Jun 27, 2015
ความรูทั่วไปเกี่ยวกับโรคไขเลือดออก จากการศึกษาประวัติของโรคไขเลือดออก โดยฮาลสเตค ( S.B. Halstead 1980 ) กลาวโดย
สรุปวาความหมายของ “ Dengue “ ที่มีในศัพทภาษาอังกฤษมาจากภาษาสเปนในหมูเกาะอินดิสตะวันตก ( West indies ) ซ่ึงออกเสียงเหมือนภาษาสเปนคําวา “ Kl Denga pepo ” มีความหมายวาเปนอาการลมชักที่มีสาเหตุมาจากวิญญาณอันชั่วราย ( สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี. 2533 : 32 ) โรคไขเลือดออก เปนกลุมอาการของผูปวย เริ่มดวยอาการมีอาการไข เลือดออกบริเวณใตพื้นผิวหนังและตามอวัยวะตางๆ ซ่ึงมีความรุนแรงตางๆ กัน อาจมีอาการช็อกรวมดวยหรือไมมีก็ได ( ชวลิต ทัศนสวาง. 433 ) การรายงานผูปวยโรคไขเลือดออกในประเทศไทยหมายถึงโรคที่เกิดจากเชื้อ Dengue virus Chigkugunya Virus เทานั้น ( กองระบาดวิทยา กระทรวงสาธารสุข อางใน ประหยัด แดงสุภา. 2542 : 5 )
1.1 ระบาดวิทยา ไขเลือดออก พบมกีารระบาดครั้งแรกในประเทศไทย ในป พ.ศ. 2501 มีการระบาดครั้งใหญในกรงุเทพมหานคร ประมาณ 2,500 ราย ตายกวา 200 กวาราย และมีการระบาดไปทัว่ทุกภาคของประเทศไทยจนถงึปจจุบัน หมูบานที่ไมมกีารระบาด 3 ป ติดตอกันนาจะมีความเส่ียงมากกวาพื้นที่ทีม่ีการระบาดใหม การระบาดมีความสัมพันธกันกับระดบัภูมิคุมกนัของไวรัสทั้ง 4 ไทป ชุมชน หรือ หมูบานที่หนาแนนพบอัตราปวยสูงกวาชุมชน หรือ หมูบานกระจัดกระจาย อางใน ประหยัด แดงสุภา ( 2542 : 17 )
1.2 สาเหตุและการเกิดโรค เชื้อที่เปนสาเหตุของการเกิดโรคไขเลือดออก คือ เชื้อไวรัส เชื้อไวรัสที่เปนสาเหตุที่สําคัญคือ Dengue virus ซ่ึงเปน RNA virus อยูในครอบครัว Family Togaviridae กลุม Subgruop flavivirus มีอยู 4 serotype คือserotype 1, 2, 3, 4 เชื้อ Dengue virus ทั้ง 4 serotype นี้มี Antigen
บางสวนรวมกัน ดังนั้น เมื่อเชื้อตัวใดตัวหนึ่งเขาสูรางกาย จะทําใหรางกายสรางภูมิตานทานตอเชื้อตัวนั้นซ่ึงอยูไดถาวร และยังตอตานขามไปยังเชื้อชนิดอื่น ๆ อีก 3 ชนิด (Cross reaction) แตอยูไมถาวร โดยทั่วไปอยูไดนาน 6 – 12 เดือน หลังจากระยะนี้แลวคนที่เคยติดเชื้อ ไวรัส Dengue ชนิดหนึ่งอาจติดเชื้อ Dengue ชนิดอื่นที่แตกตางไปจากครั้งแรกอีกได ถือเปนการติดเชื้อซํ้าครั้งที่ 2 การติดเชื้อซ้ํานี้เปนที่เชื่อกันวา