Top Banner
บบบบบ บบบบบ 2 2 บบบบบบบบ บบบบบบบบ บบบบบบบบ บบบบบบบบ Biology ( Biology ( 40241 40241 ) )
44
Welcome message from author
This document is posted to help you gain knowledge. Please leave a comment to let me know what you think about it! Share it to your friends and learn new things together.
Transcript
Page 1: 198

บทท�� บทท�� 22การศึกษาการศึกษาชี�วว ทยาชี�วว ทยา

บทท�� บทท�� 22การศึกษาการศึกษาชี�วว ทยาชี�วว ทยา

Biology (Biology (ว ว 4024140241) )

Page 2: 198

บทท�� 2 การศึกษาชี�วว ทยา2.1 การศึกษาชี�วว ทยา

2.1.1 การตั้��งสมมตั้ ฐาน

2.1.2 การตั้รวจสอบสมมตั้ ฐาน

2.1.3 การเก�บรวบรวม ข้�อม�ลและการ ว เคราะห์#

ข้�อม�ล2.1.4 การสร$ปผลการ

ทดลอง2.2 กล�องจ$ลทรรศึน#

2.2.1 กล�องจ$ลทรรศึน#แบบใชี�แสง

2.2.2 กล�องจ$ลทรรศึน#อ เล�กตั้รอน

Page 3: 198

การศึกษาชี�วว ทยา

Page 4: 198

ชี�วว ทยา  (Biology)          เป็�นว�ชาที่� กล่�าวถึ�งเรื่� องรื่าวต่�างๆ  ของสิ่� งมี�ช�ว�ต่  (Liv

  ing organisms) อ�นเป็�นว�ชาแขนงหน� งของว�ชาว�ที่ยาศาสิ่ต่รื่!  (Science) 

Page 5: 198

  Biology มีาจากคำ$าภาษากรื่�ก 

- Bios  (ช�ว�ต่ , สิ่� งมี�ช�ว�ต่   )แล่ะ  - logos  (กล่�าวถึ�ง , ศ�กษา , ว�ชา , คำวามีคำ�ด , การื่มี�

เหต่*ผล่)

Page 6: 198
Page 7: 198

คำ$าว�า  “   Biology” ใช-เป็�นคำรื่�.งแรื่ก  เมี� อ  คำ.ศ   . 1801 โดยน�กว�ที่ยาศาสิ่ต่รื่!   2 ที่�าน คำ�อ 

- Jean Baptiste de Lamarckน�กสิ่�ต่วว�ที่ยาชาวฝรื่� งเศสิ่  แล่ะ - Ludolf Christian Treviranus  น�กพฤกษาศาสิ่ต่รื่!ชาวเยอรื่มี�น

Page 8: 198

การศึกษาชี�วว ทยา     เช�นเด�ยวก�บ ว�ชาว�ที่ยาศาสิ่ต่รื่!แขนงอ� นๆ  การื่ศ�กษาเรื่�ยนรื่4 -ที่างช�วว�ที่ยาอาศ�ยว�ธี�การื่ที่างว�ที่ยาศาสิ่ต่รื่!

  (Scientific Method) อ�นมี�ข� .นต่อนด�งน�.

Page 9: 198

Scientific Method• 1 การส�งเกตั้  (Observation)• 2. การตั้��งป+ญห์า  (Problem)• 3. การรวบรวมข้�อม�ล  (Accumulation of

Data)•   4. การตั้��งสมมตั้ ฐาน  (Formulation of

Hypothesis)•   5. การทดสอบสมมตั้ ฐาน  (Testing of

  Hypothesis) หรื่�อ  การทดลอง(Experimentation)

•   6. การสร$ปผล  (Conclusion)

Page 10: 198

Scientific Method

http://cai.md.chula.ac.th/lesson/research/re12.htm

Page 11: 198

http://io.uwinnipeg.ca/~simmons/1115/cm1503/introscience.htm#The%20Organization%20of%20Life

Page 12: 198

You are camping and you go to turn on your flashlight and it doesn’t work. So what is wrong wit

h it?

