พูด มิ้น เม ต้น

แผนการจั�ดกจักรรมการเร ยนร� �ทั�กษะการพู�ดชั้��นประถมศึ�กษาป�ทั � 6

Unit: Family Topic: Activities

สมาชั้ก1. นางสาวนรศึรา โชั้คชั้ยส#นทัร 52010513017

2. นางสาวป$ทัมาภรณ์' บุ#ดส 52010513024

3. นายอน#ร�กษ' พู�นธ์'ส#วรรณ์ 52010513040

ส+งคร��งทั � 3ว�นทั � 20 มถ#นายน 2555

แผนการจั�ดกจักรรมการเร ยนร��ทั�กษะการพู�ดชั้��นประถมศึ�กษาป�ทั � 6

Unit: Family Topic: Activities

ว�นทั �สอน................เด,อน...............................พู.ศึ. ...................

1. จั�ดประสงค์!การเร ยนร��1. ถามและพู�ดโต้�ต้อบุเก �ยวก�บุสถานทั �ทั �ได�ไปก�บุครอบุคร�วในว�นหย#ดได�อย+างถ�กต้�อง (while1,

activity 1: chain drill)2. บุรรยายร�ปภาพูเก �ยวก�บุกจักรรมทั �ได�ทั2าร+วมก�บุครอบุคร�วในว�น

หย#ดจัากข้�อม�ลทั �ก2าหนดให�ได� (while2, activity 2: picture describing)

3. สนทันาเก �ยวก�บุกจักรรมทั �ได�ทั2าร+วมก�บุครอบุคร�วในว�นหย#ดได� (post1, activity 3: conversation))

4. เล+าเร,�องให�สอดคล�องก�บุร�ปภาพูเก �ยวก�บุการทั2ากจักรรมทั �ทั2าร+วมก�บุครอบุคร�วในว�นหย#ดได� (post2, activity 4: picture story)

2. ตั�วชั้ �ว�ดต้ 1.1.2.1/ ป.6 พู�ด/เข้ ยนโต้�ต้อบุในการส,�อสารระหว+างบุ#คคลต้ 1.1.2.4/ ป.6 พู�ดและเข้ ยนเพู,�อข้อและให�ข้�อม�ล เก �ยวก�บุต้นเอง

เพู,�อน ครอบุคร�วและเร,�องใกล�ต้�วต้ 1.1.2.5/ ป.6 พู�ด/เข้ ยนแสดงความร� �ส�กข้องต้นเองเก �ยวก�บุ

เร,�องราวต้+างๆ ใกล�ต้�ว กจักรรมต้+างๆพูร�อมทั��งให�เหต้#ผลส��นๆประกอบุ

ต้ 1.1.3.1/ ป.6 พู�ด/เข้ ยนให�ข้�อม�ลเก �ยวก�บุต้นเอง เพู,�อน และส�งแวดล�อมใกล�ต้�ว

ต้ 2.2.1.1/ ป.6 ใชั้�ถ�อยค2าน2�าเส ยง และกรยาทั+าทัางอย+างส#ภาพูเหมาะสมต้ามมารยาทัส�งคมและว�ฒนธ์รรมข้องเจั�าข้องภาษา

ต้ 4.4.1.1/ ป.6 ใชั้�ภาษาส,�อสารในสถานการณ์'ต้+างๆทั �เกดข้��นในห�องเร ยนและสถานศึ�กษา

3. เน%�อหาทัางภาษาVocabulary: Vacation, Camping, Hiking,

Mountain, Museum

Structure: Past Simple TenseWe use the Simple Past to express the idea

that an action started and finished at a specific time in the past.

Use 1: Past actions that are now finished.For examples:- I went to camping with my family.

Subject + V2 (verb+ed or irregular verbs)

- On the way back, I saw something shiny buried in the ground.

Use 2: Situation in the past

For examples:- I lived in New York for 10 years (I don't live there

anymore).

