Top Banner
ขําวสารศาลจังหวัดพัทลุง สํวนชํวยอานวยการ โทร.074-613020, 074-612352 โทรสาร 074-611682 www.ptlc.coj.go.th ประจาเดือน มกราคม มีนาคม 2555 ยุติธรรม รวดเร็ว โปรํงใส ทุกระบบ ครบวงจร - การคุ๎มครองผ๎บริโภคตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผ๎บริโภค พ.ศ. 2551 - ประมวลภาพกิจกรรม - เกร็ดความร๎เพื่อสุขภาพ เรื่องเดํนในฉบับ
16

วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

Mar 22, 2016

Download

Documents

มกราคม ถึง มีนาคม 2555
Welcome message from author
This document is posted to help you gain knowledge. Please leave a comment to let me know what you think about it! Share it to your friends and learn new things together.
Transcript
Page 1: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

ขําวสารศาลจังหวัดพัทลุง

สวํนชวํยอ านวยการ โทร.074-613020, 074-612352 โทรสาร 074-611682 www.ptlc.coj.go.th

ประจ าเดอืน มกราคม – มนีาคม 2555 ยตุธิรรม รวดเรว็ โปรงํใส ทกุระบบ ครบวงจร

- การคุม๎ครองผูบ๎รโิภคตามพระราชบญัญตัวิธิพีจิารณาคดีผูบ๎รโิภค พ.ศ. 2551

- ประมวลภาพกจิกรรม - เกรด็ความรูเ๎พือ่สขุภาพ

เรือ่งเดนํในฉบบั

Page 2: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

สนทนากับ บก

เริ่มเขา๎สูชํวํงฤดรู๎อนอากาศเลยรอ๎นอบอา๎วขึน้ ระยะนีเ้ปน็ชํองวาํงระหวํางฤดูมรสมุ จะมีลมจากทศิตะวนัออกเฉียงใต๎พัดปกคลุม ท าให๎มีอากาศร๎อนอบอ๎าวทั่วไป แตํจังหวดัพทัลงุเปน็จังหวดัทีอ่ยูํใกล๎ทะเลจึงไมรํอ๎นมากนัก ได๎รับกระแสลมและไอน้ าท าให๎อากาศคลายความร๎อนลงไปมาก ผู๎อํานที่มสีขุภาพไมแํขง็แรงหรือแพ๎ลมแพ๎แดดดูแลสุขภาพด๎วยนะคับ

ส าหรับปักษ์นี้อยูํในชํวงเดือนที่มีวันส าคัญทางพุทธศาสนา คือวันมาฆบูชา ซึ่งในวันนั้นมีเหตุการณ์ส าคัญคือการประชุมพร๎อมด๎วยองค์ 4 หรือที่รู๎จักกันวํา "จาตุรงคสนันบิาต" เป็นการปฐมนิเทศในการเผยแผํพระพุทธศาสนาอยําง เป็นทางหรือการเทศนาของพระพุทธเจ๎าเป็นครั้งแรกอยํางเป็นทางการนั่นเอง ซึ่งถือวําเป็นเหตุการณส์ าคญัในพทุธศาสนา โดยวันนัน้ เป็นวนัมาฆปรูณม ีคือวันเพญ็ขึน้ ๑๕ ค่ ากลางเดอืนมาฆะ จึงเรียกวํา มาฆบูชาและเป็นการรํวมประชุมของพระภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป พระภิกษุทั้งหมดล๎วนเป็นพระอรหันต์ รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ๎าโดยตรง และเป็นครั้งแรกที่มีการประชุมเพื่อรับฟังทิศทางการเผยแผํพระพุทธศาสนาให๎ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

โดยวันมาฆบูชาถือเป็นวันหยุดราชการของประเทศไทย โดยในวันนี้ทํานผู๎อํานอาจจะหาวดัใกล๎บา๎นหรอืไปวดัทีศ่รทัธาเพือ่ประกอบพธิตีาํงๆ เชํน การตักบาตร การฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เป็นต๎น เพื่อเป็นการบูชาร าลึกถึงพระรัตนตรัย

ทางคณะผู๎จัดท าหวังวําขําวศาลจังหวัดพัทลุงฉบับนี้คงเป็นประโยชน์และมอบความรู๎ความบันเทิงให๎ผู๎อํานไมํมากก็น๎อย

ดว๎ยความนบัถอื สกลภทัร ปตัระวรรณ

บรรณาธกิาร

ทีป่รกึษา นายสนัต ิ บุตรด ีผู๎พพิากษาหวัหนา๎ศาลจงัหวดัพัทลงุ นางสาวสธุริา วสิารทพงศ ์ผูอ๎ านวยการส านกัอ านวยการประจ าศาลจงัหวดัพทัลงุ บรรณาธกิาร นายสกลภัทร ปตัระวรรณ กองบรรณาธกิาร นางกลัยา ด าสนทิ น.ส.พมิพป์ระไพ ลายทพิย ์น.ส.อุษา แซหํล ี คณะผูจ๎ัดท า นางรตันาภรณ ์ สวุรรณมณ ีนายสกลภัทร ปตัระวรรณ นายลขิิต เพง็คลา๎ย

