การประเมิน PISA 2012

กลุ่��มนิ�เทศ ติ�ดติาม แลุ่ะประเม�นิผลุ่กลุ่��มนิ�เทศ ติ�ดติาม แลุ่ะประเม�นิผลุ่การจั�ดการศ�กษาสำ�านิ�กงานิเขติพื้��นิท� การจั�ดการศ�กษาสำ�านิ�กงานิเขติพื้��นิท�

การศ�กษาม�ธยมศ�กษา เขติ การศ�กษาม�ธยมศ�กษา เขติ 3636

การประเม�นิ การประเม�นิ PISA PISA 20122012

แนิวทางการประเม�นิของโครงการ PISA

PISA (Program for International Student Assessment) เป'นิโครงการประเม�นิผลุ่นิ�กเร�ยนิระด�บนิานิาชาติ� ท� ด�าเนิ�นิการ โดยองค*กรความร�วมม�อแลุ่ะพื้�ฒนิาทางเศรษฐก�จั (OECD) ติ��งแติ� ป- 2000 โดยจัะประเม�นิติ�อเนิ� องก�นิท�ก 3 ป-

จั�ดม��งหมาย : เพื้� อประเม�นิว�านิ�กเร�ยนิอาย� 15 ป- ท� เร�ยนิในิสำถานิศ�กษาท�กสำ�งก�ดของ

ประเทศนิ��นิ ๆ ได3ร�บการเติร�ยมพื้ร3อม ด3านิความร43แลุ่ะท�กษะท� จั�าเป'นิสำ�าหร�บการเป'นิประชาชนิท� ม�ค�ณภาพื้ในิอนิาคติ แลุ่ะม�สำ�วนิร�วมสำร3างสำ�งคมหร�อไม�

ป-ท� ประเม�นิ

20

00

20

03

20

06

20

09

20

12

20

15

ว�ชาท� เนิ3นิ เป'นิหลุ่�ก ในิการประเม�นิ

การอ�านิคณิ�ตศาสตร์วิ�ทยาศาสตร์

การ์อ่�านคณ�ติศาสำติร*วิ�ทยาศาสตร์การ์แก�ปั�ญหา

การ์อ่�านคณิ�ตศาสตร์ว�ทยาศาสำติร*

การอ�านิคณิ�ตศาสตร์วิ�ทยาศาสตร์

การ์อ่�านคณ�ติศาสำติร*วิ�ทยาศาสตร์

การ์อ่�านคณิ�ตศาสตร์ว�ทยาศาสำติร*

แบบสำอบถามสำ�าหร�บนิ�กเร�ยนิ

วิ�ธี�การ์เร์�ยนควิามผู�กพั�นและพัฤต�กร์ร์มการ์อ่�าน

วิ�ธี�การ์เร์�ยนเจตคต�ต�อ่คณิ�ตศาสตร์

วิ�ธี�การ์เร์�ยนเจตคต�ต�อ่วิ�ทยาศาสตร์

ก�จกร์ร์มเก�#ยวิก�บอ่�าน กลวิ�ธี�ท�#น�กเร์�ยนใช้�ในการ์อ่�าน

การ์แก�ปั�ญหา และโอ่กาส ในการ์เร์�ยนร์� �คณิ�ตศาสตร์

อ่ย��ในขั้�*นพั�จาร์ณิา

คณ�ติศาสำติร* 60%การอ�านิ20%ว�ทยาศาสำติร*20%

กลุ่��มเป7าหมายของการประเม�นิ

•นิ�กเร�ยนิท� ม�อาย� 15 ป- ณ ว�นิท� 1 มกราคม ของป-ท� เก8บข3อม4ลุ่ (จับการศ�กษาภาคบ�งค�บแลุ่3ว )•นิ�กเร�ยนิท� เก�ดระหว�างเด�อนิม�ถ�นิายนิ 2539

(อาย� 16 ป- 2 เด�อนิ) ถ�งพื้ฤษภาคม 2540 (15 ป- 3 เด�อนิ)

ประเม�นิในิช�วงเด�อนิสำ�งหาคม 2555

กรอบการสำ��ม PISA 2012

12,098 โรง 240 โรงโรงเร�ยนิขยายโอกาสำ (สำพื้ป.)

