078-081 (1)

78 THE ABSOLUTE SOUND&STAGE AUGUST 2012

Technology AV MediaPro Plugin : ก้าวย่างที่แตกต่างและเติบโตจากออนไลน์สู่โชว์รูม

Pro Plugin :

อรรนพ ฤทธิชัย: [email protected]

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2555 ที่ผ่านผมได้มีโอกาศได้พูดคุยกับ คุณโจ ชายหนุ่มไฟแรงแห่งร้าน Pro-plugin ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ท�าเพลงหรือมีอาชีพด้าน DJ น่าจะรู้จักร้านนี้แน่ๆ เพราะเป็นร้านแรกๆ ในเมอืงไทย ทีน่�าเข้าอปุกรณ์และของเล่นประเภทนี ้(ถ้าเป็นเมือ่ก่อนคงต้องฝากกนัหิว้เข้ามา แถมไม่มปีระกนัอีกด้วย) ซึ่งได้เปิดสาขาใหม่แล้วที่ Fortune Town ชั้นสาม มาลองดูเรื่องราวของร้านนีก้ันจากการบอกเล่าของ คุณโจ กันครับ... Unnop : ความเป็นมาของ Pro Plugin เริ่มต้นและเกิดขึ้นมาได้อย่างไรครับ... Jo : เริ่มต้นเมื่อแปดปีที่แล้ว ที่ผมเห็นโอกาศว่าบ้านเราน่าจะมีร้านที่มีสินค้าประเภทนี้ รวมถึงการมาของกระแส Home studio และ Project Studio ก�าลังได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ด้วยความรู้และประสบการณ์ในตอนนัน้ ก็ไม่แน่ใจว่าธุรกิจในรูปแบบนี้มันจะไปได้ดีแค่ไหน ก็เลยเริ่มทดลองในช่วงแรก ให้เป็นในลกัษณะของงาน Parttime โดยเริม่จากการท�างานคนเดยีว ท�าทกุอย่าง (One Man Operation) ต้องยอมรับว่าในช่วงแรกธุรกิจก็ยังไปได้ไม่ดีเท่าไหร่ จนกระทั่ง 5-6 เดือนผ่านไป จึงเริ่มจับทางได้มากขึ้น ได้ใช้การขายหน้า Web เป็นตัวเริ่มต้น... Unnop : แสดงว่าโดยส่วนตัวก็เล่นดนตรี และความชอบในเรื่องดนตรีอยู่แล้วด้วย... Jo : คือผมสนใจในด้านของ DJ และก็เคยเรียนทางด้าน Sound Engineer มาบ้าง Unnop : แนวคิดในการท�างาน และจุดที่ท�าให้ร้าน Pro Plugin แตกต่างจากร้านอื่น เป็นอย่างไรบ้าง... Jo : ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้ ผมเน้นออกเป็นสามด้านคือ หนึง่คือ One stop Solution โดยที่ในตอนเริ่มต้นเราเน้นไปในสินค้า Computer Music ตอนเริ่มต้นเรามี Audio Interface เพียงอย่างเดียว หลังจากนัน้เราก็เริ่มเติมเต็มความต้องการของลูกค้าให้ครบ ด้วยการเอาสินค้าอื่นๆ เช่น ไมโครโฟน, Midi Controller, Headphones, ล�าโพง เข้ามาเพิ่มเติมจนครบความต้องการของลูกค้า...