Page 3: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

การคุม๎ครองผู๎บรโิภคตามพระราชบญัญตัวิธิีพจิารณาคดีผูบ๎รโิภค พ.ศ. 2551

หลกัการและเหตผุล

โดยที่ปัจจุบันระบบเศรษฐกิจมีการขยายตัวอยํางรวดเร็ว และมีการน าความรู๎ทางด๎านวิทยาศาสตรแ์ละเทคโนโลยีมาใช๎ในการผลิตสินค๎าและบริการมากขึ้น ในขณะที่ผู๎บริโภคสํวนใหญํยังขาดความรูใ๎นเรือ่งของคณุภาพสนิคา๎หรอืบรกิารตลอดจนเทคนคิการตลาดของผู๎ประกอบธุรกิจทั้งยังขาดอ านาจตํอรองในการเข๎าท าสัญญาเพื่อให๎ได๎มา ซึ่งสินค๎าหรือบริการ ท าให๎ผู๎บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบอยูํเสมอ และเมื่อเกิดข๎อพิพาทกระบวนการในการเรียกร๎องคําเสียหายต๎องใช๎เวล านานและสร๎างความยุํงยากให๎แกํผู๎บริโภค ที่จะต๎องพิสูจน์ถึงข๎อเท็จจริงตําง ๆ ซึ่งไมํอยูํในความรู๎เห็นของตนเองและต๎องเสียคําใช๎จําย ในการด าเนินคดีสูง ผู๎บริโภคจึงตกอยูํในฐานะที่เสียเปรียบจนบางครั้งน าไปสูํการใช๎วิธีการที่รุนแรงและกํอให๎เกิดการเผชิญหน๎าระหวํางผู๎ประกอบธุรกิจกับกลุํมผู๎บริโภคที่ไมํได๎ร ับความเป็นธรรมอันสํงผลกระทบตํอระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ จึงสมควรจัดใหม๎รีะบบวธิพีจิารณาคดทีี่เอือ้ตอํการใชส๎ทิธเิรยีกร๎องของผู๎บริโภค เพื่อให๎ผู๎บริโภคที่ได๎รับความเสียหายได๎รับการแก๎ไขเยียวยาด๎วยความรวดเร็ว ประหยัด และมีประสิทธิภาพ อันเป็นการคุ๎มครองสทิธขิองผู๎บรโิภค ขณะเดยีวกนัเปน็การสํงเสริมให๎ผู๎ประกอบกิจการค๎าหันมาให๎ความส าคัญตํอการพัฒนาคุณภาพของสินค๎าและบริการให๎ดียิ่งขึ้นอันเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอีกทางหนึ่ง

โดย นายแสงศกัดา พทุธสวสัดิ ์(นบ., นม., นบท. ) เจา๎พนกังานคดี ศาลจงัหวดัพทัลงุ

Page 4: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

ลกัษณะของพระราชบญัญตันิี ้

เป็นกฎหมายเกี่ยวกับคดีแพํงที่ผู๎บริโภคหรือผู๎รับบริการมีสิทธิเรียกร๎องคําเสียหายของตนตํอผู๎ให๎บรกิารหรอืผูป๎ระกอบธรุกิจใหช๎ดใช๎คาํเสยีหายหรอืเยยีวยาแกํตนได๎โดยสะดวก รวดเรว็ งําย และไมํต๎องเสียคําใช๎จํายในการด าเนินคดีเชํนที่เคยปฏิบัติมากํอนมีพระราชบัญญัตินี้

พระราชบัญญัติดังกลําวก าหนดความหมายของ คดีผู๎บริโภค ไว๎ดังนี้ - คดีแพํงระหวํางผู๎บริโภคหรือผู๎มีอ านาจฟ้องแทนผู๎บริโภคตามมาตรา 17 ซึ่งได๎แกํ

คณะกรรมการคุ๎มครองผู๎บริโภคหรือสมาคมที่คณะกรรมการคุ๎มครองผู๎บริโภครับรองตามกฎหมายวําด๎วยการคุ๎มครองผู๎บรโิภคหรอืตามกฎหมายอืน่กับผูป๎ระกอบธุรกิจซึ่งพิพาทกันเกี่ยวกับสิทธิหรือหน๎าที่ตามกฎหมายอันเนื่องมาจากการบริโภคสินค๎าหรือบริการ

- คดีพิพาทตามพระราชบัญญัติวําด๎วยความรับผิดตํอความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค๎าไมํปลอดภัย (Product Liability Law) ต๎องพิจารณาคดีตามกฎหมายนี้เทํานั้น -คดีที่เกี่ยวพันกับคดีสองประเภทข๎างต๎นซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับผู๎บริโภคฟ้องผู๎ประกอบการ

- คดีที่มีกฎหมายบัญญัติให๎ใช๎วิธีพิจารณาตาม พ.ร.บ. นี้

ผู๎บรโิภค คอื 1. ผู๎ซื้อหรือผู๎ท่ีได๎รับบริการ (ต๎องเสียคําตอบแทน) 2. คนที่ถูกเสนอหรือชักชวนให๎ซื้อสินค๎า เชํนการทดลองศัลยกรรมตกแตํงใบหน๎าตามห๎างสรรพสินค๎าแล๎วเกิดอาการแพ๎จนหน๎าเสียหาย สามารถฟ้องศาลได๎ 3. คนที่ใช๎สินค๎าหรือได๎รับบริการ แตํไมํได๎เสียคําตอบแทน เชํน พนักงานในบริษัท คนในครอบครัว หรือคนในราชการ ถ๎าหากนายจ๎างซื้อให๎เรา ถ๎าเกิด เราท๎องเสียเราก็มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร๎องได๎ในฐานะผ๎ูบริโภคเหมือนกัน

ผูป๎ระกอบธรุกจิ คอื 1. ผู๎ขาย 2. ผู๎ผลิตเพื่อขาย 3. ผู๎สั่งหรือน าเข๎าสนิคา๎เพื่อขายตํอ 4. ผู๎ซื้อมาขายตํอ 5. ผู๎ให๎บริการ 6. ผู๎ประกอบกิจการโฆษณา