เปนปจจัยสําคัญที่ทําใหเกิดโรคไขเลือดออก เชื้อไวรัสที่แยกจากผูปวยดังกลาวนี้ มีทั้ง 4 ชนิด แตที่พบบอยคือ Dengue 2 และ 4 ในระยะหลังเริ่มพบเชื้อชนิด Dengue 1, 3 มากขึ้น นอกจากนี้ยังพบวา ในรายที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นช็อก Dengue Shock Syndrome มักตรวจพบเปนรายที่มีภูมิตานทานอยูกอนในระดับที่ไมสามารถปองกันโรคได และถามีอาการติดเชื้อซํ้าดวย Dengue 2 จะตรวจพบอาการรุนแรงได อางใน ชวลิต ทัศนสวาง ( 2536 : 433 ) และ กรมควบคุมโรคติดตอ ( 2537. : 59 ) 1.3 การติดตอ โรคไขเลือดออกติดตอโดยยุงลายเปนพาหะนําโรค การติดตอเกิดจากการที่ยุงลายไปดูดกินเลือดจากผูปวยที่มีเชื้อไวรัส Dengue จากนั้นเชื้อไวรัสจะลงสูกระเพาะยุงลาย ฝงตัวในผนงักระเพาะยุง เพิ่มแบงจํานวนตัวมันเอง แลวเดินทางไปยังสวนหัวของยุงลายเขาสูตอมน้ําลาย เมือ่ยงุลายบนิไปกัดดูดเลือดคนใหมก็จะปลอยเชื้อไวรัส Dengue เขาสูกระแสเลือดของคนที่ถูกยุงลายกัด แลวเชื้อจะเพิ่มจํานวนมากขึ้น จนทําใหเกิดอาการปวยเปนโรค ระยะเวลาที่เชื้อไวรัส Dengue เดินทางจากกระเพาะยุงลายถึงตอมน้ําลายยุงลาย ใชเวลาประมาณ 8 – 12 วัน ระยะที่เชื้อไวรัส Dengue เขาสูกระแสเลือดของคนที่ถูกกัดดูดเลือดใหม แลวเพิ่มจํานวนจนทําใหเกิดอาการปวยขึ้น เรียกวาระยะฟกตัวของโรค ใชเวลา 3 – 14 วัน โดยทั่วไปใชเวลา 7 – 10 วัน
1.4 สถานที่และเวลาในการระบาดของโรคไขเลือดออก สวนมากจะพบการระบาดในฤดูฝน เกิดจากความถี่ในการกัดและการเจริญเติบโตของไวรัสในตัวยงุ ในฤดูฝนมีมากกวาในฤดูหนาวและฤดูรอน และพบวาถาพบผูปวยในชวงฤดูหนาวและฤดูรอนปใดจะมอีัตราปวยดวยโรคไขเลือดออก มากกวาปกติในชวงฤดูฝนของปนัน้จะเกิดการระบาดดงักลาว อางใน ประหยัด แดงสุภา ( 2542 : 16 –20 )
1.5 กลุมอาย ุ
พบในทุกกลุมอายุ ทุกเพศ ในอดีตพบมากในเด็กอายุตํ่ากวา 5 ป ในปจจุบันพบในกลุมอายุ 5 –9 ป และมีผูปวยผูใหญมากขึ้น เด็กผูหญิงและแมบานที่ใชชีวิตประจําวันในบานเส่ียงตอการเกิดโรคมากกวาเด็กชายที่ชอบวิ่งเลนนอกบาน และพอบานซ่ึงมีการประกอบอาชีพนอกบานเชนกัน อางใน ประหยัด แดงสุภา ( 2542 : 16 ) 1.6 พาหะนําโรค ยุงเปนพาหะนําโรคจัดอยูใน Class Insecta (Hexapoda), Order Diptera, Family Culicidae จะวางไขบนผิวน้ํา หรือตามขอบภาชนะที่มีน้ําขัง 1 – 5 