Top Banner
เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเ เเเเเเเ เเเเเเเเเเเ เเเเเเเเ เเเเเเเเเ 3 เเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเ - เเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเ (เเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเ) - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเเเเเ - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเ เเเเเเเ - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ 2548 เเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเ 2547 เเเเเเเเเเเ 2548 - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเ เเเเเเเเ 2547 เเเ เเเเเเเเ 2548 - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเ 2547 - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ (Dean's List) เเเเเเ เเ 2547
140

เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Jun 23, 2015

Download

Education

Prapun Waoram

กดโหลด "Save" เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
Welcome message from author
This document is posted to help you gain knowledge. Please leave a comment to let me know what you think about it! Share it to your friends and learn new things together.
Transcript
Page 1: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เอกสารเนื้�อหาประกอบการติ�ว คณะร�ฐศาสติร� มหาว�ทยาลั�ยธรรมศาสติร�

จั�ดท�าโดย

นื้ายภู"ร� ฟู"วงศ�เจัร�ญนื้�กศ&กษา ชั้�นื้ป)ท*+ 3 คณะร�ฐศาสติร� สาขาการเม�องการปกครอง มหาว�ทยาลั�ย

ธรรมศาสติร�

เก*ยรติ�ประว�ติ�- อด*ติท*+ปร&กษาพิ�เศษ ด.านื้ส�งคม ผู้".ว1าราชั้การกร2งเทพิมหานื้คร (นื้ายอภู�ร�กษ� โกษะโยธ�นื้)

- อด*ติกรรมการร1างระเบ*ยบกร2งเทพิมหานื้คร ว1าด.วยสภูาเยาวชั้นื้กร2งเทพิมหานื้คร- อด*ติอนื้2กรรมาธ�การติรวจัสอบการสอบค�ดเลั�อกเข.าระด�บอ2ดมศ&กษา ว2ฒิ�สภูา- อด*ติบรรณาธ�การหนื้�งส�อร�บเพิ�+อนื้ใหม1ป) 2548 องค�การนื้�กศ&กษามหาว�ทยาลั�ยธรรมศาสติร�- รางว�ลัชั้นื้ะเลั�ศท2นื้ภู"ม�พิลั แผู้นื้กเร*ยงความ ประจั�าป) 2547 แลัะประจั�าป) 2548- รางว�ลัชั้นื้ะเลั�ศท2นื้ปาลั พินื้มยงค� ประจั�าป) 2547 แลัะประจั�าป) 2548

- รางว�ลันื้�กเร*ยนื้พิระราชั้ทานื้ ประจั�าป) 2547

- รางว�ลัร�ฐศาสติร�ประกาศเก*ยรติ� (Dean's List) ประจั�าป) 2547

   

Page 2: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สารบ�ญเร�+อง หนื้.าบทท*+ 1 ความร".เบ�องติ.นื้เก*+ยวก�บการเม�องแลัะว�ชั้าร�ฐศาสติร�

3บทท*+ 2 แนื้วความค�ดว1าด.วยร�ฐ 8

บทท*+ 3 ทฤษฎี*แลัะปร�ชั้ญาทางการเม�อง 14

บทท*+ 4 อ2ดมการณ�แลัะระบอบการเม�อง 27

บทท*+ 5 การเม�องการปกครองเปร*ยบเท*ยบ 38

บทท*+ 6 สถาบ�นื้การเม�อง 45

บทท*+ 7 ประชั้าธ�ปไติยก�บการเม�องไทย 56

หลั�กการเข*ยนื้เร*ยงความ 76

ว�ธ*การติอบข.อสอบอ�ตินื้�ย 78

ติ�วอย1างข.อสอบอ�ตินื้�ย แลัะเร*ยงความ 81

Page 3: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

บทท*+ 1ความร".เบ�องติ.นื้เก*+ยวก�บการเม�องแลัะว�ชั้า

ร�ฐศาสติร�ก่�อนที่��เราจะเร�ยนร� �ว่�า ว่�ชาร�ฐศาสตร�คื�ออะไรน��น เราจ�าเป็ นจะต�องที่ราบเส�ยก่�อนว่�า

ว่�ชาคืว่ามร� �ในป็%จจ&บ�นน�� ม�ก่ารจ�าแนก่หร�อแบ�งป็ระเภที่อย�างไร เพื่��อจะได้�เป็ นป็ระโยชน�ในก่ารศ-ก่ษาสภาพื่และก่�าหนด้ขอบเขตของว่�ชาร�ฐศาสตร�

ในป็%จจ&บ�นน�� ได้�ม�ก่ารจ�าแนก่ป็ระเภที่ของคืว่ามร� �ออก่เป็ น 3 สาขาใหญ่�ๆ คื�อ1. มน&ษยศาสตร� (Humanities)

2. ว่�ที่ยาศาสตร�ธรรมชาต� (Natural Science)

3. ส�งคืมศาสตร� (Social Science)

มนื้2ษยศาสติร� คื�อ ว่�ชาก่ารที่��ก่ล�าว่ถึ-งคื&ณคื�าและผลงานของมน&ษย� คืว่ามสว่ยงาม และคืว่ามย��งใหญ่�ของมน&ษย�ในอด้�ต สาขาว่�ชาของมน&ษยศาสตร� ได้�แก่� ป็ร�ชญ่า ก่ารด้นตร� ศ�ลป็ศาสตร� ว่รรณคืด้� ภาษาศาสตร� เป็ นต�น

ว�ทยาศาสติร�ธรรมชั้าติ� คื�อ คืว่ามร� �ที่��ได้�มาจาก่ก่ารศ-ก่ษาธรรมชาต�และป็ราก่ฏก่ารณ�ที่างธรรมชาต� โด้ยก่ารใช�ว่�ธ�ว่�ที่ยาศาสตร� (Scientific Method) ได้�แก่�

ก่ารต��งสมมต�ฐาน (State Hypothesis)

ก่ารว่างแผนรว่บรว่มข�อม�ล(Plan Method Gathering Data)

ก่ารรว่บรว่มข�อม�ล (Gathering Data)

ก่ารว่�เคืราะห�ข�อม�ล (Analysis of Data)

ก่ารที่�ารายงาน (Report)

และก่ารที่ว่นสอบ (Verification)

เม�� อได้�ผลเช�นใด้แล�ว่ก่8อาจจะน�ามาสร�างเป็ นที่ฤษฎี� ซึ่-�งส�ว่นมาก่เป็ นก่ารที่ด้ลองมาก่ก่ว่�าก่ารส�งเก่ตพื่�จารณา สาขาว่�ชาของว่�ที่ยาศาสตร�ธรรมชาต� ได้�แก่� เคืม� ฟิ=ส�ก่ส� ช�ว่ว่�ที่ยา ด้าราศาสตร� เป็ นต�น

Page 4: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ส�งคมศาสติร� คื�อ คืว่ามร� �เก่��ยว่ก่�บส�งคืมและมน&ษย�ที่��มาอย��ร �ว่มก่�นในส�งคืม ตลอด้จนป็ราก่ฏก่ารณ�ต�างๆ ที่างส�งคืม ในว่�ชาส�งคืมศาสตร�น��น ก่ารแสว่งหาคืว่ามร� �ก่8ใช�ว่�ธ�ที่างว่�ที่ยาศาสตร� (Scientific Method) เช�นก่�น แต�ที่ฤษฎี�ต�างๆ ที่างส�งคืมศาสตร�ได้�มาจาก่ก่ารส�งเก่ตพื่�จารณามาก่ก่ว่�าก่ารที่ด้ลอง เพื่ราะเหต&ว่�าส��งแว่ด้ล�อมต�างๆ ของส�งคืมมน&ษย�น��น เราไม�สามารถึคืว่บคื&มได้�อย�างแน�นอน (Lack of Control over all Variables) ก่ล�าว่คื�อ ส�งคืมมน&ษย�และต�ว่มน&ษย�เองเป็ล��ยนแป็ลงเสมอ และก่ารที่��จะน�าเอาส�งคืมที่��งส�งคืมเข�าที่�าก่ารที่ด้ลองเป็ นส��งที่��เป็ นไป็ไม�ได้� หร�อจะก่ระที่�าก่�บบ&คืคืลก่8เป็ นก่ารผ�ด้ศ�ลธรรม เพื่ราะฉะน��นที่ฤษฎี�ในส�งคืมศาสตร�จ-งไม�สามารถึพื่�ส�จน�ได้�แน�นอนเหม�อนที่ฤษฎี�ของว่�ที่ยาศาสตร�ธรรมชาต� เป็ นเพื่�ยงก่ารส�งเก่ตก่ารณ�และพื่ยายามอธ�บายป็ราก่ฏก่ารณ�น��นๆ สาขาของว่�ชาส�งคืมศาสตร� ได้�แก่� ร�ฐศาสตร� ป็ระว่�ต�ศาสตร� เศรษฐศาสตร� ส�งคืมว่�ที่ยา จ�ตว่�ที่ยา มาน&ษยว่�ที่ยา ภ�ม�ศาสตร� ฯลฯ

ความหมายของการเม�องก่ารเม�อง คื�อ ก่�จก่รรมที่��มน&ษย�ก่ระที่�า ร�ก่ษาคื&ณสมบ�ต�ที่��ด้� และป็ร�บป็ร&งก่ฎีที่��ว่ๆ ไป็

ซึ่-�งมน&ษย�ด้�ารงช�ว่�ตอย��ภายใต�ก่ฎีเหล�าน��น ก่ารเม�องม�คืว่ามเช��อมโยงก่�บป็ราก่ฏก่ารณ�ของคืว่ามข�ด้แย�ง และคืว่ามร�ว่มม�อในส�งคืม จาก่ก่ารที่��ม�คืว่ามคื�ด้เห8นที่��ตรงก่�นข�ามก่�น คืว่ามต�องก่ารที่��ต�างก่�น ก่ารแข�งข�นก่�น และคืว่ามสนใจที่��แตก่ต�างก่�น ก่ารเม�องจ-งเป็ นเร��องของก่ารแสว่งหาว่�ธ�ที่��จะย&ต�ป็%ญ่หาและที่�าคืว่ามตก่ลงก่�นที่�ามก่ลางคืว่ามข�ด้แย�งก่�นในส�งคืม ที่��งน��ได้�ม�ก่ารให�คื�าจ�ด้คืว่ามที่��น�าสนใจเก่��ยว่ก่�บก่ารเม�องไว่� 2 คืว่ามหมาย คื�อ ก่ารเม�องเป็ นเร��อง“

ของก่ารต�ด้ส�นใจที่��เก่��ยว่ข�องก่�บส�ว่นรว่ม และ ก่ารเม�องเป็ นเร��องของก่ารใช�อ�านาจ” “ ”

1. การเม�องเป:นื้เร�+องของการติ�ดส�นื้ใจัท*+เก*+ยวข.องก�บส1วนื้รวม (Politics as the making of

common decisions)

ก่ล&�มคืนต�างๆ บ�อยคืร��งที่��จะต�ด้ส�นใจในป็ระเด้8นที่�ม�ผลต�อช�ว่�ตของพื่ว่ก่เขาเอง เช�น คืรอบคืร�ว่หน-�งต�องต�ด้ส�นใจว่�าจะไป็อย��ที่��ไหน และคืว่รจะใช�ก่ฎีเช�นใด้เพื่��อที่��จะป็ก่คืรองล�ก่ๆ ของพื่ว่ก่เขา ต�องที่�าอย�างไรที่��จะร�ก่ษางบด้&ลของบ�าน และอ��นๆ เช�นเด้�ยว่ก่�บที่��ป็ระเที่ศหน-�งต�องต�ด้ส�นใจว่�าจะต��งสว่นสาธารณะไว่�ที่��ใด้ คืว่รจะเป็ นพื่�นธม�ตรก่�บใคืรในช�ว่งที่��เก่�ด้สงคืราม ฯลฯ ส��งต�างๆ เหล�าน��เป็ นก่ารที่�า ให�เก่�ด้ก่ารก่�าหนด้ช&ด้นโยบายส�าหร�บก่ล&�มคืน ก่ารต�ด้ส�นใจเพื่�ยงส��งเด้�ยว่ก่8ม�ผลต�อสมาช�ก่ที่&ก่คืนในก่ล&�มน��นๆ

2. การเม�องเป:นื้เร�+องของการใชั้.อ�านื้าจั (Politics as the exercise of power)

Page 5: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

หลายคืร��งที่��ก่ารเม�องจะเก่��ยว่ข�องก่�บก่ารใช�อ�านาจโด้ยคืนหน-�งคืนหร�อคืนหลายคืน เหน�อคืนอ��นๆ อ�านาจ คื�อ คืว่ามสามารถึของคืนหน-�งคืนที่��จะที่�าให�คืนอ��นๆ ที่�าให�ส��ง“ ”

ที่��เขาป็รารถึนาเป็ นส��งแรก่ๆ ไม�ว่�าจะเป็ นเร��องใด้ๆ ก่8ตาม ก่ารเม�องจ-งม�ก่จะเก่��ยว่ก่�บก่ารใช�อ�านาจ ไม�ว่�าจะเป็ นก่ารบ�งคื�บ (coercion) หร�อ ช�ก่จ�ง (persuasion)

การบ�งค�บ (coercion) หมายถึ-ง ให�คืนอ�� นก่ระที่�าบางส��งบางอย�างในส��งที่��เขาไม�ต�องก่ารก่ระที่�า

การจั"งใจั (persuasion) หมายถึ-ง ก่ารช�ก่ชว่นให�คืนอ��นก่ระที่�าในส��งที่��เขาป็รารถึนาจะที่�า โด้ยก่ารว่างเง�� อนไขที่��จะม�ต�ว่เล�อก่ที่��ไม�น�าสนใจ และม�ที่างเล�อก่ที่��ม�เหต&ผลและเหมาะสมไว่�เป็ นที่างเล�อก่ที่��เหล�ออย��

ที่� �งหมด้น��เป็ นคืว่ามหมายของก่ารเม�องที่��ม�ก่ารต�คืว่ามก่�น หร�อจะพื่�ด้ได้�อ�ก่น�ยหน-�งว่�า ก่ารเม�อง คื�อ ก่ารแสว่งหา ร�ก่ษา และใช�อ�านาจอ�ที่ธ�พื่ลและป็ระโยชน� เพื่��อตนเองหร�อส�ว่นรว่ม หร�อที่��งสองอย�าง โด้ยม�ป็ระโยชน�เก่��อก่�ลก่�น

ความหมายของร�ฐศาสติร�ร�ฐศาสติร� (Political Science) คื�อ ศาสตร�ที่��ว่�าด้�ว่ยร�ฐ อ�นเป็ นสาขาหน-� งของว่�ชา

ส�งคืมศาสตร� ที่��ก่ล�าว่ถึ-งเร��องราว่เก่��ยว่ก่�บร�ฐ ว่�าด้�ว่ยที่ฤษฎี�แห�งร�ฐ ก่ารว่�ว่�ฒนาก่าร ม�ก่�าเน�ด้มาอย�างไร สถึาบ�นที่างก่ารเม�องที่��ที่�าหน�าที่��ด้�าเน�นก่ารป็ก่คืรองม�ก่ลไก่ไป็ในที่างใด้ ก่ารจ�ด้องคื�ก่ารต�างๆ ในที่างป็ก่คืรอง ร�ป็แบบของร�ฐบาล หร�อสถึาบ�นที่างก่ารเม�องที่��ต�องออก่ก่ฎีหมายและร�ก่ษาก่ารณ�ให�เป็ นไป็ตามก่ฎีหมายเก่��ยว่ก่�บคืว่ามส�มพื่�นธ�ของเอก่ชน (Individual) หร�อก่ล&�มชน (Group) ก่�บร�ฐ และคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างร�ฐก่�บร�ฐ ตลอด้จนแนว่คื�ด้ที่างก่ารเม�องที่��ม�อ�ที่ธ�พื่ลต�อโลก่ ตลอด้จนก่ารแสว่งหาอ�านาจของก่ล&�มก่ารเม�องหร�อภายในก่ล&�มก่ารเม�อง หร�อสถึาบ�นก่ารเม�องต�างๆ เพื่��อก่ารป็ก่คืรองร�ฐให�เป็ นไป็ด้�ว่ยด้�ที่��ส&ด้

จาก่คืว่ามหมายด้�งก่ล�าว่ ร�ฐศาสตร�จ-งม�คืว่ามเก่��ยว่พื่�นก่�บส�งคืมศาสตร�ที่&ก่สาขาว่�ชาอย�างแยก่ไม�ออก่ ก่ารที่��เราจะศ-ก่ษาว่�ชาร�ฐศาสตร�จ�า เป็ นต�องก่�าจ�ด้ขอบเขต โด้ยว่�ชาร�ฐศาสตร�จะม&�งเน�นศ-ก่ษาเป็ นพื่�เศษใน 3 ห�ว่ข�อ คื�อ

1. ร�ฐ (State)

2. สถึาบ�นก่ารเม�อง (Political Institutions)

3. ป็ร�ชญ่าก่ารเม�อง (Political Philosophy)

1. ร�ฐ (State) เป็ นห�ว่ใจของว่�ชาร�ฐศาสตร� เราจ�าเป็ นที่��จะต�องศ-ก่ษาว่�า ร�ฐคื�ออะไร คืว่ามหมายและองคื�ป็ระก่อบของร�ฐ ก่�าเน�ด้ของร�ฐ และว่�ว่�ฒนาก่ารของร�ฐ และแนว่คื�ด้ต�างๆ ที่��เก่��ยว่ข�องก่�บร�ฐ

Page 6: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. สถาบ�นื้ทางการเม�อง (Political Institutions) หมายถึ-ง องคื�ก่รหร�อหน�ว่ยงานที่��ก่�อต��งข-�น เพื่��อป็ระโยชน�ในก่ารป็ก่คืรองและด้�าเน�นก่�จก่ารต�างๆ ของร�ฐที่��งภายในและภายนอก่ป็ระเที่ศ ซึ่-�งอาจจะก่�อต��งข-�นโด้ยก่ฎีหมายของร�ฐ หร�ออาจก่�อต��งข-�นโด้ยก่ารร�ว่มใจก่�นของเอก่ชน หร�อตามป็ระเพื่ณ�ก่8ได้� สถึาบ�นที่างก่ารเม�องม� สภาผ��แที่นราษฎีร คืณะร�ฐบาล พื่รรคืก่ารเม�อง เป็ นต�น

3. ปร�ชั้ญาทางการเม�อง (Political Philosophy) คื�อ คืว่ามคื�ด้คืว่ามเช��อของบ&คืคืลก่ล&�มใด้ก่ล&�มหน-�ง ในย&คืใด้ย&คืหน-�ง อ�นเป็ นราก่ฐานของระบบก่ารเม�องที่��เหมาะสมก่�บส��งแว่ด้ล�อมและคืว่ามต�องก่ารของตน หมายคืว่ามรว่มถึ-ง อ&ด้มก่ารณ�หร�อเป็Aาหมายที่��จะเป็ นแรงผล�ก่ด้�นในมน&ษย�ป็ฏ�บ�ต�ก่ารต�างๆ เพื่��อให�บรรล&เป็Aาหมายน��นๆ เช�น ผ��บร�หารป็ระเที่ศไที่ยม�ป็ร�ชญ่าที่างก่ารเม�องที่��ม&�งในที่างพื่�ฒนาป็ระเที่ศให�เจร�ญ่ก่�าว่หน�าที่างด้�านอ&ตสาหก่รรมและที่างก่ส�ก่รรม ก่�บป็รารถึนาให�ป็ระชาชาต�ม�ก่ารก่�นด้�อย��ด้� ซึ่-�งส��งเหล�าน��เป็ นว่�ตถึ&ป็ระสงคื� (Objective or Ends) แต�ก่ารที่��จะป็ฏ�บ�ต� (Means)

น��นอาจจะใช�ระบบป็ระชาธ�ป็ไตยแบบไที่ยๆ ซึ่-�งก่8เป็ นว่�ถึ�ที่างที่��อาจจะน�ามาถึ-งจ&ด้ม&�งหมายน��นๆ ก่8ได้�

สาขาว�ชั้าทางร�ฐศาสติร�ว่�ชาร�ฐศาสตร�ก่8ม�ก่ารแยก่เป็ นแขนงว่�ชาเฉพื่าะ (Specialization) เพื่��อผ��ศ-ก่ษาจะได้�ที่�าก่าร

ศ-ก่ษาให�ล-ก่ซึ่-�งต�อไป็ ซึ่-�งในที่��น��จะขอแบ�งออก่เป็ น 6 สาขา คื�อ1. การเม�องการปกครอง (Politics and Government) คื�อ ก่ารศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บสถึาบ�นที่างก่าร

เม�องต�างๆ ก่ารแบ�งอ�านาจระหว่�างน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� บร�หาร และต&ลาก่าร ศ-ก่ษาร�ฐบาลก่ลางและร�ฐบาลที่�องถึ��น ซึ่-�งเน�นไป็ที่างโคืรงร�างของก่ารป็ก่คืรอง และย�งรว่มถึ-งคืว่ามส�าคื�ญ่ของพื่รรคืก่ารเม�องที่��ม�บที่บาที่ต�อร�ฐ รว่มไป็ถึ-งก่ารศ-ก่ษาป็ระชามต�และก่ล&�มผลป็ระโยชน�ต�างๆ ด้�ว่ย

2. ทฤษฎี* / ปร�ชั้ญาทางการเม�อง (Political Theory / Philosophy) คื�อ ก่ารม&�งศ-ก่ษาป็ร�ชญ่าที่��เก่��ยว่ก่�บก่ารเม�องก่ารป็ก่คืรองต��งแต�สม�ยโบราณจนมาถึ-งป็%จจ&บ�น ป็ร�ชญ่าก่ารเม�องเป็ นเหม�อนหล�ก่ก่ารเหต&ผล และคืว่ามย-ด้ม��นของร�ฐซึ่-�งย�อมแตก่ต�างก่�นไป็ ก่ารศ-ก่ษาก่8เพื่��อจะได้�เร�ยนร� �เข�าใจที่��งจ&ด้ม&�งหมาย (Ends) และว่�ถึ�ที่าง (Means) ของแต�ละป็ร�ชญ่าด้�งก่ล�าว่ โด้ยแสว่งหาเหต&และผลน�ามาป็ฏ�ร�ป็คืว่ามคื�ด้และก่ารป็ฏ�บ�ต�ที่างด้�านก่ารป็ก่คืรอง ให�ได้�ร�ป็แบบที่��ด้�ข-�นจาก่ต�ว่อย�างของคืว่ามบก่พื่ร�องของร�ฐอ��นๆ

3. การเม�องการปกครองเปร*ยบเท*ยบ (Comparative Politics) ม&�งก่ารศ-ก่ษาถึ-งก่ารป็ก่คืรองของป็ระเที่ศต�างๆ หลายป็ระเที่ศ เพื่��อจะเป็ร�ยบเที่�ยบก่�นที่างป็ระว่�ต�ศาสตร�เป็ นพื่��นฐานแล�ว่จ-งเป็ร�ยบเที่�ยบร�ฐธรรมน�ญ่ โคืรงร�างของก่ารป็ก่คืรอง และสถึาบ�นที่างก่ารเม�องต�างๆ เช�น พื่รรคืก่ารเม�อง สภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ระบบศาล เป็ นต�น ล�ก่ษณะที่างเศรษฐก่�จและ

Page 7: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ส�งคืม ขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ� ตลอด้จนนโยบายต�างป็ระเที่ศในอด้�ต ก่8จ�าเป็ นต�องศ-ก่ษาเพื่��อน�ามาป็ระก่อบก่ารพื่�จารณาด้�ว่ย

ตามป็ก่ต�ก่ารศ-ก่ษาสาขาน��ม�ก่จะศ-ก่ษาเพื่�งเล8งก่�นที่��ป็ระเที่ศซึ่-�งม�คืว่ามส�าคื�ญ่และม�บที่บาที่ในว่งก่ารนานาชาต� ที่��งในป็%จจ&บ�นและอด้�ต เพื่��อด้�ล�ก่ษณะเด้�นและด้�อย หร�อเพื่��อเอาเป็ นต�ว่อย�างจาก่ก่ารป็ก่คืรองแบบใด้แบบหน-�ง ที่��งพื่ยายามที่��จะหาที่ฤษฎี�ที่��ว่�าที่�าไมร�ฐต�างๆ จ-งม�ก่ารป็ก่คืรองที่��แตก่ต�างก่�น และที่�า ไมก่ารป็ก่คืรองแบบน��เป็ นผลก่�บร�ฐน�� และก่ารป็ก่คืรองแบบเด้�ยว่ก่�นล�มเหลว่ในร�ฐอ�� นๆ เป็ นต�นว่�า ที่�า ไมระบบก่ารป็ก่คืรองแบบป็ระชาธ�ป็ไตยของป็ระเที่ศอ�งก่ฤษจ-งเหมาะสมก่�บป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ แต�เม�� อน�ามาใช�ก่�บป็ระเที่ศไที่ยแล�ว่ที่�าให�เก่�ด้ป็%ญ่หาย&�งยาก่ต�างๆ

ก่ารเป็ร�ยบเที่�ยบส�ว่นด้�ส�ว่นเส�ยของก่ารป็ก่คืรองแบบต�างๆ ของร�ฐแต�ละร�ฐ ก่8ม�ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�เพื่��อช�ก่น�าให�เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ร�ป็ก่ารป็ก่คืรอง โด้ยช��ให�เห8นถึ-งจ&ด้บก่พื่ร�องที่��ม�อย��ของแต�ละร�ฐอย�างช�ด้เจน น�าไป็ส��ระบอบก่ารป็ก่คืรองที่��เหมาะสมก่�บร�ฐตน

4. กฎีหมายมหาชั้นื้ (Public Law) คื�อ ก่ารศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บราก่ฐานร�ฐธรรมน�ญ่ของร�ฐต�างๆ ป็%ญ่หาของก่ารก่�าหนด้และแบ�งอ�านาจป็ก่คืรองป็ระเที่ศ และคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างเอก่ชนก่�บร�ฐ

5. ความส�มพิ�นื้ธ�ระหว1างประเทศ (International Relations) ก่8คื�อ ก่ารต�ด้ต�อก่�นในระด้�บข�ามพื่รมแด้น โด้ยที่��ก่ารศ-ก่ษาน��นจะหมายรว่มถึ-งองคื�ก่ารระหว่�างป็ระเที่ศ เช�น สหป็ระชาชาต� องคื�ก่ารสนธ�ส�ญ่ญ่าป็Aองก่�นร�ว่มต�างๆ องคื�ก่ารข�ามชาต� องคื�ก่ารภ�ม�ภาคื ตลอด้จนก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศ และพื่�ธ�ที่างก่ารที่�ตก่8เพื่��อเข�าใจและเป็ นว่�ถึ�ที่าง (Means) ซึ่-�งจะช�ว่ยในก่ารต�ด้ต�อของร�ฐต�างๆ น��นเอง ว่�ชาน��ต�องอาศ�ยคืว่ามร� �ที่างสาขาว่�ชาต�างๆ ป็ระก่อบด้�ว่ยเป็ นอย�างย��ง เพื่ราะคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างป็ระเที่ศน��ต�องอาศ�ยคืว่ามร� �ในป็%จจ�ยต�างๆ ได้�แก่� ว่�ฒนธรรม ป็ระชาก่ร เศรษฐก่�จ ภ�ม�ศาสตร� ป็ระว่�ต�ศาสตร� จ�ตว่�ที่ยา ป็ระก่อบก่�นเป็ นภ�ม�หล�ง (Background) ของป็ระเที่ศน��นๆ เพื่��อเป็ นป็ระโยชน�ในก่ารระหว่�างป็ระเที่ศ ซึ่-�งเป็ นคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างร�ฐก่�บร�ฐ

6. ร�ฐประศาสนื้ศาสติร� / บร�หารร�ฐก�จั (Public Administration) คื�อ ก่ารศ-ก่ษาโด้ยตรงในก่ารบร�หารของร�ฐบาล ตลอด้จนก่ารบร�หารก่ฎีหมาย ก่ารจ�ด้ก่ารเก่��ยว่ก่�บคืน เง�นตรา ว่�ตถึ& บร�หารร�ฐก่�จน�บเป็ นแขนงว่�ชาใหม�ของว่�ชาร�ฐศาสตร� เน��องจาก่ก่ารที่��ร �ฐบาลม�ขอบเขตภาระหน�าที่��ก่ว่�างขว่างข-�นตามย&คืสม�ย ที่�าให�ต�องหาว่�ชาก่ารบร�หารงานให�ม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่และรว่ด้เร8ว่ จ-งต�องม�ว่�ชาน��เพื่��อสนองคืว่ามต�องก่ารของย&คืใหม� ว่�ชาน��เน�นในที่างป็ฏ�บ�ต�ให�เป็ นไป็ตามเจตจ�านงในก่ารป็ก่คืรองของร�ฐ ให�เป็ นไป็ตามจ&ด้ป็ระสงคื�และอ&ด้มก่ารณ�ของร�ฐอย�างเป็ นผลด้�และม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่มาก่ที่��ส&ด้

Page 8: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ว�ว�ฒินื้าการแลัะว�ธ*การศ&กษาว�ชั้าร�ฐศาสติร�ก่ารศ-ก่ษาว่�ชาร�ฐศาสตร� น�บแต�สม�ยโบราณจนถึ-งป็ลายคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 19 ย�งไม�ม�

ล�ก่ษณะเป็ นศาสตร�ที่��แที่�จร�ง หาก่เป็ นเพื่�ยงก่ารรว่บรว่มคืว่ามคื�ด้ของป็ราชญ่�ที่างส�งคืมที่��แล�ว่ๆ มา คืว่ามคื�ด้และคืว่ามสนใจของป็ราชญ่�เหล�าน��น ได้�แก่� ป็%ญ่หาส�าคื�ญ่ๆ ของส�งคืมในแต�ละย&คืแต�ละสม�ย ที่�าให�เน��อหาสาระว่�ชาก่ารเม�องม�ขอบเขตของก่ารศ-ก่ษาที่��ก่ว่�างขว่างมาก่ เน��องจาก่ได้�รว่บรว่มเอาคืว่ามร� �เก่��ยว่ก่�บเร��องราว่สารพื่�ด้อย�างไว่�มาก่เก่�นไป็

ในระยะหล�งๆ ก่ารศ-ก่ษาว่�ชาร�ฐศาสตร�จ-งย�งคืงอย��ในภาว่ะของก่ารแสว่งหาคืว่ามเป็ นเอก่ล�ก่ษณ�ของตนเอง เพื่��อที่��จะยก่ฐานะของตนให�เป็ นศาสตร�สาขาหน-�งที่��ม�หล�ก่แห�งคืว่ามร� �ที่��เป็ นล�ก่ษณะว่�ชาของตนโด้ยเฉพื่าะ โด้ยอาศ�ยว่�ธ�ก่ารที่างว่�ที่ยาศาสตร�มาก่ข-�นม�ใช�เป็ นเพื่�ยงศาสตร�ป็ระย&ก่ต� ที่��น�าแนว่คืว่ามคื�ด้ในว่�ชาอ�� นๆ มาศ-ก่ษาสถึาบ�นที่างก่ารเม�องต�างๆ จาก่คืว่ามพื่ยายามด้�งก่ล�าว่น�� ที่�าให�ว่�ชาร�ฐศาสตร�ม�แนว่โน�มที่��จะม�ล�ก่ษณะเป็ นศาสตร�ในที่างว่�เคืราะห� ที่��ย-ด้ถึ�อที่ฤษฎี�เป็ นแนว่ที่างในก่ารศ-ก่ษาว่�จ�ยมาก่ข-�น แที่นที่��จะย-ด้ป็%ญ่หาของส�งคืมที่��เก่�ด้ข-�นในที่างป็ฏ�บ�ต�เป็ นหล�ก่แห�งคืว่ามสนใจ

ว่�ว่�ฒนาก่ารของก่ารศ-ก่ษาว่�ชาร�ฐศาสตร�แบ�งออก่ได้�เป็ น 4 ระยะ ด้�ว่ยก่�น คื�อ 1. สม�ยที่��ศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บป็ร�ชญ่าที่างศ�ลธรรมที่��ว่ไป็2. สม�ยที่��ศ-ก่ษาต�ว่บที่ก่ฎีหมาย3. สม�ยที่��ศ-ก่ษาส��งที่��เป็ นจร�ง4. สม�ยที่��เน�นในด้�านพื่ฤต�ก่รรมศาสตร�

ระยะท*+ 1 น�บต��งแต�สม�ยก่ร�ก่โบราณ จนถึ-งคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 19 เป็ นเว่ลาป็ระมาณ 2,500 ป็B ก่ารศ-ก่ษาย�งคืงรว่มอย��ก่�บก่ารศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บส�งคืมที่��ว่ไป็ ซึ่-�งได้�แก่�ก่ารศ-ก่ษาในเร��องป็ร�ชญ่าที่างศ�ลธรรม ในระยะน��นน�ก่ป็ราชญ่�ที่างส�งคืมม�เสร�ที่��จะเล�อก่สนใจศ-ก่ษาป็%ญ่หาส�าคื�ญ่ของส�งคืมที่��เก่�ด้ข-�นในแต�ละย&คืแต�ละสม�ย ก่ารศ-ก่ษาว่�ชาก่ารเม�อง ได้�แก่� ก่ารศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บคืว่ามเป็ นมาของที่างก่ารเม�องในส�งคืมตะว่�นตก่ เน��อหาสาระของว่�ชาส�ว่นใหญ่�ป็ระก่อบด้�ว่ยห�ว่ข�อเร��องที่��ม�คืว่ามส�มพื่�นธ�ต�อก่�นน�อย เน��องจาก่ย�งขาด้แนว่คื�ด้ที่างที่ฤษฎี�ที่��ช�ด้เจน และระเบ�ยบว่�ธ�ที่��ร �ด้ก่&มเป็ นหล�ก่ในก่ารรว่บรว่มคืว่ามร� � เน��อหาสาระของว่�ชาเป็ นผลซึ่-�งเก่�ด้จาก่ก่ารรว่บรว่มก่ารศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บป็%ญ่หาที่��เก่�ด้ข-�นในสม�ยหน-�งๆ ซึ่-�งไม�คื�อยซึ่��าแบบก่�น

ระยะท*+ 2 ก่ารศ-ก่ษาที่��เน�นในเร��องที่ฤษฎี�ที่��ว่�าด้�ว่ยร�ฐ ในคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 19 ที่�าให�ว่�ชาก่ารเม�องเป็ นศาสตร�สาขาหน-�งข-�นมาเป็ นคืร��งแรก่ ซึ่-�งร�ฐย�งม�คืว่ามหมายแคืบๆ ว่�าเป็ นที่��รว่มของก่ฎีเก่ณฑ์�ในที่างก่ฎีหมาย และจ�าก่�ด้เฉพื่าะโคืรงสร�างหร�อร�ป็แบบที่��เป็ นที่างก่ารตาม

Page 9: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ฎีหมาย ก่�อให�เก่�ด้คืว่ามร� �โด้ยเฉพื่าะในว่�ชาร�ฐศาสตร�ข-�นมา น�บแต�น��นเป็ นต�นมา ว่�ชาร�ฐศาสตร�จ-งสนใจศ-ก่ษาในเร��องคืว่ามก่�าว่หน�าของก่ฎีหมาย ข�อก่�าหนด้ในที่างก่ฎีหมายที่��เก่��ยว่ก่�บก่ารป็ก่คืรองแบบต�างๆ อ�านาจที่��เป็ นที่างก่ารของฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ศาล และฝ่Eายบร�หารป็ระก่อบก่�บก่ารศ-ก่ษาถึ-งเร��องป็ร�ชญ่าโบราณ เป็Aาหมายของก่ารป็ก่คืรอง และเป็Aาหมายของร�ฐ

ระยะท*+ 3 ถึ-งแม�ว่�า ว่�ชาก่ารเม�องในย&โรป็ ย�งคืงจ�าก่�ด้ต�ว่เองเฉพื่าะก่ารศ-ก่ษาเร��องร�ฐ โด้ยเน�นที่��ร�ป็แบบที่างก่ารตามต�ว่บที่ก่ฎีหมายจนถึ-งคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 20 แต�ว่�ชาก่ารเม�องในสหร�ฐ จ�าเป็ นต�องห�นไป็สนใจศ-ก่ษาคืว่ามเป็ นจร�งที่างก่ารเม�องต�างๆ มาก่ข-�น โด้นเน�นในด้�านก่ระบว่นก่ารที่��ไม�เป็ นไป็ตามก่ฎีหมาย และไม�เป็ นที่างก่าร ที่��งน�� เพื่ราะม�ป็%ญ่หาหลายด้�าน ซึ่-�งเก่�ด้จาก่ก่ารเป็ นส�งคืมอ&ตสาหก่รรมและก่ารม�ก่ล&�มต�างๆ ที่��ที่�าให�เก่�ด้คืว่ามย&�งยาก่ซึ่�บซึ่�อนมาก่ข-�น ม&�งศ-ก่ษาคืว่ามเป็ นจร�งที่างก่ารเม�อง เช�น ก่ล&�มที่��ม�อ�ที่ธ�พื่ลที่างก่ารเม�อง ที่�าให�ม�ก่ารแบ�งสาขาว่�ชาเฉพื่าะในร�ฐศาสตร� แต�อย�างไรก่8ตาม ในระยะก่�อนสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 ที่&ก่สาขาว่�ชาได้�เร��มม�คืว่ามพื่ยายามที่��จะอธ�บายว่�า ก่ารเม�องเป็ นเร��องของก่ารต�อส��ระหว่�างก่ล&�มต�างๆ เพื่��อม�อ�านาจ หร�ออ�ที่ธ�พื่ลเหน�อก่ารป็ก่คืรองหร�อนโยบายสาธารณะ จ-งที่�าให�น�ก่ร�ฐศาสตร�ผละจาก่ก่ารย-ด้ม��นในแนว่ที่างก่ารศ-ก่ษาว่�เคืราะห� และห�นไป็สนใจศ-ก่ษาเร��องของก่ารอ�านาจ และก่ล&�มต�างๆ

ระยะท*+ 4 เป็ นสม�ยที่��ว่�ชาร�ฐศาสตร�เน�นในด้�านพื่ฤต�ก่รรมศาสตร� ซึ่-�งเพื่��งจะเจร�ญ่ข-�นภายหล�งสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 ก่ล�าว่คื�อ ม�ก่ารน�าเที่คืน�คืใหม�ๆ มาศ-ก่ษาพื่ฤต�ก่รรม ซึ่-�งเป็ นอย��จร�งๆ และก่�อให�เก่�ด้ก่�จก่รรมต�างๆ ข-�น โด้ยม&�งศ-ก่ษาที่��ต�ว่บ&คืคืล เช�น ศ-ก่ษาถึ-งที่�ศนคืต� ส��งจ�งใจ และคื�าน�ยมของคืน ที่�าให�ม�ข�อม�ลใหม�ๆ เก่�ด้ข-�นเป็ นจ�านว่นมาก่ จ-งเก่�ด้คืว่ามจ�าเป็ นที่��จะต�องม�ก่ารจ�ด้ระเบ�ยบในก่ารศ-ก่ษาว่�ชาร�ฐศาสตร�เส�ยใหม� ก่ารศ-ก่ษาที่��ย-ด้หล�ก่พื่ฤต�ก่รรมศาสตร� ม&�งสนใจศ-ก่ษาก่ระบว่นก่ารต�างๆ แที่นก่ารเน�นในเร��องสถึาบ�น จ-งม�ผลให�ว่�ชาก่ารเม�องก่�าว่จาก่ก่ารเป็ นศาสตร�ในที่างส�งเคืราะห�ไป็ส��ก่ารเป็ นศาสตร�ในที่างว่�เคืราะห�มาก่ข-�น

ส�าหร�บว่�ธ�ก่ารศ-ก่ษาที่างร�ฐศาสตร� ย�งม�ก่ารแบ�งออก่เป็ น 2 ก่ล&�มใหญ่� คื�อ1. กลั21มนื้�ยมการติ*ความ (Interpretivism) จะศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บป็ระว่�ต�ศาสตร�

ป็ร�ชญ่า ที่��เก่��ยว่ข�องก่�บก่ารเม�อง รว่มถึ-งก่ารคื�นคืว่�าหารายละเอ�ยด้ ข�อม�ลที่��ม�ได้�เป็ นในเช�งจ�านว่น เพื่��อน�ามาอธ�บาย ต�คืว่าม ป็ราก่ฏก่ารณ�

2. กลั21มพิฤติ�กรรมศาสติร� (Behaviourism) เก่�ด้ข-�นหล�งสม�ยสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 จะม&�งเน�นในเร��องของที่ฤษฎี�ที่างก่ารเม�องที่��เป็ นก่ลไก่ และใช�หล�ก่ที่างสถึ�ต�เพื่��อตรว่จสอบข�อม�ลในเช�งจ�านว่น

Page 10: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

แต�เด้�ม น�ก่ร�ฐศาสตร�ก่�อนสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 จะม&�งเน�นในก่ารต�คืว่าม ใช�ข�อม�ลหร�อเอก่สารในห�องสม&ด้ และใช�ว่�ธ�ก่ารอน&มาน ตลอด้จนย�งคืงศ-ก่ษาว่�าร�ฐที่��ด้�หร�อร�ฐบาลที่��คืว่รเป็ นอย�างไร ในช�ว่งระยะเว่ลาของสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 บรรด้าอาจารย�และน�ก่ว่�ชาก่ารที่างร�ฐศาสตร�ได้�เข�าไป็ที่�างานและป็ฏ�บ�ต�จร�ง ในหน�ว่ยงานและก่ระที่รว่งต�างๆ ที่�า ให�เก่�ด้ป็ระสบก่ารณ�และเป็ล��ยนแป็ลงว่�ธ�ก่ารศ-ก่ษาที่างร�ฐศาสตร�ไป็ม&�งเน�นในที่างพื่ฤต�ก่รรมศาสตร�มาก่ข-�น โด้ยใช�คืว่ามร� �ที่��ได้�มาจาก่ก่ารที่�างานก่�บของจร�ง คื�อ ร�ฐบาล มาแล�ว่ เพื่��อที่��จะต�ด้ส�นได้�อย�างแม�ย�าว่�า

1. ใคืรจะได้�อ�านาจที่างก่ารเม�องในส�งคืมหน-�งๆ2. พื่ว่ก่เขาได้�อ�านาจที่างก่ารเม�องมาอย�างไร3. ที่�าไมพื่ว่ก่เขาจ-งเอาอ�านาจที่างก่ารเม�องมาได้�4. เม��อพื่ว่ก่เขาได้�อ�านาจที่างก่ารเม�องแล�ว่ พื่ว่ก่เขาเอาอ�านาจน��นไป็ใช�ที่�าอะไร