โรงเร�ยนิม�ธยมศ�กษา (สำพื้ม.)โรงเร�ยนิเอกชนิ (สำช.)โรงเร�ยนิสำ�งก�ด กทม.โรงเร�ยนิสำ�งก�ดท3องถ� นิโรงเร�ยนิสำาธ�ติโรงเร�ยนิสำ�งก�ดอาช�วศ�กษา (สำอศ.)โรงเร�ยนิท� เนิ3นิว�ทยาศาสำติร*/คณ�ติศาสำติร*

โรงเร�ยนิขยายโอกาสำ (สำพื้ป.)

โรงเร�ยนิม�ธยมศ�กษา (สำพื้ม.)2,427 90โรงเร�ยนิเอกชนิ (สำช.)โรงเร�ยนิสำ�งก�ด กทม.โรงเร�ยนิสำ�งก�ดท3องถ� นิโรงเร�ยนิสำาธ�ติโรงเร�ยนิสำ�งก�ดอาช�วศ�กษา (สำอศ.)

โรงเร�ยนิท� เนิ3นิว�ทยาศาสำติร*/คณ�ติศาสำติร* 13 13

สำ�งก�ด

กรอบการสำ��ม PISA 2012

12,098 โรง 240 โรง กทม . แลุ่ะปร�มณฑลุ่

กลุ่างเหนิ�อบนิเหนิ�อลุ่�างอ�สำานิบนิอ�สำานิลุ่�างใติ3ติะว�นิออกติะว�นิติก

อนิ�ภ4ม�ภาค

กทม . แลุ่ะปร�มณฑลุ่กลุ่างเหนิ�อบนิ 19 โรงเหนิ�อลุ่�างอ�สำานิบนิอ�สำานิลุ่�างใติ3ติะว�นิออกติะว�นิติก

สำพื้ม . 7 โรง

ลุ่�กษณะข3อสำอบ PISA • ข3อสำอบม� 13 ฉบ�บ เป'นิลุ่�กษณะค4�ขนิานิ

(นิ�กเร�ยนิ 1 คนิ ท�า 1 ฉบ�บ)• ข3อสำอบจัะไม�ถามเนิ��อหาสำาระโดยติรงติามหลุ่�กสำ4ติร• ข3อสำอบจัะก�าหนิดข3อม4ลุ่หร�อสำถานิการณ*มาให3

เป'นิการอ�านิเอาเร� อง ม�ท��งข3อสำอบประเภทความจั�าแลุ่ะการค�ด แติ�ลุ่ะข3อให3นิ��าหนิ�กคะแนินิไม�เท�าก�นิ

• ร4ปแบบข3อสำอบม�ท��งแบบเลุ่�อกติอบ เลุ่�อกติอบแบบเช�งซ้3อนิ สำร3างค�าติอบอ�สำระ สำร3างค�าติอบแบบป=ด แลุ่ะเข�ยนิติอบสำ��นิ ๆ โดยให3เหติ�ผลุ่สำนิ�บสำนิ�นิค�าติอบ

• สำามารถใช3เคร� องช�วยค�านิวณได3ในิกรณ�ว�ชาคณ�ติศาสำติร* แลุ่ะว�ทยาศาสำติร* แติ�โจัทย*ไม�ได3ถามเพื้� อหาค�าติอบติรง ๆ แติ�ติ3องการค�าโดยประมาณ แลุ่ะ บอกเหติ�ผลุ่ท� ติอบ

• ท�าไม�ถ4ก ก�บ ไม�ได3ท�า ม�ความหมายติ�างก�นิ ถ3านิ�กเร�ยนิท�าไม�ได3หร�อท�าไม�ท�นิ ให3ข3ามไป

