Emergency care for Cardiovascular Patients
Jan 03, 2016
วั�ตถุ�ประสงค์� 1. ทราบพยาธิ�สร�รวั�ทยาของการเก�ดโรค์
เก��ยวัก�บระบบหั�วัใจและหัลอดเล"อดได$แก% โรค์หั�วัใจวัาย โรค์หั�วัใจเต$นผิ�ดจ�งหัวัะ โรค์ค์วัามด�นโลหั�ตส)งวั�กฤต และ โรค์เส$นเล"อดหั�วัใจต�บ
2. ทราบสาเหัต� การวั�น�จฉั�ย และแนวัทางในการร�กษาโรค์เก��ยวัก�บระบบหั�วัใจและหัลอดเล"อดเบ"-องต$น
Pathophysiology of the cardiovascular system
1.Congestive heart failure (ภาวะหั�วใจล้มเหัล้ว)
2.Cardiac arrhythmia (ความผิ�ดปกติ�ในอั�ติราการเตินแล้ะจ�งหัวะการเตินขอังหั�วใจ)
3.Ischemic heart diseases (ภาวะหั�วใจขาดเล้�อัด) 4.Hypertension Emergency (ภาวะความด�นโล้หั�ติสู�งว�กฤติ)
(ภาวะหั�วใจล้มเหัล้ว)ภาวะที่ !หั�วใจไม#สูามารถจะบี บีติ�วเพื่�!อัสู#งเล้�อัดไปเล้ 'ยงติามสู#วนติ#างๆขอังร#างกายไดเพื่ ยงพื่อัก�บีความติอังการขอังร#างกายในขณะน�'น (CO)
•systolic dysfunction•กล้ามเน�'อัหั�วใจไม#สูามารถบี บีติ�วเพื่�!อัสู�บีฉี ดเล้�อัดไปเล้ 'ยงที่�!วร#างกายได
•diastolic dysfunction•กล้ามเน�'อัหั�วใจไม#สูามารถคล้ายติ�วเพื่�!อัรอังร�บีเล้�อัดเขาสู�#หั�วใจไดด พื่อั
สูาเหัติ,ขอังการเก�ดภาวะหั�วใจวาย (Etiology)
ความผิ�ดปกติ�ขอังกล้ามเน�'อัหั�วใจ (myocardium)
ความผิ�ดปกติ�ขอังเย�!อัหั,มหั�วใจ (pericardium) 2. ป.จจ�ย
อั�!นๆ
1.ความผิ�ดปกติ�ขอังหั�วใจ
ภาวะความด�นโล้หั�ติสู�ง ภาวะหั�วใจหัอังล้#างซ้ายโติโรคเบีาหัวาน
ภาวะหั�วใจเตินผิ�ดจ�งหัวะ โรคหั�วใจพื่�การแติ#ก0าเน�ด
ติ#อัมธั�ยรอัยด2ผิ�ดปกติ� ผิ�สู�งอัาย, การด�!มแอัล้กอัฮอัล้2เป4นประจ0า การติ�ดเชื้�'อั ภาวะไขสู�ง ไขร�หั2มาติ�ก
กล้ไกในการปร�บีติ�วขอังหั�วใจ (compensatory mechanism)
1. เพื่�!มอั�ติราการเตินขอังหั�วใจ
2. เพื่�!มขนาดขอังกล้ามเน�'อัหั�วใจ
Starling law
เร ยกว#า ventricular remodeling 3. เพื่�!มปร�มาณเล้�อัดที่ !ไหัล้กล้�บีเขาสู�#หั�วใจ
กระติ,นการหัล้�!งขอัง renin
กระติ,นการหัล้�!งขอัง norepinephrine (NE)
ร#างกายสูามารถปร�บีระด�บีขอังจ0านวนเล้�อัดที่ !อัอักมาเล้ 'ยงร#างกายไดเพื่ ยงพื่อั ผิ�ป6วยจะไม#แสูดงอัาการใดๆ
การปร�บต�วัต%างๆของร%างกายไม#สูามารถปร�บระด�บของจ/านวันเล"อดใหั$เพ�ยงพอต%อค์วัามต$องการได$ ผิ)$ป0วัยจะม�อาการหั�วัใจล$มเหัลวัเก�ดข1-น
อัาการที่างคล้�น�ก (Clinical manifestation)
เหัน�!อัยง#าย หัายใจไม#อั�!ม บีวมบีร�เวณเที่า ขอัเที่าหัร�อัชื้#อังที่อัง อั#อันเพื่ล้ ยไม#ม แรง หั�วใจเตินเร7ว
เบี�!อัอัาหัาร นอันราบีไม#ได หัล้อัดเล้�อัดด0าที่ !คอัโป6ง น0'าหัน�กติ�วข8'นเร7ว ไอัเร�'อัร�ง
ชน�ดของภาวัะหั�วัใจล$มเหัลวั