แต�ส��งที่��ส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้ ก่8คื�อว่�า ก่ารจะม&�งเน�นไป็ในแนว่ที่างใด้แนว่ที่างหน-�ง คืงไม�เป็ นก่ารด้�อย�างแน�นอน เพื่ราะในบางเร��องก่8ไม�อาจใช�หล�ก่ที่างพื่ฤต�ก่รรมศาสตร�ได้� ด้�งน��น ร�ฐศาสตร�จ-งเป็ นก่ารเช��อมโยงองคื�ป็ระก่อบบางส�ว่นของก่ล&�ม น�ยมก่ารต�คืว่าม และองคื�ป็ระก่อบ“ ”

บางส�ว่นของก่ล&�ม พื่ฤต�ก่รรมศาสตร�“ ”

บทท*+ 2แนื้วความค�ดว1าด.วยร�ฐ

ร�ฐ หร�อป็ระเที่ศเป็ นหน�ว่ยก่ารเม�องที่��ส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้ และเป็ นส�งที่��ม�บที่บาที่อย�างมาก่ในก่ารเม�องสม�ยใหม� ในพื่จนาน&ก่รมได้�ให�คืว่ามหมายว่�า แว่�นแคืว่�น บ�านเม�อง ป็ระเที่ศ มาจาก่คื�าบาล� รฏฐ หร�อ ราษฎีร ในภาษาส�นสก่ฤต

ชั้2มชั้นื้ทางการเม�องในื้อด*ติ1. ชั้2มชั้นื้บ2พิกาลั ไม�ม�ระเบ�ยบก่ารป็ก่คืรอง เป็ นก่ารด้�ารงช�ว่�ตเพื่��อคืว่ามอย��รอด้ และ

รว่มต�ว่ก่�นเป็ นช&มชนเพื่�ยงเพื่��อเอ��อป็ระโยชน�ในเร��องของอาหาร2. ชั้นื้เผู้1า (Tribe) หร�อ กลั21มเคร�อญาติ� (Clan) จ�ด้เป็ นร�ฐที่��พื่�ฒนาน�อยที่��ส&ด้ม�ก่จะเน�น

ขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�มาก่ ก่ารแต�งก่ายก่8จะเป็ นล�ก่ษณะเคืร��องแบบที่��คืล�ายๆ ก่�น และจะบ�งบอก่สถึานภาพื่ของผ��แต�งก่ายน��นๆ ได้� ป็ก่คืรองโด้ยห�ว่หน�า หร�อผ��อาว่&โส ก่ารย-ด้ต�ด้อย��ก่�บด้�นแด้นอาณาเขตที่��แน�นอนม�น�อย ม�ก่จะเร�ร�อนที่��อย��เป็ นคืร��งคืราว่

3. แคว.นื้ (Province / Principality) แบ�งออก่เป็ น 3 ล�ก่ษณะ คื�อ1) นื้ครร�ฐ (City State) ต�ว่อย�างที่��ส�าคื�ญ่ คื�อ นคืรร�ฐของก่ร�ซึ่ ซึ่-�งม�คืว่ามย-ด้ม��นใน

เสร�ภาพื่และม�คืว่ามน�ยมชมชอบในคืว่ามเป็ นมน&ษย�เป็ นที่��ย��ง ชาว่ก่ร�ก่โบราณไม�

Page 11: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ยอมอย��ภายใต�อ�านาจของผ��เผด้8จก่ารหร�อพื่ระในศาสนาใด้ๆ โลก่ที่�ศน�ของชาว่ก่ร�ก่จะเป็ นแบบม�เหต&ม�ผลไม�งมงายต�ด้อย��ก่�บคืว่ามเช��อหร�อศาสนาจนเก่�นไป็ ชาว่ก่ร�ก่โบราณถึ�อว่�าคืว่ามอยาก่ร� �อยาก่เห8นน��นเป็ นส��งที่��ส�งส�ง ด้�งน��น ก่ารแสว่งหาคืว่ามร� �จ-งเป็ นส��งส�าคื�ญ่ และที่�าให�เก่�ด้มรด้ก่แก่�โลก่ที่��งที่างด้�านคืว่ามคื�ด้ ป็ร�ชญ่า และที่��ส�า คื�ญ่มาก่ส�า หร�บว่�ชาร�ฐศาสตร� ก่8คื�อ แนว่คืว่ามคื�ด้ป็ระชาธ�ป็ไตย

2) ร�ฐฟู;วด�ลั (Feudal State) ม�ล�ก่ษณะที่��ส�าคื�ญ่ คื�อ ก่ารย-ด้พื่��นที่��เป็ นหล�ก่ส�าคื�ญ่โด้ยพื่ว่ก่ข&นนาง (Lord) บ�งคื�บให�ผ��คืนเป็ นที่าสต�ด้ที่��ด้�น(Serf) ที่�างานร�บใช�และเก่ณฑ์�เป็ นที่หารในยามศ-ก่สงคืรามด้�ว่ย โด้ยข&นนางจะให�ก่ารคื&�มคืรองเป็ นผลตอบแที่น

3) ร�ฐเจั.า (Principality) เป็ นร�ฐที่��เก่�ด้ข-�นในสม�ยย&คืก่ลาง โด้ยม�เจ�า (Prince) เป็ นผ��ป็ก่คืรอง ย�งไม�ม�คื�าว่�า ร�ฐ (State) เพื่ราะ ย�งไม�ม�อ�านาจส�งส&ด้เด้8ด้ขาด้ในก่ารป็ก่คืรอง ย�งเป็ นก่ารป็ก่คืรองแบบจาร�ตด้��งเด้�ม และม�ก่ารรว่มก่�นใช�อ�านาจระหว่�างร�ฐก่�บองคื�ก่รที่างส�งคืมต�างๆ เช�น ศาสนจ�ก่ร สภาข&นนาง และสมาคืมต�างๆ เป็ นต�น

4. อาณาจั�กร (Kingdom) คื�อ ร�ฐที่��ม�พื่ระเจ�าแผ�นด้�น หร�อ ก่ษ�ตร�ย� (King) ป็ก่คืรอง โด้ยแบ�งชนช��นเป็ นผ��ป็ก่คืรอง ก่�บ ผ��อย��ใต�ป็ก่คืรอง ซึ่-�งก่8คื�อ ป็ระชาชน ในย&คืก่ลางได้�ม�คืว่ามพื่ยายามที่��จะแยก่อาณาจ�ก่รออก่จาก่ศาสนจ�ก่ร และสร�างศ�นย�รว่มอ�านาจอย��ที่��ก่ษ�ตร�ย�แที่นที่��จะเป็ น พื่ว่ก่พื่ระ พื่ว่ก่ข&นนาง หร�อ เจ�าผ��คืรองแว่�นแคืว่�นต�างๆ

5. จั�กรวรรด� (Empire) แบ�งออก่เป็ น 2 ล�ก่ษณะ คื�อ1) จั�กรภูพิของประเทศติะว�นื้ออก (Oriental Empire) คื�อ เป็ นร�ฐในร�ป็แบบร�ฐ

เผด้8จก่ารที่��ม�ก่ารป็ก่คืรองแบบรว่มอ�านาจอย��ที่��ศ�นย�ก่ลางของชนช��นป็ก่คืรองม�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ ในขณะที่��ป็ระชาชนส�ว่นใหญ่�ม�ช�ว่�ตเหม�อนข�าที่าสไม�คื�อยม�ส�ที่ธ�ม�เส�ยงเที่�าไรน�ก่

2) จั�กรวรรด�โรม�นื้ (The Roman Empire) เป็ นจ�ก่รว่รรด้�ที่��ม�คืว่ามเป็ นน�ต�ร�ฐ ในแง�ที่��ว่�าก่ฎีหมายของโรม�นให�คืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นแก่�บรรด้าชาว่โรม�นที่��งป็ว่ง ที่��งย�งม�คืว่ามพื่ยายามที่��จะให�ส�ที่ธ�ในก่ารเป็ นพื่ลเม�อง (Citizenship) แก่�บ&คืคืลต�างชาต�ที่��ม�คืว่ามสามารถึ หร�อที่�าโยชน�ให�แก่�ป็ระเที่ศ ที่��งน��ที่&ก่คืนต�องร� �ก่ฎีหมาย คื�อ ร� �ที่� �งส�ที่ธ�และหน�าที่��ของตน ก่ฎีหมายของโรม�นจะถึ�ก่จาร-ก่ไว่�บนแผ�นไม�หร�อโลหะแล�ว่น�าไป็ต��งไว่�ตามสถึานที่��สาธารณะต�างๆ เพื่��อที่��คืนที่&ก่คืนจะได้�อ�านและเข�าใจในส�ที่ธ�และหน�าที่��ของตน ส�าหร�บจ�ก่รว่รรด้�โรม�นได้�ม�ก่ารป็ก่คืรองมาแล�ว่หลายแบบ ที่��งแบบก่งส&ล (Consul) ก่ารป็ก่คืรองโด้ยสภา (Senate) และต�อมาก่8เป็ นจ�ก่รพื่รรด้� (Emperor)

การเม�องในื้ระยะแรก

Page 12: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- ม�ป็ระชาก่รจ�านว่นหน-�ง- ม�ผลผล�ตมาก่พื่อที่��จะเหล�อ (Surplus)

- ม�ก่ารแบ�งงานก่�นที่�า (Division of Labour) คืนบางก่ล&�มไม�ต�องที่�าก่ารผล�ต- ม�ก่ารแบ�งชนช��นที่างส�งคืม (Social Stratification) เป็ นชนช��นป็ก่คืรอง ผ��อย��ใต�ป็ก่คืรอง–

- ม�คืว่ามเช��อบางอย�างเป็ นพื่��นฐานของก่ารยอมร�บอ�านาจ

พิ�ฒินื้าการส"1ความเป:นื้ร�ฐสม�ยใหม1ในช�ว่งก่�อนคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 14 คืนโด้ยส�ว่นมาก่ย�งย-ด้ต�ด้ก่�บสถึานะที่��เป็ นคืนที่�างาน

บนที่��ด้�น หร�อเก่ณฑ์�แรงงานให�แก่�พื่ว่ก่ข&นนาง หร�อเจ�าแว่�นแคืว่�นต�างๆ โด้ยที่�างานบนที่��ด้�นของตนที่��ม�ผลผล�ตเพื่�ยงพื่ออย��พื่อก่�น และย�งไม�ม�คืว่ามคื�ด้ว่�าต�ว่เองเป็ นคืนของร�ฐใด้ เพื่ราะในช�ว่งน��นม�ก่ารรบพื่& �ง แย�งด้�นแด้นก่�นตลอด้ ที่�าให�บางคืร��งป็ระชาชนก่8ถึ�ก่ก่ว่าด้ต�อนไป็ย�งด้�นแด้นอ��น หร�อบางคืร��งก่8ม�ผ��ป็ก่คืรองคืนใหม�มาป็ก่คืรองด้�นแด้นน��นแที่น ที่�าให�ย�งไม�ม�ก่ารให�คืว่ามส�าคื�ญ่แก่�ผ��ป็ก่คืรองของตนมาก่น�ก่

ต�อมาในช�ว่งคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 14 - 15 พื่ว่ก่ก่ษ�ตร�ย�ย&โรป็ได้�พื่ยายามสร�างอ�านาจของตนให�มาก่ข-�น และพื่ยายามที่��จะรว่มอ�านาจในก่ารป็ก่คืรองด้�นแด้นที่��ก่ว่�างใหญ่� ซึ่-�งน��เป็ นจ&ด้เร��มต�นของก่ารสร�างคืว่ามเป็ นร�ฐ แต�อย�างไรก่8ตาม ในย&โรป็ ร�ป็แบบของร�ฐก่8ย�งไม�เก่�ด้ข-�นจนก่ระที่��งต�นคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 19

ในช�ว่งระยะแรก่ของก่ารสร�างคืว่ามเป็ นร�ฐในย&โรป็ ป็ระชาชนก่8ย�งไม�ม�คืว่ามร� �ส-ก่แตก่ต�างว่�าเขาเป็ นคืนของร�ฐใด้ เพื่ราะบางคืร��งด้�นแด้นที่��อาศ�ยก่8ถึ�ก่ยก่ให�ร�ฐอ��นด้�ว่ยเง��อนไขของก่ารแต�งงาน ก่ารสงคืราม หร�อก่ารชด้ใช�หน�� ที่�าให�ป็ระชาชนย�งเป็ นเพื่�ยงที่ร�พื่ย�สมบ�ต�ที่��สามารถึโอนย�ายให�แก่�ผ��ป็ก่คืรองคืนอ��นได้�

ก่ารสร�างร�ฐสม�ยใหม�ในย&โรป็อาจจะก่ล�าว่ได้�ว่�าเก่�ด้ข-�นได้�โด้ย นโป็เล�ยน โบนาป็าร�ที่ (Napolean Bonaparte) ในช�ว่ง คื.ศ.1800-1815 ในป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส เขาได้�สร�างคืว่ามเป็ นหน-�งจาก่ก่ารเก่�ด้คืว่ามต��นต�ว่และคืว่ามต�องก่ารในช�ว่งของก่ารป็ฏ�ว่�ต�ฝ่ร��งเศส (French Revolution)

ด้�ว่ยก่ารสร�างระบบราชก่ารและก่องที่�พื่ที่��ม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่และม�คืว่ามต��นต�ว่ ผลของร�ฐที่��สร�างข-�นน��เก่�อบจะที่�าให�ย-ด้คืรองย&โรป็ไว่�ได้�ที่��งหมด้ และเป็ นผลที่�าให�คืนในป็ระเที่ศร� �ส-ก่ว่�าเขาไม�ได้�ส��เพื่�ยงเพื่��อต�ว่พื่ว่ก่เขาที่��งน��น แต�เพื่��อป็ระเที่ศของพื่ว่ก่เขา (ฝ่ร��งเศส)

ผลหล�งจาก่น�� ที่�าให�เก่�ด้ร�ฐสม�ยใหม�ที่��งในย&โรป็และอเมร�ก่าตอนเหน�อในช�ว่งต�นคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 19 แต�ป็ระชาชนส�ว่นมาก่ในโลก่ก่8ย�งอาศ�ยอย��ที่�ามก่ลางก่ารจ�ด้แจงโด้ยคืนอ��น เน��องจาก่ก่ารขยายต�ว่ของก่ารล�าอาณาน�คืมของย&โรป็ ในช�ว่งคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 18 - 19 ได้�แบ�งส�ว่นอ��นๆ ของโลก่ออก่เป็ นอาณาน�คืมของป็ระเที่ศต�างๆ ในศตว่รรษที่�� 20 อ�านาจของย&โรป็ได้�หมด้ไป็เน��องด้�ว่ยผลของสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 อาณาน�คืมต�างๆ ได้�แยก่ต�ว่เองออก่เป็ นร�ฐอ�สระ พื่ว่ก่ผ��น�าของร�ฐเหล�าน��ต�างเป็ นผ��ที่��ได้�ร�บก่ารศ-ก่ษาในย&โรป็ที่��งส��น ได้�น�าร�ป็แบบ

Page 13: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ของร�ฐในย&โรป็มาจ�ด้องคื�ก่รที่างก่ารเม�องของป็ระเที่ศของตน และในที่��ส&ด้ร�ฐสม�ยใหม�ได้�เป็ นร�ป็แบบสาก่ลขององคื�ก่รที่างก่ารเม�อง

ก�าเนื้�ดของร�ฐก่ารก่�อก่�าเน�ด้ของร�ฐม�ก่ารต��งป็ระเด้8นว่�เคืราะห�ก่�นเป็ นอย�างมาก่ว่�าเก่�ด้ข-�นได้�อย�างไร

แต�ส��งหน-�งที่��เราร� �ก่8คื�อว่�า ร�ฐสม�ยใหม�พื่�ฒนาข-�นเน��องด้�ว่ยก่ารเข�ามาของอ&ตสาหก่รรมและธ&รก่�จ อ&ตสาหก่รรมขนาด้ใหญ่�ย�อมต�องก่ารแรงงานเป็ นจ�านว่นมาก่ และต�องก่ารแรงงานที่��อย��ในที่�องที่��เด้�ยว่ก่�นเพื่��อคืว่ามสะด้ว่ก่ในก่ารด้�าเน�นงาน และเพื่��อป็ระโยชน�ในก่�จก่รรมที่างเศรษฐก่�จ ในล�ก่ษณะมหภาคืแล�ว่ คืว่ามซึ่�บซึ่�อนในก่ารพื่�ฒนาคืว่ามร�ว่มม�อในที่างเศรษฐก่�จ ที่�าให�ร�ฐเข�ามาม�บที่บาที่อย�างมาก่

จาก่ก่ารพื่�ฒนาของร�ฐน��เอง พื่�อคื�าและน�ก่อ&ตสาหก่รรมจ-งสามารถึที่��จะสร�างก่ล&�มแรงงานขนาด้ใหญ่�ที่��ม�เอก่ภาพื่ได้� และย�งขายผล�ตภ�ณฑ์�ผ�านตลาด้ขนาด้ใหญ่�ภายใต�ก่ฎีหมายช&ด้เด้�ยว่ก่�น ส�นคื�าสามารถึขนส�งได้�อย�างสะด้ว่ก่ ป็ราศจาก่ก่ารถึ�ก่เก่8บภาษ�พื่�เศษที่��สามารถึผ�านจาก่ส�ว่นหน-�งของร�ฐเป็ นส��อ�ก่ส�ว่นหน-�งได้� ในล�ก่ษณะมหภาคืเช�นน�� โรงงานและเร�อขนาด้ใหญ่�สามารถึสร�างได้� อ&ตสาหก่รรมและธ&รก่�จจ-งได้�ร�บผลป็ระโยชน�จาก่พื่�ฒนาก่ารของร�ฐ

ในคืว่ามหมายล�ก่ษณะเช�นน�� จ-งสร&ป็ได้�ว่�า1. อ&ตสาหก่รรมและธ&รก่�จสม�ยใหม�ต�องก่ารบางส��งที่��เป็ นล�ก่ษณะเช�น ร�ฐ และ“ ”

ก่ารเข�ามาของก่ารรถึไฟิ รว่มที่��งก่ารส�งโที่รสารในศตว่รรษที่�� 19 ร�ฐบาลจ-งสามารถึตรว่จสอบได้�อย�างฉ�บไว่ถึ-งสถึานก่ารณ�ที่��เก่�ด้ข-�นในป็ระเที่ศ และสามารถึเข�าแก่�ป็%ญ่หาได้�อย�างที่�นที่�ว่งที่�

2. “ร�ฐ ต�องก่ารธ&รก่�จและอ&ตสาหก่รรมสม�ยใหม�เพื่�� อที่��จะเป็ นก่ารง�ายที่��จะ”

คืว่บคื&มป็ระชาชนและเก่8บภาษ�จาก่พื่ว่ก่เขา และจาก่ก่ารที่��ร �ฐม�พื่�ฒนาก่ารน�� ที่�าให�ร�ฐบาลสามารถึที่��จะขยายและก่ระจายอ�านาจได้�ก่ว่�างขว่างข-�น

องค�ประกอบของร�ฐสม�ยใหม1ร�ฐหน-�งๆ จะม�คืว่ามเป็ นร�ฐสม�ยใหม�ที่��สมบ�รณ�ได้� จะต�องม�องคื�ป็ระก่อบคืรบที่��ง 4

ป็ระก่าร คื�อ1. ประชั้าชั้นื้ เป็ นองคื�ป็ระก่อบที่��ส�าคื�ญ่ของร�ฐ ก่ล�าว่คื�อ ร�ฐที่&ก่ร�ฐจะต�องม�ป็ระชาชน

อาศ�ยอย��จ-งจะเป็ นร�ฐข-�นมาได้� คืว่ามเจร�ญ่ก่�าว่หน�าหร�อตก่ต��าเส��อมโที่รมของร�ฐน��นส�ว่นใหญ่�ข-�นอย��ก่�บป็ระชาชนของร�ฐน��นๆ น��นเอง ด้�งน��นที่ร�พื่ยาก่รมน&ษย�จ-งเป็ นส��งที่��ม�คื�า ก่ารที่��

Page 14: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ป็ระชาชนม�คื&ณภาพื่ส�ง คื�อ ส&ขภาพื่อนาม�ยด้� ม�คืว่ามร� �ส�ง ม�ระเบ�ยบว่�น�ยด้� ก่8จะสามารถึพื่�ฒนาป็ระเที่ศให�ก่�าว่ไป็ส��คืว่ามเจร�ญ่ก่�าว่หน�าได้�ถึ-งแม�ที่ร�พื่ยาก่รจะไม�คื�อยเอ��ออ�านว่ยก่8ตาม

ที่��งน��จ�านว่นป็ระชาก่รก่8เป็ นส�ว่นหน-�งที่��แสด้งถึ-งคืว่ามเป็ นมหาอ�านาจ เช�น สาธารณร�ฐป็ระชาชนจ�น ม�ป็ะชาก่รก่ว่�าพื่�นล�านคืน แต�บางคืร��งมหาอ�านาจก่8อาจจะม�ป็ระชาก่รจ�านว่นน�อย แต�ม�คื&ณภาพื่ส�ง และก่ารที่��เราจะว่างก่ฎีเก่ณฑ์�ที่��แน�นอนได้�ว่�าร�ฐหน-�งๆ คืว่รม�ป็ระชาส�ก่เที่�าไร คืงจะก่ระที่�าไม�ได้� เพื่�ยงแต�อน&มานไว่�ว่�าม�จ�านว่นป็ระชาก่รเพื่�ยงพื่อที่��สามารถึป็ก่คืรองต�ว่เองได้�ก่8เป็ นร�ฐได้�

ในที่างก่ฎีหมายน��น ป็ระชาชนของร�ฐใด้ก่8จะม�ส�ญ่ชาต� (Nationality) ของร�ฐน��น ส�ว่นชาว่ต�างชาต�ที่��มาอาศ�ยอย��ในร�ฐอ��นเร�ยก่ว่�าคืนต�างด้�าว่ (Alien) คืนต�างด้�าว่เหล�าน��ต�องป็ฏ�บ�ต�ตามก่ฎีหมายของร�ฐที่��ตนไป็อาศ�ยอย��ด้�ว่ย อน-�งม�ข�อส�งเก่ตในก่รณ�ที่��ราชอาณาจ�ก่รไที่ยม�ก่ารก่�าหนด้เร��องเช��อชาต� (Race) เก่��ยว่ก่�บป็ระชาชนชาว่ไที่ย หร�อที่��เร�ยก่ว่�าเช��อชาต�ไที่ย (Thai Race)

ที่��งที่��โด้ยที่��ว่ไป็คืว่ามหมายชองเช��อชาต� น��นเป็ นเก่ณฑ์�ในก่ารแบ�งมน&ษยชาต�ตามผ�ว่พื่รรณซึ่-�งม�ผ�ว่ขาว่ ผ�ว่เหล�อง ผ�ด้ด้�า หร�อแบ�งเก่ณฑ์�ตามเผ�าพื่�นธ&�เป็ นคือเคืซึ่อยด้� มองโก่ลอยด้� และน�ก่รอยด้�

2. ด�นื้แดนื้ท*+แนื้1นื้อนื้ เป็ นคืว่ามคื�ด้ใหม�เน��องจาก่ได้�ม�ก่ารป็ระด้�ษฐ�เคืร��องม�อในก่ารช��ง ตว่ง ว่�ด้ที่��ที่�นสม�ยข-�น และเป็ นสาเหต&ใหญ่�มาก่สาเหต&หน-�งของสงคืรามและก่ารป็ะที่ะก่�น ด้�นแด้นที่��แน�นอนน��ม�พื่��นด้�น น�านน��าที่��งอาณาเขตในแม�น��า ที่ะเลสาบ และอาณาเขตใต�ที่ะเล นอก่จาก่น��ย�งรว่มถึ-งขอบเขตของที่�องฟิAาที่��อย��เหน�ออาณาเขตของพื่��นด้�นและที่�องน��าที่��งหมด้อ�ก่ด้�ว่ย

อาณาเขตบนพื่��นด้�นน��นตามหล�ก่ก่ารสาก่ลแล�ว่ม�ก่ย-ด้เอาพื่รมแด้นธรรมชาต� เช�น เที่�อก่เขา แม�น��า เป็ นเก่ณฑ์� ส�าหร�บในที่��ราบก่8จะม�ก่ารป็%ก่เขตแด้นอย�างช�ด้เจน

ส�ว่นอาณาเขตในที่�องที่ะเลน��น เด้�มที่�ตามหล�ก่สาก่ลจะย-ด้ถึ�อเอาว่�าอาณาเขตของร�ฐที่��เร�ยก่ว่�าเขตอธ�ป็ไตยน��น น�บจาก่ชายฝ่%� งออก่ไป็ในที่ะเล 3 ไมล� ซึ่-�งจ�ด้ว่�าป็ลอด้ภ�ยจาก่ว่�ถึ�ของก่ระส&นป็Fนใหญ่�ของเร�อรบสม�ยก่�อน ต�อมาเน��องจาก่คืว่ามก่�าว่หน�าที่างเที่คืโนโลย�ที่��ม�ก่ารพื่�ฒนาอาว่&ธป็Fนใหญ่�ย�งได้�ไก่ลก่ว่�า 3 ไมล� ที่�าให�ม�ก่ารก่�าหนด้อาณาเขตที่างที่�องที่ะเลใหม�เป็ น 12 ไมล� แต�ป็%จจ&บ�นแที่บไม�ม�คืว่ามหมาย เพื่ราะเที่คืโนโลย�ที่างอาว่&ธป็ระเภที่ข�ป็นาว่&ธสามารถึย�งไป็ได้�ไก่ลมาก่ จ-งได้�เป็ล��ยนไป็พื่�จารณาที่างเศรษฐก่�จแที่น เน��องจาก่ที่�องที่ะเลน��นเป็ นแหล�งที่��ม� �งคื��งด้�ว่ยที่ร�พื่ยาก่รธรรมชาต� ไม�ว่�าจะเป็ นส�ตว่�น��า และแหล�งแร� อาที่� น��าม�น ที่องคื�า ย�เรเน�ยม

ต�อมาได้�ม�ก่ารตก่ลงก่�นที่�าอน&ส�ญ่ญ่า (Convention) พื่.ศ.2535 ในก่ารป็ระช&มนานาชาต� ที่��จ�ด้ข-�นโด้ยองคื�ก่ารสหป็ระชาชาต� แต�ก่ว่�าจะม�ผลบ�งคื�บใช� โด้ยก่ารที่��ม�ป็ระเที่ศให�ส�ตยาบ�นคืรบ 60 ป็ระเที่ศ ก่8เป็ นป็B พื่.ศ.2537 หล�ก่ก่ารส�าคื�ญ่ คื�อ ที่&ก่ป็ระเที่ศที่��ม�อาณาเขตต�ด้ต�อก่�บที่�องที่ะเลจะม�อาณาเขตที่��ม�อ�านาจอธ�ป็ไตยอย�างเต8มที่��น�บจาก่ชายฝ่%� งออก่ไป็ 12 ไมล�

Page 15: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ส�ว่นเขตเศรษฐก่�จจ�าเพื่าะ คื�อ เขตที่��ร�ฐเจ�าของจะม�ส�ที่ธ�อธ�ป็ไตยออก่ไป็ 200 ไมล� เร�ยก่ว่�า เขตเศรษฐก่�จจ�าเพื่าะ (Exclusive Economic Zone) ถึ�อเป็ นเขตแด้นที่��ร�ฐเจ�าของม�ส�ที่ธ�ในที่ร�พื่ยาก่รที่��งมว่ลในที่ะเล บรรด้าเร�อของร�ฐอ��นสามารถึที่��จะแล�นผ�านได้� แต�ต�องไม�ที่�าก่ารจ�บส�ตว่�น��าหร�อที่�าก่�จก่รรมที่างธ&รก่�จใด้ๆ ที่��งส��น แต�ในที่างป็ฏ�บ�ต�ก่ารว่�ด้พื่��นที่��แบบน�� ย�อมที่�า ให�ม�อาณาเขตที่��ที่�บก่�นอย��เป็ นส�ว่นใหญ่�

ที่��ต� �งและสภาพื่ภ�ม�อาก่าศก่8ม�คืว่ามส�าคื�ญ่ต�อป็ระเที่ศน��นๆ เช�น ป็ระเที่ศเยอม�นน��ที่��ไม�พื่รมแด้นธรรมชาต� ที่�าให�ก่ลายเป็ นป็ระเที่ศที่��น�ยมก่ารที่หาร รว่มถึ-งที่ร�พื่ยาก่รธรรมชาต�ก่8ม�คืว่ามส�าคื�ญ่ไม�แพื่�ก่�น

3. ร�ฐบาลั คื�อ องคื�ก่ารหร�อสถึาบ�นที่างก่ารเม�อง ที่��สามารถึจ�ด้ระเบ�ยบ ออก่ก่ฎีเก่ณฑ์�ต�างๆ และร�ก่ษาคืว่ามสงบในก่ารอย��ร�ว่มก่�นของป็ระชาชน ที่��งย�งเป็ นต�ว่แที่นของป็ระชาชน ที่�าก่ารที่&ก่อย�างในนามของป็ระชาชนก่ล&�มน��นในอาณาเขตน��นเอง

ก่ารที่��ม�ร�ฐบาลข-�นได้�น��น จ�าเป็ นจะต�องได้�ร�บคืว่ามย�นยอมจาก่ป็ระชาชน ร�ฐบาลจะย�นยงอย��ได้�ก่8ด้�ว่ยก่ารสนองคืว่ามต�องก่ารของป็ระชาชน สามารถึร�ก่ษาผลป็ระโยชน�ของป็ระชาชน ให�คืว่ามย&ต�ธรรมต�อป็ระชาชน ป็Aองก่�นก่ารร&ก่รานจาก่ป็ระเที่ศอ��น โด้ยป็ระชาชนม�หน�าที่��เส�ยภาษ�อาก่รและป็ฏ�บ�ต�ตามก่ฎีหมายของร�ฐบาลที่��บ�ญ่ญ่�ต�ออก่มา

4. อ�านื้าจัอธ�ปไติย เป็ นอ�านาจส�งส&ด้ในก่ารป็ก่คืรองป็ระเที่ศ ซึ่-�งก่8คื�อ ก่ารแสด้งออก่ซึ่-�งเอก่ราชของป็ระเที่ศหน-�งๆ ที่��สามารถึจะเป็ นต�ว่ของต�ว่เองในก่ารก่�าหนด้นโยบายของตนเองและน�านโยบายของตนออก่มาบ�งคื�บใช�ได้�เต8มที่�� โด้ยไม�ต�องตก่อย��ใต�คื�าบ�ญ่ชาของป็ระเที่ศอ��นใด้

อ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นแนว่คื�ด้ที่างก่ฎีหมาย ซึ่-�งอาจแบ�งออก่เป็ นอ�านาจอธ�ป็ไตยภายในและอ�านาจอธ�ป็ไตยภายนอก่ ก่ล�าว่คื�อ อ�านาจอธ�ป็ไตยภายในเป็ นอ�านาจที่��ออก่ก่ฎีหมายและร�ก่ษาก่ฎีหมาย ตลอด้จนบ�งคื�บให�ป็ระชาชนป็ฏ�บ�ต�ตามก่ฎีหมาย ส�ว่นอ�านาจอธ�ป็ไตยภายนอก่ คื�อ อ�านาจที่��ป็ระเที่ศจะด้�าเน�นคืว่ามส�มพื่�นธ�ก่�บป็ระเที่ศอ��นๆ รว่มที่��งอ�านาจที่��จะป็ระก่าศสงคืรามและที่�าสนธ�ส�ญ่ญ่าส�นต�ภาพื่ อาจก่ล�าว่อ�ก่น�ยหน-�งก่8ได้�ว่�า เอก่ราช ก่8คื�อ อ�านาจอธ�ป็ไตยภายนอก่น��นเอง

หาก่ถึามว่�า อ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นของใคืร ป็%จจ&บ�นด้�เหม�อนจะเห8นพื่�องต�องก่�นโด้ย“ ”

ที่��ว่ไป็ว่�า อ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นของป็ระชาชน ส�าหร�บป็ระเที่ศไที่ยน��น ร�ฐธรรมน�ญ่แห�งราชอาณาจ�ก่รไที่ย พื่.ศ.2540 ระบ&ไว่�ช�ด้เจนใน มาตรา 3 ว่�า อ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นของป็ว่งชนชาว่ไที่ย พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ผ��ที่รงเป็ นป็ระม&ขที่รงใช�อ�านาจน��นที่างร�ฐสภา คืณะร�ฐมนตร� และศาล ม�ก่ารแบ�งแยก่องคื�ก่รที่��ใช�อ�านาจออก่เป็ น 3 หน�ว่ยงาน คื�อ

อ�านื้าจันื้�ติ�บ�ญญ�ติ� คื�อ อ�านาจในก่ารออก่ก่ฎีหมายไว่�ใช�ในก่ารป็ก่คืรองป็ระเที่ศ ตามหล�ก่โด้ยที่��ว่ไป็แล�ว่ คื�อ ร�ฐสภา ป็ระก่อบด้�ว่ยสภาผ��แที่นราษฎีร ซึ่-�งป็ระชาชนได้�เล�อก่ต��งเข�ามาที่�าหน�าที่��แที่นป็ระชาชนในก่ารออก่ก่ฎีหมายต�างๆ เพื่��อร�ก่ษาคืว่ามสงบเร�ยบร�อยภายใน และ

Page 16: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เพื่��อน�ามาซึ่-�งคืว่ามก่�นด้�อย��ด้�ของป็ระชาชนตลอด้จนคืว่ามม��นคืงของป็ระเที่ศ ป็ระก่อบก่�บม�ว่&ฒ�สภาคือยพื่�จารณาให�คืว่ามเห8นชอบ และให�คื�าแนะน�าในเร��องของก่ารออก่ก่ฎีหมายต�างๆ

อ�านื้าจับร�หาร คื�อ อ�านาจซึ่-�งคืณะร�ฐมนตร�และข�าราชก่ารที่��งหลายใช�ในก่ารบร�หาร ป็ก่คืรองป็ระเที่ศ ตามก่ฎีหมายซึ่-�งฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ได้�ตราออก่มา

อ�านื้าจัติ2ลัาการ หร�อ อ�านื้าจัศาลั ม�อ�านาจต�ด้ส�นคืด้�ข�ด้แย�งต�างๆ ระหว่�างบ&คืคืลก่�บบ&คืคืล หร�อบ&คืคืลก่�บร�ฐตามก่ฎีหมายที่��ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ได้�ตราออก่มาก่ หร�อในบางก่รณ�ของป็ระเที่ศ ย�งสามารถึพื่�จารณาได้�ด้�ว่ยว่�าก่ฎีหมายที่��ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ตราออก่มาข�ด้ก่�บก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ ซึ่-�งเป็ นอ�านาจส�งส&ด้ของป็ระเที่ศหร�อไม�

สร&ป็คื�าจ�าก่�ด้คืว่ามของร�ฐสม�ยใหม� คื�อ ช&มชนของมน&ษย�จ�านว่นหน-�งที่��คืรอบคืรอง“

ด้�นแด้นที่��ม�อาณาเขตแน�นอน รว่มก่�นอย��ภายใต�ร�ฐบาลเด้�ยว่ก่�น ซึ่-�งร�ฐบาลม�ได้�อย��ในอ�านาจคืว่บคื&มของร�ฐอ��นๆ สามารถึที่��จะป็ก่คืรอง และด้�าเน�นก่�จก่ารภายในของร�ฐตลอด้จนที่�าก่ารต�ด้ต�อก่�บร�ฐอ��นๆ ได้�โด้ยอ�สระ”

การร�บรองร�ฐก่ารร�บรองร�ฐ (Recognition) เป็ นก่ารแสด้งออก่ให�เห8นว่�า ร�ฐอ��นได้�ให�คืว่ามเห8นชอบหร�อ

เห8นว่�าร�ฐม�คื&ณสมบ�ต�คืรบถึ�ว่น จ-งได้�ให�ก่ารร�บรอง และก่ารร�บรองแต�ละคืร��งเป็ นคืว่ามสม�คืรใจของร�ฐหน-�งที่��ได้�ให�แก่�ร�ฐหน-�งโด้ยป็ราศจาก่ก่ารบ�งคื�บ ในก่ารด้�าเน�นคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างป็ระเที่ศน��นถึ�อได้�ว่�า ก่ารร�บรองร�ฐที่�าให�ร�ฐม�สภาพื่เป็ นบ&คืคืลระหว่�างป็ระเที่ศ ก่ล�าว่คื�อ ขอให�สมมต�ว่�าส�งคืมของร�ฐเป็ นสมาคืมหน-�ง ซึ่-�งผ��ป็ระสงคื�จะเข�าเป็ นสมาช�ก่จะต�องได้�ร�บก่ารร�บรองจาก่สมาช�ก่เด้�มเส�ยก่�อน ฉะน��นร�ฐที่��ย�งไม�ได้�ร�บก่ารรองร�บจาก่ร�ฐใด้เลย ร�ฐย�อมไม�ถึ�อว่�าร�ฐน��นเป็ นบ&คืคืลระหว่�างป็ระเที่ศ และไม�ยอมต�ด้ต�อด้�ว่ย และไม�ถึ�อว่�าม�ส�ที่ธ�และหน�าที่��ตามก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศอย�างแที่�จร�ง ในก่รณ�ที่��เม��อม�ก่ารแต�งที่�ตไป็ก่8ไม�ม�ผ��ใด้ร�บรอง

ในป็%จจ&บ�นน��ได้�ม�ก่ารแบ�งร�บรองออก่เป็ น 2 ป็ระเภที่ คื�อ1. ก่ารร�บรองตามข�อเที่8จจร�ง (De facto Recognition)

2. ก่ารร�บรองตามก่ฎีหมาย (De Jure Recognition)

1. การร�บรองติามข.อเท<จัจัร�ง (De facto Recognition)

เป็ นก่ารร�บรองโด้ยพื่ฤต�น�ย ก่ารร�บรองในล�ก่ษณะน��เป็ นก่ารร�บรองช��ว่คืราว่ ก่ล�าว่คื�อ เม��อร�ฐสงส�ยว่�าหน�ว่ยก่ารเม�องใหม�ม�คืว่ามสามารถึเพื่�ยงพื่อที่��จะเป็ นร�ฐได้�หร�อไม�และป็ฏ�บ�ต�ตามพื่�นธะระหว่�างป็ระเที่ศหร�อไม� หร�อก่ล�าว่อ�ก่น�ยหน-�งได้�ว่�า ในฐานะที่��ร �ฐน��นได้�เก่�ด้ข-�นตามสภาพื่คืว่ามเป็ นจร�ง แต�ย�งไม�อาจให�ก่ารรองร�บในร�ป็ก่ฎีหมาย คื�อ ให�ส�ตยาบ�น ซึ่-�งหมายคืว่ามว่�า ร�ฐใหม�อาจจะเก่�ด้ข-�น แต�ร�ฐอ��นย�งสงส�ยในล�ก่ษณะบางป็ระก่ารของร�ฐใหม� จ-ง

Page 17: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เพื่�ยงแต�ให�คืว่ามย�นยอมหร�อร�บรองว่�าร�ฐน��นม�จร�ง เช�น ร�ฐในย&โรป็ตะว่�นตก่ได้�ให�ก่ารร�บรองข�อเที่8จจร�งก่�บร�ฐฟิ=นแลนด้� ซึ่-�งเก่�ด้ข-�นใหม�หล�งสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 1

2. การร�บรองติามกฎีหมาย (De Jure Recognition)

เป็ นก่ารร�บรองโด้ยน�ต�น�ยและม�ผลถึ�ก่ต�องตามก่ฎีหมาย เป็ นก่ารร�บรองต�อสภาพื่คืว่ามถึ�ก่ต�องของร�ฐ ซึ่-�งป็ระเที่ศที่��ให�ก่ารร�บรองจะต�องม�คืว่ามม��นใจว่�าป็ระเที่ศที่��เก่�ด้ใหม�ม�สภาพื่ที่��ถึ�ก่ต�องคืรบบร�บ�รณ� ก่ารร�บรองที่างน�ต�น�ยม�ล�ก่ษณะเป็ นที่างก่ารและถึาว่ร ม�คืว่ามส�มพื่�นธ�ที่างก่ารที่�ตและแลก่เป็ล��ยนผ��แที่นที่างก่ารที่�ตต�อก่�น

ร"ปของร�ฐ (Form of State)

ร�ป็ของร�ฐ ใช�เก่ณฑ์�ร�ป็ของร�ฐบาล แบ�งออก่เป็ น 2 ร�ป็แบบ คื�อ1. ร�ฐเด*+ยว (Unity State) ร�ฐส�ว่นใหญ่�ในโลก่เป็ นร�ฐเด้��ยว่ เช�น ไที่ย สว่�เด้น ญ่��ป็&Eน ฝ่ร��งเศส

จ�น สหราชอาณาจ�ก่ร (อ�งก่ฤษ) ฯลฯ ม�ร�ป็แบบที่��ร�ฐบาลก่ลางม�อ�านาจส�งส&ด้ ด้�าเน�นก่ารตามเจตนารมณ�และอ�านาจหน�าที่��ของร�ฐ ต�ว่แที่นในภ�ม�ภาคืต�องมาจาก่ร�ฐบาลก่ลาง เช�น ผ��ว่�าราชก่ารจ�งหว่�ด้ นายอ�าเภอ ต�ารว่จ ข�าราชก่ารในที่�องถึ��นต�างๆ พื่�จารณาด้�จาก่ป็ระว่�ต�ศาสตร�จะเห8นได้�ว่�าเด้�มป็ระเที่ศร�ฐเด้��ยว่จะม�ก่ารขยายอาณาเขตด้�ว่ยก่ารร&ก่ราน บ�งคื�บ แต�อาจจะม�ก่ารแบ�งอ�านาจในที่�องถึ��นป็ก่คืรองต�ว่เองได้�ตามที่��ร�ฐบาลเห8นสมคืว่ร