• โรงเร�ยนิท� เป'นิกลุ่��มเป7าหมายจัะม�นิ�กเร�ยนิเข3าสำอบไม�เก�นิ 35 คนิ

การรายงานิผลุ่ของ PISA 2009

1. คะแนินิเฉลุ่� ย OECD

การอ�านิ Mean = 493 S.D. = 93

คณ�ติศาสำติร* Mean = 496 S.D. = 92

ว�ทยาศาสำติร* Mean = 501 S.D. = 94

2. ระด�บสำมรรถนิะการอ�านิ ระด�บ - 1 ระด�บ 6ว�ทยาศาสำติร* ระด�บ - 1 ระด�บ 6คณ�ติศาสำติร* ระด�บ - 1 ระด�บ 6

ระด�บ 2 ถ�อว�าเป'นิระด�บพื้��นิฐานิ (Base Line ) ท� บอกว�านิ�กเร�ยนิเร� มร43เร� องแลุ่ะสำามารถใช3ประโยชนิ*จัากสำ� งท� เร�ยนิร43 ในิช�ว�ติจัร�งแลุ่ะในิอนิาคติ

ระด�บ 2 ถ�อว�าเป'นิระด�บพื้��นิฐานิ (Base Line ) ท� บอกว�านิ�กเร�ยนิเร� มร43เร� องแลุ่ะสำามารถใช3ประโยชนิ*จัากสำ� งท� เร�ยนิร43 ในิช�ว�ติจัร�งแลุ่ะในิอนิาคติ

ร3อยลุ่ะของนิ�กเร�ยนิในิเอเช�ยท� ม�ระด�บสำมรรถนิะติ� ากว�าระด�บ 2(PISA 2009)

ร3อยลุ่ะของนิ�กเร�ยนิในิเอเช�ยท� ม�ระด�บสำมรรถนิะติ� ากว�าระด�บ 2(PISA 2009)

0

20

40

60

80

INDO THA SNG Ch_TP JPN Mac-Ch HKG KOR Sh-Ch

การ์อ่�าน คณิ�ตศาสตร์ วิ�ทยาศาสตร์% น�กเร์�ยน

นิ�กเร�ยนิไทยไม�เคยช�นิก�บข3อสำอบในิลุ่�กษณะ1 .การเข�ยนิติอบหร�อให3ค�าอธ�บายยาว ๆ 2. การติ�ความ ค�ด ว�เคราะห* แลุ่ะสำะท3อนิเอาความค�ดหร�อปฏิ�ก�ร�ยาของตินิท� ติอบสำนิองติ�อข3อความท� ได3อ�านิ หร�อข3อม4ลุ่ท� ให3มา

สำ� งเหลุ่�านิ��แทบจัะไม�เคยปรากฏิในิการสำอบของประเทศไทย

ข3อสำอบ PISA

ข3อสำอบการอ�านิ

• ค3นิหาหร�อสำร�ปสำาระสำ�าค�ญจัากเร� องท� อ�านิ

• ติ�ความหร�อแปลุ่ความจัากเร� องท� อ�านิ

• ว�เคราะห*เนิ��อหาหร�อข3อความท� เก� ยวข3องก�บ สำ� งติ�าง ๆ

• ว�เคราะห*ร4ปแบบการนิ�าเสำนิอของข3อความ

• ประเม�นิแลุ่ะให3ความเห8นิหร�อโติ3แย3งด3วยม�มมอง ของตินิเองติ�อบทความท� อ�านิ

การค3นิสำาระ

การติ�ความ

การว�เคราะห* แลุ่ะประเม�นิ

ข3อสำอบคณ�ติศาสำติร*

• ระบ�ติ�วแปรหร�อประเด8นิท� สำ�าค�ญจัากสำถานิการณ*ในิโลุ่กจัร�ง• ร�บร43ถ�งโครงสำร3างทางคณ�ติศาสำติร*ในิปAญหาหร�อสำถานิการณ*•ท�าปAญหาหร�อสำถานิการณ*ให3อย4�ในิร4ปอย�างง�าย หร�อแปลุ่งโมเดลุ่ทางคณ�ติศาสำติร*• เลุ่�อกแลุ่ะใช3กลุ่ย�ทธ*ในิการแก3ปAญหาคณ�ติศาสำติร*• ใช3เคร� องม�อทางคณ�ติศาสำติร*หาว�ธ�ท� เหมาะสำมในิการแก3ปAญหา•ประย�กติ*ใช3ข3อเท8จัจัร�ง กฎ ข��นิติอนิแลุ่ะโครงสำร3างในิการแก3ปAญหา• นิ�าผลุ่ท� ได3จัากการแก3ปAญหาทาง

