เครือข่ายภาคประชาชน ในการ ...envi-mining.dpim.go.th/news/ac1-t1306210367.pdfสำน กอ ตสาหกรรมพ...

สำนักอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต

กพร.

สำนักบริหารสิ่งแวดล้อม

ประธานเครือข่าย

รายงานตามรอบระยะเวลา 1. เดือนมิถุนายน 2. เดือนธันวาคม

กลุ่มส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อม

ขั้นตอนการดำเนินงานแก้ ไขปัญหา

แจ้งผล การสั่งการ

แจ้งผล การแก้ ไข

กรณีมีผลกระทบ ระดับปานกลางขึ้นไป ให้ระบุรายละเอียดพื้นที่ ที่ ได้รับผลกระทบ

ฝ่ายอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด และ อบต. หรือเทศบาล

สั่งการ แจ้งผลการแก้ปัญหา

ประสานงานและตรวจสอบร่วม บันทึกการตรวจสอบร่วม

ทุกภาคส่วน ร่วมใจ รวมพลัง ดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม

เครือข่ายภาคประชาชน ในการรายงานการเฝ้าระวังคุณภาพ สิ่งแวดล้อมในชุมชนที่มีการทำเหมืองแร่

สำนักบริหารสิ่งแวดล้อม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่

ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 02-2023741, 02-3543511

8. การจัดส่งรายงาน

ให้ประธานเครือข่ายจัดส่งรายงานโดยตรงไปยังกลุ่ม

ส่งเสริมการจัดการสิ่ งแวดล้อม สำนักบริหารสิ่ งแวดล้อม

กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ถ.พระรามที่ 6

เขตราชเทวีกรุงเทพฯ10400

9. การจัดทำทะเบียนรายชื่อ

สำนักบริหารสิ่งแวดล้อม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและ

การเหมืองแร่ จัดทำทะเบียนรายชื่อเครือข่ายภาคประชาชนในการ

เฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่มีการทำเหมืองแร่แต่ละ

พื้นที่พร้อมที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าว

จะถือว่าเป็นความลับไม่เปิดเผยสู่สาธารณะ

ในสถานการณ์ปัจจุบันแนวนโยบายของรัฐและธรรมนูญ

การปกครอง ตลอดจนกฎหมายต่างๆ ด้านสิ่งแวดล้อมและ

สวัสดิการสังคมกำหนดให้ประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่

ใกล้ชิดและได้รับผลกระทบโดยตรงจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ

และสิ่งแวดล้อมและโครงการพัฒนาที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต้อง

มีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน

และการเหมืองแร่ (กพร.) จึงจัดให้มีการสร้างกระบวนการหรือ

ช่องทางให้ภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบเข้ามามีส่วนร่วมหรือ

เป็นเครือข่ายเฝ้าระวังและดูแลการใช้ทรัพยากรแร่และคุณภาพสิ่ง

แวดล้อม ทั้งนี้ ได้กำหนดเป้าหมายว่าจะจัดตั้งและขยายเครือข่าย

ภาคประชาชนให้ครอบคลุมในทุกตำบลที่มีประทานบัตรเหมืองแร่

โดย กพร. ได้เริ่มจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชนตั้งแต่ปี พ.ศ.

