JavTarn MagzaZine issue2

จาวตาลฉบับที่ 2 ปีการศึกษา 2553 สโมสรนิสิต คณะวิศวกรรมศาสตร์

ทีมงานจาวตาลบรรณาธิการ : ไผ่

คอลัมน์นิสต์ : ไผ่, นิค, เอ็ม

Artwork : อ๊อฟ

ช่างภาพ : ป่าน, กว้าง

ผู้ช่วนนานัปการ : เต้, กว้าง, เอ็ม, พราว, เอดดี้

Trandition Running E66 (See Page 10)

3 EditorTalk4 Calendar5 ถนนสายที่ชื่อว่า“วิศวะ” กับพี่อำานวยเนตยสุภา7 Talkwithbachelor10 Activities13 ม.ล.ชูชาติกำาภู กับเรื่องราวที่ควรค่าแก่การจดจำา19 TechnoFocus กับทีมSKUBA21 IN-DEPTH กับอ.ชาญเวชศีลพิพัฒน์23 IntaniaCheer25 เทคนิคการคลายเครียด26 วิธีดูแลสุขภาพในช่วงหน้าฝน27 คำาคม

จาวตาล 2

CONTENT Page Topic2nd issue / 2010

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 3

EDITOR TALK มาพบกันอีกแล้วนะคะกับวารสารจาวตาลเล่มที่2ของปีนี้นะคะสำาหรับเล่มนี้เจ้

ก็ได้พยายามอย่างสุดฤทธิ์ในการหาเรื่องมานำาเสนอให้เพื่อนพี่น้องของเจ้ได้อ่านกันนะค่ะ

เนื่องด้วยวันอาทิตย์ที่1สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นวันสถาปนาของคณะ

วิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ของเราและเพื่อเป็นการเชิดชูครูปูชนียบุคคลม.ล.ชูชาติกำาภูบิดา

แห่งชลกรผู้ก่อตั้งคณะวิศวกรรมให้เราทุกคนได้ศึกษาหาความรู้กันอยู่ทุกวันนี้เจ้ก็ได้

เล่าประวัติและการถือกำาเนิดคณะฯไว้ในเล่มนี้

ในเล่มนี้เจ้ยังได้นำาเรื่องเล่าจากพี่ๆทั้งที่จบไปนานแล้วและที่เพิ่งจบแบบสดๆ

ร้อนๆมาเม้าท์ให้ทุกคนได้ทราบกันและก็ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นจาวตาลเล่ม2นี้ยังมี

เนื้อหาที่เจ้คิดว่าใครๆหลายคนสงสัยมานานแต่ยังหาคำาตอบไม่ได้เจ้ในฐานะที่เป็นสื่อ

คนหนึ่งนะค่ะจะขอชี้แจ้งแถลงไขให้ทุกคนได้กระจ่างแจ้งแจ่มชัดลงลึกไปถึงอณูกันเลย

ทีเดียวและวารสารขอเจ้จะมีอะไรนิดๆหน่อยๆไม่ได้อย่างแน่นอนเจ้ได้ไปขุดหาเรื่อง

ต่างๆมาให้อ่านกันอย่างมากมายซึ่งเจ้เองก็ไม่ลืมที่จะหาเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพมานำา

เสนอให้ทุกคนได้นำาไปใช้กันหลังประกาศคะแนนสอบกลางภาคที่ผ่านมาและปลายภาคที่จะ

ถึงนี้ไม่แน่อาจจะได้ใช้วิธีที่เจ้ได้นำาเสนอไว้ก็เป็นได้นะค่ะ

สุดท้ายยยยย!!!เจ้ก็ขอฝากจาวตาลเล่มนี้ไว้อีกสักเล่มนะคะแล้วหากมีใคร

อยากให้เจ้นำาเสนอเรื่องอื่นๆที่คิดว่าพี่น้องของเราสนใจและอยากรู้ก็สามารถบอกเจ้มา

ได้นะค่ะสำาหรับเล่มนี้เจ้ก็ขอลาก่อนนะคะหวังว่าคงจะถูกใจกันไม่น้อยนะคะบาย..บ๊ายค่า

เจ๊ ใหญ่บรรณาธิการ

SEPTEMBER - OCTOBER 2010CaLEnDAR

10 - 12 September

เกียร์มะนุด

13 - 26 September

ประเมินอาจารย์

27 September - 8 October

สอบปลายภาคเรียนที่ 1

10 - 24 October

วิศวะดงตาลอาสาพัฒนาฯ ครั้งที่ 11

20 - 22 October

ดงตาลแคมป์ ครั้งที่ 6

สามารถติดตามข่าวสารของสโมฯ อย่างละเอียดและใกล้ชิดได้ที่ http://www.eng.ku.ac.th และ

