Part of speech

PART OF SPEECH

BY

MISS WAREE ARDKAMON B.ED. 3.4

ID.NO. 5480108426

Part of Speech “ ” แปลวา่ สว่นของคำาพูด หรอื “ ” ชนิดของคำาพูด คำาในภาษาอังกฤษทกุคำาจะต้องเป็นสว่นใด

สว่นหนึ่งของ Part of Speech แบง่ออกเป็น 8 ชนิด ได้แก่1.Noun (คำานาม) คือ คำาท่ีใชแ้ทน คน สตัว์ สิง่ของ สถานท่ี

ความรูส้กึ เป็นต้น 2. Pronoun (คำาสรรพนาม) คือ คำาท่ีใช้ แทนคำานาม

3.Verb (คำากรยิา) คือ คำาท่ีแสดงการกระทำา หรอืบอกสภาวะ4.Adverb (คำากรยิาวเิศษณ์) คือ คำาทีใชข้ยายคำากรยิาวา่ ทำา

เมื่อไหร่ อยา่งไร5. Adjective (คำาคณุศัพท์) คือ คำาท่ีใช้ บอกลักษะคำานาม วา่มรูีปรา่งหน้าตา หรอืลักษณะอยา่งไร

6.Conjunction (คำาสนัธาน) คือ คำาท่ีใชเ้ชื่อมคำา วลี หรอื ประโยคเขา้ด้วยกัน 7.Preposition (คำาบุพบท) คือคำาท่ีใช้

แสดงความสมัพนัธกั์นของคำาหรอืวลีในประโยค8.Interjection (คำาอุทาน) คือคำาท่ีใชแ้สดงความต่ืนเต้น

ตกใจ เจบ็ปวด ความโกรธ เป็นต้น

NOUN คำาท่ีใชเ้รยีกชื่อคน สตัว์ สิง่ของ ทั้งท่ีมรูีปรา่งและไมม่รูีปรา่ง คำานามอาจแบง่

ออกได้เป็นประเภทต่างๆ ดังนี้1)  Singular or Plural คำานามท่ีเป็นเอกพจน์ หมายถึง เพยีงสิง่เดียว เชน่woman, dog เป็นต้น สว่นคำานามท่ีเป็นพหพูจน์จะมจีำานวนสองสิง่ขึน้ไป

 เชน่ women, dogs เป็นต้น2)  Common or Proper   คำานามท่ัวไป เชน่ boy, teacher, table

เป็นต้น และคำานามท่ีเป็น ชื่อเฉพาะจะขึน้ต้นด้วยอักษรตัวใหญ่เสมอ เชน่ Bell, Thailand3)  Concrete or Abstract คำานามท่ีเป็นรูปธรรม หรอืคำานามวตัถเุป็นสิง่

ท่ีจบัต้องได้ เชน่ house, car,  เป็นต้น สว่นคำานามท่ีเป็นนามธรรม หรอือาการ นาม เชน่ idea, happiness เป็นต้น

4)  Countable or Uncountable คำานามนับได้ เชน่ teacher, bird เป็นต้น สว่นคำานามนับไมไ่ด้ เชน่ water, health, เป็นต้น และคำาเหล่าน้ีจะ

ไมม่รูีปพหพูจน์5)  Collective เป็นคำานามท่ีกล่าวถึงสิง่ต่าง ๆ ในลักษณะเป็นกลุ่ม เชน่team, army, committee เป็นต้น

หน้าท่ีหรอืตำาแหน่งของคำานาม1.Subject( ประธาน) เชน่ My dog eats three times a day. 2. Complement (สว่นเสรมิ) หมายถึง คำาท่ีอยูใ่นภาคแสดงซึง่ทำาให้ความ

  หมายของคำากรยิาสมบูรณ์ขึน้ เชน่ Melanie drinks tea in the afternoon. 3) Object of a Preposition(กรรมตามหลังบุพบท)   เชน่ Mr. Jackson and his family live in a condominium. 4) Appositive (คำานามตัวท่ีสองท่ีขยายความคำานามตัวแรกหรอืเป็นการเรยีกขานอีกชื่อหน่ึง) เชน่ Mr. Smith , our foreign specialist , is very hard-working.                          