1. ภาวะหั�วใจล้มเหัล้วขางซ้าย(Left side heart failure)
2.ภาวะหั�วใจล้มเหัล้วขางขวา(Right side heart failure)
ภาวะหั�วใจล้มเหัล้วขางซ้าย
การเสู�!อัมสูมรรถภาพื่ขอังหั�วใจหัอังล้#างซ้ายไม#สูามารถบี บีติ�วใหัเล้�อัดอัอักจาก left ventricle ไปเล้ 'ยงร#างกายไดที่�'งหัมด left ventricular end diastolic volume (LVEDV) มากข8'น
ม เล้�อัดไหัล้ยอันไปที่ !ปอัดมากข8'นpulmonary congestion
2. หั�วใจขางขวาล้มเหัล้ว
เก�ดการเสู�!อัมสูมรถภาพื่ขอังหั�วใจหัอังขวา ที่0าใหั right ventricle ไม#สูามารถบี บีเล้�อัดไปที่ !ปอัดไดเติ7มที่ !เก�ดการค�!งขอังหั�วใจขางขวาเล้�อัดด0าจากร#างกายไหัล้เขาหั�วใจหัอังบีนขวาไม#ไดเก�ดการค�!งขอังเล้�อัดติามหัล้อัดเล้�อัดด0าขอังร#างกาย
อัาการแสูดงที่ !สู0าค�ญ
-หัอับี เหัน�!อัย หัายใจเร7ว -บีวม โดยเฉีพื่าะที่ !ขา ขอัเที่า
เม�!อักดด�จะพื่บีว#ากดบี,;ม (pitting edema)หัล้อัดเล้�อัดด0าที่ !คอัโป6งที่อังมาร ติ�บีโติ
Diagnosis and investigation
หัายใจหัอับีเหัน�!อัย ผิ�ป6วยม�กม อัาการนอันราบีไม#ได ชื้ พื่จรม�กม การเตินแรง ม เสู ยงน0'าในปอัด (fine crepitation) ม�กม หัล้อัดเล้�อัดด0าที่ !คอัโป6ง (โดยเฉีพื่าะในผิ�ที่ !ม หั�วใจขางขวาล้มเหัล้ว) บีวมติามร#างกาย (pitting edema) ติ�บีโติ อั#อันเพื่ล้ ย เบี�!อัอัาหัาร
ว�น�จฉี�ยติามอัาการแสูดงที่างคล้�น�ก
Diagnosis and Investigation
Electrocardiographic (EKG)X-ray : cardiomegaly, pulmonary edemaEchocardiography : estimate election fraction and cardiac output
แนวที่างด�แล้ผิ�ป6วยเบี�'อังติน (Initial Treatment)
Airway & Breating : O2, Definite airway
Circulation : แกไขภาวะ shock ที่ !อัาจเก�ดร#วม หัล้ กเล้ !ยงการใหัสูารน0'าถาไม#
จ0าเป4น
แนวที่างการร�กษา (Specific Treatment)
แก$ไขท��สาเหัต�ท��ท/าใหั$เก�ดภาวัะหั�วัใจล$มเหัลวัหัล�กเล��ยงส��งช�กน/าเช%นจ/าก�ดก�จกรรมประจ/าวั�น การร�กษาโดยใช$ยาได$แก%ยาขยายหัลอดเล"อด, ยาท��เพ��มการบ�บต�วัของหั�วัใจ (inotropic drugs) , ยาข�บป4สสาวัะ
Cardiac arrhythmia (ภาวะหั�วใจเตินผิ�ดจ�งหัวะ)
ความผิ�ดปกติ�ในอั�ติราการเตินขอังหั�วใจ ความสูม0!าเสูมอั หัร�อัติ0าแหัน#งที่ !ม การปล้#อัยสู�ญญาณไฟฟ>าหั�วใจ รบีกวนการเตินที่ !สูอัดคล้อังก�นติามปกติ�ขอังหั�วใจหัอังบีนแล้ะล้#าง
ภาวัะปกต�ของการส%งส�ญญาณไฟฟ8าหั�วัใจ
ควบีค,มค,มโดย SA node (pace maker)ที่0าใหัเก�ดการเตินที่ !สูอัดคล้อังก�นขอังหั�วใจสูามารถว�ดสู�ญญาณไดจาก ECGการผิ�ดปกติ�ขอัง ECG สูามารถบี#งบีอักถ8งโรคได
แล้ะติ0าแหัน#งที่ !เก�ดพื่ยาธั�สูภาพื่เบี�'อังตินได
สูาเหัติ,ขอังการเก�ดภาวะหั�วใจเตินผิ�ดจ�งหัวะ