Facebook ของสโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์

จาวตาล 4

จบเมืองนอกมามีผลกับการสมัครงานไหมครับ

ก็มีผล อย่างน้อยเค้าก็คิดว่าภาษาอังกฤษเรา

เปรี้ยวอ่ะ

ผมเคยได้ยินมาว่า ความรู้ที่เราเรียนใน

มหาวิทยาลัย เมื่อจบมาทำางานไม่ค่อยได้ใช้

สำาหรับพี่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาไหมครับ

ได้ใช้ๆ คือเราได้ใช้แน่นอน อย่ามาบอกว่าเรา

ไม่ได้ใช้เลย ความรู้ที่เรียนไปก็จะเป็นพื้นฐาน แต่

ตอนทำางานเราก็ต้องประยุกต์ใช้ บางทีการเรียน

แบบวิศวะมันก็สอนให้เรารู้จักคิด แก้ปัญหา

ชีวิตในมหาวิทยาลัยของพี่เป็นอย่างไรบ้างครับ

ผมก็เรียนไปด้วยทำากิจกรรมไปด้วยอ่ะนะ

ตอนปี 2 ผมก็เริ่มเป็นสตาฟฟ์เชียร์ พอมาปี 3 ผม

ก็เป็นรองประธานเชียร์ ปี 4 เป็นประธานเชียร์ คือ

ชอบด้านนี้อยู่แล้ว เพราะเราอยากทำากิจกรรม คือ

เรียนเฉยๆมันไม่สนุก และเมื่อผมจบมา ผมก็ต้อง

ใช้ทุน 3 ปี คือตอนที่เรียน ผมเป็นนักเรียนทุน ผม

จึงต้องทำางานราชการใช้ทุนอยู่ที่กองออกแบบ

กรมชลประทาน เมื่อผมทำางานได้ 2 ปี ผมขอออก

ภาคสนาม แต่เจ้านายก็ไม่ยอมให้ออก ผมจึงขอ

เรียนต่อปริญญาโท แต่เจ้านายก็ผมบอกว่า “งาน

ยังเยอะ อย่าพึ่งเลย” ดีที่มีเพื่อนที่อยู่อเมริกาแล้ว

เขียนจดหมายมาชวนผมไปเรียนต่อปริญญาโทที่

อเมริกา เรียนแบบเรียนไปทำางานไป ผมจึงตัดสิน

ใจลาออกไปเรียนต่อที่อเมริกา ไปเรียนต่อทาง

ด้านโครงสร้าง ที่เทกซัส

พี่ครับแล้วที่อเมริกาเรียนยากกว่าเมืองไทยไหม

ครับ

คณิตศาสตร์ง่าย เราสู้ได้ ผมยืนยันเลย แต่มี

เรื่องภาษาที่ต้องฟังให้ได้ ซึ่งผมเน้นมากทุกครั้ง

ที่ผมเป็นวิทยากร ผมจะเน้นน้องๆเรื่องนี้เป็น

ประจำา เพราะสมัยก่อนเรายังไม่ค่อยได้ติดต่อกับ

ต่างประเทศเท่าไร แต่ปัจจุบันบริษัทไทยไปทำาที่

ต่างประเทศมากขึ้น เวลาประชุมจะมีปัญหาเพราะ

ถึงแม้ว่าเราจะเก่งขนาดไหน แต่ถ้าเราประชุมไม่รู้

เรื่องก็ทำางานไม่ได้

“ถนนสายที่ชื่อว่า วิศวะ” พบกับ พี่อำานวย เนตยสุภา

ศิษย์เก่ารุ่น E24 ซึ่งปัจจุบันดำารงตำาแหน่งกรรมการผู้

จัดการใหญ่ บริษัท Can do construction จำากัด ซึ่งเป็น

บริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ ผลงานต่างๆ เราคงจะ

คุ้นเคยกันดี แต่ยังไม่ทราบ เช่น อาคารจอดรถ ห้องสมุด

ตึกคณะเกษตร ศร.4 และอีกหลายตึกที่กำาลังก่อสร้าง

และนี่ก็คือบทสัมภาษณ์สุดพิเศษของพี่อำานวย ที่นำามา

ฝากนิสิตทุกคนครับ

ถนนสายที่ชื่อว่า “วิศวะ”อำานวย เนตยสุภา

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 5

กลับมาเมืองไทยแล้ว พี่เป็นอย่างไรบ้างครับ

ผมได้ทำางานที่อสท. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

เกี่ยวกับ การทำาแผนแม่บท คือผมไม่ได้ลงไปสร้าง

ตึก แต่ลงไปศึกษาแหล่งท่องเที่ยวว่าจะวางแผน

การท่องเที่ยวอะไร จะพัฒนาอะไรได้บ้าง ระบบ

สาธารณูปโภคจะเป็นเช่นไร น้ำาประปา น้ำาเสีย มา

จากไหนกำาจัดอย่างไรถึงจะถูกต้องและเหมาะสมกับ

ปริมาณประชากรทั้งนักท่องเที่ยวและคนพื้นเมือง

การก่อสร้างรีสอร์ท โรงแรมควรเป็นเช่นไรผมทำางาน

ที่นี่ได้ 2 ปีก็รู้สึกอยากจะรวยขึ้นมาบ้าง เพราะเป็น

ราชการจะให้มาร่ำารวยก็คงจะยาก จึงลาออกไปทำาโรง

เลื่อยกับพี่ชาย ที่ไปลงทุนด้านป่าไม้อยู่หลายปี ผมจึง

ออกมาตั้ง Can do construction

การที่เราเป็นวิศวกรแล้ว วันหนึ่ง เรากลายมาเป็นผู้

บริหาร พี่ต้องปรับตัวอย่างไรบ้างครับ

ผมถือว่าผมโชคดีที่มาอยู่ที่วิศวะเกษตร ผมเป็นนัก

บริหารตั้งแต่เรียนหนังสือโดยที่ผมไม่รู้ อย่างเช่น

ตอนเป็นประธานเชียร์ ผมก็ต้องบริหารน้องๆ และ

บางทีก็ต้องมีการแก้ปัญหา เช่น ถ้ารุ่นน้องหนีจะแก้

อย่างไร ที่สำาคัญต้องกล้าตัดสินใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำาให้

ผมรู้สึกภูมิใจและดีใจมาก ที่ติดเกษตร การบริหารนั้น

เราเริ่มจากเล็กไปหาใหญ่ เราต้องมองธุรกิจตรงนี้ให้

ออก เราไม่ได้มาถึงทำาใหญ่เลย เราทำางานจะต้องรู้จัก

แบ่งงาน แบ่งเวลา และแบ่งเงิน คนที่ทำางานกับเรามา

นานๆเราก็ควรที่จะมีผลตอบแทน เพื่อที่จะซื้อใจเขา

ไว้ ของผมนั้นผมแบ่งหุ้นให้เขาตามความเหมาะสม

และที่สำาคัญเราต้องรู้จักจัดการกับเวลา

“ผู้บริหารที่ดีต้องเป็นผู้จัดเวลาที่ดีด้วย”

มาถึงคำาถามสุดท้ายแล้วนะครับ พี่อยากฝากอะไรถึง

น้องๆ ที่อยากประสบความสำาเร็จเหมือนพี่ครับ

ผมไม่ใช่ลูกเศรษฐี เรียกได้ว่าเป็นลูกคนจนเลยก็ว่าได้

และที่ผมมีวันนี้ ได้มาอยู่ตรงนี้ เพราะการตั้งใจเรียน

หนังสือและทำากิจกรรมร่วมกัน จึงทำาให้ผมประสบความ

สำาเร็จ นักบริหารที่ดีต้องจัดเวลาได้ และอีกอย่างคือ

ความขยัน ไม่ว่าเราทำาอาชีพอะไร เราต้องขยัน รวม

ทั้งติดตามความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ มองโลกในแง่ดี

เช่นเราต้องมองเพื่อนร่วมงานในแง่ดีก่อน คือเราต้องมี

มนุษยสัมพันธ์ที่ดี แล้วคุณก็จะประสบผลสำาเร็จ ความ

เป็นผู้นำาทุกคนมีในตัว เพียงแต่จะนำามันมาใช้หรือไม่

รวมทั้งต้องกล้าที่จะตัดสินใจ การตัดสินใจนั้นไม่ใช่ว่าจะ

ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่าผิดบ่อยเท่านั้นเอง

จาวตาล 6

TALK WITHbachelor

“นางสาว เพ็ญพร กออนันตกูล (แก้ว)”จบจากภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์

รุ่น E62 CPE20

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 7

คอมพิวเตอร์มันมีเสน่ห์ตรงไหนครับ : พอดีตอนม.ปลาย

มีรุ่นพี่มาชวนเข้าค่ายสสวท. ก็เลยสนใจ เลยลองเข้า

ค่ายดูแล้วก็ติด 25 คนสุดท้าย เขาเลยให้โควตามาเข้า

วิศวะคอมที่นี้ แต่พี่ก็ชอบคอมพิวเตอร์นะ ชอบมาตั้งแต่

ม.4 แล้ว

ตอนพี่อยู่มหาลัยพี่ทำากิจกรรมอะไรบ้าง : ส่วนใหญ่พี่จะ

ทำากิจกรรมเยอะกว่าเรียนนะ พี่ก็ทำากิจกรรมของภาคกับ

กิจกรรมของโต๊ะ พวกงานรับน้อง และตอนปี 3 พี่ก็ทำา

ค่าย Cubic creative เกี่ยวกับการฝึกความคิดสร้างสรรค์,

ค่ายอบรมทาง IT, ค่ายถ่ายรูป แล้วพี่ก็เคยเป็นตัวแทน

ประเทศไปแข่ง Microsoft Excel ที่ฮาวายได้แชมป์โลกอะ

ได้ติดป้ายห้อยอยู่หน้าคณะครึ่งปี 555

พี่เรียนจบด้วยเกรดเท่าไรครับ :

พี่มีเคล็ดลับอะไรบ้างในการเรียนให้ได้ดี : ก็ทำาการบ้าน

ด้วยตัวเองทุกครั้ง ต้องพยายามทำาความเข้าใจด้วยตัว

เอง และตั้งใจเรียนตอนที่อาจารย์สอน

จบมาทำางานเลยหรือเปล่าครับ : อ๋อ... พี่กำาลังสมัคร

เรียนปริญญาโทที่ต่างประเทศอยู่ แต่ตอนนี้ก็เป็นผู้ช่วย

วิจัยอยู่ที่สถาบัน AIT พี่เขียนโปรแกรมลงการ์ดจอ ช่วย

พี่ๆ ที่กำาลังทำาวิจัยปริญญาโท ปริญญาเอก

พี่คิดว่าที่เรียนมาได้ใช้ในงานมากหรือน้อยแค่ไหน :