http://io.uwinnipeg.ca/~simmons/1115/cm1503/introscience.htm#The%20Organization%20of%20Life

Page 13: 198

แต่� ช�วว�ที่ยา มี.4 มี�ด�งน�.1. การื่ต่�.งสิ่มีมีต่�ฐาน2. การื่ต่รื่วจสิ่อบสิ่มีมีต่�ฐาน3. การื่เก7บรื่วบรื่วมีข-อมี4ล่แล่ะว�เคำรื่าะห!ข-อมี4ล่4. การื่สิ่รื่*ป็ผล่การื่ที่ดล่อง

Page 14: 198

การตั้��งป+ญห์า (Observation and

Problem)

• ป็8ญหาที่� เก�ดข�.นจากการื่สิ่�งเกต่ ซึ่� งที่$าให-ได-ข-อเที่7จจรื่�ง ถึ-าข-อเที่7จจรื่�งน�.นไมี�ต่รื่งก�บคำวามีรื่4 -เก�าที่� เรื่ามี�อย4� จ�งเก�ดป็8ญหาข�.น

• ป็8ญหาที่� ต่-องสิ่�มีพ�นธี!ก�บข-อเที่7จจรื่�งที่� มี�อย4� ต่-องแจ�มีช�ด แล่ะต่-องอย4�ในว�สิ่�ยที่� จะคำ-นคำว-าได-จากการื่ที่ดล่องหรื่�อสิ่�งเกต่ 

Page 15: 198

การตั้��งสมมตั้ ฐาน (Formulation of

Hypothesis)

• คำ$าต่อบที่�.งหมีดที่� อาจเป็�นไป็ได-ของป็8ญหาน�.น• … …สิ่มีมีต่�ฐานที่� ด�มี�กมี�รื่4ป็แบบ ถึ-า ด�งน�.น . ซึ่� ง

เป็�นการื่แนะแนวที่างที่� ใช-ที่ดสิ่อบได-ด-วย

Page 16: 198

การตั้รวจสอบสมมตั้ ฐาน (Testing of

Hypothesis)ที่$าโดยการื่ที่ดล่องที่� ต่-องคำ$าน�งถึ�งป็8จจ�ยต่�าง ๆ ที่� จะเข-ามีามี�อ�ที่ธี�พล่ต่�อการื่ที่ดล่อง ซึ่� งเรื่�ยกว�า ต่�วแป็รื่ ซึ่� งมี� 3 แบบ

• ต่�วแป็รื่อ�สิ่รื่ะ (I ndependent variables) ไมี�ต่-องอย4�ภายใต่-อ�ที่ธี�พล่ของต่�วแป็รื่อ� นแล่ะเป็�นต่�วแป็รื่ที่� ผ4-ที่ดล่องต่-องการื่ด4ผล่ของมี�น

• ต่�วแป็รื่ต่ามี (D ependent variables) เป็ล่� ยนแป็ล่งไป็ได-ต่ามีการื่เป็ล่� ยนของต่�วแป็รื่อ�สิ่รื่ะ ซึ่� งก7คำ�อ ผล่จากการื่ที่ดล่อง ที่� ต่-องสิ่�งเกต่ เก7บข-อมี4ล่

• ต่�วแป็รื่คำวบคำ*มี (Control variables) ต่�วแป็รื่ที่� ถึ4กคำวบคำ*มีให-คำงที่� ต่ล่อด เพรื่าะไมี�ต่-องการื่ให-ผล่ของมี�นมีามี�อ�ที่ธี�พล่ต่�อต่�วแป็รื่ต่ามี

Page 17: 198

การเก�บรวบรวมข้�อม�ลและว เคราะห์#ข้�อม�ล

(Accumulation of Dataand Analysis of Data)

• คำ�อ หาคำวามีสิ่�มีพ�นธี!ของข-อมี4ล่ แล่ะอธี�บาย คำวามีหมีายของข-อมี4ล่ เพ� อน$าไป็สิ่รื่*ป็ผล่

Page 18: 198

การสร$ปผลการทดลอง (Conclusion)