ก้าวย่างที่แตกต่างและเติบโตจากออนไลน์สู่โชว์รูม

AUGUST 2012 THE ABSOLUTE SOUND&STAGE 79

Technology AV MediaPro Plugin : ก้าวย่างที่แตกต่างและเติบโตจากออนไลน์สู่โชว์รูม

Unnop : หมายความว่ามาที่นี่ ได้สินค้าครบทุกความต้องการ Jo : ในปัจจุบันเรายังได้เพิ่มเติมในส่วนของสินค้าประเภท Recoding, PA, เครื่องดนตรี รวมไปถึงชุดเครื่องขยายเสียงในห้องประชุม โดยที่เราจะเน้นความเป็น One Stop Solution มากๆ และนอกเหนือจากนัน้คือ เราจะเน้นสร้างเสริมประสบการณ์แก่ลูกค้า โดยเมื่อลูกค้ามาที่เราจะสามารถทดลองสินค้าได้ทุกอย่างที่เรามี เพราะความต้องการของลูกค้าแต่ละคนแตกต่างกัน เพื่อ ที่จะได้ตอบสนองความต้องการได้ตรงที่สุด... Unnop : ถ้าลูกค้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรคือ มาปรึกษาที่นี่ได้…? Jo : สมมติว่าลูกค้ามีงบประมาณเท่านี้ ต้องการลักษณะการใช้งานอย่างนี้ เราก็จะจัดออพชั่นเป็น A, B, C ให้ลูกค้าเลือก แต่เราก็ไม่ได้พูดให้เขาฟังเพียงอย่างเดียว ก็จะเชิญให้ลูกค้าลองเลย เพราะแต่ละคนมคีวามชอบและความต้องการทีแ่ตกต่างกนั เรือ่งของคณุภาพเสยีงมนัเป็นเรือ่งพูดกันล�าบากว่าอันไหน อะไร ดีกว่ากัน สุดท้ายคนที่ใช้งานก็จะต้องทดลองเอง ว่าอะไรดีที่สุด ส�าหรับเขา... Unnop : ได้ข่าวว่าก�าลังจะเปิดสาขาใหม่ ตอนนี้ Pro Plugin มีกี่สาขาแล้วครับ… Jo : ในปัจจุบันเรามีสาขาที่ ลาดพร้าว และ ฟอร์จูนทาวน์ ครับและก�าลังจะเปิดสาขาใหม่ที่ Gateway เอกมัยในเร็วนีค้รับ คาดว่าอีกไม่นาน... Unnop : เกี่ยวกับ Web store ได้รับการตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง... Jo : เราจะเน้นการตลาดแบบ Online ค่อนข้างเยอะ โดยใช้ website ของเราในการท�าการตลาดและประสัมพันธ์ web store ของเราท�าหน้าที่สองอย่างคือ ท�าหน้าที่เป็นแคทตาล็อค ให้ลูกคาเข้าไปหาดูว่ามีรุ่นอะไรบ้าง กี่แบบ ซึ่งทางเราก็มีเกือบร้อยรุ่นครับ เมื่อลูกค้าเลือกตัวที่ถูกใจได้แล้ว ก็สามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดกับทางเราเพิ่มเติมได้อีก... Unnop : ได้ข่าวว่ามีร้านอีกร้านหนึง่ ที่ชื่อว่า Sanook Gadget… Jo : Sanook Gadget จะเน้นสินค้าที่เป็น consumer product ซึ่งจุดที่แตกต่างคือ Pro plugin ที่จะเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นคนดนตรี ไม่ว่าจะเป็นนกัดนตรี ซาวน์เอนจิเนียร์ โปรดิวซ์ วิทยุ สถานีโทรทัศน์ ดีเจ แต่ Sanook Gadget จะเน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่คนเสพดนตรี ซึ่งอาจจะไม่ใช่คนที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับดนตรี แต่มีความชอบดนตรี โดยที่เราจะแบ่งอุปกรณ์ออกเป็นสองกลุ่มคือ หูฟัง หรือล�าโพงที่มีดีไซน์สวยงามตามแฟชั่น หรืออีกกลุ่มที่เน้นคุณภาพเสียง ซึ่งเราก็มีสินค้าที่ตอบสนองความต้องการได้ตั้งแต่ วัยรุ่น สีสันสดใส สวยๆ เท่ห์ๆ จนถึงขั้นคนหูเทพไปเลย รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับ Smartphone หรือ I-device ต่างที่ก�าลังเป็นที่นิยม... Unnop : จุดเด่นของร้าน Pro plugin ที่แตกต่างจากร้านอื่น... Jo : จดุเด่นของเราทีล่กูค้าทกุคนจะคุน้เคยกนัด ีเราจะเน้นในการน�าสนิค้าทีเ่ป็นดจิติอลยคุใหม่เข้ามาขาย ซึง่เรากจ็ะเป็นเจ้าแรกทีน่�าสนิค้าพวกนีเ้ข้ามา ซึง่ตวัผมเองและทมีงานกเ็ป็นคนทีร่กัในดนตรีและเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่แล้ว เมื่อมีสินค้าหรืออุปกรณ์ใหม่ออกมา เราก็จะหาสินค้ามา ทดลองใช้และจ�าหน่ายด้วย... Unnop : แสดงว่าเราสามารถมารับค�าปรึกษาหรือทดลองได้เลย ทุกเรื่องที่นี่... Jo : ใช่ครับ คือจริงๆ แล้วพนกังานของเราก็เป็นคนดนตรีเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นนกัดนตรี ซาวน์เอนจิเนียร์ หรือ ดีเจ ก็จะมีความรู้ความเข้าใจในตัวสินค้าเป็นอย่างดี และสื่อสารในภาษาเดียวกันกับลูกค้าอยู่แล้ว... Unnop : ที่ Pro plugin มีสินค้าแยกเป็นกลุ่มไหนบ้างครับ... Jo : กลุม่แรกของเราเลยซึง่เป็นจดุเริม่ต้นด้วยคอื Computer Music กค็อืพวกซาวน์การ์ด Audio Interface ถัดมาก็คือกลุ่มของ Recording ก็คือพวก Monitor ไมโครโฟน ซึ่งเราก็จะเน้นลูกค้าทั้งเริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพเลย ไปจนถึงโปรดิวซ์ที่คร�่าวอดในวงการก็เป็นลูกค้าของเรา... Unnop : ระดับและราคาสินค้าของ Pro Plugin… Jo : เรามสีนิค้าตัง้แต่ราคาร้อยกว่าบาทไปจนถงึซาวน์การ์ดราคาแสนกว่าบาท อย่างล่าสดุเราก็มี Universal Audio รุ่น Apollo Quad ซึ่งจะเป็น Audio Interface แบบ fire-wire ที่มี DSP processor ในตัว และเรายังมีสินค้าในส่วนของเครื่องดนตรีอีก เพื่อเน้นความเป็น One stop service ของเรา… Unnop : เกีย่วกบับรกิารหลงัการขายของ Pro Plugin. มกีารให้บรกิารในรปูแบบไหนบ้างครบั

