Page 1
ภายหลังคำสั ่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ท่ี 10/2559 เร่ือง การขับเคล่ือนการปฏิรปูการศึกษาของกระทรวง
ศึกษาธิการในภูมิภาค และคำสั่งที่ 11/2559 เรื่องการบริหาร
ราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ที่ประกาศออกมา
ในช่วงค่ำของวันที่ 21 มีนาคม 2559 ดูจะทำให้เกิดบรรยากาศ
“ฝุ่นตลบ” และการตั้งคำถามเกี่ยวกับโครงสร้างและบทบาท
ของการจัดการศึกษาของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
พอสมควร อย่างไรก็ตามคำสั่งดังกล่าวดูจะสนับสนุนทิศทาง
การจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ที ่หลายจังหวัดรวมถึงอำนาจเจริญ
กำลังดำเนินการอยู่
มหกรรมเพิ ่มพูนปัญญา ส่งเสริมชุมชนการเรียนรู ้ทาง
วิชาชีพ สู่การปฏิรูปการเรียนรู ้เชิงพื ้นที ่จังหวัดอำนาจเจริญ
“ร่วมคิด ร่วมทำ หนุนนำ พัฒนาการศึกษาการเรียนรู ้ของ
คนอำนาจเจริญ” จัดขึ้นในวันอังคารที่ 22 มีนาคม 2559 ณ
โดมเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญ จังหวัด
อำนาจเจริญ ด้วยการลงแรงแข็งขันของสภาการศึกษาจังหวัด
อำนาจเจริญ นำโดยนายนรงฤทธิ์ จันทรเนตร ประธาน
สภาการศึกษาอำนาจเจริญและนางสุภาพ บุญหลงที่ปรึกษา
นายก อบจ.อำนาจเจริญ มีปลัดจังหวัดอำนาจเจริญมาเป็น
ประธานในพิธีเปิด วัตถุประสงค์การประชุมเพื่อกระตุ้นให้เกิด
ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โจทย์ขับเคลื่อนการศึกษาเชิงพื้นที่อำนาจเจริญ พัฒนะพงษ์ สุขมะดัน
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขยายผลการพัฒนาชุมชนแห่งการ
เรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียน (Professional Learning Community-
PLC)เป็นการพัฒนา“ครู”บนฐานความคิดที่ว่าครูดีครูเก่งมีอยู่
ในพื้นที่ ให้ครูได้เรียนรู้จากประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ไม่ดึงครู
ออกจากห้องเรียน
การสร้างชุมชนการเรียนรูห้รือการพัฒนาครขูองอำนาจเจริญ
เป็นงานส่วนหนึ่งของการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่มีวัตถุประสงค์
เพื ่อให้เกิดการคิดและการทำงานร่วมกันว่าคนอำนาจเจริญ
อยากได้ครูในแบบใดและจะร่วมกันสร้างครูในรูปแบบนั้นได้
อย่างไร เป็นความพยายามที่จะสร้างกลไกพัฒนาครูของตนเอง
พร้อมๆ กับการสร้างฐานข้อมูลบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่
งานพัฒนาครใูนอำนาจเจริญเร่ิมต้นจากการทำงานผ่านเครือข่าย
ครูจากโรงเรียน8แห่งในระยะแรกประกอบด้วยโรงเรียนหัวดง
หนองคลอง โรงเรียนเจริญวิทยา โรงเรียนบ้านดงมะยางหนอง
นกหอ โรงเรียนบ้านคำเดือย โรงเรียนบ้านสมสะอาดเนินกุง
โรงเรียนโคกสวาสดิ์หนองสองห้องดอนแดง โรงเรียนเทศบาล 1
วัดเทพมงคล และโรงเรียนบ้านดอนแดงนาโนน ในงานมหกรรม
เพิ่มพูนปัญญาฯ ครูและผู้บริหารจากโรงเรียนทั้ง 8 แห่ง ได้มา
ร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการสร้างชุมชนการเรียนรู้
โดยแต่ละแห่งก็มีรูปแบบและวิธีการที่แตกต่างกันไปตามบริบท
จั ง ห วั ด ป ฏิ รู ป ก า ร เ รี ย น รู้
เด่นในฉบับ.. • ชุมชนแห่งการเรียนรู้ครูบนดอย
• ระบบฐานข้อมูลสารสนเทศเพื่อสนับสนุนกิจกรรม
ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
• ติดตามความเคลื่อนไหวของจังหวัดปฏิรูปการเรียนรู้ที ่
ABENetwork’sCorner
ฉบับที่
อ่านต่อหน้า4
วันที่ 1 เมษายน 2559 19
Page 2
2
“บ้านแม่ลิด” โรงเรียนที่อยู่ในหุบเขาสูงของอำเภอแม่สะเรียง
จังหวัดแม่ฮ่องสอน แม้เส้นทางคมนาคมคดเคี้ยวยากลำบากอีกทั้ง
ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ใดๆ เข้าถึง แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด
โรงเรียนแห่งนี ้จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึง ม.3
มุ่งเน้น 3 ทักษะหลักคือ ทักษะวิชาการ ทักษะวิชาชีพ และทักษะ
ชีวิต มีผู้บริหารและคุณครูรวม 18 คน นักเรียนทั้งหมด 326 คน
นักเรียนทั้งหมดเป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงขาว(สกอร์)อีกทั้งที่นี่ยังเป็น
ที ่พำนักพักนอนสำหรับนักเรียนกว่า 50 คน ที ่บ้านอยู ่ไกล ไม่
สามารถเดินทางไปกลับในแต่ละวันได้ นักเรียนบางคนต้องเดินจาก
บ้านมาโรงเรียนไกล 20-30 กิโลเมตร การย้ายเข้าออกของคุณครู
เฉลี่ยปีละ 1-2 คน ยังคงเป็นปัญหาจากความทุรกันดารยากลำบาก
ดังกล่าว
ผู ้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมเรียนรู ้กระบวนการพัฒนา
ชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพเพื่อพัฒนาผู้เรียน (Professional Learning
Community-PLC) ร ่วมกับผู ้บริหารและคุณครูที ่โรงเร ียนแห่งนี ้
ในวันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2559 ทันทีที่เดินทางมาถึงโรงเรียนก็สัมผัส
ได้ถึงบรรยากาศของความสุขความอบอุ่น คุณครูที ่นี ่อยู ่ร ่วมกัน
แบบพี่น้องครอบครัว มีผู ้บริหารที ่พร้อมจะหนุนเสริมช่วยเหลือ
กิจกรรมในวันนี้เกิดขึ้นด้วยความสนใจของ ผอ.สายัญ โพธิ์สุวรรณ
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่ลิด ที่มุ่งมั่นตั้งใจจัดให้มี “ชุมชนการ
เรียนรู้ ชุมชนแห่งความรัก และชุมชนแห่งความสุข” ขึ้นที่นี ่
โดยมุ่งเน้นที่จะร่วมกันจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาให้นักเรียนมี
คุณลักษณะสำคัญคือ ความมีจิตสาธารณะ ด้วยตระหนักว่า
คุณสมบัติน ี ้จะทำให้เด็กๆ ที ่น ี ่ม ีค ุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อ
ส่วนรวมมากกว่าการเรียนรู้เพียงเพื่อให้ตนเองอยู่รอด เปลี่ยนแนวคิด
การจัดการศึกษาที ่เน้นการแข่งขันไปสู ่กระบวนการเรียนรู ้เพื ่อ
ช่วยเหลือแบ่งป ันส ิ ่งด ีๆ สมัครสมานสามัคคีและมีจ ิตอาสา
นี่จึงเป็นจุดร่วมในการกำหนดเป้าหมายPLCของโรงเรียนแห่งนี้
กระบวนการ PLC เริ่มขึ้นด้วยการเปิดใจของทั้งผู้บริหารและ
ครู แต่ละคนได้มีโอกาสพูดคุยกับคนที่ตนเองคิดว่าสนิทน้อยที่สุด
เพื ่อทำความรู ้จักและสร้างความสัมพันธ์อันดีในการใช้ชีวิตและ
ทำงานร่วมกันมากขึ้น นอกจากแนะนำตนเองแล้วการดึงจุดเด่นที่
ตนเองคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนเพื่อนำมาเล่า
ให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะนำไปสู่การช่วยเหลือเกื้อกูล
ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกันจากจุดแข็งที่แต่ละคนมี
ผู้บริหารและคุณครูได้เรียนรู้ตัวอย่าง PLC จากโรงเรียนจำลอง
“ดงละครรำ” ร่วมกันวิเคราะห์ข้อเด่น ข้อด้อยจากตัวอย่างดังกล่าว
รวมถึงสิ่งที่คิดว่าจะสามารถนำมาปรับใช้ในการพัฒนาชุมชนแห่งการ
เรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนที่โรงเรียนบ้านแม่ลิดได้ กิจกรรมนี้ทำให้เห็น
ภาพร่วมกันว่า PLC จะเกิดขึ้นได้เมื่อผู้บริหารและคุณครูทุกคนใน
โรงเรียนเห็นเป้าหมายร่วมกันตระหนักว่าอะไรคือปัญหาของผู้เรียนที่
จะต้องร่วมกันแก้ไข มีการทำงานร่วมกันเป็นทีมเพ่ือแก้ปัญหาดังกล่าว
คุณครูช่วยกันออกแบบกระบวนการจัดการเรียนการสอนแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่องตลอดการทำงาน โดยมีผู้บริหารเป็นผู้นำ
กระบวนการคอยหนุนเสริมช่วยเหลือ
จากตัวอย่างดังกล่าว คุณครูแต่ละช่วงชั้นได้มีการวิเคราะห์
ร่วมกันเพ่ือกำหนดจุดร่วมในการพัฒนาผูเ้รียน โดยเบ้ืองต้นครอูนุบาล
