Top Banner
Note แบบฝกหัดที2 งานขึ้นรูปชิ้นสวนเครื่องกล I ชิ้นสวนเครื่องกลชิ้นแรกที่เราจะทดลองขึ้นรูปเปนชิ้นสวนเครื่องกลแบบงายๆ ดังภาพเปอรสเปคทีฟ ในรูปที13.1 (ซาย) แตกอนที่เราจะเริ ่มขึ ้นรูปชิ้นสวน 3 มิติชิ้นนีเราจะตองพิจารณารูปทรงของวัตถุเสีย กอน เพื่อที่จะเลือกวิธีขึ้นรูปที่งายและเร็วที่สุด ในการพิจารณารูปทรงของชิ้นงานชิ ้นนี้ พยายามแยก ชิ้นงานออกใหเปนชิ้นสวนยอยๆ เพื่อที่เราจะสามารถเขียนหนาตัด 2 มิติของชิ้นสวนยอยไดโดยงาย เมื ่อพิจารณารูปทรงของชิ้นงานแลว เราสามารถขึ้นรูปโมเดลไดโดยมีขั้นตอนการดังตอไปนี รูปที13.1 1. ใชคําสั่ง File4Open เปดไฟล 13-371-01-1.dwg จากโฟลเดอร \Exercise บน แผน DVD-ROM แนบทายหนังสือคูมือฯ จะปรากฏดังรูปที13.1 (ขวา) เราจะเห็นวามีการเขียนหนาตัดของวัตถุเปนเสนตรงเสนโคง 2 มิติ โดยมีการเขียนหนาตัด 2 มิติของ ชิ้นงานใหขนานกับวิวพอรท Left เพื่อที่เราจะไดไมตองเสียเวลาหมุนชิ้นงานใหหันเหไปตามทิศทาง ที่ตองการ 2. ทดลองเลื่อนเคอรเซอรไปคลิกบนเสน 2 มิติตางๆ เราจะเห็นวาวัตถุ 2 มิติตางๆ นั้น เปนเสนตรง Line และเสนโคง Arc ที่แยกอิสระตอกัน แลวกดปุม D เพื่อยกเลิก การเลือกวัตถุ chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57 371
12

AutoCAD 2007 3D Chap-13

Apr 10, 2015

Download

Documents

api-3826793
Welcome message from author
This document is posted to help you gain knowledge. Please leave a comment to let me know what you think about it! Share it to your friends and learn new things together.
Transcript
Page 1: AutoCAD 2007 3D Chap-13

Note

แบบฝกหัดที่ 2งานขึ้นรูปช้ินสวนเครื่องกล I

ช้ินสวนเคร่ืองกลช้ินแรกทีเ่ราจะทดลองขึน้รูปเปนช้ินสวนเคร่ืองกลแบบงายๆ ดังภาพเปอรสเปคทฟีในรูปที ่13.1 (ซาย) แตกอนทีเ่ราจะเร่ิมขึน้รูปช้ินสวน 3 มติช้ิินนี ้เราจะตองพจิารณารูปทรงของวตัถุเสียกอน เพือ่ทีจ่ะเลือกวธิีขึน้รูปทีง่ายและเร็วทีสุ่ด ในการพจิารณารูปทรงของช้ินงานช้ินนี ้พยายามแยกช้ินงานออกใหเปนช้ินสวนยอยๆ เพือ่ทีเ่ราจะสามารถเขยีนหนาตัด 2 มติขิองช้ินสวนยอยไดโดยงายเมือ่พจิารณารูปทรงของช้ินงานแลว เราสามารถขึน้รูปโมเดลไดโดยมขีั้นตอนการดงัตอไปนี้

รูปที ่13.1

1. ใชคําส่ัง File4Open เปดไฟล 13-371-01-1.dwg จากโฟลเดอร \Exercise บนแผน DVD-ROM แนบทายหนังสือคูมอืฯ จะปรากฏดงัรูปที ่13.1 (ขวา)

เราจะเห็นวามีการเขียนหนาตัดของวัตถุเปนเสนตรงเสนโคง 2 มิต ิโดยมีการเขียนหนาตัด 2 มิติของช้ินงานใหขนานกับวิวพอรท Left เพ่ือที่เราจะไดไมตองเสยีเวลาหมนุช้ินงานใหหันเหไปตามทิศทางทีต่องการ

2. ทดลองเล่ือนเคอรเซอรไปคลิกบนเสน 2 มติิตางๆ เราจะเห็นวาวัตถุ 2 มติิตางๆ นัน้เปนเสนตรง Line และเสนโคง Arc ทีแ่ยกอิสระตอกนั แลวกดปุม D เพือ่ยกเลิกการเลือกวัตถุ