Page 5: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

เขตอ านาจศาลฟอ้งทีศ่าลไหน

หากผู๎บริโภคเป็นคนมาฟ้องเป็นไปตามหลักเดิมคือฟ้องได๎หลายศาลทั้งศาลในเขตที่ผู๎ประกอบการมสี านกังานตั้งอยูํและศาลที่มูลคดีเกิดแตํถ๎าผู๎ประกอบการธุรกิจเป็นคนมาฟ้องแตํนี้ไปก็จะต๎องล าบากหนํอยเพราะกฎหมายเปลี่ยนใหมํให๎ผู๎ประกอบการที่ต๎องการฟ้องผู๎บริโภคฟ้องได๎ที่เดียวกันคอืศาลในเขตที่ผูบ๎รโิภคมภีมูลิ าเนาอยูคํราวนีค้ดฝีัง่นีก้จ็ะกระจายไปตามศาลทั่วประเทศไมํใชํฟ้องงํายๆ ครั้งละเป็นร๎อยๆพันๆ คดี และจะไมํกระจุกตัวอยูํแคํที่กรุงเทพฯ ที่เดียวเหมือนแตํกํอนแล๎ว

พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู๎บริโภค พ.ศ. 2551 เป็นกฎหมายที่มี 2 ลักษณะ อยูํในกฎหมายฉบับเดียวกันคือ

ลักษณะที่ 1 เป็นกฎหมายวิธีสบัญญัติ ที่ก าหนดวิธีด าเนินคดีผู๎บริโภคในศาลยุติธรรม ใน

คดีแพํง ระหวํางผู๎บริโภคกับผ๎ูประกอบธุรกิจหรือผู๎ให๎บริการ ลักษณะที่ 2 เป็นกฎหมายสาระบัญญัติ ที่ก าหนดบทบัญญัติสาระส าคัญในการคุ๎มครอง

ผู๎บริโภคเพิ่มเติมขึ้นจากกฎหมายวําด๎วยการคุ๎มครองผู๎บริโภค อีกเป็นอันมาก ในลักษณะที่เป็นกฎหมายสาระบัญญัติพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได๎เพิ่มเติมบทบัญญัติ อันมีผล

ท าให๎ 1. การประกาศ โฆษณา ค ารับรอง ข๎อตกลงใด ๆ หรือการกระท าใด ๆ ของผู๎ให๎บริการ ซึ่ง

ท าให๎ผู๎รับบริการเข๎าใจได๎วํา ผู๎ให๎บริการจะให๎บริการนั้นแกํตน หรือบริการที่ตนจะได๎รับ ค ารับรอง ข๎อตกลงใด ๆ แม๎จะไมํมีสัญญาเป็นเอกสารหรือหนังสือที่เป็นลายลักษณ์อักษร ก็ใช๎เป็นหลักฐานในการด าเนินคดีผู๎บริโภคในศาลได๎ ถ๎าผู๎บริโภคสามารถน าสืบพยานบุคคล พยานหลักฐาน เกี่ยวกับข๎อตกลงดังกลําวได๎ (มาตรา 11)

2. อายุความ ในกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นตํอชีวิต รํางกาย สุขภาพ หรืออนามัย โดยผลของสารที่สะสมอยูํในรํางกายผ๎ูบริโภคหรือ เป็นกรณีที่ต๎องใช๎เวลาในการแสดงอาการ อายุความในการใช๎สิทธิเรียกร๎องเป็นดังนี้

2.1 ภายใน 3 ปี นับแตํวันที่รู๎ความเสียหายและรู๎ตัวผู๎ให๎บริการที่ต๎องรับผิด หรือ 2.2 ไมํเกิน 10 ปี นับแตํวันที่รู๎ความเสียหาย (มาตรา 13 )

Page 6: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

ในลักษณะที่เป็นกฎหมายวิธีสบัญญัติพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได๎บัญญัติวิธีการด าเนินคดีผู๎บริโภคในศาล หรือฟ้องคดีในศาล อันมีผลท าให๎

1. เปิดโอกาสและเพิ่มชํองทางแกํผ๎ูบริโภค หรือผู๎รับบริการในการฟ้องคดีตํอศาล โดย 1.1 ผู๎บริโภคหรือผู๎รับบริการ สามารถเข๎าพบ เจ๎าพนักงานคดี ที่ศาลยุติธรรม (ผู๎ชํวยเหลือผู๎

พิพากษา)โดยเจ๎าพนักงานคดี จะสอบถามความเดือดร๎อน ความต๎องการของผู๎บริโภค หรือผู๎รับบริการ และจะเปน็ผู๎ไกลํเกลี่ยให๎ผ๎ูบริโภค หรือผู๎รับบริการกับผู๎ให๎บริการที่ศาล ท าให๎ความจ าเป็นที่ต๎องใช๎ผู๎ไกลํเกลี่ยอื่น (ที่มิใชํเจ๎าพนักงานคดี) น๎อยลง

1.2 ผู๎บริโภคหรือผู๎รับบริการ สามารถด าเนินการฟ้องร๎องคดีผ๎ูให๎บริการตํอศาลยุติธรรมได๎งํายขึ้น โดยจะฟ้องด๎วยวาจาก็ได๎ โดยมีเจ๎าพนักงานคดี เป็นผู๎จดบันทึกรายละเอียดแหํงค าฟ้องให๎ แล๎วให๎โจทก์ลงลายมือช่ือเทํานั้น นั่นคือผ๎ูบริโภค หรือผู๎รับบริการมีผู๎ชํวยในการฟ้องคดีให๎

1.3 ผู๎บริโภคหรือผู๎มารับบริการ ฟ้องคดีตํอศาล ให๎ผู๎ให๎บริการชดเชยคําเสียหายให๎แกํตนได๎ โดยได๎รับการยกเว๎นคําธรรมเนียมศาลในการฟ้องคดี นั่นคือไมํต๎องเสียคําธรรมเนียมศาลในการฟ้องคดี เชํน คดีแพํงทั่วไป