และช่วงชั้นที่ 1 (ป.1-ป.3) ตั้งเป้าหมายร่วมกันที่จะพัฒนาผู้เรียนให้
อ่านออกเขียนได้ 100%คุณครูช่วงชั้นที่ 2 (ป.4-ป.6) ตั้งเป้าหมายที่
จะพัฒนาให้นักเรียนกล้าพูดแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงออก
คุณครูช่วงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3) ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาผู้เรียนให้มีจิต
สาธารณะ การตั้งเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนดังกล่าวนับเป็น
จุดเริ่มต้นและก้าวย่างที่สำคัญของการทำงานร่วมกันในกลุ่มครูและ
ผู้บริหารผ่านชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพจากนี้ต่อไป
หลังจากทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันด้วยความสุขทั้งวัน คุณครูได้
สะท้อนความคิดความรู้สึกว่า ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ น่าจะ
สร้างสัมพันธ์ที ่แนบแน่นมากขึ้น เด็กๆ ได้รับความใส่ใจมากขึ้น
ผลการเรียนจึงต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน และไม่น่าเชื่อว่า ชุมชนการ
เรียนรู้ทางวิชาชีพเป็นเส้นทางที่ไม่ได้ยากเท่าที่เคยกลัว และน่าจะ
สร้างสิ่งดีดีอีกมากมาย สำหรับ ผอ.สายัญ ก็ได้ย้ำในช่วงท้ายก่อน
เสร็จสิ้นกิจกรรมว่าชุมชนแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนนี้ จะเป็น
เครื ่องมือ/วิธีการที่ทำให้แต่ละคนได้สะท้อนและแสดงพลังความ
สามารถของตนเองออกมา ด้วยตระหนักว่าเพื่อนทุกคนมีคุณค่า
มีความสามารถ มีความหมาย กระบวนการนี้จะช่วยดึงพลังของ
พวกเราให้มาทำงานร่วมกัน เกิดวัฒนธรรมทำงานกันแบบพี่น้องที่
พร้อมเรียนรู้ แก้ไข ปรับปรุงพัฒนาไปพร้อมๆ กัน เพื่อเป้าหมาย
สำคัญคือ“คุณภาพผู้เรียนที่ดี”
บ้านแม่ลิด เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า ความยาก
ลำบากมิได้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาผู้เรียนแต่อย่างใด และ
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาผู้เรียนสามารถเกิด
ขึ้นได้ไม่ว่าอยู่ที่ใด ขอเพียงผู้บริหาร คุณครูและบุคลากรทุกคนใน
โรงเรียนมีความมุ่งมั่นตั้งใจเอาจริงเอาจัง
พัฒนาคน... พัฒนางาน
ดร.ประพาฬรัตน์ คชเสนา
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ ครูบนดอย
Page 3
จากนโยบายการปรับเวลาเรียนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ศึกษาธิการ ให้ลดชั่วโมงเรียนของเด็กลง โดยเรียนภาควิชาการใน
สาระหลักเพียงแค่เวลา 14.30 น. จากนั้นให้เด็กนักเรียนทำกิจกรรม
นอกห้องเรียน เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในทุกด้าน ในรูปแบบ
ของกิจกรรมเสริมหลักสูตร และการเรียนรู้แบบบูรณาการ นั่นก็คือ
นโยบาย ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ อันหมายถึง การลดเวลาเรียนภาค
วิชาการและการลดเวลาของการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็น
ผูรั้บความรู้เช่นการบรรยายการสาธิตการศึกษาใบความรู้ให้น้อยลง
และเพิ่มเวลาและโอกาสให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง มีประสบการณ์
ตรง คิดวิเคราะห์ ทำงานเป็นทีม และเรียนรูด้้วยตนเองอย่างมีความสุข
จากกิจกรรมสร้างสรรค์ที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งเป็นกรอบวิสัยทัศน์
ด้านการศึกษา เพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมเข้าสู่การเรียนรู้ในศตวรรษ
ที่ 21ของไทยนั้นสอดคล้องกับของหลายประเทศที่เป็นผู้นำด้านการ
ศึกษาของโลก ซึ ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั ้นพื ้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการลดเวลา
เรียนเพิ่มเวลารู้ดังรูปด้านล่างนี้
ดังนั ้น สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู ้และคุณภาพ
เยาวชน (สสค.) และทีมวิจัยระบบฐานข้อมูลสารสนเทศ คณะ
วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงได้ร่วมพัฒนาระบบฐาน
ข้อมูลสารสนเทศสำหรับกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ขึ้นมา เพื่อให้
สอดคล้องต่อนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และเพื่อรองรับต่อ
การใช้งานของสถานศึกษา เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนเป็นไป
อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในการบันทึกกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
ระบบข้อมูลสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ดร.วรลักษณ์ คงเด่นฟ้า
3
รณรงค์สื่อสาร จังหวัดปฏิรูปการเรียนรู้
ครูสามารถเข้าไปจัดการข้อมูลได้ตามที่วางแผนงานไว้ โดย
สามารถเพิ่มกิจกรรมหรือแก้ไขกิจกรรมได้หลังจากนั้นสามารถ
เพิ ่มเด็กเข้าสู ่กิจกรรมได้โดยสามารถระบุได้ว่าจะเพิ ่มเด็ก
นักเรียนเป็นห้องหรือคละห้อง
และในกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ครูผู้สอนสามารถ
เข้าไปประเมินผลการเข้าร่วมกิจกรรมของเด็กนักเรียนได้ โดย
การประเมินผลจะประเมินในแต่ละจุดประสงค์ว่า ผ่านการ
ประเมินหรือไม่ผ่านการประเมิน
สุดท้ายนี ้ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู ้และ
คุณภาพเยาวชน (สสค.) และทีมวิจัยระบบฐานข้อมลูสารสนเทศ
คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรหวังว่า ระบบฐาน
ข้อมูลสารสนเทศสำหรับกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้นี้ จะ
สามารถเป็นเครื่องมือในการจัดการกิจกรรมการเรียนการสอนได้
เป็นอย่างดี และหวังว่าจะช่วยลดภาระการทำงานของครูผู้ดูแล
กิจกรรมลงได้ และเพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างการเรียนรู้ของ
นักเรียนให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามนโยบายของกระทรวง
ศึกษาธิการ ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยและเตรียม
นักเรียนให้พร้อมเข้าสู่ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ได้อย่าง
มั่นคง
รูปแสดงหน้าประเมินผลกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
รูปแสดงหน้าบันทึกกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
Page 4
อำนาจเจริญ : 22 มีนาคม 2559 สภาการศึกษาจังหวัดอำนาจเจริญจัดงานมหกรรม
เพิ่มพูนปัญญา ส่งเสริมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สู่การปฏิรูปการเรียนรู้เชิงพื้นที่
จังหวัดอำนาจเจริญ งานนี้ 2 พ่อใหญ่ของการปฏิรูปการเรียนรู้ฯ ทั้งอดีตประธานคณะ
ทำงานฯนายสมนึก มีทอง และประธานฯ คนปัจจุบันนายนรงฤทธิ์ จันทรเนตร
ทั้งยังมีนพ.ชัยพรทองประเสริฐกำลังสำคัญอีกคนมากันพร้อมหน้า
สุราษฎร์ธานี : เสร็จสิ ้นเป็นที ่เรียบร้อยแล้วสำหรับการจัดทำ “คู ่มือครูหลักสูตร
พุทธทาสศึกษา” เริ่มจัดทำตั้งแต่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 มาแล้วเสร็จเอา 21 มีนาคม
2559หัวขบวนทั้ง3ท่าน นายธีรวัฒน์ รัตนกุล นายชัยวัฒน์ แก้วบัวทองและนาย
สุชาติ เหล่ากอ ลงแรงแข็งขันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือนี้จะง่ายต่อการนำไปใช้กับ
โรงเรียนนำร่องทั้ง12แห่ง
ตราด : 23 มีนาคม 2559 ชาวตราดจัดงาน “ตราดรำลึก” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระ
มหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือ “เสด็จพ่อ ร.5” ที่