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57371

Page 2: AutoCAD 2007 3D Chap-13

2D Drafting

372

Note

Note

3. จากรูปที ่13.1 (ขวา) แปลงวัตถุ 2 มติใิหเปน Region โดยกอนอ่ืน ใหแนใจวาคาํส่ังTools4Options ในแถบคําส่ัง 3D Modeling มีการเลือก Delete profile and pathcurves ในแถบรายการ Deletion control while creating 3D objects แลวคลิกบนปุมApply และ OK แลวจึงใชคําส่ัง Draw4Region เพือ่แปลงวัตถุ 2 มติใิหเปนRegion เมือ่ปรากฏขอความ Select objects คลิกววิพอรท Left เพือ่กําหนดใหเปนววิพอรทใชงาน แลวคลิกจดุที ่1 และ 2 เพือ่เลือกวตัถุแบบ Crossing แลวคลิกขวาจะปรากฏดงัรูปที ่13.2 (ซาย)

เหตุผลที่เราเลือก Delete profile and path curves ในแถบรายการ Deletion control while creating 3Dobjects ก็เพราะวา เมื่อเราแปลงวัตถุ 2 มิติใหเปน 3 มิติโปรแกรมจะลบเสน 2 มิติใหเราโดยอัตโนมัติ

เราจะเห็นวา Region ทีป่รากฏในววิพอรท Perspective นัน้โปรงใสมองดเูหมอืนโครงลวดไมใช Regionเนื่องจาก Region มี Face normal หันไปอีกยังดานตรงกันขามกับที่ปรากฏในวิวพอรท Perspectiveแตถาเราหมนุมุมมองในววิพอรทเปอรสเปคทฟีไปอกีดานหนึง่ เราจะสามารถมองเห็น Region ปรากฏเปนวัตถ ุ2 มิตทิบึตนั สภาพเชนนี้เปนปกตขิอง Region ใน AutoCAD 2007

4. จากรูปที ่13.2 (ซาย) ใหแนใจวาเลเยอร เปนเลเยอรใชงานแลวเร่ิมเพิม่ความหนาใน 3 มติใิหกบัหนาตดั Profile โดยใชคาํส่ัง Draw4 Modeling4Extrude

Command: _extrude {จากรปูท่ี 13.2 (ซาย) }Current wire frame density: ISOLINES=4Select objects to extrude: 1 found {เล่ือนเคอรเซอรไปบน Region จุดท่ี 1 เมือ่ Region ปรากฏ

เปนเสนประ ใหคลิกซาย}Select objects to extrude: {คลิกขวาหรอืQ}Specify height of extrusion or [Direction/Path/Taper angle]: 170 {กําหนดความลึกเทากบั 170

เมตร แลวกดปุม Q Region จะถกูแปลงเปนโซลิดท่ีมคีวามหนา 170 หนวย

5. โดยคลิกววิพอรท Perspective (มมุขวาลาง) คลิกบนปุมไอคอน Parallel Projectionบนแดชบอรด กดปุมฟงช่ันคยี & เพือ่ปดจดุกริด แลวคลิกบนปุมไอคอน และคลิกปุม

บนทลูบาร 3D Modeling ตามลําดบั จะปรากฏดงัรูปที ่13.2 (ขวา)

รูปที ่13.2

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57372

Page 3: AutoCAD 2007 3D Chap-13

แบบฝกหัดท่ี 2 งานข้ึนรูปชิ้นสวนเครื่องกล I 373

6. ขยายภาพในววิพอรทไอโซเมตริกใหปรากฏเตม็พื้นทีว่าดภาพ โดยคลิกวิวพอรทIsometric (มมุลางขวา) แลวคลิกบนปุมไอคอน บนทูลบาร 3D Modeling จะปรากฏดังรูปที่ 13.3 (ซาย)

7. จากรูปที ่13.3 (ซาย) เคล่ือนยายจดุกําเนิด โดยใชคําส่ัง Tools4New UCS4Origin หรือคลิกบนปุมไอคอน บนทูลบาร 3D Modeling เมื่อปรากฏขอความ

Specify new origin point <0,0,0>: เปด # แลวคลิกจดุที ่2 จะปรากฏดงัรูปที่13.3 (กลาง)

8. กําหนดสีใชงาน โดยคลิกบนปุมไอคอน บนทลูบาร 3D Modeling คางไว แลวคลิกบนปุมไอคอนสีสมรหัส 40 เมือ่ปรากฏขอความ Select objects ใหคลิกขวา

9. จากรูปที ่13.3 (กลาง) เขยีนกลองส่ีเหล่ียม เพือ่ใชในการหกัลบ โดยใชคําส่ัง Draw4