1.4 บัญญัติให๎มีผู๎แทนผู๎บริโภค ที่จะฟ้องคดีแทนผู๎บริโภคได๎ เชํน คณะกรรมการคุ๎มครองผู๎บริโภค หรือสมาคมที่คณะกรรมการคุ๎มครองผู๎บริโภครับรองเป็นผู๎ฟ้องคดีแทนผู๎บริโภคได๎

2. ผลักภาระในการพิสูจน์ในประเด็นข๎อเท็จจริงในการให๎บริการให๎เป็นของผู๎ให๎บริการ 3. ถ๎าภายหลังที่ได๎มีค าพิพากษาถึงที่สุดในคดีผู๎บริโภคแล๎ว ถ๎าปรากฏวํามีการฟ้องผู๎ให๎บริการราย

เดียวกันเป็นคดีผู๎บริโภคอีก ถ๎าปรากฏวําข๎อเท็จจริงที่พิพาทเป็นอยํางเดียวกันกับคดีกํอน และศาลในคดีกํอนได๎วินิจฉัยไว๎แล๎ว ศาลในคดีหลังอาจมีค าสั่งให๎ถือวําข๎อเท็จจริงในประเด็นนั้นเป็นอันยุติ เชํนเดียวกับคดีกํอน โดยไมํต๎องสืบพยานหลักฐาน เว๎นแตํศาลจะเห็นเป็นอยํางอื่น

4. ผู๎พิพากษา (ศาล) มีอ านาจพิพากษา ให๎เพิ่มจ านวนเงินคําเสียหายที่ผู๎ ให๎บริการจะต๎องจํายให๎ผู๎รับบริการหรือผู๎บริโภคได๎หากเห็นวําจ านวนเงินที่ผู๎รับบริการหรือผู๎บริโภคเรียกร๎องไมํถูกต๎อง ไมํเพียงพอตํอการแก๎ไขเยียวยา ความเสียหายตามฟ้อง

5. ความเสียหายเกิดขึ้นแกํรํางกาย สุขภาพ อนามัย ในขณะที่พิพากษาคดี ไมํสามารถจะรู๎ได๎แนํวําความเสียหายมีแท๎จริงเพียงใด ศาลอาจมีค าพิพากษาสงวนสิทธิ์ที่จะแก๎ไขค าพิพากษานั้นได๎อีก ภายในระยะเวลาที่ศาลก าหนด แตํต๎องไมํเกิน 10 ปี นับแตํวันที่มีค าสั่งพิพากษา

6. ถ๎าผ๎ูให๎บริการกระท าโดยเจตนาเอาเปรียบผ๎ูรับบริการโดยไมํเป็นธรรม หรือโดยจงใจให๎ผ๎ูรับบริการได๎รับความเสียหายศาลมีอ านาจสั่งให๎ผู๎ให๎บริการ จํายคําเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มขึ้น จากจ านวนคําเสียหายที่แท๎จริงที่ศาลก าหนดได๎ตามที่เห็นสมควรแตํไมํเกิน 2 เทําคําเสียหายที่แท๎จริงที่ศาลก าหนด แตํถ๎าคําเสียหายที่แท๎จริงที่ศาลก าหนด มีจ านวนเงินไมํเกิน 50,000 บาท ให๎ศาลมีอ านาจก าหนดคําเสียหายเพื่อการลงโทษได๎ไมํเกิน 5 เทําของคําเสียหายที่แท๎จริง

Page 7: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

การด าเนินกระบวนพจิารณาคดี

หลักวธิพีจิารณาคดพีืน้ฐาน (1) เนน๎หลกัประหยดั

- ผู๎บริโภค ได๎รับยกเวน๎คําฤชาธรรมเนียมท้ังปวง(ไมํเสียคําใช๎จําย) แตํถ๎าน าคดีมาฟ้องโดยไมํมีเหตุผลอนัสมควรหรือเรียกร๎องคําเสียหายเกินสมควรศาลอาจสั่งให๎ช าระคําฤชาธรรมเนียมก็ได๎สํวนผู๎ประกอบธุรกิจต๎องเสียคําฤชาธรรมเนียมตามกฎหมาย (2) เนน๎หลกัสะดวก

- ผู๎บริโภค หรือผู๎ประกอบธุรกิจ ฟ้องคดีด๎วยวาจาหรือให๎การด๎วยวาจา กไ็ด ๎(3) เนน๎หลักรวดเรว็

- เมื่อศาลรับฟอ้งแล๎ว ใหศ๎าลก าหนดวันนัดพิจารณาโดยเรว็ ให๎ศาลนั่งพิจารณาคดีติดตํอกันไปโดยไมํเลื่อนคดี เว๎นแตํ มีเหตุจ าเป็นถ๎ามีการอุทธรณ์ ก็ให๎ศาลอุทธรณ์ด าเนนิการให๎เสร็จสิ้นโดยเร็ว ค าพิพากษาหรือค าสั่งของศาลอุทธรณ์ ให๎เป็นที่สุด (4) เนน๎หลกัไมเํปน็ทางการ

- ไมํเครํงครัดตํอระเบียบพิธีการเหมือนคดีแพํงทั่วไป เพื่อมิให๎เอาชนะกันโดยอาศัยเทคนิคทางกฎหมาย เชํน ให๎อ านาจศาล สั่งให๎คูํความท าการแก๎ไขข๎อผิดระเบียบหรือผิดหลงได๎ หรือ แม๎ไมํมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือไมํได๎ท าตามแบบสัญญา ผู๎บริโภคก็มีสิทธิฟ้องได๎ หรือศาลอาจสั่งยํนหรือขยายระยะเวลาที่ก าหนดไว๎ได๎ หรือเน๎นการไกลํเกลี่ยระงับข๎อพิพาทเป็นหลักเป็นต๎น (5) เนน๎หลกัสจุริต