ได้นำตราดกลับคืนมาเป็นดินแดนของสยามประเทศจากการล่าอาณานิคมของตะวันตกใน
สมัยนั้น ในโอกาสครอบรอบ 110 ปี คณะทำงานจัดการศึกษาเชิงพื้นที่โดยนายธันยา
หาญพลได้นำวาระทางการศึกษาผนวกไว้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมตราดรำลึกด้วย
สมัครสมาชิก สสค. ดาวน์โหลดไฟล์จดหมายข่าว “สานปัญญา” ได้ที่ www.QLF.or.th
ติดตามข่าวสาร สสค. ที่ Quality Learning Foundation QLFThailand
แจ้งเปลี่ยนที่อยู่สมาชิก/สอบถาม โทร. 02-6191811
ต่อจาก หน้า 1
ABE Network’s Corner
ของตนเองแต่ล้วนมีเป้าหมายที่การพัฒนาผู้เรียนเป็นสำคัญ
เช่น การแก้ปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ การฝึกคิดวิเคราะห์
หรือการเรียนที่เน้นการฝึกปฏิบัติ เป็นต้น ความสำเร็จสู่ผู้เรียน
จากโรงเรียนที่ร่วมโครงการในระยะแรกนี้กำลังจะขยายไปสู่
โรงเรียนอีก11แห่งในระยะต่อไป
การสร้างชุมชนการเรียนรู้เป็นหนึ่งในโจทย์ขับเคลื่อนการ
จัดการศึกษาเชิงพื้นที่ของจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งก่อนหน้านี้
ประมาณ 3 เดือน จังหวัดอำนาจเจริญได้มีการก่อตั้งสภา-
การศึกษาจังหวัดขึ้นเป็นที่รวมของความร่วมมือ นักคิดและ
คนทำงานไม่เฉพาะเพียงนักการศึกษาแต่ขยายวงไปสู่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ องค์กรชุมชน สื่อมวลชน
หน่วยงานสาธารณสุข ยุติธรรม เป็นต้น สภาการศึกษาจังหวัด
อำนาจเจริญจึงเป็นกลไกความร่วมมือที ่เกิดขึ ้นเพื ่อมุ ่งหวัง
ยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ของเด็กเยาวชนในพื้นที่ การสร้าง
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ของสภาการศึกษาจังหวัดอำนาจเจริญแม้
จะเป็นเสมือนการ “ซ้อมมือ” การทำงานร่วมกันของสภาการ
ศึกษาจังหวัดกับโรงเรียนในพื้นที่แล้ว ในขณะเดียวกันก็เป็นการ
พิสูจน์ให้เห็นคุณค่าการคงอยู ่ของกลไกความร่วมมือนี ้ด้วย
พร้อมๆกับการขยายผลโรงเรียนในเครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู ้
สภาการศึกษาจังหวัดอำนาจเจริญกำลังรวบรวมข้อมูลและ
ความเห็นจัดทำเป็นร่างแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดเสนอต่อ
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อบรรจุเข้าไว้ในแผนยุทธศาสตร์จังหวัด
เพื่อให้การขับเคลื่อนการศึกษาของจังหวัดของทุกหน่วยงานใน
พื้นที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน โดยคาดว่าจะสามารถ
ดำเนินงานได้ทันการตั้งงบประมาณของจังหวัดในปีงบประมาณ
2560นี้
ในช่วงท้ายของมหกรรมเพิ ่มพูนปัญญาฯ นายนรงฤทธิ ์
จันทรเนตร ประธานสภาการศึกษาจังหวัดอำนาจเจริญ ได้
ขอบคุณครูและผู้บริหารสถานศึกษาในเครือข่ายทุกแห่งที่เข้า
ร่วมโครงการ สมาชิกสภาการศึกษาจังหวัดอำนาจเจริญและ
หน่วยงานสนับสนุนโดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัด
อำนาจเจริญท่ีร่วมกันเป็นเจ้าภาพทำให้การทำงานลุล่วงไปด้วยดี
รวมถึง รศ.ดร.บังอร เสรีรัตน์ และคณะ และนางสาว
ประพาฬรัตน์ คชเสนา นักวิชาการจาก สสค. ที่ได้ร่วมเป็น
พี่เลี้ยงให้คำแนะนำการดำเนินงาน พร้อมทั้งได้กล่าวถึงบทบาท
ของสภาการศึกษาจังหวัดอำนาจเจริญว่า “สภาการศึกษา
จังหวัดอำนาจเจริญได้คิดและทำงานการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่
มาระยะหนึ่งแล้ว หลังจากนี้จะทำงานเป็นเพื่อนคู่คิดไปพร้อมๆ
กับคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด หรือ “กศจ.” ที่รัฐบาลเพิ่ง
มีคำสั่งแต่งตั้งขึ้น เพื่อให้การดูแลเด็กเยาวชนคนอำนาจเจริญ
เป็นเรื่องของคนอำนาจเจริญอย่างแท้จริง”