K+ imbalance การได$ร�บยาบางชน�ดเช%น digoxin, antiarrhythmic drugsการผิ�ดปกต�ของภาวัะโรค์หั�วัใจอ"�นๆเช%น angina, CHF
ประเภทขอังการเก�ดภาวะหั�วใจเติน
ผิ�ดจ�งหัวะ1. ความผิ�ดปกติ�ขอังการปล้#อัยสู�ญญาณไฟฟ>าหั�วใจ
(Disturbance of impulse generation)
2. ความผิ�ดปกติ�ในการน0าสู#งสู�ญญาณไฟฟ>าหั�วใจ(Disturbance of conduction)
AV block
Re-reentry
พื่ยาธั�สูร รว�ที่ยา (Pathophysiology) แล้ะการ
แบี#งชื้น�ดขอังการเก�ด arrhythmia
1. supraventricular arrhythmia 2. ventricular arrhythmia
1. supraventricular arrhythmia
1.1 supraventricular tachycardia - เพ��ม heart rate มากข1-นประมาณ 150-250 ค์ร�-ง/นาท�1.2 atrial flutter -heart rate ส)งมากข1-นประมาณ 250-350 ค์ร�-ง/นาท� -atrial fibrillation ค์"อภาวัะ atrial flutter ท��เก�ดร�นแรงม� heart rate 400-600 ค์ร�-งต%อนาท�
เก�ดข8'นในบีร�เวณขอังหั�วใจที่ !อัย�#เหัน�อั ventricle ซ้8!งไดแก# SA-node, AV-node, atrium
2. ventricular arrhythmia
เก�ดการผิ�ดปกต�ในการส%งส�ญญาณท�� ventricleท/าใหั$เก�ดอ�นตรายได$มากกวั%าชน�ดแรก
21. sustained ventricular tachycardia (VT)
เพ��มอ�ตราการเต$นของ ventricle เป9น 150-250 ค์ร�-ง/นาท� 22. ventricular fibrillation (VF)
เก�ดจากการปล%อยส�ญญาณไฟฟ8าหั�วัใจจาก ectopic foci หัลายๆจ�ดใน ventricle การบ�บต�วัของ ventricle เก�ดข1-นไม%ได$เลยอาจท/าใหั$ผิ)$ป0วัยเส�ยช�วั�ตได$
2. ventricular arrhythmia (ติ#อั)
23. ventricular premature beat (VPBs) จ�งหัวัะการเต$นของหั�วัใจท��เก�ดข1-นก%อนเวัลาอ�นค์วัรในแต%ละวังจรของการเต$นของหั�วัใจ หัากม�อาการมากจะน/าไปส)%การเก�ด ventricular fibrillation
2.4 Torsades de Points (TdP) เก�ด polymorphic ventricular tachycardia ม�กเก�ดจากการล%าช$าในการเก�ด ventricular repolarization
25 Bradyarrhythmia อ�ตราการเต$นของหั�วัใจน$อยกวั%า 60 ค์ร�-ง/นาท�
อัาการที่ !เก�ดข8'น
PalpitationIrregular pulseDizziness/acute syncopeFatigueconfusion
•บีางรายอัาจไม#แสูดงอัาการ
การร�กษาเบี�'อังติน (Initial Treatment)
Airway & Breathing : O2 support, Definite airway
Circulation : IV fluid (normal saline)
พื่�จารณาการร�กษาเบี�'อังตินติาม ACLS guideline
การร�กษา(treatment)
1.เคร�!อังม�อัปร�บีจ�งหัวะการเตินขอังหั�วใจAutonomic implantable cardioconverter defibrillator (ICD)Antitachycardia pacemaker2.ยากล้,#ม antiarrhythmic drugs3.การผิ#าติ�ด
inflammatory condition ขอัง endothelium แล้ะ smooth muscle cell ขอังผิน�งหัล้อัดเล้�อัดแดง degenerative change fatty plague/atheroma
Infection?