- การใช๎สิทธิตาม พ.ร.บ. นี้ คูํความจะต๎องกระท าด๎วยความสุจริต เชํน ถ๎าผ๎ูบริโภคน าคดีมาฟ้องโดยไมํมีเหตุผลอันสมควร ให๎ศาลมีอ านาจสั่งให๎บุคคลนั้นจํายคําฤชาธรรมเนียมที่ยกเว๎นก็ได๎ หรือให๎ศาลมีอ านาจสั่งให๎ผู๎ประกอบธุรกิจเปลี่ยนสินค๎าใหมํให๎แกผํู๎บริโภคได๎แตํจะต๎องค านึงถึงความสุจริตของผู๎บริโภคประกอบด๎วย เป็นต๎น ในสวํนของหลกัวธิพีจิารณาคดนีัน้พบกนัในฉบบัหนา๎นะครบั อา๎งองิ : http://www.thailaws.com/law/thaiacts/html1249.html : คูํมือฟ้องคดีผู๎บริโภค : แนวปฏิบัติส าหรับผ๎ูบริโภคในการฟ้องคดีตํอศาล, นายชัยรัตน์ แสงอรุณ ,พ.ศ. 2551 : นายสราวธุ เบญจกุล รองเลขาธิการส านักงานศาลยุติธรรมคอลัมน์ เครื่องเคยีง,พ.ศ.2551 : บทความ อาจารย์ชาญณรงค์ ปราณีจิตต์

Page 8: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

ขาํวประชาสมัพนัธ ์

เมือ่วนัที ่29 ธนัวาคม 2554 ผูพ๎พิากษา ขา๎ราชการและลูกจา๎งศาลจงัหวดัพทัลงุ รวํมอวยพรและขอพรจาก นายสนัต ิบุตรด ีผู๎พพิากษาหวัหนา๎ศาลจงัหวดัพัทลงุ เนือ่งในโอกาสเทศกาลปใีหม ํป ี2555

เทศกาลปใีหมํ ป ี2555 ศาลจงัหวดัพัทลงุ

Page 9: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

ผู๎อ านวยการส านกัอ านวยการประจ าศาลจังหวดัพัทลงุ รวํมรับ-สงํผูแ๎ทนพระองค์

ขาํวประชาสมัพนัธ ์

เมือ่วนัที ่ 9 กุมภาพนัธ ์ 2555 ทูลกระหมอํมหญงิอบุล รตันราชกญัญา สริวิฒันาพรรณวด ีทรงพระกรณุาโปรดเกลา๎ให๎ นายมนสั โนนชุ กรรมการและผูอ๎ านวยการส านกันโนบายและแผน มูลนธิมิริาเคลิออฟไลฟ ์เปน็ผูแ๎ทนพระองคใ์นพธิมีอบถุงยงัชพีพระราชทาน ตาม โครงการ “ หนึง่ใจ.... ชวํยเหลอืผูป๎ระสบภยั ” ของมลูนธิมิริาเคลิออฟไลฟ ์ ณ ส านกังานเทศบาลต าบลปา่บอน ในการนี ้ นายสนัต ิบตุรด ีผูพ๎พิากษาหวัหนา๎ศาลจงัหวัดพทัลงุ มอบหมายให ๎นางสาวสธุริา วสิารทพงศ ์ ผูอ๎ านวยการส านกัอ านวยการประจ าศาลจงัหวดัพัทลงุ รวํมรบั-สงํผูแ๎ทนพระองค ์

สมเดจ็พระเทพรตันราชสดุาฯ สยามบรมราชกมุาร ีเสด็จพระราชด าเนนิมาทรงเปดิโรงงานแปรรปูผลติภัณฑ์นม UHT ของสหกรณโ์คนมพทัลงุ จ ากดั

เมือ่วนัที ่ 13 กมุภาพนัธ ์ 2554 สมเดจ็พระเทพรตันราชสดุาฯ สยามบรมราชกมุารเีสดจ็พระราชด าเนนิมาทรงเปดิโรงงานแปรรปูผลิตภณัฑน์ม UHT ของสหกรณโ์คนมพทัลงุ จ ากัด ต าบลนาทอํม อ าเภอเมอืงพัทลงุ จงัหวดัพทัลงุ โดยม ี นายสนัต ิ บตุรด ี ผู๎พพิากษาหวัหนา๎ศาลจงัหวดัพัทลงุ พรอ๎มดว๎ยขา๎ราชการชัน้ผู๎ใหญรํวํมรบัและตามเสดจ็ ภายหลงัเสรจ็พระราชกรณยีกจิและเสดจ็พระราชด าเนนิกลบั มี นายประภาส สขุศริ ิ ผูพ๎พิากษาหวัหนา๎คณะในศาลจงัหวัดพทัลงุ พรอ๎มดว๎ยขา๎ราชการ เฝา้ฯ สงํเสดจ็

Page 10: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

ขาํวประชาสมัพนัธ ์

โครงการ “ศาลจงัหวดัพทัลงุศกึษาดงูานเพื่อเพิ่มศักยภาพ” ณ บริษทัปนูซเีมนตไ์ทย (ทุงํสง) จ ากดั