80 THE ABSOLUTE SOUND&STAGE AUGUST 2012

Technology AV MediaPro Plugin : ก้าวย่างที่แตกต่างและเติบโตจากออนไลน์สู่โชว์รูม

Jo : เนื่องจากสินค้าของเราจะเป็นสินค้าที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่ตลอด เราก็จะแนะน�าการใช้งานตัง้แต่ตอนซือ้ หรอืว่าใช้งานไปแล้วตดิขดัเรากย็นิดใีห้ค�าปรกึษาในการใช้งาน เพือ่ทีล่กูค้าจะได้น�าไปใช้งานได้จริงและเกิดประโยชน์สูงสุด... Unnop : เทรนด์ของ Audio interface ในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต... Jo : เมื่อตอนที่ผมได้ไปงาน NAMM ก็ได้พูดคุยกับผู้ผลิตหลายยี่ห้อ กระแสของของ Audio Interface จะมุ่งไปทางของพอร์ท USB 3.0 กับ Thunderbolt (ซึ่งจะมาทดแทนในส่วนของ Fire Wire ที่พัฒนาไปถึงรุ่น 400 และ 800 X) ตอนนีก้็เริ่มมีออกมาหลายยี่ห้อแล้วครับ อย่าง MOTU และ UAD Apollo (ซึ่งเป็น FireWire ที่สามรถซื้อออพชั่นเสริมเป็น Thunderbolt) ผมว่าในอนาคตคงเป็นการแข่งขันของสองระบบนี้... Unnop : คอมพิวเตอร์ยี่ห้อไหนบ้างที่รองรับหรือมีพอร์ท Thunderbolt… Jo : ตอนนี้เทคโนโลยี Thinderbolt ก็จะมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ของ Apple อย่าง Imac, Macbook Pro. ที่จะเป็นผู้น�าในเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าในอนาคต PC ก็น่าจะมีการพัฒในเรื่องพอร์ตชนดินีด้้วยเช่นกัน เพราะตอนนี้มีความนิยมมากขึ้น เมื่อเทคโนโลยีได้รับการตอบรับมากขึ้น PC ที่เป็นตลาดผู้บรโิภค... Unnop : แสดงว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Apple จะคล้ายเป็นพวกผู้น�ากระแสในตลาด... Jo : ครับอย่างตอนนีก้ระแสของ Tablet มาแรงมาก iPad มีอุปกรณ์เสริมทางดนตรี ค่อนข้างเยอะนะครับ ไม่ว่าจะเป็น DJ controller ของ NuMark รุ่น IDJ LIVE หรืออาจจะเป็นอุปกรณ์ที่จะใช้บันทึกเสียงกีตาร์และไมโครโฟน ลงไปบน iPad โดยตรง อย่าง Tascam IXZ, APOGEE ONE, APOGEE JAM, APOGEE MIC ออกมาตอบรับรูปแบบการท�างานของนกัร้อง นกัดนตรี ดีเจ ในยุคใหม่ ในขณะที่ Samsung Galaxy Tab ยังไม่มีอุปกรณ์เสริมในกลุ่มนี้ จากที่ผมได้พูดคุยกับผู้ผลิตอุปกรณ์ประเภทนี้เขาก็ชี้แจงว่า iPad มีค่า LATENCY ที่ต�่ากว่าท�าให้สามารถท�างานด้านดนตรีได้เลย ในขณะที่ระบบ Android มีค่า Latency ค่อนข้างสูง