วันก็จะกลายเปนตัวออน (Larva) ซ่ึงเรียกวาลูกน้ํา (Instar) และมีการลอกคราบถึง 4 ครั้ง เปนลูกน้ําระยะที่ 1, 2, 3 และ 4 ใชระยะเวลาประมาณ 7 – 10 วัน ในชวงเปนลูกน้ําจะกินอาหารเกง เมื่อลอกคราบครั้งสุดทายจะเปนตัวโมง (Pupa) ในระยะตัวโมงจะเคลื่อนไหวชาลงหรือไมเคลื่อนไหวเลย ระยะนี้จะไมกินอาหาร ประมาณ 1 – 2 วัน จะลอกคราบเปนตัวเต็มวัย (Adult) เมื่อออกจากคราบตัวโมงใหม ๆ จะไมสามารถบินไดทันที ตองรอเวลาระยะหนึ่ง เพื่อใหเลือดฉีดเลี้ยงเขาเสนปก ทําใหเสนปกแข็งจึงจะบินได ระยะนี้ใชเวลา 1 – 2 ชั่วโมง พอบินไดก็พรอมที่จะหาอาหารและผสมพันธุ โดยปกติยุงตัวผูจะเกิดกอนยุงตัวเมยี 1 – 2 วนั ยุงตัวผูจะกินน้ําหวาน และตัวเมียจะกินน้ําหวานเพื่อใชเปนพลังงานในการบิน หลังจากผสมพันธุแลว ตัวเมียจะหาอาหารเลือดซ่ึงเปนเลือดคนหรือสัตว ขึ้นอยูกับชนิดของยุง ยุงกินเลือดทําใหไขสุกพรอมที่จะวางไข ยุงตัวเมียจะผสมพันธุเพียงครั้งเดียว และสามารถวางไขไดตลอดชีวิต ระยะการเจริญเติบโตของยุงขึ้นอยูกับอาหาร อุณหภูมิ และความชื้น ยุงลาย เปนพาหะนําโรคไขเลือดออก มีลักษณะโดยทั่วไปคือ เปนยุงที่มีขนาดปานกลาง ลําตัวและขามีสีดําสลับขาวเปนปลอง ๆ ขาหลังปลายปลองสุดทายขาวหมด ยุงพวกนี้หากินเวลากลางวัน ชวงเวลาที่พบมากที่สุดคือเวลา 09.00 – 11.00 น. และเวลา 13.00 – 14.30 น. ยุงลายจะพบมากในฤดูฝนชวงหลังฝนตกชุก เพราะอุณหภูมิและความชื้นเหมาะแกการแพรพันธุ สวนในฤดูอื่น ๆ พบวาความชุกชุมของยุงลายจะลดลงเล็กนอย 1.7 แหลงเพาะพันธุ ยุงลายจะวางไขตามภาชนะขังน้ําที่มีน้ํานิ่ง ใส สะอาด โดยเฉพาะน้าํฝน เปนน้าํทีย่งุลายชอบวางไขมากที่สุด ดังนั้น แหลงเพาะพันธุของยุงลายจึงมักอยูตามโองน้ํากินน้ําใชที่ไมปดฝาทั้งภายในและภายนอกบาน นอกจากโองน้ําแลวยังมีภาชนะอื่น ๆ เชน ถังซีเมนต จานรองขาตูกับขาวกันมด จานรองกระถางตนไม แจกัน อางลางเทา ยางรถยนต ไห เศษภาชนะ เชน โองแตก เศษ
กระปอง กะลา กาบใบของพืชพวกมะพราว กลวย พลับพลึง ตนบอน แหลงเพาะพันธุที่พบภายในบาน สวนใหญจะเปนโองน้ําใช ถังซีเมนตในหองน้ํา จานรองขาตูกับขาวกันมด เปนตน 1.8 วงจรชีวิตของยุงลาย ยุงตัวเมียจะกัดและดูดเลือดคน โดยเฉลี่ยยุงลาย 1 ตัว สามารถกัดคนได 100 กวาคน ( 1 : 100 ) บินไดไกล 50 เมตร จะออกไขทุก 15 วัน ยุงตัวเมียจะมีอายุเฉลี่ย 