Top Banner
My trip at Silk RoadXinJiang area, China. Turpan Kuche Kashgar Urumqi Dunhuang By Nunit and The Gang
21

Silk Road in XinJiang

Mar 22, 2016

Download

Documents

Nu Nunit

Trip in Xinjiang, China
Welcome message from author
This document is posted to help you gain knowledge. Please leave a comment to let me know what you think about it! Share it to your friends and learn new things together.
Transcript
Page 1: Silk Road in XinJiang

My trip at Silk Road… XinJiang area, China.

Turpan

Kuche

Kashgar

Urumqi

Dunhuang

By

Nunit and The Gang

Page 2: Silk Road in XinJiang

ซินเจียง ฉบับกระเปา เสนทางสายแพรไหม (3-17 Apr 10) Day 1 Sat 03/04/10 Bangkok-Guangzhou-Urumqi 08:40-11:50 and 15:20-20:40 Day 2 Sun 04/04/10 Urumqi – Turpan : (by bus or train), หมูบานชาวอุยกุร เมืองโบราณเจียวเหอ, เดินตลาด Day 3 Mon 05/04/10 Turpan : ภูเขาแดง หมูบาน Tuyu Valley, เมืองโบราณเกาชาง, ถ้ําพระสหัสสสพุทธเบซิคลิค, ภูเขา

เพลิงไซอ๋ิว, มัสยิดเออหมินมิเนเรต Day 4 Tru 06/04/10 Turpan: ระบบชลประทานคาเรส ขึ้นรถไฟไป Kuche Day 5 Wed 07/04/10 Kuche : Yadan landscape , เทียนซานเสินมี่ตาเสียกู หรือ ภูผาฟา, หมูถาพระสหัสพุทธคีซิล,

ขี้นรถไฟเท่ียวดึกไป Kashgar Day 6 Thu 08/04/10 Kashgar : เดินเมืองเกา old town Day 7 Fri 09/04/10 Kashgar : Karakul Lake และหมูบานแถวนั้น Day 8 Sat 10/04/10 Kashgar : กลับจาก Karakul Lake, Id Kah Mosque และเมืองเกา Day 9 Sun 11/04/10 Kashgar : Sunday Animal Market, Apak Hoja Mausoleum Day 10 Mon 12/04/10 Kashgar – Urumqi: ไฟลทดีเลย เพราะพายุทราย Day 11 Tue 13/04/10 Urumqi: Heaven Lake, night train to Dunhuang Day 12 Wed 14/04/10 Dunhuang: Spring Moon Lake หรือ ทะเลทรายหมิงซาซาน ทะเลสาบพระจันทรเส้ียว Day 13 Thu 15/04/10 Dunhuang: ถามอเกาคุน night bus กลับ Urumqi Day 14 Fri 16/04/10 Urumqi: easy going, shopping Day 15 Sat 17/04/10 Urumqi-Guangzhou-BKK

Page 3: Silk Road in XinJiang

ทริปทางสายไหมนี้ ไดแรงบันดาลใจจาก “โกบี” ของโสภาค สุวรรณ อยากเห็นทะเลสาบพระจันทรเส้ียวแหงเมืองตุนหวง อยากเห็นตนปอปลารริมทะเลทราย....

อีกแรงบันดาลใจคือ ทะเลสาบคาลาคูล ไดเห็นภาพทะเลสาบคาลาคูล เม่ือป 2008 ซ่ึงขณะน้ันกําลังเหนื่อยลากับการงานอยางถึงท่ีสุด เพราะหนวยผลิตท่ีเราดูแลตองหยุดเดินเคร่ืองฉุกเฉิน ตองแกปญหารายวัน ทํางานทุกวันเชายันดึกอยูสามเดือน...ชวงท่ีเหนื่อยลาถึงท่ีสุด แวบมาเปด TKT พอเห็นภาพสะทอนของภูเขาทรายจากทะเลสาบคาลาคูลของคุณตอมนกปา โอโห สวยมาก..ความเหนื่อยลาหายไป ความรูสึกอ่ิมเอม ตื้นตัน ว่ิงเขามา กําลังใจในการทํางานกลับขึ้นมาก ...ก็เลยตองไปใหเห็นดวยตาตัวเองซะหนอย ใหสมกับท่ีขึ้นช่ือวาเปนคนรักภูเขา

การวางแผนการเดินทาง 15 วัน

เนื่องจากมีท่ีอยากไปเยอะ เร่ิมแรก อยากเร่ิมนับหน่ึงกันตั้งแตซีอาน มาหลันโจว ตุนหวง ทูรูฟาน อุรุมชี คาสือ ออกปากีสถาน แถมยังอยากไปซินเจียงทางเหนือ รวมท้ังไปเสนทางสายไหมท่ีผากลางทะเลทรายทาคลามากัน

สุดทายดวยเวลาท่ีมีแคสองอาทิตย และตองการไปดูตลาดคาสัตววันอาทิตยท่ีคาชการ เลยตองตัดบางเมืองออก แลวใชเมืองอุรุมูฉีเปนฐานในการเดินทาง บินกรุงเทพ-กวางเจา-อุรุมูฉี ไปทูรูฟาน วนลงใตไปคูเชอร คาชการ โดยรถไฟ จากนั้นเชารถไปทะเลสาบคาลาคูล กอนบินกลับมาอูรูมูฉี เท่ียวทะเลสาบเทียนฉือ แลวนั่งรถไฟเท่ียวดึกไปตุนหวง แลวน่ังรถบัสกลับมาอุรุมฉี กอนบินกลับเมืองไทย....รวมเวลาสองอาทิตย....

หลังจากกลับมาแลว..คงไดไปกันใหมอีกหลายรอบ เพราะซินเจียง ยังมีอะไรรอใหนักเดินทางอยางเราไปคนหาอีกเยอะ...

วันแรก กรุงเทพ กวางเจา อุรุมูฉี

วันนี้เดินทางยาวนานมาก ออกจากบานต้ังแตตีหากวา ถึงอุรุมูฉีตอนสามทุม ใชสายการบิน China Southern Airline จากกรุงเทพ กวางเจา กอนตอไปอุรุมูฉี เครื่องบินโอเค ราคาสมเหตุสมผล

สนามบินกวางเจาท่ีไปทรานซิสใหญมาก แถมระบบรักษาความปลอดภัยท่ีสนามบินของจีนก็เขมงวดดีมาก อยางเชนกระเปาท่ีจะเอาออกไปได ตองเอาบารโคดท่ีสายการบินแปะใหไวมาแสดงวาตรงกับบารโคดท่ีติดท่ีกระเปา ปองกันการหยิบกระเปาผิด...

ตอนขากลับ ท่ีสนามบินอุรุมูฉี เพ่ือนเราหอมีดท่ีเปนของท่ีระลึกเก็บไวในกระเปาท่ีโหลดลงเครื่อง หอของน้ันมีรูปรางคลาย ๆ ปน หลังจากเช็คอินไปแลว กระเปาเดินทางจะไปผานเคร่ืองสแกน ในขณะท่ีผูโดยสารอยางเรา ๆ ก็เดินผานดานตรวจคนเขาเมืองกันตามปกติ แตพอผานจุดเช็ค กอนเขาในเกท หลังจากเจาหนาสแกนบารโคดท่ีบอรดดิ้งพาสแลว ก็เรียกเพ่ือนเราเอาไว เพราะมีการแจงเตือนในระบบ ประมาณวามีวัตถุตองสงสัยในกระเปา จากน้ันเจาหนาท่ีก็ใหเจาของกระเปามาดูภาพสแกนท่ีกระเปาวาขางในคืออะไร แลวคอยปลอยออกมา...ผานสนามบินนี้มาแลว รูสึกวาระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบินในจีนเขมงวดดีจริง ๆ...

มาตอวันแรกกัน...ท่ีสนามบินอุรุมูฉีมีรถบัสเขาเมือง (10 Y ตอคน) โดยรถจะไปสงตามโรงแรมตาง ๆ โดยจะสุดสายท่ีสถานีรถไฟ พวกเราไมไดจองโรงแรมไป กะวาจะไปพักกันท่ีโรงแรมหนาท่ีสถานีรถไฟ เลยลงสุดทาง...พอลงจากรถแลว...บร๊ือออ หนาว อากาศตํ่ากวาสิบองศา...เมืองดูเงียบ ๆ ไมคอยมีคน (ก็ใครเคาจะมาเดินเผนพลานกันละ ออกจะหนาววว)....กวาพวกเราจะหาโรงแรมท่ีพักได ก็ผานไปหนึ่งชั่วโมง...ท้ัง ๆ ท่ีจริงแลว โรงแรมก็อยูหนาสถานีรถไฟนั่นแหละ แตวามีการเปลี่ยนชื่อเสียงไปจากท่ีเขียนไวในไกดบุค ก็เลยหากันไมเจอ...

คืนน้ีพักกันท่ี: YAOUHOTEL คาหองคนละ 50 Y มีหองสองเตียง หองสามเตียง หองน้ําสะอาด ออ ราคาหองเปนราคาโลวซีซันนะจะ...เพราะหลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตยราคาหองเพ่ิมขี้นเปนคนละ 60 Y โรงแรมในจีนแถบนี้ มีประกันคาเสียหายหองทุกท่ี ตองวางเงินคาประกัน 50-100 Y ตอหองไวทุกโรงแรม

Page 4: Silk Road in XinJiang

ท่ีอุรุมูฉี แถว ๆ สถานีรถไฟมีโรงแรมเยอะ แตมีโรงแรมนี้โรงแรมเดียวท่ีรับนักทองเท่ียวตางชาติ นอกนั้นพอเราเขาไปถาม เคาไมใหเขาพัก บอกวาตางชาติพักไมได ซ่ึงก็เปนเชนเดียวกับหลาย ๆ เมืองในเขตซินเจียง เชนท่ีคารการ ท่ีจํากัดใหนักทองเท่ียวพักในโรงแรมท่ีกําหนดไวเทานั้น

อาหารเย็นม้ือแรกในซินเจียง ก็หาทานกันแถว ๆ สถานีรถไฟนั่นแหละ เน่ืองจากดีกแลว

บทเรียนของการเดินทางในวันแรกของเราคือ...การเดินทางขึ้นอยูกับใจของเรา จะสุข ทุกข สนุกสนาน เบ่ือ เซ็ง (ท่ีตองรอนาน ๆ ) ก็อยูท่ีใจเราเองเทานั้น...เหมือนชีวิตคนเรา จะสุข ทุกข ก็อยูท่ีใจเราคิด...