2550เป็นต้นมา

1. คุณสมบัติของสมาชิกเครือข่าย

เป็นประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ห่างจากแนวเขตประทาน

บัตรในรัศมี500เมตรหรือที่มีบ้านเรือนอยู่ในหมู่บ้านซึ่งเป็นที่

ตั้งประทานบัตรหรืออยู่ในตำบลซึ่งเป็นที่ตั้งประทานบัตร

2. การคัดเลือก

การคัดเลือกสมาชิกเครือข่ายจะคัดเลือกจากผู้มีคุณสมบัติ

ตามข้อ 1 โดยพิจารณาเลือกบุคคลอาชีพต่างๆ เช่น ครู อาสา

สมัครชุมชน สาธารณสุขชุมชน ประชาคมหมู่บ้าน นักเรียน

ประธานชมรมต่างๆ กรรมการหมู่บ้าน เป็นต้น โดยมีจำนวน

สมาชิกไม่น้อยกว่า 3 คน มีประธานเครือข่าย 1 คน ทั้งนี้

สมาชิกเครือข่ายต้องไม่เป็นเจ้าหน้าที่ของอบต./เทศบาล

3. บทบาทหน้าที ่

สมาชิกเครือข่ายมีหน้าที่ดำเนินกิจกรรมเฝ้าระวังคุณภาพ

สิ่งแวดล้อมร่วมกัน โดยการให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริงตามแบบ

รายงานการเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่มีการทำ

เหมืองแร่กพร.ที่กำหนดไว้ปีละ2ครั้งครั้งที่1เดือนมิถุนายน

ครั้งที่2เดือนธันวาคมทั้งนี้ในการทำกิจกรรมร่วมกันให้ยึดหลัก:

•การมีส่วนร่วมของสมาชิกทุกคนในเครือข่ายร่วมกัน ปฏิบัติภารกิจ

•ยอมรับฟังความคิดเห็นกันอย่างเท่าเทียม

•แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

4. จุดมุ่งหมายของเครือข่าย

เครือข่ายประชาชน จุดมุ่งหมาย คือ ช่วยดูแลและ

เฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม พร้อมกับสนับสนุนให้มีการทำ

เหมืองแร่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน

5. วิธีดำเนินงานเครือข่าย

จัดให้มีกิจกรรมร่วมกันของสมาชิก เช่น การจัดประชุม

ร่วมกันเพื่อระดมความคิดเห็นในการประเมินผลกระทบตามแบบ

รายงานร่วมกันแก้ปัญหาในการทำงานร่วมกันแก้ไขปัญหาที่มีผล

กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ทั้งนี้ ควรจัดทำตารางกิจกรรม

ไว้อย่างชัดเจนทั้งในเรื่องเวลาความถี่และสถานที่

6. แนวทางการรายงาน

การรายงานการเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่มี

การทำเหมืองแร่ เครือข่ายภาคประชาชนจะต้องรายงานผลกระทบ

ดังต่อไปนี้

• ฝุ่นละอองจากการทำเหมือง • เสียง • การระเบิดที่ก่อให้เกิดความสั่นสะเทือนหินปลิว กระเด็นและรวมถึงการให้สัญญาณเตือนภัย

• น้ำทิ้ง • การขนส่งแร่

7. วิธีการรายงาน

ในกรณีที่ 1 :ถ้าไม่มีผลกระทบก็ให้ระบุว่าไม่ได้รับผล

กระทบหรือได้รับผลกระทบน้อยซึ่งหมายถึงได้รับผลกระทบบ้าง

แต่ไม่มาก ชุมชนสามารถอยู่ได้โดยไม่มีผลกระทบกับการดำรง

ชีวิต

ในกรณีที่ 2 :ถ้าได้รับผลกระทบปานกลาง ให้ระบุว่า

ได้รับผลกระทบปานกลางพร้อมกับระบุสถานที่ที่ได้รับผลกระทบ

ให้ชัดเจน ซึ่งหมายถึงได้รับผลกระทบในระดับที่ก่อให้เกิดปัญหา

ต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในชุมชน และควรได้รับการตรวจ

สอบแก้ไข

ในกรณีที่ 3 :ถ้าได้รับผลกระทบมาก ให้ระบุว่าได้รับ

ผลกระทบมาก พร้อมกับระบุสถานที่ที่ได้รับผลกระทบให้ชัดเจน

ซึ่งหมายถึงได้รับผลกระทบในระดับที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อการดำรง

ชีวิตของประชาชนในชุมชน และควรได้รับการตรวจสอบแก้ไข

อย่างเร่งด่วน