45 วัน ชวงชีวิตยงุลายตัวเมียสามารถวางไข 3 รอบ ๆ ละ ประมาณ 150 ฟอง ซ่ึงจะไดไขยุงประมาณ 3 ลานฟอง/ยุงตัวเมีย 1 ตัว ดังนี้ อางใน สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ( 2542 : 35 ) 15 วัน รอบที่ 1 = 1 X 150 = 150 ฟอง 15 วัน รอบที่ 2 = 151 X 150 = 22,650 ฟอง 15 วัน รอบที่ 3 = 22,650 X 150 = 3,397,500 ฟอง และจะเขาสูวงจรชวีิตของยุงลาย ตามรูปภาพ
วงจรชีวิตยุงลาย ( Aedes aegypti)
ลูกน้ํา Golden period 8-12 วัน หรอื 10 วัน ยุง ไข อายุ 1 ป
1-2 วัน แตกตัว เปนลูกน้าํ
ยุงตัวเมีย
ยงุตัวผู - กัด/ดูดเลือดคน - ไมกัดคน - ไขทุก 15 วัน - กินน้าํหวาน - วางไข 3 รอบ 450 ฟอง - อายุ 7- 15 วัน - บินไกล 50 เมตร
ที่มา : วงจรชวีิตยุงลาย สํานักงานสาธารณสุขจงัหวดันครราชสีมา. ( 2542 : 21 )
1.9 การควบคุมและปองกนัโรคไขเลือดออก 1.9.1 กําจัดยุงลายโดยตรง ซึ่งอาจใชยาฆายุงทีข่ายกนัตามทองตลาดซ่ึงมีทัง้ชนิดน้าํและชนิดสเปรยพนไปที่ตัวยุงลาย และแหลงเกาะพักยุง เชน ใตตู ใตเตียง ซอกโตะ ตูตาง ๆ โดยอานวิธีใชใหเขาใจและปฏิบัติตามใหถูกตอง 1.9.2 กําจัดลูกน้ํายุงลาย โดย ใชสารเคมี เชน ทรายอะเบท ใสลงในภาชนะใสน้ําทุกชนิดขนาด 1 ชอนโตะ ตอน้ํา 8 ปบ จะตองใสทุกครั้งที่ตรวจพบลูกน้ํา ถาไมพบใหใส 3 ครั้ง/ป ถาใสตุมน้ําด่ืม ควรเปดฝาตุมไว 1-2 วัน จะทาํใหน้าํไมมีกลิ่น ขัด ถู ลางภาชนะใสน้าํทุกชนิดที่พบ ลูกน้ํายุงลาย ใชตะแกรงกรองลูกน้ํา หรอืใชสวิงชอนลูกน้ําออก และ ปลอยปลากนิลูกน้ําในภาชนะ ใสน้ํา เชน ปลาหางนกยูง ปลาหัวตะกัว่ 1-2 ตัว ใชน้าํเดือดเทลงในจานรองตูกับขาว และใสเกลือแกง 3-4 ชอนชาลงในน้าํ 1.9.3 ปองกนัไมใหเกิดลูกน้ํายงุลาย เชน ทาํลายหรือลดแหลงเพาะพันธุยุงลาย ภาชนะ ตาง ๆ ที่ไมใชแลวควรตัดใจทาํลายเสีย หรือเก็บคว่ําไวใหเปนทีไ่มใหมีน้าํขัง การปองกนัไมใหยุงลายวางไขในภาชนะใสน้ํา เชน โองน้าํด่ืม น้าํใช ควรมฝีาปดใหมิดชิด ตารางที่ 1 ธรรมชาติของยงุ ระยะเวลา และการการควบคุมลกูน้ํายงุลายไดดังนี้
ธรรมชาติของยงุลาย ระยะเวลา การควบคมุยุงลาย 1. อายุยงุ 30 –50 วัน ควบคมุจาํนวนประชากรยุงตอเนื่อง
2. จาํนวนไข 3. คาเฉลี่ยตอการไขตอตัวแมยุงวางไขตลอดชวีิต และผสมพันธุครัง้เดียวออกไขไดตลอดชวีิต
140- 150 ฟอง 3 รอบ ชอบวางไขกอนตะวันตกดิน