• ซึ่� งได-มีาจากผล่การื่ที่ดล่องแล่ะการื่ว�เคำรื่าะห!ผล่ การื่ที่ดล่อง ซึ่� งจะได-มีาซึ่� งคำวามีรื่4 -ใหมี�

Page 19: 198

ว�ธี�การื่ที่างว�ที่ยาศาสิ่ต่รื่!เป็�นกรื่ะบวนการื่ซึ่� งที่$าให-ได-มีาซึ่� งคำวามีรื่4 -  คำวามีเข-าใจในป็รื่ากฏการื่ณ์!ของธีรื่รื่มีชาต่�อย�างมี�เหต่*ผล่ ที่ฤษฎี�  (Theory) หรื่�อ กฏ  (Law) ที่� มี�อย4�มีากมีายที่างว�ที่ยาศาสิ่ต่รื่!น�.น ล่-วนเป็�นผล่มีาจากการื่ศ�กษาคำ-นคำว-าอย�างเป็�นรื่ะบบของน�กว�ที่ยาศาสิ่ต่รื่!ที่�.งสิ่�.น

Page 20: 198

ความร��ทางว ทยาศึาสตั้ร#• ความร��ทางว ทยาศึาสตั้ร# ประกอบด�วย

1. ข้�อเท�จจร ง (Fact) ห์มายถึง ส �งท��มน$ษย#ส�งเกตั้พบว/าเป0นความจร งและม�ความจร งอย�/ในตั้�วข้องม�นเอง

2. ข้�อม�ล (Data) ห์มายถึง ข้�อเท�จจร งท��รวบรวมได�จากการส�งเกตั้ห์ร2อการทดลอง

3. กฎ (Law)  ห์มายถึง สมมตั้ ฐานท��ได�ร�บการย2นย�นว/าถึ�กตั้�องจากการทดลองห์ลายๆคร��ง

4. ทฤษฎ� (Theory) ห์มายถึง สมมตั้ ฐานท��ผ/านการตั้รวจสอบห์ลายๆคร��งจนเป6นท��ยอมร�บก�นท��วไปสามารถึน7าไปใชี�อธิ บายอ�างอ งได�

Page 21: 198
Page 22: 198

กล�องจ$ลทรรศึน#

(microscope)

Page 23: 198

microscope

• L ight microscope– Simple light microscope– Compound light microscope– Stereoscopic microscope

• Electron microscope– Transmission electron microscope :

TEM– Scanning electron microscope : SEM

Page 24: 198

L ight microscope

• 17A th century compound microscope, from aneeeeeeeee ee eeeeee e eeeeee e eeeeeeeeeee

Page 25: 198

Compound microscope made by John Cuff in 1750

Page 26: 198

Compound lightmicroscope

Page 27: 198

The binocular light microscope

http://www.mwrn.com/resources/microscope/optical.htm

Page 28: 198

http://www.miramar.sdccd.net/faculty/dtrubovi/microscope/

Page 29: 198

Stereoscopic microscope

Page 30: 198

Stereoscopic microscope

Page 31: 198

Transmission electron microscope :

TEM

Page 32: 198
Page 33: 198

Scanning electron microscope : SEM

Page 34: 198
Page 35: 198

ตั้ารางการเปร�ยบเท�ยบกล�องจ$ลทรรศึน#แบบธิรรมดาและ

กล�องจ$ลทรรศึน#อ เล�กตั้รอน Light

microscope TEMs SEMs

แห์ล/งก7าเน ดตั้�ว UV หรื่�อแสิ่งขาวจากหล่อดไฟหรื่�อเล่เซึ่อรื่!