Use 3: A series of actions in the past

For examples:- He entered a room, lit a cigarette and smiled at

the guests.

4. ส%�อการเร ยนร��1. VDO 2. Power point

3. Text 1,2 4. Picture

5. กจักรรมการเร ยนร��ค์ร� น�กเร ยน

Pre – speaking1. คร�ให�น�กเร ยนด�วด โอ traveling

2. คร�ถามค2าถามจัากวด โอ โดยใชั้�ประโยคค2าถาม เชั้+น What did you see in the video? What did he do?

1. น�กเร ยนด� VDO

2. น�กเร ยนต้อบุค2าถามจัากวด โอ

3. คร�แจัก Text 1 แล�วเป6ด Power point แล�วอธ์บุายค2าศึ�พูทั'ให�น�กเร ยนฟั$งและออกเส ยงต้าม4. คร�แจัก Text 2 อธ์บุายโครงสร�างไวยากรณ์'ต้าม Power

point ให�น�กเร ยนเข้�าใจัโครงสร�าง ร�ปแบุบุประโยคและการใชั้� 5. คร�เป6ด Text 3 ให�น�กเร ยนฟั$งบุทัสนทันาและให�น�กเร ยนพู�ดต้าม6. คร�ให�น�กเร ยนแบุ+งเป8น 2 กล#+ม ค,อ กล#+ม A และ กล#+ ม B โดยกล#+ ม A เป8 น Sam

กล#+ม B เป8น Anne และให�น�กเร ยนสนทันาก�นต้ามบุทัสนทันา

7.คร�ให�น�กเร ยนจั�บุค�+ก�บุเพู,�อนแล�วสนทันาต้ามบุทั สนทันา8.ค ร� ทั ด ส อ บุ ค ว า ม เ ข้� า ใ จั ข้ อ งน�กเร ยนโดยการถาม เก �ยวก�บุเน,�อหาทั �เร ยน

What did Anne do last vacation? Did she enjoy his trip? Who did she go with?Did she go to the mountain?

While – speakingActivity 1 chain drill1.คร�อธ์บุายวธ์ การทั2ากจักรรมให�

3.น�กเร ยนฟั$งค2าศึ�พูทั'และออกเส ยงต้าม

4.น�กเร ยนฟั$งคร�อธ์บุายเก �ยวก�บุโครงสร�างและร�ปแบุบุประโยค และยกต้�วอย+างประโยค

5.น�กเร ยนฟั$งบุทัสนทันาและฝึ:กออกเส ยงต้ามทั ละประโยค6.น�กเร ยนแบุ+งเป8น 2 กล#+ม ค,อ กล#+ม A และ กล#+ม B กล#+ม A เป8น Sam

กล#+ ม B เป8 น Anne และ ใ ห�น�กเร ยนสนทันาก�นต้ามบุทัสนทันา7.น�กเร ยนจั�บุค�+ก�บุเพู,�อนแล�วสนทันาต้ามบุทั สนทันา8.น�กเร ยนต้อบุค2าถามคร�

She went camping.Yes, she did.Her family.Yes ,she did.