วิศวะคอมจะเป็นการสอนทฤษฎีและเทคนิค แต่เราต้อง

นำามาดัดแปลงเอาเองในการทำางาน

พี่คิดจะเรียนต่อปริญญาเอกไหม : คิด แต่ยังไม่ได้เลือก

ว่าจะเรียนอะไร

ถ้าสมมุติว่าพี่จบปริญญาแล้ว พี่จะทำาอะไรต่อ : มีหลาย

คนบอกว่าจบมาแล้วก็มาเป็นอาจารย์ที่ภาคเลยซิ แต่พี่

ก็เคยคิดอยากจะไปทำางานที่ Google อยากรู้ว่าเขาเป็น

อย่างไรกัน

ส่วนใหญ่เพื่อนพี่ที่เรียนจบไปทำางานต่อหรือเรียน : ส่วน

ใหญ่ก็ทำางานเลย หาคนเรียนต่อยากมาก บางคนก็ไป

ทำางานที่รอยเตอร์ ทำางานแบงค์ หรือไม่ก็ทำาในบริษัทที่

เขารับเขียนโปรแกรม ไม่ก็ทำางานอิสระ

ชีวิตในรั้วมหาลัยตลอด 4 ปีของพี่เป็นอย่างไร : พี่ก็ชอบ

นะ ถึงแม้วันๆ พี่จะอยู่แต่แถวตึกคอม พี่มองว่าถ้าเรา

อยู่ที่อื่นก็คงแข่งขันกันมากกว่านี้ แต่นี้ดูเป็นครอบครัวดี

เพื่อนๆ รักกันช่วยเหลือกัน อบอุ่นดี

3.99

จาวตาล 8

ทำาไมถึงเข้าวิศวะเคมี ที่เกษตร : พี่ชอบวิศวะค่ะ พี่ว่า

มันเหมาะกับพี่ดี พี่เป็นคนที่กระตือรือร้นอยู่แล้วก็เลย

น่าจะเหมาะกับวิศวะ

พี่จบมาด้วยเกรดเท่าไรครับ : 3.26

พี่ครับ พี่ช่วยเล่าให้ฟังได้ไหมครับว่า 4 ปีที่อยู่ ณ คณะ

วิศวกรรมศาสตร์แห่งนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ :

ตอนปี 1 มันก็มีกิจกรรมเยอะมาก แต่ขณะเดี๋ยวกันก็มี

เวลาว่างเยอะ พี่ก็เลยเอาเวลานี้ตั้งใจอ่านหนังสือ พอ

มาปี 2 เรียนก็ยากขึ้น เวลาว่างก็น้อยลง แต่กิจกรรม

ที่พี่ทำาส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ตอนช่วงเย็นๆ หลังเลิกเรียน

และเมื่อขึ้นมาปี 3 พี่ก็เป็นสโมฯ เป็นเหรัญญิก งาน

ยุ่งมาก เหนื่อยมากๆเลย เรียนก็หนักด้วย เกรดพี่เลย

ห่วยแตกแบบมากๆ พี่จึงต้องขยันเรียนมากขึ้นและก็

ต้องแบ่งเวลาให้ดีขึ้น ตอนปี 4 พี่ก็เป็นสตาฟฟ์เชียร์

ด้วย คือเวลาเราทำากิจกรรมแล้วมันตรงกับเวลาเรียน

พี่ก็โดดเรียนนะ แต่โดดเรียนแล้วก็ให้เพื่อนมาสอนให้

ทีหลังแล้วเราก็ต้องทำาการบ้านเอง ถ้าทำาไม่ได้ก็ลอก

เพื่อนบ้างอ่า 555 พี่ว่าการทำากิจกรรมมันได้อะไรเยอะ

นะ เพราะทำาสโมฯมันเหมือนเราได้ทำางานจริงๆ ได้เจอ

คนหลายประเภท มันช่วยสร้างสังคมให้เราได้เยอะ

แล้วพี่อ่านหนังสือย่างไรครับ

ส่วนใหญ่เมื่อพี่ว่างมา พี่ก็จะเอาสมุดที่จดมาอ่านแล้ว

เขียนเรียบเรียงใหม่อ่า มันเป็นเหมือนการทวนไปใน

ตัว แล้วเวลาใกล้สอบก็ต้องทำาข้อสอบเก่า

และเมื่อพี่จบ พี่หางานอย่างไรครับ

Job Fair เลย มันดีนะ สำาคัญมากๆพวกพี่แล้วก็เพื่อนๆ

ก็ได้งานจาก Job fair นี้แหละ เวลามีงานนะ เราก็

ต้องเตรียมทรานสคริป รูปถ่ายเยอะๆเลย เยอะมากๆ

แล้วก็ยื่นใบสมัครไว้ให้หมด ที่ดีๆอีกอันก็สมัครงาน

ในเวปไซค์ แต่ส่วนใหญ่ก็จะได้ใน Job fair นะ แล้วเมื่อ

เราส่งไป ถ้าเขาสนใจ บริษัทจะเรียกเราไปสัมภาษณ์

บ้างที่สัมภาษณ์เป็นภาษาไทย แต่บ้างที่ก็เป็นภาษา

อังกฤษ เขาจะถามคำาถามมา เราก็ต้องพยายามตอบ

ให้ได้ ถ้าไม่ได้จริงๆก็อย่าไปโกหกเขา พยายามตอบให้

เราดูดีที่สุด

พี่ทำางานที่ไหน แล้วงานเป็นอย่างไรบ้างครับ

พี่ทำาที่บริษัท พีเอสพี พี่ทำาตำาแหน่ง Planning engineer

จะทำาหน้าที่วางแผนการผลิตทั้งหมดของโรงงาน แต่

พี่ก็ยังเป็นแค่เด็กใหม่อ่า ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ

บริษัทที่พี่ไปทำาเขาจะทำาเกี่ยวกับน้ำามันหล่อลื่น น้ำามัน

เครื่อง จาระบี เป็นคลังเก็บน้ำามันให้กับ ปตท. เอสโซ่

แล้วก็เชฟรอนอ่า

พี่อยากจะฝากอะไรถึงน้องๆที่กำาลังเรียนอยู่บ้างครับ :

การเรียนไม่ใช่ทุกสิ่ง เราต้องรู้จักทำากิจกรรมบ้าง

เพราะมหาวิทยาลัยได้เตรียมกิจกรรมไว้ให้ เพื่อผ่อน

คลายอยู่แล้ว และการทำากิจกรรมก็ยังเป็นการฝึกให้

รู้จักเข้าสังคมไปในตัว และที่สำาคัญคือ

“การทำาให้ตัวเองมีความสุข”

นางสาววิรัตตา ลีลาประเทือง (ยี้)จบจากภาควิชาวิศวกรรมเคมี

รุ่น E62 CHEM18

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 9

Trandition running E66

3 July 2010

จาวตาล 10

ภาพวันดงตาลสัมพันธ์วันที่ 1 สิงหาคม 2553

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 11

ภาพวันสถาปณาคณะ (เปิดอนุสาวรีย์)วันที่ 1 สิงหาคม 2553

จาวตาล 12

เนื่องในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นวันสถาปนาคณะวิศวกรรม ผู้เขียนจึงขออนุญาตนำาเรื่องราวของ ม.ล.ชูชาติ กำาภู และที่มาของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มานำาเสนอให้เพื่อนพี่น้องได้รับทราบกัน

