพิ"………….เลข้ที่��หม��หน งส,อ …………………………………..สถุานที่��เก)บีข้�อม�ล ………………………………….วิ นเด,อนปBที่��บี นที่6ก …………………………………หมายเหตี%…………………………………………..
สารส�าค์ ญ……………………………………………………..……………………………………………………..……………………………………………………..……………………………………………………..……………………………………………………..……………………………………………………..……………………………………………………..……………………………………………………..……………………………………………………..……………………………………………………..
Review Literature
Page 181
ตี วิอย�าง : ตี วิแปรและการร�างแบีบีสอบีถุาม “โค์รงการวิ�จั ยเร,�อง ที่ ศนค์ตี�ข้องผ��บีร�โภค์ในเข้ตีจั งหวิ ดข้อนแก�นที่��ม�ตี�อ
”ยาสม%นไพิรที่��ผล�ตีภายในประเที่ศ
1 . เพิศ (SEX) 2. อาย% (AGE) 3. อาช�พิ (OCCUPATION) 4. สถุานภาพิสมรส (MARITAL STATUS) 5. ค์%ณวิ%ฒ�ที่างการศ6กษา (DEGREE) 6. เง�นเด,อน (SALARY) 7. จั�านวินค์นในค์รอบีค์ร วิ (Number of Family)
1. ค์�าถุามเก��ยวิก บี ข้�อม�ลส�วินตี วิ
Page 182
ตี วิอย�าง : ตี วิแปรและการรางแบีบีสอบีถุาม (ตี�อ)8. เหตี%ที่��ใช�9. ย��ห�อข้องสม%นไพิรที่��ผล�ตีในประเที่ศ10. ผ��ใช�11. ผ��ซึ่,3อ12. ค์วิามเหมาะสม15. ส��งที่��ตี�องการให�ม�16. ผลตี�อส��งแวิดล�อม
17. ป*จัจั ยที่��ตี ดส�นใจัซึ่,3อ21. น�ยมใช�ตีามเพิ,�อน22. ข้�อที่��ค์วิรแก�ไข้และปร บีปร%ง23. เม,�อเปร�ยบีเที่�ยบีก บีสม%นไพิรตี�างประเที่ศ
2. ค์�าถุามเก��ยวิก บี ที่ ศนค์ตี�
12. ราค์า13. ข้นาด14. ภาชนะบีรรจั%ภ ณฑ์"
17. ย��ห�อ18. ค์%ณภาพิ19. ราค์า20. สะดวิก
Page 183
ตีาราง แผนงานการวิ�จั ย : การบีร�หารเวิลาเข้�ยนในร�ป Gantt Chart
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
1. ศ6กษาเอกสารและงานวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�อง2. สร�างเค์ร,�องม,อ3. ที่ดลองใช�และปร บีปร%งเค์ร,�องม,อ4. รวิบีรวิมข้�อม�ล5. ประมวิลผลและวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล6. แปลผลและเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย7. พิ�มพิ"รายงานการวิ�จั ย
ก�จักรรมและข้ 3นตีอนการด�าเน�นการวิ�จั ย ( )ระยะเวิลา เด,อน
Page 184
บีที่สร%ป : การเข้�ยนรายงานการวิ�จั ยการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ยการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย
1. การเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย เป7นข้ 3นตีอนที่��ผ��วิ�จั ยด�าเน�นการภายหล งจัากการ วิ�เค์ราะห"ข้�อม�ลและแปลผลเร�ยบีร�อยแล�วิ ถุ,อวิ�าเป7นข้ 3นตีอนที่��ม�ค์วิามส�าค์ ญ อ�กข้ 3นตีอนหน6�ง เพิราะวิ�าเป7นข้ 3นตีอนที่��ผ��วิ�จั ยจัะได�เสนอข้�อค์�นพิบีที่��ส�าค์ ญ จัากการวิ�จั ย เผยแพิร�ไปย งผ��ใช�ผลการวิ�จั ย หร,อสาธีารณชน โดยเฉพิาะ อย�างย��งแหล�งที่��ให�การสน บีสน%นการวิ�จั ยน 3น ๆ
2. ร�ปแบีบีการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ส�วินใหญ�จัะม�องค์"ประกอบี 3 ส�วิน ได�แก� 2.1) ส�วินน�า เป7นส�วินที่��ประกอบีด�วิย ปกนอก ใบีรองปก หน�าช,�อเร,�อง บีที่ค์ ดย�อ ก�ตีตี�กรรมประกาศ สารบี ญ สารบี ญตีาราง และสารบี ญภาพิ
Page 185
การเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย การเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ((ตี�อตี�อ))
1) บีที่น�า2) เอกสารและงานวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�อง3) วิ�ธี�ด�าเน�นการวิ�จั ย4) ผลการวิ�จั ย5) สร%ปผลการวิ�จั ย อภ�ปรายผล และข้�อเสนอแนะ
2.3) ส�วินอ�างอ�ง เป7นส�วินที่��ประกอบีด�วิยบีรรณาน%กรม ภาค์ผนวิก และประวิ ตี�ผ��วิ�จั ย