Modeling4Box

Command: _box {จากรปูท่ี 13.3 (กลาง) เปด # ปด # }Specify first corner or [Center]: 30,0,-30 {ใหดทิูศทางจากแกน X,Y,Z ของ UCS Icon แลวพิมพ

แอบโซลุทคอรออรดเินท 30,0,-30 โดยอางองิมมุแรกของกลองจากจุดกาํเนิดใหม คา 30,0,-30 ไดมาจาก เราตองการเขยีนมมุแรกของกลองใหหางจากแนวแกน X = 30 หนวย และหางจากจุดกาํเนิดในแนวแกน Y=0 หางจากจุดกาํเนิดลงในแนวแกน Z=-30}

Specify other corner or [Cube/Length]: @110,-270,-310 {ใหดทิูศทางจากแกน X,Y,Z ของ UCSIcon แลวพิมพรเีลทีฟคอรออรดเินท @110,-270,-310 โดยอางองิมมุแรกของกลอง คา @110,-270,-310ไดมาจาก เราตองการเขยีนมมุทะแยงของกลองใหมคีวามกวางในแนวแกน X = 110 หนวย และมคีวามยาวในแนวแกน Y=-270 และมคีวามสูงในแนวแกน Z=-310 จะปรากฏดงัรปูท่ี 13.3 (ขวา)}

10. จากรูปที ่13.3 (ขวา) หกัลบกลองโซลิดทีถู่กสรางในขอ 9 ออกจากโซลิดช้ินงาน หลักโดยใชคาํส่ัง Modify4Solid Editing4Subtract เมือ่ปรากฏขอความ Select solids andregions to subtract from .. Select objects: คลิกจดุที ่3 แลวคลิกขวา เมือ่ปรากฏขอความSelect solids and regions to subtract .. Select objects: คลิกจดุที ่4 แลวคลิกขวา จะปรากฏดงัรูปที ่13.4 (ซาย)

11. จากรูปที่ 13.4 (ซาย) เขียนรูปทรงกระบอก โดยใชคําส่ัง Draw4Modeling4Cylinder

รูปที ่13.3

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57373

Page 4: AutoCAD 2007 3D Chap-13

2D Drafting

374

Command: _cylinder {จากรปูท่ี 13.4 (ซาย) ปด # เปด ̂ }Specify center point of base or [3P/2P/Ttr/Elliptical]: {เล่ือนเคอรเซอรไปบนผิวหนาตรงจุดท่ี 1

เมือ่ผิวหนาปรากฏเปนเสนประ เปด # แลวเล่ือนเคอรเซอรไปบนสวนโคงตรงจุดท่ี 2 เมือ่ปรากฏมารคเกอร ตรงจุดท่ี 3 ใหคลิกซาย}

Specify base radius or [Diameter]: D {พิมพตวัเลือก D เพ่ือเลือกเสนผาศนูยกลาง}Specify diameter: 125 {พิมพคา 125 เพ่ือกําหนดคาเสนผาศนูยกลาง}Specify height or [2Point/Axis endpoint] <-305.0000>: 50 {พิมพคา 50 เพ่ือกําหนดความสูง จะ

ปรากฏดงัรปูท่ี 13.4 (กลาง)}

12. จากรูปที ่13.4 (กลาง) เคล่ือนยายรูปทรงกระบอกไปอยูในตําแหนงทีถู่กตอง โดยใชคําส่ัง Modify4Move ปด # เปด ) เมื่อปรากฏ Selectobjects: คลิกโซลิดจุดที ่ 4 แลวคลิกขวา เมื่อปรากฏ Specify base point ... คลิกประมาณจุดที ่ 5 เมื่อปรากฏ Specify second point... เล่ือนเคอรเซอรไปยังจดุที ่ 6เมือ่ปรากฏเวคเตอร ใหพมิพ 40 แลวกดปุม Q จะปรากฏดงัรูปที ่13.4 (ขวา)

13. จากรูปที่ 13.4 (ขวา) คัดลอกโซลิดแบบพลิกกลับ โดยใชคําส่ัง Modify43DOperations43D Mirror

Command: _mirror3d {จากรปูท่ี 13.4 (ขวา) ใหแนใจวา # อยูในสถานะเปด}Select objects: {คลิกบนโซลิดทรงกระบอกตรงจุดท่ี 7 }Select objects: {คลิกขวาหรอืกดปุม Q เพ่ือออกจากการเลือกวัตถ}ุSpecify first point of mirror plane (3 points) or[Object/Last/Zaxis/View/XY/YZ/ZX/3points] <3points>: YZ {พิมพตวัเลือก YZ เพ่ือใชระนาบ YZ