วันท่ีสอง Urumqi – Turpan : train), หมูบานชาวอุยกุร เมืองโบราณเจียวเหอ, เดินตลาด

เราเร่ิมโปรแกรมเดินทางจากเมืองทูรูฟาน โดยจุดเดนท่ีพวกเราอยากดูคือเมืองเกาเกาชาง ระบบน้ําใตดิน หมูบานชาวอุยกูร

วิธีการไปเมืองทูรูฟานจากอุรุมูฉี คือ นั่งรถไปชั้นสาม hard seat (24 Y ตอคน) (Train no.K544) ประมาณสองชั่วโมง ไปลงท่ีเมือง Daheyan ซ่ึงหางจากทูรูฟานประมาณหนึ่งชั่วโมง จากน้ันนั่งรถประจําทางจาก Daheyan มาทูรูฟาน (7.5 Y ตอคน)

ท่ีซ้ือตัวของสถานีรถไฟอุรุมูฉี อยูแยกตางหากจากทางเขาชานชาลารถไฟ กวาจะหาทางเขากันเจอก็หลงกันพอสมควร ทางเขามีการสแกนกระเปาอยางเขมงวด หามนํากระเปามา

วางกอง ๆ กันไว ตองถือเทาน้ัน มีการตรวจบัตรประชาชน แตพอเจาหนาท่ีเห็นเราเปนนักทองเท่ียวก็ปลอยผาน...ความเขมงวดนี้นาจะมาจากสถานการณทางการเมืองท่ีอึมครึมอยูตั้งแตปท่ีแลว

อินเตอรเน็ตในเขตซินเจียง ถูกตัดหมดไมสามารถเขาเว็บตางประเทศได เขาไดแตเว็บจีน ชวงท่ีเราไปเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก...ซ่ึงก็ถือวาดี...จะไดไมตองกังวลเร่ืองงาน 555....

รถไฟจากอุรุมูฉีไปทูรูฟานมีเยอะมาก และไมตองหวงวาจะไมมีท่ีนั่ง เพราะอุรุมูฉีเปนเมืองตนทางและปลายทางของรถไฟในเขตซินเจียง ออกจากอุรุมูฉีมาสักชั่วโมง เราจะเห็นทุงกังหันระยะทางยาวเปนหลายสิบกิโล เปนการนําพลังงานลมมาเปนพลังงานไฟฟา จีนทันสมัยและรูจักใชทรัพยากรท่ีมีอยูใหเปนประโยชนนะ ...บานเรายังไมคอยไดใชพลังงานธรรมชาติอยางแสงแดด ลม พลังนํ้า ท่ีเรามีอยูอยางมากมายมาใชใหเกิดประโยชนเลย....ย่ิงวันท่ีเราไปดูระบบน้ําใตดินของทูรูฟานเราย่ิงท่ึง เพราะคนเราชางคิดหาวิธีเอาชนะธรรมชาติเพื่อใหตัวเองอยูรอดไดในทะเลทรายอันแหงแลงได...

นอกจากทุงกังหันแลว ระหวางทางยังมีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดใหมมากมาย มีสวนองุนกลางทะเลทราย (ชวงท่ีไปยังไม

Page 5: Silk Road in XinJiang

ผลิใบออน) ทะเลทรายสิสันสดใส และตนปอปลาร หรือตนไปหยางท่ียังไมผลิใบ

วิวท่ีเราประหลาดใจและชอบมากคือวิวท่ีเหมือนโลกพระจันทรระหวางเมือง Daheyan ไปทูรูฟาน เมือง Daheyan เปนแคเมืองเล็กมาก ๆ ตั้งอยูกลางทะเลทรายท่ีเต็มไปดวยกอนหิน กอนกรวด ใหญ ๆ มีแมน้ําแหง ๆ ไหลผาน ดูแลวเมืองบนโลกพระจันทรเลย....555 ...แตอยูบนโลกพระจันทรในทะเลทรายแบบนี้ อากาศหนาวนะคะ อยาประมาทไป อุณหภูมิต่ําวาสิบองศา (เราไปชวงเมษายน)....

ไปถึงสถานีรถบัสท่ีทูรูฟาน เดินวนหาโรงแรมตามหนังสือโลกเหงา หากันไมเจอ...สุดทายก็ไดความชวยเหลือจากเจาหนาท่ีแถว ๆ น้ัน พาเดินทะลุดานหลังของสถานีรถบัสออกไปซักแคไมถึงรอยเมตร ก็ไดโรงแรมดี หองดี หองน้ําสะอาด ราคาไมแพง (30 Y ตอคน)

ตอนบายพวกเรานั่งรถบัสสาย 101 ท่ีหนาโรงแรม (1 Y ตอคน) ไปลงสุดทาง แลวตอรถลา (จําราคาไมได) ไปลงท่ีพิพิธภัณฑอุยกูร Uygur Ancient Village, (คาเขาชม ชวง low season จาก 35 เหลือ 17.5 Y ตอคน) ขางในแสดงวิถีชิวิตของชาวอุยกูร มีเส้ือผาโบราณ หุนจําลองการตากองุน การทําเสนหมี่ การสรางบานของชาวอุยกูร...ตนทอในสวนหลังพิพิธภัณทกําลังออกดอกสีชมพูจาง ๆ....เหมือนเดินในญี่ปุนมากกวาอยูในทะเลทรายเลยนะเนี่ย...

จากหมูบาน เดินออกมาประมาณ 15 นาที ผานไรองุนตามทาง ก็ถึงเมืองโบราณเจียวเหอ จุดหมายหลักของเราในวันนี้ (คาตั๋ว low season 36 Y ตอคน)

เมืองโบราณเจียวเหอ (Ancient City of Jiaohe) เปนเมืองท่ีสรางดวยดิน อายุเกาแกประมาณสองพันกวาป เปนเมืองทหาร มีชัยภูมิตั้งอยูบนเดินเขาโอบลอมดวยแมน้ําโดยรอบ ถามองลงมาจากดานบนเมืองเจียวเหอจะมีรูปรางคลายใบหลิว

ขางในเมืองโบราณแบงเปนสวน ๆ มี สวนปกครอง สวนวัด สวนบานเรือน ลักษณะเดนของเมืองโบราณแหงนึ้คือมีประตู

ทางเขาสองแหง คือทางดานทิศใต กับทิศตะวันออก นอกนั้นโอบลอมดวยแมน้ํา ตัวเมืองต้ังอยูบนท่ีสูง จีงมีหนาผาสูงชันก้ันระหวางเมืองกับแมน้ํา และส่ิงปลูกสรางในเมืองทําดวยดินท้ังหมด....เวลาเดินเขาไปในเมือง เราตองอานคูมือและจินตนาการพอสมควรวา ตรงไหนคือสวนปกครอง สวนบานเรือน ท่ีนาท่ึงคือดินท่ีตามตัวบานยังอยูในสภาพดีมาก นาจะเปนเพราะสภาพอากาศท่ีแหงจัดของท่ีนี่ทําใหดินไมละลาย...บานดินอยูไดเปนพัน ๆ ปเลยนะเนี่ย....แถมคนโบราณยังสามารถใชประโยชนจากทรัพยากรท่ีมีอยู

โดยรวมแลวเมืองโบราณแหงนี้ยังอยูในสภาพดี ดีกวาเมืองเกาเกาชางท่ีเราไปดูอีกวันเสียอีก...

นั่งรถแท็กซ่ีกลับตัวเมือง (30 Y)

ในเมืองทูรูฟาน เต็มไปดวยไรองุน ตอนท่ีเราไปยังไมผลิใบเขียว ๆ ทุกบานจะมีไรองุน โรงตากองุนโดยใชลมธรรมชาติผาน องุนท่ีเมืองทูรูฟานมีชื่อเร่ืองความหวานอรอยมาก เราสงสัยวา ทําไมเมืองกลางทะเลทรายท่ีแหงแลง และแทบไมมีฝนตกเลยแหงนี้ จะเอาน้ําท่ีไหนมาปลูกองุน....เดี๋ยวอีกสองวันไปดูกัน

Page 6: Silk Road in XinJiang

ในเมืองทูรูฟาน จะไมใหคนยืนคุยกันขางถนน เวลาจะตอราคาแทกซ่ีตองขึ้นไปคุยบนรถ หรือไมก็เขาไปคุยกันในโรงแรม... (ไมรูวาเปนเพราะสถานการณทางการเมืองหรือเปลา)...

ตลาดยามเย็นท่ีทูรูฟานมีสีสัน เหมือนตามตางจังหวัดบานเรา แตงฮามีหวานอรอย ผาคลุมผมสีสวย ๆ ราคาไมแพง...ประมาณหกโมงเย็น (เวลาทูรูฟาน) รานรวงก็เร่ิมปดหมดแลว...

สาลี่หอมท่ีเมืองทูรูฟานหอมหวานมาก ราคาไมแพง กิโลละ 8 Y ความหอมหวานของสาล่ีหอมทําใหเราติดใจ ขนาดวาทานกันวันละ 2 กิโลเลยทีเดียว (โดยเฉพาะเรา 555) ตลอดการเดินทางท่ีซินเจียงเราแวะชิมสาลี่หอมของทุกเมือง และลงความเห็นวา ท่ีทูรูฟาน สาลี่หอมอรอยและถูกท่ีสุด...ถึงขนาดหิ้วกลับมาเมืองไทยดวยนะเนี่ย...ยังไมพอ กลับมาเมืองไทยแลว เรายังมาตามหาสาลี่หอมอีกดวย เลยเจอวาท่ี เมืองไทยก็มีการนําเขาสาลี่หอมมาขายตามตลาดใหญ ๆ..ราคาประมาณสองถึงสามเทาของท่ีซินเจียง

วากันวา เมืองคูเออเลอรท่ีอยูทางตอนใตของซินเจียงไดช่ือวามีสาล่ีหอมหวานอรอยท่ีสุด แตเราไมไดมีโอกาสไปชิม....

สวนแตงท่ีหอมหวานท่ีสุดคือแตงฮามี หรือ ฮามีก๋ัว...พวกเราไดชิมกันอยูหลายคร้ัง หอมและหวานจัดจริง ๆ ดวยแหละ...

วันท่ีสาม Turpan : ภูเขาแดง หมูบาน Tuyu Valley, เมืองโบราณเกาชาง, ถ้ําพระสหัสสสพุทธเบซิคลิค, ภูเขาเพลิงไซอ๋ิว, มัสยิดเออหมินมิเนเรต

วันนี้เราเชาแทกซ่ีแบบมินิแวนแบบนั่งได 5-6 คน (ราคาตอรองจาก 380 เหลือ 200 Y) ไปทุกท่ีตามจุดท่ีตกลงกันไว

ตอนเชาแทกซ่ีพาไปทานซาลาเปาน่ึง กับนํ้าขาว อรอยมาก ๆ ปกติเราไมคอยชอบทานซาลาเปาเพราะมีแตแปงเหนียว ๆ ไมมีรส แตซาลาเปาของทุกเมืองในเขตซินเจียงอรอยทุกราน แปงนุม ใสเยอะ ทานแลวไมเอียน ราคาไมแพง อยางมื้อเชานี้ ทานกันหกคน ซาลาเปาเกือบประมาณหาหกเขง น้ําขาวสองสามชามใหญ ราคาแค 10 Y...กลับมาจากจีนคราวน้ี ติดใจซาลาเปาซะแลว...แตหาทานท่ีไหนก็ยังไมอรอยเหมือนท่ีซินเจียง...อิอิ...