ม.ล.ชูชาติ กำาภูกับเรื่องราวที่ควรค่าแก่การจดจำา

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 13

ม.ล.ชูชาติ กำาภูเป็นผู้รักงานเป็นชีวิตจิตใจ ท่าน

เป็นคนมีความสุข เมื่อได้เห็นผลสำาเร็จของงาน ส่ง

ผลให้งานของท่านก้าวหน้าไปได้ด้วยดี จึงได้รับพระ

มหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำารงตำาแหน่ง

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติถึง

2 สมัย ท่านมีส่วนร่วมสำาคัญในการวางระบบการ

ชลประทานในประเทศไทยทั้งหมด และท่านยังได้เป็นที่

ปรึกษาของธนาคารโลก รองประธานคณะกรรมาธิการ

ชลประทานและระบายน้ำาระหว่างประเทศ อธิการบดี

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย ชนิด

ที่เรียกกันว่าเขียนกันสามหน้าก็ยังไม่หมด

ตลอดเวลา 36 ปีในการรับราชการของท่าน

ทำาให้ท่านได้สร้างคุณูปการต่อแผ่นดินอย่างมากมาย

จนกระทั่งวันที่ 13 เมษายน 2512 เราก็ได้เสียผู้

สร้างสรรค์ผลงานล้ำาค่าไปด้วยอายุเพียง 64 ปี แม้ว่า

ท่านจะจากไป แต่คุณงามความดีและผลงานของท่านก็

ยังคงประจักษ์ชัดแก่คนรุ่นหลังเสมอมา

กว่า 40 ปีของการจากไปของท่าน เหล่าลูกศิษย์

ทั้งหลายก็ยังมิลืมเลือนถึงความสามารถและการเป็น

บุคคลที่ ผู้ใกล้ชิดเรียกว่า “พ่อ”

หม่อมหลวงชูชาติ กำาภ ูเกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม

2448 เป็นบุตรคนโตของพลตรีพระยาสุรเสนา

(ม.ร.ว.ชิต กำาภู) และคุณหญิงผอบ สุรเสนา มีน้องชาย

และหญิงร่วมบิดามารดาอีก 12 คน หม่อมหลวงชูชาติ

กำาภู ได้สมรสกับคุณหญิงโฉมศรี กำาภู ณ อยุธยา มี

บุตรธิดาบุญธรรม 2 คน

หม่อมหลวงชูชาติ กำาภู เริ่มการศึกษาในโรงเรียน

มัธยมวัดเทพศิรินทร ์และสอบชิงทุนเล่าเรียนหลวง

ได้รับทุนเล่าเรียนหลวงให้ไปศึกษาต่อที่ St. Peter’s

School, York, England เป็นเวลา 2 ปี และศึกษาต่อ

ที่ City and Guild’s Engineering College, Lon-

don University เป็นเวลาอีก 5 ปี จึงสำาเร็จการศึกษา

ขั้นปริญญาโททางวิศวกรรมโยธา และเมื่อจบการ

ศึกษา ม.ล.ชูชาติ กำาภูเข้าฝึกงานที่กรมโยธาธิการของ

ประเทศอังกฤษก่อนที่จะกลับเข้ามารับราชการในกรม

ชลประทาน ท่านใช้เวลาเพียง 18 ปี ก็ได้รับการโปรด

เกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำารงตำาแหน่งอธิบดีกรมชลประทาน

ม.ล.ชูชาติ กำาภูได้อุทิศทั้งกำาลังกาย กำาลังใจและกำาลัง

สติปัญญา เพื่อการพัฒนาประเทศไทย โดยเฉพาะอย่าง

ยิ่งการเสริมสร้างกิจการชลประทานของประเทศไทยให้

เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ

จาวตาล 14

“วิศวะดงตาล”จากโรงเรียนเสื่อรำาแพนสู่ปราสาทใหญ่ที่ถูกขนานนามว่า

เขื่อนภูมิพล จ.ตาก

ถูกขนานนามว่า “วิศวะดงตาล” ก็เพราะมันอยู่ในดง

ตาลนี้แหละ เมื่อ พ.ศ.2513 วิศวะดงตาลก็ได้ย้ายมาที่

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์รวมกับคณะอื่นๆ แต่อย่างไร

เราก็ยังเรียกคณะวิศวกรรมของเราว่า “วิศวะดงตาล” อาจ

คงเป็นเพราะเพลงวิศวะดงตาลที่คุ้นหูและยังคงร้องกันได้

จนถึงทุกวันนี้ ...เมื่อเรา อยู่ใน ดงตาล เปรียบปาน อยู่ใน

ปราสาทใหญ่ พี่น้อง ท้องเดียวผูกเกลียวใจ อยู่หอใด รัก

กันมั่นมิคลาย

และจากปราสาทเสื่อรำาแพนหลังนั้นก็กลายเป็น

ปราสาทใหญ่หลังนี้ ที่สร้างชื่อเสียงอย่างไม่เคยหยุดหย่อน

เขื่อนใหญ่ จากการมองการณ์ไกลของม.ล.ชูชาติที่อยากจะ

สร้างเขื่อนขนาดใหญ่ เพื่อจัดการกับที่ราบลุ่มสองฝั่งแม่น้ำา

เจ้าพระยาจึงเกิดโครงการเจ้าพระยาใหญ่ขึ้น แต่เนื่องด้วย

การสร้างเขื่อนนั้นจะต้องใช้เงินจำานวนมหาศาล ความคิด

ของท่านจึงถูกโยนออกนอกหน้าต่างไป จนทำาให้ท่านท้อ

และคิดที่จะลาออก แต่ด้วยเพราะชื่อของท่าน ชูชาติก็ต้อง

คิดแต่เรื่องชูชาติ ท่านจึงมีกำาลังใจที่จะทำาต่อไป

และมาวันหนึ่งโครงการนี้ก็กลับถูกเก็บเข้ามาทาง

หน้าต่าง เพราะความต้องการทางด้านการเกษตรที่ต้องส่ง

ข้าวสารให้พันธมิตรหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ว่าไทย

เรานั้นก็ไม่มีทุนที่หนาขนาดนั้น ท่านจึงทำาเรื่องกู้เงินจาก

ธนาคารโลกมาสร้างเขื่อน แต่การจะสร้างเขื่อนขนาดใหญ่

ก็ไม่ได้ง่ายและจำาเป็นต้องใช้เครื่องจักรและเครื่องมือจาก

จากการที่ท่านได้เข้ารับราชการในกรมชลประทาน

ท่านก็ได้มีความคิดว่า กรมชลประทานยังขาดแคลนกำาลังคน

ที่จะมาทำางานในอนาคต และเรานั้นจะต้องไม่พึ่งพาชาวต่าง

ชาติ ม.ล.ชูชาติจึงริเริ่มที่จะสร้างคนรุ่นใหม่ แต่ติดปัญหา

เรื่องการจัดตั้ง ถึงแม้การจัดตั้งจะไม่เป็นใจ แต่ท่านก็ไม่ได้

ย่อท้อกับอุปสรรค ท่านกลับชักชวนลูกหลานข้าราชการใน

กรมฯที่พอจะมีความรู้มาอบรมสั่งสอนและทำางานไปพร้อม

กับท่านในโครงการนครนายกซึ่งเป็นโครงการที่ท่านกำาลัง

ทำาอยู่ แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล เพราะคนที่เห็นว่าจะใช้ได้มีเพียง

2 คนเท่านั้น

จนกระทั่งวันหนึ่งปัญหาการขาดแคลนกำาลังคนถึง

ขั้นวิกฤต กรมชลประทานจึงอนุญาตให้ท่านสามารถจัดตั้ง

โรงเรียนช่างชลประทานขึ้นซึ่งท่านก็ได้รวบรวมข้าราชการ

ในกรมที่มีความสามารถสอนได้มาเป็นครูสอน ในตอนแรก

โรงเรียนนั้นเป็นเพียงแค่อาคารไม้ที่มุงด้วยเสื่อรำาแพน จน

โรงเรียนแห่งนี้ได้ชื่อว่าโรงเรียนเสื่อรำาแพน ถึงแม้สถานที่

เรียนจะดูอัตคัดไปหน่อย แต่ด้วยความมุ่งมั่นในการสอนของ

ท่านที่ไม่เคยอัตคัดความรู้แก่ลูกศิษย์เลยแม้แต่นิดเดียว จน

กระทั่งในปี 2498 โรงเรียนช่างชลประทานได้เข้ามาอยู่ใน

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นคณะวิศวกรรมชลประทาน

แต่ในขณะนั้นก็ยังไม่ได้ย้ายที่เรียนมาที่บางเขนเฉกเช่นทุก

วันนี้ คณะวิศวกรรมชลประทานยังคงอยู่ที่กรมชลประทาน

ปากเกร็ดริมฝั่งแม่น้ำาเจ้าพระยา ท่ามกลางทุ่งนาและดง

ตาลอันหนาแน่น และเหตุนี้เองคณะวิศวกรรมของเราจึง

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 15

อุโบสถวัดชลประทานรังสฤษฏ์

บูรณะพระบรมบรรพต ภูเขาทอง วัดสระเกศ

“ชีวิตคนคนหนึ่งนั้นยากนักที่จะทำางานทั้งหมดนี้ได้ภายในหนึ่งชีวิต”