เปนระนาบในการพลิกกลับ ดรูะนาบจากยซีูเอสไอคอน}Specify point on YZ plane <0,0,0>: {เล่ือนเคอรเซอรไปยงัจุดท่ี 8 เมือ่ปรากฏมารคเกอร แลวคลิกซาย}Delete source objects? [Yes/No] <N>: {คลิกขวาหรอืกดปุม Q จะปรากฏดงัรปูท่ี 13.5 (ซาย) }

14. จากรูปที่ 13.5 (ซาย) รวมโซลิดทั้งหมดใหกลายเปนช้ินเดียวกัน โดยใชคําส่ังModify4Solid Editing4Union เมือ่ปรากฏขอความ Select objects คลิกโซลิดจดุที ่9และ 10 เพือ่เลือกวตัถุแบบ Crossing แลวคลิกขวา

รูปที ่13.4

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57374

Page 5: AutoCAD 2007 3D Chap-13

แบบฝกหัดท่ี 2 งานข้ึนรูปชิ้นสวนเครื่องกล I 375

Note

15. จากรูปที่ 13.5 (ซาย) เขียนรูปทรงกระบอก เพื่อใชในการเจาะรู โดยใชคําส่ังDraw4Modeling4Cylinder

Command: _cylinder {จากรปูท่ี 13.5 (ซาย) ปด # เปด # }Specify center point of base or [3P/2P/Ttr/Elliptical]: {เล่ือนเคอรเซอรไปบนผิวหนาตรงจุดท่ี 11

เมือ่ผิวหนาปรากฏเปนเสนประ เปด # แลวเล่ือนเคอรเซอรไปบนสวนโคงตรงจุดท่ี 12 เมือ่ปรากฏมารคเกอร ตรงจุดท่ี 13 ใหคลิกซาย}

Specify base radius or [Diameter]: D {พิมพตวัเลือก D เพ่ือเลือกเสนผาศนูยกลาง}Specify diameter: 60 {พิมพคา 60 เพ่ือกาํหนดคาเสนผาศนูยกลาง}Specify height or [2Point/Axis endpoint] <-305.0000>: -190 {พิมพคา -190 หรอืมากกวา เพ่ือ

กาํหนดความลึกของทรงกระบอก จะปรากฏดงัรปูท่ี 13.5 (กลาง)}

ลองปุม S คางไว แลวคลิกปุมสครอล(ปุมกลาง)ของเมาส เพ่ือเรียกคําสั่ ง View4Orbit4Contrained Orbit เพ่ือหมนุมุมมอง ไปยังอีกดานหนึง่เพ่ือตรวจสอบวาผวิหนาทรงกระบอกเสมอกนัพอดเีหมอืนกับดานที่หันใหกบัจอภาพหรือไม หากผวิหนาเสมอกันพอดีแสดงวาถกูตอง

16. จากรูปที ่13.5 (กลาง) หกัลบกลองโซลิดทีถู่กสรางในขอ 9 ออกจากโซลิดช้ินงานหลักโดยใชคาํส่ัง Modify4Solid Editing4Subtract เมือ่ปรากฏขอความ Select solids andregions to subtract from .. Select objects: คลิกจดุที ่14 แลวคลิกขวา เมือ่ปรากฏขอความSelect solids and regions to subtract .. Select objects: คลิกจดุที ่15 แลวคลิกขวาแลวคลิกบนปุม X-ray mode บนแดชบอรด จะปรากฏดงัรูปที ่13.5 (ขวา)

17. จากรูปที ่13.5 (ขวา) ลบมมุโคงฟลเลทรัศม ี15 หนวย โดยใชคาํส่ัง Modify4Fillet

Command: _fillet {จากรปูท่ี 13.5 (ขวา) ใหแนใจวา # อยูในสถานะปด}Current settings: Mode = TRIM, Radius = 0.0000 {ใหแนใจวา Mode= Trim }Select first object or [Undo/Polyline/Radius/Trim/Multiple]: {คลิกเสนขอบจุดท่ี 16 }Enter fillet radius <0.0000>: 15 {พิมพคารศัม ี15 หนวย}Select an edge or [Chain/Radius]: {คลิกเสนขอบจุดท่ี 17, 18, 19 }Select an edge or [Chain/Radius]: {คลิกขวาหรอืกดปุม Q เพ่ือออกจากคําส่ัง จะปรากฏดงัรปูท่ี

13.6 (ซาย)}

รูปที ่13.5

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57375

Page 6: AutoCAD 2007 3D Chap-13

2D Drafting

376

Note

18. จากรูปที ่13.6 (ซาย) ยกเลิกโหมดเอกซเรย โดยคลิกบนปุม X-ray mode บนแดชบอรดเปล่ียนสีโมเดล โดยคลิกบนปุมไอคอน บนทูลบาร 3D Modelingคางไวแลว คลิกบนปุมไอคอนสีเขียวรหัส 60 เมือ่ปรากฏขอความ Select objectsใหคลิกบนโมเดลตรงจดุที ่1 จะปรากฏดงัรูปที ่13.6 (กลาง)