ล่$าอ�เล่7กต่รื่อนจากป็Aนอ�เล่7กต่รื่อน

ล่$าอ�เล่7กต่รื่อน จากป็Aน

อ�เล่7กต่รื่อนตั้�วกลาง อากาศ สิ่4ญญากาศ สิ่4ญญากาศ

การควบค$มปร มาณแสง

Condenserlens

Electromagn etic lens

Electromagn etic lens

ตั้�วร�บภาพ ต่า, จอรื่�บภาพ จอรื่�บภาพ, แผ�นรื่�บภาพเรื่�องแสิ่ง

CRT (Cathode

Ray Tube)

Focus ป็รื่�บรื่ะยะห�างของเล่นสิ่!ใกล่-ว�ต่ถึ*แล่ะต่�วอย�าง

ป็รื่�บสิ่นามีแมี�เหล่7กโดยการื่เพ� มีหรื่�อล่ดป็รื่�มีาณ์

ป็รื่�บสิ่นามีแมี�เหล่7กโดยการื่เพ� มีหรื่�อล่ดป็รื่�มีาณ์

ภาพท��ได� 2 มี�ต่� 2 มี�ต่� 3 มี�ต่�

Page 36: 198
Page 37: 198

Reference

• http://classroom.psu.ac.th/users/rsuwarap/330_101/chapter1/chapter1_1.htm

• http://www.ipst.ac.th/biology/Teacher_Act/Biotext-list.doc

• http://www.thaiscience.com/lab_vol/• http://cai.md.chula.ac.th/lesson/research

/re12.htm• http://61.19.145.7/student/science401/

bio/bio2-2/learn.htm

Page 38: 198

Thank you

Miss Lampoei Puangmalai Major of biology

Department of scienceSt. Louis College Chachoengsao

Page 39: 198

การศึกษาชี�วว ทยาข้องน�กว ทยาศึาสตั้ร#

• น�กว�ที่ยาศาสิ่ต่รื่!ได-อาศ�ยว�ธี�ที่างว�ที่ยาศาสิ่ต่รื่! (scientific method)เพ� อศ�กษาคำ-นคำว-าหามีาซึ่� งคำวามีรื่4 -เป็�นข�.นต่อน ด�งน�.

1) การื่สิ่�งเกต่ 2) การื่ก$าหนดป็8ญหา

3) การื่ต่�.งสิ่มีมีต่�ฐาน 4) การื่ต่รื่วจสิ่อบสิ่มีมีต่�ฐาน 5) การื่ว�เคำรื่าะห!แล่ะสิ่รื่*ป็ผล่การื่ที่ดล่อง

Page 40: 198

 1) การส�งเกตั้ (Observation)

• การื่สิ่�งเกต่ (Observation ) คำ�อ การื่ใช-ป็รื่ะสิ่าที่สิ่�มีผ�สิ่ในการื่สิ่$ารื่วจสิ่� งต่�างๆ ในธีรื่รื่มีชาต่�เพ� อเก7บรื่วบรื่วมีข-อมี4ล่ หรื่�อ

• พ�จารื่ณ์าข-อเที่7จจรื่�ง จากป็รื่ากฏการื่ณ์!ธีรื่รื่มีชาต่� • ที่$าให-ผ4-สิ่�งเกต่คำ-นพบป็8ญหาแล่ะต่-องการื่จะคำ-นหา

คำ$าต่อบต่�อไป็

Page 41: 198

2) การก7าห์นดป+ญห์า (Problem)

• การื่ก$าหนดป็8ญหา (Problem ) คำ�อ การื่ต่�.งป็8ญหาที่� ไมี�ก$าหนดคำ$าต่อบ

• ป็8ญหาที่� ด�แล่ะเหมีาะสิ่มีจะต่-องเป็�นป็8ญหาที่� มี�คำวามีช�ดเจน

• มี�คำวามีสิ่�มีพ�นธี!ก�บข-อเที่7จจรื่�งที่� รื่วบรื่วมีได- • มี�แนวที่างที่� จะสิ่ามีารื่ถึต่รื่วจสิ่อบ แล่ะ• หาคำ$าต่อบได-อย�างรื่วดเรื่7ว

Page 42: 198

3) การตั้��งสมมตั้ ฐาน  (Formulation of

Hypothesis)• การื่ต่�.งสิ่มีมีต่�ฐาน เป็�นการื่คำาดคำะเน (predict) หรื่�อการื่

ที่ายคำ$าต่อบของป็8ญหา อย�างมี�เหต่*ผล่ จ�งมี�กเข�ยนในล่�กษณ์ะ การื่แสิ่ดงคำวามีสิ่�มีพ�นธี! รื่ะหว�างต่�วแป็รื่อ�สิ่รื่ะ แล่ะต่�วแป็รื่ต่ามี เช�น การื่ต่�ดเฮโรื่อ�นชน�ดฉี�ด เป็�นป็8จจ�ยเสิ่� ยงของโรื่คำ AIDS