1. น�กเร ยนฟั$งคร�อธ์บุายวธ์ การทั2ากจักรรม2. น�กเร ยนคนหน��งต้อบุ

น�กเร ยนฟั$ง2.คร�ถามค2าถามน�กเร ยนคนหน��งว+า Where did you go last vacation and how do you feel? 3. คร�ให�น�กเร ยนทั �ถ�กคร�ถามคนแรก ถามน�กเร ยนคนอ,�นๆโดยใชั้�ค2าถามเด ยวก�นก�บุคร� ทั2าอย+างน �ไปเร,�อยๆจันกว+าครบุทั#กคน4.คร�ส�งเกต้และประเมนทั�กษะการพู�ด Activity 2 picture describing1. คร�ให�น�กเร ยนแบุ+งกล#+ม กล#+มละ 3 คน 2. คร�ให�ให�น�กเร ยนแต้+ละกล#+มจั�บุสลากร�ปภาพูเก �ยวก�บุกจักรรมทั �ได�ทั2าร+วมก�บุครอบุคร�วในว�นหย#ด- โดยคร�ม ศึ�พูทั'ไว�ทั �ใต้�ร�ปภาพูทั �น�กเร ยนจั�บุสลากได�3. คร�อธ์บุายวธ์ การทั2ากจักรรม- ให�น�กเร ยนแต้+ละกล#+มบุรรยายร�ปภาพูทั �กล#+มต้นเองจั�บุสลากได� หล�งจัากน��นคร�ให�น�กเร ยนเสนอผลงานหน�าชั้��นเร ยน เชั้+น On vacation, I went to (activity) with (who) at ( place ) 4. คร�ส�งเกต้และประเมนทั�กษะการพู�ด

ค2าถามคร�

3.น�กเร ยนคนทั �ถ�กถามต้อบุค2าถาม แล�วทั2าเชั้+นเด ยวก�นก�บุน�กเร ยนคนแรก

1. น�กเร ยนแบุ+งกล#+ม กล#+มละ 3 คน2. น�กเร ยนแต้+ละกล#+มจั�บุสลากร�ปภาพูเก �ยวก�บุกจักรรมทั �ได�ทั2าร+วมก�บุครอบุคร�วในว�นหย#ด 3. น�กเร ยนทั2ากจักรรม

1.น�กเร ยนจั�บุค�+2. น�กเร ยนฟั$งคร�การทั2ากจักรรม - น�กเร ยนแต้+ละค�+ ออกมาสนทันาหน�าชั้��นเร ยน เชั้+น

-I went to…….-I went with……..

Post – speakingActivity 3 conversation1.คร�ให�น�กเร ยนจั�บุค�+ 2.คร�อธ์บุายวธ์ การทั2ากจักรรมให�น�กเร ยนฟั$ง - คร�ให�น�กเร ยนแต้+ละค�+ ออกมาหน�าชั้��นเร ยนแล�วสนทันาก�นเก �ยวก�บุกจักรรมทั �ได�ทั2าร+วมก�บุครอบุคร�วในว�นหย#ด เชั้+น - Where did you go last vacation? -Who did you go with? - What activities that you did? - How do you feel? 3.คร�ส�งเกต้และประเมนทั�กษะการพู�ดActivity 4 picture story1. คร�ให�น�กเร ยนแบุ+งกล#+ม กล#+มละ 3 คน2. คร�ให�แจักร�ปภาพูให�น�กเร ยนแต้+ละกล#+ม กล#+มละ 5 ร�ปภาพู 3. คร�ให�น�กเร ยนเล,อก 3 ร�ปภาพู แล�วให�น�กเร ยนแต้+ละกล#+มแต้+งเร,�องให�ส�มพู�นธ์'ก�บุร�ปภาพูทั �น�กเร ยนเล,อก แล�วออกมาน2าเสนอผลงานหน�าชั้��นเร ยน4.คร�ส�งเกต้และประเมนทั�กษะการพู�ด และประเมนทั�กษะความคด

-I did………-I was……….

1. น�กเร ยนน�กเร ยนแบุ+งกล#+ม กล#+มละ 3 คน2. น�กเร ยนแต้+ละกล#+มร�บุร�ปภาพูจัากคร�3. น�กเร ยนแต้+ละกล#+มเล,อกร�ปภาพู 3 ร�ปภาพูและแต้+งเร,�องให�สอดคล�อง แล�วออกมาน2าเสนอหน�าชั้��นเร ยน

สร�างสรรค'

6. การว�ดผลประเมนผลกจักรรมทั �จัะประเมน วธี ประเมน เค์ร%�องม%อประเมน

Activity1: While – speaking/ chain drillActivity2: While – speaking /picture describingActivity3: Post – speaking/conversationActivity4: Post – speaking/ picture story

ส�งเกต้ และต้รวจัให�

คะแนนต้ามแบุบุประเมน

แบุบุประเมนทั�กษะการพู�ดแบุบุประเมนทั�กษะการพู�ดแบุบุประเมนทั�กษะก า ร พู� ด แ บุ บุประเมนทั�กษะการพู� ด แ ล ะ ป ร ะ เ ม นทั� ก ษ ะ ค ว า ม ค ดสร�างสรรค'

7. กจักรรมเสนอแนะ

........................................................................................