ท�าให้เมื่อไปใช้งานจริงจงึยงัมปัีญหาอยู ่แต่ทางผูผ้ลติกพ็ยายามแก้ไขในจดุนีอ้ยู ่แต่ค่อนข้างแน่นอนว่าอปุกรณ์ทีร่องรบั IOS จะแพร่หลายในกลุ่มผู้ใช้แน่นอน... Unnop : ตอนนีท้างร้านมีสินค้าในส่วนของเครื่องดนตรีด้วย... Jo : ใช่ครับกีตาร์ที่เรามีก็มีหลายยี่ห้อครับ อย่าง Gibson, Fender, Sqier, Epiphone, Yamaha คือเราก็ยังเน้นในการเป็น One-stop Solution คือถ้าอยากเข้ามาเล่นดนตรี ต่อด้วยท�าเพลงแต่งเพลง เราก็มีสินค้าไว้รองรับในส่วนนี้... Unnop : มีสินค้าใหม่ของกีตาร์บ้างมั๊ยครับ... Jo : ตอนนีท้ี่เข้ามาแล้วก็คงเป็นแอมป์ Jet City ที่ได้รับการตอบรับในต่างประเทศมาก คือจดุเด่นของเขาคอื ทกุรุน่จะเป็นแอมป์หลอดทัง้หมด ทีอ่อกแบบโดย Soldano (ซึง่ออกแบบแอมป์ของ THD ด้วย) ที่เมื่อเทียบกับราคาของ Soldano จริงราคาต่างกันเกือบสิบเท่าตัว ในส่วนของพวกเอฟเฟกต์ก้อนต่างๆ ก็ได้รับการออกแบบโดย Guitar Slinger นีค่ือจุดเด่นของแอมป์และเอฟเฟกต์ของ Jet City ที่ให้นกัออกแบบที่เก่งๆ ของโลกเข้ามามีส่วนในเรื่องของการออกแบบ... Unnop : มข้ีอแนะน�าส�าหรบัคนทีก่�าลงัจะเริม่ท�าเพลงของตัวเอง ว่าควรเริม่ที่อุปกรณ์ราคาไหน และข้อที่ควรค�านงึถึงในการท�าสตูดิโอเล็กๆ... Jo : ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทั้ง Interface และ Software ท�าให้เราสามารถท�างานได้โดยใช้งบไม่มากนกั ถ้ารวมครบเซ็ทพร้อมท�างานซึ่งมี ไมโครโฟน Audio interface หูฟัง ล�าโพง ใช้งบ 3-4 หมื่น ก็น่าจะเริ่มท�าเดโมได้แล้ว แต่ถ้าเป็นการท�างานในระดับอาชีพก็คงต้องเพิ่มงบประมาณขึ้นไปอีกตามระดับของงาน แต่สิ่งที่เป็นหัวใจจรงิของการท�างานบนัทึกเสียงกับคอมพิวเตอร์ก็คอื Audio Interface เพราะมนัจะท�าหน้าทีร่บัสญัญาณแปลงสญัญาณอนาลอ็กเข้าไปเป็นดจิติอลแล้วกเ็ล่นออกมา ก็ควรจะเลือกที่เป็น Spec ในปัจจุบันที่เป็นมาตรฐานที่ 24/96KHz ที่ราคาอยู่สัก 3 หมื่นขึ้น ไปครับ... Unnop : OS ที่ใช้จะยังมีความส�าคัญหรือให้ความแตกต่างในการท�างาน หรือคุณภาพของ งาน หรือมีผลกับการเพิ่มขึ้นของงบประมาณที่จะท�าสตูดิโอ... Jo : ในปัจจุบันผู้ผลิตส่วนใหญ่ จะผลิตอุปกรณ์ของตัวเองให้เป็น Dual Platform ที่สามารถใช้ได้ทั้งสอง OS (ทั้ง PC และ Mac) คงจะมีไม่กี่ยี่ห้อที่เป็นไปทางใดทางหนึง่ อย่าง Apogee และ