การสู�บีบี,หัร ! ในขนาดสู�งเชื้#นมากกว#า 1 pack/ว�นอัาหัารที่ !ม ไขม�นสู�งหัร�อัภาวะไขม�นเล้�อัดสู�ง โดยเฉีพื่าะการม ระด�บี LDL-cholesterol สู�งมากกว#า 220 mg/dl โดยเฉีพื่าะร#วมก�บีภาวะที่ !ร#างกายม ระด�บี HDL-C ติ0!าภาวะความด�นโล้หั�ติสู�ง
โรคเบีาหัวาน โรคอัวนประว�ติ�ครอับีคร�วเป4นโรคหัล้อัดเล้�อัดหั�วใจติ บีภาวะสู�งอัาย,เพื่ศชื้ายความเคร ยดการขาดการอัอักก0าล้�งกาย
เก�ดความผิ�ดปกติ�ในชื้�'น tunica intima แล้ะtunica media ขอังผิน�งหัล้อัดเล้�อัดแดงสูะสูมขอังไขม�นในชื้�'น tunica intima เก�ดเป4น atherosclerotic plague
อัาการแสูดงจะเป4นไปติามล้�กษณะโรคที่ !เป4นเชื้#นIschemic heart diseasesAnginaCHFMyocardial infraction stoke
การป8องก�นและหัล�กเส��ยงป4จจ�ยเส��ยงต%างๆการร�กษาโดยการใช$ยาบางชน�ดเช%นStatin, fibrate, antioxidant, antiplatelet
เก�ดจากความไม#สูมด,ล้ระหัว#าง myocardial oxygen demand ก�บี myocardial oxygen supply อัาจม สูาเหัติ,จาก atherosclerosis
ภาวะที่ !เก�ดจากการขาดเล้�อัดไปเล้ 'ยงที่ !กล้ามเน�'อัหั�วใจ
-Chronic stable angina pectoris
-Unstable angina pectoris
-Acute myocardial infraction
-Ischemic cardiomyopathy
Risk factor
HereditaryAgeSex (male)LipidemiaIncrease weightPressure (arterial)InactivityDiabetesSmoking
H
A
S
L
I
P
I
D
S
HAS LIPIDS
Myocardial O2 demand > O2 supply
ม�การสะสมของก$อนไขม�นเก�ดเป9น atherosclerosis ม�กเร�ยกวั%า angina pectorisม�กม อัาการเจ7บีแน#นหันาอักคล้ายม สู�!งมากดที่�บีบีร�เวณใติล้�'นป@! อัาจม อัาการปวดราวไปที่ !ไหัล้# คอั กรามที่�'งสูอังขางแล้ะแขนซ้าย
สาเหัต�ค์ล$ายการเก�ด angina แต%ร�นแรงกวั%าเก�ดการอ�ดต�นของหัลอดเล"อดโดยสมบ)รณ�ผิ)$ป0วัยจะม�อาการเจ:บหัน$าอกอย%างร�นแรง อาจน/าไปส)%การเก�ดภาวัะแทรกซ้$อนอ"�นๆจนท/าใหั$เส�ยช�วั�ตได$
Pathogenesis of MI
Occlusive Intracoronary ThrombusMost cause of acute MI
VasospasmWith or without atherosclerosisPlatelet aggregation
Emboli
Complications of MIArrhythmiaPump failurePericarditis Extension of infractionAsytole (heart block)RuptureAneurysmsNervousnessCardiogenic shockEmbolismSudden death
APPEARANCES
สูร,ปสูาเหัติ,การเก�ด IHD
Atherosclerotic obstruction Coronary spasm Platelet aggregation/Thrombus formation
ซ้�กประว�ติ�โดยล้ะเอั ยดสู�งเกติอัาการใชื้การติรวจว�น�จฉี�ยโดยล้ะเอั ยด ว�ธั ที่ !ใชื้ไดเชื้#นการว�ดจาก EKG, ambulatory dynamic ECG monitoring เป4นตินว�ธั ที่างหัอังปฏิ�บี�ติ�การ