• สิ่มีมีต่�ฐาน ที่$าหน-าที่� เสิ่มี�อน เป็�นที่�ศที่าง แล่ะแนวที่าง ในการื่ว�จ�ย จะช�วยเสิ่นอแนะ แนวที่างในการื่เก7บรื่วบรื่วมีข-อมี4ล่ แล่ะการื่ว�เคำรื่าะห!ข-อมี4ล่ต่�อไป็

• สิ่มีมีต่�ฐานที่� ต่� .งข�.น ไมี�จ$าเป็�นต่-องถึ4กเสิ่มีอไป็ แต่�ถึ�าที่ดสิ่อบแล่-ว ผล่สิ่รื่*ป็ว�าเป็�นคำวามีจรื่�ง ก7จะได-คำวามีรื่4 -ใหมี�เก�ดข�.น

• อย�างไรื่ก7ต่ามี งานบางชน�ด ไมี�จ$าเป็�นต่-องมี�สิ่มีมีต่�ฐาน เช�น การื่ว�จ�ยข�.นสิ่$ารื่วจ (exploratory or

formulative research) เป็�นต่-น

Page 43: 198

4) การตั้รวจสอบสมมตั้ ฐาน ( Testing of Hypothesis)

การื่ต่รื่วจสิ่อบสิ่มีมีต่�ฐาน ที่$าได-ด�งน�.• 1) การื่ที่$าการื่ศ�กษาแล่ะคำ-นคำว-า เพ� อรื่วบรื่วมีข-อมี4ล่ที่�

เก� ยวข-องก�บป็8ญหาแล่ะสิ่มีมีต่�ฐาน จากน�.นน$าข-อมี4ล่เหล่�าน�.มีาป็รื่ะกอบในการื่วางแผนเพ� อการื่ต่รื่วจสิ่อบหรื่�อวางแผนการื่ที่ดล่อง

• 2) ที่$าการื่ที่ดล่อง เป็�นการื่กรื่ะที่$าเพ� อพ�สิ่4จน!ย�นย�นว�าสิ่มีมีต่�ฐานน�.นถึ4กต่-องหรื่�อไมี�

ผ4-ที่ดล่องจะต่-องคำวบคำมีต่�วแป็รื่ ซึ่� งต่�วแป็รื่มี� 3ป็รื่ะเภที่ คำ�อ– ต่�วแป็รื่อ�สิ่รื่ะหรื่�อต่�วแป็รื่ต่-น (I ndependent variables)

คำ�อต่�วแป็รื่ที่� เรื่าต่-องการื่จะที่ดล่องเพ� อต่รื่วจสิ่อบด4ผล่ของมี�น– ต่�วแป็รื่ต่ามี (D ependent variables) เป็�นต่�วแป็รื่ที่� จะต่-อง

เป็ล่� ยนแป็ล่งไป็ต่ามีต่�วแป็รื่อ�สิ่รื่ะ– ต่�วแป็รื่คำวบคำ*มี (Control variables) เป็�นต่�วแป็รื่ที่� ต่-อง

คำวบคำ*มีไมี�ให-มี�การื่เป็ล่� ยนแป็ล่งต่ล่อดรื่ะยะเวล่าของการื่ที่ดล่อง

Page 44: 198

5) การว เคราะห์#และสร$ปผลการทดลอง (Analysis and

)

• การื่ว�เคำรื่าะห!แล่ะสิ่รื่*ป็ผล่การื่ที่ดล่อง (Analysis and Conclusion) เป็�นการื่น$าผล่การื่ที่ดล่องที่� ได-ต่ล่อดจนข-อมี4ล่ต่�างๆมีาต่�คำวามีหมีาย

• แล่ะว�เคำรื่าะห!ออกมีาในรื่4ป็แบบที่� สิ่ามีารื่ถึน$าเสิ่นอแล่ะเข-าใจได-ง�าย