ทําลายแหลงเพาะพนัธุยุง โดยการใสทราย อะเบท 1 ชอนชา ตอน้าํ 5 ปป ทุก 2 สัปดาห และมกีารถายเปลี่ยนน้าํอยางตอเนื่อง
4. ระยะเวลาที่เปนตัวโมงและลูกน้าํยงุลาย
½ - 1 ชั่วโมง ( ถามีน้ําบริบูรณ )และ 1-3 วัน(ถามีน้าํเพียงเล็กนอย
สํารวจความชกุชมุของลุกน้ํายุงลายโดย BI / CI และกําหนดความถี่ของการทําลายลูกน้าํยุงลายใหเหมาะสม
5. ระยะเวลาที่เปนตัวโมงและลูกน้าํจนเปนยงุ
5 – 10 วัน ฆาลูกน้ํายงุทุก 7 วัน โดยใชปลากนิลูกน้าํ ทรายอะเบท หรือสารเคมีอื่นๆ และสํารวจคา BI / CI ทุก 7 วัน
6. อายุลกูน้าํโดยเฉลี่ย 6 - 8 วัน ( ลอกคราบ 4 ครั้ง )
เปนแนวทางของการกําหนดความถี่เพื่อการทําลายลูกน้ําและยุงตวัแก
7. ระยะลอกคาบจนเปนตัวยุง เต็มวัย
24 ชั่วโมง พนทาํลายยงุตัวแกทกุ 7 วัน
8. การดูดเลือด กัดไมอิม่ครั้งเดียวสามารถกัดไดสูงสุดวันละ 8 ครั้ง ชอบ
พนทาํลายยงุ
เกาะผากดัไมอิม่ครั้งเดียว กัดมากชวง 9.00 – 10.00 น. และ 16.00 – 17.00 น.
9. ลักษณะพิเศษที่เอื้อตอการระบาด 9.1 มี Viral Transmission ไปยังไข กัด 3 ชม. จะวางไข 9.2 ชอบเกาะและอยูในที่มืด ออกบนิเมื่อตองการดูดเลือด 9.3 ถามีไฟนอีอนตอนกลางคืนก็ออกบนิดูดเลือดได
ตองทาํลายยงุตัวแกทกุตัวทนัทีเพราะอาจ มีเชื้อไวรัส พนยุงในบริเวณที่มืด ทึบ และอบปดไวไมนอยกวา 1 –2 ชั่วโมง ระวังไมใหยงุกัดตอนกลางวนั
10. ระยะฟกตวัของไวรัสในคนหลังจากถูกยงุกัด
7-10 วัน ออกทาํลายลูกน้ําและยุงลายตัวแก ในรัศม ีวงกลม 50 เมตร รอบ ๆ บานผูปวย โดยการลงทรายอะเบท และพนสารเคมีโดยดวนที่สุด
11. รัศมีการบิน 50 เมตร ถากระแสลม แรง อาจบินได 100
เมตร 12. การปองกนัที่ดีที่สุด ใชยาทากันยุง เด็กนอนกลางวันให
กางมุง ซ้ือยาฉีดยงุมาฆายุงในอาคารบานเรอืน หองเรียน
ที่มา : สํานักงานตรวจราชการสาธารณสุขเขต 5 อางใน สํานกังานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ( 2542. : 33-34 )
1.10 มาตรการการควบคุมโรคไขเลือดออกในชุมชน 1.10.1 เรงรัดกาํจัดแหลงเพาะพันธยุงลาย ใหมคีวามครอบคลุม ตอเนือ่งและ
สม่ําเสมอ โดยปฏิบัติการทุก 7 วัน หรือ ทุกบายวันศุกร 1.10.2 มีการควบคมุแหลงเพาะพันธุยุงโดย
- ทางกายภาพ เชน การสํารวจและทาํลายแหลงเพาะพันธยงุ ทําความ สะอาดภายในและนอกอาคาร
- ทางชีวภาพ โดยใชปลากนิลกูน้าํ เชน ปลาหางนกยงู เปนตน - ทางเคมี การใชสารทรายอะเบท เครื่องพนสารเคมี