2. ร�ฐรวม (Composite State) เม��อพื่�จารณาจาก่ป็ระว่�ต�ศาสตร�น��น ร�ฐรว่มจะเก่�ด้จาก่ก่ารรว่มต�ว่ของแว่�นแคืว่�นต�างๆ เข�าด้�ว่ยก่�นโด้ยคืว่ามสม�คืรใจ ไม�ม�ก่ารบ�งคื�บข��เข8ญ่ ก่ารเข�ามาร�ว่มก่�นน��นเป็ นเร��องของผลป็ระโยชน�ร�ว่มก่�นอย�างช�ด้แจ�ง ที่��งน��อาจจะเก่�ด้จาก่ก่ารที่��ม�ก่ารเร�ยก่ร�องหร�อก่�อก่บฏของที่�องถึ��นต�างๆ ที่��ต�องก่ารป็ก่คืรองต�ว่เองในร�ฐเด้��ยว่ต�างๆ ก่8อาจจะม�ก่ารย�นยอมให�บางส�ว่นม�ส�ที่ธ�ในก่ารป็ก่คืรองต�ว่เอง จ�ด้ให�เป็ นเขตป็ก่คืรองตนเอง (Autonomous) โด้ยก่ารจ�ด้ให�ม�ร�ฐสภาได้�เป็ นเอก่เที่ศ เร�ยก่ว่�ธ�ก่ารน��ว่�า Devolution

ต�ว่อย�างที่��ด้�ส�าหร�บป็ระเที่ศที่��ม�ล�ก่ษณะเป็ นร�ฐรว่ม ได้�แก่� สหร�ฐอเมร�ก่า แคืนาด้า ออสเตรเล�ย ซึ่-�งม�ร�ฐบาลเป็ นสองระด้�บ คื�อ ร�ฐบาลก่ลางก่�บร�ฐบาลมลร�ฐ (หร�อ แคืว่�น,

มณฑ์ล ก่8ได้�ตามแต�จะเร�ยก่) คื�อ ให�ร�ฐบาลก่ลางม�อ�านาจอธ�ป็ไตยในส�ว่นที่��เป็ นก่�จก่ารเก่��ยว่เน��องก่�บป็ระโยชน�ของป็ระเที่ศเป็ นส�ว่นรว่ม เช�น ก่ารป็Aองก่�นป็ระเที่ศ ก่ารป็ระก่าศสงคืราม ที่�าสนธ�ส�ญ่ญ่าก่�บป็ระเที่ศอ��นๆ อ�านาจในก่ารด้�แลคืว่บคื&มเง�นตราของป็ระเที่ศ ก่ารต�ด้ต�อก่�บนานาป็ระเที่ศในก่ารแต�งต��งต�ว่แที่นของป็ระเที่ศในฐานะที่�ต ส�ว่นร�ฐบาลระด้�บมลร�ฐจะม�อ�านาจอธ�ป็ไตยภายในเขตแด้นมลร�ฐของตนเองอย�างเต8มที่�� ก่ล�าว่คื�อ ม�อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� อ�านาจบร�หาร และอ�านาจต&ลาก่ารโด้ยร�ฐบาลก่ลางจะย&�งเก่��ยว่หร�อแที่รก่แซึ่งไม�ได้� หน�าที่��ของ

Page 18: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ร�ฐบาลม�ก่จะเก่��ยว่ข�องก่�บ ก่ารศ-ก่ษา ก่ารเที่ศบาล ส�ว่นถึ�าเป็ นป็%ญ่หาระหว่�างมลร�ฐจะเป็ นอ�านาจของร�ฐบาลก่ลาง

ด้�งน��น ล�ก่ษณะที่��เป็ นร�ฐบาลัซ้.อนื้ (Dual Government) น�� ต�างเป็ นอ�สระไม�ข-�นต�อก่�น ม�ก่ารแบ�งแยก่อ�านาจอย�างช�ด้เจน และม�ก่ารก่�าหนด้ว่�าเร��องใด้เป็ นเร��องของร�ฐบาลที่�องถึ��น และเร��องใด้ม�ผลต�อส�ว่นรว่มหร�อที่��งป็ระเที่ศ ก่8จะเป็ นเร��องร�ฐบาลก่ลาง

ชั้าติ�นื้�ยมหร�อความเป:นื้ร�ฐชั้าติ� (Nationalism and Nation State)

ชั้าติ� (Nation) คื�อ ก่ล&�มคืนที่��ผ�ก่พื่�นเข�าด้�ว่ยก่�น และระล-ก่ถึ-งคืว่ามคืล�ายคืล-งก่�นที่�ามก่ลางก่ล&�มคืนเหล�าน��น ด้�ว่ยว่�ฒนธรรม และภาษาซึ่-�งด้�เหม�อนว่�าม�คืว่ามส�าคื�ญ่ในก่ารสร�างคืว่ามเป็ นชาต�

ร�ฐ (State) คื�อ องคื�ก่รที่างก่ารเม�อง ซึ่-�งม�อ�านาจอธ�ป็ไตยส�งส&ด้ ที่��จะต�องม�คืว่ามร�บผ�ด้ชอบอย�างเต8มที่��ในก่�จก่ารของตนเอง

ชั้าติ�นื้�ยม (Nationalism) หร�อคืว่ามเป็ น ร�ฐชั้าติ� (Nation State) จ-งเป็ นก่ระบว่นก่ารป็ล�ก่ฝ่%งคืว่ามร� �ส-ก่ เป็ นชาต� ลงในองคื�ป็ระก่อบของร�ฐสม�ยใหม� ซึ่-�งก่8คื�อ ป็ระชาชน โด้ยก่าร“ ” “ ”

สร�างคืว่ามร� �ส-ก่แน�นแฟิAนว่�าป็ระชาชนที่&ก่คืนในร�ฐน��นเป็ นพื่ว่ก่เด้�ยว่ก่�น ด้�ว่ยว่�ธ�ก่าร ได้�แก่� 1. ก่ารสร�างส�ญ่ล�ก่ษณ�ร�ว่มก่�น เช�น ก่ารใช�ธงชาต� ก่ารเด้�นขบว่นฉลองในว่�นชาต�

น�าป็ระว่�ต�ศาสตร�ของป็ระเที่ศบรรจ&ไว่�ในต�าราเร�ยน2. ก่ารม�ป็ระว่�ต�ศาสตร�ร�ว่มก่�น เช�น คืว่ามเป็ นมาของชาต�ไที่ยที่��มาจาก่ อาณาจ�ก่ร

ส&โขที่�ย อย&ธยา ธนบ&ร� และก่ร&งร�ตนโก่ส�นที่ร� ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ฝ่ร��งเศสที่��ถึ�อเอาเป็ นก่ารก่�อเน�ด้ของร�ฐชาต�ในย&โรป็ เป็ นต�น

ด้�งน��น ร�ฐบาลจ-งคืว่รสน�บสน&นชาต�น�ยมหร�อคืว่ามเป็ นร�ฐชาต� ซึ่-�งไม�จ�าเป็ นต�องเป็ นคืว่ามเก่ล�ยด้ช�งร�ฐอ��นแต�อย�างใด้ เหม�อนสม�ยของนาซึ่� เยอรม�น แต�คืว่รเป็ นก่ารสร�างคืว่ามภาคืภ�ม�ใจในชาต�ของตน

Page 19: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

บทท*+ 3ทฤษฎี*แลัะปร�ชั้ญาทางการเม�อง

ความค�ด (Idea) คื�อ มโนภาพื่ที่��เราม�ต�อป็ราก่ฏก่ารณ�ใด้ๆ หร�อเร��องใด้เร��องหน-�ง ม� 2

ล�ก่ษณะ คื�อ1. ความค�ดค�านื้&ง (Thought) คื�อ คืว่ามคื�ด้ใคืร�คืรว่ญ่เก่��ยว่ก่�บเร��องใด้เร��องหน-�ง2. แนื้วความค�ด หร�อ มโนื้ท�ศนื้� (Concept) คื�อ ก่ารสร�างภาพื่เก่��ยว่ก่�บเร��องใด้

เร��องหน-�ง ส��งใด้ส��งหน-�ง ซึ่-�งเป็ นร�ป็ธรรมหร�อนามธรรมก่8ได้� และอาจจะม�อย��ในโลก่แห�งคืว่ามเป็ นจร�ง หร�อในโลก่แห�งจ�นตนาก่ารก่8ได้�

ทฤษฎี* (Theory) ราก่ศ�พื่ที่�ของคื�าน��ในภาษาตะว่�นตก่มาจาก่คื�าว่�า Theoros ซึ่-�งหมายถึ-ง ผ��ที่�� เด้�นที่างไป็ร�บฟิ%งคื�าพื่ยาก่รณ�จาก่ว่�หารแห�งเด้ลฟิB (Delphic Oracles) และสามารถึถึ�ายที่อด้คืว่ามร� �ที่��ล-ก่ซึ่-�งให�ผ��อ�� นได้�ที่ราบ ที่ฤษฎี�เป็ นแนว่ที่างน�าไป็ส��หนที่างในก่ารป็ฏ�บ�ต�

ลั�ทธ� ม�องคื�ป็ระก่อบของคืว่ามจร�ง และช�ก่น�าให�คืนเช��อ คื�าสอนแบบก่ร�ก่ จะม�ล�ก่ษณะของก่ารช��น�าให�เช��อและป็ระพื่ฤต�ตาม

อ2ดมการณ� (Ideology) ไม�เหม�อนคื�าว่�า อ&ด้มคืต� ซึ่-�งเป็ นคืว่ามหมายในเช�งบว่ก่ แต�“ ”

เป็ นแนว่คืว่ามคื�ด้ที่��โยงเข�าด้�ว่ยก่�นเช�งเหต&และผลอย�างหลว่มๆ เพื่��อน�าไป็ส��ก่ารบรรล&เป็Aาหมายที่��ต�องก่าร อาจเป็ นในเช�งบว่ก่หร�อลบก่8ได้� ส��งที่��เป็ นอ&ด้มก่ารณ�ต��งอย��บนพื่��นฐานของคืว่ามเช��อหร�อคื�าน�ยมเพื่��อที่��จะเป็ นหนที่างน�าไป็ส��เป็Aาหมาย

ล�ก่ษณะส�าคื�ญ่ :-1. คืว่ามคื�ด้ คืว่ามเช��อเช�งเหต&และผลอย�างไม�ล-ก่ซึ่-�ง โต�แย�งได้�ง�าย2. ม�เป็Aาหมายที่��จะต�องบรรล&อย�างเป็ นร�ป็ธรรม ซึ่-�งสะที่�อนด้�ว่ย

คื�าขว่�ญ่หร�อสโลแก่น3. ม&�งม��นที่��จะบรรล&เป็Aาหมายน��น แม�จะต�องใช�เว่ลานานเพื่�ยงใด้ก่8ตาม

ป็ระโยชน� :-1. สร�างคืว่ามชอบธรรมให�ก่�บระบบก่ารป็ก่คืรอง

คืว่ามคื�ด้ที่ฤษฎี�ล�ที่ธ�

อ&ด้มก่ารณ�ป็ร�ชญ่า

ป็ราก่ฏก่ารณ�ที่างก่ารเม�อง / เศรษฐก่�จ /

ส�งคืม

Page 20: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. สร�างคืว่ามชอบธรรมให�ก่�บก่ล&�มผลป็ระโยชน�ในก่ารเร�ยก่ร�องหร�อป็ก่ป็Aองผลป็ระโยชน�ของตน

3. สร�างคืว่ามชอบธรรมในก่ารต�อส��ป็ลด้ป็ล�อยหร�อป็ลด้แอก่

ปร�ชั้ญา (Philosophy) คื�อ คืว่ามร�ก่ในป็%ญ่ญ่าและคืว่ามร� � (Love of Wisdom) และม&�งให�คื�ด้ศ-ก่ษา แสว่งหาคืว่ามแตก่ฉาน และคืว่ามรอบร� � ป็ร�ชญ่าจ-งม�คืว่ามล-ก่ซึ่-�ง ก่ว่�างขว่างก่ว่�าที่ฤษฎี� เก่��ยว่พื่�นก่�บหลายสาขาว่�ชา

ที่&ก่คื�าด้�งก่ล�าว่ข�างต�นเป็ นคื�าที่��ใช�ที่��เก่��ยว่ข�องก่�บก่ารเม�อง คื�อ ความค�ดทางการเม�อง / ทฤษฎี*ทางการเม�อง / ลั�ทธ�ทางการเม�อง / อ2ดมการณ�ทางการเม�อง / ปร�ชั้ญาทางการเม�อง ซึ่-�งบางคืร��งก่8น�ามาใช�แที่นก่�นได้� แต�ส��งที่��ส�าคื�ญ่ คื�อ คืว่รจะเข�าใจคืว่ามหมายของแต�ละคื�า เพื่��อที่��จะได้�เล�อก่คื�าที่��เหมาะสมมาใช�ในก่ารอธ�บาย

ปร�ชั้ญาการเม�องของกร*กป็ร�ชญ่าก่ารเม�อง คื�อ ก่ารศ-ก่ษา หร�อคืว่ามร� �เก่��ยว่ก่�บก่ารเม�องก่ารป็ก่คืรอง เพื่��อน�าไป็

ส��ร�ป็แบบก่ารเม�องก่ารป็ก่คืรองที่��ด้�ที่��ส&ด้ และน�าไป็ส��คืว่ามส&ขของป็ระชาชน โด้ยส�ว่นมาก่จะเน�นพื่ว่ก่ตะว่�นตก่มาก่ก่ว่�า ในที่��น��จะขอก่ล�าว่ถึ-ง น�ก่ป็ราชญ่�ก่ร�ก่ที่��ง 3 คื�อ Socrates, Plato, Aristotle

ผ��ซึ่-�งว่างราก่ฐานป็ร�ชญ่าก่ารเม�องไว่�

Socrates (469 – 399 B.C) เป็ นชาว่นคืรร�ฐเอเธนส� (Athens)

- แสว่งหาคืว่ามร� �ที่��ถึ�ก่ต�องที่��เป็ นคืว่ามร� �สาก่ล- ใช�ว่�ธ� Dialectic ต��งคื�าถึามให�ผ��อ��นตอบ เม��ออ�ก่ฝ่Eายหน-�งตอบ ก่8ต� �งคื�าถึามโต�

แย�ง จนอ�ก่ฝ่Eายหน-�งจนแต�ม โด้ยจะต�องใช�เหต&ผล และหล�ก่ที่างตรรก่ว่�ที่ยา- แสว่งหาคืว่ามจร�ง คืว่ามร� � คืว่ามย&ต�ธรรม- ไม�เช��อในคืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นของคืน- ผ��ป็ก่คืรองที่��ด้�คืว่รต�องม�คืว่ามร� � และสต�ป็%ญ่ญ่า- ไม�เห8นด้�ว่ยก่�บก่ารป็ก่คืรองแบบป็ระชาธ�ป็ไตยของก่ร�ก่ เน��องจาก่

1. ก่ารใช�เส�ยงข�างมาก่เป็ นส��งที่��ไม�ถึ�ก่ต�อง เพื่ราะคืนส�ว่นใหญ่�ไม�ม�เว่ลา และไม�ม�คืว่ามฉลาด้

2. ผ��น�าที่างก่ารเม�องจะมาจาก่ก่ารเล�อก่ต��ง สน�บสน&นของคืนส�ว่นใหญ่� ที่�าให�ได้�ผ��ป็ก่คืรองที่��ไม�ม�คืว่ามร� � แต�เป็ นผ��ป็ก่คืรองที่��ได้�ร�บคืว่ามน�ยม

- ก่ารย-คืป็ร�ชญ่าที่��อาศ�ย คื&ณธรรม คื�อ คืว่ามร� � “ ” (Virtue is Knowledge) เป็ นฐานก่�ด้ก่ร�อนข�ออ�างของระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยในเร��องก่ารม�ว่�ธ�ก่ารป็ก่คืรองที่��ม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ และคืว่ามย&ต�ธรรม ที่�าให�เสร�ภาพื่ในก่ารอภ�ป็รายหมด้คื&ณคื�า

- ว่�จารณ�เสร�ภาพื่ของชาว่เอเธนส�ด้�ว่ยคืว่ามขมข��น

Page 21: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- ส��งที่��น�ก่ก่ารเม�องผล�ต คื�อ ขยะ- ว่�ธ� Dialectic ที่�าให�คืนส�ว่นหน-�งเก่�ด้คืว่ามร�าคืาญ่ เพื่ราะ Socrates โต�แย�ง

และสอนให�คืนสงส�ยในที่&ก่ส��ง- ก่ารสอนไม�ให�เช��อ ไม�ยอมร�บเที่พื่เจ�าที่��คืนในนคืรร�ฐเช��อถึ�อก่�น

ข�อก่ล�าว่หาว่�า Socrates สร�างเที่พื่เจ�าองคื�ใหม� ข�อหาบ�อนที่�าลายและมอมเมาเยาว่ชน ถึ�ก่คืณะล�ก่ข&นต�ด้ส�นให�

ด้��มยาพื่�ษ Hemlock ส��นช�ว่�ต- ไม�ม�ใคืรร� �เก่��ยว่ก่�บช�ว่�ตส�ว่นต�ว่ของ Socrates ส�ว่นมาก่จะร� �มาจาก่คื�าบอก่เล�า

ของ Plato และก่ารต�คืว่ามของน�ก่คื�ด้ในย&คืต�อๆ มา- ถึ-งแม�ว่�า Socrates จะไม�เห8นด้�ว่ยก่�บระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยแบบก่ร�ก่ แต�เขาก่8

เคืารพื่ในก่ฎีหมายของร�ฐ

Plato (427 – 347 B.C) เป็ นล�ก่ศ�ษย�ของ Socrates

- คืว่ามร� �ที่��แที่�จร�ง คื�อ คื&ณธรรมและเหต&ผล- ไม�เช��อในเร��องของคืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�น เพื่ราะคืนเราม�คืว่ามสามารถึและคืว่าม

ถึน�ด้แตก่ต�างก่�น- เข�ยนหน�งส�อเล�มหน-�ง ช��อ The Republic (อ&ตมร�ฐ) เสนอร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรอง

ของร�ฐที่��ด้�เล�ศในอ&ด้มคืต� แบ�งคืนออก่เป็ น 3 ชนช��น ตามคืว่ามสามารถึ โด้ยใช�ก่ารศ-ก่ษาเป็ นต�ว่จ�าแนก่ ได้�แก่�

1. ชนช��นต��า – ชาว่นา ช�าง พื่�อคื�า2. ชนช��นก่ลาง – น�ก่รบ ที่หาร ป็Aองก่�นนคืรร�ฐจาก่ศ�ตร�3. ชนช��นส�ง – เป็ นผ��ป็ก่คืรอง ม�เหต&ผลและสต�ป็%ญ่ญ่าส�งส&ด้

ผ��ป็ก่คืรอง ก่8คื�อ ราชาป็ราชญ่� (Philosopher King) ฉลาด้เล�ศล��าโด้ยก่�าเน�ด้ ได้�ร�บก่ารฝ่Gก่อบรมให�เป็ นผ��ป็ก่คืรอง

- คืว่ามย&ต�ธรรมเป็ นคื&ณธรรมส�งส&ด้ ร�ฐที่��ด้�ที่��ส&ด้ คื�อ ร�ฐที่��ให�คืว่ามย&ต�ธรรมแก่�ป็ระชาชนอย�างเที่�าเที่�ยมก่�น

- เข�ยนหน�งส�อก่ารเม�องอ�ก่หลายเล�ม ในร�ป็แบบก่ารสนที่นาตอบโต�- เป็ นบ�ด้าว่�ชาป็ร�ชญ่าที่างก่ารเม�อง- ไม�เห8นด้�ว่ยก่�บป็ระชาธ�ป็ไตยแบบก่ร�ก่ โด้ยเฉพื่าะป็ระชาธ�ป็ไตยแบบเส�ยง

ข�างมาก่ที่��ได้�ต�ด้ส�นป็ระหารช�ว่�ต Socrates

Aristotle (384 – 322 B.C) เป็ นล�ก่ศ�ษย�ของ Plato

- เร�ยนที่�� Academy 19 ป็B ก่�บ Plato

- เป็ นอาจารย�ผ��สอนที่�� Academy

Page 22: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- ไป็สอนหน�งส�อ Alexander the Great แห�ง Mecedonia ได้�เอาร�ฐธรรมน�ญ่ก่ว่�า 158

ฉบ�บจาก่เม�องที่��ต�ได้�ให� Aristotle ศ-ก่ษา- ต�อมาได้�ก่ล�บมาย�งก่ร&งเอเธนส�ได้�ต� �งโรงเร�ยน Lyceum ข-�นใก่ล�ก่ร&งเอเธนส�- ก่ารศ-ก่ษาเป็ร�ยบเที่�ยบของ Aristotle ได้�จ�าแนก่ร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรอง ออก่

เป็ น 6 ร�ป็แบบ โด้ยใช�เก่ณฑ์� จ�านว่นผ��ป็ก่คืรอง ก่�บ คืว่ามม�จร�ยธรรมของผ��ป็ก่คืรอง ด้�งน��

Who rules?

One person The few The many

Who benefits?

Rulers Tyranny Oligarchy Democracy

All Monarchy Aristocracy Polity

Figure: Aristotle’s six forms of government

1. ราชั้าธ�ปไติย (Monarchy) โด้ย ก่ษ�ตร�ย� (king/monarch) ม�ล�ก่ษณะส�าคื�ญ่ คื�อ เป็ นระบอบก่ารป็ก่คืรองที่��ม�ก่ารส�บสายโลห�ต ส�บส�นตต�ว่งศ� โด้ยผ��ป็ก่คืรองตระก่�ลหน-�ง ซึ่-�งอาจเป็ นก่ารน�บสายโลห�ตที่างพื่�อ หร�อที่างแม�ก่8ได้� แล�ว่แต�ป็ระเพื่ณ�ระบอบก่ารเม�องน��นๆ ก่ารส�บสายโลห�ตที่��ว่�าน�� จะม�ก่ารจ�ด้ตามล�าด้�บของเจ�านายในว่งศ�ตระก่�ลน��น

Plato และ Aristotle ต�างมองว่�าราชาธ�ป็ไตยในที่��น��คืว่รจะป็ก่คืรองโด้ยราชาป็ราชญ่� (Philosopher King) ซึ่-�งเป็ นก่ารป็ก่คืรองที่��ด้�ในอ&ด้มคืต� คื&ณธรรมของผ��ป็ก่คืรองน��จะที่�า ให�เป็ นก่ารป็ก่คืรองที่��ด้�ไม�คื�าน-งถึ-งป็ระโยชน�เฉพื่าะของผ��ป็ก่คืรองเองเป็ นที่��ต� �ง แต�จะคื�าน-งถึ-งป็ระโยชน�ของนคืรร�ฐและคืนที่&ก่ก่ล&�มเป็ นที่��ต� �ง

ระบอบน��ม�คืว่ามอ&ด้มคืต�ส�ง และเป็ นไป็ได้�ยาก่ เพื่ราะ1) จะหาคืนที่��ด้�เล�ศที่��งคืว่ามร� � และคื&ณธรรมได้�จาก่ไหน2) ถึ�าม�คืนผ��น��อย��จร�งก่8คืงไม�ยอมลด้ต�ว่มาเป็ นผ��ป็ก่คืรอง เพื่ราะเต8มไป็ด้�ว่ย

ภาระและป็%ญ่หา

ในคืว่ามเป็ นจร�งม�แนว่โน�มว่�าจะได้�ผ��น�าที่��ด้�อยคืว่ามสามารถึ และอาจก่ลายเป็ นที่รราช

2. ทรราชั้ย� (Tyranny) คื�อ ก่ารป็ก่คืรองโด้ยคืนคืนเด้�ยว่ที่��ม�อ�านาจ ไม�ม�ก่ารส�บสายโลห�ต ใช�อ�านาจเป็ นไป็ตามอ�าเภอใจ (Arbitrary) ไม�ม�ก่ฎีเก่ณฑ์� ไม�ม�คืว่ามแน�นอน ส��งก่ารแต�ผ��เด้�ยว่ ม�ก่เป็ นก่ารป็ก่คืรองโด้ยใช�ก่�าล�งบ�งคื�บ

3. อภู�ชั้นื้าธ�ปไติย (Aristocracy) คื�าว่�า Aristocracy มาจาก่คื�าว่�า aristoi เป็ นภาษาก่ร�ก่ แป็ลว่�า คืว่ามฉลาด้ คืว่ามสามารถึพื่�เศษ + kratos แป็ลว่�า ก่ารป็ก่คืรอง รว่มก่�นคื�อ ก่ารป็ก่คืรอง

Page 23: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

โด้ยคืณะ / ก่ล&�มคืนส�ว่นน�อยที่��ม�คืว่ามสามารถึ ม�คืว่ามร� � ม�ก่ารศ-ก่ษา และเป็ นชนช��นส�ง ที่��ม&�งป็ระโยชน�ส�ว่นรว่ม จ&ด้อ�อนก่8คื�อ ม�แนว่โน�มที่��จะก่ลายเป็ น คืณาธ�ป็ไตย

4. คณาธ�ปไติย (Oligarchy) เป็ นก่ารป็ก่คืรองโด้ยก่ล&�มบ&คืคืล แต�เป็ นก่ล&�มซึ่-�งรว่มต�ว่ก่�นเพื่��อว่�ตถึ&ป็ระสงคื�ที่างก่ารเม�องโด้ยเฉพื่าะ อาจจะมาจาก่หลายชนช��น หร�อม�ก่ารศ-ก่ษาหร�อว่�ชาช�พื่ร�ว่มก่�นก่8ได้� เช�น ที่หาร ต�ารว่จ น�ก่ก่ารเม�อง ก่ล&�มคืนม�เง�น ที่��เร�ยก่ว่�า ธนาธ�ป็ไตย (Plutocracy) โด้ยเอ��อผลป็ระโยชน�แก่�ก่ล&�มของตน

5. ประชั้าธ�ปไติยแบบมวลัชั้นื้ (ที่างตรง) (Democracy) หร�อที่��เร�ยก่ก่�นว่�า มว่ลชนาธ�ป็ไตย แบบนคืรร�ฐก่ร�ก่ ม�ข�อเส�ยอย�� 5 ป็ระก่าร คื�อ

1) คืนส�ว่นใหญ่�ไม�ได้�ม�คืว่ามร� �และคื&ณธรรม แม�จะม�คืว่ามเห8น ก่8เป็ นคืว่ามเห8นที่��ไม�ม�คืว่ามร� �

2) คืนส�ว่นใหญ่�ม�ฐานะที่างเศรษฐก่�จต��า ที่�าให�เก่�ด้ก่ารป็ก่คืรองที่��ไม�ด้�3) คืนส�ว่นใหญ่�ม�แนว่โน�มใช�คืว่ามร� �ส-ก่และอารมณ�ในก่ารต�ด้ส�นใจ4) คืนส�ว่นใหญ่�จะที่�าให�เก่�ด้คืว่ามย&�งเหย�ง โก่ลาหล ว่& �นว่าย5) ป็ระชาธ�ป็ไตยม�สมมต�ฐานที่��ผ�ด้พื่ลาด้ ในเร��องคืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นในที่&ก่เร��อง

6. ประชั้าธ�ปไติยแบบผู้สม (Polity) ม�ผ��ป็ก่คืรองก่ล&�มเล8ก่ที่��ม�คื&ณสมบ�ต�เหมาะสม แต�ม�ที่��มาจาก่คืนก่ล&�มใหญ่�ที่��เป็ นชนช��นก่ลางซึ่-�งม�จ�านว่นมาก่ก่ว่�าคืร-�งหน-�ง ที่��ม�ก่ารศ-ก่ษา ม�ฐานะที่างเศรษฐก่�จป็านก่ลาง ระบบ Polity สอด้คืล�องก่�บก่ารป็ก่คืรองป็ระชาธ�ป็ไตยในป็%จจ&บ�น คืนที่��รว่ยมาก่ ม�ก่จะฟิ& AงเฟิAอ เห�อเห�มไม�เห8นห�ว่คืนอ��น ส�ว่นคืนจนก่8ไม�ม�เหต&ผล

ปร�ชั้ญาการเม�องสนื้�บสนื้2นื้อ�านื้าจัเด<ดขาด (Absolutism)

ม�น�ก่คื�ด้ 3 ที่�าน ที่��สน�บสน&นอ�านาจเด้8ด้ขาด้ คื�อ1. Niccolo Machiavelli (1469-1527)2. Jean Bodin (1530-1596)3. Thomas Hobbes (1588-1679)

เหต&ที่��น�ก่คื�ด้ที่��ง 3 สน�บสน&นคืว่ามคื�ด้และบ&คืคืลคืนเด้�ยว่ป็ก่คืรอง เพื่ราะ- บ�านเม�องเต8มไป็ด้�ว่ยสงคืราม- สม�ยน��นศาสนาคืร�สต�คืรอบง�าก่ารเม�อง ก่ารป็ก่คืรอง ซึ่-�งเน�นบ&คืล�ก่ภาพื่

อ�สระของมน&ษย� ที่�าให�เป็ นอ&ป็สรรคืต�อก่ารป็ก่คืรองด้�ว่ยอ�านาจเด้8ด้ขาด้- ระบบศ�ก่ด้�นาสม�ยก่ลาง ข&นนางม�อ�านาจมาก่ ก่ษ�ตร�ย�ไม�คื�อยม�อ�านาจ

ที่��ง 3 ที่�าน แสว่งหาคืว่ามชอบธรรมให�ระบบก่ษ�ตร�ย� โด้ยม�ว่�ธ�ที่��ต�างก่�น คื�อMachiavelli แยก่ศ�ลธรรมออก่จาก่ก่ารเม�องBodin บ&ก่เบ�ก่แนว่คืว่ามคื�ด้ ร�ฐาธ�ป็ไตย (ร�ฐ + อธ�ป็ไตย)

Hobbes ใช�หล�ก่เหต&ผลว่�าด้�ว่ยธรรมชาต�ของมน&ษย�

Page 24: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1. Niccolo Machiavelli (1469-1527)- คืล��งไคืล�ในหน�งส�อ และอ�านาจ- ชอบคืว่ามสว่ยงาม โด้ยเฉพื่าะผ��หญ่�ง- ชอบคืว่ามสน&ก่สนาน และอาหารช��นด้�- คืว่ามคื�ด้ก่ารเม�องของเขา เป็ นในเช�งขาด้ศ�ลธรรม ตรงก่�บคืว่ามป็ระพื่ฤต�

ส�ว่นต�ว่ของเขา- เข�ยนหน�งส�อ The Prince

1 เพื่��อให�ต�ว่เองได้�ร�บก่ารสน�บสน&น“The Prince” (1531)

- แสว่งหาและร�ก่ษาไว่�ซึ่-�งอ�านาจที่างก่ารป็ก่คืรอง โด้ยไม�คื�าน-งถึ-งศ�ลธรรม- คืว่ามคื�ด้ที่างก่ารเม�องอย��บนสมมต�ฐานในก่ารมองมน&ษย� ว่�าม�ธรรมชาต�

อย�างไร ซึ่-�งตามม&มมองในหน�งส�อเล�มน��มองว่�า มน&ษย�อก่ต�ญ่ญู� โลเล ซึ่�อนเร�น โลภโมโที่ส�น ก่ล�ว่คืว่ามตาย ฯลฯ

- ผ��ป็ก่คืรองคืว่รม�คื&ณสมบ�ต� ด้�งน��1) มองโลก่ตามคืว่ามเป็ นจร�ง2) คื&ณสมบ�ต�ผสมก่�นระหว่�างส�งโตก่�บส&น�ขจ��งจอก่ คื�อ เป็ นหล�ก่ในที่&ก่

ส��ง เป็ นศ�นย�ก่ลางของอ�านาจ เข�มแข8ง เห8นแก่�ต�ว่ อย��เหน�อคืนอ��นที่��งคืว่ามคื�ด้ และจ�ตใจ ไม�ใช�คืว่ามก่ร&ณาในที่างที่��ผ�ด้ ต�องพื่ร�อมที่��ใช�คืว่ามโหด้ร�าย ก่ล�าว่คื�อ ใช�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ เพื่��อที่��จะร�ก่ษาคืว่ามสงบเร�ยบร�อย คืว่ามโหด้ร�ายเด้8ด้ขาด้ที่�าร�ายเพื่�ยงคืนบางคืน แต�ก่ารป็ก่ป็Aองส�งคืมถึ�อเป็ นส��งส�าคื�ญ่

3) ต�องที่�าให�ผ��อ�� นที่��งร�ก่ที่��งก่ล�ว่ แต�ถึ�าที่�าใด้เพื่�ยงอย�างใด้อย�างหน-�ง ต�องที่�าให�ก่ล�ว่ เพื่ราะ

3.1) ธรรมชาต�ของมน&ษย� “...เขาจะอย�� ก่�บที่� าน ป็ระก่าศว่� าจ ะสละช�ว่�ต

ที่ร�พื่ย�ส�น ล�ก่เต�าให�แก่�ที่�าน ตราบเที่�าที่��ที่�านย�งเป็ นป็ระโยชน� และอ�นตรายย�งอย��ไก่ล แต�เม��ออ�นตรายเข�ามาใก่ล� เขาจะไม�เป็ นพื่ว่ก่ที่�านอ�ก่ต�อไป็...”

3.2) มน&ษย�โด้ยธรรมชาต�ก่ล�าล�ว่งเก่�นคืนที่��ตนร�ก่ได้�มาก่ก่ว่�าคืนที่��ตนก่ล�ว่

1 สามารถึอ�านเพื่��มเต�มได้�จาก่ เจ�าผ��ป็ก่คืรอง“ ” (The Prince) สมบ�ต� จ�นที่รว่งศ� (แป็ล) ก่ร&งเที่พื่: ส�าน�ก่พื่�มพื่�

คืบไฟิ, 2542

Page 25: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

“สายใยแห�งคืว่ามร�ก่มน&ษย�ต�ด้ม�นได้� ถึ�าม�ผลป็ระโยชน�

สายใยแห�งคืว่ามก่ล�ว่จะม�อย�� ยาก่ที่��จะล�มเล�อน”

3.3) ก่ารที่�าให�คืนร�ก่ข-�นอย��ก่�บจ�ตใจของคืนผ��น� �น ก่ารที่�าให�ก่ล�ว่ข-�นอย��ก่�บต�ว่บ&คืคืลเอง

แต�ก่ารสร�างคืว่ามก่ล�ว่ต�องไม�ที่�าให�เก่�ด้คืว่ามเก่ล�ยด้ช�ง โก่รธแคื�น เพื่ราะจะน�าไป็ส��ก่ารส�องส&มคื�ด้ร�ายต�อผ��ป็ก่คืรอง ด้�งน��น จ-งม�ว่�ธ�ก่ารป็Aองก่�นไม�ให�คืนอ��นโก่รธ คื�อ ก่ารละเม�ด้ที่ร�พื่ย�ส�นของราษฎีรและคืนอ��น และก่ารไม�ล�ว่งเก่�นเก่�ยรต�ยศและล�ก่เม�ยของคืนอ��น“คืนเราพื่�อตายไม�นานก่8ล�ม แต�ใคืรมาละเม�ด้ ล�ว่งเก่�นเรา ไม�ม�ว่�นที่��

จะล�ม”

สร2ปความค�ด ก่ารเม�อง เป็ นศ�ลป็ะของก่ารร�ก่ษาอ�านาจ สร�างเอก่ภาพื่ที่างก่ารเม�อง สร�างคืว่ามม��นคืงในก่ารป็ก่คืรอง ม�คืว่ามสงบเร�ยบเร�ยบ ต�องแยก่ศ�ลธรรมออก่จาก่ก่ารเม�อง เพื่ราะอ�านาจแสด้งถึ-งคืว่ามชอบธรรมของว่�ธ�ก่าร จะใช�ว่�ธ�ไหนๆ ก่8ได้� ไม�ต�องคื�าน-งถึ-งศ�ลธรรม

2. Jean Bodin (1530-1596)- เป็ นอาจารย�สอนก่ฎีหมาย และเป็ นต&ลาก่าร- ม�คืว่ามคื�ด้เห8นว่�า ก่ารเม�อง คื�อ ก่ารป็ก่คืรองด้�ว่ยคืว่ามย&ต�ธรรมและศ�ล

ธรรม “6 บรรพิว1าด.วยสาธารณร�ฐ” (The Six Books of the Commonwealth) (1576)

สาธารณร�ฐ คื�อ ป็ระชาคืมมน&ษย�ที่��ม�ก่ารป็ก่คืรองอย�างม�ศ�ลธรรม ม�ใช�ที่าสหร�อคืนร�บใช� แต�เป็ นราษฎีร ซึ่-�งจะไม�ม�ส�ที่ธ�ต�อต�านอ�านาจร�ฐ ต�องเคืารพื่ก่ฎีหมาย ในป็ระชาคืมมน&ษย�ม�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ส�งส&ด้ถึาว่ร คื�อ อ�านาจที่��เก่�ด้มาพื่ร�อมก่�บก่ารม�ร�ฐ สนองเพื่��อให�ม�ร�ฐ อ�านาจน��ไม�ถึ�ก่จ�าก่�ด้โด้ยระยะเว่ลา หร�อก่ฎีหมาย ที่��งน��ม�ใช�เพื่ราะไม�ม�ก่ฎีหมาย แต�เพื่ราะอ�า นาจน�� เป็ นผ��ออก่ก่ฎีหมาย ซึ่-�งในป็%จจ&บ�น ก่8คื�อ อ�า นื้าจันื้�ติ�บ�ญญ�ติ� Bodin ได้�เร�ยก่อ�านาจน��ว่�า อ�านื้าจัอธ�ปไติย ที่��สามารถึที่��จะออก่ก่ฎี และยก่เล�ก่ก่ฎีได้�

ร�ฐก่�บอ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นของคื��ก่�น ที่�าให�เก่�ด้เป็ นพื่��นฐานในก่ารจ�ด้ร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรอง 3 ร�ป็แบบ ใช�เก่ณฑ์�ของอ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นต�ว่แบ�ง คื�อ

Page 26: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1) ระบอบก่ษ�ตร�ย� อ�านาจอธ�ป็ไตยอย��ที่��คืนเพื่�ยงคืนเด้�ยว่2) อภ�ชนาธ�ป็ไตย อ�านาจอธ�ป็ไตยอย��ที่��คืนก่ล&�มน�อย3) ป็ระชาธ�ป็ไตย ป็ระชาชนม�ส�ว่นรว่มในก่ารใช�อ�านาจอธ�ป็ไตย

ในที่�ศนะของ Bodin เห8นว่�า ระบอบกษ�ติร�ย� เป็ นก่ารป็ก่คืรองที่��ด้�ที่��ส&ด้ เพื่ราะ1) สอด้คืล�องก่�บธรรมชาต� เช�น คืรอบคืร�ว่ม�ห�ว่หน�าคืรอบคืร�ว่ คื�อ พื่�อ

โลก่ม�พื่ระเจ�าเพื่�ยง 1 องคื�2) ระบอบก่ษ�ตร�ย� หร�อก่ารป็ก่คืรองเพื่�ยง 1 คืน จะม�หล�ก่ป็ระก่�นเอก่ภาพื่

แห�งอ�านาจที่��ม� �นคืง องคื�อธ�ป็%ตย�จะม�ได้�เพื่�ยงหน-�งเที่�าน��น หาก่ม�มาก่ก่ว่�าน��จะไม�ม�ใคืรออก่คื�าส��งร�บคื�าส��งขององคื�อธ�ป็%ตย�หลายองคื�ได้�

3) ระบอบก่ษ�ตร�ย�จะสามารถึเล�อก่คืนฉลาด้ เข�าใจก่�จก่รรมบ�านเม�องได้�ด้�ก่ว่�า

อภ�ชนาธ�ป็ไตยก่�บป็ระชาธ�ป็ไตย เป็ นระบอบก่ารเม�องที่��ต�องม�สภา ซึ่-�งป็ระก่อบด้�ว่ยคืนด้�และคืนบ�า ส�ว่นระบอบก่ษ�ตร�ย�ในที่�ศนะของ Bodin จะไม�เป็ นที่รราช เพื่ราะระบอบที่รราชย�จะป็ก่คืรองราษฎีรเย��ยงที่าส แต�ระบอบก่ษ�ตร�ย�น�� ราษฎีรเคืารพื่ก่ฎีหมาย ส�ว่นก่ษ�ตร�ย�เคืารพื่ก่ฎีธรรมชาต�สอด้คืล�องก่�บหล�ก่ศ�ลธรรม เสร�ภาพื่และก่รรมส�ที่ธ�ของพื่ลเม�องจ-งย�งม�อย�� อ�านาจอธ�ป็ไตยแม�ว่�าจะส�งส&ด้เด้8ด้ขาด้ ก่8แบ�งแยก่ไม�ได้� และม�ขอบเขตก่ารใช�ซึ่-�งถึ�ก่จ�าก่�ด้ด้�ว่ยศ�ลธรรม

3. Thomas Hobbes (1588-1679)- อย��ในย&คืที่��ก่ษ�ตร�ย�ม�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ในย&โรป็ ถึ�ก่คื&ก่คืามอย�างหน�ก่ ม�ก่ารส��

รบฆ่�าฟิ%น เขาจ-งหน�ไป็อย��ที่�� Paris เป็ นอาจารย�สอนคืณ�ตศาสตร�แก่�ผ��ที่��จะเป็ นก่ษ�ตร�ย�ในอนาคืตของอ�งก่ฤษ ในราชว่งศ� Stuart ซึ่-�งม�คืว่ามข�ด้แย�งที่างศาสนา

- ในป็B 1642 พื่ระเจ�า Charles I เก่�ด้คืว่ามข�ด้แย�งก่�บร�ฐสภา ภายใต�ก่ารน�าของ Oliver Cromwell เหต&ก่ารณ�จบลงด้�ว่ยช�ยชนะของ Cromwell

ในป็B 1651 และได้�ป็ก่คืรองป็ระเที่ศอ�งก่ฤษในช�ว่งน��น “Leviathan” (1651)

Leviathan คื�อ ส��งม�ช�ว่�ตที่��ม�พื่ลาน&ภาพื่ส�งส&ด้หน�งส�อเล�มน��สะที่�อนแก่�นป็ร�ชญ่าก่ารเม�องของ Hobbes ซึ่-�งเขาเข�ยนข-�นด้�ว่ย

คืว่ามก่ล�ว่สภาพื่ที่��ไม�สงบเร�ยบร�อยและคืว่ามก่ระหายที่��จะเห8นส�นต�ภาพื่ ป็ร�ชญ่าคืว่ามคื�ด้ในหน�งส�อเล�มน�� ม�ด้�งน��

1) ฐานื้คติ�การมองมนื้2ษย� : มน&ษย�ในธรรมชาต�ม�คืว่ามเห8นแก่�ต�ว่ ก่ระหายและร�ก่ต�ว่ก่ล�ว่ตาย ม�เหต&ผลเหน�อส�ตว่� สามารถึคื�าน-งถึ-งผลป็ระโยชน�ที่��จะได้�ร�บ และม�

Page 27: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นในก่ารม�คืว่ามหว่�ง เพื่��อบรรล&ส��งที่��ต�องก่าร ที่��งย�งม�คืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นในป็%ญ่ญ่าคืว่ามคื�ด้ หร�อเล�ห�ก่ลที่��จะเข�าถึ-งเป็Aาหมายได้�

2) มนื้2ษย�ในื้สภูาวะธรรมชั้าติ� : มน&ษย�ที่&ก่คืนเป็ นศ�ตร�หร�อคื��แข�งก่�น มน&ษย�เป็ นส&น�ขป็Eาส�าหร�บมน&ษย�ด้�ว่ยก่�น แต�จะเข�าร�ว่มก่�นเพื่��อป็Aองก่�นอ�นตรายอย�างเด้�ยว่ก่�น ส�งคืมมน&ษย�จ-งไม�ม�คืว่ามสงบส&ข ม�แต�ก่ารต�อส�� แก่�งแย�ง จนก่ลายเป็ นสงคืราม มน&ษย�จะอย��ในสภาว่ะหว่าด้ก่ล�ว่ ต�องเผช�ญ่อ�นตรายตลอด้เว่ลา ในสภาว่ะธรรมชาต� มน&ษย�ไม�ม�ก่รรมส�ที่ธ�ในที่ร�พื่ย�ส�น แต�ละคืนเป็ นเจ�าของในส��งที่��สามารถึแย�งมาได้� และเป็ นเจ�าของตราบเที่�าที่��ย�งแข8งแรงพื่อและร�ก่ษาไว่�ได้� มน&ษย�จะต�องออก่จาก่สภาว่ะน�� ม�เช�นน��นจะถึ�ก่ที่�าลายก่�นที่��งหมด้

3) ทางออกส"1ส�นื้ติ� : คื�อ ก่ารม�ร�ฐที่��ม�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ คืว่ามร�ก่ต�ว่ก่ล�ว่ตายที่�า ให�มน&ษย�ย�นยอมละที่��งสภาว่ะธรรมชาต� คืว่ามม�เหต&ม�ผลที่�า ให�มน&ษย�คื�ด้ถึ-งบที่บ�ญ่ญ่�ต�แห�งส�นต�ภาพื่ (ก่ฎีธรรมชาต�)

สร2ปได.ว1า อย�าที่�าก่�บผ��อ�� นในส��งที่��ที่�านไม�ป็ระสงคื�ให�ผ��อ�� นที่�าต�อที่�าน ด้�งเช�นก่ารน�าไป็ส��ก่ารย�นยอมสละสภาว่ะของตน โด้ยม�พื่ล�งอ�านาจที่��ไม�อาจต�านที่านได้�มาบ�งคื�บให�ป็ฏ�บ�ต�ตามพื่�นธะ

ใครเป:นื้ผู้".จั�ดติ�งร�ฐ : ป็ระชาชนที่�าส�ญ่ญ่าจ�ด้ต��งร�ฐเพื่��อคื&�มคืรองส�ว่นรว่ม และยอมสละส�ที่ธ�ที่��จะต�ด้ว่�าอะไรด้� อะไรช��ว่ หร�อส��งใด้เป็ นคืว่ามย&ต�ธรรม แต�จะผ�ก่ม�ด้ตนเองก่�บส��งที่��ด้� หร�อย&ต�ธรรม ตามที่��องคื�อธ�ป็%ตย�บ�ญ่ชา

องคื�อธ�ป็%ตย�ม�อ�านาจส�งส&ด้ ป็ระชาชนต�องป็ฏ�บ�ต�ตาม จะเร�ยก่ร�อง ฟิAองร�องไม�ได้� องคื�อธ�ป็%ตย�จะม�อ�านาจส�งส&ด้เด้8ด้ขาด้ และม�หน�าที่��ให�คืว่ามสงบส&ขและส�นต�ภาพื่แก่�ราษฎีร ตามเจตจ�านงที่��จะม&�งให�เก่�ด้ส�นต�ภาพื่

อ�านาจที่��ให�แก่�องคื�อธ�ป็%ตย�น��จะเร�ยก่คื�นจาก่ร�ฐไม�ได้� ยก่เว่�นว่�า องคื�อธ�ป็%ตย�อ�อนแอลงจนคื&�มคืรองราษฎีรไม�ได้� ป็ระชาชนก่8จะรอด้พื่�นจาก่พื่�นธะ และสามารถึป็ก่คืรองตนเอง แล�ว่จ-งจะเล�อก่องคื�อธ�ป็%ตย�องคื�ใหม�

ปร�ชั้ญาการเม�องแบบเสร*นื้�ยม (Liberalism)

- ส�งคืมในศตว่รรษที่�� 18

ก่ารป็ฏ�ว่�ต�อ&ตสาหก่รรม เร��มต�นที่��ป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ ซึ่-�งก่8คื�อ อ&ตสาหก่รรมที่อผ�า

ก่ารคื�าและเศรษฐก่�จตามเม�องที่�า เก่�ด้ข-�นมาก่มาย- ก่ารเต�บโตของชนช��นก่ลางหร�อชนช��นก่ฎุKมพื่� (Bourgeois)

เสร�ภาพื่ คืว่ามส&ข คืว่ามก่�าว่หน�า คื&ณธรรม หล�ก่เหต&ผล

Page 28: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ม�อ�านาจเศรษฐก่�จ / แสว่งหาอ�านาจที่างก่ารเม�อง- ว่�ฎีจ�ก่รคืว่ามก่�าว่หน�า

กฎีหมาย (Law) คื�อ ข�อบ�ญ่ญ่�ต�ที่��อาศ�ยหล�ก่เหต&ผล ที่��ม�พื่��นฐานของคืว่ามจร�ง และส�งผลให�เก่�ด้คืว่ามส&ข ที่��งย�งที่�าลายอคืต� คืว่ามเช��อเก่�าๆ และน�าไป็ส��คืว่ามเจร�ญ่ก่�าว่หน�าอย�างไม�ส��นส&ด้

ม�น�ก่คื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ 3 ที่�าน คื�อ1. John Locke (1632-1704)2. Charles-Louis de Secondat Montesquieu (1689-1755)3. Jean Jacques Rousseau (1712-1778)

1. John Locke (1632-1704)- บ�ด้าของ Locke เป็ นพื่ว่ก่สน�บสน&นร�ฐสภาให�ที่�าสงคืรามก่ลางเม�อง แล�ว่ย�ง

เป็ นพื่ว่ก่ Puritant ต�อต�านน�ก่าย Church of England ในป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ จ-งหน�ไป็อเมร�ก่า

- จบก่ารศ-ก่ษาจาก่ Westminster และ Oxford

- เต�บโตที่�ามก่ลางคืว่ามป็%� นป็Eว่นของคืว่ามคื�ด้ที่างส�งคืม ก่ารเม�อง ป็ร�ชญ่า และก่ารต�อส��ระหว่�างก่ษ�ตร�ย�ก่�บร�ฐสภา

- Locke เป็ นฝ่Eายสน�บสน&นร�ฐสภา“Two treatises of Government” (1690)

- ตอบโต�ระบบอ�านาจเด้8ด้ขาด้ (Absolutism)

- อธ�บายเก่��ยว่ก่�บสภาว่ะธรรมชาต� ด้�งน��1) มน&ษย�ในสภาว่ะธรรมชาต� ด้�งาม ม�น��าใจ ชอบช�ว่ยเหล�อก่�น2) ม�ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ที่��สมบ�รณ� ม�คืว่ามเสมอภาคืระหว่�างมน&ษย� และจะไม�

ที่�าอะไรตามใจชอบ เพื่ราะ3.1) ม�ก่ฎีหร�อเหต&ผลธรรมชาต�สอนให�ร� �ว่�า ต�องไม�ร&ก่ล��าส�ที่ธ�

เสร�ภาพื่ของคืนอ��น = ส�ที่ธ�ข��นพื่��นฐาน

เสร�ภาพื่ = คืว่ามก่�าว่หน�า

Page 29: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

3.2) หาก่ม�ก่ารร&ก่ล��าส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของคืนอ��น จะม�ก่ารเข�ามาป็ก่ป็Aอง ช�ว่ยเหล�อผ��บร�ส&ที่ธ�L ลงโที่ษผ��ละเม�ด้ = ส�ที่ธ�ธรรมชาต�ที่��จะลงโที่ษ

แลั.วท�าไมมนื้2ษย�ติ.องสลัะสภูาวะธรรมชั้าติ�มาอย"1ร1วมก�นื้?

เพื่ราะในสภาว่ะธรรมชาต� ไม�ม�ก่ฎีหมาย ไม�ม�ผ��พื่�พื่าก่ษาที่��จะต�ด้ส�นข�อพื่�พื่าที่ ไม�ม�อ�านาจบ�งคื�บที่&ก่คืนเป็ นใหญ่�เที่�าเที่�ยมก่�นหมด้ในก่ารต�ด้ส�นเร��องราว่เก่��ยว่ก่�บตนเอง ด้�งน��นอาจเก่�ด้ป็%ญ่หา ก่ล�าว่คื�อ

1) มน&ษย�ม�ก่เข�าข�างตนเอง พื่ว่ก่พื่�อง น�าไป็ส��คืว่ามไม�ย&ต�ธรรม2) ม�แนว่โน�มที่��จะลงโที่ษด้�ว่ยอารมณ� และชอบแก่�แคื�น

ด้�งน��น มน&ษย�จ-งต�องสละที่��งสภาว่ะธรรมชาต�ไป็ส��สภาว่ะส�งคืม เพื่��อช�ว่�ตที่��ด้�ก่ว่�า เพื่ราะก่ฎีหมาย ศาล และผ��บ�งคื�บให�เป็ นไป็ตามก่ฎีหมาย ที่�าให�เก่�ด้หล�ก่ป็ระก่�นส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ที่��แน�นอน จ-งเก่�ด้ร�ฐหร�อร�ฐบาล ซึ่-�งร�ฐที่��ด้�จะต�องป็ก่ป็Aองส�ที่ธ� เสร�ภาพื่ของป็ระชาชน

ก่ารเข�าส��สภาว่ธรรมชาต�เก่�ด้จาก่คืว่ามย�นยอม ที่�าให�มน&ษย�อย��ร �ว่มก่�นเป็ นส�งคืม ธ�ารงคืว่ามสงบส&ข ป็ลอด้ภ�ย สามารถึเสว่ยส&ขจาก่ที่ร�พื่ย�ส�น รอด้พื่�นจาก่ก่ารร&ก่รานของผ��อ��น

ข.อโจัมติ*ระบบอ�านื้าจัเด<ดขาด (Absolutism)

ระบบอ�านาจเด้8ด้ขาด้เป็ นระบอบที่��ไม�ชอบธรรม ไร�เหต&ผล ด้�งเหต&ผลต�อไป็น��1) เป็ นก่ารละที่��งสภาว่ะธรรมชาต�ที่��ด้�ไป็ส��สภาว่ะที่��เลว่ร�ายก่ว่�า2) ไม�ย&ต�ธรรม เพื่ราะอย��เหน�อก่ฎีหมาย ถึ�ออภ�ส�ที่ธ�L ย-ด้คืรองเสร�ภาพื่

ที่&ก่อย�างแห�งสภาว่ะธรรมชาต�ไว่�3) จาก่ป็ระว่�ต�ศาสตร� ระบอบน��ไม�อาจยก่ระด้�บธรรมชาต�ของมน&ษย�ให�ด้�

ข-�นได้�

ความค�ด: จั�าแนื้กอ�านื้าจัร�ฐหร�อส�งคืมม�อ�านาจ 2 อย�าง

1) น�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ออก่ก่ฎีเก่ณฑ์�2) บร�หาร ก่�าหนด้ให�เป็ นไป็ตามก่ฎีหมาย

อ�านาจที่��งสองอย�างต�องไม�อย��ในคืนหร�องคื�ก่รเด้�ยว่ก่�น เพื่ราะบ&คืคืลหร�อองคื�ก่รใด้ก่8ตามที่��ม�อ�านาจที่��งสอง ม�แนว่โน�มที่��จะล&แก่�อ�านาจ

Page 30: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อ�า นาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�อย�� เหน�ออ�า นาจบร�หาร แต�ม�ขอบเขตจ�า ก่�ด้โด้ยส�ที่ธ�ธรรมชาต� และจะไม�เป็ นอ�านาจเด้8ด้ขาด้ที่��อย��เหน�อช�ว่�ตที่ร�พื่ย�ส�นของราษฎีร อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ถึ�อเป็ นอ�านาจส�งส&ด้ เพื่ราะเป็ นอ�านาจจ�ด้ต��งส�งคืม ร�ก่ษาส�งคืมให�ธ�ารงไว่� และเป็ นอ�านาจต�ด้ส�นใจส�งส&ด้ แต�ต�องออก่ก่ฎีหมายภายในขอบเขต ร�ก่ษาส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของราษฎีร ไม�ที่�าให�ราษฎีรตก่เป็ นที่าสหร�อเลว่ร�ายลง ส�ว่นอ�านาจบร�หารก่8ม�ก่ารใช�ด้&ลพื่�น�จในบางเร��อง

ป็ระชาชนม�ส�ที่ธ�ล&ก่ข-�นต�อต�านอ�านาจร�ฐ ถึ�าผ��ป็ก่คืรองใช�อ�านาจเก่�นขอบเขตผ�ด้ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�ในก่ารอย��ร�ว่มก่�นเป็ นร�ฐ ป็ระชาชนสามารถึถึอด้ถึอนคืว่ามไว่�ว่างใจ และเร�ยก่อ�านาจแต�ด้��งเด้�มคื�นได้� แล�ว่จ-งมอบหมายให�ผ��ที่��เห8นสมคืว่ร

ป็ระชาชนสามารถึก่ระที่�าด้�งที่��ก่ล�าว่มาแล�ว่ได้� เพื่ราะเป็ นเจ�าของอ�านาจส�งส&ด้ เพื่�ยงแต�มอบอ�านาจให� หาก่ใช�อ�านาจผ�ด้เง��อนไข ป็ระชาชนก่8สามารถึใช�ก่�าล�งต�อต�านได้�

อ�ทธ�พิลัทางความค�ด - ส�ที่ธ�มน&ษยชนของฝ่ร��งเศส ก่รมมส�ที่ธ�ที่��ด้�น- คื�าป็ระก่าศอ�สรภาพื่ของอเมร�ก่า- ว่างราก่ฐานเสร�น�ยม โด้ยเฉพื่าะที่ฤษฎี�แบ�งแยก่อ�านาจ

และก่ารจ�าก่�ด้อ�านาจของผ��ป็ก่คืรอง โด้ยที่��ป็ระชาชนม�ส�ที่ธ�ต�อต�านอ�านาจร�ฐ

- คืรอบง�า คืว่ามคื�ด้ใน ศตว่รรษที่�� 19-20 ม&�งก่ารป็ก่คืรองที่�ม�เสร�ภาพื่

2. Charles-Louis de Secondat Montesquieu (1689-1755)- เก่�ด้ในตระก่�ลข&นนางเก่�าแห�ง Bordeaux

- จบก่ฎีหมาย เป็ นผ��พื่�พื่าก่ษา ชอบที่�องเที่��ยว่ เข�ยนหน�งส�อ“เจัตินื้ารมณ�แห1งกฎีหมาย” (The Spirit of the Laws) (1748)

ส�ว่นที่�� 1 ที่ฤษฎี�ว่�าด้�ว่ยร�ฐบาล และระบอบก่ารป็ก่คืรองร�ป็ที่�� 1 สาธารณร�ฐป็ระชาธ�ป็ไตยร�ป็ที่�� 2 สาธารณร�ฐอภ�ชนาธ�ป็ไตยร�ป็ที่�� 3 ระบอบก่ษ�ตร�ย�

ในระบอบสาธารณร�ฐป็ระชาธ�ป็ไตย ป็ระชาชนม� 2 บที่บาที่ ที่��ตรงก่�นข�างมก่�น แต�ส�งเสร�มก่�น

1) เป็ นผ��ป็ก่คืรองโด้ยใช�ส�ที่ธ�ก่ารเล�อก่ต��ง2) เป็ นผ��อย��ใต�ป็ก่คืรอง เคืารพื่และเช��อฟิ%งก่ฎีหมาย

Page 31: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เช��อว่�า ป็ระชาชนไม�สามารถึบร�หารงานด้�ว่ยตนเอง เพื่ราะป็ระชาชนม�จ�านว่นมาก่ ซึ่-�งจะที่�าให�ก่ารป็ก่คืรอง บร�หารช�าไป็หร�อเร8ว่ไป็

หลั�กการท*+จัะท�าให.เป:นื้ระบอบสาธารณร�ฐประชั้าธ�ปไติยMontesquieu เช��อเหม�อน Aristotle ตรงที่��ว่�า คื&ณธรรมที่างก่ารเม�อง คื�อ เส�ยสละ ไม�

เห8นแก่�ต�ว่ ลด้คืว่ามก่ระหายในส��งต�างๆ Montesquieu คื�ด้ว่�าระบอบสาธารณร�ฐป็ระชาธ�ป็ไตย คื&ณธรรมจะหมด้ไป็ไม�ได้�ด้�ว่ยเหต&ผลด้�านก่ารศ-ก่ษาม�คืว่ามส�าคื�ญ่ส�าหร�บก่ารป็ล�ก่ฝ่%งคืว่ามร� �ส-ก่ของเด้8ก่ๆ ในเร��องก่ารเส�ยสละ ร�ก่ในก่ฎีหมาย ร�ก่บ�านเก่�ด้เม�องนอน

สาธารณร�ฐอภู�ชั้นื้าธ�ปไติยอ�านาจส�งส&ด้อย��ที่��บ&คืคืลจ�านว่นเล8ก่ๆ ที่��ม�คื&ณภาพื่ ม�ชาต�ก่�าเน�ด้ ได้�ร�บก่ารตระ

เตร�ยมด้�านก่ารศ-ก่ษา ก่ารที่��จะที่�าให�ระบอบน��อย��ได้�น��น ไม�ใช�ก่ารเส�ยสละ แต�เป็ นคืว่ามร� �จ�ก่พื่อด้�ในหม��ผ��ป็ก่คืรอง ไม�ม&�งผลป็ระโยชน�ส�ว่นตน ก่ด้ข��ป็ระชาชน คืว่ามพื่อด้�ลด้คืว่ามต-งเคืร�ยด้ของระบบน��เก่��ยว่ก่�บคืว่ามแตก่ต�างด้�านชนช��น

ระบอบกษ�ติร�ย�ป็ก่คืรองโด้ยคืนเพื่�ยงคืนเด้�ยว่ ป็ก่คืรองด้�ว่ยก่ฎีหมาย คืว่ามแน�นอนของ

ก่ฎีหมายจะข�ด้ขว่างเจตจ�านงของก่ษ�ตร�ย� ระบอบก่ษ�ตร�ย�น��จะเก่�ด้ก่ารถึ�ว่งด้&ลโด้ยองคื�ก่รต�างๆ ได้�แก่� ข&นนาง พื่ระ ส�ที่ธ�หร�ออภ�ส�ที่ธ�Lของเม�องต�างๆ (ก่ารก่ระจายอ�านาจ) คืณะผ��พื่�พื่าก่ษา ระบอบก่ษ�ตร�ย�จะไม�เป็ นที่รราช เพื่ราะระบบที่��ข�ด้แย�ง ถึ�ว่งด้&ลของสถึาบ�นต�างๆ ที่�าให�ระบอบย�งคืงอย�� หล�ก่ก่ารหร�อเง��อนไขของก่ารป็ก่คืรอง ไม�ใช�คื&ณธรรม แต�อย��บนพื่��นฐานของคืว่ามแตก่ต�าง ยศบรรด้าศ�ก่ด้�L อภ�ส�ที่ธ� ช��น ว่รรณะ สถึานภาพื่ คืว่ามแตก่ต�างเหล�าน�� ยาก่ที่��จะที่�าให�ชนช��นต�างๆ ได้�เป็ร�ยบ และเส�ยสละ เก่�ยรต�ยศของก่ษ�ตร�ย�ก่�บคืว่ามหย��งในเก่�ยรต�ยศของชนช��นส�ง จะที่�าให�บ&คืคืลเหล�าน��ป็ฏ�บ�ต� ที่�าเพื่��อร�ฐ เพื่��อเส�ยงแซึ่�ซึ่�อง สรรเสร�ญ่

ระบอบทรราชั้ย�เป็ นระบอบที่��เหย�ยด้หยามธรรมชาต�ของมน&ษย� อ�านาจอย��ที่��คืนเพื่�ยงคืนเด้�ยว่

หร�อไม�ก่��คืน ที่�าเพื่��อตนเองและก่ด้ข��คืนส�ว่ยใหญ่� หล�ก่ก่ารของระบอบน�� คื�อ ก่ารสร�างคืว่ามก่ล�ว่ ที่�าให�เช��อฟิ%งอย�างไม�ม�เง��อนไข

ทฤษฎี*ว1าด.วยเสร*ภูาพิของการเม�อง

Page 32: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คืนที่��ว่ไป็เข�าใจว่�า เสร�ภาพื่ คื�อ ที่�าอะไรก่8ได้�ตามใจชอบ แต�ถึ�าเราที่�าตามใจชอบ คืนอ��นก่8สามารถึที่�าได้�เช�นก่�น ก่8จะไม�ม�เสร�ภาพื่เช�นก่�น ด้�งน��น จ-งม�ก่ารอธ�บายเสร�ภาพื่ที่างก่ารเม�องที่�แที่�จร�ง ด้�งน��

1) เสร*ภูาพิ คื�อ ส�ที่ธ�ที่��จะที่�าในส��งที่��ต�องก่ารและไม�ถึ�ก่บ�งคื�บให�ที่�าในส��งที่��ไม�ต�องก่าร โด้ยส��งที่��ก่�าหนด้เสร�ภาพื่ คื�อ ก่ฎีหมาย เสร�ภาพื่จ-งเป็ นอ�านาจของก่ฎีหมาย เสร�ภาพื่ คื�อ ส�ที่ธ�อ�านาจอ�นชอบธรรมที่��ก่ฎีหมายอน&ญ่าต

2) เสร*ภูาพิ คื�อ คืว่ามสงบที่างจ�ตใจของป็ระชาชนคืนหน-�งที่��จะไม�เก่รงก่ล�ว่ป็ระชาชนอ�ก่คืนหน-�ง ก่ล�าว่คื�อ ม�หล�ก่ป็ระก่�นในคืว่ามป็ลอด้ภ�ยในช�ว่�ต ร�างก่าย ที่ร�พื่ย�ส�น คืว่ามม��นคืง

นอก่จาก่น��ในส�ว่นที่��เก่��ยว่ก่�บที่ฤษฎี�น�� ย�งม�ก่ารพื่�ด้ถึ-ง การถ1วงด2ลัอ�านื้าจั ด้�งน��เสร�ภาพื่ของป็ระชาชนจะไม�สามารถึม�ได้� หาก่ผ��ป็ก่คืรองล&แก่�อ�านาจ

มน&ษย�ที่&ก่คืนที่��ม�อ�านาจ ม�ก่ล&แก่�อ�านาจ ใช�ไม�ไม�หย&ด้ย��งจนก่ว่�าจะพื่บขอบเขตจ�าก่�ด้ แต�ก่8ไม�ร� �ว่�าขอบเขตอย��ไหน

ก่ารล&แก่�อ�านาจจะหย&ด้ย��งได้� โด้ยจ�ด้ให�อ�านาจย�บย��งอ�านาจ คื�อ ไม�ให�อ�านาจรว่มอย��ในองคื�ก่รเด้�ยว่ก่�น ม�เช�นน��นที่&ก่ส��งอย�างจะส�ญ่เส�ย หาก่ผ��ป็ก่คืรองเป็ นผ��ใช�อ�านาจที่��ง 3 ที่าง

อ�ทธ�พิลัทางความค�ด คื�อ ป็ฏ�ญ่ญ่าสาก่ลว่�าด้�ว่ยส�ที่ธ�มน&ษยชน ร�ฐสภา ป็ระธานาธ�บด้� ระบบต&ลาก่าร

3. Jean Jacques Rousseau (1712-1778)- ต�นตระก่�ลเป็ นชาว่ฝ่ร��งเศส เขาเก่�ด้ที่�� Geneva ที่ว่ด้ของเขาที่��งมรด้ก่ให�ไว่�เป็ น

จ�านว่นมาก่ แต�พื่อของเขาก่8ผลาญ่จนหมด้ส��น ก่ลายเป็ นชนช��นก่ฎุKมพื่�ที่��ตก่ก่ระป็Mอง ก่�าพื่ร�าแม� ป็Aาก่�บน�าด้�แลเขา เยาว่�ว่�ยตก่ระก่�าล�าบาก่ เคืยที่�างานเป็ นช�างแก่ะสล�ก่ แล�ว่ต�องตก่ต��า ไป็เป็ นคืนร�บใช� ขโมยของเขาก่�น แต�อย�างไรก่8ตามเขาก่8สนใจศ-ก่ษาคื�นคืว่ามหาคืว่ามร� �ด้�ว่ยตนเอง

- ชนะก่ารป็ระก่ว่ด้เร�ยงในห�ว่ข�องาน คืว่ามก่�าว่หน�าของศ�ลป็ะและศาสตร�“

ต�างๆ ที่�าให�ช�ว่�ตมน&ษย�ด้�ข-�น แต� ” Rousseau ก่�บสว่นก่ระแสโด้ยเข�ยนเร�ยงคืว่าม ม�สาระที่�านองว่�า อารยธรรมที่�าให�มน&ษย�เส��อมที่รามลง มน&ษย�ที่��ด้�“ คื�อ มน&ษย�ที่��อย��ใก่ล�เคื�ยงก่�บธรรมชาต� ”

“ติ.นื้ก�า เนื้�ดแห1งความไม1เสมอภูาคของมนื้2ษย� ” (Origin of Inequality) จ�าแนก่ไว่� 2

ป็ระเภที่1) ตามธรรมชาต� - สมอง ร�างก่าย = ช�ว่ว่�ที่ยา

Page 33: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2) ที่��ไม�เป็ นตามธรรมชาต� ได้�แก่� คืว่ามแตก่ต�างที่��เก่�ด้จาก่สภาว่ะที่างส�งคืม เช�น ชาว่นาญ่��ป็&Eนรว่ย ชาว่นาไที่ยจน

ค�าอธ�บาย มน&ษย�ในสภาว่ะธรรมชาต� สต�ป็%ญ่ญ่าย�งไม�พื่�ฒนา จ�ตใจด้�และม�ศ�ลธรรม อ�อนไหว่ต�อคืว่ามที่&ก่ข�ที่รมานของคืนอ��น เพื่ราะว่�ามน&ษย�ย�งอย��ในฐานะต�างคืนต�างอย�� โอก่าสที่��จะเก่�ด้คืว่ามอยาก่ คืว่ามโลภ ก่ารต�อส��ย�งไม�ม� แต�เม��ออย��รว่มก่�นเป็ นส�งคืม น�ส�ยมน&ษย�คื�อยๆ เป็ล��ยนไป็ในที่างเลว่ลง เช�น มน&ษย�อย��ก่�นเป็ นคืรอบคืร�ว่ พื่�อ-แม�-ล�ก่ ม�คืว่ามคื�ด้ในก่ารสะสม แก่�งแย�ง ต�อส��ระหว่�างก่�นในคืรอบคืร�ว่ มน&ษย�ที่��ม�ป็%ญ่ญ่า ม�คืว่ามฉลาด้ ก่8เร��มต�นเอาไม�มาป็%ก่ล�อมร��ว่ แล�ว่ก่ล�าว่ว่�า น��คื�อที่��ของฉ�น เพื่��อให�ที่ร�พื่ย�สมบ�ต� ที่��ด้�นม�หล�ก่ป็ระก่�น แล�ว่ก่8สถึาป็นาส�งคืมหร�อร�ฐข-�นมาคื&�มคืรองที่ร�พื่ย�ส�นของตน โด้ยหลอก่ลว่งผ��อ�� นว่�า ภายใต�ก่ฎีหมายและร�ฐจะเก่�ด้หล�ก่ป็ระก่�นในส�งคืม น��คื�อ แหล�งที่��มาของส�งคืมและก่ฎีหมาย

เพิราะฉะนื้�นื้ Rousseau มองส�งคืมก่�บร�ฐในที่างที่��ไม�ด้�“มน&ษย�เก่�ด้มาอย�างอ�สระหร�อเสร� แต�ที่&ก่หนที่&ก่แห�งต�องอย��ใต�

พื่�นธนาก่าร”“ก่ฎีหมายก่�บร�ฐสร�างเคืร��องพื่�นธนาก่ารแก่�ผ��อ�อนแอ แต�เสร�ม

สร�างพื่ล�งแก่�ผ��ม�อ�านาจ”

ป็ร�ชญ่าของ Rousseau ที่��งเช�� อส�งคืมน�ยม เป็ นพื่�� นฐานหร�อราก่เหง�าล�ที่ธ�ที่��ต�องก่ารให�ที่ร�พื่ย�ส�นเป็ นของส�ว่นรว่ม ล�มล�างที่ร�พื่ย�ส�นส�ว่นบ&คืคืล ป็%จจ�ยก่ารผล�ต ที่�าลายคืว่ามแตก่ต�างที่างชนช��น

“ส�ญญาประชั้าคม” (The Social Contract) (1762)

ส�ว่นที่�� 1: คืว่ามชอบธรรมแห�งอ�านาจ “คืนที่��แข8งแรงที่��ส&ด้ ก่8ไม�อาจแข8งแรงพื่อเป็ นนายได้�คืลอด้ไป็ ถึ�าไม�เป็ล��ยนก่�าล�งมา

เป็ นส�ที่ธ� ก่ารเช��อฟิ%งเป็ นหน�าที่��”แต�เป็ นเพื่ราะป็ระชาชนเช��อว่�า ผ��ป็ก่คืรองม�ส�ที่ธ�ที่��จะป็ก่คืรอง และป็ก่คืรองได้�

เพื่ราะป็ระชาชนเช��อฟิ%งอ�านาจ ม�คืว่ามร� �ส-ก่ว่�าม�หน�าที่��ที่��จะที่�าตาม เช�น เล�อก่ต��ง

Page 34: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Rousseau อธ�บายว่�าพื่�นธะส�งคืมไม�ได้�อย��บนพื่��นฐานของคื�าส��ง หร�อส�ที่ธ�ของผ��แข8งแรงส&ด้ เพื่ราะพื่�นธะจะสลายไป็พื่ร�อมก่�บก่�าล�ง ถึ�าต�องเช��อฟิ%ง เราก่8ไม�ต�องเช��อฟิ%งโด้ยหน�าที่��

ส�ว่นที่�� 2: ที่��มาของคืว่ามชอบธรรมแห�งอ�านาจ คืว่ามชอบธรรมแห�งอ�านาจไม�ได้�เก่�ด้จาก่พื่�อแม� แต�มาจาก่ส�ญ่ญ่าป็ระชาคืม

ซึ่-�งเก่�ด้จาก่เจตจ�านงอ�สระของบ&คืคืลที่��รว่มต�ว่ก่�นเข�าเป็ นส�งคืม ที่�าส�ญ่ญ่าเบ8ด้เสร8จ แต�ละคืนมอบส�ที่ธ�ตามธรรมชาต�แก่�ส�งคืมเหม�อนก่�นหมด้ ที่�าให�เก่�ด้องคื�อธ�ป็%ตย�หร�อมว่ลชน องคื�อธ�ป็%ตย�จะป็ฏ�บ�ต�ในนามของที่&ก่คืน ส��งที่��ก่ระที่�าไป็ถึ�อเป็ นเจตจ�านงของป็ระชาชน

เจตจ�านงที่��ว่ไป็แสด้งออก่โด้ยเส�ยงข�างมาก่ แต�ที่ฤษฎี�ของ Rousseau ก่8เป็ นเสม�อนด้าบ 2 คืม ก่ล�าว่คื�อ ป็ระชาธ�ป็ไตยที่างตรงอาจน�าไป็ส��เผด้8จก่ารเส�ยงข�างมาก่ และเส�ยงข�างมาก่ที่��ถึ�อว่�าเป็ นเจตจ�านงที่��ว่ไป็ ที่�าให�เส�ยงข�างน�อยเป็ นคืว่ามคื�ด้ที่��ผ�ด้

แม� Rousseau จะถึ�อเส�ยงข�างมาก่ แต�เขาก่8ไม�ต�องก่ารก่�ด้ก่�นคืนออก่เส�ยง เพื่ราะส�ที่ธ�ออก่เส�ยง = ส�ที่ธ�โด้ยที่��ว่ไป็

- ค2ณลั�กษณะของอ�านื้าจัอธ�ปไติย คื�อ เจตจ�านงที่��ว่ไป็ เก่�ด้จาก่ส�ญ่ญ่าป็ระชาคืม

1) ไม�อาจโอนหร�อมอบหมายให�แก่�ก่�นได้�2) อ�านาจอธ�ป็ไตยไม�อาจแบ�งแยก่ได้�3) ผ�ด้พื่ลาด้ไม�ได้� เจตจ�า นงที่��ว่ไป็ต�องถึ�ก่ต�องเสมอ โน�มไป็ที่าง

ป็ระโยชน�สาธารณะ4) เป็ นอ�านาจเด้8ด้ขาด้

- ความค�ดทางส�งคมRousseau ต�องก่ารสร�างคืว่ามย&ต�ธรรมในส�งคืม ลด้ช�องว่�าง คืนรว่ย-

คืนจน ต�องก่ารให�ร�ฐม��นคืง ม�เสถึ�ยรภาพื่ ป็ร�บฐานะคืนรว่ย-คืนจน ให�ใก่ล�เคื�ยงก่�นมาก่ที่��ส&ด้ คืนรว่ยก่�บคืนจนย��งแตก่ต�างก่�นมาก่เที่�าไร ส�งคืมก่8จะม�แต�คืว่ามที่&ก่ข�ที่รมาน

เศรษฐ� เป็ นที่��มาของ ก่�เลศ ต�ณหา ก่ด้ข��ยาจก่ เป็ นที่��มาของ ป็%ญ่หา ภาระต�างๆ ไม�จบส��น

ส�งคืมที่��แตก่ต�างก่�นมาก่เช�นน�� จะเก่�ด้คืว่ามหายนะต�อผลป็ระโยชน�ส�ว่นรว่ม ก่ลายเป็ นที่รราชย� เศรษฐ�ก่ล�ว่ยาจก่ต�องก่ด้ข�� เพื่��อร�ก่ษาฐานะ เพื่ราะยาจก่อาจล&ก่ฮื�อ ลบล�างที่ร�พื่ย�ส�นของเศรษฐ� ระหว่�างที่��งสองชนช��นจะม�ก่ารขายเสร�ภาพื่สาธารณะ

Page 35: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เพื่ราะฉะน��นต�องม�แนว่ที่างสายก่ลาง ว่างราก่ฐานคืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นที่างส�งคืม สร�างก่ฎีหมายที่��ย&ต�ธรรม

แนื้วความค�ดในื้ภูาคปฏิ�บ�ติ�1) ต�องสร�างส�งคืมที่��ที่&ก่คืนม�ช�ว่�ตอย��ได้� ไม�ม�ใคืรแสว่งหาคืว่ามม��งคื��งได้�เพื่�ยงผ��

เด้�ยว่ และม�ก่ารจ�าก่�ด้ขอบเขตที่ร�พื่ย�ส�นส�ว่นรว่ม เป็ นก่ารว่างราก่ฐานเร��องส�ที่ธ�ในที่ร�พื่ย�ส�นเป็ นส��งที่��จ�าก่�ด้ ไม�ได้�ต�ด้มาก่�บต�ว่ ซึ่-�งในป็%จจ&บ�นส�ที่ธ�ในที่ร�พื่ย�ส�นเป็ นธรรมชาต� ร�ฐจ�าก่�ด้ได้�เพื่��อป็ระโยชน�ส�ว่นรว่ม

2) ก่�อนก่ารป็ฏ�ร�ป็ระบอบก่ารป็ก่คืรอง ต�องป็ฏ�ร�ป็จ�ตใจคืนก่�อนจะต�องสร�างสาธารณะ (ส�งคืมหร�อร�ฐเป็ นส�ว่นก่ลาง) เข�าไป็ในจ�ตใจ ก่�อนที่��จะป็ลด้ป็ล�อยที่าส ต�องสร�างภาพื่ให�คื��คืว่รแก่�เสร�ภาพื่เส�ยก่�อน

คืว่ามพื่อด้�ของอ�านาจเง�น Rousseau เห8นว่�าเง�นเป็ นก่ลไก่ที่��ไร�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ที่��ส&ด้ที่��จะที่�าให�ก่ารเม�องบรรล&เป็Aาหมาย แต�เง�นเป็ นก่ลไก่ที่��แข8งแก่ร�งที่��ส&ด้ แน�นอน ที่�าให�ก่ระบว่นก่ารที่างก่ารเม�องห�นเหไป็จาก่เป็Aาหมาย เง�นที่�าลายจ�ตใจและคืว่ามร� �ส-ก่น-ก่คื�ด้ของคืน เง�นเป็ นจ&ด้อ�อนของป็ระชาธ�ป็ไตย

Page 36: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

บทท*+ 4อ2ดมการณ�แลัะระบอบการเม�อง

อ2ดมการณ�เสร*นื้�ยมคลัาสส�ค (Classical Liberalism)

o Rational Manมองว่�า มน&ษย�ม�เหต&ม�ผลในก่ารแก่�ป็%ญ่หา ซึ่-�งจะน�าไป็ส��คืว่ามเจร�ญ่ได้�

o Individualismป็%จเจก่ชนน�ยม เน�นต�ว่บ&คืคืล ไม�ก่�าว่ก่�ายเร��องคืนอ��น ม�คืว่ามเป็ นต�ว่ของต�ว่เองส�ง หาก่คืนอ��นเด้�อนร�อนจะป็ล�อยให�เขาช�ว่ยต�ว่เองก่�อน หร�อรอจนก่ว่�าเขาจะได้�ร�บคืว่ามที่&ก่ข�แล�ว่จ-งจะช�ว่ย

o Rights to life, liberty, propertyส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ในช�ว่�ต ที่ร�พื่ย�ส�น ร�างก่าย

o Negative freedom / Tolerationเสร�ภาพื่ในเช�งลบ (Negative Freedom) หมายถึ-งสภาว่ะที่��ต�ว่เราป็ลอด้จาก่ก่ารคื&ก่คืามใด้ๆ จาก่ภายนอก่หร�อผ��อ��น ก่ล�าว่อย�างอ�ก่น�ยหน-�ง ก่8คื�อ ก่ารที่��ไม�ม�ใคืรมาย&�งหร�อบงก่ารเราได้� ส�ว่นข�นต�ธรรม (Toleration) คื�อ คืว่ามใจก่ว่�างอด้ที่นต�อคืว่ามคื�ด้เห8นของผ��อ��น ซึ่-�งแตก่ต�างไป็จาก่ของตน

o Equalityคืว่ามเสมอภาคื เก่�ด้มาเที่�าเที่�ยมก่�น ที่��งส�ที่ธ�และโอก่าส

o Government by consent / Contractual theory of the stateระบบก่ารป็ก่คืรองโด้ยคืว่ามย�นยอม (ฉ�นที่าน&ม�ต�) = ก่ารเล�อก่ต��ง / ม�พื่��นฐานจาก่ที่ฤษฎี�ส�ญ่ญ่าป็ระชาคืม (Leviathan) ของ Locke เก่��ยว่ก่�บร�ฐ

o Limited Government : the best government is the least government

Page 37: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ระบอบก่ารป็ก่คืรองที่��ม�อ�านาจจ�าก่�ด้: ร�ฐบาลที่��ด้�ที่��ส&ด้ คื�อ ร�ฐบาลที่��ป็ก่คืรองน�อยที่��ส&ด้

หนื้.าท*+ของร�ฐในื้แนื้วค�ดเสร*นื้�ยมคลัาสส�ค- ป็Aองก่�นป็ระเที่ศ- ให�คืว่ามย&ต�ธรรมแก่�สมาช�ก่ เม��อเก่�ด้คืว่ามข�ด้แย�ง- จ�ด้ก่�จก่ารสาธารณะบางอย�าง- ไม�เข�าแที่รก่แซึ่งในก่�จก่ารที่างเศรษฐก่�จ

อ2ดมการณ�เสร*นื้�ยมสม�ยใหม1 (Modern Liberalism)

o Rational Man / Individualism / Rights to life, liberty, property / Equality

มน&ษย�ม�เหต&ม�ผล / ป็%จเจก่ชนน�ยม / ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ในช�ว่�ต ที่ร�พื่ย�ส�น ร�างก่าย / คืว่ามเสมอภาคื

o Government by consentระบบก่ารป็ก่คืรองโด้ยคืว่ามย�นยอม (ฉ�นที่าน&ม�ต�) = ก่ารเล�อก่ต��ง

o Positive Freedomเสร�ภาพื่ในเช�งบว่ก่ (Positive Freedom) หมายถึ-ง สภาว่ะที่��ป็%จเจก่บ&คืคืลคืว่รจะที่�าอะไรหร�อเร�ยก่ร�องอะไรได้�บ�างจาก่ส�งคืมหร�อโลก่ที่��แว่ด้ล�อมตนอย��

o Positive / Active Stateร�ฐข�ามาแที่รก่แซึ่งบางเร��องที่��ม�คืว่ามจ�าเป็ นในก่ารเข�าแที่รก่แซึ่งที่างเศรษฐก่�จ ม�บที่บาที่มาก่ข-�น เพื่��อให�เก่�ด้คืว่ามสมด้&ลในส�งคืม และแก่�ป็%ญ่หาคืว่ามแตก่ต�างที่างชนช��น

o Common Good / Public welfareจ�ด้ให�ม�ส�นคื�าบร�ก่ารสาธารณะ เช�น น��าด้��มฟิร�ตามที่�องถึนน และสว่�สด้�ก่ารส�งคืม เช�น ป็ระก่�นส&ขภาพื่

น�ก่คื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ที่�านหน-�ง คื�อ Adam Smith ได้�ว่างราก่ฐานระบบ เศรษฐก่�จที่&นน�ยมเสร�“ ”

Capitalism / Market Economic

Individualismป็%จเจก่ชนน�ยม บ&คืคืลแต�ละคืนสามารถึที่�าได้�ตามแต�คืว่ามสามารถึของแต�ละคืนที่��ม�

Private Ownership

Page 38: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่รรมส�ที่ธ�Lส�ว่นบ&คืคืล และคืว่ามสามารถึที่��จะป็ก่ป็Aองที่ร�พื่ย�ส�นของตน เสร�ภาพื่ในก่ารป็ระก่อบก่าร ก่ารแข�งข�นเสร� ก่ลไก่ตลาด้ ก่ลไก่ราคืา ก่�าไรเป็ นส��งจ�งใจ ร�ฐม�บที่บาที่จ�าก่�ด้ไม�เข�าแที่รก่แซึ่ง

อ2ดมการณ�อนื้2ร�กษ�นื้�ยม (Conservatism)

o Human limitation / Imperfect / Irrational / Ignorant / Violent / Victim of passion

มน&ษย�ม�ข�อจ�าก่�ด้ / ไม�สมบ�รณ� / ไม�ม�เหต&ผล / เพื่�ก่เฉย / ร&นแรง / เป็ นเหย��อของคืว่ามร� �ส-ก่และอารมณ�ต�างๆ

o Evolutionary view of social progress / Wisdom of the pastชอบให�ส�งคืมคื�อยๆ เป็ล��ยนแป็ลง / คืว่ามร� �ส� �งสมจาก่อด้�ต

o Hierarchy / Order community / Common values / Law / Tradition

ที่��ต��าที่��ส�ง แบ�งชนช��นว่รรณะ / ส�งคืมที่��ม�ล�า ด้�บช��น / ย-ด้ต�ด้ก่�บคื�าน�ยม / ก่ฎีหมาย / ป็ระเพื่ณ� (เน�นคื&ณคื�าของคืรอบคืร�ว่ ศาสนา ช&มชน)

น�ก่คื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ คื�อ Edmund Burk (1729-1797)

- เก่�ด้ที่�� Dublin ป็ระเที่ศ Ireland

- เป็ นสมาช�ก่ฝ่Eาย Whig (ฝ่Eายร�ฐสภา) ม&�งเพื่��อเสร�ภาพื่ที่างก่ารเม�อง- ต�อต�านคืว่ามคื�ด้ของ Rousseau ที่��ที่�าให�เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ฝ่ร��งเศส- เข�ยนหน�งส�อ “Reflections on the Revolution in France” (1790) สะที่�อนถึ-งผลก่ระ

ที่บของก่ารป็ฏ�ว่�ต�ที่��อาจม�ต�อป็ระเที่ศต�างๆ ซึ่-�งเขาต�องก่ารป็ก่ป็Aองป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ ไม�ให�เป็ นแบบป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส ที่��ม�ก่ารล�มล�างสถึาบ�นก่ษ�ตร�ย�

- ต�อต�านเสร�น�ยม / คืว่ามคื�ด้เช�งป็ฏ�ว่�ต�- โจมต�แนว่คืว่ามคื�ด้เก่��ยว่ก่�บธรรมชาต�ชองมน&ษย� (ของอ&ด้มก่ารณ�

เสร�น�ยม)

ธรรมชั้าติ� คื�อ พื่�ฒนาก่ารของป็ระว่�ต�ศาสตร� ซึ่-�งก่8คื�อ ส��งที่��ส�งคืมส��งสม ตก่ที่อด้มา ส��งต�างๆ จะป็ร�บต�ว่ของม�นเอง ไม�ต�องแที่รก่แซึ่ง ไม�ต�องย&�งก่�บม�น แล�ว่จะด้�เอง เช�น ระบอบก่ษ�ตร�ย�ของป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ จาก่ก่ล&�มข&นนางก่8ก่ลายเป็ น สภาข&นนาง ส�ว่นป็ระชาชนก่8เข�ามาม�ส�ว่นร�ว่มก่ลายเป็ น สภาผ��แที่น แสด้งถึ-งล�ก่ษณะที่��คื�อยๆ เป็ล��ยนแป็ลง

Page 39: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- ยก่ย�องเที่�ด้ที่�นคืว่ามเคืยช�นเก่�าๆ ได้�แก่� ชนช��น (ป็ฏ�บ�ต�ตามหน�าที่��) มรด้ก่ตก่ที่อด้ อคืต�

ค2ณค1าของอคติ� - ธรรมชาต� ได้�แก่� ชาต�ก่�าเน�ด้ และชนช��น- คืว่ามภ�ม�ใจในชนช��น และชาต� ที่�าให�เก่�ด้คืว่ามพื่ยายาม

ของแต�ละบ&คืคืล ที่��จะป็ก่ป็Aองก่รรมส�ที่ธ�L ที่ร�พื่ย�ส�น เก่�ยรต�ยศ ช��อเส�ยง ที่��ได้�มาของว่งศ�ตระก่�ลและต�ว่เอง

ไม�ม�อะไรเป็ นธรรมชาต�ไป็มาก่ก่ว่�า ส�ญ่ชาตญ่าณ ที่�าให�เก่�ด้ก่ารต�อต�านคืว่ามไม�ย&ต�ธรรม ส�งผลให�ม&�งร�ก่ษาเสร�ภาพื่ของส�งคืม

- โจมต�เร��องคืว่ามเสมอภาคืคืว่ามเสมอภาคืไม�ม�อย��จร�ง สมมต�ก่�นเอง ส�งคืมต�องป็ระก่อบด้�ว่ยชนช��น หล�ก่เล��ยงไม�ได้� ต�องม�ชนช��นหน-� งเหน�ออ�ก่ชนช��นหน-� ง ธรรมชาต�เป็ นเพื่�ยงส��งเด้�ยว่ที่��ได้�บอก่ว่�าอะไรอย��ต��า อะไรอย��ส�ง

- โจมต�เร��องเจตจ�านงเสร�เส�ยงข�างมาก่ไม�จ�า เป็ นต�องถึ�ก่เสมอไป็ เจตจ�านงไม�จ�า เป็ นต�องสอด้คืล�องก่�บผลป็ระโยชน�ของคืนส�ว่นใหญ่� โจมต�เร��องก่ฎีของจ�านว่น (Law of Number) ว่�าไม�ถึ�ก่ต�อง เพื่ราะว่�าร�ฐธรรมน�ญ่ไม�ได้�เป็ นป็%ญ่หาที่างคืณ�ตศาสตร�

- โจมต�คืว่ามคื�ด้ที่�าลายล�างแล�ว่สร�างใหม� ถึ�อว่�าเป็ นก่ารเย�ยหย�นธรรมชาต�ที่��น�าอด้ส�

- ยก่ย�อง ร�ฐบ&ร&ษ ซึ่-�งม�ล�ก่ษณะด้�งน��“ ”

1) ม�แนว่โน�มร�ก่ษาส��งต�างๆ ไว่�2) ม�พื่รสว่รรคื�ที่��จะป็ร�บป็ร&งส��งต�างๆ ให�ด้�ข-�น

- โจมต�หล�ก่เหต&ผลที่��ว่ไป็ ถึ�อว่�าระบบใด้อ�งเหต&ผล บ&คืคืลจะไร�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ ในภาว่ะว่�ก่ฤต� ต�องป็ล&ก่อคืต� และคืว่ามเป็ นชาต�

อ2ดมการณ�ส�งคมนื้�ยมแลัะการปฏิ�ว�ติ�ส�งคม (Socialism)

น�ก่คื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ส�งคืมน�ยมก่�อน Marx (เป็ นส�งคืมน�ยมป็ฏ�ร�ป็ ไม�ต�องก่ารป็ฏ�ว่�ต� แก่�ป็%ญ่หาเป็ น

ป็ระเด้8นไป็)- Babeuf (1760-1797)- ส�งคืมน�ยมอ�งก่ฤษ Robert Owen (1771-1858)

- ส�งคืมน�ยมฝ่ร��งเศส ถึ�อว่�าก่ารป็ฏ�ร�ป็เศรษฐก่�จต�องมาก่�อนส��งอ��นๆ

Saint Simon Charles Fourier (1773-1817)

Page 40: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Pierre Joseph Proudhon (1809-1865)

ไม�แยก่ก่ารป็ฏ�ร�ป็เศรษฐก่�จ ส�งคืม ออก่จาก่ป็ระชาธ�ป็ไตยก่ารเม�อง

Louis Blounc

ส�งคืมน�ยมเศรษฐก่�จ ส�งคืมและก่ารเม�อง- Karl Marx (1818-1883) / Friedrich Engels (1820-1895)- Vladimir Ilyich Lenin (1870-1924) (Leninism) Joseph Stalin (1879-

1953) (Stalinism)

- Mao Zedong (Mao Tse-Tung) (1893-1976) (Maoism)

ภายหล�งก่ารป็ฏ�ว่�ต�ฝ่ร��งเศส (French Revolution) คื.ศ.1789 ฝ่Eายเสร�น�ยมเห8นว่�าเป็ นก่ารส��นส&ด้ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงแล�ว่ แต�ผลของอ&ด้มก่ารณ�เสร�น�ยมที่��อาศ�ยที่&นน�ยมเป็ นก่ารจ�ด้ระเบ�ยบที่างเศรษฐก่�จ และใช�ป็ระชาธ�ป็ไตยในก่ารป็ก่คืรอง ที่�าให�เก่�ด้คืว่ามไม�เที่�าเที่�ยมก่�น (นายที่&น-ก่รรมก่ร) เก่�ด้ขบว่นก่ารส�งคืมน�ยมก่ล&�มต�างๆ ในย&โรป็ เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�เพื่��มเต�ม

Bebeuf ได้�ก่ล�าว่ว่�า ย&ต�ได้�แล�ว่ที่��คืนไม�ถึ-ง “ 1 ล�านคืน ถึ�อก่รรมส�ที่ธ�Lของคืนก่ว่�า 20

ล�านคืน คืว่ามแตก่ต�างระหว่�างมน&ษย�ขอให�ม�เพื่�ยงอาย&และเพื่ศ ส��งที่��มน&ษย�ต�องก่าร คื�อ สมรรถึภาพื่ ม�ก่ารศ-ก่ษาอย�างเด้�ยว่ก่�น อาหาร มน&ษย�พื่อใจก่�บด้ว่งอาที่�ตย�ด้ว่งหน-�งที่��ให�แสงสว่�างแก่�ที่&ก่คืน พื่อใจก่�บอาก่าศที่��ที่&ก่คืนสามารถึหายใจได้� แต�ที่�าไมจ�านว่นอาหารอย�างเด้�ยว่ก่�นจ-งไม�พื่อส�าหร�บมน&ษย�ที่&ก่คืน”

Robert Owen นายที่&นผ��ใจบ&ญ่- ไม�ได้�เสนอให�ยก่เล�ก่ก่รรมส�ที่ธ�Lในที่ร�พื่ย�ส�น แต�เสนอให�ต� �งสหก่รณ� เพื่��อส�ง

เสร�มป็%จจ�ยก่ารผล�ตร�ว่มก่�น- เห8นว่�าคืว่รยก่เล�ก่ก่ารแข�งข�น เอาร�ด้เอาเป็ร�ยบ คืว่รจะห�นมาร�ว่มม�อก่�น

อย�างเต8มต�ว่- โจมต�คืว่ามไม�เที่�าเที่�ยมก่�นเก่��ยว่ก่�บรายได้�และที่ร�พื่ย�ส�น- มองเห8นคืว่ามที่&ก่ข�ยาก่ของคืนงาน จ-งต�องก่ารเป็ล��ยนแป็ลงคืว่ามเป็ นอย��

ของก่รรมก่ร โด้ยม�แนว่คื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ 4 ข�อ คื�อ1) ร�ฐต�องหาคืว่ามคื&�มคืรองให�ก่รรมก่ร เง��อนไขเก่��ยว่ก่�บช�ว่�ตเหมาะสม

คื�าตอบแที่นย&ต�ธรรม ม�ส&ขล�ก่ษณะที่��ด้�2) คืนงานม�ส�ที่ธ�พื่�ฒนาบ&คืล�ก่ภาพื่เฉพื่าะตนและก่ารศ-ก่ษา3) จ�ด้ต��งชนช��นสหก่รณ� สมาช�ก่สามารถึแลก่เป็ล��ยนผลผล�ตก่�น

สมาช�ก่แต�ละคืนต��งคื�าผล�ตผล เป็ นช��ว่โมงแรงงานในก่ารผล�ต

Page 41: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

4) เสนอจ�ด้ต��งชนช��นที่ร�พื่ย�ส�นในร�ป็สหก่รณ� สมาช�ก่เป็ นที่��งก่รรมก่รและก่ส�ก่รใช�ก่รรมส�ที่ธ�Lร �ว่มก่�น

Saint Simon ม�แนว่คืว่ามคื�ด้ที่างส�งคืมน�ยม 2 ป็ระก่าร คื�อ1. ป็%จจ�ยที่างเศรษฐก่�จก่�าหนด้ส�งคืมและก่ารป็ก่คืรอง เป็ล��ยนแป็ลงก่าร

คืว่บคื&มที่ร�พื่ยาก่รของร�ฐ2. ว่�เคืราะห�โคืรงสร�างชนช��น สงคืราม ข&นนาง ที่หาร เป็ นอภ�ส�ที่ธ�Lชนเอา

เป็ร�ยบชาว่นาและผ��ผล�ต ส�งคืมอ&ตสาหก่รรมที่�าให�เก่�ด้ส�งคืมของคืนที่�างาน จ-งถึ-งเว่ลาที่��เหล�านายจ�าง ข&นนาง ที่หารและพื่ว่ก่ที่��ไม�ที่�างานจะหมด้ไป็เส�ยที่�

Charles Fourier ม�ช�ว่�ตในระบบอ&ตสาหก่รรมในเม�อง Lyon ป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส เห8นคืว่ามที่&ก่ข�ยาก่ของคืนใก่ล�ช�ด้ ได้�โจมต�ระบบที่&นน�ยม 2 ข�อ คื�อ

1. ระบบอ&ตสาหก่รรมเจร�ญ่ข-�นมาได้�ด้�ว่ยคืว่ามยาก่จนของก่รรมก่ร จ-งเก่ล�ยด้ช�งพื่�อคื�า และก่ารเอาเป็ร�ยบของพื่�อคื�าที่��ชอบซึ่��อถึ�ก่ ขายแพื่ง

2. เสร�น�ยมที่างเศรษฐก่�จที่�าให�เก่�ด้ภาว่ะต�ว่ใคืรต�ว่ม�น ส�งคืมต�องที่&ก่ข�ยาก่ จ�ก่ต�องป็ฏ�ร�ป็ส�งคืมด้�ว่ยก่ารสร�างส�งคืมเล8ก่ๆ ที่��ด้�พื่ร�อมเส�ยก่�อน

Pierre Joseph Proudhon ป็%จจ�ยพื่��นฐาน คื�อ เศรษฐก่�จ ก่ารแก่�ป็%ญ่หาส�งคืม คื�อ ก่ารป็ฏ�ว่�ต�เศรษฐก่�จ โจมต�อ�านาจที่&ก่อ�านาจ ซึ่-�งเป็ นเจตจ�านงของพื่ว่ก่ราชก่าร อาณาจ�ก่ร ศาสนจ�ก่ร เน�นคืว่ามเสมอภาคื เสร�ภาพื่ อ�นจะที่�าให�เก่�ด้ ภราด้รภาพื่ (ร�ก่ใคืร�ก่�นฉ�นพื่��น�อง) เป็ นก่ารน�าไป็ส��คืว่ามสมด้&ลของที่��งสามส��ง

Louis Blounc ม�คืว่ามคื�ด้ส�งคืมน�ยมป็ฏ�ร�ป็ คื�อ เล�ก่ล�มก่ารแข�งข�น แล�ว่ห�นมาสร�างโรงงานส�งคืมก่รรมก่รจะเป็ นเจ�าของเคืร��องม�อก่ารผล�ต ให�ก่รรมก่รที่��ม�ก่ารศ-ก่ษาเป็ นเจ�าของก่�อน ระยะแรก่ โรงงานน��ได้�ที่&นจาก่ร�ฐและนายที่&น ให�โรงงานส�งคืมผล�ตแข�งข�นก่�บร�ฐว่�สาหก่�จ แล�ว่ส&ด้ที่�ายก่8จะชนะ โรงงานส�งคืมจะเก่�ด้ข-�นมาก่มายคืรอบคืล&มเศรษฐก่�จที่��งหมด้ และเป็ นก่ารย&ต�ก่ารแข�งข�น

Karl Marx - เป็ นชาว่เยอรม�น เช��อสายย�ว่- เป็ นน�ก่ป็ระว่�ต�ศาสตร� ก่ฎีหมาย ป็ร�ชญ่า แต�ยาก่จน - เร��มต�นเป็ นน�ก่หน�งส�อพื่�มพื่�ห�ว่ก่�าว่หน�า - ในป็B 1843 อย��ที่�� Paris ได้�พื่บล�ก่ษณะม�ลฐานที่างเศรษฐก่�จ

Page 42: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- ป็B 1845 ถึ�ก่ข�บไล�ออก่จาก่ฝ่ร��งเศส ไป็ย�งก่ร&ง Brussel ร�ว่มม�อก่�บ Friedrich

Engels คืนตระก่�ลร��ารว่ยไป็ต��งหล�ก่ที่��ป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ- Marxism ม�แก่นคืว่ามคื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ 2 ต�ว่ คื�อ

1) ว่�ภาษว่�ธ�ว่�ตถึ&น�ยม (Dialectical Materialism)

2) ป็ระว่�ต�ศาสตร�ว่�ตถึ&น�ยม (Historical Materialism)

ใช�หล�ก่ว่�เคืราะห�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงส�งคืม ว่�ธ�คื�ด้ของ Marx อาจเร�ยก่ได้�ว่�าเป็ น ส�งคืมน�ยมว่�ที่ยาศาสตร� ซึ่-งก่�อนหน�าน��นล�ว่นเป็ นส�งคืมน�ยมแบบอ&ด้มคืต�ที่��งส��น

สาระส�าค�ญของว�ติถ2นื้�ยม ว�ติถ2นื้�ยม หมายถึ-ง โลก่ที่างว่�ตถึ&เที่�าน��นที่��เป็ นจร�ง และเป็ นป็%จจ�ย

ก่�าหนด้ส��งต�างๆ แม�แต�มโนธรรม ศ�ลธรรม อ&ด้มก่ารณ� ก่8เป็ นผล�ตผลของสมองซึ่-�งเป็ นว่�ตถึ&

ทฤษฎี*แห1งร�ฐของมาร�กซ้�สติ� (The Marxist Theory of the State)

Marx คื�ด้ว่�าส�งคืมสม�ยใหม�ป็ระก่อบด้�ว่ยชนช��นหน-�ง (นายที่&น) อย��เหน�ออ�ก่ชนช��นหน-�ง (คืนที่�างาน) เหต&ที่��คืว่ามต-งเคืร�ยด้ซึ่-�งสร�างข-�นโด้ยก่ารม�อ�านาจเหน�อก่ว่�า ที่�าให�คืนที่�างานต�องถึ�ก่คืว่บคื&ม และน��คื�อเหต&ผลว่�าร�ฐจ-งเป็ นส��งที่��ต�องก่าร ร�ฐจะคือยคืว่บคื&มคืนที่�างานให�อย��ภายใต�ก่ารคืว่บคื&มบางส�ว่นด้�ว่ยก่�าล�ง (ต�ารว่จ) และบางส�ว่นด้�ว่ยจ�งใจให�เข�าก่�บระบบที่��เป็ นอย��ในโรงเร�ยน และอ��นๆ ซึ่-�งสถึานก่ารณ�ขณะน��ย�งด้�อย��

แต�แล�ว่ในที่��ส&ด้คืนที่�างานจะป็ฏ�ว่�ต� และต��งระบบส�งคืมน�ยม ซึ่-�งชนช��นหน-�งจะไม�ม�อ�านาจเหน�อชนช��นหน-�ง และในที่��ส&ด้ร�ฐจะไม�ม�คืว่ามจ�าเป็ นอ�ก่ต�อไป็และสลายต�ว่ไป็เอง

แ ร ง ง า น ถึ� ก่ ก่ ด้ ข�� ต�องก่ารเร�ยก่ร�องคืว่ามเที่� า เที่�ยมก่�น อยาก่ม�

ก่ลายเป็ นย&คืที่&นน�ยม พื่ ว่ ก่ น า ย จ� า ง ห ร� อนายที่&นม�อ�านาจมาก่

ไ พื่ ร�ต� ด้ ที่�� ด้� น เ ร��มก่ ล า ย เ ป็ น ช น ช�� นก่ฎุKมพื่� รว่มที่��งพื่ว่ก่พื่�อคื� า ต� องก่าร ม�อ�านาจที่างก่ารเม�อง

ส� ง คื ม ที่�� ข& น น า ง หร�ออ�ศว่�นอ�านาจเป็ นเจ�าของที่��ด้�นในย&คื Feudalism Anti-Thesis 2Conflict

Conflict

Synthesis 2(Thesis 3)

Synthesis(Thesis 2)

Anti-ThesisThesis

เก่�ด้ก่ารป็ฏ� ว่�ต� ชน ช��นก่รรมาช�พื่ และก่�าว่ส��ย&คืคือมม�ว่น�สต�

ว�ภูาษว�ธ* คื�อ ที่ฤษฎี� / Model / ก่ระบว่นก่าร ที่��อธ�บายโลก่ว่�ตถึ&ว่�า

Marxism: Dialectical Materialism

Page 43: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คืนในระบบ

ชนช��นก่รรมาช�พื่ม�อ�านาจก่ารผล�ต อ�านาจก่ารเม�อง เป็ นเจ�าของป็%จจ�ย ข-�นมาเป็ นชนช��นป็ก่คืรองในระยะแรก่ ใช�ก่�าล�งย-ด้ก่ารผล�ตของนายที่&นมาเป็ นของร�ฐ เพื่��มก่ารผล�ตเร8ว่ที่��ส&ด้ แจก่จ�ายตามคืว่ามจ�าเป็ นแต�ระบบน��ข�ด้แย�งก่�บธรรมชาต�ของมน&ษย�ที่��ต�องม�แรงจ�งใจ คื�อ ที่�ามาก่

เก่�ด้คืว่ามข�ด้แย�ง นายที่&น ก่รรมก่ร–

นายที่&น ก่รรมก่ร ถึ�ก่ก่ด้ข��คื�าแรง และสว่�สด้�ก่ารต��งต�ว่ไม�ได้� และ–

เร��มคื�ด้หาเคืร��องที่&นแรง เก่�ด้ระบบก่ารคื�าเสร�

ห�ตถึก่รรม

ที่าสอยาก่เป็ นไที่ เร��มม�เที่คืโนโลย� แรงงาน แรงลม ใน

เป็ นส�งคืมโบราณ ย�งไม�ม�ระบบคืรอบคืร�ว่ หาอะไรมาได้�ก่8

เผด้8จก่ารชนช��น

ที่&นน�ยม

ศ�ก่ด้�นา

ที่าส

บรรพื่ก่าล

โครงสร.างส1วนื้บนื้

ว�ว�ฒินื้การของส�งคม

โครงสร.างพิ�นื้ฐานื้

ว�ภูาษว�ธ* คื�อ ที่ฤษฎี� / Model / ก่ระบว่นก่าร ที่��อธ�บายโลก่ว่�ตถึ&ว่�า

Page 44: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

แต�ในที่��ส&ด้ เผด้8จก่ารส�งคืมน�ยมเส�� อมถึอยลง ไม�สามารถึไป็ส��ส�งคืมคือมม�ว่น�สต�ได้� เพื่ราะ

1. ร�ฐเผด้8จก่ารชนช��นก่รรมาช�พื่ต�องสร�างคืว่ามเป็ นร�ฐที่��แข8งแก่ร�งต�อส��ส�งคืมน�ยม และส�งคืมอ��น จนก่ลายเป็ น สงคืรามเย8น“ ”

2. ส�งคืมแบบน��ม�ร�ฐบาลเป็ นระบบราชก่ารขนาด้ใหญ่� ผ��น�าของป็ระเที่ศเหล�าน��เม��อถึ-งจ&ด้หน-�งก่8ก่ลายเป็ นพื่ว่ก่อน&ร�ก่ษ�น�ยม ร�ก่ษาอ�านาจของตนเอง

3. ก่ว่�าจะบรรล&เป็ นส�งคืมคือมม�ว่น�สต� ก่ารผล�ตต�องม�มาก่พื่อ

สร2ปหลั�กอ2ดมการณ�ส�งคมนื้�ยม- คืว่ามเสมอภาคื / มน&ษย�น�ยม (ก่ารคื�าน-งถึ-งศ�ก่ยภาพื่ตามธรรมชาต�ของ

มน&ษย� ศ�ก่ด้�Lศร�ของคืน)

- Collectivism ที่ร�พื่ย�ส�นเป็ นของส�ว่นรว่ม- Active / Interventionist Government ร�ฐบาลเช�งร&ก่และเข�า

แที่รก่แซึ่งเศรษฐก่�จและก่ารผล�ตMarxist Socialism

- ก่ารก่ด้ข��เอาร�ด้เอาเป็ร�ยบระหว่�างชนช��น / คืว่ามข�ด้แย�งที่างชนช��นในระบบที่&นน�ยม

- ร�ฐเป็ นเคืร��องม�อที่างชนช��น (Marxism ต�อต�านอ�านาจร�ฐ)

- ก่ารป็ฏ�ว่�ต�โด้ยชนช��นก่รรมาช�พื่- The state will wither away ร�ฐจะสลายต�ว่ไป็ เม��อเป็ นส�งคืม

คือมม�ว่น�สต�

ระบบเศรษฐก�จัส�งคมนื้�ยม (Social Economic)

- Collective Ownership: ป็%จจ�ยก่ารผล�ตเป็ นของส�ว่นรว่ม

คืนในระบบ

Page 45: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- Central Planning: ใช�ระบบก่ารว่างแผนจาก่ส�ว่นก่ลางในก่ารผล�ต แจก่จ�ายส�นคื�า แที่นก่ลไก่ราคืา ก่ลไก่ตลาด้

เผู้ด<จัการชั้าติ�นื้�ยม (Fascism & Nazism)

- เป็ นล�ที่ธ�ก่ารเม�องของพื่ว่ก่เผด้8จก่าร (ฝ่Eายขว่า)- เก่�ด้จาก่จ�ตว่�ที่ยาของผ��แพื่� / ป็%ญ่หาส�งคืม- สร�างคืว่ามหลงใหลในชาต� / ผ��น�า- ไม�ม�สาระ / พื่ว่ก่ฉว่ยโอก่าส (อาศ�ยป็%ญ่หาส�งคืมเป็ นเคืร��องม�อ)

- ต�อต�านที่&ก่ระบอบโด้ยเฉพื่าะ Communism (และอ�างว่�าพื่ร�อมที่��จะเป็ นก่ารป็ก่คืรองที่&ก่ร�ป็แบบ)

- ที่ฤษฎี�ชนช��นน�า ถึ�อว่�าส�งคืมที่&ก่ส�งคืม ต�องม� ผ��น�า “ ” (ชนก่ล&�มน�อย แต�ม�คื&ณสมบ�ต�ที่��ด้�ก่ว่�า เป็ นผ��ป็ก่คืรอง– ) ก่�บ ผ��ตาม “ ” (มว่ลชน)

- Fascism (Italy) – Benito Mussolini (1883-1945)- Nazism (Germany) – Adolf Hitler (1889-1945)

ลั�ทธ�ฟูาสซ้�สติ� (Fascism)

- สนใจสร�างร�ฐให�ม�อ�านาจแข8งแก่ร�ง ที่&ก่ชนช��นเป็ นหน-�งเด้�ยว่ก่�น- ขบว่นก่ารที่างจ�ตใจที่��ข�ด้ก่�บ Marxism (ย-ด้ต�ด้อย��ก่�บก่ารต�อส��ระหว่�างชนช��น ไม�

สนใจเอก่ภาพื่ของร�ฐ)

- ไม�ใช�ล�ที่ธ�แห�งเหต&ผล:

คืรอบคืร�ว่ / ชาต� / ป็ระเพื่ณ� ระเบ�ยบว่�น�ย เยาว่ชน / คืว่ามแข8งแก่ร�งของร�างก่าย / เที่�ด้ที่�นว่�รบ&ร&ษ ส�ญ่ล�ก่ษณ� / ก่ารป็ระด้�บป็ระด้า เช��อผ��น�าอย�างหลงใหล(ส��งเหล�าน��ป็ล&ก่เร�าอคืต� ที่�าให�เก่�ด้ก่ารเป็ นชาต�)

- ป็ฏ�เสธคืว่ามเสมอภาคื (ถึ�อว่�าคืว่ามไม�เสมอภาคื เป็ นส��งที่��แก่�ไขไม�ได้� และเป็ นป็ระโยชน�ต�อมน&ษยชาต�)

คืว่ามอย��เหน�อของผ��ป็ก่คืรอง- เที่�ด้ที่�นร�ฐ ร�ฐคืรอบคืล&มที่&ก่ส��งที่&ก่อย�าง ร�ฐเป็ นเคืร��องม�อของคืว่ามแข8งแรง

หล�ก่ป็ระก่�นเป็ นส��งที่��อ�อนแอลั�ทธ�นื้าซ้* (Nazism)

- อาจเร�ยก่ว่�า National Socialism

- ล�ที่ธ�เช��อชาต�น�ยม (Racism) / ต�อต�านคืนย�ว่- Hitler: ก่ารต�อส�� เช��อชาต� คืว่ามไม�เสมอภาคื

Page 46: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Hitler เช��อว่�า อารย�นเป็ นเช��อชาต�ส�งส&ด้อย��เหน�อเช��อชาต�อ��นๆ ต�องร�ก่ษาคืว่ามบร�ส&ที่ธ�L คืว่ามเส��อมของอารย�นเก่�ด้จาก่ก่ารไป็ผสมเล�อด้ก่�บเช��อชาต�ที่��อ�อนแอก่ว่�า

- ร�ฐเป็ นเคืร��องม�อแห�งผ��น�า / เช��อชาต�ส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้ (ข�ด้ก่�บหล�ก่ส�นต�ภาพื่ หล�ก่สาก่ลน�ยม ป็ระชาธ�ป็ไตย)

ธ�ารงร�ก่ษา / ป็ร�บป็ร&งเช��อชาต� ก่ารขยายอาณาจ�ก่ร ก่ารคืรอบง�าของเช��อชาต�อารย�น–

ร�ฐต��งอย��บนพื่�� นฐานของคืว่ามศร�ที่ธาต�อผ��น�า ร�ฐไม� ได้�ม�เก่�ยรต�คื&ณ แต�เป็ นเพื่�ยงก่ารร�ก่ษาคืว่ามบร�ส&ที่ธ�L และเอก่ภาพื่ของเช��อชาต�

ลั�กษณะส�าค�ญของระบบการเม�อง

ระบบการปกครอง

อ�านาจน�ยม

เบ8ด้เสร8จซึ่�าย:

เผด้8จก่ารที่หาร

เผด้8จก่าร

อ�านาจ (ร�ฐ) น�ยม เสร�ภาพื่ (บ&คืคืล)

ป็ระชาธ�ป็ไตย

แบบแบบผสมแบบร�ฐสภาอ�านาจ อ�านาจ

เผด้8จก่าร

ระบบก่ารเม�อง

ระบบก่ารเม�อง

เป็Aาหมายอ&ด้มก่ารณ�

หล�ก่ก่ารส�าคื�ญ่ (Principal)

องคื�ก่าร (Organization)

ร�ป็แบบโคืรงสร�าง

Page 47: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ระบอบอ�านื้าจันื้�ยม (Authoritarianism)

- ผ��ป็ก่คืรองม�อ�านาจเหน�อผ��อย��ใต�ก่ารป็ก่คืรอง- ก่ารใช�อ�านาจของผ��ป็ก่คืรองเป็ นไป็โด้ยอ�าเภอใจ ไม�ม�ขอบเขตหร�อก่ารคืว่บคื&มจาก่

ภายนอก่ (ไม�ม�สถึาบ�นใด้คืว่บคื&มได้�)- ผ��ป็ก่คืรอง ร�ฐ ก่ลไก่ร�ฐ ก่ารคืว่บคื&มบ&คืคืล ก่ล&�ม และส�งคืม- จ�าก่�ด้เสร�ภาพื่ / ก่ารม�ส�ว่นร�ว่มที่างก่ารเม�อง เน�นก่ารเช�� อฟิ%งและคืว่ามสงบ

เร�ยบร�อย- ใช�ก่ระบว่นก่ารที่างก่ารก่ฎีหมายอย��บ�าง

ระบอบเผู้ด<จัการเบ<ดเสร<จั (Totalitarianism)

- อ�านาจส�งส&ด้เด้8ด้ขาด้อย��ที่��พื่รรคื / ผ��น�า / องคื�ก่รน�า- ม�ก่ารป็ล�ก่ฝ่%งอ&ด้มก่ารณ�ของร�ฐ- คืว่บคื&มส�งคืม เศรษฐก่�จ ก่ารเม�อง ว่�ถึ�ช�ว่�ตที่&ก่ด้�าน- ม�ก่ารระด้มพื่ล�งป็ระชาชนเป็ นระยะๆ- ไม�เป็=ด้โอก่าสให�ม�อ&ด้มก่ารณ�อ��นใด้- เช��ออย�างคืล��งไคืล� / ผ�ก่พื่�นที่างจ�ตใจ

ความแติกติ1างระหว1างเผู้ด<จัการ 2 แบบ

ป็ระธานาธ�

แบบผสม

ร�ฐสภา

ป็ระชาธ�ป็ไตยแบบส�งคืมน�ยม / ป็ระชาธ�ป็ไตย

ป็ระชาธ�ป็ไ

Page 48: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Authoritarianism Totalitarianism

1. คืว่บคื&มเฉพื่าะที่างก่ารเม�อง2. เสร�ภาพื่ที่างศาสนา ธ&รก่�จ ก่ารรว่มต�ว่

ก่�นเป็ นสมาคืม3. ใช�ก่ฎีหมายและก่ระบว่นก่ารย&ต�ธรรม

บางส�ว่น4. ไม�เป็ นป็ฏ�ป็%ก่ษ�ก่�บร�ฐ

1. คืว่บคื&มที่��งก่ารเม�อง เศรษฐก่�จ และส�งคืม

2. คืว่บคื&มสถึาบ�นที่างศาสนา ธ&รก่�จและสมาคืม

3. ร�ฐ / ผ��น�า / อ&ด้มก่ารณ� ส�าคื�ญ่ก่ว่�าก่ฎีหมาย

4. ป็ฏ�บ�ต�ตามคื�าส��ง / แสด้งคืว่ามจงร�ก่ภ�ก่ด้� ที่��งก่ารก่ระที่�าและจ�ตใจ

Page 49: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

บทท*+ 5การเม�องการปกครองเปร*ยบเท*ยบ

ในบที่น�� เราจะศ-ก่ษาล�ก่ษณะก่ารป็ก่คืรองของป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ สหร�ฐอเมร�ก่า และฝ่ร��งเศส เพื่��อเป็ นแนว่ที่างที่�าคืว่ามเข�าใจเก่��ยว่ก่�บล�ก่ษณะก่ารป็ก่คืรองของป็ระเที่ศไที่ยในป็%จจ&บ�นที่��น�าล�ก่ษณะก่ารป็ก่คืรองของป็ระเที่ศต�างๆ เข�ามาป็ร�บป็ร&งในก่ารร�างร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�น (พื่.ศ.2540)

การปกครองประเทศอ�งกฤษ : ระบบร�ฐสภูาร�ฐธรรมน�ญ่อ�งก่ฤษเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ไม�ม�ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษร แต�ก่ระจ�ด้ก่ระจายอย��ใน

ร�ป็แบบต�างๆ ก่�นในร�ป็ของพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ต�างๆ บ�าง เช�น พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ว่�าด้�ว่ยส�ที่ธ�มน&ษยชน ป็B คื.ศ.1689 พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ส�บส�นตต�ว่งศ� ป็B 1701 เป็ นต�น หร�อในร�ป็ของข�อตก่ลงและขนบธรรมเน�ยม เช�น ก่ารจ�ด้ต��งคืณะร�ฐมนตร�ไม�ม�ก่ฎีหมายฉบ�บไหนบ�งบอก่ให�ม�ก่ารจ�ด้ต��ง แต�คืณะร�ฐมนตร�ว่�ว่�ฒนาก่ารจาก่ภาคืป็ฏ�บ�ต�จนก่ลายเป็ นขนบธรรมเน�ยมที่��ยอมร�บก่ก่�นมาเก่�อบ 300 ป็Bแล�ว่

ร�ฐธรรมน�ญ่ของอ�งก่ฤษ จ-งเป็ นเร��องราว่ของว่�ว่�ฒนาก่ารของป็ระว่�ต�ศาสตร�ก่ารเม�อง เก่�ด้ข-�นหร�อเป็ นผลล�พื่ธ�ของก่ระบว่นก่ารร�ว่มม�อ และก่ารข�ด้แย�งระหว่�างพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�และข&นนาง และก่ว่�าจะเข�าร�ป็เข�ารอยด้�งเช�นป็%จจ&บ�นก่8ต�องผ�านสงคืรามป็ฏ�ว่�ต�ถึ-ง 2

คืร��งใหญ่�ในศตว่รรษที่�� 17 และย�งจะต�องม�ก่ารป็ฏ�ร�ป็ก่�นขนานใหญ่�ในศตว่รรษที่�� 19 และ 20 ถึ-งจะป็ระก่ฎีในร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรองแบบป็ระชาธ�ป็ไตยด้�งที่��ป็ราก่ฏ ก่ารต�อส��ด้��นรนระหว่�างข&นนางอ�งก่ฤษและมหาก่ษ�ตร�ย�ในอด้�ต เป็ นก่ารต�อส��เพื่��อป็ก่ป็Aองผลป็ระโยชน�ของก่ล&�มชนช��นของตนเองและตามแนว่คืว่ามคื�ด้เช��อถึ�อตามล�ที่ธ�ศาสนา แต�ผลของก่ารต�อส��เร��องน��ช�ก่น�า ให�เก่�ด้ระบบก่ารป็ก่คืรองที่��ก่ลายเป็ นพื่�� นฐานของระบบก่ารป็ก่คืรองป็ระชาธ�ป็ไตยในสม�ยต�อมา

ก่ารป็ก่คืรองของอ�งก่ฤษม�ได้�ม�ก่ารแบ�งแยก่อ�า นาจอธ�ป็ไตยออก่เป็ น อ�า นาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� อ�านาจบร�หาร และอ�านาจต&ลาก่าร ในล�ก่ษณะที่��ช�ด้เจน

หลั�กการปกครองโดยกฎีหมาย (Rule of Law)

หล�ก่ก่ารป็ก่คืรองโด้ยก่ฎีหมายของอ�งก่ฤษ เป็ นหล�ก่ที่��ม�คืว่ามหมาย 3 ป็ระก่าร คื�อ1. ต�องไม�ใช�ก่�าล�งป็ก่คืรอง ต�องใช�ก่ฎีหมายป็ก่คืรอง ป็ระชาชนต�องเคืารพื่

ก่ฎีหมาย

Page 50: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. คืนอ�งก่ฤษถึ�ก่ป็ก่คืรองโด้ยก่ฎีหมายและโด้ยก่ฎีหมายเที่�าน��น ก่ารจะลงโที่ษหร�อจ�บก่&มคืนอ�งก่ฤษโด้ยป็ราศจาก่ก่ารไต�สว่นตามก่ระบว่นก่ารของก่ฎีหมายและโด้ยไม�ม�คืว่ามผ�ด้ตามที่��ระบ&ไว่�ในก่ฎีหมายจะก่ระที่�าม�ได้�

3. อ�านาจของพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�และร�ฐมนตร�น��นม�ต�นก่�า เน�ด้มาจาก่พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ของร�ฐสภา

ที่��งน�� ป็ระเที่ศอ�งก่ฤษย�งม�หล�ก่ก่ารจ�าก่�ด้อ�านาจของก่ษ�ตร�ย� หร�อผ��ป็ก่คืรองน��ก่�บหล�ก่ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ส�ว่นบ&คืคืล เป็ นหล�ก่ป็ระก่�นให�เก่�ด้ระบบเผด้8จก่าร ซึ่-�งมาจาก่ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ที่��ร& �งโรจน� ป็B คื.ศ.1688 โด้ยได้�ก่�าหนด้ไว่�ในพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ว่�าด้�ว่ยส�ที่ธ�มน&ษยชน (The Bill of Rights) ป็B คื.ศ.1689 และพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�น��ได้�ก่�าหนด้ข�อจ�าก่�ด้ของอ�านาจพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่��จะก่ระที่�าก่ารใด้ๆ โด้ยไม�ป็ร-ก่ษาร�ฐสภาไม�ได้�

หลั�กอ�านื้าจัส"งส2ดของร�ฐสภูา (Supremacy of Parliament)

อ�านาจส�งส&ด้หร�ออธ�ป็ไตยเป็ นของร�ฐสภา หมายคืว่ามว่�า ร�ฐสภาม�ส�ที่ธ�ที่��จะออก่ก่ฎีหมาย หร�อยก่เล�ก่ก่ฎีหมายใด้ๆ ก่8ได้� และไม�ม�ผ��ใด้ในอ�งก่ฤษที่��จะเพื่�ก่เฉย หร�อละเม�ด้ต�อก่ฎีหมายของร�ฐสภา หล�ก่ของอ�านาจส�งส&ด้ของร�ฐสภาน��หมายคืว่ามว่�า ในระบบก่ารป็ก่คืรองของอ�งก่ฤษ อธ�ป็ไตยอย��ที่��องคื�ก่รร�ฐสภาอ�นป็ระก่อบด้�ว่ย สภาข&นนาง สภาผ��แที่น และพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย� ฉะน��น แม�ว่�าจะม�ก่ารแบ�งหน�าที่��ก่�นที่�า คื�อ คืณะร�ฐมนตร�ในฐานะเป็ นคืณะร�ฐบาลของพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่�าหน�าที่��บร�หาร แต�อ�านาจส�งส&ด้อย��ที่��ร �ฐสภา ซึ่-�งสามารถึคืว่บคื&มก่ารป็ฏ�บ�ต�งานของคืณะร�ฐมนตร� ตลอด้จนสามารถึที่�าหน�าที่��เป็ นศาลส�งส&ด้ด้�ว่ย ก่ารที่�าหน�าที่��เป็ นศาลส�งน��นเป็ นบที่บาที่ในส�ว่นของสภาข&นนาง (House of Lords)