มาถึงจุดนี้ผูเขียนพบวาขนาดความลึกซึ่งเราไดเพ่ิมความหนาโซลิดดวยคําสั่ง Draw4Modeling4Extrude ในขอ 4 ผิดพลาด ไมใช 170 หนวยที่ระบุไว ขนาดที่ถูกตองคือ 250 หนวย ดังนั้น เราจงึตองการแกไขใหถกูตอง การแกไขประวตัขิองโซลดิดวยฟเจอรใหมของ AutoCAD 2007 นัน้เฉพาะกรณีนีค้อนขางยุงยาก เพราะโมเดลใกลเสร็จแลว เราจึงเลอืกวิธกีารแกไขแบบเกา โดยตดั Slice ช้ินงานผากลางแบงออกเปน 2 สวน แลวเคลือ่นยาย Move ใหไดระยะทีถ่กูตอง แลวจงึเขยีนกลองสีเ่หลีย่มผนืผาBox เพ่ิมเตมิสวนที่ขาด แลวจึง Union ใหกลายเปนช้ินเดียวกันอีกคร้ัง โดยมีขั้นตอนดงัตอไปนี้

19. จากรูปที ่13.6 (กลาง) ตัดเฉือนโซลิด โดยใชคําส่ั ง Modify43D Operations4Slice

Command: _slice {จากรปูท่ี 13.6 (กลาง) ใหแนใจวา # อยูในสถานะเปด}Select objects to slice: {คลิกบนโซลิดตรงจุดท่ี 1 เพ่ือเลือกวัตถท่ีุตองการตดั}Select objects to slice: {คลิกขวาหรอืกดปุม Q เพ่ือออกจากการเลือกวัตถ}ุSpecify start point of slicing plane or [planarObject/Surface/Zaxis/View/XY/YZ/ZX/3points] <3points>: YZ {ใหพิมพตวัเลือก YZ แลวกดปุม

Q ใหสังเกตรุะนาบตดัจากยซีูเอสไอคอน}Specify a point on the YZ-plane <0,0,0>: {เล่ือนเคอรเซอรไปยงัจุดท่ี 1 เมือ่ปรากฏมารคเกอร คลิกซาย }Specify a point on desired side or [keep Both sides] <Both>: {คลิกขวาหรอืกดปุม Q

เพ่ือออกจากคาํส่ัง ช้ินงานจะถกูแบงออกเปน 2 สวน ดงัรปูท่ี 13.6 (ขวา)}

20. จากรูปที ่13.6 (ขวา) เคล่ือนยายคร่ึงหนึง่ของโซลิดไปอยูในตําแหนงทีถู่กตอง โดยใชคําส่ัง Modify4Move ปด # เปด ) เมื่อปรากฏ Selectobjects: คลิกโซลิดจุดที ่ 2 แลวคลิกขวา เมื่อปรากฏ Specify base point ... คลิกประมาณจุดที ่ 3 เมื่อปรากฏ Specify second point... เล่ือนเคอรเซอรไปยังจดุที ่ 4เมือ่ปรากฏเวคเตอร ใหพมิพ 80 แลวกดปุม Q จะปรากฏดงัรูปที ่13.7 (ซาย)

รูปที ่13.6

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57376

Page 7: AutoCAD 2007 3D Chap-13

แบบฝกหัดท่ี 2 งานข้ึนรูปชิ้นสวนเครื่องกล I 377

Note

21. จากรูปที ่13.7 (ซาย) ตรวจสอบระยะจดุที ่5 และ 6 วามรีะยะหาง 250 หนวยหรือไมโดยใชคําส่ัง Tools4Inquiry4Distance แลวคลิกจดุที ่5 และ 6

22. จากรูปที ่13.7 (ซาย) เขยีนกลองส่ีเหล่ียมผืนผาเติมสวนทีข่าดหายไป โดยใชคําส่ังDraw4Modeling4Box เมือ่ปรากฏขอความ Specify first corner or [Center]:เปด # แลวคลิกจดุที ่7 เมือ่ปรากฏขอความ Specify other corner or [Cube/Length]: แลวคลิกจดุที ่8 จะปรากฏดงัรูปที ่13.7 (กลาง)