การด�แล้ผิ�ป6วยเบี�'อังติน (Initial Treatment)
ABCMONA
M : MorphineO : OxygenN : Nitrate (Isordil 5mg)A : Aspirin (300mg), Plavix (75mg)
แนวที่างการร�กษา (Specific Treatment)
ปร�บสมด�ลระหัวั%าง myocardial O2 demand และ myocardial O2 supplyหัล�กเล��ยงป4จจ�ยเส��ยงการร�กษาโดยการใช$ยา
Hypertension
ภาวะที่ !ความด�นโล้หั�ติสู�งกว#าปกติ� systolic blood pressure (SBP) 140mmHg หัร�อั diastolic blood pressure (DBP) 90 mmHg ม�กเป9นสาเหัต�ช�กน/าท/าใหั$เก�ดโรค์แทรกซ้$อน (complication) ต%างๆตามมา
Isolated systolic hypertension (ISH)
SBP สู�งกว#าปกติ�โดยค#า DBP อัย�#ในระด�บีปกติ�โดยม�กพื่บีบี#อัยในผิ�ป6วยสู�งอัาย, พื่บีว#าสูามารถเพื่�!มอั�ติราเสู !ยงในการเก�ด stroke แล้ะ IHD ไดสู�ง
Pathophysiology
ป.จจ�ยอั�!นๆที่ !ควบีค,มbaroreceptor systemsympathetic system
renin-angiotensin system (RAS)
BP = CO x PVR
CO = HR x SV
ชื้น�ดขอังภาวะความด�นโล้หั�ติสู�ง1. Essential hypertension
(Primary hypertension)ไม%สามารถุระบ�สาเหัต�การเก�ดได$ พบได$บ%อยมากกวั%า 90-95% ม�กจะร�กษาไม%ค์%อยหัาย
2. Secondary hypertension สามารถุระบ�สาเหัต�ของการเก�ดได$พบได$ประมาณ 5-10 % ของผิ)$ป0วัย
สามารถุร�กษาใหั$หัายขาดได$
สูาเหัติ,ขอังการเก�ด Secondary
Hypertension
Pheochromocytoma ความผิ�ดปกติ�ขอังไติRenovascular hypertension, renal parenchymal diseasesความผิ�ดปกติ�จากสูาเหัติ,อั�!นๆเชื้#น coarctation of aorta, takayasu diseases, contraceptive pill, steroid
ความด�นโล้หั�ติสู�งว�กฤติ(Hypertension Crisis)
ภาวัะท��ร %างกายม�ระด�บค์วัามด�นโลหั�ตส)งกวั%าปกต�มากๆ ในระยะเวัลาส�-น ไม%ม�เกณฑ์�แน%นอนท��วั�ดวั%าส)งระด�บใด แต%โดยท��วัไปอาจประมาณได$วั%า ม�ค์วัามด�นโลหั�ตส)งกวั%า
180110/ mmHgเก�ดจากผิ)$ป0วัยท��เป9นโรค์ค์วัามด�นโลหั�ตส)งอย)%แล$วัไม%สามารถุค์วับค์�มระด�บค์วัามด�นโลหั�ต ใหั$ลดลงเข$าส)$ระด�บปกต�ได$
Hypertensive emergency
ระด�บค์วัามด�นโลหั�ตส)งวั�กฤต และพบผิลเส�ยต%ออวั�ยวัะส/าค์�ญ (End organ damage) เช%น ภาวัะท��ค์วัามด�นโลหั�ตส)งมากท/าใหั$ เล"อดออกในสมอง สมองขาดเล"อด ช�ก ส�บสน ท��หั�วัใจเก�ด หั�วัใจขาดเล"อด หั�วัใจล$มเหัลวั น/-าค์��งในปอด ไตวัาย และ ค์วัามด�นในล)กตาส)ง โดยท��วัไปพบระด�บค์วัามด�นโลหั�ตส)งกวั%า 220140/ mmHg จ/าเป9นต$องร�บร�กษาโดยเร%งด%วันเพ"�อลดค์วัามเส��ยงท��เป9นอ�นตรายถุ1งช�วั�ต
ผิลของค์วัามด�นโลหั�ตส)งต%อร%างกาย
สมอง
หั�วัใจไตตาหัลอดเล"อด