ร�ฐธรรมน�ญ่อ�งก่ฤษน��นจ-งไม�ได้�แบ�งแยก่อ�านาจอธ�ป็ไตย แต�เป็ นก่ารแบ�งบที่บาที่หน�าที่�� ฉะน��นจ-งม�ก่ระบว่นก่าร รวมอ�านื้าจัไว.ท*+ร�ฐสภูา (Fusion of Power) แต�ก่8ม�สายส�มพื่�นธ�เช��อมโยงก่�นที่��เร�ยก่ว่�า Organic Link โด้ยสถึาบ�นร�ฐสภา

ก่ารที่��ร �ฐสภาอ�งก่ฤษว่�ว่�ฒนาก่ารในร�ป็น�� เป็ นเร��องของเหต&ก่ารณ�ในป็ระว่�ต�ศาสตร�ม�ได้�ม�คืว่ามจงใจจะให�เก่�ด้ระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยแต�อย�างใด้ อ�านาจของร�ฐสภาม�เพื่��มข-�นจาก่เด้�มเป็ นเพื่�ยงให�คืว่ามร�ว่มม�อในก่ารเพื่��มภาษ�ของพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย� ต�อมาก่ลายเป็ นผ��ให�คืว่ามเห8นชอบ ต�อมาอ�ก่ร�ฐสภาก่8เร��มม�อ�านาจในด้�านออก่ก่ฎีหมาย ซึ่-�งเร��มต�นเป็ นก่ารตราก่ฎีหมาย เพื่��อแก่�ไขขจ�ด้ข�อเด้�อด้ร�อนของป็ระชาชนเที่�าน��น ต�อมาขยายไป็เป็ นอ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ที่��ว่ไป็

ส�ว่นต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร� มาจาก่ารที่��พื่ระเจ�ายอร�จที่�� 1 (George I) แห�งราชว่งศ� Hannover ซึ่-�งที่รงได้�ร�บก่ารเช�ญ่ให�มาป็ก่คืรองป็ระเที่ศอ�งก่ฤษในช�ว่ง คื.ศ.1715 ซึ่-�งราชว่งศ�น��มาจาก่เยอรม�นน� พื่ระองคื�จ-งที่รงไม�เข�าใจภาษาอ�งก่ฤษ ได้�ที่รงมอบหมายงานก่ารป็ระช&มสภาเสนาบด้�ให�แก่� เซึ่อร�โรเบ�ร�ต ว่อลโป็ล ที่�าหน�าที่��เป็ นป็ระธาน น��คื�อจ&ด้ก่�าเน�ด้ของต�าแหน�ง นื้ายกร�ฐมนื้ติร* ซึ่-�งตอนน��น เซึ่อร�โรเบ�ร�ต ว่อลโป็ล ได้�ร�บสมญ่านามภายหล�งว่�า “Primus Inter

Page 51: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Pares” หร�อ First among Equals คื�อ ผ��อ�นด้�บ 1 ในจ�านว่นผ��ที่��เที่�าก่�น น��นคื�อต�าแหน�ง Prime Minister

ซึ่-�งเป็ นช��อเร�ยก่สม�ยต�อมา ในก่ารคื�ด้เล�อก่ร�ฐมนตร�ก่8คื�ด้เล�อก่จาก่บ&คืคืลที่��จะได้�ร�บเส�ยงสน�บส�ว่นใหญ่�จาก่ร�ฐสภา น��คื�อจ&ด้เร��มต�นระบบคืณะร�ฐมนตร� ซึ่-�งเป็ร�ยบเสม�อนคืณะก่รรมก่ารของร�ฐสภาที่��สมาช�ก่เล�อก่ข-�นมา เพื่��อที่�ลเก่ล�า ให�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�แต�งต��ง

ผลของก่ารป็ฏ�บ�ต�ด้�งก่ล�าว่ ได้�ก่ลายเป็ นธรรมเน�ยมป็ฏ�บ�ต�ในสม�ยต�อๆ มา สม�ยน��ธรรมเน�ยมป็ฏ�บ�ต�จะก่�าหนด้ให�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�แต�งต��งบ&คืคืลที่��เป็ นห�ว่หน�าพื่รรคืที่��ได้�ร�บเส�ยงข�างมาก่ในร�ฐสภา และเม��อนายก่ร�ฐมนตร�คืนไหนไม�ได้�ร�บคืว่ามไว่�ว่างใจจาก่ร�ฐสภา ก่8จะต�องเช�ญ่ห�ว่หน�า ฝ่Aายค.านื้ ซึ่-�งได้�ร�บเส�ยงส�ว่นมาก่เข�าจ�ด้ต��งร�ฐบาลแที่น และร�ฐบาลต�องร�บผ�ด้ชอบร�ว่มก่�นต�อนโยบาย หาก่ผ��ใด้ไม�เห8นชอบด้�ว่ยก่�บนโยบาย ติ.องลัาออก ขณะเด้�ยว่ก่�นก่8ว่�พื่าก่ษ�ว่�จารณ�นโยบายของคืณะร�ฐมนตร�ไม�ได้� ขนบธรรมเน�ยมน��คื�อยๆ ว่�ว่�ฒนาก่ารมาจาก่ภาคืป็ฏ�บ�ต� ซึ่-�งเม��อม�ร�ฐมนตร�ที่�านหน-�งย-ด้ถึ�อป็ฏ�บ�ต� ที่�านอ��นๆ ในภายหล�งก่8ป็ฏ�บ�ต�ตาม

การขยายส�ทธ�การเลั�อกติ�งให.แก1ประชั้าชั้นื้ท�+วไปในศตว่รรษที่�� 18 ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บที่��ร �างออก่มาย�งเร�ยก่ว่�าป็ระชาธ�ป็ไตยไม�ได้� เพื่ราะ

ผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งย�งคืงเป็ นชนช��นผ��ม�ที่ร�พื่ย�สมบ�ต� ในป็ลายศตว่รรษที่�� 18 ได้�เร��มเก่�ด้ขบว่นก่ารป็ฏ�ร�ป็ร�ฐสภา และขบว่นก่ารของพื่ว่ก่ Radlicals ซึ่-�งต�องก่ารเป็ล��ยนแป็ลงส�งคืมตามแผนก่ารป็ฏ�ว่�ต�ฝ่ร��งเศส แต�สงคืรามนโป็เล�ยนที่��ย�ด้ยาว่ ที่�า ให�ขบว่นก่ารป็ฏ�ร�ป็พื่บก่�บอ& ป็สรรคืและแรงต�านที่านจาก่ชนช��นต� างๆ จนก่ระที่��ง คื .ศ .1830 เหต&ก่ารณ�จ-งเป็ล��ยนแป็ลงไป็ และร�ฐสภาได้�ยอมร�บแนว่คื�ด้ก่ารป็ฏ�ร�ป็โด้ยผ�าน พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ป็ฏ�ร�ป็ คื.ศ.1832 (Great Reform Act) ซึ่-�งขยายส�ที่ธ�ก่ารเล�อก่ต��งให�แก่�ชนช��นก่ลางระด้�บส�ง และได้�ป็ร�บเขตก่ารเล�อก่ต��งให�เม�องอ&ตสาหก่รรมใหม�ได้�ม�ผ��แที่น ต�อมาในป็B คื.ศ.1867 ได้�ม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงอ�ก่ โด้ยให�ส�ที่ธ�ก่ารเล�อก่ต��งแก่�ก่รรมก่รในเม�องอ�ก่หน-�งล�านคืน ใน คื.ศ.1884 ได้�ให�ส�ที่ธ�Lแก่�ก่รรมก่รในเขตชนบที่ คื.ศ.1918 ชายที่&ก่คืนอาย& 21 ป็Bข-�นไป็ ม�ส�ที่ธ�L และสตร�อาย& 30 ป็Bข-�นไป็ ป็B คื.ศ.1928 สตร�อาย& 21 ป็Bข-�นไป็จ-งม�ส�ที่ธ�L

ต�องใช�เว่ลาป็ระมาณ 100 ป็B ป็ระชาชนผ��ม�อาย& 21 ป็Bข-�นไป็ ที่&ก่คืนจะม�ส�ที่ธ�L ป็ระชาธ�ป็ไคืยอ�งก่ฤษใช�เว่ลานานมาก่ในก่ารย�างก่�าว่ไป็ส��ก่ารบรรล&น�ต�ภาว่ะ จาก่ก่ารที่��ขยายส�ที่ธ�ที่างก่ารเม�องอย�างช�าๆ เช�นน�� ม�ผลอย�างหน-�ง คื�อ ที่�าให�ผ��ที่��จะได้�ส�ที่ธ�Lต�องด้��นรนต�อส��เพื่��อให�ได้�มาซึ่-�งส�ที่ธ�Lที่&ก่ๆ ข��นตอน และเม��อได้�มาแล�ว่ก่8ร� �จ�ก่ใช�ส�ที่ธ�Lอย�างผ��ร �บผ�ด้ชอบ ฉะน��น ในช�ว่งหล�งของศตว่รรษที่�� 19 จะไม�เคืยได้�ย�นได้�ฟิ%งป็%ญ่หาของก่ารซึ่��อเส�ยงอ�ก่เลย

ความส�มพิ�นื้ธ�ระหว1างสภูาข2นื้นื้าง แลัะสภูาสาม�ญภายหล�งก่ารป็ฏ�ว่�ต�ร�ฐสภา ป็B คื.ศ.1688 สภาข&นนางเป็ นสภาที่��ม�อ�ที่ธ�พื่ลส�งส&ด้ ซึ่-�ง

คืว่บคื&มก่ารด้�าเน�นก่ารที่างก่ารเม�องของสภาสาม�ญ่ ผ��แที่นฯ ในสภาสาม�ญ่ส�ว่นใหญ่� ก่8คื�อ ญ่าต�พื่��น�อง หร�อผ��ใก่ล�ช�ด้ของข&นนางส�ว่นมาก่ และต�ว่นายก่ร�ฐมนตร� และร�ฐมนตร�ส�ว่นหน-�ง

Page 52: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่8มาจาก่สภาข&นนาง ต�อมาเม��อเก่�ด้ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงผ��ม�คื&ณสมบ�ต�เล�อก่ต��ง ขยายส�ที่ธ�ให�แก่�ป็ระชาชนส�ว่นใหญ่� และชนช��นก่ลางจาก่เม�องอ&ตสาหก่รรมเร��มเข�ามาม�เส�ยงในสภาสาม�ญ่ อ�ที่ธ�พื่ลของสภาสาม�ญ่เร��มส�งมาก่ข-�น จนในที่��ส&ด้อ�านาจในสภาข&นนางในก่ารที่��จะย�บย��งก่ฎีหมาย และพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ก่ารเง�นได้�เร��มลด้ลง ใน คื.ศ.1911 ได้�ม�พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ลด้อ�านาจส�ที่ธ�ก่ารย�บย��ง ของสภาข&นนางไว่�อย�างช�ด้เจน

น�บต��งแต�น��นมา ผ��ที่��จะมาเป็ นนายก่ร�ฐมนตร� จ-งมาจาก่สภาสาม�ญ่ศ�นย�ก่ลางของก่ารเม�องจ-งอย��ที่��สภาสาม�ญ่ (House of Commons)

ระบอบประชั้าธ�ปไติยแบบร�ฐสภูาร�ฐสภาเป็ นศ�นย�ก่ลางของก่ารป็ก่คืรอง อ�านาจอธ�ป็ไตยอย��ที่��สถึาบ�นน��ในเว่ลาป็ก่ต�ที่��

ไม�ม�ก่ารเล�อก่ต��ง ไม�ม�ก่ารแบ�งแยก่อ�านาจออก่เป็ น 3 ส�ว่นอย�างเด้8ด้ขาด้ ก่ารแบ�งแยก่เป็ นบที่บาที่และหน�าที่��มาก่ก่ว่�า เม��อร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรองม�ล�ก่ษณะด้�งก่ล�าว่ป็ระเด้8นคื�าถึามที่��ตามมา ก่8คื�อ จัะปBองก�นื้ม�ได.เก�ดเผู้ด<จัการทางร�ฐสภูาได.หร�อไม1

คื�าตอบก่8คืงจะเป็ นว่�า เผด้8จก่ารที่างร�ฐสภาคืงไม�เก่�ด้ข-�น แต�ร�ป็แบบน��ช�ว่ยส�งเสร�มให�ร�ฐบาลที่��คื&มเส�ยงข�างมาก่ในร�ฐสภาบร�หารงานตามเป็Aาหมายได้�สะด้ว่ก่ย��งข-�น แต�จะบร�หารงานอย�างราบร��น ม�คืว่ามม��นคืงและม�เสถึ�ยรภาพื่แคื�ไหน ก่8ข-�นอย��ก่�บพื่รรคืก่ารเม�องซึ่-�งบ�งเอ�ญ่ของอ�งก่ฤษเป็ น ระบบสองพื่รรคื คื�อม�พื่รรคืใหญ่�ๆ 2 พื่รรคื

เม��อพื่รรคืหน-�งเป็ นร�ฐบาล อ�ก่พื่รรคืหน-�งก่8เป็ นฝ่Eายคื�านฉะน��น จ-งม�ก่ก่ล�าว่ก่�นว่�า นายก่ร�ฐมนตร�อ�งก่ฤษน��น เม��อได้�ร�บเส�ยงสน�บสน&นจาก่

พื่รรคืก่ารเม�องของตนซึ่-�งคื&มเส�ยงส�ว่นใหญ่�ในร�ฐสภาแล�ว่ จะม�อ�านาจบร�หารได้�อย�างม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่มาก่ก่ว่�าป็ระธานาธ�บด้�ของสหร�ฐเส�ยอ�ก่

แต�อ�านาจของฝ่Eายบร�หารซึ่-�งด้�จะม�มาก่ตามระบบน�� ก่8ย�งม�ใช�อ�านาจเผด้8จก่าร ที่��งน�� เพื่ราะขนบธรรมเน�ยมได้�ยอมร�บให�ม�ฝ่Eายคื�านในร�ฐสภา โด้ยห�ว่หน�าพื่รรคืของฝ่Eายคื�านจะได้�ร�บก่ารยอมร�บว่�าเป็ น นื้ายกร�ฐมนื้ติร*เงา ได้�ร�บเง�นเด้�อนมาเป็ นพื่�เศษส�งก่ว่�าผ��แที่นราษฎีร

พื่รรคืฝ่Eายคื�านน��จะที่�าหน�าที่��ย�บย��งม�ให�ฝ่Eายร�ฐบาลสามารถึด้�าเน�นก่ารใด้ๆ ที่��ข�ด้ต�อผลป็ระโยชน�ของส�ว่นรว่ม เพื่ราะในที่��ส&ด้ป็ระชาชนจะเป็ นผ��ต�ด้ส�นว่�าใคืรผ�ด้ใคืรถึ�ก่ โด้ยเฉพื่าะในสม�ยเล�อก่ต��งซึ่-�งจะต�องม�ข-�นที่&ก่ๆ 5 ป็B หร�อภายในเว่ลา 5 ป็B ฝ่Eายคื�านจ-งเป็ นก่ลไก่ของก่ารถึ�ว่งด้&ลอ�านาจของฝ่Eายร�ฐบาล

ร�ฐธรรมน�ญ่อ�งก่ฤษเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บเด้�ยว่ในโลก่ที่��ว่�ว่�ฒนาก่ารตามเหต&ก่ารณ�ในป็ระว่�ต�ศาสตร�อ�งก่ฤษ แต�ผ��ที่��เก่��ยว่ข�องไม�ได้�คื�ด้ถึ-งส�ที่ธ�หร�ออ&ด้มก่ารณ�จะเป็ นป็ระชาธ�ป็ไตยโด้ยตรง แต�ต�อส��ด้��นรนเพื่��ออ�านาจและป็ระโยชน�ของชนช��นของตนเอง

การปกครองประเทศสหร�ฐอเมร�กา : ระบบประธานื้าธ�บด*

Page 53: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ร�ฐธรรมน�ญ่ของสหร�ฐอเมร�ก่าเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรฉบ�บที่��เก่�าแก่�ที่��ส&ด้ในโลก่ป็%จจ&บ�น โด้ยเร��มต�นจาก่ก่ารที่��ผ��แที่นของร�ฐต�างๆ 12 ร�ฐที่��มาป็ระช&มก่�นที่��เม�องฟิ=ลาเด้ลเฟิBย ป็B คื.ศ.1787 น��นโด้ยเจตนาจะมาเพื่�� อแก่�ไขมาตราของร�ฐธรรมน�ญ่ของสมาพื่�นธร�ฐเด้�ม แต�เม��อมาถึ-งแล�ว่ก่ล�บก่ลายมาเป็ นผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ใหม� โด้ยที่��ง 55 คืนที่��ร�างร�ฐธรรมน�ญ่ใหม�น��ส�ว่นมาก่ม�พื่��นเพื่จาก่ชนช��นที่��ม�ที่ร�พื่ย� ส�ว่นมาก่จะเอ�ยงไป็ที่างอน&ร�ก่ษ�น�ยม ม�คืว่ามเก่รงก่ล�ว่เร��องผลของคืว่ามร&นแรงจาก่พื่ล�งป็ระชาธ�ป็ไตย อ�นที่��จร�งเขาเหล�าน��พื่��นเพื่เด้�ม คื�อ ม�บรรพื่บ&ร&ษที่��อพื่ยพื่มาจาก่อ�งก่ฤษ จ-งได้�ร�บก่ารศ-ก่ษาแบบอ�งก่ฤษ คืว่ามคื�ด้ที่างก่ารเม�องของน�ก่ป็ร�ชญ่า เช�น จอห�น ล8อก่ และมองเตสก่�เออร� ม�อ�ที่ธ�พื่ลต�อก่ล&�มผ��น�าเหล�าน��มาก่ นอก่จาก่น�� ก่ล&�มผ��น�าเหล�าน��ย�งได้�ผ�านสงคืรามก่��อ�สรภาพื่ป็ลด้แอก่จาก่อ�งก่ฤษ ฉะน��น จ-งร� �คื&ณคื�าของอ�สรภาพื่เป็ นอย�างด้� และซึ่าบซึ่-�งว่�าก่ารป็ก่คืรองม�ใช�เร��องก่ารให�เสร�ภาพื่แต�เพื่�ยงอย�างเด้�ยว่ แต�เป็ นเร��องของก่ารจ�ด้ต��งร�ฐบาลที่��เข�มแข8งเพื่��อจะบร�หารป็ระเที่ศได้� ร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรองแบบสมาพื่�นธร�ฐขณะน��น ไม�ม�ก่ารจ�ด้ต��งร�ฐบาลก่ลางเลยม�แต�สภาคืองเก่รส ซึ่-�งสภาคืองเก่รสจะผ�านพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ใด้ๆ ได้� ก่8ต�อเม��อได้�ร�บเส�ยงสน�บสน&น 9 จาก่ 13 เส�ยง และถึ�าหาก่จะแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��ก่8ต�องได้�ร�บคืว่ามเห8นชอบเป็ นเอก่ฉ�นที่�จาก่ที่&ก่ร�ฐ

ในเม��อระด้�บป็ระเที่ศไม�ม�ร�ฐบาลก่ลางที่��จะมาจ�ด้เก่8บภาษ� และไม�ม�ก่องที่�พื่ของชาต�ที่��จะป็ก่ป็Aองป็ระเที่ศ สหร�ฐจ-งป็ระสบป็%ญ่หาในก่ารบร�หารมาก่มาย เช�น ป็%ญ่หาของก่ารใช�หน��สงคืรามที่��ผ�านไป็ ป็%ญ่หาต�างป็ระเที่ศ ป็%ญ่หาก่ารป็Aองก่�นป็ระเที่ศ ป็%ญ่หาภ�ยจาก่เผ�าอ�นเด้�ยนแด้ง ป็%ญ่หาของก่ารร�ก่ษาคืว่ามสงบเร�ยบร�อยภายในป็ระเที่ศ เป็ นต�น

ฉะน��น ก่ล&�มผ��น�าจาก่ 12 ร�ฐ ที่��มาป็ระช&ม (ขาด้ผ��แที่นร�ฐโรด้ ไอซึ่�แลนด้� 1 ร�ฐ) จ-งเป็ นผ��ม�อ&ด้มคืต�และม�ป็ระสบก่ารณ�ที่��คื�อนข�างลบจาก่ร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรองสมาพื่�นธร�ฐ เขาเหล�าน��นจ-งเป็ล��ยนใจจาก่เด้�มที่��ม�เจตนามณ�จะมาแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่เด้�ม ก่8ก่ลายเป็ นผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ใหม� ในบรรด้าผ��น�า 55 คืนน�� ม�น�ก่คื�ด้ น�ก่ป็ร�ชญ่า และร�ฐบ&ร&ษในอด้�ตและอนาคืตหลายที่�าน เช�น ยอร�จ ว่อช�งต�น เบนจาม�น แฟิรงคืล�น และเจมส� เมด้�ส�น

เมด้�ส�นน��นถึ�อก่�นว่�า เป็ นผ��สะที่�อนคืว่ามคื�ด้ของคืนสม�ยน��นมาก่ที่��ส&ด้ จาก่ก่ารที่��เขาม�แนว่คืว่ามคื�ด้ก่�าว่หน�า ขณะเด้�ยว่ก่�นก่8ไม�หลงใหลหร�อหลงละเมอก่�บคื�าว่�า เส*ยงของ“

ประชั้าชั้นื้” เสมอไป็ เขาคื�ด้ว่�า มน&ษย�เราม�ก่เข�าข�างตนเอง สามารถึที่�าคืว่ามช��ว่ได้�เสมอ ฉะน��น จ�าเป็ นต�องหาว่�ธ�ก่ารที่��จะเป็ นสองอย�างคืว่บคื��ก่�นไป็ คื�อ ป็ระก่ารแรก่ จะต�องหาว่�ธ�ก่ารสร�างร�ฐบาลก่ลางให�เข8มแข8งพื่อที่��จะป็ก่คืรองคืนได้� และป็ระก่ารที่��สอง จะต�องหาว่�ธ�ก่ารที่��จะสร�างก่ลไก่เพื่��อให�ร�ฐบาลคืว่บคื&มตนเอง ในก่ารสร�างร�ฐบาลเพื่��อให�มน&ษย�ป็ก่คืรองมน&ษย�ก่�นเอง คืว่ามยาก่ล�าบาก่จ-งอย��ที่��ว่�า ป็ระก่ารแรก่ จะต�องให�อ�านาจแก่�ร�ฐบาลก่ลางเพื่��อที่��จะสามารถึคืว่บคื&มผ��อย��ใต�ป็ก่คืรองได้� ก่�าหนด้ให�ร�ฐบาลสามารถึคืว่บคื&มตนเองได้� และจ�าเป็ นจะต�องม�มาตรก่ารที่��จ�าเป็ นไว่�เพื่��อป็Aองก่�นผลเส�ยหาย

Page 54: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เสร�ภาพื่และเสถึ�ยรภาพื่ม��นคืงระหว่�างก่ารสร�างร�ฐบาลชาต�ให�ม�อ�านาจป็ก่คืรองป็ระเที่ศได้� ขณะเด้�ยว่ก่�นธ�ารงร�ก่ษาส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของมลร�ฐที่��จะป็ก่คืรองตนเองในระด้�บหน-�ง

หลั�กการของร�ฐธรรมนื้"ญสหร�ฐอเมร�กา 1) ร�ฐธรรมนื้"ญสร.างระบบการปกครองแบบสมาพิ�นื้ธร�ฐ (Federation) เป็ นร�ป็แบบที่��

ม�ที่��งร�ฐบาลก่ลางและร�ฐบาลของมลร�ฐต�างๆ ป็ระเด้8นคื�อ จะแบบอ�านาจก่�นอย�างไรระหว่�างสองระด้�บน��

มาติรา 1 ส1วนื้ท*+ 8 ได้�ก่�าหนด้อ�านาจของสภาคืองเก่รสไว่�อย�างช�ด้เจน เช�น อ�านาจที่��จะจ�ด้เก่8บภาษ�อาก่ร ใช�หน��ร �ฐบาล จ�ด้ก่ารป็Aองก่�นป็ระเที่ศ ก่ารก่��ย�มหน��ส�น ก่ารออก่ระเบ�ยบก่ฎีเก่ณฑ์�เก่��ยว่ก่�บก่ารคื�าก่�บต�างป็ระเที่ศและระหว่�างมลร�ฐต�างๆ อ�านาจที่��จะผล�ตเง�นตราและก่�าหนด้คื�าของเง�นตรา จ�ด้ต��งก่องที่�พื่ ป็ระก่าศสงคืราม และออก่พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต� “ที่��จ�าเป็ นและเหมาะสม เพื่��อด้�าเน�นก่ารตามนโยบายและอ�านาจหน�าที่��ด้�งก่ล�าว่”

ในขณะเด้�ยว่ก่�นใน มาติรา 1 ส1วนื้ท*+ 10 ก่8ได้�จ�าก่�ด้อ�านาจของมลร�ฐในหลายๆ เร��อง เช�น ห�ามม�ให�มลร�ฐที่�าส�ญ่ญ่าก่�บต�างป็ระเที่ศ ห�ามผล�ตเง�นตรา เป็ นต�น

ต�อมาได้�แก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ ในมาตรา 10 ก่�าหนด้ว่�า อ�านาจที่��ม�ได้�ก่�าหนด้ให�เป็ นของสหร�ฐ และย�งม�ได้�เป็ นข�อห�ามส�าหร�บมลร�ฐให�เป็ นอ�านาจของมลร�ฐ น��คื�อหล�ก่ที่��เร�ยก่ก่�นว่�า อ�านาจที่��ย�งคืงเหล�อ ของร�ฐ “ ” (Residual Power)

ขณะเด้�ยว่ก่�นในมาตรา 6 ส�ว่นที่�� 2 ของร�ฐธรรมน�ญ่ก่8ก่�า หนด้ไว่�อ�ก่ว่� า ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��และก่ฎีหมายของร�ฐที่��จะออก่ภายใต�ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน�� จะม�คืว่ามเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของป็ระเที่ศ ผ��พื่�พื่าก่ษาในที่&ก่ๆ มลร�ฐจะต�องย-ด้ถึ�อก่ฎีหมายเหล�าน��เป็ นแนว่ป็ฏ�บ�ต� เร�ยก่ก่�นว่�า หล�ก่ของก่ฎีหมายส�งส&ด้ (Supremacy Clause)

นอก่จาก่น��น ย�งม�ก่ารป็ระน�ป็ระนอมที่��ส�าคื�ญ่อ�ก่เร��องหน-�งระหว่�างมลร�ฐด้�ว่ยก่�นอง โด้ยก่�าหนด้ให�สภาคืองเก่รสป็ระก่อบด้�ว่ย 2 สภา คื�อ สภาผ��แที่นราษฎีร และว่&ฒ�สภา ส�าหร�บสภาผ��แที่นราษฎีรจะใช�หล�ก่ก่ารเล�อก่ต��งโด้ยตรง บนพื่��นฐานของจ�านว่นป็ระชาก่รผ��ม�ส�ที่ธ� ส�ว่นว่&ฒ�สภาก่�าหนด้ให�แต�ละร�ฐส�งสมาช�ก่ให�ร�ฐละ 2 คืน

2) ร�ฐธรรมนื้"ญสร.างระบบการแบ1งแยกอ�า นื้าจั (Separation of Powers) ผ�� ร�างร�ฐธรรมน�ญ่ย�งไม�พื่อใจเพื่�ยงก่ารแบ�งอ�านาจระหว่�างร�ฐบาลก่ลางก่�บร�ฐบาลมลร�ฐเที่�าน��น ย�งต�องแยก่อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� อ�านาจบร�หาร และอ�านาจต&ลาก่าร โด้ยก่�าหนด้ให�สภาคืองเก่รสม�อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ป็ระธานาธ�บด้�อ�านาจบร�หาร และศาลม�อ�านาจต&ลาก่าร ตามหล�ก่ของมองเตสก่�เออร�

ในก่ารแบ�งแยก่อ�านาจน��ย�งได้�แยก่สถึาบ�นฝ่Eายบร�หารออก่จาก่สภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�คื�อนข�างจะเด้8ด้ขาด้ ก่ล�าว่คื�อ ที่��งสองสถึาบ�นม�ฐานอ�านาจแยก่ก่�น ป็ระธานาธ�บด้�ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��งจาก่ป็ระชาชน ม�ว่าระสม�ย 4 ป็B แต�งต��งคืณะร�ฐมนตร�ของที่�านเอง สภาคืองเก่รสไม�ม�อ�านาจจะล�มร�ฐบาล ส�ว่นสภาคืองเก่รสก่8เช�นก่�น ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��งมาจาก่ป็ระชาชน

Page 55: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ม�ว่าระสม�ย 2 ป็B และ ส�า หร�บว่& ฒ�สภาม�ว่าระสม�ย 6 ป็B ป็ระธานาธ�บด้�ไม�สามารถึย&บสภาคืองเก่รสได้�

3) ร�ฐธรรมนื้"ญสร.างระบบติรวจัสอบแลัะคานื้อ�านื้าจั (Checks and Balance) นอก่จาก่จะแบ�งแยก่อ�านาจแล�ว่ ผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ย�งก่�าหนด้ให�ม�ก่ารตรว่จสอบหร�อคืนอ�านาจซึ่-�งก่�นและก่�นได้� เช�น สภาคืองเก่รสม�อ�านาจในก่ารออก่พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต� แต�ป็ระธานาธ�บด้�ม�ส�ที่ธ�ที่��จะย�บย��งได้� (Veto)

อย�างไรก่8ตาม เม��อป็ระธานาธ�บด้�ได้�ใช�ส�ที่ธ�ย�บย��งแล�ว่ หาก่ร�างพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�น��นได้�ผ�านก่ารพื่�จารณาของสภาคืองเก่รสเป็ นคืร��งที่��สอง โด้ยได้�ร�บเส�ยงสน�บสน&น 2 ใน 3 ก่8จะออก่เป็ นก่ฎีหมายได้�

ในที่างก่ล�บก่�นป็ระธานาธ�บด้�เป็ นผ��ม�อ�านาจ แต�งต��งผ��พื่�พื่าก่ษาในศาลส�งส&ด้และร�ฐมนตร� แต�ก่ารเสนอเพื่��อแต�งต��งน��จะต�องได้�ร�บคืว่ามเห8นชอบจาก่ว่&ฒ�สภาเส�ยก่�อน ผ��พื่�พื่าก่ษาน��นเม��อได้�ร�บแต�งต��งแล�ว่ แต�สภาคืองเก่รสก่8สามารถึที่��จะก่ล�าว่โที่ษผ��พื่�พื่าก่ษาได้�เม�� อม�เหต&หร�อมลที่�นม�ว่หมอง ในที่�านองเด้�ยว่ก่�นว่�าศาลส�งส&ด้ม�อ�านาจที่��จะป็ระก่าศว่�าก่ฎีหมายใด้ข�ด้ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่

4) ร�ฐธรรมนื้"ญย&ดหลั�กของการจั�ดติ�งร�ฐบาลัท*+ได.ร�บการเลั�อกติ�งจัากประชั้าชั้นื้ หล�ก่ก่ารที่��เป็ นแม�บที่ก่ารป็ก่คืรองของร�ฐธรรมน�ญ่สหร�ฐ คื�อ หล�ก่ของก่ารป็ก่คืรองโด้ยคืว่ามย�นยอมเห8นชอบของป็ระชาชน หล�ก่ก่ารน��จะบรรล&เป็Aาหมายได้�ต�อเม��อจ�ด้ให�ม�ระบบก่ารเล�อก่ต��งในที่&ก่ต�าแหน�งที่��เก่��ยว่ข�องก่�บอ�านาจก่ารป็ก่คืรอง

ป็ระธานาธ�บด้�และรองป็ระธานาธ�บด้�ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��งโด้ยคืณะผ��เล�อก่ต��ง ซึ่-�งได้�ร�บอาณ�ต�จาก่ป็ระชาชนให�มาเล�อก่ป็ระธานาธ�บด้� ส�ว่นผ��แที่นราษฎีรในสภาล�างและว่&ฒ�สมาช�ก่ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��งเช�นก่�น ผ��พื่�พื่าก่ษาอาจจะไม�ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��ง แต�ป็ระธานาธ�บด้�เป็ นผ��แต�งต��งโด้ยคืว่ามเห8นชอบของว่&ฒ�สภา

ฉะน��น จะเห8นได้�ว่�าผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ม�ศร�ที่ธาต�อระบบก่ารเล�อก่ต��งมาก่ และเช��อม��นว่�า ร�ฐบาลที่��เป็ นต�ว่แที่นของป็ระชาชนน��จะเป็ นร�ฐบาลที่��เลว่น�อยที่��ส&ด้ เพื่ราะที่&ก่คืนที่��ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��งย�อมต�องมาร�บผ�ด้ชอบต�อผ��เล�อก่ตนในสม�ยก่ารเล�อก่ต��งคืร��งต�อไป็

5) หลั�กของส�ทธ�เสร*ภูาพิของมนื้2ษยชั้นื้ หล�ก่ของส�ที่ธ�เสร�ภาพื่เป็ นหล�ก่ข��นม�ลฐานที่��จะอ�านว่ยให�ระบบก่ารป็ก่คืรองแบบเล�อก่ต��งได้�เป็ นป็ระชาธ�ป็ไตยได้�สมบ�รณ�แบบ

โดยสร2ป ร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรองของสหร�ฐ อาจจะเร�ยก่ได้�ว่�า ป็ระชาธ�ป็ไตยพื่ห&น�ยม (Pluralist Democracy) คื�อ อ�านาจก่ารป็ก่คืรองก่ระจ�ด้ก่ระจายอย��หลายข��ว่หลายศ�นย� นอก่จาก่น��นย�งม�ร�ป็แบบของระบบป็ระธานาธ�บด้�ซึ่-�งรว่มบที่บาที่ของป็ระม&ขและของนายก่ร�ฐมนตร�ไว่�ในคืนๆ เด้�ยว่ก่�น จ&ด้เด้�นของร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��ม�คื&ณสมบ�ต�ตรงที่��ม�คืว่ามเร�ยบง�าย (Simplicity)

Page 56: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ไม�ก่�าหนด้รายละเอ�ยด้มาก่มาย แต�เป็=ด้ที่างก่ว่�างๆ ไว่�เพื่�� อให�ม�ก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มตามสถึานก่ารณ�ที่��เป็ล��ยนแป็ลงในอนาคืต

การปกครองฝ่ร�+งเศส : ระบบสาธารณร�ฐท*+ 5จาก่ย&คืสม�ยก่ารป็ฏ�ว่�ต� คื.ศ.1789 ได้�ม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บใหม� ไม�

น�อยก่ว่�า 9 ฉบ�บ ในรอบ 200 ป็B เน��องด้�ว่ยอ&ป็น�ส�ยของชาว่ฝ่ร��งเศสที่��ชอบล�ที่ธ�อ&ด้มก่ารณ� และชอบคืว่ามแตก่ต�างระหว่�างบ&คืคืล ในสม�ยสาธารณร�ฐที่�� 4 ซึ่-�งใช�ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บหน-�ง เสถึ�ยรภาพื่ของคืณะร�ฐบาลม�ป็%ญ่หามาก่ที่�� ในช�ว่งเว่ลา 12 ป็B ของสาธารณร�ฐน�� (1946-

1958) ม�ร�ฐบาลถึ-ง 13 ช&ด้ แต�ในร�ฐธรรมน�ญ่ของสาธารณร�ฐที่�� 5 ร�ฐบาลแต�ละช&ด้อย��ได้�ย��งย�นมาก่ และน��ก่8ป็ก่คืรองก่�นมาถึ-ง 32 ป็B แล�ว่ย�งม�เถึ�ยรภาพื่ด้�อย��

ฉะน��น ที่��ว่โลก่จ-งสนใจร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บที่��นายพื่ลเด้อโก่ลได้�จ�ด้ต��งข-�นมาก่ว่�า ม�เคืล8ด้ล�บที่��ที่�าให�ชนชาต�ฝ่ร��งเศสที่��ม�อารมณ�ผ�นแป็รง�าย เด้�นขบว่นง�าย ก่บฏก่8ง�าย ป็ฏ�ว่�ต�ก่8ง�าย แต�บ�ด้น��ก่ล�บสงบเง�ยบ และย�งไม�ม�ที่�ที่�าอยาก่จะเป็ล��ยนไป็เป็ นระบบอ��น

ก่�อนอ��นขอที่บที่ว่นเหต&ก่ารณ�ในป็ระว่�ต�ศาสตร�ก่�อน ป็ระเที่ศฝ่ร��งเศสในสม�ยเร��มแรก่ก่8ม�ระบบก่ารป็ก่คืรองคืล�ายคืล-งก่�บของอ�งก่ฤษในสม�ยย&คืศ�ก่ด้�นา คื�อ อ�านาจก่ารป็ก่คืรองก่ระจ�ด้ก่ระจายไป็อย��ที่��ข&นนางต�างๆ ก่ษ�ตร�ย�ฝ่ร��งเศสในสม�ยก่ลางม�คืว่ามอ�อนแอก่ว่�าของอ�งก่ฤษมาก่ บางย&คืสม�ยป็ก่คืรองได้�เพื่�ยงคืร-�งหน-�งของป็ระเที่ศในป็%จจ&บ�น อาจจะเป็ นเพื่ราะสภาพื่ก่ารณ�เช�นน��น จ-งที่�าให�ก่ษ�ตร�ย�ฝ่ร��งเศสม&�งสร�างอ�านาจส�ว่นก่ลางมาก่

จนก่ระที่��งในสม�ยพื่ระเจ�าหล&ยส�ที่��14 ก่ษ�ตร�ย�ฝ่ร��งเศสที่��ชาว่ย&โรป็ถึ�อก่�นว่�าเป็ นต�ว่อย�างที่��ด้�ของผ��ป็ก่คืรอง คื�อ ม�อ�านาจมาก่ ได้�จ�ด้ระเบ�ยบก่ารคืล�ง ก่ารป็ก่คืรองที่�าให�ก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�นม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ส�ง ถึ�อก่�บที่รงก่ล�าว่เก่��ยว่ก่�บพื่ระองคื�เองว่�า ร�ฐค�อ“

ติ�วข.าพิเจั.า” หร�อ ติ�วข.าพิเจั.าค�อร�ฐ“ ” และเพื่ราะคืว่ามเข�มแข8งของพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย� คืว่ามเป็ นอย��ของข&นนางก่8เร��มเห�นห�างจาก่ป็ระชาชนในชนบที่

หล�งจาก่ในสม�ยพื่ระเจ�าหล&ยส�ที่�� 14 ก่8ไม�ม�ก่ษ�ตร�ย�ที่��ที่รงเข�มแข8งและอ�จฉร�ยะ และเก่�ด้ป็%ญ่หารายจ�ายส�งก่ว่�ารายได้� เพื่ราะก่ารสงคืรามนอก่ป็ระเที่ศ ระบบก่ารคืล�งเร��มล�มเหลว่ ขณะเด้�ยว่ก่�น ข&นนางไม�ได้�เอาใจใส�ต�อก่ารป็ร�บป็ร&งที่��ด้�นของตน คือยแต�จะร�ด้ภาษ�และส�ว่ยของราษฎีร ที่�าให�เก่�ด้ระบบก่ารก่ด้ข��และระบบอภ�ส�ที่ธ�Lมาก่มาย คืว่ามม��งคื��งที่างเศรษฐก่�จลด้น�อยลง ป็ระจว่บก่�บก่ารต��นต�ว่ที่างคืว่ามคื�ด้ น�ก่ป็ร�ชญ่าเมธ�เร��มเผยแพื่ร�ล�ที่ธ� และแนว่คื�ด้ใหม�ในเร��องส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของป็ระชาชน แต�ระบบก่ารป็ก่คืรองก่8ไม�สามารถึจะป็ร�บต�ว่ให�ที่�นก่�บป็%ญ่หาและก่ารเป็ล��ยนแป็ลงเหล�าน��

ในที่��ส&ด้ได้�เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�คืร��งย��งใหญ่�ในป็B คื.ศ.1789 และเก่�ด้ก่ารต�อส��และคืว่ามร&นแรงที่างคืว่ามคื�ด้ระหว่�างก่ล&�มก่ารเม�องต�างๆ ในช�ว่ง 1789-1795 ที่�าให�ชาว่ฝ่ร��งเศส

Page 57: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

แตก่แยก่ที่างคืว่ามคื�ด้ และด้�ว่ยคืว่ามเป็ นชนชาต�เช��อสายละต�นซึ่-�งม�อารมณ�ศร�ที่ธาในแนว่คื�ด้ของตนเองอย�างมาก่ จ-งไม�ม�ก่ารป็ระน�ป็ระนอมก่�น

คืว่ามข�ด้แย�งก่�นและป็%ญ่หาที่��เก่�ด้ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงร�ฐธรรมน�ญ่ จะข�อน�ามาเป็ นป็ระเด้8นในก่ารพื่�จารณา โด้ยจะเป็ร�ยบเที่�ยบร�างร�ฐธรรมน�ญ่ป็B 1946 ซึ่-�งพื่รรคืก่ารเม�องฝ่Eายซึ่�ายม�อ�ที่ธ�พื่ลในก่ารร�าง ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ ป็B คื.ศ.1958 ซึ่-�งนายพื่ลชาร�ล เด้อ โก่ล และน�ก่ก่ารเม�องฝ่Eายขว่าม�อ�ที่ธ�พื่ลในก่ารร�าง

ประการแรก คืว่รจะต��งเป็ นข�อส�งเก่ตเบ��องต�นว่�า เน��องจาก่ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บแรก่ของฝ่ร��งเศสเก่�ด้จาก่ก่ารป็ฏ�ว่�ต�คืร��งส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้ในป็ระว่�ต�ศาสตร�อ&ด้มก่ารณ�ของน�ก่ป็ฏ�ว่�ต�จ-งม�อ�ที่ธ�พื่ลต�อร�ฐธรรมน�ญ่น�� และฉบ�บอ��นๆ ที่��ตามมา อ&ด้มก่ารณ�เหล�าน�� สร&ป็เป็ นคื�าขว่�ญ่ได้� 3