23. จากรูปที ่13.7 (กลาง) รวมโซลิดทัง้หมดใหกลายเปนช้ินเดยีวกนั โดยใชคาํส่ัง Modify4Solid Editing4Union เมือ่ปรากฏขอความ Select objects คลิกโซลิดจดุที ่9 และ10 เพือ่เลือกวตัถุแบบ Crossing แลวคลิกขวา จะปรากฏดงัรูปที ่13.7 (ขวา)

เปนอนัวาเราไดแกไขโมเดลใหมีขนาดความกวาง 250 หนวยซึ่งเปนขนาดที่ถูกตองเรียบรอยแลว

24. จากรูปที่ 13.7 (ขวา) เขียนรูปทรงกระบอก โดยใชคําส่ัง Draw4Modeling4Cylinder

Command: _cylinder {จากรปูท่ี 13.7 (ขวา) เปด # ปด # }Specify center point of base or [3P/2P/Ttr/Elliptical]: {ใหแนใจวา UCS Icon ปรากฏดงัรปูท่ี 13.7

(ขวา) แลวกดปุม S คางไว แลวคลิกขวา เลือกออฟเจกทสแนป Mid Between 2 Points แลวเล่ือนเคอรเซอรไปยงัจุดท่ี 11 เมือ่ปรากฏมารคเกอร คลิกซาย เล่ือนเคอรเซอรไปยงัจุดท่ี 12 เมือ่ปรากฏมารคเกอร คลิกซาย ศนูยกลางของทรงกระบอกจะปรากฏตรงจุดท่ี 13}

Specify base radius or [Diameter]: D {พิมพตวัเลือก D เพ่ือเลือกเสนผาศนูยกลาง}Specify diameter: 160 {พิมพคา 160 เพ่ือกําหนดคาเสนผาศนูยกลาง}Specify height or [2Point/Axis endpoint] <-190.0000>: 40 {พิมพคา 40 เพ่ือกําหนดความสูง

ของทรงกระบอก จะปรากฏดงัรปูท่ี 13.8 (ซาย}

25. จากรูปที่ 13.8 (ซาย) เขียนรูปทรงกระบอกตอไป โดยคลิกขวาเพื่อทําซํ้าคําส่ังDraw4Modeling4Cylinder

รูปที ่13.7

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57377

Page 8: AutoCAD 2007 3D Chap-13

2D Drafting

378

Command: _cylinder {จากรปูท่ี 13.8 (ซาย) ปด # เปด # }Specify center point of base or [3P/2P/Ttr/Elliptical]: {เล่ือนเคอรเซอรไปบนผิวหนาตรงจุดท่ี 1

เมือ่ผิวหนาปรากฏเปนเสนประ เปด # แลวเล่ือนเคอรเซอรไปบนสวนโคงตรงจุดท่ี 2 เมือ่ปรากฏมารคเกอร ตรงจุดท่ี 3 ใหคลิกซาย}

Specify base radius or [Diameter]: D {พิมพตวัเลือก D เพ่ือเลือกเสนผาศนูยกลาง}Specify diameter: 90 {พิมพคา 90 เพ่ือกาํหนดคาเสนผาศนูยกลาง}Specify height or [2Point/Axis endpoint] <40.0000>: 30 {พิมพคา 30 เพ่ือกาํหนดความสูง จะ

ปรากฏดงัรปูท่ี 13.8 (กลาง)}

26. จากรูปที่ 13.8 (กลาง) เขียนรูปทรงกระบอกตอไป โดยคลิกขวาเพื่อทําซํ้าคําส่ังDraw4Modeling4Cylinder

Command: _cylinder {จากรปูท่ี 13.8 (ซาย) ปด # เปด # }Specify center point of base or [3P/2P/Ttr/Elliptical]: {เล่ือนเคอรเซอรไปบนผิวหนาตรงจุดท่ี 4

เมือ่ผิวหนาปรากฏเปนเสนประ เปด # แลวเล่ือนเคอรเซอรไปบนสวนโคงตรงจุดท่ี 5 เมือ่ปรากฏมารคเกอร ตรงจุดท่ี 6 ใหคลิกซาย}

Specify base radius or [Diameter]: D {พิมพตวัเลือก D เพ่ือเลือกเสนผาศนูยกลาง}Specify diameter: 80 {พิมพคา 80 เพ่ือกาํหนดคาเสนผาศนูยกลาง}Specify height or [2Point/Axis endpoint] <30.0000>: 140 {พิมพคา 140 เพ่ือกาํหนดความสูง จะ

ปรากฏดงัรปูท่ี 13.8 (ขวา)}

27. จากรูปที ่13.8 (ขวา) รวมโซลิดทัง้หมดใหกลายเปนช้ินเดยีวกนั โดยใชคาํส่ัง Modify4Solid Editing4Union เมือ่ปรากฏขอความ Select objects คลิกโซลิดจดุที ่7 และ 8เพือ่เลือกวตัถุแบบ Crossing แลวคลิกขวา