1.10.3 การประสานผูนําชมุชน เพื่อใหมีบทบาทและมีสวนรวมในการควบคมุ ปองกนัโรคไขเลือดออกอยางตอเนื่อง จริงจัง และเปนรูปธรรม
1.10.4 การแจงสถานการณโรค และแนวโนมการเกิดโรคใหผูนําชมุชน และประชา ชนทราบเพื่อใหต่ืนตัว และรณรงคในการควบคมุปองกนัโรคอยางตอเนื่อง
1.10.5 ใหสุขศึกษาประชาสัมพันธทกุรูปแบบในการควบคมุปองกนัโรคไขเลือดออก ลักษณะทางคลินิก องคการอนามัยโลกไดจัดแบงลักษณะทางคลินิกออกเปน 3 รูปแบบตามความรุนแรง
ของโรค (กระทรวงสาธารณสุข 2542 : 4) ดังนี้ 1) Undifferentiated Fever (UF) หรือ Viral Syndrome มักพบในทารกหรือเด็ก
เล็กที่มีอาการ ติดเชื้อเดงกี่เปนครั้งแรก ผูปวยจะมีเพียงอาการไข บางครั้งอาจมีผื่น Maculopapular ซ่ึงแยกจากไขออกผื่นจากไวรัสอื่น ๆ ไมได แตจะวินิจฉัยไดจากการตรวจทาง ไวรัส และ Serology
2) ไขเดงกี่ (Dengue Fever หรือ DF) มักเปนในเด็กโตหรือผูใหญ ผูใหญอาจมี อาการไมรุนแรง มีเพียงไข รวมกับปวดศรีษะ เมื่อยตามตัว หรือมีไขสูงเฉียบพลัน ปวดศรีษะ ปวดรอบกระบอกตา ปวดกลามเนื้อ และปวดกระดูก(Breakbone Fever) และอาจมีผื่น บางรายอาจมีจุดเลือด (Petechiae) ที่ผิวหนัง และมีเสนเลือดเปราะแตกงาย(การทดสอบ Tourniquet ใหผลบวก หรือ Petechiae >10 จุด/ตารางนิ้ว)บางรายมีอาการเบื่ออาหาร อาเจียน ปวดทองรวมดวย ผูปวยสวนใหญจะมีเม็ดเลือดขาวตํ่า บางรายอาจมีเกล็ดเลือดตํ่าดวย
3) ไขเลือดออกเดงกี่ (DHF) โรคนี้มีลักษณะเฉพาะ นอกจากมีไขสูงและมีอาการ คลายกับไขเดงกี่ ในระยะแรกแลว ผูปวยจะมี Hemorrhagic Manifestation และมีเกร็ดเลือดต่ํารวมกับมีการรั่วของพลาสมา ซึ่งถาพลาสมารั่วออกมากก็จะทําใหเกิดภาวะช็อกที่เรียกวา Dengue Shock Syndrome (DSS) การรั่วของพลาสมาสามารถตรวจพบไดจากการมีระดับHematocrit สูงขึ้น มีสารน้ําในชองเยื่อหุมปอดและชองทอง
สําหรับความแตกตางระหวางไขเลือดออกเดงกี่และไขเดงกี่ ที่ชัดเจนคือ ในไขเลือด ออกเดงกี่ จะมีเกร็ดเลือดตํ่ารวมกับการรั่วของพลาสมา และในไขเลือดออกเดงกี่ จะมีภาวะช็อกเกิดขึ้น ทําใหถึงตายได อายุของผูปวยไขเลือดออกเดงกี่ จะเปนเด็กอายุตํ่ากวา 16 ปมากกวา ผูใหญ สวนไขเดงกี่ มีอาการมากแบบ Breakbone Fever นั้นจะพบในผูใหญมากกวาเด็ก การเกดิโรคเปนแบบใดขึ้นอยูกับปจจัยหลายประการ ปจจัยที่สําคัญคือ อายุ ภาวะภูมิคุมกันของผูปวย และชนิดของไวรัสเดงกี่ที่มีในขณะ นั้น
