1 แนวคำบรรยำยภำคทบทวน กฎหมำยอำญำ มำตรำ 1-58,107-208 เฉพำะประมวลกฎหมำยอำญำและคำพิพำกษำศำลฎีกำที่น่ำสนใจ โดย อำจำรย์วันฉัตร ชุณหถนอม อำจำรย์ผู้บรรยำยวิชำควำมรู้ ภำคทบทวน ชั้นเนติบัณฑิต โดยทุจริต มำตรำ 1 (1) มำตรำ 1 ในประมวลกฎหมำยนี้ (1) “โดยทุจริต” หมำยควำมว่ำ เพื่อแสวงหำประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมำย สำหรับตนเองหรือผู้อื่น คำพิพำกษำศำลฎีกำที่ 22267/2555 กฎหมายมิได้กาหนดรูปแบบของการร้องทุกข์ว่า ต้องดาเนินการอย่างไร การที่โจทก์ร่วมแจ้ง ต่อพนักงานสอบสวนว่า ประสงค์ให้ดาเนินคดีแก่จาเลย และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคาโจทก์ร่วมไว้ จึง ถือว่าเป็นการร้องทุกข์แล้ว แม้พนักงานสอบสวนไม่ได้บันทึกการมอบคดีความผิดอันยอมความไว้ก็ตาม พนักงานสอบสวนก็มีอานาจสอบสวนและโจทก์มีอานาจฟ้อง โจทก์ร่วมมอบเงินให้จาเลย ไว้ใช้จ่ายร่วมกันในครอบครัว การที่จาเลยอ้างว่า โจทก์ร่วมเป็น ชาวต่างชาติ ไม่สามารถเปิดบัญชีได้ จาเลยจึงเปิดบัญชีและฝากเงินในชื่อของจาเลยเพียงคนเดียว ถือได้ว่า จาเลยครอบครองเงินที่โจทก์ร่วม เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เมื่อโจทก์ร่วม บอกให้จาเลยคืนเงิน แต่จาเลยไม่ยอมคืนให้แก่โจทก์ร่วม การกระทาของ จาเลย จึงเป็นการเบียดบังยักยอกเอาเงิน ซึ่งโจทก์ร่วมเป็นเจ้าของรวม อยู่ด้วยไปเป็นของตน โดยทุจริต จาเลย จึงมีความผิดฐานยักยอก หาใช่เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้นไม่ แต่เมื่อโจทก์ร่วมและจาเลยเป็นเจ้าของร่วมกันในเงินดังกล่าว โจทก์ร่วมจึงมีสิทธิเพียงกึ่งหนึ่ง ในเงินจานวนดังกล่าวเท่านั้น คำพิพำกษำศำลฎีกำที่ 674/2554 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จาเลยกับพวกอีก 2 คน ร่วมกันใช้กาลังประทุษร้ายผู้เสียหาย เพื่อมิให้ ผู้เสียหายขัดขืน เพื่อให้ความสะดวกแก่การลักเงินสด 1,100 บาท บัตรเอ.ที.เอ็ม. และโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ ผู้เสียหายไป หรือการพาทรัพย์นั้นไป ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์ ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ หรือให้พ้นจากการจับกุม แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า จาเลยกับพวกเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป เท่าที่คิดว่าพอกับ ค่าจ้างที่ผู้เสียหาย เป็นหนี้พวกจาเลยอยู่เท่านั้น ไม่ได้เอาทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีค่ามากไปด้วยก็ตาม แต่การกระทา ของจาเลยกับพวกดังกล่าว เป็นการกระทาที่ไม่มีอานาจตามกฎหมาย