(ข้อความบางส่วนคัดลอกและดัดแปลงมาจากหนังสือ “ศรัทธาแห่งชีวิต ม.ล.ชูชาติ กำาภู”)

ต่างประเทศ แต่ด้วยความฉลาดของท่านจึงทำาให้ประหยัด

เงินไปได้หลายสิบล้านบาท และการสร้างเขื่อนก็สำาเร็จไปได้

ด้วยดี แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจสำาหรับ ม.ล.ชูชาติ เพราะเขื่อน

เพียงเขื่อนเดียวก็คงจัดการน้ำาไม่ได้ดีเท่าที่ควร ท่านจึงคิดที่

จะสร้างเขื่อนภูมิพลขึ้น แต่ก็เป็นดังเช่นเคยคือโครงการของ

ท่านไม่ผ่านการอนุมัติ จนกระทั่งความต้องการด้านพลังงาน

ไฟฟ้าในเมืองใหญ่ๆ มีปัญหาเขื่อนภูมิพลก็ได้เกิดขึ้น การ

สร้างเขื่อนภูมิพลนี้ถือว่าเป็นงานยักษ์สำาหรับท่านเลยก็ว่า

ได้ เพราะด้วยขนาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกในตอนนั้น

และจำานวนคนงานที่มากถึงหมื่นกว่าคน วัสดุอุปกรณ์เครื่อง

มือต่างๆ ที่ต้องใช้กลางป่าเป็นจำานวนมากจึงทำาให้ท่านต้อง

สร้างการคมนาคม สาธารณสุขและโรงไฟฟ้าลิกไนต์แม่เมาะ

เพื่อนำามาใช้ในการก่อสร้างใหม่ทั้งหมด และนี้ก็เป็นอะไร

ที่ไม่ง่ายเลยสำาหรับคน คนหนึ่งที่จะสามารถทำาได้ แต่

ม.ล.ชูชาติก็สามารถทำามันได้จนสำาเร็จให้เราได้ใช้ประโยชน์

ทั้งทางด้านน้ำาในการเกษตรและกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า

พลังงานน้ำามาจนถึงทุกวันนี้

นอกจากนี้ ม.ล.ชูชาติ กำาภู ยังได้สร้างวัดชลประทาน

รังสฤษฏ์และบูรณะภูเขาทองที่วัดสระเกศ พระปรางค์

วัดอรุณฯ ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต

กำาแพงแสน โรงพยาบาลชลประทานและอื่นๆ อีกมากมาย

โรงไฟฟ้าลิกไนต์แม่เมาะ จ.ลำาปาง

จาวตาล 16

ท่านอาจารย์ปราโมทย์ได้รู้จัก ม.ล.ชูชาติ ครั้งแรก

เมื่อไรครับ

ตอนรับน้องเข้าเรียนวิศวะชลประทานนั้นล่ะ

ม.ล.ชูชาติ ท่านได้มาให้โอวาทกับนิสิตใหม่ ด้วย

ถ้อยคำาที่ไพเราะ น่าสนใจและมีความหมายลึกซึ้ง

ผมก็เลยประทับใจในตัวท่าน เพราะขณะนั้นท่าน

เป็นอธิบดีกรมชลประทาน เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง

ของกรมชลประทาน และเมื่อเรียนจบผมก็ได้

มีโอกาสไปทำางานที่กรมชลประทาน สังกัดกอง

วิชาการและถูกส่งตัวไปที่เขื่อนแก่งกระจาน

อาจารย์ปราโมทย์ช่วยเล่าเกี่ยวกับการวางรากฐาน

ของการศึกษาที่ ม.ล.ชูชาติได้สร้างไว้หน่อยครับ

เนื่องจากขณะที่ท่านได้เป็นผู้อำานวยการกอง

ท่านพบว่ากรมชลประทานเกิดความขาดแคลน

กำาลังคน ช่าง และผู้มีความรู้ระดับสูง ท่านจึงมี

ความคิดว่า ท่านต้องมีการพัฒนาคนด้วยการ

ให้การศึกษา ท่านจึงปรึกษารุ่นพี่ และเพื่อนรุ่น

เดียวกัน โดยมีแผนที่จะผลิตคนผู้ซึ่งมีความรู้ และ

เชี่ยวชาญ ด้านชลประทานขึ้น โดยท่านได้วาง

แผนการสอนบุคคลเหล่านี้ ด้วยของตัวท่านและ

ทีมบุคลากรของท่านเอง ด้วยความคิดที่จะสร้าง

คนในวันนั้น ทำาให้เกิดโรงเรียนช่างชลประทาน

ขึ้นมา และพัฒนาการเรื่อยมาจนเป็นคณะ

วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ใน

ทุกวันนี้

ม.ล.ชูชาติมีหลักการในการปกครองคนอย่างไร

ท่านเป็นคนที่มีความสามารถหลายอย่างอยู่

ในตัวท่านเอง ม.ล.ชูชาติเป็นคนที่ให้ความสนิท

สนมกับบุคคลที่ร่วมงานด้วยเสมอ และท่านเอง

ก็จะทำาตัวให้เป็นแบบอย่างแก่ลูกน้อง และถือว่า

ท่านเป็นผู้นำาที่ดีมากคนหนึ่ง ท่านเป็นนักพูด นัก

คิด ท่านมักจะชอบมาพูดหรือแสดงวิสัยทัศน์

ใหม่ๆ ที่เป็นแนวทางให้ชาติพัฒนาไปข้างหน้า

ท่านยังเป็นนักบริหารที่ดี เพราะท่านเป็นผู้วาง

รากฐานและแม่บทของการบริหารจัดการน้ำาที่เรา

ยังคงนำามาใช้กันอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ และในตอน

หลังจากที่ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ

ม.ล.ชูชาติ กำาภู ผู้ให้กำาเนิดคณะวิศวกรรมศาสตร์

ไปแล้ว วารสารของเราก็ยังได้ไปสัมภาษณ์

อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด รุ่น 14 บุคคลผู้ซึ่ง

ซึมซับเรื่องราวของ ม.ล.ชูชาติ กำาภูมาเป็นอย่างดี

อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 17

ที่สร้างเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนภูมิพลท่านยัง

เป็นผู้วางแผนและคิดที่จะกู้เงินจากธนาคารโลก

มาสร้างเขื่อน ซึ่งในขณะนั้นไม่ค่อยมีใครที่คิดจะกู้

เงินจำานวนมหาศาลมาทำาแบบนี้ และท่านยังเป็น

ผู้ที่คอยติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

จนถือว่าท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญรอบด้านเลยทีเดียว

และตลอดชีวิตการทำางานของท่านนั้น ท่านเป็น

บุคคลที่มีความซื่อสัตย์ โปร่งใส และการไม่อยาก

ได้ของของคนอื่น จึงทำาให้ประวัติของท่านไม่มี

ความด่างพร้อย เพราะท่านทำางานเพื่องาน

อาจารย์มีอะไรที่อยากจะฝากถึงรุ่นน้องที่กำาลัง

ศึกษาอยู่บ้างครับ

อยากให้น้องๆ นำาเอาคติสักส่วนหนึ่งในเรื่อง

ของการทำางานของ ม.ล.ชูชาติ กำาภูไปปรับใช้ใน

ชีวิตของนิสิตก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีมาก และน้องก็