AUGUST 2012 THE ABSOLUTE SOUND&STAGE 81

Technology AV MediaPro Plugin : ก้าวย่างที่แตกต่างและเติบโตจากออนไลน์สู่โชว์รูม

ไม่ต้องมาค้นซดีหียบิแผ่นเสยีง แค่เราใช้ Notebook เพยีงตวัเดยีวในการเปิดเพลง และใช้ Controller ในการควบคมุซอฟต์แวร์ ซึง่ในปัจจบุนัการท�างานของดีเจ ถ้าดีเจไม่ใช้ Contrller ในการสั่งงานก็จะใช้ DVS ซึ่งเป็นตัวรับสัญญาณจาก CD Player หรือ Trun Table เพื่อไปควบคุมซอฟต์แวร์เปิดเพลง... Unnop : อุปกรณ์และระบบใหม่ของ DJ สามารถครอบคลุมถึงสไตล์ต่างๆ ของ DJ หรือเปล่า... Jo : DJ โดยพื้นฐานก็จะมี Mixing กับ Scratch ในกลุ่มที่เป็นคน scratch มกัจะนยิมใช้ระบบ DVS โดยใช้ Turntable กบั Timecode Vinyl แล้วก็สายส่งสัญญาณเข้าไปเพื่อควบคุมเพลงที่เปิดโดย Software ในขณะที่ DJ ในกลุ่ม Mixing ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้ เพราะจะไม่ค่อยได้ใช้ Jog/Wheel ในการเปิดเพลงมากนกั แค่ปรับเสียงนดิหน่อย ก็จะสามารถหา Controller ใช้ได้ง่ายกว่า ล่าสุด Numark ก็ได้ออก Controller ที่ให้ความรู้สึกได้ใกล้เคียงกับ Turntable มากที่สุดตัวหนึง่ เช่น NS-6, NS-7 ที่ออกแบบมาให้มี Turntalbe อยู่สองข้างและมี Mixer อยู่ตรงกลางและมีปุ่ม Jog/Wheel ขนาดใหญ่ที่ควบคุมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า... Unnop : ในอนาคต Pro plugin จะมีการน�าสินค้าตัวใหม่อะไรเข้ามาอีกครับ... Jo : ตอนนีก้ระแสของ iPad ก�าลังมาแรงมาก และการให้การยอมของผู้ผลิต Application และผู้ผลิตต่างๆ อย่าง ไมโครโฟนที่ต่อกับพอร์ต 30 pin ได้โดยตรง หรือ interface ที่สามารถอัดเสียงกีตาร์เข้า iPad ได้โดยไม่ต้องผ่านเอฟเฟกต์หรือตู้ ล่าสุด Tascam ก็ปล่อย Audio Interface ที่ใช้กับ iPad เป็นตัวแรกของโลก ที่สามารถบันทึกเสียงและเล่นออกมาผ่านบนตวัมนัได้เลย โดยทีม่คีณุภาพเสยีงดกีว่าอดัผ่านไมค์บนตวั iPad และล่าสดุ Tascam กไ็ด้ออก Stereo Microphone ทีส่ามารถเปลี่ยนโทรศัพท์ให้กลายเป็นเครื่องบันทึกเสียงแบบพกพาได้เลย รวมๆแล้วทิศทางจะเริ่มเปลี่ยนจาก Home Studio ไปเป็น Mobile Studio มากขึ้น เพื่อตอบสนองการท�างานที่รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งผมคิดว่าภายใน 3-5 ปี Notebook คงถูกทดแทนด้วย Tablet ทั้งหมด เราคงจะเห็นภาพคนดนตรีไปท�างานพก iPad ไปเครื่องเดียว หรือดีเจเปิดเพลงด้วย iPad หรือ Tablet เพียงเครื่องเดียว เรื่องคุณภาพและความเสถียรก็คงดีขึ้น ไปด้วย... หลังจากที่เราขยายสาขามาที่ Fortune Town และ Gateway (เอกมัย) ส่วนสาขาที่ลาดพร้าวของเราก็จะท�าการตกแต่งใหม่ เพื่อขยับขยายในส่วนของโชว์รูมให้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น โดยเราจะแยกห้องทดลอง PA ขึ้นมาต่างหาก ห้อง DJ ห้องบันทึกเสียง ห้องคีย์บอร์ด และเราเพิ่มมุมต่างๆ ให้มากขึ้น ในส่วนที่เป็น Microphone หูฟัง เพื่อแยกสัดส่วนให้ชัดเจนและนอกเหนือไปจากนั้นก็คือ เราก�าลังมีโครงการจะเปิดโรงเรียนสอนทางด้านเทคโนโลยีเรื่องเสียง เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการจะศึกษาเพิ่มเติมในอนาคตครับ...