เมือ่วนัที ่ 16 กมุภาพนัธ ์ 2554 นางสาวสธุริา วสิารทพงศ ์ ผูอ๎ านวยการส านกัอ านวยการประจ าศาลจงัหวัดพทัลงุ พรอ๎มดว๎ยหวัหนา๎สวํน หวัหนา๎งานและขา๎ราชการศาลจงัหวดัพัทลงุ เดนิทางไปศกึษางานเพือ่เพิม่ ศกัยภาพ ตามโครงการ “ศาลจงัหวดัพทัลงุ ศกึษาดงูานเพือ่เพิม่ศกัยภาพ” ณ บรษิัทปนูซเีมนตไ์ทย (ทุงํสง) จ ากดั อ าเภอทุงํสง จงัหวัดนครศรธีรรมราชโดยมพีนกังานของบรษิทัให๎การตอ๎นรบัและบรรยายสรปุ ประวตัคิวามเปน็มาของบรษิทัฯ ขัน้ตอนการผลิตปนูซเีมนต ์ ตลอดจน น าไปเยีย่มชมบรเิวณโรงงาน กอํนทีจ่ะเดนิทางกลบัผูอ๎ านวยการไดม๎อบของทีร่ะลกึและถาํยภาพรวํมกนั

รับมอบโลํรางวลั รองชนะเลิศ ศาลทีม่ปีรมิาณคด(ีความเรียง)อันดบั 1 จากส านกังานอธบิดีผูพ๎ิพากษาภาค 9

เมือ่วนัที ่ 28 กุมภาพนัธ ์ 2555 นายสนัต ิ บตุรด ี ผู๎พพิากษาหวัหนา๎ศาลจงัหวดัพทัลงุเขา๎รบัมอบ โลรํางวลั รองชนะเลศิ ศาลทีม่ีปรมิาณคด(ีความเรยีง) อนัดับ 1 จากส านกังานอธบิดผีูพ๎พิากษาภาค 9 โดย นายสมบรูณ ์ วฒันพรมงคล อธบิดีผูพ๎พิากษาภาค 9 ณ โรงแรม บพี ีสมหิลา บชี อ าเภอเมอืงสงขลา จงัหวัดสงขลา

Page 11: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

ขาํวประชาสมัพนัธ ์

พิธอีัญเชญิองค์ครุฑพําหป์ระดษิฐานยงัอาคารศาลจงัหวดัพทัลงุ

เมื่ อวันที่ 1 มีนาคม 2555 นายสันติ บุตรดี

ผู๎พิพากษาหัวหน๎าศาลจังหวัดพัทลุง เป็นประธานในพิธีบวงสรวงและอญัเชิญองคค์รฑุพาํหข์ึน้ประดษิฐานบนอาคารศาลจังหวัดพัทลุง โดยมีนายศุภชัย นารถพจนานนท์ ผู๎พิพากษาหัวหน๎าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพัทลุง ผู๎พิพากษา ข๎าราชการศาลยตุธิรรม พนักงานราชการและลูกจ๎าง ในศาลจังหวัดพัทลุง รํวมในพิธี ศาลจังหวัดพัทลุงเปิดอาคารท าการแตํอาคารศาลยังไมํมีองค์ครุฑพําห์ ประดิษฐาน เพื่อให๎อาคารมีภาพลักษณ์สมกับเป็นสถานที่อันทรงเกียรติที่ได๎ปฏิบัติราชการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ จึงนับเป็นเรื่องนํายินดีที่ศาลจังหวัดพัทลุงได๎จัดพิธีบวงสรวงและอัญเชิญองค์ครุฑพําห์ขึ้นประดิษฐานบนอาคารเพื่อความเป็นศิริมงคลแกํผู๎ปฏิบัติราชการและความสงํางามของตัวอาคารศาล อันจะน าไปสูํความเจริญรุํงเรืองยิ่งขึ้นตํอไป

Page 12: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

ขาํวประชาสมัพนัธ์

ศาลจงัหวดัพทัลงุมอบอปุกรณก์ฬีาแกโํรงเรยีนศกึษานเุคราะห์

วนัที ่1 มนีาคม 2555 นางสาวสธุริา วสิารทพงศ ์ผูอ๎ านวยการส านกัอ านวยการประจ าศาลจงัหวดัพัทลงุ เปน็ตวัแทนผูพ๎พิากษาหวัหนา๎ศาลจงัหวดัพัทลงุมอบอปุกรณก์ีฬาใหโ๎รงเรยีนศกึษานุเคราะห์จงัหวดัพัทลงุ โดยมคีรภูริมย ์เรอืงประดษิฐ ์หวัหนา๎กลุมํสาระสขุศกึษาพลศกึษาโรงเรยีนศกึษาสงเคราะหจ์งัหวัดพทัลงุเปน็ผูร๎บัมอบ

ศาลจงัหวดัพทัลงุ แสดงความยนิดกีับบัณฑิตใหมํ

เมือ่วนัที ่ 13 มนีาคม 2555 ศาลจงัหวดัพัทลงุแสดงความยนิดีกบับคุลากร นางสาวอษุา แซหํล ี เจา๎พนกังานศาลยตุธิรรมช านาญการ ซึง่จบปริญญานติศิาสตรบณัฑิต จากมหาวทิยาลยัสโุขทยัธรรมาธริาช ในปกีารศกึษา 2554 ซึง่เปน็ปรญิญาบตัรใบที่ 2

Page 13: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

ขาํวประชาสมัพนัธ์

โครงการปฏบิัตธิรรม อบรมพฒันาจิต

เมือ่วนัที ่22 มนีาคม 2555 นายสนัต ิบตุรด ีผูพ๎พิากษาหวัหนา๎ศาลจงัหวดัพัทลงุเปน็ประธานในโครงการปฏบิตัธิรรม อบรมพฒันาจติโดยมนีางสาวสธุริา วสิารทพงศ ์ผูอ๎ านวยการส านกัอ านวยการประจ าศาลจงัหวัดพทัลงุ พรอ๎มดว๎ยขา๎ราชการศาลยุตธิรรมในสงักดัศาลจงัหวดัพทัลงุ เขา๎รํวมเพือ่พฒันาจติใจให๎เจรญิสติ สมาธ ิและปญัญา ดว๎ยการนอ๎มน าศลิปะและมกีารเขา๎ถงึแกนํแทข๎องธรรมะในการท าความดลีะความชั่ว ท าจิตใจให๎ผอํงใส ใชธ๎รรมะเปน็ที่พึง่แหํงตนและเผยแผํถงึผูร๎ํวมงาน ณ วดัจนิตาวาส ต าบลต านาน อ าเภอเมอืงพทัลงุ จงัหวดัพทัลงุ