Page 7: Silk Road in XinJiang

จากนั้นแทกซ่ีพาไปหมูบานชาวอุยกูรชือ Tuyu Valley (คาเขาชวง Low season จาก 30 เหลือ 15 Y) หมูบานนี้อารมณประมาณหมูบานมาชูเลห กับหมูบานอัพยาเนห ในอิหราน หมูบานนี้อยูบนเนิน มีแมนํ้าสายเล็ก ๆ ไหลผานกลางหมูบาน แนวหมูตนไปหยางและตนทอปลูกอยูริมนํ้า ทอบางตนเร่ิมออกดอกสีชมพูแกมขาวแลว ถาพวกเรามาฤดูใบไมผลิท่ีตนไมใหญ ๆ ริมทางเดินเร่ิมผลิบาน บรรยากาศรอบตัวคงเปนสีเขียวสวยกวานี้อีกเยอะ...บานท่ีนี่ทําจากดินเหนียวสีเนื้อผสมหญาทําเปนบานดิน ขางในบานมีเตียงดิน มัสยิดประจําหมูบานมีหอขานนะหมาดสีเขียว ประตูมัสยิดคงเคยเปนสีฟาสด แตถึงจะเปนสีฟาหมน ๆ ก็ยังสวยและเขากับสีของมัสยิด

ชาวบานท่ีนี่แตงตัวสีสันสดใส เด็กสาว ๆ ผิวขาวแกมแดงตาโต ใสชุดกระโปรงสีแดงสด หรือสีมวงสด และคงคุนเคยกับนักทองเทียวพอสมควร

หลังหมูบานเปนเนินดินสูง เราปนข้ึนไปบนเนินสูง ๆ นั้น ทําใหเห็นหมูบานท้ังหมด รอบ ๆ หมูบานเปนสวนองุนท่ีตอนนี้ยังคงแหงอยู ยังไมผลิใบ...เห็นทีถาจะมาทูรูฟานอีกคงมาชวงฤดูใบไมผลิ คงจะไดเห็นสวนองุนสีเขียว ๆ ตัดกับบานดินสีเนื้อ

เราเดินอยูในหมูบานเกือบสองชั่วโมงจนคนขับรถเร่ิมโมโห เห็นบอกวากลัวเราจะไปเท่ียวท่ีอ่ืนไมทัน...ทํานองนั้น...แตถึงเคาจะเร่ิมโมโหพวกเรา ก็ยังพาพวกเราไปทานบะหม่ีซินเจียงทีแสนอรอย...ซินเจียงมีชื่อเร่ืองบะหมี่ เสนบะหม่ีทําสด ๆ เสนหนานุม ทานกับผักสด อรอยดี...

จุดหมายตอนบายคือเมืองโบราณเกาชาง (คาเขาชม ชวง Low Season จาก 40 เหลือ 36 Y) จากทางเขา เรานั่งรถเทียมมาเขาไป (คนละ 10 Y) ไดขาววาชวงปกติจะมีคนขับ มีคนเลนดนตรีอูยกูรใหฟง และมีเด็กชายนั่งบนรถ ชวงท่ีเราไปเปนชวง low season เลยมีแตคนขับและเด็กนอยผิวขาวขับพาชม รถมาไปส้ินสุดท่ีวัดตาฝอซ่ือ ซ่ึงเปนวัดเกาในพุทธศาสนา เปนวัดท่ีพระถังซําจั๋งเคยจารึกผานมา และเทศนา ในชวงท่ีกําลังเดินทางไปจาริกแสวงธรรมท่ีอินเดีย

เมืองเกาเกาชางผุเกือบหมดแลว ดินเร่ิมจะกลายเปนเนินดินธรรมชาติ จินตนาการไมออกเลยวาสวนไหนเปนสวนปกครอง เปนบานเรือน แตวิวท่ีเราชอบมากคือ จากเมืองเกาเกาชาง เราจะมองเห็นหอนะมาซของมัสยิดอยูลิบ ๆ และมีภูขาเพลิงสีสมดําเปนฉากหลัง...คร้ังหนึ่งในดินแดนนี้พุทธศาสนาเคยรุงเรืองอยู ปจจุบันชาวซินเจียงนับถือศาสนาอิสลาม...

สองวันนี้เห็นเมืองโบราณเจียวเหอ และเมืองเกาเกาชางแลว ทําใหนึกถึง Cappadicia ในตุรกี...

Page 8: Silk Road in XinJiang

จุดตอไปคือถํ้าพระสหัสสสพุทธเบซิคลิค (Basiklik Thousand Buddha Cave) ท่ีตั้งอยูดานหลังภูเขาเพลิงไซอ๋ิว (คาเขาชม ลดจาก 20 เหลือ 18 Y) การชมงานพุทธศิลปตามแนวเสนทางสายไหม เปนอีกหน่ึงจุดหมายใหญของทีมเรา หมูถานี้เจาะเขาไปในภูเขาเปนรูปส่ีเหลี่ยมผืนผา หลังคาถ้ําโคง ภายในมีภาพวาดพระพุทธเจาองคเล็ก ๆ อยูรายรอบถ้ํา บางถ้ํามีพระพุทธรูปปางไสยยาตรอยู ถ้ําน้ันเปดใหเขาชมไมก่ีถ้ํา และหามถายรูปภายในถํ้า

จุดหมายสุดทายของวันคือมัสยิดเออหมิ่นมิเนเรต ท่ีอยูในเขตตัวเมืองทูรูฟาน มัสยิดน้ีไดรับอิทธพลงานศิลปะจากแถบเปอรเซีย หอขานนะมาซเปนทรงสอบรูปรางคลายฝกขาวโพด อิฐของหอขานนะมาซทําจากดินเหนียวเรียงเปนรูปทรงตาง ๆ ภายในโถงละหมาดไมมีลวดลายใด ๆ ดูเรียบงายและสงบ

ออกจากมัสยิดมาก็เย็นพอสมควร และคนขับรถเร่ิมออกอาการหงุดหงิดมากขึ้น ท่ีจริงคนขับรถเร่ิมออกอาการหงุดหงิดตั้งแตบาย ขอทิป ขอขี้นราคาคาเชารถ มีการบนวาขับรถไกล มีการบังคับพวกเราประมาณวาใหเขาเมืองเกาชางไดแคหนึ่งชั่วโมงนะ มีการใชมุขหามิสยิดไมเจอ เร่ิมขับรถชาลง พวกเราใหพี่ท่ีพูดภาษาจีนไดไปนั่งหนาหลอกลอคุยดวยไว บอกวาใหพาเท่ียวกอน เร่ิองเงินคอยคุยกันทีหลังเท่ียวเสร็จ ท่ีจริงพวกเราก็ตั้งใจวาถาขับรถดีก็จะใหทิปอยูแลว (แต

พอบนมากอยางนี้ก็เลยใหทิปไปแค 20 Y) พอเสร็จจากท่ีสุดทาย พวกเรานัดแนะกันวา พอถึงท่ีพัก ลงจากรถแลว ใหสลายตัวทันที ใหเพ่ือนคนนึงทําหนาท่ีเพชรฆาต เปนคนจายเงินโดยใหยายไปนั่งหนา พรอมกับเงิน 220 Y (ใหเพ่ิม 20 Y) พอลงจากรถพวกเราสลายตัว ฟว...พอเพื่อนย่ืนเงินให 220 Y คนขับรถท่ีอารมณดีระหวางทางกลับโรงแรม (เพราะนึกวาเราจะใหเพิ่มเปน 300-400 Y ตามท่ีขอ) ก็โวยวายวา ใหเงินเทานี้ ไมเอาหรอกพรอมโยนเงินท้ังหมดกลับมาใหเพื่อน เพื่อนเราก็เลยชักทิป 20 Y กลับ วางเงิน 200 Y ตามราคาท่ีตกลงไวท่ีหนาเบาะรถ แลวเดินออกมาจากรถ เทาน้ันแหละคนขับรถก็เปลี่ยนจากอารมณโวยวายมาเปนอารมณดีย้ิมแยมแจมใส รีบว่ิงมาจับมือเช็คแฮนด ขอทิปกลับไป....พรอมถามวา พรุงนี้จะเชารถอีกไหม...ไมเอาแลวจา...พวกเราท่ีแอบสังเกตการอยูไกล ๆ ก็ฮากันซะ...

บทเรียนวันนี้ คืออยูนิ่งท่ีสุด รับมือกับอารมณโมโห โวยวายของคนขับ โดยท่ีไมใหใจเราหงุดหงิดไปดวย ตองเท่ียวใหมีคความสุขท่ีสุด ซ่ึงพวกเราก็ทํากันไดอยางสบาย ๆ ชิล ชิล....แสดงวาเริ่มเข้ียวลากดินกันมากขึ้น อะ ไมใชเร่ิมมีวุฒิภาวะกันมากขึ้นตางหากอิอิ...

คนขับรถเชาวันตอมาท่ีพาพวกเราไปดูระบบสงนํ้า พรอมไปสงสถานีรถไฟ (เหมา 150) ยังมีใจบริการมากกวาเยอะ แถมเวลาจะใหทิปก็ทําทาไมเอาอีก...แตอันนี้ก็มีฮาอีก...ไวเลาใหฟงวันพรุงนี้

วันท่ีสี่ Turpan: ระบบชลประทานคาเรส ข้ึนรถไฟไป Kuche

วันนี้พวกเราตองตอรถไฟเท่ียวเท่ียงส่ีสิบจากเมือง Daheyan ไปเมือง Kuche ตั๋วรถไฟนั้นพวกเราจองไวต้ังแตวันท่ีมาถึง Daheyan วันแรก เปน Hard Sleeper ราคาตั้งแต 139-143 Y ขึ้นกับวาเปนเตียงชั้นไหน รถไฟใชเวลาเกือบย่ีสิบชั่วโมงถึงจะถึงเมือง Kuche (Train no. 7556 from Urumqi to Kashgar)

ชวงเชาพอมีเวลาเกือบ ๆ คร่ึงวัน เราวางแผนไปดูระบบชลประทานคาเรซ (Kerez system) คนขับรถก็ชางหวังดี บอกวาพวกยูไปดูระบบชลประทานในพิพิธภัณฑนะ ไมมีอะไรหรอก เสียเงินเปลา ๆ จะพาไปดูของจริง ๆ เลย พอพวกเราตกลงก็ขับพาเราตะลุยเขาไปในไรองุน ท่ีตอนนี้มีแตโรงตากองุน แตคนขับก็หาระบบน้ําใตดินไมเจอ วนไปวนมาจนมาเจอญาติเพ่ือนข่ีมอเตอรไซดผานมา คนขับขอใหขับนําไปดูคาเรซ คาเรซท่ีคนขับพาไปเปนแองนํ้าใตดินเล็ก ๆ ท่ีหลุบลงไปทามกลางไรองุน ถาไมใชคนพื้นท่ีจะไมรูหรอกวามีระบบน้ําอยูใตดิน แตกระนั้นก็ตามพวกเรายังจินตนาการไมออกวาคาเรซคืออะไร ก็เลยขอใหคนขับพาไปดูคาเรซท่ีพิพิธภัณฑดีกวา (คาเขาชมลดจาก 40 เหลือ 20 Y)