3. วิ�ธี�การเข้�ยนรายงานการวิ�จั ยในแตี�ละองค์"ประกอบี หร,อแตี�ละส�วินที่ 3ง 3 ส�วิน ด งกล�าวิข้�างตี�น ม�หล กเกณฑ์"และวิ�ธี�การเข้�ยนที่��ม�ล กษณะเฉพิาะ แตี�อย�างไรก) ตีาม หล กเกณฑ์"และวิ�ธี�การเข้�ยนด งกล�าวิ บีางองค์"กรหร,อสถุาบี นอาจัม�แนวิ ปฏิ�บี ตี�ข้องตีนเอง เพิ,�อให�ผ��วิ�จั ยใช�เป7นหล กในการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ให�เป7น ไปในแนวิเด�ยวิก น
2.2) ส�วินเน,3อเร,�อง เป7นส�วินที่��ส�าค์ ญแบี�งออกเป7นบีที่ ๆ จัะเป7นก��บีที่ก)ได� แตี�ใน การเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ส�วินใหญ�จัะแบี�งออกเป7น 5 บีที่ ได�แก�
Page 186
การเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย การเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ((ตี�อตี�อ))
4. ข้�อค์วิรระวิ งและค์วิรปฏิ�บี ตี�ในการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ที่��ผ��วิ�จั ยพิ6งตีระหน ก เพิ,�อให�รายงานการวิ�จั ยน 3นม�ค์วิามสมบี�รณ" สร%ปได�ด งน�3 1) ม�ค์วิามตีรงประเด)น โดยม%�งตีอบีป*ญหาการวิ�จั ยเที่�าน 3น 2) ม�ค์วิามถุ�กตี�องไม�บี�ดเบี,อนไปจัากข้�อเที่)จัจัร�งที่��ค์�นพิบี 3) ม�ค์วิามช ดเจันในการส,�อค์วิามหมายไม�ค์ล%มเค์ร,อวิกวิน 4) ม�ค์วิามส�ารวิมข้องผ��วิ�จั ยเอง โดยไม�ยกย�องตีนเอง 5) ม�ค์วิามสอดค์ล�องในการเข้�ยนที่%กบีที่ที่%กตีอนให�เป7นอ นหน6�งอ นเด�ยวิก น 6) ม�ค์วิามสม��าเสมอค์งเส�นค์งวิาในการใช�ถุ�อยค์�าหร,อข้�อค์วิามใด ๆ 7) ม�ค์วิามส�าค์ ญก�อนหล งข้องส��งที่��ค์�นพิบีโดยล�าด บีวิ�าส��งที่��ส�าค์ ญที่��ส%ดอย��ใน อ นด บีแรกเพิ,�อไม�ให�เก�ดค์วิามส บีสน 8) ม�จัรรยาบีรรณข้องน กวิ�จั ยโดยย6ดม �น ซึ่,�อส ตีย"ตี�อส��งที่��ตีนศ6กษา
Page 187
ร�ปแบีบีการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ยร�ปแบีบีการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย รายงานการวิ�จั ยโดยที่ �วิไปไม�วิ�าจัะเป7นรายงานการวิ�จั ยในสาข้าใด ๆ จัะม�ร�ปแบีบีหร,อโค์รงสร�างที่��หลากหลายและแตีกตี�างก น ที่ 3งน�3ข้63นอย��ก บีแนวิปฏิ�บี ตี�ข้องสถุาบี น องค์"กรหร,อหน�วิยงานที่��ก�าหนดไวิ�ให�ผ��วิ�จั ยปฏิ�บี ตี�ตีาม แตี�หากพิ�จัารณาโดยรวิมแล�วิส�วินใหญ�จัะม�ร�ปแบีบีและโค์รงสร�างที่��ประกอบีด�วิย 3 ส�วิน ได�แก�
1) ส�วินน�า 2) ส�วินเน,3อเร,�อง 3) ส�วินอ�างอ�ง (พิวิงร ตีน" ที่วิ�ร ตีน" 2538, : - 195196) ส�าหร บีรายละเอ�ยดข้องแตี�ละส�วินด งน�3
1. ส�วินน�า (Preliminary Section) ประกอบีด�วิย 1) ปกนอก 6) สารบี ญ
2) ใบีรองปก 7) สารบี ญตีาราง 3) หน�าช,�อเร,�อง 8) สารบี ญภาพิประกอบี 4) บีที่ค์ ดย�อ 5) ก�ตีตี�กรรมประกาศ
Page 188
ร�ปแบีบีการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ร�ปแบีบีการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ((ตี�อตี�อ))
2. ส�วินเน,3อเร,�อง (The Body of the Report)
ส�วินเน,3อเร,�องในรายงานการวิ�จั ยประกอบีด�วิยเน,3อเร,�องที่��ผ��วิ�จั ยแบี�งออกเป7น บีที่ ๆ จั�านวินบีที่จัะไม�แน�นอนข้63นอย��ก บีปร�มาณข้องเน,3อเร,�องและวิ�ธี�การวิ�จั ย
ส�าหร บีรายงานการวิ�จั ยที่างส งค์มศาสตีร"โดยที่ �วิไปน�ยมแบี�งบีที่ตี�าง ๆ ออกเป7น5 บีที่ ด งน�3บีที่ที่�� 1 บีที่น�า (Introduction) ประกอบีด�วิย
1) ค์วิามเป7นมาและค์วิามส�าค์ ญข้องป*ญหา 6) ข้�อจั�าก ดข้องการวิ�จั ย 2) วิ ตีถุ%ประสงค์"ข้องการวิ�จั ย 7) น�ยามศ พิที่"เฉพิาะ 3) สมมตี�ฐานในการวิ�จั ย 8) ประโยชน"ที่��ค์าดวิ�าจัะได�ร บี 4) ข้อบีเข้ตีข้องการวิ�จั ย 5) ข้�อตีกลงเบี,3องตี�น
Page 189