28. จากรูปที ่13.8 (ขวา) ปรับระนาบ UCS ใหม โดยใชคาํส่ัง Tools4New UCS4Face เมือ่ปรากฏขอความ Select face of solid object: คลิกบนผิวหนาประมาณจดุที ่ 9เมือ่ปรากฏขอความ Enter an option [Next/Xflip/Yflip] <accept>: คลิกขวาเพือ่ยอมรับ จะปรากฏดังรูปที ่13.9 (ซาย)

29. จากรูปที ่ 13.9 (ซาย) ยายจดุกําเนิด โดยใชคําส่ัง Tools4New UCS4Origin

รูปที ่13.8

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57378

Page 9: AutoCAD 2007 3D Chap-13

แบบฝกหัดท่ี 2 งานข้ึนรูปชิ้นสวนเครื่องกล I 379

เมือ่ปรากฏขอความ Specify new origin point <0,0,0>: กดปุม S คางไว แลวคลิกขวาเลือกออฟเจกทสแนป (Quadrant) แลวคลิกตรงจดุที ่10 จะปรากฏดงัรูปที ่13.9 (กลาง)

รูปที ่13.9

30. จากรูปที ่13.9 (กลาง) เปดโหมดเอกซเรย โดยคลิกบนปุม X-ray mode แลวเขยีนรูปทรงกระบอก โดยใชคําส่ัง Draw4Modeling4Cylinder

Command: _cylinder {จากรปูท่ี 13.9 (กลาง) เปด # ปด # }Specify center point of base or [3P/2P/Ttr/Elliptical]: {ใหแนใจวา UCS Icon ปรากฏดงัรปูท่ี 13.9

(กลาง) แลวกดปุม S คางไว แลวคลิกขวา เลือกออฟเจกทสแนป (From) }Base point: {กดปุม S คางไว แลวคลิกขวา เลือกออฟเจกทสแนป (Quadrant) แลวคลิกจุดท่ี 11}<Offset>: {พิมพรเีลทีฟคอรออรดเินท @70<0 แลวกดปุม Q เพ่ือกาํหนดจุดศนูยกลางของรปูทรงกระบอก}Specify base radius or [Diameter]: D {พิมพตวัเลือก D เพ่ือเลือกเสนผาศนูยกลาง}Specify diameter: 20 {พิมพคา 20 เพ่ือกาํหนดคาเสนผาศนูยกลาง}Specify height or [2Point/Axis endpoint] <40.0000>: -80 {พิมพคา -80 เพ่ือกําหนดความลึก

ของทรงกระบอก จะปรากฏดงัรปูท่ี 13.9 (ขวา}

31. จากรูปที ่13.9 (ขวา) หกัลบทรงกระบอกทีถู่กสรางในขอ 30 ออกจากโซลิดช้ินงานหลักโดยใชคาํส่ัง Modify4Solid Editing4Subtract เมือ่ปรากฏขอความ Select solids andregions to subtract from .. Select objects: คลิกจดุที ่12 แลวคลิกขวา เมือ่ปรากฏขอความSelect solids and regions to subtract .. Select objects: คลิกจดุที ่13 แลวคลิกขวา แลวปดโหมดเอกซเรย โดยคลิกบนปุม X-ray mode บนแดชบอรด จะปรากฏดงัรูปที่13.10 (ซาย)

32. จากรูปที ่13.10 (ซาย) เร่ิมเขยีนระนาบตดั โดยกอนอ่ืนใชคาํส่ัง Format4Layer แลวคลิกบนปุม New Layer สรางเลเยอรใหม โดยตัง้ช่ือเลเยอร SectionPlane แลวกาํหนดสีแดงรหสัสี Red แลวกาํหนดใหเปนเลเยอรใชงาน

33. ปรับ UCS Icon ใหกลับไปที ่World Coordinate System โดยใชคาํส่ัง Tools4NewUCS4World จะปรากฏดงัรูปที ่13.10 (กลาง)

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57379

Page 10: AutoCAD 2007 3D Chap-13

2D Drafting

380

รูปที ่13.10

34. จากรูปที ่13.10 (กลาง) ใหแนใจวา เปนเลเยอรใชงานแลวสรางระนาบตดั โดยใชคาํส่ัง Draw4Modeling4Section Plane

Command: _sectionplane {จากรปูท่ี 13.10 (กลาง) ใหแนใจวา # อยูในสถานะเปด}Select face or any point to locate section line or [Draw section/Orthographic]: D