ควรที่จะรู้จักพัฒนาตนเอง พัฒนาความรู้ พัฒนา

ความคิด และทำาประโยชน์ให้กับส่วนรวม

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่ท่านอาจารย์

ปราโมทย์ ไม้กลัด ได้สละเวลามาเล่าเรื่อง

ม.ล.ชูชาติให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ทราบถึงเรื่องราว

อันน่าสนใจของม.ล.ชูชาติ กำาภู ขอบคุณครับ

จาวตาล 18

TECHNO FOCUS SKUBA

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 19

Skuba เกิดขึ้นมาอย่างไร : จริงๆแล้วมันมีชมรมมา

ก่อนหน้านี้ แล้วตอนหลังถึงแยกออกมาเพื่อทำาหุ่นยนต์

สำาหรับการแข่งขัน ก็เลยตั้งทีม Skuba ขึ้นมา

การทำาหุ่นยนต์ต่างๆ นี้ ใครเป็นคนคิดว่าจะทำาหุ่นยนต์

เตะฟุตบอลครับ : คือเราคิดว่าจะลงแข่งขัน เราก็เลย

นำาเอากติกาและข้อกำาหนดมาเป็นแนวทางให้เราไปหา

และเราก็วิ่งตามโจทย์ของการแข่งขัน

ในครั้งแรกๆที่ไปแข่งได้รางวัลมาบ้างหรือเปล่าครับ :

ก็มีแต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยชนะเท่าไหร่หรอก แต่พอหลังๆ

เราไปเน้นแข่งพวก Ai เยอะๆหน่อยเราจึงได้เปรียบ

แล้วทีม Skuba ได้รางวัลอะไรมาบ้างครับ :

รางวัลในประเทศเราไม่ค่อยมีเพราะไม่ค่อยได้แข่ง เรา

ไปเน้นแข่งที่ต่างประเทศ เมื่อ 2 - 3 ปีที่แล้ว เราไป

แข่งขันที่ จีน เราก็ได้อันดับ 3 มาก็ถือว่าเราไปได้ค่อน

ข้างเร็ว แล้วในปีที่แล้วกับปีนี้เราก็ได้รางวัลชนะเลิศมา

ทั้ง 2 ปีเลย

ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับว่าการแข่งขันเป็น

อย่างไรบ้าง : เอาบอลมาลูกหนึ่ง แล้วมีหุ่นอยู่ฝ่ายละ

5 ตัว แล้วปล่อยให้มันเล่นเองอัตโนมัติด้วยการตัดสิน

ใจเองของหุ่นยนต์แต่ละตัว ส่วนกติกานั้นก็เหมือนการ

แข่งขันฟุตบอลทั่วไป ผลการแพ้ชนะวัดกันที่จำานวน

ประตูที่ทีมนั้นทำาได้ ซึ่งปีนี้เราก็ชนะ 10 – 0 มาจนถึง

รอบสุดท้ายเลย

ช่วยเล่าต่ออีกนิดนะครับว่าหลักการทำางานของเจ้าหุ่น

ยนต์นี้เป็นอย่างไร : ที่หุ่นยนต์แต่ละตัวจะมีแต้มสีอยู่

ด้านบนหุ่นยนต์ และมีกล้องจับภาพ วิเคราะห์ภาพ

ตำาแหน่งพิกัดของหุ่นยนต์ทุกตัว ลูกบอล แล้วก็ส่งไป

ที่คอมพิวเตอร์เพื่อวิเคราะห์ ว่ามีแผนการเล่นอย่างไร

แล้วก็ส่งสัญญาณไวร์เลสไปที่หุ่นยนต์ทุกตัวให้วิ่งไป

ตามตำาแหน่งต่างๆและเมื่อเจอลูกบอลให้สับไกยิง

เลี้ยงลูก ยิงลูกโด่ง โหม่งลูกได้ หรือแม้แต่การยิงสปิน

ลูกให้หมุนย้อนกลับ โดยมันจะขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่

เราเขียน

ทางทีม Skuba มีจุดอ่อนและจุดแข็งที่อะไรครับ :

จุดอ่อนของเราก็คงจะเป็นการทำางานของกลไก เพราะ

ตัวโครงมันเริ่มเก่าแล้ว ส่วนจุดแข็งของเราคงจะอยู่ที่

ความแม่นยำาและความเร็ว ซึ่งการันตีได้จากการที่เรา

เป็นเจ้าของสถิติโลกวิ่งเร็วที่สุดในโลกแบบสามารถ

ควบคุมได้ คือวิ่งไปโดยไม่แหกโค้งอะไรประมาณนั้น

สุดท้ายนี้ มีอะไรอยากจะฝากบอกบ้างไหมครับ :

เป็นโอกาสที่ดีเด็กวิศวะได้แชมป์โลกถึง 2 รายการซึ่ง

มันพอจะบ่งบอกถึงคุณภาพของเด็กวิศวะของเราได้

ระดับหนึ่ง แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด แต่เราก็อยากให้เด็ก

วิศวะทั้งหมดเป็นเด็กเก่งๆแบบนี้ เราอยากให้เด็ก

วิศวะเรามีความใฝ่รู้ ไม่ขี้เกียจ สู้งาน สมองไม่ใช่เรื่อง

สำาคัญเพราะเราสามารถฝึกฝนได้ อยากให้นิสิตทุก

คนใช้ชีวิตให้คุ้มกับการเรียนใน 4 ปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่

นิสิตจะสามารถดูดซับความรู้ได้มากที่สุด

จาวตาล 20

IN-DEPTH“อาจารย์ชาญเวช ศีลพิพัฒน์”

ผู้เขียนเชื่อว่า คงมีใครหลายๆคนอยากรู้ว่าอาจารย์ชาญเวช เขา

เป็นคนอย่างไรกัน ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นสื่อแขนงหนึ่งจึงขอ

ทำาการล้วงชีวิตของชายคนนี้ “ อาจารย์ชาญเวช ศีลพิพัฒน์ ” (อาจจะไม่ลึกเท่าไรเพราะเดี๋ยวจะโดนปิดเล่มไปซะก่อน 5555)

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 21

ผมเป็นเด็กสมุทรปราการ ตอนประถมและมัธยมก็เรียนอยู่ในจังหวัด ผม

ย้ายเข้ามาในกทม. ตอนที่ผมสอบเข้าได้วิศวะที่ม.เกษตร (รุ่นE49) ก็เลยย้ายบ้าน

มาอยู่ในกรุงเทพกันเลย เมื่อผมเข้ามาก็รู้สึกชอบวิศวะ(พ่อแม่อยากให้เข้าแพทย์)

วันแรกที่ผมเข้ามาในมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรมาก เพราะคิดว่าที่

เกษตรมีความหลากหลายมากทั้ง ฐานะ นิสัย ผมก็ปรับตัวเข้ากับสังคมที่นี่ได้ไม่

ยากนัก เนื่องจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่เขาจะมีพวกคุณหนูเยอะ(ทำาไมอาจารย์ปรับ

ตัวง่ายจัง) ผมนั้นก็ทำากิจกรรมทั่วไปของคณะฯ วันวิ่งประเพณี ผมก็ยังมาวิ่งเลย วิ่ง

ครบทุกรอบด้วย วิ่งกันตลอดทั้งคืนเหนื่อยดี (อยากเห็นจัง.....แต่เกิดไม่ทันอ่า) แต่

การวิ่งประเพณีนั้นจะแตกต่างจากปัจจุบันหน่อยตรงที่ สมัยก่อนจะวิ่งกันตอนกลาง

คืน และจะมีรุ่นพี่ที่เป็นรุ่นนั้นเองมาวิ่งนำาข้างหน้า ไม่เหมือนปัจจุบันนี้ ที่มีแต่พี่ว๊าก