คณ�ติศาสำติร*ไปใช3ในิช�ว�ติจัร�ง• ประเม�นิความเหมาะสำมของว�ธ�แก3ปAญหา

คณ�ติศาสำติร*ในิบร�บทของความเป'นิจัร�ง• ระบ�แลุ่ะว�จัารณ*ข3อจั�าก�ดของร4ปแบบท� ใช3ในิ

การแก3ปAญหา

การก�าหนิดปAญหาทาง

คณ�ติศาสำติร*การนิ�า

กระบวนิการ ทาง

คณ�ติศาสำติร*ไปใช3

การแปลุ่ผลุ่ลุ่�พื้ธ* ทางคณ�ติศาสำติร*

• ปร�ภ4ม�แลุ่ะร4ปทรงสำามม�ติ�

• การเปลุ่� ยนิแปลุ่งแลุ่ะความสำ�มพื้�นิธ*

• ปร�มาณ

• ความไม�แนิ�นิอนิ

เนิ��อหาว�ชาคณ�ติศาสำติร*ท� ครอบคลุ่�ม

ข3อสำอบว�ทยาศาสำติร*

• ร43ว�าประเด8นิปAญหาหร�อค�าถามใด ติรวจัสำอบได3ด3วยว�ทยาศาสำติร*

• บอกค�าสำ�าค�ญสำ�าหร�บการค3นิคว3า• ร43ลุ่�กษณะสำ�าค�ญของการติรวจัสำอบทาง

ว�ทยาศาสำติร*• ใช3ความร43ว�ทยาศาสำติร* สำร3างค�าอธ�บายท� สำมเหติ�สำม

ผลุ่แลุ่ะสำอดคลุ่3อง ก�บประจั�กษ*พื้ยานิ• บรรยายหร�อติ�ความปรากฏิการณ*แลุ่ะพื้ยากรณ*

การเปลุ่� ยนิแปลุ่ง ในิเช�งว�ทยาศาสำติร* • ระบ�ได3ว�าค�าบอกเลุ่�า ค�าอธ�บาย แลุ่ะการพื้ยากรณ*

ใดท� สำมเหติ�สำมผลุ่• ติ�ความหลุ่�กฐานิประจั�กษ*พื้ยานิหร�อข3อม4ลุ่ทางว�ทยาศาสำติร*ลุ่งข3อสำร�ป แลุ่ะสำ� อสำารข3อสำร�ป

• ระบ�ข3อติกลุ่งเบ��องติ3นิ ประจั�กษ*พื้ยานิท� อย4�เบ��องหลุ่�งข3อสำร�ป

• แสำดงให3เห8นิว�าเข3าใจัแนิวค�ดแลุ่ะหลุ่�กการทางว�ทยาศาสำติร* ด3วยการนิ�าว�ทยาศาสำติร*ไปใช3ในิสำถานิการณ*หร�อบร�บทติ�างๆ