ร�ปแบีบีการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ร�ปแบีบีการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ((ตี�อตี�อ))
บีที่ที่�� 2 เอกสารและงานวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�อง (Review of Related Literature)ประกอบีด�วิย
1) ค์วิามหมายข้องค์�าที่��เป7นค์�าหล ก (key Word ) ข้องเร,�อง 2) แนวิค์�ดและที่ฤษฎี�ที่��เก��ยวิข้�อง 3) ผลการวิ�จั ยที่��เก��ยวิข้�อง
บีที่ที่�� 3 วิ�ธี�ด�าเน�นการวิ�จั ย ประกอบีด�วิย1) ประชากรและกล%�มตี วิอย�าง2) เค์ร,�องม,อที่��ใช�ในการวิ�จั ย3) การรวิบีรวิมข้�อม�ล4) การวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ล
Page 190
ร�ปแบีบีการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ร�ปแบีบีการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ((ตี�อตี�อ))
บีที่ที่�� 4 ผลการวิ�จั ย ประกอบีด�วิย1) ล กษณะที่ �วิไปข้องกล%�มตี วิอย�าง2) ผลการวิ�จั ยตีามวิ ตีถุ%ประสงค์" ( เร�ยงล�าด บีจัากข้�อ 1 ไป ในส�วินน�3อาจัม�ตีาราง และแผนภ�ม�ตี�าง ๆ ประกอบี)
บีที่ที่�� 5 สร%ปผลการวิ�จั ย อภ�ปรายผล และข้�อเสนอแนะ ในบีที่ที่�� 5 น�3จัะกล�างถุ6ง ตีามประเด)นที่ 3ง 3 ข้องบีที่ตีามล�าด บี ค์,อ1) สร%ปผลการวิ�จั ย2) อภ�ปรายผล3) ข้�อเสนอแนะ
Page 191
ร�ปแบีบีการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ร�ปแบีบีการเข้�ยนรายงานการวิ�จั ย ((ตี�อตี�อ))
3. ส�วินอ�างอ�ง (Reference Section) 1) บีรรณาน%กรม (Bibliography) 2) ภาค์ผนวิก (Appendix) 3) ประวิ ตี�ผ��วิ�จั ย
วิ�จัย� ปญญาน� พิล�การวิ�จั ยเป7นพิล งแห�งป*ญญา
Page 192
การตี 3งสมมตี�ฐานSetting
Hypothesis การตี 3งสมมตี�ฐานแบี�งเป7น 2 ประเภที่ใหญ�ๆค์,อ
1. สมมตี�ฐานที่างวิ�จั ย ( research hypothesis ) หร,อสมมตี�ฐานที่างวิ�ที่ยาศาสตีร"( scientific hypothesis )
2. สมมตี�ฐานที่างสถุ�ตี� ( statistical hypothesis )
Page 193
สมมตี�ฐานที่างวิ�จั ย ( research hypothesis )
ค,อกำ�รค นค��ตัอบเพ,*อตัอบป-ญห�หร,อค�ดคะเน ค��ตัอบ โดยอ�จัม�
พ,+นฐ�นหร,อหล�กำกำ�รเกำ�*ยวกำ�บทฤษฎี�ท�*เกำ�*ยวข้ องกำ�บ ป-ญห�น�+น
กำ�รตั�+งสมมตั�ฐ�นท�งกำ�รว�จั�ยควรม�หล�กำกำ�ร หร,อเหตั�ผลท�*เหม�ะสม
โดยอ�ศึ�ยพ,+นฐ�นม�จั�กำผลง�นว�จั�ยท�*เกำ�*ยวข้ องกำ�บห�ว เร,*องท��กำ�รว�จั�ย
โดยกำ�รตั�+งสมมตั�ฐ�นท�งกำ�รว�จั�ยจั��เป4นตั องกำล��วน��ข้1+นม�กำ�อนท�*จัะ
ตั�+งสมมตั�ฐ�น ไม�ควรตั�+งสมมตั�ฐ�นข้1+นม�ลอยๆโดยไม�ม�ทฤษฎี�อ �งอ�ง
Page 194
ล กษณะการตี 3งสมมตี�ฐานที่างวิ�จั ยที่��ด�ค์วิรม�ด งน�3
1. สมมตั�ฐ�นท�*ตั�+งข้1+นควรม�คว�มช้�ดเจันและเฉพ�ะเจั�ะจัง2. สมมตั�ฐ�นท�*ตั�+งข้1+นตั องเป4นส�*งท�*ทดสอบได
3. สมมตั�ฐ�นท�*ตั�+งข้1+นไม�ควรเป4นส�*งท�*ม�ข้อบเข้ตักำว �งจันเกำ�นไป4. สมมตั�ฐ�นควรตั�+งให สอดคล องกำ�บคว�มจัร�งท�*ปร�กำฏอย!�ในป-จัจั�บ�น ในเร,*องท�*จัะศึ1กำษ�
5. ภิ�ษ�ท�*ใช้ ตั�+งสมมตั�ฐ�นควรเป4นค��พ!ดท�*ง��ย ๆ เพ,*อให คว�มหม�ยช้�ดเจัน
Page 195
ประโยชน"ข้องการตี 3งสมมตี�ฐานสมมตี�ฐานที่างวิ�จั ยม�ประโยชน"ด งน�3
1. ช้�วยให ผ! ว�จั�ยส�ม�รถเล,อกำตั�วแปรท�*ตั องกำ�รศึ1กำษ�ว��ม�ตั�วแปรอะไรบ �ง2. ช้�วยให ผ! ว�จั�ยเล,อกำข้ อม!ลท�*น��ม�ศึ1กำษ�ได ถ!กำตั องตัรงประเด�น
3 . ช้�วยจั��กำ�ดข้อบเข้ตักำ�รว�จั�ยและท��ให ป-ญห�ในกำ�รว�จั�ยช้�ดเจันข้1+น4. ช้�วยท��ให ผ! ว�จั�ยร! ว��ควรใช้ แบบกำ�รว�จั�ย (research design ) แบบใดจั1งจัะเหม�ะสมกำ�บป-ญห�ท�*ผ! ว�จั�ยตั องกำ�รศึ1กำษ�
5. ช้�วยท��ให ผ! ว�จั�ยทร�บว��ควรใช้ กำล��มตั�วอย��งอย��งไร
Page 196
6. ช้�วยท��ให ผ! ว�จั�ยทร�บว��จัะเกำ�บรวบรวมข้ อ ม!ลอย��งไร7.ช้�วยท��ให ผ! ว�จั�ยทร�บว��จัะใช้ สถ�ตั�อะไรทดสอบสมมตั�ฐ�น