Page 14: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

ขาํวประชาสมัพนัธ์

โครงการ ”เสวนาสานสมัพันธก์าแฟยามเชา๎” วนัพธุที่ 8 กมุภาพนัธ์ 2555

โครงการ ”เสวนาสานสมัพันธก์าแฟยามเชา๎” วนัพธุที่ 14 มนีาคม 2555

Page 15: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

เกรด็ความรูเ๎พือ่สขุภาพ

มหศัจรรยพ์ชืผกัผลไม ๎

บทความใน nutrition Action Health Newsletter กลําวไว๎วํา “ พืชผักผลไม๎ดีทุกชนิด การศึกษาบางชิ้นแสดงให๎เห็นวําการกินผักผลไม๎ที่อุดมด๎วยแคโรทีนอยด์ส และวิตามินซีจะชํวยลดความเสี่ยงตํอมะเร็งได๎ สํวนงานวิจัยอื่น ๆ แสดงให๎เห็นวําการกินผักผลไม๎ชนิดใด ๆ ก็ตาม ล๎วนชํวยลดความเสี่ยงจากโรคหลายชนิด” นี่คือความมหัศจรรย์ประการหนึ่งในวารสารจังหวัดพัทลุงฉบับปฐมฤก จะแสดงให๎คุณผู๎อํานเห็นคุณประโยชน์ของฝรั่ง

ฝรัง่ ฝรั่งเรยีกฝรัง่วาํ Guava อําน “กัววาํ” ชื่อฟังดูแปลกเพราะมาจากภาษาพื้นเมืองของอเมริกากลางคะ เชื่อวาํฝรัง่เปน็พชืพืน้เมอืงของเปรู เพราะนักประวัติศาสตร์ขุดพบโกดังเก็บเมล็ดพืชเกําแกํในเปรูมีเมล็ดฝรั่ง ถั่ว ข๎าวโพด แตง และพืชเกษตรอื่น ๆ อายุหลายพันปีฝรั่งกระจายพันธ์ไปทั่วโลก เพราะมันเจริญเติบโตงํายในแทบทุกสภาพดิน ขยายพันธ์งําย ให๎ผลดกและเร็ว ฝรั่งเพาะจากเมล็ดจะเจริญเติบโตและให๎ผลได๎ในเวลาไมํเกิน 4 ปี วิธีกินฝรั่งแบบมาตรฐานของคนไทยคือ สับเป็นชิ้น จิ้มพริกเกลือ ถือเป็นเมนูยอดนิยม ชาวชนบทกินฝรั่งขึ้นกเป็นอาหารวําแทนของหวานหรือขนมขบเคี้ยวส าเร็จรูป หรอืขนมหวานหรอืท าเปน็ซอสฝรัง่ ท าแยม เยลลี่ทาขนมปงั

ชาวอเมรกิาไตน๎ยิมของหวานชนิดหนึง่ ท าโดยใช๎ฝรัง่ควา๎นเมลด็ ผาํครึง่ ตม๎ในน้ าเชือ่ม เนือ้ในเมล็ดบดกรองเอาแตนํ้ าขน๎ น ากลบัมาเตมิในน้ าเชือ่ม กนิเหมอืนทีเ่รากนิกลว๎ยบวชชี ฝรัง่สกุแชแํขง็ควา๎นเมลด็กเ็ปน็ทีน่ยิมเชนํกนัโดยเสริฟ์รวํมกบัครมีชสี ขนมขบเคีย้วพืน้บา๎นอเมรกิาใต๎ชนดิหนึง่ ลักษณะเปน็แทงํคลา๎ยชอ็กโกแลตท าจากเนือ้ฝรัง่บดเขม๎ขน๎จนเหนยีวเตมิเนยแขง็น้ าเชือ่มฝรัง่มีลักษณะใส กลิน่หอม นยิมใชผ๎สมท าวาฟเฟิล ไอศกรมี พดุดิง้ มิลคเ์ชค ฝรัง่ลูกเล็กไมํได๎ขนาดและฝรัง่สกุจัด ถูกน ามาใชผ๎ลติเครือ่งดืม่ให๎วติามนิซสีงูกลายเปน็น้ าฝรัง่ น้ าผลไมก๎ระปอ๋งยอดนยิมแถบทะเลแครบิเบียน ในแอฟรกิาใตม๎ีอาหารเดก็ออํนผลติจากเนือ้ฝรัง่สกุและแปง้มนัส าปะหลงั คณุประโยชน ์ นกัวชิาการบางคนใหส๎มญานามฝรัง่วาํเปน็ สดุยอดผลไม ๎ เพราะเมือ่ทดลองให๎คะแนนผลไม๎ชนดิตาํง ๆ ตามปรมิาณสารอาหารส าคญั เชนํ วติามินซ ี แคโรทีนอยดส์ โฟเลต โพแทสเซยีม แคลเซยีม เหลก็และไฟเบอร ์ พบวาํผลไมท๎ี่ได๎คะแนนสารอาหารสงูสดุคอื “ฝรัง่” นีเ่อง ฝรัง่ไมใํชพํืชเศรษฐกจิของโลก แตไํดร๎บัความนยิมปลกูเปน็พชืทอ๎งถิน่ทัว่ไปในประเทศแถบรอ๎น จัดเปน็ผลไม๎ทีม่คีณุคาํทางโภชนาการ ส าหรบัคนหลายรอ๎ยลา๎นคนทัว่โลก