Page 9: Silk Road in XinJiang

คาเรซเปนระบบคลองสงนํ้าใตดินทีสงมาจากเทือกเขาหิมะเทียนซานท่ีอยูหางออกไปหลายรอยกิโล

โดยคลองใตดินอยูในแนวระนาบจากเทือกเขาลงมายังพื้นท่ีการเกษตร น้ําจะไหลลงมาโดยแรงโนมถวงตามธรรมชาติ ขางในจะมีคันก้ันนํ้าเพ่ือควบคุมอัตราการไหลของน้ําลึกของคลองใตดินสวนท่ีอยูใกลภูเขาจะอยูลึกลงไปประมาณ 80 เมตร ความลึกของคลองจากผิวบนนั้นจะคอย ๆ ลดลงเร่ือย ๆ จนสวนท่ีอยูแถบพื้นท่ีการเกษตรจะอยูลึกประมาณ 10 เมตร ระหวางเทือกเขาเทียนซานมายังทูรูฟานจะมีคลองสงน้ําน้ีขนานกันหลายสิบเสน รวมระยะทางทุกเสนแลวจะมีระยะทางมากกวา 5000 กิโลเมตร

เรามีคําถามวา ขุดคลองใตดินแลวดินท่ีอยูดานบนไมถลมมาหรือ คําตอบคือชั้นหินท่ีขุดลงไปนั้นแข็งมาก และแถบน้ีแหงแลงดินจึงแข็ง ผนังดานบนคลองจึงไมยุบลงมา แข็งขนาดนี้ตองใชแรงคนในการขุดขนาดไหน

ระหวางทางมีบอขุดลึกลงไปเปนระยะ ๆ อยาง แรกสุดเลยเพื่อใหนํ้าจากเทือกเขาเทียนซานไหลมารวมกันลงไปใหนบอ เปนทางใหคนลงไปเมื่อตองการขุดลอกคลอง เปนทางระบายอากาศ...การขุดคลองใตดินนี้ชวยลดการระเหยของน้ําไดอีกดวย (เพราะอากาศท่ีน่ีแหงแลง น้ําท่ีอยูบนดิน ไมมีท่ีปดจะระเหยเร็วมาก

น้ําจะพัดพาหินทรายจากเทือกเขาเทียนซานมาในคลอง ทําใหคลองตื้น น้ําไมไหล จึงตองมีการลงไปขุดลอกคลองกันทุกป และใชเวลาลอกคลองกันตลอดเวลาท้ังปวาตองลงไปทํางานขุดลอกคลองในท่ีอับอากาศลึก ก็หนาวแลว...กลัวตายเพราะขาดอากาศคะกลัวไป บอท่ีขุดระหวางเปนระยะ ๆ นี้ชวยให... (Draft)…

สงนํ้าใตดินทีสงมาจากเทือกเขาหิมะเทียนซานท่ีอยูหางออกไปหลายรอยกิโล

จากเทือกเขาลงมายังพื้นท่ีน้ําจะไหลลงมาโดยแรงโนมถวงตามธรรมชาติ

เพ่ือควบคุมอัตราการไหลของน้ํา ความใตดินสวนท่ีอยูใกลภูเขาจะอยูลึกลงไปประมาณ

นั้นจะคอย ๆ ลดลงแถบพื้นท่ีการเกษตรจะอยูลึกประมาณ

ระหวางเทือกเขาเทียนซานมายังทูรูฟานจะมีคลองเสน รวมระยะทางทุกเสนแลวจะมี

ดินท่ีอยูดานบนไมถลมมานแข็งมาก และแถบน้ีแหง

แลงดินจึงแข็ง ผนังดานบนคลองจึงไมยุบลงมา (คิดดูวาหินแข็งขนาดนี้ตองใชแรงคนในการขุดขนาดไหน)...

ลงไปเปนระยะ ๆ บอนี้มีหนาท่ีหลายอยาง แรกสุดเลยเพื่อใหน้ําจากเทือกเขาเทียนซานไหลมา

เปนทางใหคนลงไปเมื่อตองการขุดลอกการขุดคลองใตดินน้ีนั้นยัง

เพราะอากาศท่ีน่ีแหงแลง น้ําท่ีอยูบนดิน ไมมีท่ีปดจะระเหยเร็วมาก)

น้ําจะพัดพาหินทรายจากเทือกเขาเทียนซานมาในคลอง ทํางตองมีการลงไปขุดลอกคลองกัน

และใชเวลาลอกคลองกันตลอดเวลาท้ังป โอ...แคนึกวาตองลงไปทํางานขุดลอกคลองในท่ีอับอากาศลึก 80 เมตร

คะ...แต...อยาเพิ่งนี้ชวยใหถายเทอากาศได

และน่ันก็เปนคําตอบวาทําไมเมืองอยางเมืองทูรูฟาน จึงสามารถปลูกองุนรสเลิศได นั่นเปนเพราะระบบชลประทานคาเรซท่ีมหัศจรรยนี่เอง สมแลวท่ีเปนหน่ึงในสามส่ิงกอสรางอันย่ิงใหญแหงเมืองจีน จีน, Grand Canal แหงกรุงปกก่ิง

ชาวทูรูฟานทํางานหนักกันตลอดป ตองตอสูกับธรรมชาติ เพื่อใหมีชีวิตอยูรอดในดินแดนแหงแลงกลางทะเลทรายแหงนี้....

ออกจากคาเรซแลว พวกเราก็รีบเรงไปสถานน่ีรถไฟ Daheyan กัน ใจหายใจควํ่าเกือบตกรถไฟ เพราะรถแทกซ่ีท่ีเชาเคร่ืองดับเวลาขับขึ้นเนิน...เพื่อนเราจะสังเกตเห็นวา อาวเคร่ืองเดินเบา ตอนขึ้นเนินถึงไดดับงายนัก คงจูนเคร่ืองไมดี...กวาจะอธิบายใหคนขับรถเปลี่ยนมาใชเบนซินตอนขึ้นเนินก็ออกแรงเข็นรถกันหลายคร้ัง...หวุดหวิดมาก...

เมืองท่ีแหงแลง ฝนแทบไมตกอยางเมืองทูรูฟาน จึงสามารถปลูกองุนรสเลิศได นั่นเปนเพราะระบบชลประทานคาเรซท่ีมหัศจรรยนี่เอง สมแลวท่ีเปนหนึ่งในสามส่ิงกอสรางอันย่ิงใหญแหงเมืองจีน (กําแพงเมือง

แหงกรุงปกก่ิง, และ คาเรซ)

ชาวทูรูฟานทํางานหนักกันตลอดป ตองตอสูกับธรรมชาติ เพื่อใหมีชีวิตอยูรอดในดินแดนแหงแลงกลางทะเลทรายแหง

ออกจากคาเรซแลว พวกเราก็รีบเรงไปสถานนี่รถไฟ เกือบตกรถไฟ เพราะรถแทกซ่ีท่ี...ตองลงมาชวยกันเข็น...กวา

เพื่อนเราจะสังเกตเห็นวา อาว...รถคันนี้ใชเอ็นจีวีนี่นา...เวลาเคร่ืองเดินเบา ตอนข้ึนเนินถึงไดดับงายนัก คงจูนเคร่ืองไมดีกวาจะอธิบายใหคนขับรถเปลี่ยนมาใชเบนซินตอนขึ้นเนินก็

...สุดทายมาถึงสถานีรถไฟแบบ

Page 10: Silk Road in XinJiang

นั่งรถไฟจีนนี่ โดยเฉพาะนั่งรถไฟขามคืน ย่ีสิบชั่วโมงน่ีไดเรียนรูวิถีชีวิตของชาวจีน ไดเห็นอะไร ๆ เยอะเลย

ในรถไฟมีน้ํารอนพรอม ไวกินกับบะหมี่ ชาวจีนพกบะหม่ีกันมากินทุกครอบครัว

รถไฟว่ิงผานเทือกเขาเทียนซาน....สวยจนเกินบรรยาย ดินเนอรกันบนรถไฟกลางเทือกเขาเทียนซาน...หรูจริง ๆ...

วันท่ีหา: Kuche : Yadan landscape , เทียนซานเสิน มี่ตาเสียกู หรือ ภูผาฟา, หมูถาพระสหัสพุทธคีซิล, ข้ีนรถไฟเท่ียวดึกไป Kashgar

มาถึงเมืองคูเชอรตอนสาย ๆ วันนี้เราจะเหมาแท็กซ่ีเท่ียวในเมืองคูเชอรแลวจับรถไฟเท่ียวตีส่ีไปคาชการกันเลย

เหมารถแท็กซ่ีใหพาเท่ียวหน่ึงวัน (300 Y ตอคัน) จุดหมายใหญของพวกเราคือภูผาฟาและหมูถาพระสหัสพุทธคีซิล

แท็กซ่ีท่ีนี่บริการดี ไมจุกจิก แถมชวยหาโรงแรม ตอรองราคาหองพัก และมารับพวกเราตอนตีสามเพ่ือไปสงท่ีสถานีรถไฟดวย (และพวกเราก็ใหทิปไปตามสมควร)

ระหวางทางไปภูผาฟา แท็กซ่ีพาแวะ Yadan Landscape “Ya” เปนศัพทอุยกูร แปลวา “Steep Wall on the Hill” เปนลักษณะเฉพาะของภูเขาท่ีถูกสภาพอากาศ, ลมและนํ้ากัดเซาะจนเกิดเปนภูเขาท่ีมีลักษณะสวยงานเฉพาะตัวขึ้นมา Ya หรือ Yadan มีมากในแถบซินเจียงเนื่องจากลักษณะทิศทางลม

Page 11: Silk Road in XinJiang

เทียนซานเสินมี่ตาเสียกู หรือ ภูผาฟา (คาเขาชม 40 Y ไมลดราคา) เปนจุดหมายหลักท่ีทําใหพวกเราแวะเมืองคูเชอรแหงน้ี และเราเดินอยูในนี้กันประมาณส่ีช่ัวโมง รวมท้ังยังอยากจะเดินอยูตอกันอีกดวย

ภูผาฟาแหงน้ีเพ่ิงมีการคนพบเมื่อป 1995 นี้เอง ภูผาฟาเปนหมูภูเขาสีชมพูอมแดงอมสม ตัวผาถูกลมและน้ํากัดเซาะจนหินมีลักษณะเปนช้ัน ๆ เวลาจับจะหลุดออกมางาย ดูๆ ไปลักษณะภูผาฟาจะคลายแกรนดแคนยอนผสมกับเมืองเพตรา อากาศขางในไมรอน เนื่องชวงท่ีเราไปอากาศยังหนาวอยู ยังเห็นหิมะและน้ําแข็งเกาะอยูตามพื้นของภูผาฟา

ภูผาฟาสวยจนบรรยายไมถูกเลย ดูรูปแทนแลวกัน..นะคะ

หมูถ้ําพระสหัสพุทธคีซิล (Kizil Thousand Buddha Caves) หมูถ้ําคีซิลเปนหนึ่งในส่ีหมูถ้ําพุทธคูหาอันย่ิงใหญของจีน (อีกสามหมูถ้ําคือ หมูถ้ําโมเกา เมืองตุนหวง หมูถ้ําหยุนก่ัง มณฑลซานซี และหมูถ้ําหลงเหมิน มณฑลเหอหนาน)

คาเขาชมหมูถ้ําคีซีล คนละ 55 Y ไมลดราคา คาไกดภาษาอังกฤษ 100 Y ไกดจีน 60 Y เอากลองเขาไปไมไดพวกเรามีหนังสือไปอานประกอบเลยไมขอไกด แตใชวิธีสอบถามจากภัณฑารักษสาวท่ีพาชมหมูถ้ําแทน 555…

นองภัณฑารักษสาว พอรูวามาจากเมืองไทย ก็ชี้ใหดูท่ีประทับของสมเด็จพระเทพฯ ดวย...พระองคเคยเสด็จมาศึกษางานท่ีน้ี....