........................................................................................

........................................................................................

........................................................................................

...........................................................8. ค์วามเห+นของผ��บรหาร

........................................................................................

........................................................................................

........................................................................................

........................................................................................

............................

9. บ�นทั�กหล�งการจั�ดกจักรรมการเร ยนร��9.1 ผลการจั�ดกจักรรมการเร ยนร��

........................................................................................

.....................................................

........................................................................................

.....................................................................9.2 ป.ญหาและอ�ปสรรค์

............................................................................................................................................................................................................................................................................................................

9.3 ข�อเสนอแนะ

........................................................................................

........................................................................................

........................................................................................

..................................

แบบประเมนทั�กษะการพู�ด วชั้าภาษาอ�งกฤษ ชั้��นประถมศึ�กษาป�ทั � 6

(While – speaking/Activity 2: picture describing)ชั้,�อ-สก#ล ประเด;น/คะแนน

การออกเส ยง (3)

ความถ�กต้�องข้องเน,�อหา

ทั+าทัางประกอบุการพู�ด

ความคล+องแ

คล+ว

รวมคะแนน

สร#ปการประเมน

(ค2าศึ�พูทั' และ

โครงสร�างไวยากรณ์') (3)

(2) (2)

(10)

3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 ผ+าน

ไม+ผ+าน

(ลงชั้,�อ)..............................................ผ��ประเมน

(..............................................) ว�นทั � ........ เด,อน ...........................

พู.ศึ. ...........

หมายเหตั� ระด�บุค#ณ์ภาพู 8-10 คะแนน หมายถ�ง ด มาก6-7 คะแนน หมายถ�ง ด 4-5 คะแนน หมายถ�ง พูอใชั้�1-3 คะแนน หมายถ�ง ปร�บุปร#ง

เกณ์ฑ์'การให�คะแนนการพู�ด1. การออกเส ยง (3 คะแนน)

3 คะแนน หมายถ�ง ออกเส ยงศึ�พูทั'/ประโยคด�วยเส ยงหน�กแน+นได�ถ�กต้�องเป8นส+วนใหญ่+ ทั2าให�ส,�อสารได�ชั้�ดเจัน

2 คะแนน หมายถ�ง ออกเส ยงศึ�พูทั'/ประโยคด�วยเส ยงหน�กแน+นผดบุางค2า แต้+ย�งพูอส,�อสารได�

1 คะแนน หมายถ�ง เส ยงเน�นหน�กในค2าศึ�พูทั'/ประโยคผดหลายแห+งจันส,�อสารไม+ได�

2. ความถ�กต้�องข้องเน,�อหา (3 คะแนน)

3 คะแนน หมายถ�ง พู�ดได�ถ�กต้�อง ต้รงประเด;นต้ามเน,�อหา2 คะแนน หมายถ�ง พู�ดได�ถ�กต้�องเล;กน�อย ต้รงประเด;น

ต้ามเน,�อหาบุางส+วน1 คะแนน หมายถ�ง พู�ดไม+ถ�กต้�อง ไม+ต้รงประเด;นต้าม

เน,�อหา

3. ทั+าทัางประกอบุพู�ด(2 คะแนน)

2 คะแนน หมายถ�ง แสดงทั+าทัางประกอบุ/อารมณ์'อย+างแนบุเน ยน เหมาะสมก�บุเร,�อง/บุทับุาทัทั �ได�ร�บุ