Page 16: วารสารศาลจังหวัดพัทลุง มกราคม ถึง มีนาคม 2555

ผลฝรั่งมีวิตามินซีสูงกวําผลส๎ม มีวิตามินเอในรูปแคโรทนีมากพอสมควร และยงัเปน็แหลงํของไฟเบอร์ชนิดละลายที่ชือ่ เพคตนิ ซึ่งชวํยใหแ๎ยมฝรัง่มเีนื้อเหนียวข๎น ไฟเบอร์เพคตินชํวยจับโคเลสเตอรอล ชํวยให๎ความเสี่ยงตํอโรคสโตร๏คและอีกหลายโรคพลอยลดตาม คุณคําทางอาหารของเนือ้ฝรัง่ แตกตํางกนัไปตามสายพันธ์และความสุกดิบขณะรับประทานแตํโดยทั่วไปฝรั่งได๎ชื่ อวํ า เป็นสุดยอดผลไม๎ที่ ให๎ วิตามินหลายหลากโดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินซีมีมากที่สุดที่เปลือกผิว ดังนั้นใครที่ชอบฝรั่งแชํบ๏วย ฝรั่งปอกเปลอืก จึงทิ้งคุณคําอาหารไปอยํานําเสียดาย รองจากเปลือกคือเนื้อใน และสํวนไส๎กลางมีวิตามินซีต่ าสุด ปริมาณวิตามินซีอาจมีตั้งแตํ 50-600 มิลลิกรัมตํอลูก ฝรั่งแกํจัดให๎วิตามินซีสูงสุด 350-450 มิลลิกรัมถ๎าสุกนิ่มจะลดลงมาเหลือเพียง 50-100 มิลลิกรัม แตํก็นับวําเพียงพอ เพราะคนทั่วไปต๎องการวิตามินซีแคํ 30-60 มิลลิกรัม แตํหากคุณเชื่อในทฤษฏีอนุมูลอิสระ ต๎องการชะลอความชราและใช๎วิตามินซีมากเป็นพิเศษเพื่อต๎านอนุมูลอิสระคือราว 500 มิลลิกรัม ฝรั่งแกํวันละลูกจะเหมาะกับคุณมาก ทั้งวิตามินซีและสารแคโรทีนในฝรั่ง จะชํวยให๎ผิวพรรณสดใสมีเลือดฝาด ป้องกันผิวเหี่ยวยํนกํอนวัยอันควร นอกจากกินฝรั่งเป็นผลไม๎เสริมสุขภาพ ลองท าน้ าฝรั่งดืม่เปน็ประจ าชํวยได๎อกีแรง รํางกายจะอิม่เอบิดว๎ยสารต๎านอนุมูลอิสระ จนเจ๎าอนุมูลอิสระพิษร๎ายกาจไมํอาจระคายเคืองผิวของคุณได๎เป็นแนํแท๎และเหนืออื่นใด สุขภาพของคุณจะดีขึ้นเพราะกินผักผลไม๎เพิ่มขึ้น คุณคําทางยา ปรากฏต ารากลางบ๎านของหลายชาติที่ใช๎ฝรั่งเป็นยา เชํน ไทย คิวบา กานา เฮติ มาเลเซีย เม็กซิโก เพื่ อ รั กษ า โ รคมากมาย เชํ น หวั ด น้ า มู ก ไหล อหิวาตกโรค ความผิดปกติทางประสาท ท าให๎หน๎าเบี้ยวอาการจุกเสียด ชัก ท๎องเสีย ไข๎ เหงือกอักเสบ

ข๎ออักเสบรูมาตอยด์ ปวดเกร็ง แก๎ปวด

ฟัน เจริญอาหาร สีฟัน ระบายท๎อง ห๎ามเลือด สมานแผล แก๎เจ็บคอ แก๎คันบวม แผลเรื้อรัง

ใบและเปลือกฝรั่งใช๎เป็นยาแก๎ท๎องเสียได๎ผลดียังมีการใช๎ในละตินอเมริกาจวบจนทุกวันนี้ เชํน เดียวกับประเทศไทยรวมทั้งแอฟริกา และแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต๎ ชาวคิวบาใช๎ฝรั่งแก๎หวัด บิด ธาตุพิการ ชาวกานาใช๎เป็นยาฝาดสมาน ฆําเชื้อแบคทีเรียแก๎หลอดลมอักเสบ ชาวมาเลเซียใช๎ขับระดู โรคผิวหนังแก๎ชัก ฟิลิปปินส์ใช๎เป็นยาฝาดสมาน รักษาแผลและอาการเจ็บแสบ ตามต าราไทยกลําววํา ฝรั่งจัดเป็นยารสฝาดมฤีทธิ์ฝาดสมาน แก๎ท๎องเสียเพราะใบฝรั่งมีแทนนิน 8-15 % สารแทนนินมีฤทธิ์ในการลดการระคายเคอืงของล าไส ๎ และลดการสูญเสียน้ า จึงรักษาอาการท๎องเสียได๎ นอกจากนี้ ใบดอกและผลฝรั่งมีฤทธิ์ ฆําเชื้อ Staphyllococcus aureus เชื้อ E.coil เชื้อ Salmonella typhosaและเชื้อShigella antidysenteriae ซึ่งท าให๎เกิดอาการท๎องเสียเห็นไหมคะ ผลไม๎ธรรมดาเมื่อศึกษาลึกลงไปกลับพบวําไมํธรรมดาจริง ๆ

เรือ่ง จากนติยสารเปรยีว รวบรวมโดย :รตันาภรณ ์ สวุรรณมณ ี