วิ่งนำา แต่ผมคิดว่าการเปลี่ยนมาวิ่งกลางวันมีส่วนดี เพราะว่าหากมีน้องไม่สบาย

หรือบาดเจ็บจะได้นำาส่งสถานพยาบาล เนื่องจากตอนกลางวันมีรุ่นพี่และบุคลากร

มากกว่า ช่วงกลางคืนบุคลากรก็ไม่ค่อยอยู่ จึงไม่ค่อยดีนัก (แต่แดดร่มนะครับ)

ตอนปี1 ผมชอบเรียนเคมี และก็เป็นต้นฉบับให้กับเพื่อนๆด้วย เพราะ

อาจารย์ปิ้งสไลด์เร็วมาก เพื่อนๆก็เลยโวยวายกัน อาจารย์ท่านก็ตอบมาว่า “ครูดูแล้ว

นะว่ามีคนจดเสร็จแล้ว ครูเลยเอาออก” ซวยผมเลยที่จดทันอยู่คนเดียว 555 ผมก็

เรียนบ้าง เล่นบ้าง แต่ผมก็ไม่เคยโดดเรียนหรือเข้าสายเลยนะ (โดดบ้างก็ได้) ที่เคย

เข้าสายก็เป็นเพราะวิชาก่อนหน้านั้นอาจารย์ปล่อยสายเลยเดินมาเรียนช้า และก็มีจุด

เปลี่ยนตอนผมอยู่ปี 2 ผมได้ลงเรียนวิชา Intro-elec แล้วเจอพี่ปี 4 ที่กำาลังจะจบ แต่ลง

เรียนวิชานี้ไม่ได้ เพราะตารางเรียนชนกับวิชาอื่น ผมเลยรู้สึกตัวว่า ถ้าไม่สนใจเรียนก็

อาจจะเป้อเอาง่ายๆ ผมจึงลงทะเบียนทุกเทอมจนเกือบจะจบ 3 ปี ครึ่ง แต่ที่ไม่จบก็

เพราะอาจารย์เขาให้ I วิชาโปรเจค มาหนึ่งตัวเลยไม่จบ 3 ปีครึ่งเลย เมื่อจบแล้วก็มา

เป็นอาจารย์ เพราะตอนนั้นอาจารย์กำาลังขาดแคลนและผมก็อยากเรียนต่อ ถ้าผมไป

ทำางานบริษัทก็คงหาเวลาเรียนต่อได้ยาก ผมก็เลยได้มาเป็นอาจารย์ วันแรกของการ

สอนผมเดินเข้าไปก็เอาแฟ้มว่างบนโต๊ะแล้วก็จับโต๊ะไว้ซะแน่นเลย เพราะรู้สึกตื่นเต้น

ถึงขั้นสั่นๆเลย พอซักพักเริ่มมีกำาลังใจก็เริ่มสอนไปได้ ก็ถือว่าเอาตัวรอดไปได้ดี ฮิๆ

แล้วก็มีเหตุการณ์อยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อมาสอนใหม่ๆ ก็โดนเด็กแกล้งเพราะไปว่าเด็กเรื่อง

เขาเรียนสาย เด็กก็เลยเล่นงานผม เขาเก้าอี้ขาหักมาให้ผมนั่ง ผมซึ่งไม่รู้อะไรก็นั่งลง

ไปแล้วหงายหลังไปเลย ผมก็เลยอบรมสั่งสอนและทำาโทษยกห้องไปเลย โทษฐานที่

สมรู้ร่วมคิดกัน (อยากรู้จัง เด็กกลุ่มนั้น ตอนนี้ไปทำางานอะไรกันแล้ว)

วีรกรรมของอาจารย์ชาญเวช

อาจารย์บอกมาว่า ผมเป็นคนเรียบร้อยไม่เคยมีวีรกรรมอะไร แต่

พอเราได้ถามไปเรื่อยๆ อาจารย์ก็หลุดปากบอกมาว่า เคยโดนตีด้วย สาเหตุมา

จากที่โรงเรียนจัดงานปีใหม่ แต่ละห้องจะกินเลี้ยงกัน ห้องผมเป็นห้องชายล้วนก็

เลยเอาอาหารออกไปกินตรงระเบียงข้างนอกหน้าต่างเพื่อดูบรรยากาศ แต่พอดี

อาจารย์ฝั่งตรงข้ามมองมาเห็นพอดี เลยโดนตีเรียงตัวเลย (แล้วไหนอาจารย์บอก

ว่าเป็นคนเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้..แต่ก็แอบมีชายผ้ายังไม่เรียบนะครับ)

จาวตาล 22

หลีดพร้อม...พร้อม! ขึ้นมือ...ขึ้นมือพร้อม ..!! เสียงนี้เป็นเสียงที่คุ้นเคยกันดี นั่นคือเสียงแห่งความสนุกสนานครื้นเครงของชุมนุมเชียร์และสันทนาการคณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นเวลากว่า 7 ปี ที่ชุมนุมเชียร์และสันทนาการ ได้สร้างสีสัน ความสนุกสนาน และความสุขแก่ชาวดงตาล โดยมีที่ตั้งห้องชุมนุมอยู่ชั้น 3 อาคารสโมสรนิสิต ชุมนุมฯได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีการศึกษา 2547 ได้เติบโตเรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน ในปี 2551 สามารถคว้าอันดับที่ 4 การแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์กีฬาน้องใหม่ และรองชนะเลิศสาวดาวเชียร์ ดังนั้นคณะวิศวกรรมศาสตร์ จึงได้เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัย เข้าประกวดเชียร์ลีดเดอร์ ระดับอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย (U-Challenge2008) จนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คว้ารางวัลชนะเลิศมาครองได้สำ เร็จอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้นชุมนุมเชียร์และสันทนาการ ยังเป็นเสาหลักในด้านกิจกรรมสันทนาการของคณะและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม กีฬาสามเส้า, เกียร์เกมส์, กีฬา 5 วิทยาเขต, กิจกรรมแรกพบ, งานเลี้ยงบัณฑิต, วันสถาปนาคณะ ฯลฯ แต่ขณะนี้ทางชุมนุมฯยังขาดบุคคลากรฝ่ายต่างๆมากมาย เช่น percussion, งานศิลป์, งานสันทนาการ ฯลฯ จึงขอเชิญพี่น้องชาวคณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา สนใจสมัครได้ทุกที่ กับสมาชิกชุมนุมทุกคน ยินดีต้อนรับคร๊าบบบบบ

INTANIA CHEER!

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 23

เจแปน ปี 1 : หนุ่มดาวเชียร์ ปี 53>> ทำาให้เราได้ฝึกฝนและพัฒนา

ความแขง็แกรง่ไมใ่ชเ่พยีงทางรา่งกาย

แต่เป็นทางจิตใจด้วย

ฟิฟ ปี 1 : สาวดาวเชียร์ ปี 53>> ได้มิตรภาพและความรับผิดชอบ

แฮม ปี 2 : เชียร์ลีดเดอร์

แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์>> จากคนไม่รู้จัก ก็ได้สนิทเกิด

ความรักและผูกพันได้ร่วมแรงร่วมใจ

ทำางานเพื่อคณะ

ด้ง ปี 3 : ประธานชุมนุมเชียร์

และสันทนาการคณะวิศวะ>> สิ่งดีๆ ทีไม่สามารถหาได้ จาก

สังคมไหนๆ ผู้ที่ไม่เคยได้ทำางานตรง

นี้มักไม่มีทางเข้าใจถึงสิ่งทีพวกเรา

ต้ังใจสร้าง

ในปีนี้ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้ส่งกองเชียร์และเชียร์ลีดเดอร์

เข้าร่วมประกวด ในงานกีฬาน้องใหม่ กว่า 100 คน ด้วยคอนเซ็ป

“The Siberian Raid” เรื่องราวการไล่ล่าในดินแดนที่หนาวเหน็บ

แสดงถึงความเข้มแข็ง และได้แสดง Unity ให้ประจักษ์แก่สายตา

ประชาชนและชาวเกษตรศาสตร์ทุกคน

“ท่ามกลางดินแดนที่ยิ่งใหญ่อันหนาวเหน็บที่มีแต่ความโหดร้ายและน่าสะพรึงกลัว มีเมืองซึ่งปกครอง

ด้วยเหล่าสัตว์ร้ายมีนามว่าเสือขาวแห่งไซบีเรีย ได้มีผู้รุกรานเข้ามาหวังจะยึดครองเมืองอันยิ่งใหญ่แห่งนี้

และได้จับบริวารขององค์ราชินีผู้ครองเป็นตัวประกัน สงครามแห่งการไล่ล่าจึงอุบัติขึ้น !!.....”