Page 12: Silk Road in XinJiang

งานศิลปะในหมูถํ้าเหลานี้เกิดจากศรัทธาของพอคาท่ีคาขายอยูในเสนทางสายไหม ริมท่ีราบทาริมแหงน้ี หมูถํ้าเกิดจากการเจาะหนาผาทรายเขาไปเปนหอง ผนังดานบนและดานขางดานในเขียนภาพจิตรกรรมพุทธชาดก วิถีชีวิตของชาวบาน

ถ้ําหมายเลข 10 เปนถ้ําท่ีเราท่ึงมากท่ีสุด เพราะเปนถ้ําสําหรับฝกวิปสสนาของพระภิษุ เราท่ึงท่ีวา ถามองออกจากถ้ํานี้ไปจะเห็นแตทองฟามีเหวดานลาง ลมเย็นเฉียบสามารถพัดผานเขามาดานในถ้ําไดงายดาย ขนาดกลางวันท่ีเรายืนอยูยังหนาวเลย...ถ้ํานี้เปนสถานท่ีฝกวิปสสนาท่ีตองใชความอดทน (อดทน ตอความหนาว ความเหงา ความกลัว และอ่ืน ๆ) อยางสูงทีเดียว....

หนาหมูถ้ําคีซีลมีรูปปนพระกุมารชีวะ พระเถระท่ีนําทีมแปลพระธรรมจากภาษาสันสฤตเปนภาษาจีน ซ่ึงถือเปนการวางรากฐานพุทธศาสนาในประเทศจีน...ถาไดอานประวัติพระกุมารชีวะ จะทําใหเราย่ิงซาบซ้ึงถึงความต้ังใจมั่น และความมุงมั่นในการแปลพระธรรม แมวาจะมีอุปสรรคระหวางทางมากมายก็ตาม...

(ประวัติของพระกุมารชีวะสามารถหาอานไดจากหนังสือ เสนทางสายแพรไหมในซินเจียง ของคุณปริวัฒน จันทร)

คืนน้ีเราหาท่ีพักกันไดท่ี Traffic Hotel สองหอง ราคารวม 180 Y โดยใหแท็กซ่ีตอราคาให....เราจะพักกันแคไมถึงคร่ึงคืน

นัดแท็กซ่ีมารับตอนตีสาม (เวลาปกก่ิง) เพราะข้ึนรถไฟตอไปคาชการตอนตี่ส่ี พี่แท็กซ่ีก็ใจดีมารับใหท้ัง ๆ ท่ีเราก็จายเงินคาเหมารถไปหมดแลว แถมตอนแรกพวกเรายังตอรองใหเคาไปสงท่ีสถานีรถไฟแบบฟรี ไมไดบอกวาจะใหทิปเพิ่มอีกดวย...คืนนี้แทบไมไดนอนกันเลย เพราะกลัวตกรถไฟ

รถไฟจากคูเชอรไปคาชการ ราคา hard seat ชั้นสาม คนละ 99 Y (Train no. K9786) ท่ีตองนั่ง hard seat เพราะไมมีท่ีนั่ง soft seat เหลือแลว

ในตั๋ว hard seat ระบุเลขท่ีน่ังให แตเราก็ทําใจไวแลววาคงเหมือนชั้นสามเมืองไทยท่ีไมมีท่ีน่ัง แลวแตจะหาท่ีนั่งเอาเอง หรือไมก็ตองยืนตลอดแปดชั่วโมงจากคูเชอรไปคาชการ...ซ่ึงก็จริง พอขึ้นไปแลวไมมีท่ีนั่งเหลือเลย...บางคนยังตองยืนเลย...แต...พวกเราก็ใชความเปนนักทองเท่ียวตางถ่ิน...เดินมึน ๆ (แถมทําทาวีน ๆ) เขาไปถามเจาหนาท่ีตรวจตั๋ววาท่ีนั่งเราอยูตรงไหน....เจาหนาท่ีคงอยากตัดรําคาญก็เลยพาพวกเราไปนั่งตามเบอรท่ีระบุไวในตั๋ว...ซ่ึงก็หมายถึงตองไปไลคนท่ีน่ังอยูกอน (ท่ีกําลังนอนหลับอยางสบายอยู) ออกไป...งานนี้ พอไดท่ีนั่งปุป เราทําเปนนั่งหลับปบเลย เพราะกลัวสายตาคนในรถท่ีมองมาท่ีพวกเราเปนตาเดียว...กลัวถูกรุมสกรัมนะ...(...ตองนึกภาพตามดวยนะคะวา เวลาคนตรวจต๋ัวเขาไปไลคนท่ีกําลังหลับอยูนะ เคาตะโกนเรียกเสียงดัง แลวไลเสียงดัง จนคนอ่ืน ๆ ในรถตื่นและหันมามอง...สวนคนท่ีถูกไลก็ลืมตาตื่นขึ้นมาอยางงง ๆ แลวก็ลุกไปนั่งบนพ้ืนรถไฟแทน เราเองสงสารคนท่ีถูกท่ีไลก็สงสาร สงสารตัวเองดวย (พูดตรง ๆ ก็เห็นแกตัวเองแหละ) เพราะกําลังงวงเต็มท่ีแลวเหมือนกัน....ก็เลยตองรีบหลับ แถมตลอดแปดชั่วโมง ยังไมกลาลุกไปไหน เพราะกลัวเสียมา...555)…

กลับมานั่งคิดวา ถาเราเปนคนจีนเจาของประเทศ เจอนักทองเท่ียวแบบนี้จะทําอยางไร...มีนักทองเท่ียวมาแยงใชรถไฟขนสงสาธารณะราคาถูก ท่ีสรางโดยเงินภาษีของตัวเอง...แถมยังมาไลเจาของประเทศใหไปนั่งท่ีอ่ืนอีก....เราไดคําตอบวา คราวหลังเราคงไมไปแยงอะไรกับใครเขาแลวหละ...ไดมาแลว ตองมานั่งละอายใจจนกระท่ังกลับมาเมืองไทยนี่ สูยืนขาแข็ง 8 ชั่วโมง ยังดีกวาเยอะ....

วันท่ีหก Kashgar : เดินเมืองเกา old town

มาถึงคาชการหรือคาสือ กันก็เท่ียง (เวลาปกก่ิง) แลว เหมาแท็กซ่ี (20 Y) ใหไปสงโรงแรม QINIBAGH Hotel (คาหองคนละ 50 Y มีหองสองเตียง สามเตียง หาเตียง ใหนักทองเท่ียวแชรกันได)

ตอนเดินออกมาท่ีสถานีรถไฟ เจอคุณลุงคนนึง เดินเขามาทักทาย จากนั้นลุงก็ขึ้นรถแท็กซ่ีไปกับเราโดยนั่งขางหนา...ระหวางทางก็ชวนพวกเราคุย ใหขนมพวกเราทาน...ตอนแรกตอมระแวงของเรายังทํางานอยู นึกวาเปนนายหนาขายทัวร เหมือนอินเดียหรือเนปาล..เลยไมคอยกลาคุย...(อันท่ีจริงก็คุยกันไมรูเรื่องหรอก ลุงพูดภาษาอุยกูรกับพวกเรา...เราก็พูดจีนม่ัง หัวเราะบาง)....ปรากฎวาคุณลุงลงกลางทาง แลวขอใหเราถายรูปให....จากน้ันชวงบายวันนั้น และวันตอ ๆ มาพวกเราก็เจอคุณลุงท่ีหนา Id Kah Mosque ทุกวัน คุณลุงใสสูท ผูกไทดมาทําละหมาดท่ีมัสยิดนี้ทุกวัน...เห็นหนาทักทายกันทุกวัน คุณลุงก็ใหขนมพวกเราทุกวัน...จนวันสุดทาย เจอคุณลุงตอนเชา เลยชวนคุณลุงทานขาวเชากัน...สนุกสนาน... เพราะคุยกันไป (แบบไมรูเร่ือง) หัวเราะไป...เร่ืองนี้สอนใหรูวา อยาเอาประสบการณแย ๆ ท่ีเคยเจอท่ีอ่ืนมาตัดสินคนอ่ืน...

Page 13: Silk Road in XinJiang

เมืองคาชการน้ีใหญและเจริญกวาท่ีเราเคยเห็นในสารคดีทางสายไหมมาก เร่ิมมีตึกสูง ๆ ถนนหนทางก็กวางขวาง ตนไมเริ่มผลิใบเขียว ๆ ระบบประปา-ไฟฟา ก็มีครบไมขาดแคลน... จนแทบไมนาเชื่อเลยวานี่คือเมืองโอเอซิสกลางทะเลทราย...ส่ิงเดียวท่ีทําใหเราแนใจวานี่คือเมืองกลางทะเลทรายคือพายุทราย ท่ีพัดเอาทรายเม็ดเล็ก ๆ ละเอียด ๆ มาเขาปากเขาจมูกแทบตลอดท้ังวัน!!!...

ผูคนท่ีเมืองคาชการนี้ย้ิมงาย เปนมิตร ดูไมหวาดระแวง เหมือนเมืองทูรูฟาน หรือเมืองอ่ืน ๆ ท่ีเราผานมา...