1 คะแนน หมายถ�ง พู�ดโดยปราศึจัากทั+าทัางประกอบุ

4. ความคล+องแคล+ว (2 คะแนน)

2 คะแนน หมายถ�ง พู�ดต้+อเน,�องไม+ต้ดข้�ด ทั2าให�เกดการส,�อสาร

1 คะแนน หมายถ�ง พู�ดเป8นค2าๆ หย#ดเป8นระยะๆ พู�ดต้ดข้�ด ทั2าให�เกดการส,�อสารไม+ต้+อเน,�อง

เกณ์ฑ์'การประเมน ได�คะแนน 6 คะแนนข้��นไป ถ,อว+าผ+านเกณ์ฑ์'

แบบประเมนค์วามค์ดสร�างสรรค์! (Post- speaking /Activity 4: picture story)

วชั้าภาษาอ�งกฤษ ชั้��นประถมศึ�กษาป�ทั � 6

กล�1มทั �

ชั้%�อ-สก�ล เกณฑ์!การประเมน

ค์วามถ�กตั�องของ

ภาษา

(4)

เน%�อเร%�อง

สน�กสนานน1าสนใจั

(3)

ทั1าทัางประกอบการพู�ด

(3)

รวม

(10)

สร�ป

ผ1าน ไม1ผ1าน

ลงชั้,�อ.....................................ผ��ประเมน

(......................................................)

ว�นทั �...... เด,อน..................

พู.ศึ...........

เอ ก สารอ�างอง (While – speaking/ Activity 2: picture describing)

Teaching Speaking: Activities to Promote Speaking in a Second Language 

Hayriye Kayihttp://unr.edu/homepage/hayriyek

kayih[at]unr.nevada.eduUniversity of Nevada (Nevada,USA)

ตั�วอย1างเกณฑ์!การประเมน/ระด�บค์�ณภาพู 9-10 คะแนน หมายถ�ง ด มาก

7-8 คะแนน หมายถ�ง ด

5- 6 คะแนน หมายถ�ง พูอใชั้� 1 - 4 คะแนน หมายถ�ง ปร�บุปร#ง

Introduction

Speaking is "the process of building and sharing meaning through the use of verbal and non-verbal symbols, in a variety of contexts" (Chaney, 1998, p. 13). Speaking is a crucial part of second language learning and teaching. Despite its importance, for many years, teaching speaking has been undervalued and English language teachers have continued to teach speaking just as a repetition of drills or memorization of dialogues. However, today's world requires that the goal of teaching speaking should improve students' communicative skills, because, only in that way, students can express themselves and learn how to follow the social and cultural rules appropriate in each communicative circumstance. In order to teach second language learners how to speak in the best way possible, some speaking activities are provided below, that can be applied to ESL and EFL classroom settings, together with suggestions for teachers who teach oral language.

What  Is "Teaching Speaking"?

What is meant by "teaching speaking" is to teach ESL learners to:

Produce the English speech sounds and sound patterns Use word and sentence stress, intonation patterns and the rhythm of the second

language. Select appropriate words and sentences according to the proper social setting,

audience, situation and subject matter. Organize their thoughts in a meaningful and logical sequence. Use language as a means of expressing values and judgments. Use the language quickly and confidently with few unnatural pauses, which is called

as fluency. (Nunan, 2003)

How To Teach Speaking

Now many linguistics and ESL teachers agree on that students learn to speak in the second language by "interacting". Communicative language teaching and collaborative learning serve best for this aim.  Communicative language teaching is based on real-life situations that require communication. By using this method in ESL classes, students will have the opportunity of communicating with each other in the target language.  In brief, ESL teachers should create a classroom environment where students have real-life communication, authentic activities, and meaningful tasks that promote oral language. This can occur when students collaborate in groups to achieve a goal or to complete a task.