8.ช้�วยกำ��หนดข้อบเข้ตัในกำ�รแปรคว�มหม�ยข้องผลง�นกำ�รว�จั�ย ว��ควรสร�ปออกำม�ในร!ปแบบใด
ล กษณะการตี 3งสมมตี�ฐานที่างวิ�จั ยที่��ด� (ตี�อ)
อย��งไรกำ�ตั�ม สมมตั�ฐ�นข้องกำ�รว�จั�ยแม ว��จัะม�ประโยช้น"ตั�อกำ�รว�จั�ย แตั�กำ�ไม�จั��เป4นตั องม�กำ�รตั�+งสมมตั�ฐ�นกำ�รว�จั�ยท�กำเร,*อง
Page 197
สมมตี�ฐานที่างสถุ�ตี�(Statistical hypothesis)
หม�ยถ1งข้ อคว�มท�*เกำ�ยวข้ องกำ�บพ�ร�ม�เตัอร"ท�*ย�งไม�ทร�บค�� ซึ่1*งสมมตั�ฐ�นท�งสถ�ตั�น�+นประกำอบด วย 2 ส�วน ค,อ1. สมมตั�ฐ�นศึ!นย"(Null hypothesis) สมมตั�ฐ�นท�*ระบ�คว�มไม�แตักำตั��ง ข้องค��พ�ร�ม�เตัอร" “ ”จัะม�เคร,*องหม�ยเท��กำ�นปร�กำฏเสมอ
ส�ญล�กำษณ์"ท�*ใช้ แทนสมมตั�ฐ�นศึ!นย"ค,อ0H
เช้�น 20:0 H หม�ยถ1งค��เฉล�*ยข้องกำล��มประช้�กำรม�ค��เท��กำ�บ 20210 : H หม�ยถ1งค��เฉล�*ยข้องกำล��มประช้�กำรกำล��มท�* 1
ม�ค��เท��กำ�บค��เฉล�*ยช้องประช้�กำรกำล��มท�* 2
Page 198
2. สมมตั�ฐ�นเล,อกำ (alternative hypothesis) หม�ยถ1ง สมมตั�ฐ�นท�*ระบ�ถ1ง ค��พ�ร�ม�เตัอร"ในล�กำษณ์ะท�*เป4นส�วนประกำอบข้องสมมตั�ฐ�นศึ!นย" ว�� ถ �สมมตั�ฐ�นศึ!นย"ไม�ถ!กำตั อง ส�*งท�*ควรเป4นค,อข้ อใด
ส�ญล�กำษณ์"ท�*ใช้ แทนค,อ1Hกำ. สมมตั�ฐ�นเล,อกำแบบไม�ม�ท�ศึท�ง(non directional alternative hypothesis)
เช้�น79:
79:
1
0
H
H
จั�กำกำ�รกำ��หนด ค�� อ�จัม�กำกำว�� 79 หร,อ น อยกำว�� 79 กำ�ได ด�งน�+นกำ�รทดสอบสมมตั�ฐ�นล�กำษณ์ะน�+จั1งเป4น
กำ�รทดสอบสมมตั�ฐ�นแบบสองฐ�น (Two-tailed test)
79:1 H
Page 199
แผนภิ�พท�* 1 แสดงกำ�รทดสอบสมมตั�ฐ�นแบบสองท�ง
Page 200
ข้. สมมตั�ฐ�นเล,อกำแบบม�ท�ศึท�ง (directional alternative hypothesis) ใช้ ในกำรณ์�ท�*ผ! ว�จั�ยม�คว�มค�ดค�อนข้ �งเฉพ�ะเจั�ะจัง และม�ท�ศึท�งแน�ช้�ดว��
ไปในท�ศึท�งใดเช้�น
79:
79:
1
0
H
Hสมมตั�ฐ�นค,อ
Page 201
79:
79:
1
0
H
Hสมมตั�ฐ�นค,อ
Page 202
ศ พิที่"ที่��เก��ยวิข้�องก บีการที่ดสอบีสมมตี�ฐาน1. คว�มม�น�ยส��ค�ญ(level of significance) ระด�บหร,อคว�มน��จัะเป4น ข้องคว�มเส�*ยงในกำ�รท�*จัะสร�ปผ�ดพล�ดบนพ,+นฐ�นข้องข้ อม!ลท�*ม�อย!� ส�ญล�กำษณ์"แทนระด�บคว�มม�น�ยส��ค�ญค,อ
2. บร�เวณ์ข้องกำ�รปฏ�เสธีสมมตั�ฐ�น(region of rejection)
3. บร�เวณ์ข้องกำ�รยอมร�บสมมตั�ฐ�น (region of acceptance)
4. ค��ว�กำฤตั(critical value)จั�ดแบ�งระหว��งบร�เวณ์ยอมร�บและปฏ�เสธี5. คว�มค�ดเคล,*อนช้น�ดท�* 1 (Type 1 error) ส�ญล�กำษณ์"ท�*ใช้ ค,อ
6. คว�มค�ดเคล,*อนช้น�ดท�* 2(type 2 error) ส�ญล�กำษณ์"ค,อ
7. กำ�รสร�ปผลกำ�รทดสอบสมมตั�ฐ�น
Page 203
ตีารางที่�� 1 สร%ปการที่ดสอบีสมมตี�ฐาน
( ) ถ!กำตั องหร,อเป4นจัร�ง ( )ผ�ดหร,อเป4นเท�จั
ปฏ�เสธี คว�มค�ดเคล,*อนช้น�ดท�*
1 ( type 1 error)
อ��น�จัข้องกำ�รทดสอบหร,อตั�ดส�นใจัถ!กำตั อง
ยอมร�บ ตั�ดส�นใจัถ!กำตั องหร,อข้ อ
สร�ปท�*ถ!กำตั อง 2 คว�มค�ดเดล,*อนท�*
(type 2 error)
สภิ�พตั�มคว�มจัร�ง
กำ�รตั�ดส�นใจั
Page 204
สร%ปข้ 3นตีอนข้องการที่ดสอบีสมมตี�ฐาน1. กำ��หนดศึ!นย"สมมตั�ฐ�นศึ!นย" (null
hypothesis ) และสมมตั�ฐ�นเล,อกำ(alternative hypothesis)2. เล,อกำใช้ ค��สถ�ตั�ท�*ถ!กำตั องและเหม�ะสมในกำ�รทดสอบสมมตั�ฐ�น
3. กำ��หนดค��ว�กำฤตั ผ! ว�จั�ยตั องกำ��หนดระด�บน�ยส��ค�ญ พ�จั�รณ์� ประกำอบค��สถ�ตั� ด�งน�+
Page 205
กำ. ถ �ทดสอบแบบ 2 ท�ง โดยให ค��สถ�ตั� Z ท�*ระด�บน�ยส��ค�ญ .05 เช้�น
80:
80:
1
0
H
H
ระด�บน�ยส��ค�ญ 0.05 ด�งน�+นพ,+นท�*ใตั โค งปกำตั�ท�*จัะน��ไปห�ค��Z ค,อ 0.975 ค�� Z จั�กำตั�ร�ง ค,อ 1.96 ด�งน�+นค��ว�กำฤตัค,อ96.1
0.950.025 0.025-1.96 1.96
Page 206