เจาของทัวรท่ีเราไปคุยดวย บอกวา เมืองคาชการนี้เปลี่ยนไปเยอะ ตรึงเครียดขึ้นกวาเดิม ตั้งแตมีเหตุการณทางการเมืองเมื่อปท่ีแลว...อยางการไปทะเลสาบคาราคูลก็ตองมีการออกใบอนุญาติและหามนักทองเท่ียวไปนอนคางท่ีหมูบาน ใหคางท่ีกระโจมสําหรับนักทองเท่ียวเทานั้น....

ตอนบายเราไปจองรถพรอมคนขับ สําหรับไปคางคืนท่ีทะเลสาบคาราคูล (1,000 Y สองวัน) ในวันพรุงน้ีจากบริษัททัวร (CITS) ท่ีอยูขาง ๆ โรงแรม คาอาหาร คาท่ีพักริมทะเลสาบ พวกเราออกกันเอง...มีหนุมอังกฤษท่ีเพิ่งเจอกันท่ีโรงแรมรวมแชรรถไปกับพวกเราดวย....

ตอนบาย ไปเดินเลนกันท่ีเมืองเกา Old Town เมืองเกาน้ีอยูตรงขาม Id Kah Mosque บานเรือนในเมืองเกาเปนดินผสมหญา มีระเบียงไมฉลุลวดลาย ทาสีสดใส เหมือนไดรับอิทธพลทางศิลปะจากอิหราน....

บานหลังไหนท่ีมีโทรทัศน จะมีเดก็ ๆ มานั่งดูทีวีกันหนาบานเปนกลุมใหญ ๆ...เห็นแลวนึกถึงสมัยเด็ก ๆ สมัยท่ีบานยังไมมีทีวี...เราไปรุมดูละคร (ละครกระสือ...สมัยโบราณมาก ๆ) กันท่ีบานท่ีมีทีวี...

รานในเมืองเกามีตั้งแตรานขายเนื้อแพะยาง (กลิ่นไมสาบ) ขนมปงปง ขนมปงกรอบไสเน้ือแพะ เดินไปชิมไปจนอ่ิม โดยเฉพาะเนื้อแพะยางนั้นเน้ือนุมเพราะใสมันเยอะ หอมกลิ่นเคร่ืองเทศ...

ซาลาเปาไสเน้ือแพะ กับขาวหมกเนื้อแพะ เปนอาหารทองถิ่นท่ีข้ึนชื่อของคาชการ...ท้ังกลุมท่ีไป ดูจะมีแตเราเทานั้นท่ีกินขาวหมกแพะแลวอรอย....ก็แหม อยากกินมาตั้งแตอานโกบีแลว...นี่ยังไมไดกินตาแกะยางอีกอยางนะ...

เราชอบเมืองเกานี้มาก มาเดินทุกวัน ย่ิงวันท่ีเดินคนเดียว ย่ิงไดบรรยากาศและสนุก เพราะคนท่ีนี่เปนมิตร ชวนทานน้ําชา ชวนคุย (ใชภาษากาย และย้ิมสยามคุยกัน) ขอเขาไปดูวิธีการทําขนมปงท่ีโรงงานก็ใหดู ยืนดูคนงานตีทองเหลือง ยืนเลนกับเด็ก ๆ...บรรยากาศท่ีน่ีดูอบอุนเปนมิตรดี...

Page 14: Silk Road in XinJiang

วันท่ีเจ็ด: Kashgar : Karakul Lake และหมูบานแถวน้ัน

วันนี้เราเหมารถเท่ียวสองวันใหไปท่ีทะเลสาบคาลาคูล ทางบริษัททัวรทําเร่ืองใบอนุญาติมาใหเรียบรอยแลว...ระหวางทางก็ซ้ือน้ํา ซ้ือของกินตุนไวเพียบ โดยเฉพาะสาลี่หอมของโปรด...ซ้ือตุนไวหลายกิโล...

ระยะทางจากคาชการไปทะเลสาบคาราคูลน้ันประมาณ 230 กิโลเมตร ใชเวลาประมาณส่ีชั่วโมง วิวระหวางทางคือวิวในฝนท่ีเราเห็นในกระทูสะพายเป และทําใหเราดั้นดนมาถึงท่ีนี่ Karakolum highway….

เวลาเห็นภูเขาทีไร..หายเหนื่อยทุกที...มีคนบอกวาเราเปนคนชอบภูเขา....ไมจริงหรอก เราไมไดชอบภูเขา เรารักภูเขาเลยแหละ...

จําไดวาเมื่อสองปกอน ทํางานติดตอกันสามเดือนไมหยุดและอยูในระหวางท่ีเครียดมาก...ชวงท่ีเหนื่อยลาถึงท่ีสุด แวบมาเปด TKT พอเห็นภาพสะทอนของภูเขาทรายจากทะเลสาบคาลาคูลของคุณตอมนกปา โอโห สวยมาก..ความเหนื่อยลาหายไป กําลังใจในการทํางานว่ิงกลับข้ึนมา ภาพนี้ก็เปนภาพท่ีอยูบน desktop เราตลอดสองป...

ท่ีทะเลสาบคาราคูลมีการเก็บคาเขาดวยโดยเจาหนาท่ีของหมูบาน (50 Y ไมลดราคา) พอเก็บคาเขาเสร็จ เจาหนาท่ีก็หายไป กลับเขาหมูบาน...คงเพราะเปนชวง low season ไมคอยมีคนมา

ตอนแรกเราวางแผนวาจะไปหากระโจมพักกันในหมูบาน แตทําไมได ท่ีน่ีเขมงวดมาก ไมใหนักทองเท่ียวเขาไปพักในหมูบาน ไมใหนั่งรถตูไปหมูบาน ใหแคเดินริมทะเลสาบ หรือไมก็เชารถมอเตอรไซดท่ีมีคนขับไปในหมูบานแทน... ...สุดทายเลยนอนกันท่ีกระโจมริมทะเลสาบ (60 Y ตอคน)

ท่ีน่ีมีอูฐใหเชาขี่รอบทะเลสาบ หรือเชารถมอเตอรไซดไปในหมูบาน (30 Y ตอคน) พวกเราเชามอเตอรไซดไปหมูบานกัน อากาศหนาว ลมแรงมาก เลยไมคอยมีผูคนออกมาเดินนอกบาน มีชาวบานมาชวนใหเขาไปนั่งขางในบาน เอาชานมแพะมาใหด่ืม ชานมแพะแบบธิเบต ใสเกลือนิด ๆ เค็ม ๆ อรอยดี...แมบานยังเอางานปกผาออกมาขายดวย...

ยามคํ่าคืน ออกมาเดินริมทะเลสาบดูดาวกับบรรยากาศหนาว ๆ ดาวท่ีนี่ดวงใหญนะ...

Page 15: Silk Road in XinJiang

วันท่ีแปด Kashgar : กลับจาก Karakul Lake, Id Kah Mosque และเมืองเกา

เมื่อคืนพลาดไปอยางแรง ลืมไปวานอนกันบนท่ีระดับความสูงท่ีไมคุนเคย (คาราคูล 3600 เมตร) ทําใหนอนกันไมคอยหลับ เพ่ือนบางคนตื่นมาก็ปวดหัว....

ท่ีวาพลาด เพราะเราชะลาใจ คิดวาท่ีระดับความสูงแค 3,600 เมตร ปริมาณออกซิเจนยังไมนอยมากไป...ก็เลยไมไปเปดประตู-เปดหนาตางกระโจมตอนนอน...ผลคืออากาศไมถายเทเขามา...แถมตอนดึกยังปลอยใหเพื่อนจุดเตาผิงในกระโจมซํ้าเขาไปอีก...ออกซิเจนก็ย่ิงนอยเขาไปอีก.... (พออากาศนอยก็จะนอนไมหลับและปวดหัว....เมื่อคืนเลยนอนไมหลับไปตาม ๆ กัน...)

ขอปฏิบัติหลัก ๆ เวลาอยูบนท่ีสูงกวาสามพันเมตรจากระดับน้ําทะเล 1) ตองพักรางกายอยางนอยหนึ่งวันเมื่อผานระดับความสูงเกิน 3000 เมตร 2) หลังจากน้ันตองไมเดินข้ึนไปสูงกวา 800 เมตรตอวัน 3) ตองดื่มน้ําเยอะ ๆ 4) ไมจุดเตาผิงในกระโจมหรือในหองเพราะการจุดไฟจะเปนการไปแยงออกซิเจนท่ีเราใชหายใจ หรือถาหนาวก็จุดเตาได แตเราควรออกไปเดินนอนกระโจมรับออกซิเจนเปนระยะ ๆ ...5) ตอนนอนควรเปดหนาตางหรือประตูไวเพื่อใหอากาศถายเทเขามา (ตองทนหนาวเอาหนอย)....โดยเฉพาะตอนนอนไมควรจุดเตาผิงท้ิงไวในกระโจม....อาจตายเพราะขาดออกซิเจนไดงาย ๆ ... (จําไดไหม...ท่ีภูกระดึงบานเรา...เคยมีคนตายเพราะขาดอากาศหายใจ เพราะจุดเตาผิงกันหนาวในเต็นทตอนกลางคืน....confined space แท ๆ เลย...)

วันนี้ต่ืนกันแตเชา ออกมาดูทะเลสาบและภเขาหิมะ เวลาจะดูภูเขาหิมะตองตื่นเชา ๆ อยางน้ีแหละ เพราะตอนเชาจะยังไมมีเมฆหมอกมาบังภูเขา ...พอสาย ๆ แดดออก ไอน้ําจากหิมะหรือในอากาศจะระเหยขึ้นไปแลวรวมตัวเปนหมอก จะทําใหฟาไมใส วิวไมสวย...

ไดนอนกระโจมริมทะเลสาบคาราคูล....ก็ถือวาทําไดตามจุดหมายแรกของการเดินทางคร้ังนี้แลว

สาย ๆ ออกจากคาราคูลกลับเขาเมืองคาชการ

บาย ๆ เขาไปชม Id Kah Mosque (20 Y) มัสยิดศูนยรวมใจของชาวคาสือ....เมื่อหลายปกอนไดดูสารคดีเสนทางสายไหมของ NHK ท่ีถายทําในเมืองคาชการ ในสารคดีเลาวามัสยิดแหงนี้เปนศูนยรวมใจของชาวอุยกูร และวันศุกรเย็นชาวเมืองคาชการจะมาทําละหมาดกันมากมายจนลนออกมาบริเวณลานกวางหนามัสยิด

เสียดายท่ีไมไดเห็นมัสยิดน้ีในวันศุกร เพราะในแผนเท่ียวเราอยากเห็นตลาดคาสัตวในวันอาทิตยมากกวา เราก็เลยออกไปคาราโคลัมไฮเวย และกลับมาดูตลาดคาสัตวในวันอาทิตยแทน

ในสัมผัสแรกท่ีเขาไป มัสยิดนี้สงบ รมเย็น คลายสวนโมกขหรือวัดชลประทานฯ บานเราเลย... โถงละหมาดฤดูรอนเปนศาลาโลงอยูดานนอกโดยมีตนไปหยาง หรือตนปอปลารปลูกเปนแนวสูงชะลูดใหรมเงาศาลาละหมาดแหงนี้...