• สำะท3อนิถ�งการพื้�ฒนิาว�ทยาศาสำติร*แลุ่ะเทคโนิโลุ่ย�ท� ม�นิ�ยติ�อสำ�งคม

การระบ�ประเด8นิ

ทางว�ทยาศาสำติร*การอธ�บาย

ปรากฏิการณ*ในิเช�ง

ว�ทยาศาสำติร*

การใช3ประจั�กษ*พื้ยานิทาง

ว�ทยาศาสำติร*

• ระบบกายภาพื้

• ระบบสำ� งม�ช�ว�ติ

• ระบบโลุ่กแลุ่ะอากาศ

• ระบบเทคโนิโลุ่ย�

• การค3นิคว3าหาความร43

• กระบวนิการทางว�ทยาศาสำติร*

เนิ��อหาว�ชาว�ทยาศาสำติร*ท� ครอบคลุ่�ม

ติ�วอย�างข3อสำอบ

การเติร�ยมความพื้ร3อมของโรงเร�ยนิ

ประกาศ สำพื้ฐ . เร� อง การเติร�ยมความพื้ร3อมในิการพื้�ฒนิาค�ณภาพื้นิ�กเร�ยนิ สำ4�การยกระด�บผลุ่การ

ประเม�นินิ�กเร�ยนินิานิาชาติ� (PISA) ป- 2012 ก�าหนิดนิโยบายให3สำ�านิ�กงานิเขติพื้��นิท� การศ�กษาแลุ่ะโรงเร�ยนิ

ด�าเนิ�นิการ ด�งนิ�� 1 .โรงเร�ยนิจั�ดช�วงเวลุ่าอย�างนิ3อยว�นิลุ่ะ 1 ช� วโมง สำ�งเสำร�มการอ�านิเอาเร� อง จั�บใจัความสำ�าค�ญ ติ�ความแลุ่ะค�ดว�เคราะห* ครอบคลุ่�มภาษาไทย คณ�ติศาสำติร* ว�ทยาศาสำติร* แลุ่ะสำาระติ�าง ๆ ท� จั�าเป'นิติ�อการด�ารงช�ว�ติประจั�าว�นิ

2. ให3โรงเร�ยนิจั�ดก�จักรรมสำ�งเสำร�มการเร�ยนิร43การสำอบ PISA แก�นิ�กเร�ยนิช��นิ ม.3 , ม.4 อย�างติ�อเนิ� อง ท��งในิแลุ่ะนิอกเวลุ่าเร�ยนิ แลุ่ะรายงานิผลุ่ติ�อสำ�านิ�กงานิเขติพื้��นิท� การศ�กษาเป'นิระยะ ๆ

3. โรงเร�ยนิติ3องจั�ดให3ม�การประเม�นิผลุ่นิ�กเร�ยนินิานิาชาติ�ก�อนิสำอบจัร�ง (Pre-PISA) แก�นิ�กเร�ยนิช��นิ ม.3 แลุ่ะ ม.4

4. สำ�านิ�กงานิเขติพื้��นิท� การศ�กษาม�การติ�ดติามให3ความช�วยเหลุ่�อ สำ�งเสำร�มพื้�ฒนิาการเร�ยนิร43การสำอบ PISA แก�โรงเร�ยนิอย�างใกลุ่3ช�ดท�กสำ�ปดาห* แลุ่ะรายงานิผลุ่ติ�อ สำพื้ฐ .ท�กว�นิท� 15 ของเด�อนิ

5. โรงเร�ยนิใดท� ด�าเนิ�นิการสำ�งเสำร�มแลุ่ะพื้�ฒนิาการเร�ยนิร43การสำอบ PISA ม�ผลุ่การประเม�นิสำ4งกว�าค�าเฉลุ่� ยระด�บกลุ่าง จัะถ�อว�าปฏิ�บ�ติ�งานิประสำบความสำ�าเร8จั ควรได3ร�บการยกย�องเช�ดช4เก�ยรติ�เป'นิแบบอย�างท� ด�ติ�อไป

สำ� งท� โรงเร�ยนิติ3องด�าเนิ�นิการ1 .ประช�มคร4ในิโรงเร�ยนิ เพื้� อเติร�ยมการนิ�าข3อสำอบไปใช3ฝึDก