ข้. ถ �ทดสอบสมมตั�ฐ�นท�งเด�ยว โดยใช้ ค�� Z ท�*ระด�บน�ยส��ค�ญ 0.05
80:
80:
1
0
H
H
0.05
Z= 1.65
0.095
Page 207
4. กำ��หนดกำฎีกำ�รตั�ดส�นใจั อ�จัเป4นด�งน�+
5. ค��นวณ์ค��สถ�ตั�6. สร�ปผลกำ�รทดสอบ
4.1 ปฏ�เสธี ถ �ค��สถ�ตั�ในกำ�รค��นวณ์ม�กำกำว��ค��ว�กำฤตั ในกำรณ์� ท�*ทดสอบสมมตั�ฐ�นแบบท�งข้ว�ม,อ
0H
4.2 ปฏ�เสธี ถ �ค��สถ�ตั�ท�*ค��นวณ์น อยกำว��ค��ว�กำฤตั ในกำรณ์�ท�* ทดสอบสมมตั�ฐ�นแบบท�งเด�ยวซึ่ �ยม,อ
0H
4.3 ปฏ�เสธี ถ �ค��สถ�ตั�ท�*ค��นวณ์ม�กำกำว��ค��ว�กำฤตัท�*อย!�ท�งข้ว�ม,อ และน อยกำว��ค��ว�กำฤตัท�*อย!�ท�งซึ่ �ยม,อ
0H
0H
Page 208
ตี วิอย�างเร,*องเจัตัคตั�เกำ�*ยวกำ�บว�ทย�ศึ�สตัร"และกำ�รสน�บสน�นข้องผ! ปกำครองน�กำเร�ยนท�*ร �วมท��และไม�ร�วมท��โครงง�นว�ทย�ศึ�สตัร"
วิ ตีถุ%ประสงค์" เพ,*อเปร�ยบเท�ยบเจัตัคตั�เกำ�*ยวกำ�บว�ทย�ศึ�สตัร" และกำ�รสน�บสน�นข้องผ! ปกำครองตั�อกำ�รท��โครงง�นว�ทย�ศึ�สตัร"ระหว��งน�กำเร�ยนช้�+นม�ธียมศึ1กำษ�ตัอนปล�ยท�*ร �วมท��และไม�ร�วมท��โครงง�นว�ทย�ศึ�สตัร"
สมมตั�ฐ�นกำ�รทดลอง น�กำเร�ยนท�*ร �วมท��โครงง�นว�ทย�ศึ�สตัร" ม�เจัตัคตั�เกำ�*ยวกำ�บว�ทย�ศึ�สตัร"และได ร�บกำ�รสน�บสน�นจั�กำผ! ปกำครองตั�อกำ�รท��โครงง�นว�ทย�ศึ�สตัร"แตักำตั��งจั�กำน�กำเร�ยนท�*ไม�ช้�วยท��โครงง�นว�ทย�ศึ�สตัร"
Page 209
การส�ารวิจัค์วิามค์�ดเห)นข้องการส�ารวิจัค์วิามค์�ดเห)นข้องประชาชน ประชาชน ((Poll)Poll)
Page 210
การส�ารวิจัค์วิามค์�ดเห)นข้องการส�ารวิจัค์วิามค์�ดเห)นข้องประชาชน ประชาชน ((Poll)Poll) 1 การส�ารวิจั Survey/poll
น บี,จัด,บี นที่6ก,รวิบีรวิม Survey Research/Sampling Survey2. ค์วิามค์�ดเห)น Opinion การร บีร��[Knowlege]• เร,�องอะไร ที่ ศนค์ตี� [Attitude] ค์วิามเช,�อ[Belief] พิฤตี�กรรม [Practice]3. ประชาชน Population/People Public• ประชากรที่��ศ6กษาประชากรที่��ศ6กษา//สาธีารณชนสาธีารณชน//มหาชนมหาชน• ตี วิอย�างตี วิอย�าง//ค์วิามเห)นตี วิแที่นค์วิามเห)นตี วิแที่น
ประชาชน ประชาชน (Sample)(Sample)
Page 211
ค์วิามหมายข้องโพิลPublic Opinion Polls
1. วิ�ธี�ในการสอบีถุามประชาชนอย�างเป7นระบีบีเพิ,�อ ศ6กษาค์วิามเห)นเก��ยวิก บีเร,�องหร,อประเด)น (issue) ซึ่6�งปกตี�ใช�ตี วิอย�างจัากประชากรที่��ศ6กษา
A Modern Dictionary A Modern Dictionary of Sociology (1969) of Sociology (1969) โดย โดย TheodorsonTheodorson
Page 212
2. Public Opinion Poll
การส�ารวิจั (Surveys ) ซึ่6�งสอบีถุามค์วิามเห)นข้องสาธีารณชนเก��ยวิก บีเร,�องบีางเร,�อง
- The Practioc of Social Rescarch, 1986- Methods of Social Rescarch, 1987
Page 213
An Introduction
1977To Surveys, and Data Analyic,
Survey Research
เป7นเค์ร,�องม,อในการรวิบีรวิมข้�าวิสารตี�าง ๆ ที่��ได�จัากการส�ารวิจั(Survey Research) 3 ประเภที่
1. ค์วิามเห)น Opinions ตี 3งค์�าถุาม
2. ที่ ศนค์ตี� (Attitudes )ตี�อเร,�องน 3น
3. ข้�อเที่)จัจัร�ง (Facts ) เก��ยวิก บีบี%ค์ค์ลที่��ส มภาษณ"
Page 214
โพิลเที่�ยม โพิลเที่�ยม ((Pseudo - Polls Straw Polls Junk PollsPseudo - Polls Straw Polls Junk Polls))
ค์วิามเป7นตี วิแที่น สร%ปส��ประชากรที่ 3งหมดไม�ได� (Representativeness)โที่รศ พิที่"/หน งส,อพิ�มพิ"/โที่รที่ ศน"/วิ�ที่ย% (Vote)จั%ดบีกพิร�อง
ค์�าถุามช�3ช�อง (Loadedquestions)การใช�ค์�าไม�เหมาะสม Unfair Questionsค์�าที่��ที่�าให�เข้�าใจัผ�ด (Misleading)
Page 215
มาตีรฐานในการรายงานผลโพิล NCPP (National Council on Poblic Poll)1. 1. ผ��ให�ที่%นสน บีสน%นการส�ารวิจัผ��ให�ที่%นสน บีสน%นการส�ารวิจั