Activities To Promote Speaking

Discussions

After a content-based lesson, a discussion can be held for various reasons. The students may aim to arrive at a conclusion, share ideas about an event, or find solutions in their discussion groups. Before the discussion, it is essential that the purpose of the discussion activity is set by the teacher. In this way, the discussion points are relevant to this purpose, so that students do not spend their time chatting with each other about irrelevant things. For example, students can become involved in agree/disagree discussions. In this type of discussions, the

teacher can form groups of students, preferably 4 or 5 in each group, and provide controversial sentences like “people learn best when they read vs. people learn best when they travel”. Then each group works on their topic for a given time period, and presents their opinions to the class. It is essential that the speaking should be equally divided among group members. At the end, the class decides on the winning group who defended the idea in the best way. This activity fosters critical thinking and quick decision making, and students learn how to express and justify themselves in polite ways while disagreeing with the others. For efficient group discussions, it is always better not to form large groups, because quiet students may avoid contributing in large groups. The group members can be either assigned by the teacher or the students may determine it by themselves, but groups should be rearranged in every discussion activity so that students can work with various people and learn to be open to different ideas. Lastly, in class or group discussions, whatever the aim is, the students should always be encouraged to ask questions, paraphrase ideas, express support, check for clarification, and so on.

Role Play

One other way of getting students to speak is role-playing. Students pretend they are in various social contexts and have a variety of social roles. In role-play activities, the teacher gives information to the learners such as who they are and what they think or feel. Thus, the teacher can tell the student that "You are David, you go to the doctor and tell him what happened last night, and…" (Harmer, 1984)

Simulations

Simulations are very similar to role-plays but what makes simulations different than role plays is that they are more elaborate. In simulations, students can bring items to the class to create a realistic environment. For instance, if a student is acting as a singer, she brings a microphone to sing and so on. Role plays and simulations have many advantages. First, since they are entertaining, they motivate the students. Second, as Harmer (1984) suggests, they increase the self-confidence of hesitant students, because in role play and simulation activities, they will have a different role and do not have to speak for themselves, which means they do not have to take the same responsibility.

Information Gap

In this activity, students are supposed to be working in pairs. One student will have the information that other partner does not have and the partners will share their information. Information gap activities serve many purposes such as solving a problem or collecting information.  Also, each partner plays an important role because the task cannot be completed if the partners do not provide the information the others need. These activities are effective because everybody has the opportunity to talk extensively in the target language.

Brainstorming

On a given topic, students can produce ideas in a limited time. Depending on the context, either individual or group brainstorming is effective and learners generate ideas quickly and freely. The good characteristics of brainstorming is that the students are not criticized for their ideas so students will be open to sharing new ideas.

Storytelling

Students can briefly summarize a tale or story they heard from somebody beforehand, or they may create their own stories to tell their classmates. Story telling fosters creative thinking. It also helps students express ideas in the format of beginning, development, and ending, including the characters and setting a story has to have. Students also can tell riddles or jokes. For instance, at the very beginning of each class session, the teacher may call a few students to tell short riddles or jokes as an opening. In this way, not only will the teacher address students’ speaking ability, but also get the attention of the class.

Interviews

Students can conduct interviews on selected topics with various people. It is a good idea that the teacher provides a rubric to students so that they know what type of questions they can ask or what path to follow, but students should prepare their own interview questions. Conducting interviews with people gives students a chance to practice their speaking ability not only in class but also outside and helps them becoming socialized. After interviews, each student can present his or her study to the class. Moreover, students can interview each other and "introduce" his or her partner to the class.

Story Completion

This is a very enjoyable, whole-class, free-speaking activity for which students sit in a circle. For this activity, a teacher starts to tell a story, but after a few sentences he or she stops narrating. Then, each student starts to narrate from the point where the previous one stopped. Each student is supposed to add from four to ten sentences. Students can add new characters, events, descriptions and so on.

Reporting

Before coming to class, students are asked to read a newspaper or magazine and, in class, they report to their friends what they find as the most interesting news. Students can also talk about whether they have experienced anything worth telling their friends in their daily lives before class.