ว่ล� คื�อ คืว่ามเสมอภาคื เสร�ภาพื่ และภราด้รภาพื่ ซึ่-�งจะป็ราก่ฏอย��ในร�ฐธรรมน�ญ่ของสาธารณร�ฐที่�� 4 และที่�� 5 นอก่จาก่น��น ย�งก่ล�าว่ถึ-งหล�ก่อธ�ป็ไตยเป็ นของป็ว่งชนและเจตนาที่��จะสร�างระบบก่ารป็ก่คืรองแบบป็ระชาธ�ป็ไตย ซึ่-�งหมายถึ-ง ก่ารป็ก่คืรองของป็ระชาชน เพื่��อป็ระชาชน อ&ด้มก่ารณ�ที่างก่ารเม�องเหล�าน��ไม�ป็ราก่ฏในร�ฐธรรมน�ญ่อ�งก่ฤษหร�ออเมร�ก่า

ประการท*+สอง เน��องจาก่ฝ่ร��งเศสเร��มป็ระว่�ต�ศาสตร�สม�ยใหม�โด้ยก่ารล�มระบบก่ษ�ตร�ย� ฉะน��นระบบสาธารณร�ฐจ-งเป็ นที่างเล�อก่ที่��ต�องเล�อก่ ในระบบของฝ่ร��งเศส จะแยก่อ�านาจหน�าที่��ของป็ระธานาธ�บด้�ออก่จาก่อ�านาจหน�าที่��ของนายก่ร�ฐมนตร�

เม��อได้�แยก่บที่บาที่เป็ น 2 ส�ว่น คื�อ ส�ว่นของป็ระธานาธ�บด้�ซึ่-�งจะที่�าหน�าที่��คืล�ายๆ ก่ษ�ตร�ย�ภายใต�ร�ฐธรรมน�ญ่ และส�ว่นของนายก่ร�ฐมนตร�จ-งม�ป็ระเด้8นป็%ญ่หาเก่�ด้ข-�นในเร��องคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างป็ระธานาธ�บด้�ก่�บนายก่ร�ฐมนตร�

ก่าร�างร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บต�างๆ เพื่��อแบ�งแยก่บที่บาที่หน�าที่��และคืว่ามส�มพื่�นธ�ของสองต�าแหน�งน�� จ-งม�ป็%ญ่หาอย��เสมอในร�ฐธรรมน�ญ่ป็B 1946 ของสาธารณร�ฐที่�� 4 อ�านาจของป็ระธานาธ�บด้�จะน�อยก่ว่�าในร�ฐธรรมน�ญ่ป็B 1958 ของสาธารณร�ฐที่�� 5

ประการแรก ในฉบ�บ 1946 ร�ฐสภาเป็ นผ��เล�อก่ต��งป็ระธานาธ�บด้� แต�ในฉบ�บ 1958

ผ��เล�อก่ต��งคื�อ สมาช�ก่ของร�ฐสภา นายก่เที่ศมนตร� และสมาช�ก่สภาที่�องถึ��น ซึ่-�งที่�าให�ฐานอ�านาจของป็ระธานาธ�บด้�ของสาธารณร�ฐที่�� 5 ก่ว่�างก่ว่�าในสม�ยสาธารณร�ฐที่�� 4 ต�อมาในป็B คื.ศ.1962 ได้�ม�ก่ารแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่ โด้ยให�ป็ระชาชนผ��ม�คื&ณสมบ�ต�เล�อก่ต��งเป็ นผ��เล�อก่ต��งป็ระธานาธ�บด้�โด้ยตรง ซึ่-�งที่�าให�ฐานอ�านาจของป็ระธานาธ�บด้�เป็ นอ�สระจาก่ร�ฐสภา

ประการท*+สอง ในร�ฐธรรมน�ญ่ 1946 ป็ระธานาธ�บด้�ม�อ�านาจเสนอต�ว่นายก่ร�ฐมนตร�เที่�าน��น แต�ก่ารแต�งต��งจะเก่�ด้ข-�นเม��อสมาช�ก่ร�ฐสภาเห8นชอบด้�ว่ยเส�ยก่�อน แต�ในร�ฐธรรมน�ญ่ 1958 ป็ระธานาธ�บด้�แต�งต��งนายก่ร�ฐมนตร�โด้ยตรง นอก่จาก่น��นป็ระธานาธ�บด้�จะม�บที่บาที่ที่��เด้�นช�ด้ในเร��องก่ารต�างป็ระเที่ศและม�อ�านาจป็ระก่าศสภาว่ะฉ&ก่เฉ�น อ�านาจที่��จะขอป็ระชามต�ที่��ว่ป็ระเที่ศในเร��องที่��ส�าคื�ญ่ของชาต� เร��องเก่��ยว่ก่�บป็ระชาคืมย&โรป็ สนธ�ส�ญ่ญ่าระหว่�างป็ระเที่ศ และก่ารแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่

Page 58: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ประการท*+สาม คืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างฝ่E ายบร�หารก่�บฝ่E ายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ในร�ฐธรรมน�ญ่ 1946 ย�งเป็ นคืว่ามส�มพื่�นธ�ที่��คืล�ายก่�บร�ฐธรรมน�ญ่อ�งก่ฤษ ก่ล�าว่คื�อ ร�ฐสภาจะเป็ นผ��เล�อก่ต��งป็ระธานาธ�บด้�และต�ว่ร�ฐมนตร�ก่8มาจาก่สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรหร�อว่&ฒ�สภา แต�ได้�ฉบ�บ 1958 ได้�แบ�งแยก่ฝ่Eายบร�หารออก่จาก่ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�คืล�ายก่�บของสหร�ฐ ซึ่-�งก่8คื�อ ผ��ที่��เป็ นร�ฐมนตร�ต�องลาออก่จาก่สมาช�ก่ภาพื่ของสภาผ��แที่นราษฎีรหร�อว่&ฒ�สภา ในฉบ�บป็B 1946 ให�อ�านาจสภาผ��แที่นราษฎีรเที่�าน��นที่��จะอภ�ป็รายไม�ไว่�ว่างใจได้� แต�ในฉบ�บ 1958 ได้�ให�อ�านาจที่��งสองสภาที่��จะอภ�ป็รายไม�ว่างใจ ที่��งน��ที่� �งสองฉบ�บก่�าหนด้ไว่�เหม�อนก่�นว่�าก่�อนลงคืะแนนเส�ยงต�องใช�เว่ลา 24 ช��ว่โมง หล�งจาก่ย&ต�ก่ารอภ�ป็รายไป็แล�ว่ เพื่��อให�สมาช�ก่ได้�ม�โอก่าสที่บที่ว่นคืว่ามร� �ส-ก่ต�างๆ

ในร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บ 1946 ได้�ให�อ�านาจแก่�นายก่ร�ฐมนตร�ที่��จะเสนอให�ป็ระธานาธ�บด้�ย&บสภาได้� แต�จะก่ระที่�าไม�ได้�ในช�ว่ง 18 เด้�อนแรก่ ยก่เว่�นแต�สภาผ��แที่นฯ ได้�เสนอญ่�ตต�อภ�ป็รายไม�ไว่�ว่างใจ 2 คืร��ง ในช�ว่ง 18 เด้�อนน�� แต�ในร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บใหม� ได้�ลด้ช�ว่งเว่ลา 18 เด้�อน เหล�อเพื่�ยง 1 ป็B

ประการท*+ส*+ ได้�ม�ก่ารแก่�ไขจาก่แต�เด้�มที่��ม�สภาเด้�ยว่ คื�อ สภาผ��แที่น ให�ม�สองสภา แต�ก่8ย�งก่�าหนด้ให�ว่&ฒ�สภาม�อ�านาจน�อยลงให�เป็ นเพื่�ยงก่ล��นก่รองงานเที่�าน��น

โดยสร2ป ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��งสองฉบ�บของฝ่ร��งเศสแตก่ต�างก่�นในแง�ก่ารมอบอ�านาจให�แก่�ป็ระธานาธ�บด้�ซึ่-�งม�มาก่ข-�นในป็%จจ&บ�น เช�น อ�านาจในก่ารย&บสภา อ�านาจก่ารแต�งต��งนายก่ร�ฐมนตร� อ�านาจในก่ารป็ระก่าศสภาว่ะฉ&ก่เฉ�น และอ�านาจในก่ารคืว่บคื&มนโยบายก่ารต�างป็ระเที่ศและก่ารป็Aองก่�นป็ระเที่ศ ป็ระก่อบก่�บฐานอ�านาจของสาธารณร�ฐที่�� 5 ม�บที่บาที่ในฐานะผ��น�าของป็ระเที่ศเด้�นช�ด้มาก่ข-�น

คืว่ามแตก่ต�างที่��ส�า คื�ญ่อ�ก่อย�าง ก่8คื�อ ก่ารแบ�งแยก่อ�า นาจบร�หารก่�บอ�า นาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ที่�าให�ร�ฐบาลเป็ นอ�สระจาก่แรงก่ด้ด้�นของร�ฐสภามาก่ข-�น ว่&ฒ�สภาก่8ม�คืว่ามเป็ นอ�สระจาก่สภาผ��แที่นฯ มาก่ข-�น (ซึ่-�งแต�เด้�ม สภาผ��แที่นฯ สามารถึเล�อก่สมาช�ก่ว่&ฒ�สภา 1 ใน 6 ของจ�านว่นที่��งหมด้) เพื่ราะม�ฐานอ�านาจจาก่ก่ารเล�อก่ต��งจาก่ภ�ม�ภาคื จ�งหว่�ด้ และเที่ศบาล

ก่ารก่�าหนด้ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��เน�นอ�านาจบร�หารมาก่ข-�น และว่&ฒ�สภาก่8ถึ�ว่งด้&ลก่�บสภาผ��แที่นราษฎีรเช�นน��เป็ นผลงานของนายพื่ลเด้อ โก่ล และพื่รรคืก่ารเม�องฝ่Eายขว่า และฝ่Eายก่ลางซึ่-�งม�ส�ว่นส�าคื�ญ่ที่��ที่�า ให�ก่ารเม�องฝ่ร��งเศสม�เสถึ�ยรภาพื่มาก่ข-�นก่ว่�าคืร��งใด้ๆ ในป็ระว่�ต�ศาสตร�ฝ่ร��งเศส

ในสาธารณร�ฐที่�� 4 ใช�ระบบก่ารเล�อก่ต��งแบบอ�ตราส�ว่น ที่�าให�เก่�ด้พื่รรคืก่ารเม�องมาก่มาย แต�ในสาธารณร�ฐที่�� 5 ใช�ระบบแบ�งเขต เขตละ 1 คืน ให�ม�ก่ารลงคืะแนนเส�ยงได้� 2

คืร��ง ระบบน��ที่�าให�จ�านว่นพื่รรคืน�อยลง และย�งที่�าให�ระบบก่ารเม�องของฝ่ร��งเศสพื่�ฒนาข-�นไป็มาก่ก่ว่�าภายหล�งสงคืราม จ�านว่นพื่รรคืก่ารเม�องลด้ลงจาก่เด้�มในป็B คื.ศ.1956 ซึ่-�งม�พื่รรคืก่ารเม�อง 16 พื่รรคื ได้�ลด้ลงเหล�อ 5 พื่รรคื ใน คื.ศ.1967 จาก่แต�เด้�มที่��พื่รรคืม&�งหา

Page 59: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อ�ที่ธ�พื่ลให�แก่�พื่รรคืตนเอง โด้ยไม�สามารถึจะจ�ด้ต��งร�ฐบาลได้� แต�ในระบบใหม�พื่รรคืเร��มรว่มต�ว่ก่�นเป็ นก่ล&�มใหญ่�ข-�น และม&�งจะจ�ด้ต��งร�ฐบาล

บทท*+ 6สถาบ�นื้การเม�อง

สถึาบ�น ม�คืว่ามหมายตามต�ว่ศ�พื่ที่�ว่�า ก่�อต��ง อธ�บายได้�ว่�า มน&ษย�เป็ นผ��ก่�อต��งระเบ�ยบป็ระเพื่ณ�ต�างๆ ข-�นมาจาก่ผลแห�งก่ารป็ฏ�บ�ต�ในส�งคืมซึ่-�งสมาช�ก่ส�ว่นใหญ่�ของส�งคืมยอมร�บน�บถึ�อและป็ฏ�บ�ต� สถึาบ�นที่างก่ารเม�อง (Political Institution) น�บเป็ นสถึาบ�นที่��เก่��ยว่ข�องก่�บก่ารป็ก่คืรองโด้ยตรงซึ่-�งม�มาก่มาย ในที่��น��จะขอก่ล�าว่ถึ-งสถึาบ�นร�ฐธรรมน�ญ่และสถึาบ�นก่ฎีหมายเที่�าน��น

ร�ฐธรรมนื้"ญ (Constitution)

ร�ฐธรรมนื้"ญ คื�อ ก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐ เป็ นก่ฎีหมายแม�บที่ของก่ฎีหมายที่��งหลายในร�ฐ ก่ฎีหมายใด้ที่��ข�ด้แย�งก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ต�องถึ�อเป็ นโมฆ่ะ ก่ฎีหมายที่��งหมด้ในร�ฐจ�าเป็ นต�องเป็ นไป็ตามแนว่ที่างของก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่

ก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่โด้ยที่��ว่ไป็บ�ญ่ญ่�ต�ว่�าด้�ว่ย ร�ป็ของร�ฐ ก่ารแย�งแยก่อ�านาจอธ�ป็ไตย ส�ที่ธ�และหน�าที่��ของป็ระชาชน ร�ป็ของร�ฐบาลระเบ�ยบแบบแผนของก่ารป็ก่คืรอง ฯลฯ ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�ของคืว่ามจ�าเป็ นที่��ต�องม�ร�ฐธรรมน�ญ่ ก่8คื�อ ก่ารป็ก่คืรองร�ฐต�องเป็ นไป็โด้ยก่ฎีหมายม�ใช�โด้ยผ��ม�อ�านาจ

ร�ฐธรรมน�ญ่ของแต�ละร�ฐย�อมม�ล�ก่ษณะผ�ด้แผก่แตก่ต�างก่�นไป็ ซึ่-�งพื่อจะจ�าแนก่ได้�เป็ น 4 ป็ระเภที่ใหญ่�ๆ คื�อ

1. ร�ฐธรรมน�ญ่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษร (Written Constitution)

2. ร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ� (Unwritten Constitution)

3. ร�ฐธรรมน�ญ่เด้��ยว่ และร�ฐธรรมน�ญ่ร�ฐรว่ม (Unitary Constitution and Federal Constitution)

4. ร�ฐธรรมน�ญ่สาธารณร�ฐ และร�ฐธรรมน�ญ่ก่ษ�ตร�ย� (Republican Constitution and Monarchical Constitution)

1. ร�ฐธรรมนื้"ญลัายลั�กษณ�อ�กษร (Written Constitution)

Page 60: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คื�อ ก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐซึ่-�งได้�เข�ยนไว่�เป็ นลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรรว่มไว่�ในฉบ�บเด้�ยว่ โด้ยที่��ว่ไป็แล�ว่เน��อหาในร�ฐธรรมน�ญ่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรม�ก่จะข-�นต�นด้�ว่ยด้�ว่ย ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�ของร�ฐธรรมน�ญ่ ซึ่-�งเก่��ยว่ก่�บก่ารอย��ด้�ก่�นด้�ของป็ระชาชน คืว่ามย&ต�ธรรม คืว่ามสงบ คืว่ามเจร�ญ่ก่�าว่หน�าของร�ฐ เป็ นต�น เม��อหมด้ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�ของก่ารม�ร�ฐธรรมน�ญ่แล�ว่ ในข��นต�อมาก่8ม�ก่แบ�งอ�านาจอธ�ป็ไตย ซึ่-�งโด้ยที่��ว่ไป็ก่8แบ�งออก่เป็ น 3 สาขา คื�อ อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� อ�านาจบร�หาร และอ�านาจต&ลาก่าร ในส�ว่นน��ก่8ม�ก่จะม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�โด้ยละเอ�ยด้ว่�า จะให�ใคืรมาใช�อ�านาจเหล�าน��โด้ยว่�ธ�ใด้ และพื่ร�อมที่��งบ�ญ่ญ่�ต�ร�ป็ของร�ฐบาลด้�ว่ยว่�าจะเป็ นไป็ในระบบใด้ แบบใด้

ร�ฐธรรมน�ญ่จะม�หล�ก่ก่ารที่��จะแก่�ไขบที่ป็%ญ่ญ่�ต�บางป็ระก่ารของก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ให�เหมาะสมต�อก่าลสม�ย ว่�ธ�ก่ารน��ก่8ได้�บ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ในร�ฐธรรมน�ญ่ด้�ว่ย ส�าหร�บส�ที่ธ�ของป็ระชาชนน��น ส�ว่นใหญ่�แล�ว่ก่8จะม�ก่ารร�บป็ระก่�นไว่�ในร�ฐธรรมน�ญ่ด้�ว่ย

ในก่ารที่��ม�ร�ฐธรรมน�ญ่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรเป็ นบรรที่�ด้ฐานเช�นน��แล�ว่ ศาลส�งส&ด้ของร�ฐจ-งม�หน�าที่��ที่��จะว่�น�จฉ�ยช��ขาด้ไป็ได้�ว่�าก่ฎีหมายที่��ออก่โด้ยฝ่E ายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�น��นข�ด้ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม� เม��อม�ผ��น�ามาฟิAองต�อศาลส�งส&ด้หร�อศาลฎี�ก่า ถึ�าศาลฎี�ก่าต�ด้ส�นว่�าก่ฎีหมายใด้ข�ด้ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ ก่ฎีหมายน��นก่8ถึ�อว่�าเป็ นโมฆ่ะ ในก่รณ�ของไที่ยก่�าหนด้ให�ม�ศาลร�ฐธรรมน�ญ่ที่�าหน�าที่��น��

2. ร�ฐธรรมนื้"ญจัาร*ติประเพิณ* (Unwritten Constitution)

หร�อจะเร�ยก่อ�ก่อย�างหน-�งว่�าร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ไม�เป็ นลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรก่8ไม�ผ�ด้น�ก่ ป็ระเที่ศสหราชอาณาจ�ก่รน��นถึ�อได้�ว่�าเป็ นป็ระเที่ศเด้�ยว่ที่��ม�ร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ�เป็ นล�ก่ษณะเด้�น

ร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ�น��นอาศ�ยขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�และว่�ธ�ก่ารที่��ป็ฏ�บ�ต�ส�บต�อก่�นมาเป็ นเว่ลานาน รว่มก่�นเข�าเป็ นบที่บ�ญ่ญ่�ต�ที่��ม�อ�านาจเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ ก่�าหนด้เป็ นร�ป็ของก่ารป็ก่คืรองร�ฐ แต�ป็ระเที่ศสหราชอาณาจ�ก่รก่8ม�ก่ฎีหมายธรรมด้า ซึ่-�งออก่เป็ นลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรโด้ยร�ฐสภาหลายฉบ�บ ซึ่-�งล�ว่นแต�ม�ล�ก่ษณะก่�าหนด้ร�ป็ก่ารป็ก่คืรองป็ระเที่ศที่��งส��น เช�น Habeus Corpus Act (1679), Bill of Rights (1689), Act of Settlement (1701), Great Reform

Act (1832), The Representation of the Peoples’ Act (1949) เป็ นต�นฉะน��น จ-งขอย��าว่�าร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ�น��นแตก่ต�างก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ลายล�ก่ษณ�

อ�ก่ษรตรงที่��ว่�า ร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ�น��นไม�ได้�เป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ไว่�ในฉบ�บเด้�ยว่ก่�น และก่ารแก่�ไขเป็ล��ยนแป็ลงน��นโด้ยที่��ว่ไป็ง�ายก่ว่�าร�ฐธรรมน�ญ่ป็ระเภที่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษร เพื่ราะฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ออก่ก่ฎีหมายแก่�ไขให�เหมาะสมตามก่าลเว่ลาได้�โด้ยไม�ต�องผ�านก่ารอออก่เส�ยงป็ระชามต�ด้�งเช�นร�ฐธรรมน�ญ่ป็ระเภที่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรส�ว่นใหญ่�ก่�าหนด้ไว่�

3. ร�ฐธรรมนื้"ญเด*+ยว แลัะร�ฐธรรมนื้"ญร�ฐรวม (Unitary Constitution and Federal Constitution)

Page 61: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ร�ฐเด*+ยว คื�อ ป็ระเที่ศไที่ย ป็ระเที่ฝ่ร��งเศส ญ่��ป็&Eน อ�นโด้น�เซึ่�ย ส�งคืโป็ร� เป็ นต�น ร�ฐเด้��ยว่ม�ล�ก่ษณะเป็ นร�ฐที่��ม�ระบบร�ฐบาลเด้��ยว่ ก่ล�าว่คื�อ ฝ่Eายบร�หาร ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� และฝ่Eายต&ลาก่ารน��นอย��ที่��ร �ฐบาลก่ลาง โด้ยแบ�งแยก่อ�านาจสาขาออก่ไป็ตามส�ว่นภ�ม�ภาคื พื่อสร&ป็ได้�ว่�าร�ฐเด้��ยว่น��นอ�านาจมาจาก่ส�ว่นก่ลางก่ระจายออก่ส��ส�ว่นภ�ม�ภาคื

ส�ว่น ร�ฐรวม คื�อ ร�ฐที่��ม�ระบบร�ฐบาลซึ่�อนก่�นสองระบบ ก่ล�าว่คื�อม� ฝ่Eายบร�หาร ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� และฝ่Eายต&ลาก่ารของร�ฐบาลก่ลางและร�ฐส�ว่นที่�องถึ��นต��งแต� 2 ช&ด้ข-�นไป็ เป็ นอ�สระไม�ข-�นต�อก่�น ร�ฐบาลก่ลางม�อ�านาจ 2 แบบ คื�อ

1) ร�ฐบาลก่ลางม�อ�านาจเที่�าที่��ร �ฐบาลที่�องถึ��นก่�าหนด้ให�เที่�าน��น จะป็ราก่ฏในร�ป็ของสหพื่�นธร�ฐ (Federation) เช�น สหร�ฐอเมร�ก่า ที่��มลร�ฐต�างๆ รว่มต�ว่ก่�นสร�างร�ฐบาลก่ลางร�ว่มก่�นข-�นมา หร�อในล�ก่ษณะของสหภาพื่ ย&โรป็

2) ร�ฐบาลที่�องถึ��นม�อ�านาจเที่�าที่��ร �ฐบาลก่ลางได้�ก่�าหนด้ให�เที่�าน��น เช�น อ�งก่ฤษและสก่Pอตแลนด้� ในส ม�ยนาย ก่ร�ฐมนต ร� Tony Blair ได้� จ� ด้ ให�ม� ป็ร ะชาม ต� (Referendum) ผลป็ราก่ฏว่�าสก่Pอตแลนด้�ได้�แยก่ต�ว่ออก่เป็ นเขตป็ก่คืรองตนเอง ม�ร�ฐสภาป็ก่คืรองตนเอง เที่�าที่��ร �ฐบาลก่ลางให�อ�านาจไว่� เป็ นก่ารแก่�ป็%ญ่หาคืว่ามร&นแรงระหว่�างด้�นแด้นต�างๆ ที่��พื่ยายามแยก่ต�ว่ออก่มาได้�โด้ยก่ารป็ระน�ป็ระนอม และไม�ม�ก่ารถึ�ว่งคืว่ามเจร�ญ่ของก่�นและก่�นซึ่-�งในก่ารป็ก่คืรองร�ป็แบบน��เป็ นก่ารป็ก่คืรองแบบแบ�งอ�านาจก่�นระหว่�างที่�องถึ��นต�างๆ ของร�ฐ ให�ม�อ�านาจออก่ก่ฎีหมายบ�งคื�บในเขตป็ก่คืรองของตนได้� ไม�ก่�าว่ก่�ายซึ่-�งก่�นและก่�น ส�ว่นร�ฐธรรมน�ญ่ของร�ฐม�ก่ม�ซึ่�อนก่�น 2 ร�ฐธรรมน�ญ่ ก่ล� าว่คื�อ ร�ฐธรรมน�ญ่ของสหร�ฐฉบ�บหน-�ง ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ของมลร�ฐอ�ก่มลร�ฐละ 1

ฉบ�บ ซึ่-�งที่��งร�ฐและมลร�ฐม�อ�านาจออก่ก่ฎีหมายบ�งคื�บในเขตก่ารป็ก่คืรองของตน แต�จะก่�าว่ก่�ายอ�านาจซึ่-�งก่�นและก่�นไม�ได้� ข�อส�งเก่ตก่8คื�อ ร�ฐธรรมน�ญ่ของของสหร�ฐหร�อร�ฐธรรมน�ญ่ของชาต�น��นเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐ ถึ�าร�ฐธรรมน�ญ่ชองมลร�ฐช�ด้แย�งก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ของสหร�ฐน�� ร�ฐธรรมน�ญ่ของมลร�ฐจะถึ�อเป็ นโมฆ่ะ แต�ถึ�าอ�านาจอ�นใด้ม�ได้�ร�บ&ไว่�ในร�ฐธรรมน�ญ่ของสหร�ฐ ร�ฐธรรมน�ญ่ของมลร�ฐก่8ม�ส�ที่ธ�ที่��ใช�อ�านาจน��นๆ ได้�

4. ร�ฐธรรมนื้"ญสาธารณร�ฐ แลัะร�ฐธรรมนื้"ญกษ�ติร�ย� (Republican Constitution and Monarchical

Constitution)

หล�ก่ของก่ารแบ�งร�ฐธรรมน�ญ่สองป็ระเภที่น��ถึ�อเอาป็ระม&ขของร�ฐเป็ นหล�ก่ ร�ฐธรรมน�ญ่ของร�ฐใด้ที่��บ�ญ่ญ่�ต�ว่�าป็ระม&ขของร�ฐเป็ นป็ระธานาธ�บด้� ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��ม�สภาพื่เป็ นร�ฐธรรมน�ญ่สาธารณร�ฐ แต�ถึ�าร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บใด้บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ป็ระม&ขของร�ฐเป็ นก่ษ�ตร�ย�หร�อเป็ นราช�น� ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��นก่8เป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ก่ษ�ตร�ย�

ส�าหร�บป็ระธานาธ�บด้�ในร�ฐธรรมน�ญ่สาธารณร�ฐม�อย�� 3 ป็ระเภที่ คื�อ

Page 62: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1) ประธานื้าธ�บด*ผู้".ท�าหนื้.าท*+เป:นื้ประม2ขของร�ฐเท1านื้�นื้ ก่ล�าว่คื�อ ป็ระธานาธ�บด้�ไม�ม�อ�านาจที่างก่ารบร�หารแต�อย�างใด้ เพื่�ยงแต�ที่�าหน�าที่��พื่�ธ�ก่าร เช�น เป็ นป็ระธานก่ารเป็=ด้งาน เป็=ด้ถึนน เป็=ด้สะพื่าน พื่�ด้ป็ราศร�ย เป็ นต�าแหน�งที่��ม�เก่�ยรต� แต�อ�านาจบร�หารตก่เป็ นของนายก่ร�ฐมนตร�และคืณะร�ฐมนตร� เช�น ป็ระธานาธ�บด้�ของอ�นเด้�ย สว่�ตเซึ่อร�แลนด้� เยอรมน� ฯลฯ

2) ประธานื้าธ�บด*ผู้".ท�าหนื้.าท*+เป:นื้ประม2ขของร�ฐแลัะเป:นื้ห�วหนื้.าฝ่Aายบร�หารของร�ฐด.วย ที่��งสองต�าแหน�ง หร�ออ�ก่ น�ยหน-�งป็ระธานาธ�บด้�คืนเด้�ยว่ ที่�าหน�าที่��เป็ นที่��งป็ระม&ขของร�ฐและนายก่ร�ฐมนตร�ในเว่ลาเด้�ยว่ก่�น เช�น ป็ระธานาธ�บด้�ของสหร�ฐอเมร�ก่า เป็ นป็ระม&ขของร�ฐและเป็ นห�ว่หน�าฝ่Eายบร�หารด้�ว่ย

3) ประธานื้าธ�บด*ผู้".ท�าหนื้.าท*+เป:นื้ประม2ขของร�ฐแลัะย�งเป:นื้ห�วหนื้.าฝ่Aายบร�หารอย1างไม1เป:นื้ทางการ ในก่รณ�ของป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส ป็ระธานาธ�บด้�สามารถึใช�อ�านาจบร�หารบางส�ว่นโด้ยไม�ต�องให�นายก่ร�ฐมนตร�ร�บผ�ด้ชอบแที่น เช�น สามารถึย&บสภาผ��แที่นราษฎีรได้� ส�ว่นต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�น��นป็ระธานาธ�บด้�เป็ นผ��แต�งต��งและป็ลด้ออก่ได้�ตามคืว่ามเห8นของป็ระธานาธ�บด้�เอง ซึ่-�งนายก่ร�ฐมนตร�เป็ นผ��ใช�อ�านาจบร�หารอย�างแที่�จร�ง

ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ระบอบก่ารป็ก่คืรองแบบม�ก่ษ�ตร�ย�เป็ นป็ระม&ขของร�ฐก่8แบ�งก่ษ�ตร�ย�ออก่เป็ น 2 ป็ระเภที่ คื�อ

1) กษ�ติร�ย�ท*+อย"1ใติ.ร�ฐธรรมนื้"ญ อ�นได้�แก่� ร�ฐธรรมน�ญ่ไที่ยที่&ก่ฉบ�บ ร�ฐธรรมน�ญ่ของมาเลเซึ่�ย สว่�เด้น ญ่��ป็&Eน เป็ นอาที่� ก่ษ�ตร�ย�ที่รงเป็ นแต�เพื่�ยงป็ระม&ขของร�ฐเที่�าน��น ม�หน�าที่��เช�นเด้�ยว่ก่�บป็ระธานาธ�บด้�ผ��ที่�าหน�าที่��เป็ นป็ระม&ขของร�ฐเที่�าน��น ไม�ได้�ที่รงที่�าก่ารบร�หารป็ระเที่ศ ก่ษ�ตร�ย� คื�อ ส�ญ่ล�ก่ษณ�แห�งคืว่ามสาม�คืคื� (Symbol of Unity) แห�งร�ฐ ฉะน��น ก่ษ�ตร�ย�ไม�ต�องร�บผ�ด้ชอบในก่ารบร�หาร อ�านาจที่างก่ารบร�หารจ-งตก่อย��ก่�บนายก่ร�ฐมนตร�และคืณะร�ฐมนตร�

2) กษ�ติร�ย�แบบสมบ"รณาญาส�ทธ�ราชั้ย� (Absolute Monarchy) ก่ษ�ตร�ย�อย��เหน�อก่ฎีหมายหร�อก่ษ�ตร�ย�คื�อก่ฎีหมาย ก่ารป็ก่คืรองระบอบน��ย�งม�อย��เช�นป็ระเที่ศโมร8อคืโคื ซึ่าอ&ด้�อาระเบ�ย จอร�แด้น เป็ นต�น ถึ-งแม�ว่�าป็ระเที่ศเหล�าน��จะม�ร�ฐธรรมน�ญ่ก่ษ�ตร�ย�และม�นายก่ร�ฐมนตร� และคืณะร�ฐมนตร�เป็ นผ��ร �บผ�ด้ชอบในก่ารบร�หารป็ระเที่ศ แต�ผ��ม�อ�านาจจร�งๆ แล�ว่ ก่8คื�อ ก่ษ�ตร�ย�น��นเอง

ความเป:นื้มาของร�ฐธรรมนื้"ญจาก่ป็ระว่�ต�ศาสตร� เราจะเห8นได้�ว่�าร�ฐต�างๆ ในโลก่น�� ได้�ร�ฐธรรมน�ญ่มาโด้ยว่�ธ�ก่าร 4

ว่�ธ� ด้�งน��1. โด้ยก่ารเป็ล��ยนแป็ลงอย�างคื�อยเป็ นคื�อยไป็ (Gradual Evolution)

Page 63: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. โด้ยก่ารป็ฏ�ว่�ต� (Revolution) หร�อร�ฐป็ระหาร (Coup d’Etat)

3. โด้ยก่ารยก่ร�าง (Deliberate Creation)

4. โด้ยก่ษ�ตร�ย�พื่ระราชที่านให� (Grant)

1. โดยการเปลั*+ยนื้แปลังอย1างค1อยเป:นื้ค1อยไป (Gradual Evolution)

ส�าหร�บก่ารเป็ล��ยนแป็ลงอย�างคื�อยเป็ นคื�อยไป็ของร�ฐธรรมน�ญ่น��น ต�ว่อย�างที่��ด้�ที่��ส&ด้ คื�อ ร�ฐธรรมน�ญ่ของอ�งก่ฤษ ซึ่-�งเป็ นผลจาก่ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงที่�ละเล8ก่ที่�ละน�อย โด้ยเร��มจาก่ก่ารป็ก่คืรองระบอบก่ษ�ตร�ย�สมบ�รณาญ่าส�ที่ธ�ราชย� ต�อมา อ�านาจถึ�ก่เป็ล��ยนม�อจาก่ก่ษ�ตร�ย�ไป็ย�งก่ล&�มผ��แที่นของป็ระชาชนที่�ละเล8ก่ที่�ละน�อย โด้ยเร��มจาก่บที่บ�ญ่ญ่�ต� แมก่นา คืาร�ตา (Magna Carta) ซึ่-�งบรรด้าเจ�าข&นม�ลนายของอ�งก่ฤษร�ว่มก่�นที่�าเป็ นที่�านองบ�งคื�บพื่ระเจ�าจอห�น ให�น�อมร�บส�ที่ธ�Lบางอย�างของข&นนางและเอก่ชนในป็B คื.ศ.1215 ซึ่-�งชาว่อ�งก่ฤษถึ�อว่�าเป็ นจ&ด้เร��มต�นแห�งร�ฐธรรมน�ญ่ของตน

นอก่จาก่น��ย�งม�ช�ว่งเว่ลาส�าคื�ญ่ของป็ระว่�ต�ศาสตร�อ�งก่ฤษตอนหน-�ง ก่8คื�อ พื่ระเจ�าจอร�จที่�� 1 (George I) ซึ่-�งข-�นคืรองราชย�ในป็B คื.ศ.1714 เป็ นชาว่เยอรม�น จาก่แคืว่�น Hannover

(พื่ระเจ�าจอร�จที่�� 1 เป็ นต�นราชว่งศ� Windsor ที่��ย�งป็ก่คืรองป็ระเที่ศอ�งก่ฤษในป็%จจ&บ�น)

เน��องจาก่พื่ระเจ�าจอร�จที่�� 1 เป็ นชาว่เยอรม�น และไม�สามารถึตร�สภาษาอ�งก่ฤษได้� รว่มที่��งพื่ระองคื�ไม�สนพื่ระที่�ยก่�จก่ารบ�านเม�องของอ�งก่ฤษเที่�าไรเลย ที่�าให�อ�านาจในก่ารป็ก่คืรองต�างๆ ก่8เร��มเป็ล��ยนม�อไป็ส��คืณะร�ฐมนตร� ก่ารที่��ป็ฏ�บ�ต�เช�นน��ส�บมาเป็ นเว่ลานาน ที่�าให�อ�านาจที่างก่ารป็ก่คืรองที่��แที่�จร�งตก่มาอย��ก่�บผ��แที่นของป็ระชาชนในที่��ส&ด้ และอ�านาจน��ก่8ได้�ร�บก่ารร�บรองว่�าเป็ นอ�านาจที่��ชอบด้�ว่ยก่ฎีหมาย ซึ่-�งเป็ นส�ว่นหน-�งของร�ฐธรรมน�ญ่แบบจาร�ตป็ระเพื่ณ�ของอ�งก่ฤษน��นเอง ก่ารศ-ก่ษาป็ระว่�ต�ศาสตร�ที่�าให�สามารถึส�งเก่ตร�ฐธรรมน�ญ่แบบน��ได้�ช�ด้เจนข-�น

2. โดยการปฏิ�ว�ติ� (Revolution) หร�อร�ฐประหาร (Coup d’Etat)

การปฏิ�ว�ติ� (Revolution) คื�อ ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงอย�างขนานใหญ่� อย�างรว่ด้เร8ว่แที่บจะเร�ยก่ได้�ว่�าจาก่หน�าม�อเป็ นหล�งม�อ ก่ารป็ฏ�ว่�ต�เป็ นก่ารล�มล�างร�ฐบาลโด้ยก่ารใช�ก่�าล�งร&นแรงและป็ระชาชนเป็ นผ��ที่�าก่ารป็ฏ�ว่�ต�เป็ นส�ว่นรว่ม เช�น ก่ารป็ฏ�ว่�ต�คืร��งใหญ่�ของป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส ใน คื.ศ.1781 และก่ารป็ฏ�ว่�ต� ในป็ระเที่ศร�สเซึ่�ย คื.ศ.1817 เป็ นต�ว่อย�างของก่ารเป็ล��ยนแป็ลงระบอบก่ารเม�องจาก่ระบบก่ษ�ตร�ย�ไป็ส��ระบอบอ��นในที่�นที่�ที่�นใด้ และม�ก่ารนองเล�อด้ในก่ารป็ฏ�ว่�ต�ที่��งสองน��

ส�ว่นก่ารร�ฐป็ระหาร (Coup d’Etat) คื�อ ก่ารย-ด้อ�านาจของก่ล&�มบ&คืคืล เช�น คืณะที่หาร เป็ นต�น ก่ารก่ระที่�าร�ฐป็ระหารน��นเป็ นก่ารล�มล�างร�ฐบาลซึ่-�งเพื่�งเล8งถึ-งต�ว่บ&คืคืลในคืณะร�ฐบาลเที่�าน��น เช�น ก่ารเป็

Page 64: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ารป็ฏ�ว่�ต�อาจเก่�ด้ข-�นเม��อป็ระชาชนม�คืว่ามไม�พื่อใจร�ฐบาลที่��ป็ก่คืรองอย��อย�างร&นแรง และไม�สามารถึที่��จะเป็ล��ยนแป็ลงร�ฐบาลคืณะน��นได้�โด้ยว่�ธ�ก่ารที่��ชอบด้�ว่ยก่ฎีหมายตามระบอบก่ารป็ก่คืรองที่��ม�อย�� เม��อป็ระชาชนถึ�ก่บ�บบ�งคื�บหน�ก่เข�าและเห8นว่�าระบอบก่ารป็ก่คืรองคืว่รจะต�องเป็ล��ยนแป็ลงไป็ส��ก่ารป็ก่คืรองระบอบใหม�จ-งเก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ข-�น เม��อม�ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ก่8อาจจะเก่�ด้สงคืรามก่ลางเม�องหร�อเก่�ด้ก่ารจลาจลข-�นจนก่ว่�าจะม�ร�ฐบาลที่��ม� �นคืงที่�าก่ารป็ก่คืรองป็ระเที่ศ บางคืร��งผ��ที่��ม�อ�านาจอย��ระหว่�างป็ฏ�ว่�ต� ได้�จ�ด้ให�ม�ก่ารร�างร�ฐธรรมน�ญ่ออก่มาใช�บ�งคื�บ ซึ่-�งส�ว่นใหญ่�ม�ก่จะเป็ นก่ารเป็ล��ยนแป็ลงระบอบก่ารป็ก่คืรองของร�ฐจาก่อย�างหน-�งมาเป็ นอ�ก่อย�างหน-�ง

3. โดยการยกร1าง (Deliberate Creation)

ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ม�ก่�าเน�ด้มาจาก่ก่ารยก่ร�างน��ส�ว่นมาก่ม�ก่เก่�ด้ข-�นหล�งจาก่ที่��ได้�ม�ร�ฐใหม�เก่�ด้ข-�น หล�งจาก่ที่��ร�ฐใด้ร�ฐหน-�งได้�ร�บเอก่ราชหล&ด้พื่�นจาก่สภาพื่ก่ารเป็ นอาณาน�คืมของร�ฐอ�ก่ร�ฐหน-�ง เช�น ป็ระเที่ศสหร�ฐอเมร�ก่าได้�เป็ นป็ระเที่ศเอก่ราชหล&ด้พื่�นจาก่ก่ารป็ก่คืรองของจ�ก่รว่รรด้�บร�ต�ช ในป็B คื.ศ.1676 ซึ่-�งต�อมาในป็B 1687 ก่8ได้�ม�ก่ารป็ระก่ารใช�ร�ฐธรรมน�ญ่ของป็ระเที่ศสหร�ฐอเมร�ก่าข-�น ในที่�านองเด้�ยว่ก่�นก่�บป็ระเที่ศอ�นเด้�ย พื่ม�า มาเลเซึ่�ย และบรรด้าป็ระเที่ศในที่ว่�ป็แอฟิร�ก่าที่��งหลาย

นอก่จาก่น�� บรรด้าร�ฐที่��เก่�ด้ข-�นใหม�ในที่ว่�ป็ย&โรป็ภายหล�งสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 1 อ�นส�บเน��องมาจาก่สนธ�ส�ญ่ญ่าระหว่�างป็ระเที่ศ เช�น ป็ระเที่ศย�โก่สลาเว่�ย โป็แลนด้� ฟิ=นแลนด้� เป็ นอาที่� ก่8ได้�ยก่ร�างร�ฐธรรมน�ญ่ข-�นหล�งจาก่ที่��ได้�ร�บก่ารร�บรองว่�าเป็ นป็ระเที่ศเอก่ราชจาก่บรรด้าป็ระเที่ศต�างๆ แล�ว่

4. โดยกษ�ติร�ย�พิระราชั้ทานื้ให. (Grant)

ร�ฐส�ว่นใหญ่�ในที่ว่�ป็เอเช�ยและย&โรป็ตามป็ระว่�ต�ศาสตร� ม�ก่จะม�ก่ารป็ก่คืรองแบบสมบ�รณาญ่าส�ที่ธ�ราชย� ก่ษ�ตร�ย�อย��เหน�อก่ฎีหมาย ก่ษ�ตร�ย�ม�อ�านาจอย�างไม�ม�ขอบเขตเป็ นเจ�าช�ว่�ต เป็ นเจ�าของที่&ก่ส��งที่&ก่อย�างในร�ฐ ต�อมาก่ษ�ตร�ย�อาจม�คืว่ามคื�ด้ว่�าคืว่รจะม�ก่�าหนด้อ�านาจของพื่ระองคื�และว่�ธ�ก่ารใช�อ�านาจอ�นให�เป็ นที่��แน�นอน อาจจะเป็ นเพื่ราะก่ษ�ตร�ย�เห8นว่�าม�ว่�ธ�ก่ารอ��นอ�นจะน�ามาซึ่-�งคืว่ามเจร�ญ่ของร�ฐ ก่ษ�ตร�ย�บางพื่ระองคื�ที่รงก่�าหนด้พื่ระราชอ�านาจเน��องจาก่ถึ�ก่บ�งคื�บ หร�อที่�าเพื่��อเป็ นก่ารต�อรองก่�บข&นนางและป็ระชาชน