2. 2. วิ นเด,อนปB ที่��ส มภาษณ" หร,อ ช�วิงส�ารวิจั วิ นเด,อนปB ที่��ส มภาษณ" หร,อ ช�วิงส�ารวิจั3. 3. วิ�ธี�การที่��จัะให�ได�มาซึ่6�งการส มภาษณ"อย�างไร เช�น วิ�ธี�การที่��จัะให�ได�มาซึ่6�งการส มภาษณ"อย�างไร เช�น ส มภาษณ"โที่รศ พิที่"ส มภาษณ"โที่รศ พิที่",,ไปรษณ�ย"ไปรษณ�ย", , อ�นเตีอร"เน)ตีอ�นเตีอร"เน)ตี
4. 4. ประชากรที่��ศ6กษาประชากรที่��ศ6กษา5. 5. ข้นาดตี วิอย�างจั�านวินแบีบีสอบีถุามที่��ส�งออกและตีอบีกล บีข้นาดตี วิอย�างจั�านวินแบีบีสอบีถุามที่��ส�งออกและตีอบีกล บี
6. 6. ข้นาดและการพิรรณากล%�มตี วิอย�างย�อยวิ�าค์�าตีอบีใด ข้นาดและการพิรรณากล%�มตี วิอย�างย�อยวิ�าค์�าตีอบีใด มาจัากกล%�มใจัมาจัากกล%�มใจั
7. 7. ค์�าถุามจัร�งที่��ใช�ถุามในเร,�องที่��รายงานค์�าถุามจัร�งที่��ใช�ถุามในเร,�องที่��รายงาน
Page 216
โพิล Poll Media (ส,�อ)
People ประชาชน
9. 9. ระบี%อ ตีราค์วิามค์ลาดเค์ล,�อนข้องการส%�ม ระบี%อ ตีราค์วิามค์ลาดเค์ล,�อนข้องการส%�ม ((Sampling ErrorSampling Error)) และระด บีค์วิามเช,�อม 3น และระด บีค์วิามเช,�อม 3น ((Confidence IntervalConfidence Interval))
8. ร�อยละที่��ข้�อสร%ปเป7นฐาน
Page 217
อ ตีราการตีอบีResponsed Rate
RR = R x 100nโดยการส มภาษณ"
RR = 85 ค์�อยข้�างด�, ด� , ด�มาก70 - 84 ไม�เลวิ แตี�ไม�ด�น ก
50 - 69 ไม�ค์�อยด� โอกาสเก�ดอค์ตี�ได�50 ไม�ไหวิแน� ไม�ค์วิรวิ�เค์ราะห"ไม�ค์วิรรายงานผลโพิลโดยส มภาษณ" โพิลโดยส มภาษณ" RR 80%RR 80%
Page 218
อ ตีราการตีอบีกล บี โดยที่างไปรษณ�ย"อ ตีราการตีอบีกล บี โดยที่างไปรษณ�ย" Mail - ReponsedMail - Reponsed
50 50 เพิ�ยงพิอตี�อการวิ�เค์ราะห"เพิ�ยงพิอตี�อการวิ�เค์ราะห" 6060 ด�ด�
70 70 ด�มากด�มาก ** ** โพิลที่างไปรษณ�ย" ค์วิรม�อ ตีราการตีอบีร�อยละ โพิลที่างไปรษณ�ย" ค์วิรม�อ ตีราการตีอบีร�อยละ 5050
อ ตีราค์วิามส มบี�รณ"ข้องการตีอบีข้�อค์วิามบีางข้�อที่�� Sensitive ?? ไม�ตีอบี ไม�ออกค์วิามค์�ดเห)น
Page 219
ข้�อค์วิามที่��ไม�ม�การตีอบี Non Response
อาจัจัะเป7นเร,�องที่��ไม�ม�ค์วิามเห)นจัร�ง ๆ ไม�ตีอบี ไม�ใช� ไม�แน�ใจั, ไม�ที่ราบี, ย งไม�ตี ดส�นใจั
ล,มบี นที่6ก (Mising data)จัะจั ดการอย�างไร
- รายงานโดยประมวิลผลวิ�าจั�านวิน (ร�อยละเที่�าไร�)- ถุ�าม�อ ตีราส�งเก�นร�อยละ 20 อาจัจัะม�ป*ญหาก บีผลการส�ารวิจั
Page 220
อ ตีราการตีอบีเน,3อหาค์รบีถุ�วินส มบี�รณ"อ ตีราการตีอบีเน,3อหาค์รบีถุ�วินส มบี�รณ" Completion Rate : CRCompletion Rate : CR
CR = จั�านวินตี วิอย�าง - จั�านวินแบีบีที่��ไม�สมบี�รณ"/ไม�ตีอบีจั�านวินตี วิอย�าง
90% เช,�อถุ,อได�/ด� - 60 89% การยอมร บีน�อย
Page 221
• โพิลและประชาธี�ปไตียโพิลและประชาธี�ปไตีย• โพิลให�โอกาศก บีประชาชนได�ม�ส�วินร�วิมแสดงโพิลให�โอกาศก บีประชาชนได�ม�ส�วินร�วิมแสดง ค์วิามเห)นค์วิามเห)น• โพิลให�โอกาสประชาชนได�เร�ยนร��จัากค์นอ,�นๆโพิลให�โอกาสประชาชนได�เร�ยนร��จัากค์นอ,�นๆ
Page 222
1. Benchmark Survey (BS)
- - ตี�องการร��ภาพิล กษณ"ข้องผ��สม ค์ร ตีามล กษณะ ตี�องการร��ภาพิล กษณ"ข้องผ��สม ค์ร ตีามล กษณะ ข้องผ��ม�ส�ที่ธี�Fเล,อกตี 3งข้องผ��ม�ส�ที่ธี�Fเล,อกตี 3ง
- - เปร�ยบีเที่�ยบีค์��แข้�งเปร�ยบีเที่�ยบีค์��แข้�ง- - ประเม�นค์วิามก�าวิหน�าผลการรณรงค์"หาเส�ยงประเม�นค์วิามก�าวิหน�าผลการรณรงค์"หาเส�ยง
Page 223
2. Trial Heat Surveys
ตี�องการร��วิ�าจัะเล,อกใค์รใจับีรรดาผ��สม ค์รหร,อที่�านจัะลงค์ะแนนให�ใค์ร
ประเม�นค์ะแนนรณรงค์"
Page 224
3. 3. Tracking PollsTracking Polls
- (TP) - (TP) ที่�าโพิลชน�ดวิ นตี�อวิ นใกล� ๆ ที่�าโพิลชน�ดวิ นตี�อวิ นใกล� ๆ วิ นเล,อกตี 3ง วิ นเล,อกตี 3ง - 37- 37 วิ นวิ น - - ตี�ดตีามอย�างกระช นช�ดตี�ดตีามอย�างกระช นช�ดเพิ,�อการรณรงค์"เพิ,�อการรณรงค์"