PRONOUN คือ คำาท่ีใชแ้ทนคำานาม แบง่ออกได้เป็น 7 ประเภทดังนี้คือ

1)Personal Pronoun คือ คำาสรรพนามท่ีใชแ้ทนบุคคล เชน่ The teacher asked us to participate in a forum. 2) Demonstrative Pronoun คือ คำาสรรพนามท่ีแสดงการชีเ้ฉพาะ

ได้แก่ this, that, these และ those เชน่This is his new pocketbook. 3) Indefinite Pronoun คือ คำาสรรพนามท่ีไมช่ีเ้ฉพาะ เชน่ Nobody is perfect. 4) Relative Pronoun คือ คำาสรรพนามท่ีใชเ้ชื่อมประโยคยอ่ยไมอิ่สระเขา้

กับคำานาม หรอืสรรพนามอ่ืนท่ีต้องการขยาย ได้แก่ who, whom, whose, which และ that เชน่ My niece who is married to a vet is going to have a baby. 5) Reflexive and Intensive Pronoun คือ คำาสรรพนามท่ีใชเ้มื่อ

ประธานและกรรมเป็นคนเดียวกัน หรอืสิง่เดียวกัน ได้แก่ myself, yourself, himself, herself, เมื่อทำาหน้าท่ีเป็นกรรม หรอืสว่นเสรมิประธาน จะเรยีกวา่reflexive pronoun เชน่ She cut herself when cooking. เมื่อ

ทำาหน้าท่ีเป็น appositive เพื่อเป็นการเน้นประธาน จะเรยีกวา่ intensive pronoun เชน่ I did this myself. 6) Interrogative Pronoun คือ คำาสรรพนามท่ีใชใ้นการถามคำาถาม เชน่who, which , what เชน่ Who wrote Harry Potter ? 7) Reciprocal Pronoun คือ คำาสรรพนามท่ีใชแ้สดงวา่บุคคลหรอืสิง่นัน้

กระทำาหรอืรูส้กึเชน่เดียวกันต่อกัน เชน่ Romeo and Juliet love each other so much.                                        

การใชรู้ปต่างๆ ของคำาสรรพนามในภาษาอังกฤษมอียูด้่วยกัน 3 รูป คือ

                    subjective ( รูปท่ีเป็นประธาน)                    possessive ( รูปท่ีแสดงความเป็นเจา้ของ)                     objective ( รูปท่ีเป็นกรรม) ดังแสดงในตาราง

Subjective Case

Possessive Case Objective Case

Singular I he, she, it

my, mine his, her, hers, its

me him, her, it

Plural we they

our, ours their, theirs

us them

Singular or Plural

you who

your, yours whose

you whom

หน้าท่ีหรอืตำาแหน่งของคำาสรรพนาม1) ประธาน เชน่They save hundreds of lives. 2) กรรมตรง เชน่I'll call you after the meeting. 3) กรรมรอง เชน่The teacher gave her an assignment. 4) กรรมตามหลังบุพบท เชน่All Thai people pray for him . 5)  สว่นเสรมิประธาน A:  May I speak to Ms. Ananya?  B:  This is she .

VERB คือ คำาท่ีแสดงอาการ การกระทำา หรอืบอกสภาพของประธานของประโยค แบง่

ออกได้เป็น 3 ประเภทคือ1)  Main Verb คือ กรยิาแท้ หรอืกรยิาหลักของประโยคซึง่แบง่ออกเป็น     -Transitive Verb  คือ กรยิาท่ีต้องการกรรม เชน่ We eat fruit before a meal.       -Intransitive Verb คือ กรยิาท่ีไมต้่องการกรรม แต่อาจมสีว่นขยาย

หรอืไมก็่ได้ เชน่Alan always swims with his sons.        -Linking Verb คือ คำากรยิาท่ีเชื่อมประธานกับสว่นเสรมิประธานซึง่อาจ

เป็นคำานาม หรอื คำาคณุศัพท์ เชน่ All passengers remain calm. 2) Auxiliary or Helping Verb คือกรยิาชว่ยท่ีใชป้ระกอบคำากรยิาแท้

หรอืกรยิาหลัก ได้แก่ BE, DO และ HAVE ในรูปต่างๆคำากรยิาเหล่านี้อาจเป็น ได้ท้ังกรยิาแท้ และกรยิาชว่ย เชน่

                          Sam is in the park. (main)                            Sam is jogging in the park. (auxiliary) 3) Modal Verb คือ กรยิาชว่ยประเภทหน่ึงท่ีทำาให้กรยิาแท้มคีวามหมายแตก

ต่างกันไป ได้แก่ can, should, will คำากรยิาประเภทนี้จะใชน้ำาหน้าคำากรยิา แท้ซึง่อยูใ่นรูป V base form เชน่

                                              They will buy a piece of land in Nan.                                               Ann can speak many languages.