2.1.3 อาการทางคลินิกของโรคไขเลือดออกเดงกี่ หลังจากไดรับเชื้อจากยุงประมาณ 5 - 8 วัน (ระยะฟกตัว) ผูปวยจะเริ่มมีอาการ
ของโรคซ่ึงมีความรุนแรงแตกตางกันได ต้ังแตมีอาการคลายไขเดงกี่ ไปจนถึงมีอาการรุนแรงมากจนถึงช็อกและถึงเสียชีวิตได สวนโรคไขเลือดออกเดงกี่มีอาการสําคัญที่เปนรูปแบบคอนขางเฉพาะ 4 ประการ เรียงตามลําดับการเกิดกอนหลังดังนี้
1) ไขสูงลอย 2 – 7 วัน 2) มีอาการเลือดออก สวนใหญจะพบที่ผิวหนัง 3) มีตับโต กดเจ็บ 4) มีภาวะการไหลเวียนลมเหลว/ภาวะช็อก
2.1.4 การตรวจทางหองปฏิบัติการ 1) เลือดขนขึ้นดูจากการเพิ่มขึ้นของ Hct เทากับหรือมากกวา 20 % เมื่อเทียบ
กับ Hct เดิม หรือมีหลักฐานการรั่วของพลาสมา เชน มี Pleural effusion หรือ Ascites 2) เกร็ดเลือดนอยกวา 100,000 เซล/ลบ.ซม.
2.1.5 ความแรงของโรคไขเลือดออกแบงไดเปน 4 เกรด (Grade ) ดังนี้ เกรด 1 ( Grade l ) ผูปวยไมมีช็อก มีแต Positive Tourniquet Test
เกรด 2 (Grade 2 ) ผูปวยไมมีช็อกแตมีเลือดออกที่อื่น เชน เลือดกําเดา อาเจียนเปนเลือด อุจจาระเปนเลือด
เกรด 3 (Grade 3 ) ผูปวยช็อก เกรด 4 (Grade 4 ) ผูปวยที่ช็อกนาน วัดความดันและ/จับชีพจรไมได
2.1.6 การดําเนินโรคของโรคไขเลือดออก การดําเนินโรคของโรคไขเลือดออกแบงเปน 3 ระยะ ดังตอไปนี้ คือ
1) ระยะไขสูง ลักษณะเปนไขสูงเฉียบพลัน 39 – 41 °C เปนเวลา 2 – 7 วัน ซ่ึงผูปวยอาจมีอาการชักได มักมีอาการหนาแดง ไมมีน้ํามูกหรือไอ ในเด็กโตอาจบนปวดศรษีะ ปวดกลามเนื้อ เบื่ออาหาร อาเจียน ปวดทอง เลือดออก ตับโตและกดเจ็บแตตัวไมเหลือง มีผื่นตามตัว (ผูปวยที่มีไขสูงลอยเกิน 7 วัน มีรอยละ 15)
2) ระยะวิกฤตหรือระยะช็อก มักเกิดขึ้นพรอม ๆ กับมีไขลง ในรายที่ไมรุน แรงผูปวยจะดีขึ้น บางรายอาจมีเหงื่อออก มือเทาเย็น ชีพจรเบาเร็ว ความดันเลือดเปลี่ยนแปลงเล็กนอยในชวงส้ัน ๆ แลวกลับเปนปกติ ในรายที่รุนแรงอาการจะเลวลง ผูปวยจะกระสับกระสาย มือเทาเย็น ช็อกถาใหการรักษาไมทัน ผูปวยจะช็อกนาน เลือดออกรุนแรงและเสียชีวิตได
3) ระยะพักฟน ผูปวยเริ่มอยากรับประทานอาหาร เริ่มมีปสสาวะมาก อาจพบมีผื่นเปนวงสีขาวกระจายอยูทามกลางผื่นจุด เลือดออกตามแขนขา ชีพจรเตนชา