Page 225
4. 4. Cross - Section (CS)Cross - Section (CS)
หร,อ หร,อ Panel Survey PSPanel Survey PSPSPS - - ตี�ดตีามส มภาษณ"ค์นเด�มมากกวิ�า ตี�ดตีามส มภาษณ"ค์นเด�มมากกวิ�า 2 2 ค์ร 3งค์ร 3ง
วิ�าเปล��ยนแปลงหร,อไม�วิ�าเปล��ยนแปลงหร,อไม�- - ที่�าเวิลาใด เวิลาหน6�ง อาจัจัะที่�าหลายค์ร 3งได� ที่�าเวิลาใด เวิลาหน6�ง อาจัจัะที่�าหลายค์ร 3งได�
Page 226
5. (Focus Groups Survey)
FG = FG = ในที่างการเที่ค์น�ค์ไม�ในที่างการเที่ค์น�ค์ไม�ใช�โพิลใช�โพิล = = เป7นการสอบีถุามเป7นการสอบีถุามค์นที่��เป7น ค์นที่��เป7น KI KI ประมาณ ประมาณ - 10 - 10
20 20 ค์นค์น = = ค์าดเดาวิ�าใค์รค์วิรค์าดเดาวิ�าใค์รค์วิรจัะได�ร บีการเล,อกตี 3งจัะได�ร บีการเล,อกตี 3ง
Page 227
6. 6. Deliberation Opinion Polls (DOP)Deliberation Opinion Polls (DOP) รวิม รวิม FG FG และส�ารวิจัและส�ารวิจั
เอาตี วิแที่นมารวิมก นเอาตี วิแที่นมารวิมก น
ให�ข้�อม�ลข้�าวิสารให�ข้�อม�ลข้�าวิสาร
เป9ดโอกาสให�อภ�ปรายเป9ดโอกาสให�อภ�ปราย//ซึ่ กถุามซึ่ กถุาม
ส�ารวิจัค์วิามค์�ดเห)นตี�อป*ญหาส�ารวิจัค์วิามค์�ดเห)นตี�อป*ญหา
Page 228
7. Exit Polls (EP)ส มภาษณ"ผ��ใช�ส�ที่ธี�Fเล,อกตี 3งแล�วิ ณ ที่างออก(Exit ) จัากค์�หาที่�านลงค์ะแนน หร,อ เล,อกใค์รหร,อเล,อกเบีอร"ใหน ? พิรรค์ใด ?
วิ ดจัากผ��ลงค์ะแนน จัร�ง ถุ�าตีอบีจัร�งที่�าเร)วิ 1 - 3 ช �วิโมง จัะที่ายผลการเล,อกตี 3งได�เร)วิ / ถุ�กตี�อง หล งป9ดห�บีเล,อกตี 3ง
Page 229
การจั ดที่�าโพิลเป7นวิ�ธี�การที่างสถุ�ตี�และวิ�จั ยเช�งส�ารวิจั
1. ก�าหนดกล%�มตี วิอย�าง และ วิ�ธี�การเล,อกตี วิอย�าง2. ก�าหนดวิ�ธี�การเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ล
3. สร�างแบีบีสอบีถุามหร,อแบีบีส มภาษณ"ในการเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ล4. เก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ลจัากตี วิอย�างตีามแผนที่��ก�าหนดไวิ�5. ประมวิลผลและวิ�เค์ราะห"ข้�อม�ลที่��ได�ค์วิามถุ��/ ร�อยละ (ตีามประเด)นข้�อถุาม)
6. การสร%ปผลและรายงานผลการศ6กษา
Page 230
โค์รงสร�างข้องการที่�าโพิล (The Structure of Poll Conducting)ม�องค์"ประกอบี 3 ส�วิน
ส�วินที่�� 1 การจั ดเตีร�ยม วิางแผน และก�าหนดกรอบีการที่�างาน ด งน�3- การมองสถุานการณ" สภาพิป*ญหา หร,อปรากฎีการณ"ที่างส งค์ม- ก�าหนดห วิข้�อเร,�อง- ระบี%ที่��มาและค์วิามส�าค์ ญข้องโค์รงการ- วิ ตีถุ%ประสงค์"ข้องการที่�าส�ารวิจั- ประโยชน"ที่��ค์าดวิ�าจัะได�ร บี- ข้อบีเข้ตีข้องการส�ารวิจั- การที่บีที่วินที่ฤษฎี� วิรรณกรรม (บีางโค์รงการ)- การตี 3งสมมตี�ฐานในการวิ�จั ย (บีางโค์รงการ)- กรอบีแนวิค์�ดที่��ใช�ในการส�ารวิจั
Page 231
ส�วินที่�� 2 ระเบี�ยบีวิ�ธี�การที่�าโพิล ประกอบีด�วิย- - การก�าหนดประชากรเป�าหมาย การก�าหนดประชากรเป�าหมาย- - ข้นาดตี วิอย�างข้นาดตี วิอย�าง- - เที่ค์น�ค์การส%�มตี วิอย�างเที่ค์น�ค์การส%�มตี วิอย�าง- - การสร�างเค์ร,�องม,อวิ ดการสร�างเค์ร,�องม,อวิ ด- - การเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ลการเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ล- - กรรมวิ�ธี�ที่างข้�อม�ลอ นประกอบีด�วิย การตีรวิจัสอบี กรรมวิ�ธี�ที่างข้�อม�ลอ นประกอบีด�วิย การตีรวิจัสอบี การลงรห ส การป�อนข้�อม�ล การลงรห ส การป�อนข้�อม�ล- - การประมวิลผล และการเล,อกใช� สถุ�ตี�ที่��เหมาะสม การประมวิลผล และการเล,อกใช� สถุ�ตี�ที่��เหมาะสม
Page 232
ส�วินที่�� 3 ผลการส�ารวิจั ประกอบีด�วิย