hypertensive encephalopathy, stroke congestive heart failure, myocardial infraction, cardiac death nephrosclerosis, renal failurehypertensive retinopathy atherosclerosis, dissecting aortic aneurism, stroke, myocardial infraction
Hypertensive urgency
ภาวัะท��ระด�บค์วัามด�นโลหั�ตส)งวั�กฤต แต%ย�งไม%พบผิลเส�ยต%ออวั�ยวัะส/าค์�ญ เช%น สมอง หัลอดเล"อด หั�วัใจ ไต ตา พบผิ)$ป0วัยได$ท�-งท��ไม%ม�อาการแสดง และม�อาการแสดง เช%น ปวัดศี�รษะร�นแรง ค์ล"�นไส$ อาเจ�ยน หัายใจถุ�� เจ:บบร�เวัณหัน$าอก โดยท��วัไปพบระด�บค์วัามด�นโลหั�ตส)งกวั%า 180110/ mmHg ภาวัะน�-ต$องเร%งร�กษาเพ"�อป8องก�นไม%ใหั$ค์วัามด�นโลหั�ตส)งไปท/าลายอวั�ยวัะส/าค์�ญ
อัาการแสูดงขอังผิ�ป6วยความด�นโล้หั�ติสู�ง
ม�กไม%แสดงอาการจนกวั%าจะม�อาการร�นแรงมากแล$วัในค์นท��เป9น secondary hypertension จะแสดงอาการช�ดเจนกวั%าอาการท��พบ เช%น ปวัดศี�รษะบร�เวัณท$ายทอยโดยม�การปวัดต�บๆและม�กปวัดในตอนเช$า เวั�ยนศี�รษะ เหัน"�อยง%าย
การว�น�จฉี�ยแล้ะการติรวจที่างหัอัง
ปฏิ�บี�ติ�การ
การว�ดระด�บีความด�นโล้หั�ติการติรวจหัาภาวะแที่รกซ้อันขอังร#างกาย
Blood testX-rayEKG
แนวที่างการร�กษา• Hypertensive Emergency
• ลดระด�บค์วัามด�นโลหั�ตของผิ)$ป0วัยใหั$เร:วัท��ส�ด โดยใช$ยาลดค์วัามด�นโลหั�ตชน�ดฉั�ดทางหัลอดเล"อดด/าหัร"อยาร�บประทานชน�ดออกฤทธิ�>เร:วั เพ"�อท��จะลดอ�นตรายต%ออวั�ยวัะส/าค์�ญต%างๆ
• ไม%ค์วัรลดค์วัามด�นโลหั�ตเก�น ร$อยละ 25 ภายในเวัลา 2 ช��วัโมง เพราะจะท/าใหั$ อวั�ยวัะส/าค์�ญๆ ของร%างกายขาดเล"อด และ อาจเก�ด reflex tachycardia ท/าใหั$อาการของผิ)$ป0วัยแย%ลง
แนวที่างการร�กษาHypertensive urgency
ใหั$ยาลดค์วัามด�นโลหั�ตชน�ดออกฤทธิ�>เร:วั เช%น captopril เม"�อค์วัามด�นโลหั�ตลดลงในระด�บหัน1�งแล$วั จ1งใหั$ยาร�บประทานเพ"�อลดและค์วับค์�มค์วัามด�นโลหั�ตก�บผิ)$ป0วัยต%อไป ในระหัวั%างใหั$การร�กษา ต$องเฝ้8าระวั�ง และตรวัจวั�ดค์วัามด�นโลหั�ตอย)%เสมอ เพ"�อป8องก�นอ�นตรายต%อผิ)$ป0วัยจากการใช$ยา เช%น ค์วัามด�นโลหั�ตต/�า โดยม�อาการ หัน$าม"ด วั)บ การใหั$ค์วัามร) $ก�บผิ)$ป0วัยในการค์วับค์�มค์วัามด�นโลหั�ตเป9นส��งท��ส/าค์�ญท��ส�ด
การร�กษาดวยยาค์วัรเล"อกยาท��สามารถุลดค์วัามด�นโลหั�ต ยาฉั�ด หัร"อ ยาร�บประทานท��ออกฤทธิ�>เร:วั ในกล�%มด�งน�-
Calcium Channel Blockers ม�กลไกการออกฤทธิ�>ค์"อย�บย�-งไม%ใหั$แค์ลเซ้�ยมเข$าส)$เซ้ลล�กล$ามเน"-อหัลอดเล"อด ม�ผิลขยายหัลอดเล"อด เช%น Clevidipine, Nicardipine Nitrates โดยกลไกการออกฤทธิ�>ผิ%านกลไก Nitric Oxide และไปขยายหัลอดเล"อด เช%น Nitroprusside Nitroglycerin Angiotensin Converting Enzyme Inhibitors ส%งผิลใหั$หัลอดเล"อดขยาย เช%น Captopril