นิ�กเร�ยนิ2 .ช��แจังให3นิ�กเร�ยนิเห8นิความสำ�าค�ญของการฝึDกท�าข3อสำอบ

PISA อาจัก�าหนิดมาติรการ จั4งใจั หร�อยกย�องให3ก�าลุ่�งใจันิ�กเร�ยนิ

3 .จั�ดก�จักรรมสำ�งเสำร�มการเร�ยนิร43การสำอบ PISA ให3นิ�กเร�ยนิท� เก�ดระหว�างเด�อนิม�ถ�นิายนิ 2539 (อาย� 16 ป- 2 เด�อนิ) ถ�งพื้ฤษภาคม 2540 (15 ป- 3 เด�อนิ) ท�กคนิ เพื้� อให3ได3ฝึDกท�าข3อสำอบ PISA ในิการฝึDกท�าข3อสำอบของนิ�กเร�ยนิ ให3ด�าเนิ�นิการด�งนิ��

3.1 ให3นิ�กเร�ยนิท�าข3อสำอบการอ�านิ คณ�ติศาสำติร* แลุ่ะว�ทยาศาสำติร*

3.2 คร4นิ�าข3อสำอบมาอภ�ปรายก�บนิ�กเร�ยนิเป'นิรายข3อ โดยให3นิ�กเร�ยนิช��แจังว�าค�ดเห8นิอย�างไร ให3ค�าติอบนิ��ด3วยเหติ�ผลุ่ใด เห8นิด3วยหร�อไม� อย�างไรก�บค�าติอบของเพื้� อนิ

3.3 ให3นิ�กเร�ยนิช�วยก�นิสำร�ปค�าติอบแติ�ลุ่ะข3อว�าควรเป'นิอย�างไร โดยไม�ให3คร4เฉลุ่ยก�อนิ

4. จั�ดให3ม�การประเม�นิผลุ่นิ�กเร�ยนินิานิาชาติ�ก�อนิสำอบจัร�ง (Pre-PISA)

ก�จักรรมท� โรงเร�ยนิติ3องรายงานิให3 สำพื้ม.เขติ 36 ทราบ

1 .การประช�มคร4ในิโรงเร�ยนิ เพื้� อเติร�ยมการนิ�าข3อสำอบไปใช3ฝึDกนิ�กเร�ยนิ

2 .การประช�มช��แจังให3นิ�กเร�ยนิเห8นิความสำ�าค�ญของการฝึDกท�าข3อสำอบ PISA

3 .การประเม�นิผลุ่นิ�กเร�ยนินิานิาชาติ� ก�อนิการเติร�ยมความพื้ร3อม (Pre-test) ติรวจักระดาษค�าติอบ แลุ่ะบ�นิท�กผลุ่คะแนินิ แยกเป'นิรายคนิ/รายว�ชา เพื้� อ**ประมาณฉบ�บลุ่ะ 20 ข3อ**

4 .การจั�ดก�จักรรมสำ�งเสำร�มการเร�ยนิร43การสำอบ PISA เพื้� อให3ได3ฝึDกท�าข3อสำอบ PISA

5 .การประเม�นิผลุ่นิ�กเร�ยนินิานิาชาติ� หลุ่�งการเติร�ยมความพื้ร3อม (Post-test) ติรวจักระดาษค�าติอบ แลุ่ะบ�นิท�กผลุ่คะแนินิ แยกเป'นิรายคนิ/รายว�ชา เปร�ยบเท�ยบความก3าวหนิ3า Posttest – Pretest

6. การปร�บปร�งซ้�อมเสำร�มนิ�กเร�ยนิติามจั�ดอ�อนิ จั�ดด3อย เป'นิรายคนิ ติามประเด8นิท� ค3นิพื้บจัากการท�าแบบทดสำอบ

วางแผนิท�าเม� อไหร� อย�างไร ผ43ร�บผ�ดชอบเป'นิใคร

กลุ่��มเป7าหมายเป'นินิ�กเร�ยนิระด�บช��นิใด ก� คนิเม� อด�าเนิ�นิการแลุ่3วผลุ่เป'นิอย�างไร

(ควรม�ค�าสำ� ง/ภาพื้ก�จักรรมประกอบ )

การจั�ดก�จักรรมสำ�งเสำร�มการเร�ยนิร43การสำอบ PISA

การประเม�นิผลุ่นิ�กเร�ยนินิานิาชาติ�ก�อนิสำอบจัร�ง (Pre-PISA)