Matrix Halo ที่จะใช้ได้กับ Mac เท่านัน้ นอกนัน้ราคาก็ไม่ต่างอะไรกันมากนกั กับยี่ห้ออื่นที่สามรถใช้ได้ทั้งสองระบบ... Unnop : ความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบทั้งสองระบบ เกี่ยวกับการท�างานในด้านดนตรี... Jo : ส�าหรบัผมแล้วผมมองว่า สดุท้ายมนัอยูท่ีก่ารท�างานมากกว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Sofware เพียงอย่างเดียว ขึ้นอยู่กับความถนดัมากกว่า อย่างคนที่ถนดัใช้ Logic Audio ก็จะต้องมาใช้บน Mac อย่างเดียว ถ้าถนดั Cubase ก็มาใช้บน PC ส่วนในเรื่องของความเสถียร Mac เป็นบริษัทที่พัฒนา OS ของเขาเอง และออกแบบ Hardware ของตัวเอง ในเรื่องของการ Compatability ก็น่าจะมีสูงกว่า แต่ถ้าจะใช้ PC ท�างานด้านดนตรี อาจจะต้องมีการศึกษาสักหน่อยว่า อาจจะต้องเลือก CPU และ Mainboard ให้เข้าชุดกัน เพื่อการท�างานที่เร็วกว่าและเสถียรขึ้น ซึ่งต่างกับ Mac เราสามารถเริ่มท�างานครั้งแรกท�ามันได้ง่ายกว่า แต่ในระดับ Advanced User สามารถท�างานได้ทั้งสองระบบโดยที่ไม่แตก ต่างกัน Unnop : ช่วงนีก้ระแสของ Anolog ที่นี่มีสินค้าในส่วนของ Analog Synthesizer ด้วย... Jo : ตอนนี้ Anolog Synth ที่เด่นๆ ก็มีของ Novation รุ่น Ultra Nova ซึ่งราคาไม่แพงแค่สองหมื่นกว่าๆ เท่านัน้เอง และล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาก็มีของ Access ในกลุ่มของ Virus Series ซึ่งมีสองตัวที่โดดเด่นออกมาก็คือรุ่น GI กับรุ่น Polar และตอนนี้ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปที่งาน NAMM ก็คือ Atauria รุ่น Minibrute ที่ก�าลังจะเข้ามาในเร็วๆ นี้ ในราคาสองหมื่นกว่าๆ ซึ่งผมคิดว่าเทรนด์ของ Anolog Synth มันก�าลังกลับมา ในขณะที่เมื่อก่อน Analog Synth ยี่ห้อดังอย่าง Moog ราคาถึงแสนกว่าบาท ในขณะที่ผู้ผลิตใหม่สามารถผลิตได้ในราคาที่ถูกลง โดยที่ยังเป็น Analog ทั้งหมดยกเว้น Virus ที่จะเป็น Vitual Analog ที่ออกมาได้สักระยะหนึง่แล้ว คนที่เป็นคนชอบเครื่องดนตรีแนวนี้อยู่แล้วจะนิยม Analog มากกว่า เพราะได้สัมผัสในการตอบสนองมากกว่า รวมถึงเสียงและบุคคลิกของเครื่องชิ้นนัน้ๆ มากกว่า... Unnop : ที่นี่มีสินค้าเกี่ยวกับดีเจเยอะทีเดียว ช่วยแนะน�าให้ว่ามีแบบไหนบ้าง... Jo : อุปกรณ์ดีเจโดยทั่วไปก็จะมี CD Player, Turn Table, Mixer แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีมันได้พัฒนาขึ้นไปอีก โดยจะกลายเป็น Digital DJ โดยที่รูปแบบของมันคือการเปิดเพลงจากคอมพิวเตอร์ โดยที่