ซายซ์ ปี 4 : สาวดาวเชียร์ ปี 50

รองประธานชมรมเชียร์และแปร

อักษร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์>>ความผูกพัน ความร่วมมือการรวม

นำาใจ ความเสียสละ ความรัก และ

ความห่วงใย ถึงสิงที่พวกเราตั้งใจ

สร้าง

ชุมนุมนี้... ให้อะไรกับคุณ??

Freshy League 2010

จาวตาล 24

เทคนิคการคลายเครียด

ความเครียดเป็นเรื่องของร่างกายและจิตใจ

ความเครียดเกิดจากสาเหตุสำาคัญ 2 ประการ คือ

1. สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต

2. การคิดและการประเมินสถานการณ์ของบุคคล

เราจะสังเกตได้ว่าคนที่มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน

ใจเย็น จะมีความเครียดน้อยกว่าคนที่มองโลกในแง่

ร้าย

การสำ�รวจความเครียดของตนเอง หากคุณพบอาการเหล่านี้ ปวดศีรษะ ท้องเสีย

ท้องผูก นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ประจำาเดือนมาไม่

ปกติ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ วิตกกังวล คิดมาก

หลงลืมง่าย ไม่มีสมาธิ โกรธง่าย ซึมเศร้า จู้จี้ขี้บ่น มี

เรื่องขัดแย้งกับผู้อื่นบ่อยๆ ชอบเก็บตัว แล้วละก็ แสดง

ว่าคุณกำาลังมีความเครียด ซึ่งความเครียดจะส่งผลให้

เกิดความผิดปกติทางร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม ดัง

นั้น เราจึงจำาเป็นต้องเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง

เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น

คิดอย่างไร�ไม่ให้เครียด คิดแบบยืดหยุ่นให้มากขึ้น คิดแต่เรื่องดีๆ คิด

อย่างมีเหตุผล คิดหลายๆ แง่มุม อย่าคิดหมกมุ่นอยู่

กับตัวเองเท่านั้น เปิดใจให้กว้าง สนใจปัญหาของผู้อื่น

ในสังคมบ้าง บางทีคุณอาจจะพบว่าปัญหาที่คุณกำาลัง

เครียดอยู่นี้ช่างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปัญหาของคนอื่น

และยิ่งถ้าคุณช่วยเหลือคนอื่นได้ คุณจะสุขใจขึ้นเป็น

ทวีคูณด้วย

มาดูการผ่อนคลายความเครียดกันดีกว่า ว่ามีวิธี

ปฏิบัติอย่างไรกันบ้างนะครับ เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกเครียด

ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุอะไรก็ตามแต่ ควรจะหาวิธีการ

ผ่อนคลายที่เหมาะสม เช่นนอนหลับพักผ่อน ออก

กำาลังกาย ฟังเพลง ร้องเพลง เล่นกีฬาประเภทต่างๆ

ดูโทรทัศน์ ดูภาพยนตร์ เต้นรำา ทำางานศิลปะ ปลูก

ต้นไม้ ทำาสวน เล่นกับสัตว์เลี้ยง จัดห้อง อ่านหนังสือ

เหล่านี้เป็นต้นนะครับ

อย่า...แก้ปัญหาวู่วาม�อารมณ์เป็นใหญ่อย่า...หนีปัญหาอย่า...คิดแต่จะพึ่งพาผู้อื่นอยู่ร่ำ�ไปอย่า...เอาแต่ลงโทษตัวเองอย่า...โยนความผิดให้ผู้อื่น

โดย วิทยา สิมมาลา

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 25

วิธีดูแลสุขภาพในช่วงหน้าฝน

ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลง

เดี๋ยวก็ร้อนมาก เดี๋ยวก็ฝนตก อาจป่วย เป็นโรค

ไข้หวัดได้ ควรที่จะออกกำาลังกายอย่างสม่ำาเสมอ

เพราะการออกกำาลังกาย นอกจากจะช่วยทำาให้

ร่างกายแข็งแรง แล้วยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ต่อโรคอีกด้วย การออกกำาลังกายที่เหมาะสม

คือ การออกกำาลังกาย สัปดาห์ละ 5 วัน อย่าง

น้อยวันละ 30 นาที แค่นี้ก็เพียงพอที่จะเกิด

ภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย การเริ่มต้นออกกำาลัง

กาย ควรเริ่มจากเบาๆ ระยะเวลาน้อยๆ ก่อน

แล้วค่อยเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละสัปดาห์

เพื่อให้ร่างกายปรับตัว จากนั้นจึงเพิ่มความแรง

หรือความหนัก และย้ำาว่าไม่จำาเป็นต้องหนัก

หรือเหนื่อยมาก การออกกำาลังกายมากเกิน

ไปโดยเฉพาะในอากาศที่ร้อนจัด จะทำาให้เกิด

ภาวะที่เรียกว่า โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ได้

ง่าย และเป็นโรคที่อันตรายมาก โดยผู้ป่วยจะมี

อุณหภูมิร่างกายสูงมากเกิน 41.1 องศาเซลเซียส

เหงื่อไม่ออก หมดสติ ไต หัวใจ ตับวาย อาจมี

เลือดออกทุกอวัยวะ ถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้

ระหว่างออกกำาลังกาย ต้องดื่มน้ำาให้เพียงพอ

โดยเฉพาะน้ำาที่มีเกลือแร่ด้วย สิ่งสำาคัญที่ต้อง

คำานึงถึงนอกจากการออกกำาลังกาย คือ การรับ

ประทานอาหาร ควรเน้นการรับประทานผัก และ

รับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง

มะเขือเทศ องุ่น สัปปะรด มะละกอ เป็นต้น

เพราะจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดัง

นั้น หากเราดูแลสุขภาพตนเองได้ตามข้อปฏิบัติ

ดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะช่วยให้มีสุขภาพดีในช่วง

หน้าฝนเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลต่อการมีสุขภาพดี

ในระยะยาวด้วย

ด้วยความปรารถนาดีจาก รพ.วิภาวดี

จาวตาล 26

“The difference between the impossible and the possible lies in a man’s

determination.” เส้นบางๆที่คั่นระหว่างความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้คือการตัดสินใจของเรา

Tommy Lasorda

“There is a magnet in your heart that will attract true friends.

That magnet is unselfishness, thinking of others first. When you

learn to live for others, they will live for you.”

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจของคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้ แม่เหล็กชนิดนี้คือ ความไม่เห็นแก่

ตัวและการคิดถึงคนอื่นก่อน เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ

Paramahansa Yogananda

“The best and most beautiful things in the world cannot be seen

or even touched. They must be felt with the heart.”

สิ่งที่ดีและสวยงามที่สุดในโลก มองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้ แต่จะรู้สึกได้จากหัวใจ

Helen Keller

“Only those who dare to fail greatly can ever achieve greatly.”คนที่กล้าจะพ่ายแพ้เท่านั้น ที่จะประสบความสำาเร็จอย่างยิ่งใหญ่

Robert F. Kennedy

“The only thing in life achieved without effort is failure.” มีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคือความล้มเหลว

สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ 27