CD : PISA

สำ� งท� ติ3องให3ความสำ�าค�ญเพื้� มเติ�ม

นิ�กเร�ยนิสำะกดค�าผ�ดแลุ่ะขาดท�กษะในิการเข�ยนิภาษาไทย

ติ�วอย�างท� 1 :

ติ�วอย�างท� 2 :

ในขั้�*นตอ่นท�# 4 ขั้อ่งกร์ะบวินการ์ท,าควิามสะอ่าด คลอ่ร์�นถู�กเต�มลงไปัในน,*า ท,าไมจ0งเต�มคลอ่ร์�นลงไปัในน,*า

ตร์วิจด�ก1าซท�#ปัล�อ่ยอ่อ่กมาจากเคร์3#อ่งแปัลงไอ่เส�ย วิ�ศวิกร์และน�กวิ�ทยาศาสตร์ ท�#ท,าเคร์3#อ่งแปัลงไอ่เส�ยเพั3#อ่ให�ผูล�ตก1าซท�#เปั4นอ่�นตร์ายน�อ่ยลงย�งม�ปั�ญหาท�#ควิร์ต�อ่งแก�ไขั้ ปั�ญหาหน0#งน�*นค3อ่อ่ะไร์

33

ติ�วอย�างท� 3 :

ติ�วอย�างท� 4 :

ส5วิร์ร์ณิและมาร์�กาต�อ่งการ์ใช้�เช้3*อ่เพัล�งท�#ไม�ม�ผูลเส�ยต�อ่ส�#งแวิดล�อ่ม เช้3*อ่เพัล�งช้น�ดไหนท�#ควิร์จะแนะน,าให�ส5วิร์ร์ณิและมาร์�กาใช้� ไม� หร์3อ่ โพัร์เพัน ให�เหต5ผูลทางวิ�ทยาศาสตร์สน�บสน5นค,าแนะน,าขั้อ่งน�กเร์�ยนด�วิย

จงอ่ธี�บายวิ�าท,าไมเคร์3#อ่งม3อ่ผู�าต�ดท�#ใช้�ในห�อ่งผู�าต�ดจ0งถู�กท,าให�ปัลอ่ดเช้3*อ่

34

ติ�วอย�างท� 6 :

ติ�วอย�างท� 7 :

35

ติ�วอย�างท� 5 :

36

นิ�กเร�ยนิแสำดงท�ศนิคติ�ท� ไม�ด�ติ�อการสำอบ ติ�วอย�างท� 15 :น�กหน�งส3อ่พั�มพัเขั้�ยนวิ�า “ร์ถูไฟลอ่ยด�วิยแร์งแม�เหล7กวิ�#งด�วิยควิามเร์7วิ 500 กม./ช้ม. วิ�#งผู�านไปัอ่ย�างเง�ยบๆ เหม3อ่นก�บไม�ม�ควิามต�านลม”

น�กเร์�ยนเห7นด�วิยก�บขั้�อ่ควิามขั้อ่งน�กหน�งส3อ่พั�มพัหร์3อ่ไม� จงให�เหต5ผูล

37

ขั้�อ่สนเทศใดในิติารางท�#แสดงวิ�า ม�าในย5คปั�จจ5บ�นม�วิ�วิ�ฒนาการ์มาจากซากฟอ่สซ�ลท�*งสามช้น�ดในตาร์าง จงอ่ธี�บาย

ติ�วอย�างท� 16 :

ติ�วอย�างท� 17 :อ่ม�นดาซ3*อ่เคร์3#อ่งเปั:าผูมใหม� ท�#ใช้�ก,าล�งไฟฟ;าสำ4งกว�าเคร์3#อ่งเก�า ท,าไมอ่ม�นดาอ่าจจะใช้�กร์ะแสไฟฟ;านิ3อยกว�าเม3#อ่เธีอ่เปั:าผูมด�วิยเคร์3#อ่งเปั:าผูมใหม�แทนท�#จะใช้�เคร์3#อ่งเปั:าผูมเก�า

38