ADVERB คือ คำาท่ีใชข้ยายคำากรยิา คำาคณุศัพท์ คำากรยิาวเิศษณ์อ่ืน หรอืประโยค

แบง่ออกได้เป็น 8 ประเภทดังนี้1) Adverb of Manner (คำากรยิาวเิศษณ์บอกอาการ) beautifully, quickly, safely เชน่ Jane sings beautifully . 2) Adverb of Place (คำากรยิาวเิศษณ์บอกสถานท่ี) here, there, upstairs, downstairs เชน่ Jane sings here . 3) Adverb of Time (คำากรยิาวเิศษณ์บอกเวลา) today, tomorrow, recently เชน่ Jane will sing tomorrow . 4) Adverb of Degree (คำากรยิาวเิศษณ์บอกระดับ)very, quite, fairly เชน่Jane sings very beautifully. 5) Adverb of Frequency (คำากรยิาวเิศษณ์บอกความถ่ี) always, occasionally, seldom, rarely เชน่ Jane occasionally sings on stage. 6) Focus Adverb (คำากรยิาวเิศษณ์เน้นคำาหรอืขอ้ความ) only, really, too เชน่Jane sings only on special occasions. 7) Viewpoint Adverb (คำากรยิาวเิศษณ์บอกทัศนคติ) generally, hopefully, clearly เชน่ Hopefully , Jane will sing tonight. 8) Conjunctive Adverb (คำากรยิาวเิศษณ์เชื่อมความ) moreover, as a result, however เชน่ Jane's voice is very beautiful; as a result , her parents want to send her to a singing class.        

 ตำาแหน่งของคำากรยิาวเิศษณ์1) ต้นประโยค เชน่ Today , the world has changed a lot. 2) หน้ากรยิาชว่ย หรอืกรยิาแท้ เชน่ Mark seldom drinks alcohol. 3) หน้าคำาคณุศัพท์ หรอื past participle เชน่ The restaurant is terribly busy today. 4) หลังกรยิาชว่ยคำาแรก ถ้ามมีากกวา่หน่ึงคำา เชน่ The show can only be seen until the end of the week.5) หลัง BE เมื่อเป็นกรยิาแท้ เชน่ That prisoner is clearly innocent.  6) หลังคำากรยิา เชน่ The manager walked quickly to the bank. 7) หลังกรรม เชน่ My boss read a report quietly . 8) หลังส่วนเสรมิ เชน่ Her grandmother has been ill lately . 9) ท้ายประโยค เมื่อเป็นคำากรยิาวเิศษณ์บอกอาการ สถานท่ี และเวลา เชน่Please send this patient to an emergency room immediately .   รูปของคำากรยิาวเิศษณ์ คำาท่ีลงท้ายด้วย - ly สว่นใหญ่มกัเป็นคำากรยิา

วเิศษณ์ คำาเหล่านี้มาจากการเติม -ly ขา้งท้ายคำาคณุศัพท์นัน่เอง เชน่                  slow   -->  slow ly                 polite  -->   polite ly                 careful  -->  careful ly                   easy  -->  eas ily ( เปล่ียน y เป็น i ก่อนเติม - ly)          อยา่งไรก็ตาม ยงัมคีำาบางคำาท่ีลงท้ายด้วย - ly แต่เป็นคำาคณุศัพท์ เชน่friendly, womanly, manly, untimely  ดังนัน้จงึควรระมดัระวงัใน