ดานในเปนโถงละหมาดสําหรับฤดูหนาวท่ีมีแคพรมกับมิราบเทานั้น ดูเรียบงายและสงบมาก...

กอนมาคาชการ เราจินตนาการวามัสยิดท่ีเปนศูนยรวมใจของชาวอุยกูรยแหงนี้คงประดับประดาตกแตงดวยงานกระเบ้ืองดูสวยงามอลังการเหมือนมัสยิดใหญ ๆ ท่ีเคยเห็น แตพอเขาไปเห็นความเรียบงายอยางท่ีสุดของมัสยิดแหงนี้ บวกกับ

Page 16: Silk Road in XinJiang

บรรยากาศรอบตัวท่ีเหมือนสวนโมกขบานเรา...ถึงไดเขาใจวา ทําไมท่ีแหงนี้ถึงเปนศูนยรวมจิตใจของชาวอุยกูรยมานาน...

จากนั้น ขามไปเดินฝงเมืองเกา บอกแลววา เดินไดไมรูเบ่ือโดยเฉพาะวันนี้เดินคนเดียว ย่ิงรูสึกดี รูสึกอบอุน รูสึกวาผูคนท่ีน่ีมีน้ําใจ เปนมิตรกับคนงาย...จากการเดินทางหลาย ๆ คร้ัง ทําใหเห็นวา เปนผูหญิงเดินเท่ียวคนเดียวมีขอดีอยางหนึ่ง คือ ผูคนจะไมกลัวเรา จะใหความสนใจเมื่อเราเขาไปดอม ๆ มอง ๆ จะชวนเราคุยเม่ือเราย้ิมให จะเขามาชวยเหลือเมื่อเห็นเราทําทาเก ๆ กัง ๆ......การกระทําเล็ก ๆ นอย ๆ พวกนี้ทําใหรูสึกวา ความเปนมนุษยท่ีแทจริงไมไดอยูท่ีรวยหรือจน อยูท่ีใจ อยูท่ีน้ําใจ อยูท่ีการชวยเหลือเก้ือกูลกัน ตางหาก...

มีคนชอบถามเราเสมอวา เปนผูหญิง เดินทางคนเดียว ไมกลัวหรือ เราจะตอบเสมอวา ไมกลัวหรอก เพราะ...หน่ึง...เราเชื่อมั่นวา ถาเราเปนคนดี พูดดี คิดดี ทําดี เราก็จะเจอแตคนดี ๆ เขามาในชีวิต และสอง...เราเปนคนท่ีไมยอมใหตัวเราตกเขาไปอยูในสถานการณเส่ียง (Unsafe condition/Risk condition) ใด ๆ โดยเด็ดขาด หรือพูดงาย ๆ ก็คือ เราสามารถเลือกท่ีจะวางตัว ปฏิบัติตน เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณเส่ียงตาง ๆ ท่ีอาจเกิดขึ้นใด โดยตัวเราเอง...

วันท่ีเกา Kashgar : Sunday Animal Market, Apak Hoja Mausoleum

วันนี้เราใชเวลาชวงเชาถึงบาย ๆ กันท่ีตลาดคาสัตววันอาทิตย (นั่งรถเมลสาย 8 จากหนา Id Kah Mosque ไปจนสุดสาย คารถคนละ 1 Y)

สําหรับเรา ตลาดคาสัตวนี้เปนจุดเดนของเมืองคาชการเลย เปนท่ีท่ีเราสามารถเห็นวิถีการดําเนินชีวิตของผูคนท่ีนี่ มีการซ้ือขายแพะ วัว มา แกะ กันสด ๆ มีการเจรจาตอรอง.เราเดินลุยเขาไปในฝูงวัว ฝูงแกะ ดูการเจรจาซ้ือขาย..ไมยักมีใครมาไลเราออกไป...แถมยังไมมีวัวตัวไหนหันมาเตะเราดวย..

ตลาดนี้มีสีสัน...ดูมีชีวิต....live มาก ๆ

ตอนบาย ๆ นั่งรถเมลสาย 20 จากหนา People Square ไป Apak Hoja Mausoleum (คารถคนละ 1 Y) คาเขาชม Apak Hoja ลดจาก 40 Y เหลือ 30 Y

ลวดสายเสาและหัวเสาของมัสยิดประจําสุสานงามมาก ๆ ลวดลายปูนปนหนาประตูสุสานท่ีเปนลายชอดอกไมสีขาวนั้นก็ดูออนชอยงดงามมาก...เห็นครั้งแรกก็นึกถึงสวนฟนแหง

Page 17: Silk Road in XinJiang

เมืองคาชานท่ีอิหราน....เทานี้ก็ปลื้มแลว...เราเดินดื่มดํ่าอยูท่ีน่ีนานมาก...กอนกลับเขาเมือง ไปเดินเมืองเกาอีกรอบ...

วันท่ีสิบ Kashgar – Urumqi: ไฟลทดีเลย เพราะพายุทราย

วันนี้มีพายุทรายแตเชา นั่งแท็กซ่ีออกมาจากโรงแรมไปตัวเมืองแทบมองไมเห็นถนนเลย มีแตฝุนทราย (ใหแท็กซ่ีใชมิเตอร คารถประมาณ 15 Y บวกคาเขาสนามบินอีกประมาณ 2-3 Y) และเนื่องจากมีพายุทรายนี่เองทําใหเคร่ืองบินไมสามารถออกได....กวาจะออกไดก็ประมาณหนึ่งทุม และไปถึงอุรุมูฉีตอนมืดแลว ทําใหเราตองเปล่ียนแผนการท่ีจะไปตุนหวงคืนนั้นเลย มาเปนคางท่ีอุรุมูฉี และตองปรับแผนการเท่ียวเล็กนอย...

การเดินทางก็อยางนี้แหละ มีเหตุการณท่ีเราไมสามารถควบคุมไดมาใหแกปญหาตลอด...สนุกดี..

เราใชสายการบินเหอหนาน (คาตั๋ว 500 -630 Y ตอคน) โดยจองจากเอเจนซ่ีท่ีอยูท่ีโรงแรมท่ีพัก...

ไปถึงอุรุมูฉี ก็ตอรถบัสสนามบินเขาเมือง (10 Y) ไปพักกันท่ีโรงแรมเดิม YAOUHOTEL คาหองเพ่ิมเปนคนละ 60 Y แลว เพราะหมดชวงโลวซีซันแลว

วันท่ีสิบเอ็ด Urumqi: Heaven Lake, night train to Dunhuang

เมื่อวานตอนดึก เราออกไปติดตอเหมาแท็กซ่ีแถว ๆ หนาสถานีรถไฟใหพาเราไปเท่ียวทะเลสาบสวรรค หรือทะเลสาบเทียนฉือ (ตอรองไดราคา 400 Y รวมนํ้ามัน) เปนรถซีดานธรรมดาเหมือนแท็กซ่ีบานเรา

ปกติท่ีนี่มีกฏวารถแทกซ่ีใหน่ังไดไมเกินส่ีคน รวมคนขับ แตพวกเรารวมแลวมี 6 คน ดังน้ันเวลารถผานดาน คนขับรถซ่ึงเปนสาวอารมณดีมาดเทห จะบอกใหพวกเรากมหลบดาน หรือเวลาจะลงจากรถก็จะใหดูซายดูขวาวาไมมีตํารวจ แลวใหลงทีละคน แลวเดินไปกอน กอนจะใหคนตอไปลง....555 เปนการผจญภัยเล็ก ๆ นอย ๆ จากการฝาฝนกฎระเบียบ...รูสึกเหมือนเปนนักเรียนหนีโรงเรียนเลย...

จะวาไปกฎจราจรท่ีนี่เขมงวดพอสมควรเลย อยางรถบัสคันใหญใหว่ิงไดไมเกิน 80 กมตอช่ัวโมง รถเกงใหมีคนน่ังไดไมเกินส่ีคน อยางรถแทกซ่ีท่ีเราเหมา พอใกลเขตท่ีมีตํารวจก็จะชลอรถ ขับชา ๆ เขาไว...

Page 18: Silk Road in XinJiang

ตอนแรกเราวางแผนไววาจะมาคางท่ีกระโจมบนทะเลสาบสวรรคแบบชิลชิล กอนกลับเมืองไทย (หลังจากกลับจากตุนหวง) แตเนื่องจากไฟลทจากคาชการมาอุรูมูฉีดีเลยไปเกือบวัน เราก็เลยตองเปลี่ยนแผนมาเท่ียวทะเลสาบเทียนฉือแบบไปเชาเย็นกลับกอนจะข้ึนรถไฟไปตุนหวงเย็นน้ี แลวคอยกลับอุรูมูฉีเพ่ือกลับเมืองไทย...ซ่ึงก็นับวาโชคดีเหมือนกัน เพราะทะเลสาบเทียนฉือวันท่ีเราขึ้นไปน้ันหิมะตก !! น้ําในทะเลสาบยังเปนน้ําแข็งอยูเลย..ขืนคางในกระโจมมีหวังหนาวตายกันแน ๆ เพราะไมไดเตรียมอุปกรณกันหิมะกันมา....

คาเขาทะเลสาบสวรรค (Heaven Lake) คนละ 100 Y, คารถขึ้นไปบนทะเลสาบ (กระเชายังไมเปด) คนละ 35 Y

มาทริปนี้ พวกเราเจอสภาพอากาศทุกรูปแบบ รอน หนาว พายุทราย ลมแรง หิมะตก ...ถาไมแข็งแรง คงไดปวยกันเปนแถว หรือไมก็เปนเพราะเดินกันวันละหลายกิโลเมตรทุกวัน เปนการออกกําลังกายไปในตัว เลยไมมีใครปวยไข....

ทะเลสาบสวรรค ยามหิมะตก ก็สวยไปอีกแบบ....

หิมะตก อากาศหนาว พวกเราเลยเดินอยูไมไกลจากจุดชมวิวมากนัก...พี่ในกลุมท่ีทนหนาวไมไหว ขอไปรอในรถ...

เราเดินออกนอกกลุมไปไกลขึ้นอีกนิด...ก็พบวาทะเลสาบนี้ยังมีจุดชมวิวท่ีสวยอีกหลายจุด...เสียดายท่ีรองเทาเราไมไดกันหิมะ นํ้าเลยเขาเทาเย็นเฉียบเลย...ก็เลยตองถอยกลับ....กลัวเพื่อนในทีมจะเปนหวงดวย เพราะหายมาคนเดียวนานแลว...

บทเรียนวันนี้คือ ถาเราไมกาวออกจาก comfort zone เราก็จะไมมีวันรูวาโลกขางนอกยังมีอะไรท่ีทาทายรอเราอยูอีกเยอะ....