Playing Cards

In this game, students should form groups of four. Each suit will represent a topic. For instance:

Diamonds: Earning money Hearts: Love and relationships Spades: An unforgettable memory Clubs: Best teacher

Each student in a group will choose a card. Then, each student will write 4-5 questions about that topic to ask the other people in the group. For example:

If the topic "Diamonds: Earning Money" is selected, here are some possible questions:

Is money important in your life? Why? What is the easiest way of earning money? What do you think about lottery? Etc.

However, the teacher should state at the very beginning of the activity that students are not allowed to prepare yes-no questions, because by saying yes or no students get little practice in spoken language production.  Rather, students ask open-ended questions to each other so that they reply in complete sentences.

Picture Narrating

This activity is based on several sequential pictures. Students are asked to tell the story taking place in the sequential pictures by paying attention to the criteria provided by the teacher as a rubric. Rubrics can include the vocabulary or structures they need to use while narrating.

Picture Describing

Another way to make use of pictures in a speaking activity is to give students just one picture and having them describe what it is in the picture. For this activity students can form groups and each group is given a different picture. Students discuss the picture with their groups, then a spokesperson for each group describes the picture to the whole class. This activity fosters the creativity and imagination of the learners as well as their public speaking skills.

Find the Difference

For this activity students can work in pairs and each couple is given two different pictures, for example, picture of boys playing football and another picture of girls playing tennis. Students in pairs discuss the similarities and/or differences in the pictures.

Suggestions  For Teachers in Teaching Speaking

Here are some suggestions for English language teachers while teaching oral language:

Provide maximum opportunity to students to speak the target language by providing a rich environment that contains collaborative work, authentic materials and tasks, and shared knowledge.

Try to involve each student in every speaking activity; for this aim, practice different ways of student participation.

Reduce teacher speaking time in class while increasing student speaking time. Step back and observe students.

Indicate positive signs when commenting on a student's response. Ask eliciting questions such as "What do you mean? How did you reach that

conclusion?" in order to prompt students to speak more. Provide written feedback like "Your presentation was really great. It was a good job. I

really appreciated your efforts in preparing the materials and efficient use of your voice…"

Do not correct students' pronunciation mistakes very often while they are speaking. Correction should not distract student from his or her speech.

Involve speaking activities not only in class but also out of class; contact parents and other people who can help.

Circulate around classroom to ensure that students are on the right track and see whether they need your help while they work in groups or pairs.

Provide the vocabulary beforehand that students need in speaking activities. Diagnose problems faced by students who have difficulty in expressing themselves in

the target language and provide more opportunities to practice the spoken language.

Conclusion

Teaching speaking is a very important part of second language learning. The ability to communicate in a second language clearly and efficiently contributes to the success of the learner in school and success later in every phase of life. Therefore, it is essential that language teachers pay great attention to teaching speaking. Rather than leading students to pure memorization, providing a rich environment where meaningful communication takes place is desired. With this aim, various speaking activities such as those listed above can contribute a great deal to students in developing basic interactive skills necessary for life. These activities make students more active in the learning process and at the same time make their learning more meaningful and fun for them.

References

Celce-Murcia. M. 2001. Teaching English as a Second or Foreign Language (3rd ed). USA: Heinle&Heinle.

Chaney, A.L., and T.L. Burk. 1998. Teaching Oral Communication in Grades K-8. Boston: Allyn&Bacon.

Baruah, T.C. 1991. The English Teacher's Handbook. Delhi: Sterling Publishing House.

Brown, G. and G. Yule. 1983. Teaching the Spoken Language. Cambridge: Cambridge University Press.

Harmer, J. 1984. The Practice of English Language Teaching. London: Longman. McDonough, J. and C. Shaw. 2003. Materials and Methods in ELT: a teacher’s

guide. Malden, MA; Oxford: Blackwell. Nunan, D., 2003. Practical English Language Teaching. NY:McGraw-Hill. Staab, C. 1992. Oral language for today's classroom. Markham, ON: Pippin

Publishing.