{พิมพตวัเลือก D เพ่ือลากเสนระนาบตดั}Specify start point: {เล่ือนเคอรเซอรไปยงัจุดท่ี 1 เมือ่ปรากฏมารคเกอร คลิกซาย }Specify next point: {ปด # คลิกประมาณจุดท่ี 2 }Specify next point: {คลิกประมาณจุดท่ี 3 }Specify next point or ENTER to complete: {คลิกขวาหรอืกดปุม Q เพ่ือออกจากเขยีนเสน}Specify point in direction of section view: {เล่ือนเคอรเซอรไปยงัจุดท่ี 4 เมือ่ปรากฏมารคเกอร

คลิกซาย เพ่ือกาํหนดดานท่ีตองการมองเห็น ในขณะท่ีบรรทัด Command: ไมปรากฏคาํส่ังใดๆเมือ่คลิกบนระนาบตดั จะปรากฏจุดกริป๊สบนระนาบตดัดงัรปูท่ี 13.10 (ขวา)}

35. จากรูปที ่13.10 (ขวา) ในขณะทีป่รากฏจดุกร๊ิปสบนระนาบตดั คลิกบนจดุกร๊ิปสตรงจดุที ่ 5 จะปรากฏช็อทคทัเมนู ใหเลือก Section Plane แลวคลิกขวาบนระนาบตดั

รูปที ่13.11

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57380

Page 11: AutoCAD 2007 3D Chap-13

แบบฝกหัดท่ี 2 งานข้ึนรูปชิ้นสวนเครื่องกล I 381

จะปรากฏช็อทคทัเมน ู ใหเลือกคําส่ัง Live Section Settings จะปรากฏหนาตาง LiveSettings ดังรูปที ่13.11 (ซาย) ใหกําหนดคาตางๆ ตามทีป่รากฏดังรูปที ่13.10 (ซาย)แลวออกจากหนาตาง Live Settings แลวกดปุม D คลิกบนระนาบตดัใหปรากฏจดุกร๊ิปส แลวคลิกขวาบนระนาบตดั จะปรากฏช็อทคทัเมน ู ใหเลือกคําส่ัง ActivateLive Sectioning แลวกดปุม D จะปรากฏดังรูปที ่13.11 (ขวา)

36. ซอนระนาบตัด โดยปด(Off)เลเยอร SectionPlane โดยคลิกบนไอคอน ของเลเยอร SectionPlane แลวกําหนดใหเลเยอร Profile เปนเลเยอรใชงาน แลวซอนUCS Icon โดยใชคาํส่ัง View4Display4UCS Icon4On จะปรากฏดงัรูปที ่13.12

เปนอันเสร็จส้ินการทําแบบฝกหดังานขึน้รูปช้ินสวนเคร่ืองกล I เรียบรอยแลว อยาลืมวาหากตองการนําโมเดลไปเขียนเสนบอกขนาด เราจะตองยกเลิก Section Plane หรือแชแข็ง(Freeze)เลเยอรSectionPlane เสียกอน จงึจะสามารถใชออฟเจกทสแนปชวยในการเขยีนเสนบอกขนาดได สวนในการสรางภาพฉาย เราก็สามารถใชคําส่ัง Flatshot บนแดชบอรด ชวยในการสรางภาพฉายอยางสะดวกอยางไรกต็าม หากมีการแกไขโมเดล ภาพฉาย 2 มติิที่ถูกสรางขึ้นดวยคําส่ัง Flatshot และ SectionPlane จะไมอับเดท(Update)ตามการเปล่ียนของโมเดล นี่คือขอจํากัดของการใช AutoCADใน 3 มติ ิ ดงันัน้ ผูทีท่ํางานทางดานเคร่ืองกลจงึนยิมใช Autodesk Inventor หรือ Solidworks ชวยในการขึน้รูปโมเดล 3 มิติและสรางแบบแปลน 2 มติิ เนือ่งจากทั้งโมเดล 3 มิติและแบบแปลน 2 มติิมกีารเช่ือมโยงความสัมพนัธ หากโมเดล 3 มติิไดรับการแกไข แบบแปลน 2 มติกิจ็ะอับเดทตามไปดวย อนึง่การใช AutoCAD ในงาน 3 มติิกยั็งมใีชงานกนัอยางกวางขวาง เนือ่งจากซอฟทแวรมรีาคาปานกลางไมแพงเหมือนซอฟทแวรดังกลาวทีผู่เขยีนไดยกตวัอยางมาขางตน

***************************

รูปที ่13.12

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57381

Page 12: AutoCAD 2007 3D Chap-13

2D Drafting

382

ขึน้รปูโมเดลดวย AutoCAD 2007 เรนเดอรใน AutoCAD 2007

รูปถายจากสถานที่จริง

chap-13.PMD 12/10/2549, 21:57382