ขากลับพวกเราแวะไปกระโจมท่ีอยูบริเวณทางเขา Heaven lake วาจะแวะไปทานขาวกลางวันกัน เพราะกอนขึ้นไปบนทะเลสาบ ทางเจาของกระโจมมาโฆษณาติดตอเอาไว พวกเราก็รับปากวาจะแวะไปทานขาวกลางวันท่ีกระโจมถาลงมาจากทะเลสาบแลว...พอไปถึงเจาของกระโจมเตรียมน้ําชา เตรียมองุนตากแหงเอาไวมากมาก อารามท่ีพวกเราหิวก็ดื่มน้ําชา กินองุนท่ีเคาใสจานไวใหกันใหญเลย...จากน้ันสักพักก็ขอเมนูอาหารมาดู...โอโห อาหารแพงมาก ผัดผักจานละ 60 Y ไกยางจานละ 400 Y (ยํ้า 400 Y คะ)...พวกเราเลยปรึกษากันวาเอาไงดี...จะส่ังอาหารเบา ๆ มาทาน หรือยังไงดี...สุดทายไมทานคะ แพงจัดขนาดนี้...จายไปแตคาน้ําชาแลวกัน....วาแลวก็ใชมุขเดิม รีบสลายตัวไปขึ้นรถ สตารทรถไว...ใหเพื่อนอีกคนเดินไปจายคานํ้าชา คานํ้าชาก็แพงมากเลย 50 Y…แตสุดทายเพื่อนวางเงินไว 20 Y ใหกับเจาของกระโจมท่ีเปนผูหญิง แลวรีบเดินออกมา กอนท่ีเจาของกระโจมผูชายจะเดินออกมาทัน.. แลวก็รีบขึ้นรถออกไปกันเลย...555

สุดทาย กลับมาทานอาหารกลางวันก่ึง ๆ เย็นกันท่ีอุรูมูฉี...ทานกันจนพุงกาง ก็ไมถึง 40 Y…

ส่ีทุมส่ีสิบ พวกเรานั่งรถไฟไปตุนหวงกัน...รถไฟสาย 1085 ลงท่ีสถานี Liuyaun ช้ัน hard sleeper คารถ 113-115 Y ตอคน ใชเวลา 9 ช่ัวโมง...รถไฟจีนตรงเวลามากคะ...

วันท่ีสิบสอง Dunhuang: Spring Moon Lake หรือ ทะเลทรายหมิงซาซาน ทะเลสาบพระจันทรเส้ียว

สองวันนี้เปน High light ของทริปอีกชวงหนึ่งเลย (ท่ีจริงก็ high light ทุกวันแหละนะ) เพราะจุดหมายในการมาของเราในทริปนื้คือทะเลสาบพระจันทรเส้ียว

บนรถไฟ พวกเรารูจักไกดทัวรคนนึงท่ีกําลังมารับลูกทัวรจากตุนหวง ไกดแนะนําท่ีพักท่ีเปดใหมราคาถูก ไมไกลตลาดใหและพอลงจากสถานี Liuyaun ไกดก็ชวนพวกเรานั่งรถตู ไปเมืองตุนหวง (20 Y ตอคน)

Page 19: Silk Road in XinJiang

...ตอนแรกพวกเราจะจองรถไฟกลับจากตุนหวงไปอุรูมูฉีท่ีน่ี แตปรากฏวาท่ีนั่งเต็ม ไกดท่ีเพิ่งเจอกันบอกวา ถาอยากไดตั๋วเดี๋ยวติดตอจัดการใหไดท่ีเมืองตุนหวง....แตสุดทายพอคํานวนระยะเวลาในการเท่ียว แลวเดินทางกลับเมือง Liuyaun แลว พวกเราก็เปลี่ยนใจนั่งรถบัสนอนจากเมืองตุนหวงมาอุรูมูฉีแทน (คารถนอนคนละ 180 Y, 16 ช่ัวโมง)

ชวงบายพวกเรานั่งรถเมลสาย 3 จากตัวเมืองไปทะเลทรายหมิงซาซาน (คารถคนละ 1 Y)

(คาตั๋วเขาทะเลทรายคนละ 120 Y ไมลดราคา)

ท่ีน่ีนักทองเท่ียวเยอะจริง ๆ มกิีจกรรมใหนักทองเท่ียวทําเยอะ ไมวาจะเปนข่ีอูฐสองหนอก เลนกระดานโตทรายลงมา ขี่รถในทะเลทราย...

สําหรับเรา...แคเดินถอดรองเทาปนขึ้นไปเนินทราย แลวถลาลงมา...ก็ Happy สุด ๆ แลว...ทรายท่ีนี่สะอาด เม็ดละเอียด ยามถลาลงจากเนินใหความรูสึกเหมือนเปนจอมยุทธกําลังรอนลงมาเลย...

เราอานนิยายเร่ืองโกบี ตั้งแตสมัยมัธยม อยากเห็นทะเลสาบพระจันทรเส้ียวมาตั้งแตนั้น แตไมเคยคิดวาจะมีจริง หรือยังมีอยู จนกระท่ังมาเห็นรูปทะเลสาบพระจันทรเส้ียวใน TKT นี่

แหละ ทําใหรูวาทะเลสาบนี้มีจริง ๆ นะ ไมใชแคในนิยาย... พอมาถึงแลว

ก็รูสีกวา...ความฝนไมไกลเกินเอ้ือมท่ีเราจะความันไว ถาไดลงมือทําจริง ลงมือออกเดินทาง แคกลาท่ีจะออกกาวเดินจาก comfort zone รอบตัวเราเทานั้น....

ปนมายืนบนเนินทรายหลังอาราม แลวก็เกิดคําถาม....วา...

- นํ้าในทะเลสาบมาจากไหน...เปนแมน้ําใตดิน หรือเปลา...

- ขางบนลมแรงมาก ทรายปลิวฟุงกระจายอยูตลอด เทาท่ีเคยอานเจอ เนินทรายจะเปล่ียนรูปรางเพราะการถูกลมพัด อาว แลวทําไมเนินทรายท่ีนี่ถึงไมขยับออกไปถมทับอารามท่ี

อยูใกลแคเอ้ือม นี่เลยละ..

ใครรูชวยตอบดวยยย.

เราอ่ิมเอมกับทะเลสาบพระจันทรเส้ียวจนเกือบสองทุม ถึงไดออกมาหาแท็กซ่ีกลับท่ีพัก...

ท่ีตุนหวง เราพักกันท่ีนี่...ตามรูป...คาหองคืนละ 60 Y เปนโรงแรมเปดใหม สะอาดดี

Page 20: Silk Road in XinJiang

วันท่ีสิบสาม Dunhuang: ถามอเกาคุน night bus กลับ Urumqi

ตุนหวงเปนอีกหนึ่งเมืองโอเอซิสกลางทะเลทราย กอนถึงเมืองนี้ เราจะเห็นแตทะเลทรายแหงแลง แตพอเขาเขตเมืองก็เร่ิมเห็นตนไปหยางสีเขียว ๆ ....ผูคนท่ีตุนหวงสวนมากเปนจีนฮ่ัน อัธยาศัยดี ผูคนย้ิมแยมแจมใส เปนมิตร

สัญลักษณของเมืองตุนหวงคือรูปปนนางอัปสรากําลังดีดพิณ อยูท่ีบริเวณวงเวียนกลางเมือง

ภาพนางอัปสราดีดพิณเปนภาพท่ีอยูบนผนังของถ้ํามอเกาคุณ

แท็กซ่ีท่ีนี่นารักดี พอเราบอกไมสนใจไปกับเคา เคาก็ไมตื้อ แถมยังบอกทางใหเราอีกดวย...

วันนี้ท้ังวันเราไปท่ีถ้ํามอเกาคุณกันท่ีเดียว ตอนแรกกําลังจะขึ้นน่ังรถเมลสาย 20 ท่ีจอดอยูหนาโรงแรมไปกัน (คนละ 8 Y) แตมีแทกซ่ีเขามาเสนอราคาเหมาให 35 Y พวกเราก็ไปกันนะซิ...ราคาพอ ๆ กัน...น่ังรถออกนอกเมืองไปประมาณคร่ึงชั่วโมงก็ถึงถ้ํามอเกาคุณ

งานศิลปในถ้ํามอเกาคุณยังสวยมาก งานบางชิ้นยังสมบูรณ

คาเขาถ้ําคนละ 80 Y ไมลดราคา…

หมูถ้ํามอเกา เกิดจากการเจาะหนาผาหินทราย ตั้งอยูดานตะวันออกของหมิงซาซาน หมูถ้ํามีแนวยาวประมาณ 12 กิโลเมตร มีถ้ํารวมกัน 492 ถํ้า ในถ้ําตาง ๆ มีท้ังงานจิตรกรรมฝาหนังและรูปปน

ตํานานการสรางหมูถ้ําน้ัน คาดวาสรางครั้งแรกประมาณ คศ. 366 โดยพระเลอจุน จากนั้นบรรดาพอคาวาณิชท่ีคาขายบนทางสายไหมไดขุดสรางถ้ํากันตอมาเร่ือย ๆ

ถ้ํามอเกาน้ีเส่ือมโทรมไปหลังจากราชวงคถังไดเส่ือมลง

จากนั้นประมาณป คศ. 1900 ถ้ํามอเกาท่ีถูกพายุทรายทับถมไดถูกคนพบอีกคร้ังโดยนักพรตช่ือหวังหยวนลู

Page 21: Silk Road in XinJiang

หลังจากนั้นงานพุทธศิลปอันทรงคุณคาท่ีอยูในหมูถ้ําก็ถูกบรรดานักโบราณคดี นักสํารวจชาวตะวันตกขนไปเกือบหมด ถาใครมีโอกาสแวะไป พิพิธภัณฑท่ีอังกฤษ ปารีส บอสตัน หรือแมกระท่ังท่ีญี่ปุน ก็จะมีโอกาสไดเห็นงานพุทธศิลปจากถ้ํามอเกาตนฉบับของจริงแสดงอยู !!!

เย็นนั่งรถบัสจากตุนหวงกลับอุรูมูฉี ระหวางทางมีแตทะเลทราย ไดประสบการณทําธุระจําเปนกลางทะเลทรายก็คราวนี้แหละ..(คารถนอนคนละ 180 Y, 16 ชั่วโมง)

วันท่ีสิบส่ี Urumqi: easy going, shopping

วันนี้กวาท่ีพวกเราจะกลับมาถึงอุรุมูฉี กวาจะเขาท่ีพักท่ีโรงแรมเดิม กันก็บายแลว ขึ้นรถเมล (คนละ 0.5 Y) ไปหาอะไรทานกัน แลวก็นั่งรถเมลสาย 1 ไปหาซ้ือของฝากกันท่ี International Bazar…

ท่ีน่ืลูกเกดตากแหง จากเมืองทูรูฟานหวานและราคาถูกมาก ๆ ราคากิโลละ 35-45 Y เอง...

วันท่ีสิบหา Urumqi-Guangzhou-BKK กลับบานเราจา...