The Internet TESL Journal, Vol. XII, No. 11, November 2006http://iteslj.org/

http://iteslj.org/Articles/Kayi-Teaching Speaking.html

T e xt 1 Vocabulary

vacation: leisure time away

from work

devoted to rest or pleasure.

camping :the act of encamping and living in tents in a

camp.

hiking : a long walk usually for exercise or pleasure.

mountain : a land mass that projects well above its surroundings; higher than a hill.

Museum: a depository for collecting and displaying

objects having scientific or historical or artistic value.

แบบประเมนทั�กษะการพู�ด วชั้าภาษาอ�งกฤษ ชั้��นประถมศึ�กษาป�ทั � 6

(post-speaking/Activity3 : conversation)

ชั้,�อ-สก#ล/กล#+ม

ประเด;น/คะแนนความพูยายามในการส,�อสาร

(3)

ทั+าทัางประกอบุการพู�ด

(2)

ความถ�กต้�องและ ความ

คล+องแคล+วในการพู�ด

(2)

รวมคะแน

น หมายเหต้#

3 2 1 2 1 2 1 7

(ลงชั้,�อ)..............................................ผ��ประเมน

(..............................................) ว�นทั � ........ เด,อน ...........................

พู.ศึ. ...........

หมายเหตั� ระด�บุค#ณ์ภาพู 6-7 คะแนน หมายถ�ง ด มาก

4-5 คะแนน หมายถ�ง ด 2-3 คะแนน หมายถ�ง พูอใชั้�0-1 คะแนน หมายถ�ง ปร�บุปร#ง

เกณ์ฑ์'การให�คะแนน

การพู�ดส,�อสาร ( 7 คะแนน)

ก.ความพูยายามในการส,�อสาร (3 คะแนน)

3 คะแนน หมายถ�ง พู�ดต้+อเน,�องไม+ต้ดข้�ด ส,�อสารได�ชั้�ดเจัน2 คะแนน หมายถ�ง ย�งข้าดความคล+องแคล+วในการ

พู�ด แต้+พูอส,�อสารได� 1 คะแนน หมายถ�ง พู�ดต้ดข้�ด หย#ดพู�ดเป8นพู�กๆ ส,�อสารไม+ได�ชั้�ดเจัน

ข้.ทั+าทัางประกอบุการพู�ด (2 คะแนน)

2 คะแนน หมายถ�ง แสดงทั+าทัางประกอบุการพู�ดได�อย+างแนบุเน ยนเป8นธ์รรมชั้าต้

1 คะแนน หมายถ�ง ออกเส ยงผดมาก จันส,�อสารไม+ได�

ค.ความถ�กต้�องและ ความคล+องแคล+วในการพู�ด (2 คะแนน)

2 คะแนน หมายถ�ง พู�ดประโยคได�ถ�กต้�องเป8นส+วนใหญ่+ทั2าให�เกดการส,�อสาร

1 คะแนน หมายถ�ง พู�ดผดมาก จันส,�อสารไม+ได�

แบบประเมนทั�กษะการพู�ด วชั้าภาษาอ�งกฤษ ชั้��นประถมศึ�กษาป�ทั � 6

(While – speaking/Activity 1:chain drill)

ชั้,�อ-สก#ล

ประเด;น/คะแนนทั+าทัางประกอบุ

การพู�ด

(2)

ความถ�กต้�องและ ความคล+องแคล+ว

ในการพู�ด

(3)

รวมคะแนน

5

หมายเหต้#

(ลงชั้,�อ)..............................................ผ��ประเมน

(..............................................) ว�นทั � ........ เด,อน ...........................

พู.ศึ. ...........

หมายเหตั� ระด�บุค#ณ์ภาพู 4-5 คะแนน หมายถ�ง ด มาก2-3 คะแนน หมายถ�ง พูอใชั้�0-1 คะแนน หมายถ�ง ปร�บุปร#ง