- การวิ�เค์ราะห"และเข้�ยนผลสร%ปการส�ารวิจั - การอภ�ปรายผล (ถุ�าม�)- ข้�อม�ลที่ �วิไปข้องน กที่�าโพิล
Page 233
1. ค์%ณภาพิข้องน กที่�าโพิลค์วิรม�ค์วิามเช��ยวิชาญและผ�านการเร�ยนร�� หล กส�ตีรการที่�าโพิล
2. ระเบี�ยบีวิ�ธี�การที่�าโพิลที่��ใช� หมายถุ6ง การส%�มตี วิอย�างที่��เป7นตี วิแที่น ค์นที่ �วิ ๆ ไปได� ข้นาดตี วิอย�างที่��เหมาะสม และแบีบีสอบีถุามที่��เช,�อถุ,อ ได�วิ�าให�ข้�อม�ลที่��ม�ค์%ณภาพิไม�เอนเอ�ยงหร,อช�3น�าให�เก�ดประโยชน"ตี�อ ฝึKายหน6�งฝึKายใด3. งบีประมาณสน บีสน%นโค์รงการ ตี�องไม�เก��ยวิข้�องก บีพิรรค์การเม,อง หร,อ กล%�มการเม,อง4. ค์ณะน กที่�าโพิล ที่�มวิ�จั ย รวิมไปถุ6งพิน กงานเก)บีรวิบีรวิมข้�อม�ล ตี�องไม�ย%�งเก��ยวิก บีกล%�มการเม,องหร,อพิรรค์การเม,องใด ๆ
Page 234
1. 1. ใค์รให�งบีประมาณสน บีสน%นใค์รให�งบีประมาณสน บีสน%น โค์รงการน 3น ๆ โค์รงการน 3น ๆ 2. 2. การส%�มตี วิอย�างที่�าอย�างไร น กที่�าการส%�มตี วิอย�างที่�าอย�างไร น กที่�า
โพิลตี�องช�3แจังได�โพิลตี�องช�3แจังได�3. 3. อออบีแบีบีสอบีถุามอย�างไร ม�การ อออบีแบีบีสอบีถุามอย�างไร ม�การที่ดสอบีค์วิามน�าเช,�อถุ,อที่ดสอบีค์วิามน�าเช,�อถุ,อ ข้องแบีบีสอบีถุามก�อนหร,อไม�ข้องแบีบีสอบีถุามก�อนหร,อไม�4. 4. ใช�วิ�ธี�อะไรเก)บีข้�อม�ล การส มภาษณ" ใช�วิ�ธี�อะไรเก)บีข้�อม�ล การส มภาษณ" , , การส�งที่างไปรษณ�ย"การส�งที่างไปรษณ�ย",,
หร,อการโที่รศ พิที่"หร,อการโที่รศ พิที่"5. 5. เก)บีข้�อม�ลช�วิงเวิลาใด เพิราะช�วิง เก)บีข้�อม�ลช�วิงเวิลาใด เพิราะช�วิงเวิลาอาจัส�งผลตี�อที่ ศนค์ตี�เวิลาอาจัส�งผลตี�อที่ ศนค์ตี� พิฤตี�กรรมและค์วิามเห)นข้องพิฤตี�กรรมและค์วิามเห)นข้องประชาชนประชาชน6. 6. การวิ�เค์ราะห"และสร%ปผล ที่�าก น การวิ�เค์ราะห"และสร%ปผล ที่�าก นอย�างไรอย�างไร
Page 235
1. น กที่�าโพิลตี�องด�าเน�นการอย�างระม ดระวิ งในการพิ ฒนาการ ออกแบีบีที่�าโพิลและเค์ร,�องม,อตี�าง ๆ โดยด�าเน�นการที่%ก ข้ 3นตีอนอย�างสมเหตี%สมผลเพิ,�อร บีประก นค์วิามน�าเช,�อถุ,อ และค์วิามเที่��ยงตีรงในผลโพิลน 3น
2. น กที่�าโพิลไม�ค์วิรเล,อกใช�เค์ร,�องม,อในการวิ�จั ยและวิ�ธี� วิ�เค์ราะห"โดยเช,�อวิ�าค์วิามสามารถุข้องเค์ร,�องม,อและ วิ�ธี�วิ�เค์ราะห"น 3นน�าไปส��การสร%ปผลส�ารวิจัที่��ช�3ประโยชน" แก�ฝึKายใดอย�างม�อค์ตี�
Page 236
3. น กที่�าโพิลค์วิรให�ค์�าแนะน�าด�วิยหล กวิ�ชาการอย�างม,ออาช�พิ โดยเหมาะสมก บีข้อบีเข้ตีข้องป*ญหาในการวิ�จั ยที่��ตีน ด�าเน�นการอย��เที่�าน 3น
4. น กที่�าโพิลไม�ค์วิรตี�ค์วิามหมายผลส�ารวิจัเก�นข้อบีเข้ตี ไปจัากข้�อม�ลที่��ม�อย��ในโค์รงการวิ�จั ยน 3น
5. น กที่�าโพิลค์วิรบีรรยายอย�างช ดเจันเก��ยวิก บีระเบี�ยบีวิ�ธี�การ ที่�าโพิลและผลส�ารวิจัที่��ค์�นพิบีในรายละเอ�ยดที่��เหมาะสม โดยไม�น�าเสนอผลส�ารวิจัที่��ลดที่อนส�ที่ธี�เสร�ภาพิส�วินบี%ค์ค์ล ข้องเอกชน
ตี�อ
Page 238
Game of Objectives and Empowering
1. กร%ณาใช�ค์วิามสามารถุข้องที่�านปฏิ�บี ตี�งานช�3นน�3ให�ส�าเร)จัล%ล�วิงไปด�วิยด� และม�ประส�ที่ธี�ภาพิ2. งานช�3นน�3ที่��ที่�านตี�องปฏิ�บี ตี� ค์,อ การบีวิกส ญล กษณ"ตี�าง ๆ ( เลข้หล กร�อย 4 จั�านวิน) ข้�างล�างน�3 ส ญล กษณ"ตี�าง ๆ น 3นม�ค์�าเป7นตี วิเลข้ตี 3งแตี� 1 ถุ6ง 9 3. เค์ร,�องหมาย + ก)ค์,อ บีวิก (รวิม) ไม�ม�ค์�าที่างตี วิเลข้4. ส ญล กษณ"ที่��ม�ล กษณะเหม,อนก นในป*ญหาค์ณ�ตีศาสตีร"น�3 ม�ค์�าตี วิเลข้ตี วิเด�มเสมอ (ค์งที่��) 5. ผลล พิธี"ที่��ได�จัากการบีวิกส ญล กษณ"ตี�าง ๆ ปรากฏิอย��ใตี�เส�นที่6บี
Page 239
ให�ใช�เวิลาที่�า 10 – 15 นาที่�
666
+6 6
2 6 9 6