การใชค้ำาให้ถกูต้องด้วย

ADJECTIVE คือ คำาท่ีใชข้ยาย บรรยาย หรอืประกอบคำานาม หรอืสรรพนามให้มคีวาม

  หมายชดัเจนขึน้ คำาคณุศัพท์สามารถอยูใ่นตำาแหน่งต่าง ๆ ได้ดังนี้1. หน้าคำานาม เชน่ My favorite movie of all times is Gone with the Wind . 2.  หลังคำากรยิา BE และกรยิาเชื่อมต่าง ๆ เชน่ Those flowers are beautiful and expensive . 3.  หลังกรรม โดยทำาหน้าท่ีเป็นส่วนเสรมิกรรมซึง่อาจเป็นคำานาม หรอื

สรรพนาม เชน่ Jo always makes me happy . 4. หลังคำานาม ในกรณีท่ีมมีากกวา่หน่ึงคำา โดยมกัมเีครื่องหมาย comma ค่ัน

อยูห่น้าและหลังคำาคณุศัพท์นัน้ ๆ ด้วย เชน่ The house , small and cozy , belongs to Antonio and Melanie.          

ขอ้สงัเกตคำาคณุศัพท์จะ ไมเ่ปลี่ยนรูป ไปตามคำานาม กล่าวคือ จะไมเ่ติมs ในกรณีท่ีใชข้ยายคำานามพหพูจน์ เชน่                  This is an easy question .                    These are easy questions .        

PREPOSITION คือคำาท่ีใชแ้สดงความสมัพนัธกั์นของคำาหรอืวลีในประโยค แบง่เป็น

ประเภทต่าง ๆ ดังนี้- คำาบุพบทบอกสถานท่ี เชน่ at, on, in, etc. Jane is at home.

- คำาบุพบทบอกตำาแหน่ง เชน่ above, beneath, behind, in front of, etc. There is a big tree in front of Jane’s house.

- คำาบุพบทบอกการเคลื่อนไหว เชน่ through, into, towards, away from, etc. Ann is driving into the parking lot.

- คำาบุพบทบอกทิศทาง เชน่ up, down, across, along, etc. Susan is driving up the hill.

- คำาบุพบทบอกเวลา เชน่ on, in, at, by, after, before, etc. I play football on Monday.

- คำาบุพบทบอกลักษณะอาการ เชน่ in, with, without, etc. Ann speaks in a very low voice.

- คำาบุพบทบอกความสมัพนัธ์ เชน่ about, of, with, in, from, etc. Bangkok is the capital of Thailand.

CONJECTION คือ คำาท่ีใชเ้ชื่อมคำา วลี หรอืประโยคเขา้ด้วยกัน เชน่

ประโยคต่อประโยค I study English, but he studies French.

คำานามต่อนาม A boy and a girl are dancing. กรยิาต่อกรยิา He comes and stays with me at home.

Conjunction แบง่ออกเป็น 2 ชนิดคือConjunction คำาเดียว เชน่ and, or, but, so, as, because, for, whether, until, after, before2. Conjunction วลีหรอืผสม เชน่ either.....or , neither.....nor , as well as , not only.....but also

INTERJECTION คือ คำาท่ีแสดงอารมณ์ความรูส้กึหลากหลาย มกัใชใ้นภาษาพูด ถ้าเป็นการ

เขยีนสว่นใหญ่มกัมเีครื่องหมายอัศเจรยี์ (!) กำากับอยูด้่วย อาจเป็นคำาเพยีงคำา   เดียวหรอืสองคำาท่ีอุทานออกมา หรอือาจขึน้ต้นประโยคก็ได้ แมว้า่จะตัดคำาอุทาน

ออกไป ประโยคนัน้ก็ยงัคงเป็นประโยคท่ีสมบูรณ์ เน่ืองจากคำาอุทานน้ีไมม่สีว่น สมัพนัธท์างด้านไวยากรณ์กับส่วนท่ีเหลือของ ประโยคซึง่เป็นสิง่ท่ีแตกต่างจาก

  คำาประเภทอ่ืน ๆ เชน่ "Ah, that feels good.“"Alas, she's dead now." "Oh dear! Does it hurt?“"Hey! look at that!" "Hmm. I'm not so sure." "Well I never!" "Oh! You're here!" "Shall we go?" "Uh-huh." “Wow! She looks gorgeous.” "Uh...I don't know the answer to that."

THANK YOU VERY MUCH