ร�ฐธรรมน�ญ่ซึ่-�งถึ�อก่�าเน�ด้มาจาก่ก่ารที่��ก่ษ�ตร�ย�พื่ระราชที่านให� ม�ล�ก่ษณะที่��ก่ษ�ตร�ย�ที่รงย�นยอมจะใช�อ�านาจตามว่�ธ�ที่��ก่�าหนด้ไว่�หร�อผ�านองคื�ก่รที่��ก่�าหนด้ไว่� ร�ฐธรรมน�ญ่น��อาจถึ�ก่แก่�ไขเป็ล��ยนแป็ลงได้�ตามคืว่ามป็ระสงคื�ของก่ษ�ตร�ย� แต�ในบางก่รณ�ก่ษ�ตร�ย�จะเป็ล��ยนแป็ลงแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่ในบางระบอบไม�ได้�นอก่จาก่จะได้�ร�บคืว่ามย�นยอมจาก่ป็ระชาชน

Page 65: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ลั�กษณะท*+ด*ของร�ฐธรรมนื้"ญร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ด้� คื�อ ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��เหมาะสมก่�บสภาพื่อ�นแที่�จร�งของร�ฐ ก่ล�าว่คื�อ เพื่��อ

ผลป็ระโยชน�ต�อป็ระชาชนเป็ นส�ว่นรว่ม ช�ว่�ตคืว่ามเป็ นอย��ป็ระจ�าว่�นของเอก่ชนแต�ละบ&คืคืล ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ด้�ม�ล�ก่ษณะส�าคื�ญ่ 5 ป็ระก่าร ด้�งน��คื�อ

1. ร�ฐธรรมนื้"ญท*+ด*ควรม*ข.อความท*+ชั้�ดเจันื้แนื้1นื้อนื้ เพื่��อจะให�เข�าใจได้�ง�าย ไม�ใช�คื�าที่��ก่�าก่ว่ม ซึ่-�งล�อแหลมต�อก่ารต�คืว่ามผ�ด้ๆ จะต�องใช�ถึ�อยคื�าที่��เล�อก่สรรมาแล�ว่ว่�าม�คืว่ามหมายที่��แน�นอนที่��ส&ด้ คื�าหร�อข�อคืว่ามที่��ม�คืว่ามหมายสองแง�สองม&มหร�อก่�าก่ว่ม ซึ่-�งอาจที่�าให�เข�าใจไป็ได้�หลายก่รณ�ไม�คืว่รน�ามาใช�ในก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่

2. ร�ฐธรรมนื้"ญท*+ด*ควรจัะม*การบ�ญญ�ติ�ส�ทธ�แลัะเสร*ภูาพิของประชั้าชั้นื้ไว.อย1างชั้�ดเจันื้แนื้1นื้อนื้ รว่มที่��งก่ารคื&�มคืรองส�ที่ธ�และเสร�ภาพื่ของป็ระชาชนอ�ก่ด้�ว่ย เพื่��อที่��จะเป็ นหล�ก่ป็ระก่�นส�ที่ธ�และเสร�ภาพื่ของป็ระชาชน ป็Aองก่�นม�ให�ร�ฐหร�อเอก่ชนมาก่ด้ข��บ�งคื�บได้� ซึ่-�งถึ�าร�ฐออก่ก่ฎีหมายใด้ที่��ล�ด้รอนส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของป็ระชาชนแล�ว่ ก่ฎีหมายน��นก่8ข�ด้ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ซึ่-�งเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของชาต� และจะต�องถึ�อว่�าก่ฎีหมายน��นเป็ นโมฆ่ะไป็ ด้�งเช�น ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของป็ระชาชนซึ่-�งก่�าหนด้ไว่�ในร�ฐธรรมน�ญ่เร��องส�ที่ธ�ในที่ร�พื่ย�สมบ�ต�ของตน เสร�ภาพื่ในก่ารพื่�ด้ ก่ารเข�ยน เป็ นต�น ถึ�อว่�าเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ซึ่-�งจะล�มล�างไม�ได้�

3. ร�ฐธรรมนื้"ญท*+ด*ติ.องครอบคลั2มบทบ�ญญ�ติ�เก*+ยวก�บการปกครองของร�ฐไว.อย1างครบถ.วนื้ ก่ล�าว่คื�อ ร�ฐธรรมน�ญ่คืว่รจะม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งก่ารใช�อ�านาจอธ�ป็ไตย ก่ารแบ�งอ�านาจอธ�ป็ไตย คืว่ามส�มพื่�นธ�ขององคื�ก่ารที่��ใช�อ�านาจอธ�ป็ไตยและสถึาบ�นที่างก่ารเม�องของร�ฐ ก่ารก่�าหนด้ว่�ธ�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงร�ฐบาลตามว่�ถึ�ที่างของร�ฐธรรมน�ญ่

4. ร�ฐธรรมนื้"ญท*+ด*ไม1ควรยาวเก�นื้ไป เพื่ราะร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ด้�คืว่รจะม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�หล�ก่ก่ารจ�ด้ร�ป็ก่ารป็ก่คืรองของร�ฐที่��ส�าคื�ญ่และจ�าเป็ นเที่�าน��น ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�ย�ด้ยาว่และม�รายละเอ�ยด้มาก่เก่�นไป็จะที่�าให�ก่ารต�คืว่ามย&�งเหย�งมาก่ข-�นและจะไม�ได้�ร�บคืว่ามเคืารพื่เที่�าที่��คืว่ร เพื่ราะบที่บ�ญ่ญ่�ต�ซึ่-�งละเอ�ยด้ฟิ& EมเฟิFอยเก่�นไป็อาจไม�เหมาะสมก่�บสถึานก่ารณ�จะที่�าให�เก่�ด้ม�ก่ารแก่�ไขบ�อยจนเก่�นไป็ ส�าหร�บรายละเอ�ยด้ป็ล�ก่ย�อยของก่ารป็ก่คืรองป็ระเที่ศน��น คืว่รเป็ นหน�าที่��ขององคื�ก่รฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�จะออก่ก่ฎีหมายธรรมด้าออก่มา ม�ใช�เร��องที่��คืว่รบ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ในร�ฐธรรมน�ญ่

บที่บ�ญ่ญ่�ต�ร�ฐธรรมน�ญ่น��น ข�อใหญ่�ใจคืว่ามคืว่รจะเป็ นก่ารจ�ด้ร�ป็ร�ฐบาล ก่ารบ�ญ่ญ่�ต�สภา ว่�ธ�ก่ารก่�อต��งและอ�านาจหน�าที่��ขององคื�ก่รต�างๆ ของร�ฐบาล ตลอด้จนว่�ธ�ก่ารที่��องคื�ก่ารเหล�าน��จะใช�อ�า นาจหน�าที่��ก่�าหนด้ไว่�ในบที่บ�ญ่ญ่�ต� เป็ นส��งที่��จะละเลยไม�ได้�ในก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ที่��งน��ร �ฐธรรมน�ญ่จะต�องไม�ส��นจนเก่�นไป็จนไม�ม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�เหล�าน��อย��

5. ร�ฐธรรมนื้"ญท*+ด*ควรม*ก�าหนื้ดว�ธ*การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญติามกฎีหมายข&นื้ไว. เพื่ราะร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ด้�ต�องม�คืว่ามย�ด้หย&�นเหมาะสมก่�บก่าลสม�ย ก่ารที่��ม�ว่�ธ�ก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ตามก่ฎีหมายน��นก่8เพื่��อป็Aองก่�นก่ารล�มล�างหร�อแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่โด้ยก่ารใช�

Page 66: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่�าล�งอ�นเป็ นธรรมชาต�ของมน&ษย� เม��อไม�ม�ที่างออก่ก่8อาจเก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�หร�อร�ฐป็ระหารข-�นเพื่��อที่��จะแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่

ส�าหร�บหล�ก่ก่ารในก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่น��น ต�องไม�ง�ายจนเก่�นไป็เพื่ราะจะที่�าให�ร�ฐธรรมน�ญ่ไม�ได้�ร�บคืว่ามเคืารพื่จาก่ป็ระชาชนเที่�าที่��คืว่ร และแก่�ไขเพื่��มเต�มคืว่รเป็ นก่ารถึาว่รพื่อสมคืว่รไม�ใช�เป็ นก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มช��ว่คืราว่

สร&ป็แล�ว่ร�ฐธรรมน�ญ่เป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐ แต�ร�ฐธรรมน�ญ่ก่8เป็ นก่ฎีหมายธรรมด้าที่��ว่ไป็ในแง�ที่��ว่�า ถึ�าไม�ม�ผ��ใด้ป็ฏ�บ�ต�ตามโด้ยเฉพื่าะอย�างย��งผ��ที่��ร �ก่ษาก่ฎีหมายละเม�ด้ก่ฎีหมายเส�ยเอง ร�ฐธรรมน�ญ่ก่8ม�คื�าเพื่�ยงแคื�เศษก่ระด้าษธรรมด้าเที่�าน��น

การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ของร�ฐต�างๆ ตามป็ระว่�ต�ศาสตร�ที่��ผ�านมาก่8พื่อจะแบ�ง

ออก่ได้�เป็ น 5 ป็ระก่ารด้�ว่ยก่�น คื�อ1. การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญโดยฝ่Aายนื้�ติ�บ�ญญ�ติ� ก่ล�าว่คื�อ ถึ�อเอาเส�ยงข�างมาก่

ในฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ ป็ระเที่ศสหราชอาณาจ�ก่ร เป็ นต�ว่อย�างของก่ารแก่�ไขโด้ยว่�ธ�ก่ารง�ายๆ เช�นน�� แต�เราจะต�องระล-ก่ไว่�เสมอว่�า ร�ฐธรรมน�ญ่ของอาณาจ�ก่รเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ� ซึ่-�งเก่�ด้จาก่ก่ารรว่บรว่มก่ฎีหมายฉบ�บต�างๆ เข�าเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ ม�ได้�เป็ นก่ฎีหมาย ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บเด้�ยว่เช�นเด้�ยว่ก่�นก่�บร�ฐธรรมน�ญ่แบบลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษร

ร�ฐธรรมน�ญ่แห�งราชอาณาจ�ก่รไที่ย พื่.ศ.2540 (หมว่ด้ 12) ได้�ม�ก่ารบ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มโด้ยว่�ธ�น��

2. การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญโดยฝ่Aายนื้�ติ�บ�ญญ�ติ�แบบลังคะแนื้นื้เส*ยงพิ�เศษ โด้ยม�ว่�ธ�ก่ารพื่�เศษ คื�อ ต�องก่ารคืะแนนเส�ยงมาก่ก่ว่�าก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มหร�อยก่ร�างก่ฎีหมายธรรมด้า ก่ล�าว่คื�อ ไม�ใช�เพื่�ยงแต�เส�ยงข�างมาก่ 50+1% เที่�าน��น แต�ต�องเป็ นคืะแนนเส�ยงที่��มาก่ก่ว่�าน��น เช�น 2/3 หร�อ 3/4 ของสมาช�ก่ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� เป็ นต�น ป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส ญ่��ป็&Eน นอร�เว่ย� ใช�ว่�ธ�ก่ารน��ในก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ของป็ระเที่ศ

3. การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญโดยฝ่Aายนื้�ติ�บ�ญญ�ติ�แบบให.ม*การลังประชั้ามติ� เม��อฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ได้�แก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่แล�ว่จะต�องน�ามาให�ป็ระชาชนลงคืะแนนเส�ยงร�บรอง

Page 67: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เป็ นก่ารแสด้งป็ระชามต�ว่�าจะร�บหร�อไม�ร�บหล�ก่ก่าร เช�น ร�ฐธรรมน�ญ่ของฝ่ร��งเศส ป็B คื.ศ.1958 และร�ฐธรรมน�ญ่ไที่ยป็B พื่.ศ.2492 และ 2501

4. การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญโดยให.ประชั้าชั้นื้ท�+วไป ผ��ม�ส�ที่ธ�ออก่เส�ยงเล�อก่ต��ง เป็ นผ��ม�ส�ที่ธ�ออก่เส�ยงป็ระชามต� (Referendum) หร�อป็ระชาชนม�ส�ที่ธ�ที่��จะเสนอข�อแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ได้�เองด้�ว่ย (Initiative) ว่�ธ�น��อย��ในป็ระเที่ศสว่�ตเซึ่อร�แลนด้� น�ก่ร�ฐศาสตร�หลายที่�านก่ล�าว่ก่�นว่�า ว่�ธ�น��เป็ นว่�ธ�ก่ารที่��ด้�ที่��ส&ด้ เพื่ราะป็ระชาชนต�างหาก่ไม�ใช�ร�ฐบาลคืว่รจะม�อ�านาจในก่ารร�างร�ฐธรรมน�ญ่ แต�ว่�ธ�ก่ารน��จะใช�ได้�ผลด้�ก่8ต�อเม��อป็ระชาชนร�ฐน��นม�ก่ารศ-ก่ษาด้� และม�คืว่ามร�บผ�ด้ชอบในส�ที่ธ�และหน�าที่��ของตนเป็ นอย�างด้�

5. การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญโดยการจั�ดติ�งองค�การพิ�เศษ ซึ่-�งได้�ร�บเล�อก่ต��งโด้ยป็ระชาชนให�ม�หน�าที่��โด้ยเฉพื่าะในก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ องคื�ก่ารพื่�เศษน��เร�ยก่ว่�า สภาร�างร�ฐธรรมน�ญ่ (Constitutional Convention) เม��อแก่�ไขเพื่��มเต�มเร�ยบร�อยแล�ว่ ก่8น�ามาเสนอให�ป็ระชาชนลงคืะแนนเส�ยงก่�นอ�ก่ที่�หน-�ง ว่�ธ�ก่ารน��ใช�ก่�นมาก่ในสหร�ฐระด้�บมลร�ฐ ด้�งเช�น ก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ของมลร�ฐอ�ลล�นอยส� (Illinois) เม��อป็B คื.ศ.1970 เป็ นต�น

ไที่ยได้�น�าเอาร�ป็แบบสภาร�างร�ฐธรรมน�ญ่น��มาใช�ในก่ารยก่ร�างร�ฐธรรมน�ญ่ใหม�ที่��งฉบ�บ (ร�ฐธรรมน�ญ่แห�งราชอาณาจ�ก่รไที่ย พื่.ศ.2540) โด้ยม�ผ��แที่นจาก่จ�งหว่�ด้ต�างๆ สถึาบ�นอ&ด้มศ-ก่ษา ผ��เช��ยว่ชาญ่ด้�านก่ฎีหมาย ร�ฐศาสตร� และผ��ม�ป็ระสบก่ารณ�ด้�านก่ารเม�อง ม�ก่ารลงมต�ร�บรองจาก่ที่��ป็ระช&มร�ฐสภาก่ล��นก่รองจนได้�สมาช�ก่สภาร�างร�ฐธรรมน�ญ่ 99 คืน ใช�เว่ลาร�างร�ฐธรรมน�ญ่ 233 ว่�น แล�ว่เสนอร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บใหม�ให�ร�ฐสภาพื่�จารณาร�บรอง แล�ว่ที่�ลเก่ล�าฯ ถึว่ายให�ลงพื่ระป็รมาภ�ไธย

กฎีหมายแลัะความเป:นื้มาของกฎีหมายในองคื�ก่ารที่&ก่องคื�ก่ารจ�าเป็ นจะต�องม�ระเบ�ยบก่ฎีเก่ณฑ์�ของตนเองเพื่��อใช�ป็ก่คืรอง

สมาช�ก่ขององคื�ก่าร จ&ด้ม&�งหมายของก่ารม�ระเบ�ยบข�อบ�งคื�บก่8เพื่�� อคืว่ามเป็ นระเบ�ยบเร�ยบร�อย คืว่ามสงบและคืว่ามย&ต�ธรรมที่��งก่�จก่ารส�ว่นบ&คืคืลและก่�จก่ารสาธารณะ ร�ฐก่8คื�อองคื�ก่ารหน-�ง จ-งจ�าเป็ นต�องม�ก่ฎีเก่ณฑ์�ข�อบ�งคื�บต�างๆ เพื่��อคืว่ามสงบและคืว่ามเป็ นระเบ�ยบเร�ยบร�อยภายในร�ฐเช�นก่�น ก่ฎีเก่ณฑ์�ข�อบ�งคื�บเหล�าน��คื�อ ก่ฎีหมาย นอก่จาก่จะม�ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�เพื่��อร�ก่ษาคืว่ามสงบและคืว่ามเป็ นระเบ�ยบเร�ยบร�อยของร�ฐแล�ว่ ย�งม�จ&ด้ม&�งหมายที่��จะร�ก่ษาส�ที่ธ�และเสร�ภาพื่ตลอด้จนผลป็ระโยชน�ของป็ระชาชน อ�ก่ที่��งร�ฐบาลก่8ต�องย-ด้

Page 68: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ฎีหมายเป็ นหล�ก่ ก่ารป็ก่คืรองจะอย��ในก่รอบระเบ�ยบหล�ก่เก่ณฑ์�ของก่ฎีหมายเป็ นแนว่ที่างไป็ส��ป็ระโยชน�ส&ขส�ว่นรว่มของร�ฐ

ด้�งน��นเราพื่อจะได้�คืว่ามคื�ด้เก่��ยว่ก่�บคืว่ามเป็ นมาของก่ฎีหมาย ก่ล�าว่คื�อเก่�ด้จาก่ ก่ฎีหมายเป็ นส��งจ�าเป็ นของร�ฐ เพื่��อก่�อให�คืว่ามเป็ นระเบ�ยบเร�ยบร�อย คืว่ามสงบส&ข ตลอด้“

จนคืว่ามก่�าว่หน�าให�แก่�ร�ฐ”

ก่ฎีหมายได้�ถึ�ก่บ�ญ่ญ่�ต�ข-�นมาจาก่คืว่ามต�องก่ารที่��จะร�ก่ษาคืว่ามสงบเร�ยบร�อยในร�ฐ และเพื่��อที่��ป็ระชาชนจะได้�ร� �ส�ที่ธ�และหน�าที่��อ�นม�ขอบเขตแน�นอนเพื่��อที่��สะด้ว่ก่ต�อก่ารป็ฏ�บ�ต�ต�ว่ในส�งคืมของร�ฐ

ประเภูทของกฎีหมายโด้ยที่��ว่ไป็แล�ว่ก่ฎีหมายแบ�งออก่เป็ น 2 ป็ระเภที่ คื�อ

1. กฎีหมายสารบ�ญญ�ติ� (Substantive Law) คื�อ ก่ฎีหมายที่��บ�ญ่ญ่�ต�ข-�นเพื่�� อก่�าหนด้และร�บรองส�ที่ธ� ตลอด้จนป็ระโยชน�ของป็ระชาชน อาที่� ก่ฎีหมายที่��ด้�น ก่ฎีหมายอาญ่า ก่ฎีหมายแพื่�งและพื่าณ�ชย� ที่��ก่�าหนด้ว่�าก่ารที่�าเช�นใด้เป็ นก่ารละเม�ด้ก่ฎีหมาย ม�โที่ษใด้บ�าง ฯลฯ

2. กฎีหมายว�ธ*สบ�ญญ�ติ� (Procedual Law) คื�อ ก่ฎีหมายที่��แสด้งถึ-งว่�ธ�ก่ารพื่�จารณาคืว่ามในศาล ก่�าหนด้ว่�ธ�ก่ารคื&�มก่�นส�ที่ธ�และผลป็ระโยชน�ของป็ระชาชน

บ&คืคืลที่��ถึ�ก่ละเม�ด้ส�ที่ธ�หร�อผลป็ระโยชน�ที่��ร �บรองโด้ยก่ฎีหมายสารบ�ญ่ญ่�ต� เม��อน�าเร��องข-�นฟิAองร�องต�อศาลแล�ว่น��น เร�ยก่ว่�าโจัทก� (Plaintif) และผ��ที่��ถึ�ก่ก่ล�าว่หาว่�าเป็ นผ��ล�ว่งละเม�ด้ส�ที่ธ�น��น เร�ยก่ว่�า จั�าเลัย (Defendant) จะน�าก่ฎีหมายว่�ธ�สบ�ญ่ญ่�ต�มาใช�พื่�จารณาคืด้� ก่ฎีหมายว่�ธ�สบ�ญ่ญ่�ต�จะเป็ นก่ฎีหมายที่��ที่�าให�ก่ฎีหมายสารบ�ญ่ญ่�ต�ม�ผลบ�งคื�บใช�ได้� เช�น ก่ฎีหมายว่�ธ�พื่�จารณาคืว่ามอาญ่า ซึ่-�งเป็ นก่ฎีหมายว่�ธ�สบ�ญ่ญ่�ต�ของก่ฎีหมายอาญ่า ก่ฎีหมายว่�ธ�พื่�จารณาคืว่ามแพื่�ง ก่ฎีหมายล�ก่ษณะพื่ยาน เป็ นต�น

นอก่จาก่น�� เราย�งสามารถึแบ�งก่ฎีหมายตามขอบเขตที่��ใช�บ�งคื�บและตามคืว่ามม&�งหมายที่��จะคืว่บคื&มบ�งคื�บ ระหว่�างเอก่ชนต�อเอก่ชน ระหว่�างเอก่ชนต�อร�ฐ หร�อระหว่�างร�ฐก่�บร�ฐได้� โด้ยอาจจะแบ�งก่ฎีหมายออก่เป็ น 2 ป็ระเภที่ใหญ่�ๆ คื�อ

1. ก่ฎีหมายภายในป็ระเที่ศ (National Law)

2. ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศ (International Law)

1. กฎีหมายภูายในื้ประเทศ (National Law) คื�อ ก่ฎีหมายที่��ใช�บ�งคื�บภายในร�ฐ ต�อบ&คืคืลที่&ก่คืนไม�ว่�าจะเป็ นป็ระชาชนของร�ฐน��นๆ หร�อคืนต�างด้�าว่ก่8ตาม หาก่บ&คืคืลน��นๆ ได้�อาศ�ยอย��ในร�ฐแล�ว่ก่8ย�อมอย��ภายใต�ก่ฎีหมายในป็ระเที่ศที่��งส��น ก่ฎีหมายภายในป็ระเที่ศเก่�ด้จาก่อ�านาจ

Page 69: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อธ�ป็ไตยของร�ฐน��นๆ ให�อ�านาจร�ฐสามารถึบ�ญ่ญ่�ต�ก่ฎีหมายข-�นใช�บ�งคื�บในป็ระเที่ศได้� เป็ นก่ารแสด้งออก่อ�านาจอธ�ป็ไตยภายในร�ฐ

โด้ยที่��ว่ไป็แล�ว่ ก่ฎีหมายภายในป็ระเที่ศก่8แบ�งออก่เป็ น 2 ป็ระเภที่1.1 ก่ฎีหมายเอก่ชน (Private Law)

1.2 ก่ฎีหมายมหาชน (Public Law)

โด้ยใจคืว่ามก่ว่�างๆ แล�ว่ ก่ารก่ระที่�าผ�ด้ที่��ก่ระที่บก่ระเที่�อนต�อร�ฐ ต�อป็ระชาชนโด้ยส�ว่นรว่มถึ�อว่�าอย��ในข�ายของก่ฎีหมายมหาชน ส�ว่นก่ารก่ระที่�าผ�ด้ใด้ๆ ระหว่�างเอก่ชนธรรมด้าโด้ยไม�ก่ระที่บก่ระเที่�อนต�อร�ฐหร�อป็ระชาชนเป็ นส�ว่นรว่มแล�ว่ คืว่ามผ�ด้น��นก่8จะได้�ร�บก่ารพื่�จารณาโด้ยก่ฎีหมายเอก่ชน อธ�บายได้�ด้�งน��

1.1 กฎีหมายเอกชั้นื้ (Private Law) บางที่�เร�ยก่ว่�า ก่ฎีหมายแพื่�ง (Civil Law) อ�นเป็ นก่ฎีหมายที่��บ�ญ่ญ่�ต�คืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างบ&คืคืลก่�บบ&คืคืล บ&คืคืลก่�บน�ต�บ&คืคืล (น�ต�บ&คืคืล คื�อ บ&คืคืลตามก่ฎีหมาย ไม�ใช�บ&คืคืลจร�ง ต�ว่อย�างเช�น ธนาคืาร ห�างร�าน เป็ นต�น) หร�อระหว่�างเอก่ชนก่�บเอก่ชน และได้�ก่�าหนด้ว่�ธ�ก่ารต�างๆ เพื่��อให�เอก่ชนก่�บบ&คืคืลสามรถึร�ก่ษาและป็Aองก่�นส�ที่ธ�ของตนม�ให�ถึ�ก่ละเม�ด้หร�อไป็ละเม�ด้ผ��อ�� นได้� ในก่ฎีหมายเอก่ชนน��ร�ฐม�หน�าที่��เป็ นผ��ต�ด้ส�นโด้ยศาลย&ต�ธรรม

ก่ฎีหมายเอก่ชนที่��ส�าคื�ญ่ ได้�แก่� ก่ฎีหมายที่��เก่��ยว่ก่�บที่ร�พื่ย�ส�นที่��ด้�น ส�ญ่ญ่าต�างๆ เช�น ส�ญ่ญ่าก่��ย�ม ที่ะเบ�ยนสมรส ที่ร�พื่ย� มรด้ก่ น�ต�ก่รรม พื่�น�ยก่รรม บร�ษ�ที่จ�าก่�ด้ ห�างห&�นส�ว่นจ�าก่�ด้ ฯลฯ ซึ่-�งรว่มอย��ในป็ระมว่ลก่ฎีหมายแพื่�งและพื่าณ�ชย� และป็ระมว่ลก่ฎีหมายว่�ธ�พื่�จารณาคืว่ามแพื่�ง ซึ่-�งถึ�าม�ก่ารละเม�ด้ละเม�ด้ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ในเร��องด้�งก่ล�าว่น��แล�ว่ จะไม�ส�งผลก่ระที่บไป็ถึ-งบ&คืคืลส�ว่นใหญ่� บที่ลงโที่ษในก่ฎีหมายแพื่�งจ-งเป็ นเพื่�ยงชด้ใช�คื�าเส�ยหายให�แก่�ก่�นเที่�าน��น

1.2 กฎีหมายมหาชั้นื้ (Public Law) ก่ฎีหมายมหาชนเป็ นก่ฎีหมายซึ่-�งร�ฐเป็ นคื��ก่รณ�ด้�ว่ย เป็ นก่ฎีหมายที่��ม�ขอบเขตก่ว่�าง บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างร�ฐก่�บป็ระชาชน ก่ฎีหมายมหาชนแบ�งออก่เป็ น 3 ป็ระเภที่ คื�อ

1.2.1 กฎีหมายร�ฐธรรมนื้"ญ (Constitutional Law) ก่ฎีหมายภายในป็ระเที่ศอ��นใด้ข�ด้แย�งก่�บก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ต�องถึ�อว่�าก่ฎีหมายน��นเป็ นโมฆ่ะ เพื่ราะร�ฐธรรมน�ญ่เป็ นก่ฎีหมายที่��ส�งส&ด้ ก่�าหนด้ร�ป็ของร�ฐ ว่�ธ�ก่ารป็ก่คืรอง โคืรงร�างและก่ระบว่นก่ารป็ก่คืรองอย�างก่ว่�างๆ ก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่น��ส�ว่นมาก่ได้�ก่�าหนด้ส�ที่ธ�ข��นพื่�� นฐานขอป็งระชาชนไว่�โด้ยช�ด้เจนพื่อสมคืว่ร โด้ยที่��ร�ฐก่�าว่ก่�ายไม�ได้�

ป็%ญ่หาของก่ารต�คืว่ามของก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ ในบางร�ฐก่8เป็ นหน�าที่��ของสภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� บางร�ฐก่8เป็ นหน�าที่��ของศาลฎี�ก่า เช�น สหร�ฐอเมร�ก่า ส�ว่นไที่ยเป็ นศาลร�ฐธรรมน�ญ่ เป็ นต�น

Page 70: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1.2.2 กฎีหมายปกครอง (Administrative Law) คื�อ ก่ฎีหมายที่��ม�บ�ญ่ญ่�ต�อย�างละเอ�ยด้ถึ-งก่ารก่�าหนด้องคื�ก่ารของร�ฐ เจ�าหน�าที่��ผ��ม�อ�านาจในก่ารป็ฏ�บ�ต�ก่ารต�างๆ ตามก่ฎีหมายว่�ธ�ก่ารที่��ร �ฐบาลจะใช�อ�านาจที่��ก่�าหนด้ไว่�ในก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ ตลอด้จนก่�าหนด้ถึ-งคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างองคื�ก่ารและเจ�าหน�าที่��ของร�ฐต�อป็ระชาชน อาจก่ล�าว่อ�ก่น�ยหน-�งว่�า ก่ฎีหมายป็ก่คืรองเป็ นก่ฎีหมายที่��ขยายคืว่ามให�ละเอ�ยด้จาก่ก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่

1.2.3 กฎีหมายอาญาแลัะกฎีหมายว�ธ*พิ�จัารณาความอาญา (Criminal Law and Procedure) ในก่ารร�ก่ษาคืว่ามสงบของร�ฐ ร�ฐจ�าต�องถึ�อคืว่ามผ�ด้บางอย�างที่��เก่��ยว่ข�องก่ระที่บก่ระเที่�อนต�อป็ระชาชนหร�อส�งคืมส�ว่นรว่ม และบ�อนที่�าลายคืว่ามม��นคืงของร�ฐ เป็ นก่ารที่�าผ�ด้ต�อร�ฐโด้ยตรง ร�ฐต�องที่�าหน�าที่��อ�ยก่ารฟิAองร�องให�ศาลต�ด้ส�นลงโที่ษตามก่ฎีหมายอาญ่า

ก่ารป็ระก่อบอาชญ่าก่รรม เช�น ก่ารฆ่�าคืนตาย ก่ารป็ล�นสะด้ม เป็ นต�น ถึ�อเป็ นก่ารก่ระที่�าที่��ก่ระที่บก่ระเที่�อนต�อป็ระชาชนที่��ว่ไป็และร�ฐด้�ว่ย ฉะน��นถึ-งแม�ว่�าเข�าที่&ก่ข�อาจจะไม�ต�องก่ารเอาเร��องเอาราว่ แต�ร�ฐจ�าเป็ นต�องที่�าก่ารด้�าเน�นคืด้�และเป็ นเจ�าที่&ก่ข�เส�ยเอง

ก่ารพื่�จารณาว่�าคืว่ามผ�ด้เช�นใด้เป็ นคืว่ามผ�ด้ที่างอาญ่า คืว่ามผ�ด้เช�นใด้เป็ นคืว่ามผ�ด้ที่างแพื่�งก่8แตก่ต�างก่�นในแต�ละร�ฐ เช�น คืด้�จ�ายเช8คืไม�ม�เง�นน��น ส�าหร�บป็ระเที่ศไที่ยถึ�อเป็ นคืว่ามผ�ด้ที่างอาญ่า แต�ในสหร�ฐอเมร�ก่าเป็ นคืว่ามผ�ด้ที่างแพื่�ง

ก่ฎีหมายอาญ่าน�� ได้�ก่�าหนด้โที่ษของก่ารก่ระที่�าผ�ด้ละเม�ด้ก่ฎีหมายเป็ นล�าด้�บแน�นอนลด้หล��นลงไป็ เร�ยงล�าด้�บได้�ด้�งน�� 1. ป็ระหารช�ว่�ต 2. จ�าคื&ก่ 3.

ก่�ก่ข�ง 4. ป็ร�บ 5. ร�บที่ร�พื่ย�ส�น ลงโที่ษตามระด้�บคืว่ามหน�ก่เบาของคืว่ามผ�ด้ที่��ก่ระที่�า เช�น โที่ษล�ก่ขโมยก่8ย�อมเบาก่ว่�าโที่ษฆ่�าคืนตาย ตลอด้จนก่ารก่�าหนด้องคื�ป็ระก่อบของคืว่ามผ�ด้ เช�น เป็ นผ��ที่��ส� �งให�ก่ระที่�าหร�อผ��ที่��ไม�ให�ก่ระที่�าหร�อก่ระที่�าผ�ด้เองโด้ยเจตนาหร�อป็ระมาที่ ไป็จนก่ระที่��งก่ารลด้หย�อนผ�อนโที่ษให�ในบางก่รณ� เพื่��อให�ก่ารใช�ก่ฎีหมายอาญ่าน��เป็ นไป็ตามระเบ�ยบแบบแผน ก่8ได้�ม�ก่ฎีหมายว่�ธ�พื่�จารณาคืว่ามอาญ่าก่�าหนด้ว่�ธ�ก่ารที่��องคื�ก่ารร�ฐจะน�าต�ว่ผ��ก่ระที่�าผ�ด้มาฟิAองร�องต�อศาล ก่ารก่�าหนด้เจ�าหน�าที่��ใช�อ�านาจ ว่�ธ�ใช� ตลอด้จนหล�ก่ป็ระก่�นต�อป็ระชาชนที่��ถึ�ก่ละเม�ด้ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ที่างอาญ่า

2. กฎีหมายระหว1างประเทศ (International Law) คื�อ ระเบ�ยบก่ฎีเก่ณฑ์�ต�างๆ ที่��บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างร�ฐก่�บร�ฐ ที่��มาของก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศน��ส�ว่นใหญ่� มาจาก่สนธ�ส�ญ่ญ่าระหว่�างป็ระเที่ศและขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�ที่��เคืยป็ฏ�บ�ต�ก่�นมาในก่ารต�ด้ต�อระหว่�างก่�น

Page 71: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เม��อพื่�จารณาด้�แล�ว่ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศน��น อาจเป็ นเพื่�ยงข�อตก่ลงส�ญ่ญ่าก่�นระหว่�างร�ฐมาก่ก่ว่�าก่ฎีหมายจร�งๆ เพื่ราะไม�ม�องคื�ก่รที่��เหน�อก่ว่�าร�ฐเป็ นผ��ออก่ก่ฎีหมายหร�อใช�อ�านาจบ�งคื�บลงโที่ษ เม��อม�ผ��ละเม�ด้ข�อตก่ลงก่8ไม�ม�องคื�ก่รใด้ที่��จะม�อ�านาจลงโที่ษผ��ละเม�ด้ได้� เหม�อนอย�างก่ฎีหมายภายในป็ระเที่ศ ร�ฐคื��ก่รณ�อาจจะใช�ว่�ธ�ไม�คืบคื�าสมาคืมที่างก่ารคื�าและที่างก่ารที่�ตก่�บร�ฐที่��ละเม�ด้ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศ ในก่รณ�ที่��ร&นแรงสงคืรามก่8เป็ นเคืร��องม�อที่��จะร�ก่ษาหร�อละเม�ด้ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศได้�

แต�ถึ�าจะพื่�จารณาด้�ในแง�ที่��ว่�าก่ฎีหมายเป็ นส��งจ�าเป็ นต�อองคื�ก่รเพื่��อก่�อให�เก่�ด้คืว่ามเป็ นระเบ�ยบและคืว่ามสงบส&ข ตลอด้จนคืว่ามก่�าว่หน�าให�แก่�องคื�ก่รแล�ว่ ในแง�น��ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศก่8เป็ นก่ฎีหมายป็ระเภที่หน-�ง เพื่ราะก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศม�ก่ารตก่ลงก่�นในเร��องก่ารส�งผ��ร �ายข�ามแด้น ก่ารป็ระก่าศสงคืราม ก่ารที่�าส�ญ่ญ่าส�นต�ภาพื่ ก่ารก่�าหนด้ก่ฎีเก่ณฑ์�ต�างๆ ในที่�องที่ะเลหลว่ง ฯลฯ ก่ฎีเก่ณฑ์�เหล�าน��ช�ว่ยน�ามาซึ่-�งคืว่ามเป็ นระเบ�ยบเร�ยบร�อยต�อร�ฐต�างๆ พื่อสมคืว่ร ก่ารที่��ร �ฐต�างๆ เคืารพื่ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศก่8อาจจะเพื่ราะเก่รงก่ล�ว่สงคืราม หร�อก่ล�ว่ว่�าจะส�ญ่เส�ยผลป็ระโยชน�ของตน ตลอด้จนที่��งก่ารได้�ร�บคืว่ามน�บหน�าถึ�อตาและคืว่ามเช��อถึ�อมาก่ก่ว่�าบ&คืคืลที่��ชอบเล�นอะไรนอก่ก่ต�ก่า

ท*+มาของกฎีหมายแหล�งที่��มาของก่ฎีหมายม�อย��มาก่มายหลายที่าง และม�ก่ารว่�ว่�ฒนาก่ารหร�อ

เป็ล��ยนแป็ลงมาโด้ยตลอด้ เพื่ราะเม��อม�ส�งคืมหร�อก่ล&�มชนก่8ย�อมต�องม�ก่ฎีหมาย ด้�งน��น เราพื่อจะแบ�งที่��มาของก่ฎีหมายได้�โด้ยล�ก่ษณะที่��ว่ไป็ 9 แหล�งด้�ว่ยก่�น คื�อ

1. ขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ� (Custom)

2. ก่ารออก่ก่ฎีหมายของสภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� (Legislation)

3. คื�าส��งและก่ฤษฎี�ก่าที่��ออก่โด้ยฝ่Eายบร�หาร (Executive Decree)

4. คื�าพื่�พื่าก่ษาของศาล (Judicial Decisions)

5. บที่คืว่ามที่างว่�ชาก่ารก่ฎีหมาย (Commentaries)

6. ร�ฐธรรมน�ญ่ (Constitution)

7. สนธ�ส�ญ่ญ่าต�างๆ (Treaties)

8. ป็ระมว่ลก่ฎีหมาย (Codification)

9. ป็ระชามต� (Referendum)

1. ขนื้บธรรมเนื้*ยมประเพิณ* (Custom) เป็ นที่��มาที่��ส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้แหล�งหน-�งของก่ฎีหมาย ซึ่-�งต�นตอมาจาก่น�ส�ยของส�งคืม หร�อน�ส�ยที่างส�งคืม (Social Habit) อ�นเป็ นที่��มาของบรรด้าก่ฎีหมายพื่��นฐานของร�ฐหน-�งๆ ขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�ม�ก่จะได้�ร�บอ�ที่ธ�พื่ลจาก่ที่างศาสนาด้�ว่ยเป็ นอ�นมาก่

Page 72: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ารว่�ว่�ฒนาก่ารเร��มแรก่ของร�ฐสม�ยใหม�น��น ส�ว่นใหญ่�ก่8ม�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�เป็ นผ��ป็ก่คืรองป็ระเที่ศ และม�ก่ม�หล�ก่ป็ฏ�บ�ต�ว่�าขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�ที่�องถึ��นบางป็ระก่าร จะน�ามาใช�เหม�อนหล�ก่แห�งก่ฎีหมายในป็ระเที่ศ จนก่ระที่��งได้�น�าเอาขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�บางอย�างมาใช�บ�งคื�บเป็ นก่ฎีหมายด้�ว่ย

2. การออกกฎีหมายของสภูานื้�ติ�บ�ญญ�ติ� (Legislation) ในร�ฐป็%จจ&บ�นส�ว่นใหญ่� สภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�เป็ นแหล�งก่�าเน�ด้ก่ฎีหมายแห�งแรก่ที่��ส&ด้และป็ระเที่ศป็ระชาธ�ป็ไตยส�ว่นใหญ่�ถึ�อว่�าก่ารออก่ก่ฎีหมายซึ่-�งน�ามาบ�งคื�บในป็ระเที่ศน��น ก่8เพื่��อคืว่ามสมบ�รณ�พื่�นส&ขของป็ระชาชาต� ซึ่-�งได้�เล�อก่ผ��แที่นของตนเพื่��อพื่�จารณายก่ร�างก่ฎีหมายอ�นจะเป็ นป็ระโยชน�ต�อป็ระชาชนส�ว่นมาก่น��นเอง

3. ค�าส�+งแลัะกฤษฎี*กาท*+ออกโดยฝ่Aายบร�หาร (Executive Decree) คื�อ ก่ฎีหมายที่��ฝ่Eาบร�หารเป็ นผ��ออก่มาบ�งคื�บใช� ร�ฐที่&ก่ร�ฐในป็%จจ&บ�นเห8นข�อเที่8จจร�งว่�าร�ฐบาลม�หน�าที่��มาก่และก่ว่�างขว่าง สภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ไม�อาจออก่ก่ฎีหมายได้�อย�างเพื่�ยงพื่อเต8มที่�� จ-งได้�มอบหมายอ�านาจก่ารออก่ก่ฎีหมายบางป็ระก่ารให�ก่�บคืณะบร�หาร เพื่��อที่��จะสามารถึแก่�ไขป็%ญ่หาได้�อย�างรว่ด้เร8ว่และสอด้คืล�องก่�บสถึานก่ารณ�ฉ&ก่เฉ�นหร�อคื�บข�นของร�ฐ แต�ข�อที่��จะต�องส�งเก่ต ก่8คื�อ คื�าส��งของฝ่Eายบร�หารจะเป็ นก่ฎีหมายได้�น��นก่8ต�อเม��อฝ่Eายบร�หารได้�ร�บมอบอ�านาจในเร��องน��นๆ จาก่ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�อย�างช�ด้เจน ระบ&ขอบเขตเอาไว่� หาก่ม�ได้�ร�บมอบก่8ถึ�อว่�าคื�าส��งของฝ่Eายบร�หารน��นไม�ได้�เป็ นผลที่างก่ฎีหมาย

ในก่รณ�ที่��เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�หร�อร�ฐป็ระหารข-�นและสภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ถึ�ก่ย&บไป็ คื�าส��งของคืณะป็ฏ�ว่�ต�หร�อคืณะร�ฐป็ระหารก่8อน&โลมใช�เป็ นก่ฎีหมายได้�เช�นก่�น

4. ค�าพิ�พิากษาของศาลั (Judicial Decisions) ตามป็ก่ต�โด้ยที่��ว่ไป็แล�ว่มน&ษย�เราม�ก่จะม�น�ส�ยที่�าตามส��งที่��ก่ระที่�ามาก่�อนแล�ว่ (Creature of Habit) ก่ล�าว่คื�อ ผ��พื่�พื่าก่ษาเคืยต�ด้ส�นคืด้�เช�นน��มาก่�อน เม��อม�คืด้�ที่��คืล�ายคืล-งเก่�ด้ข-�น ผ��พื่�พื่าก่ษาก่8ย-ด้ถึ�อเอาคื�าต�ด้ส�นที่��แล�ว่มาเป็ นหล�ก่ (Judges make laws) ป็ระเที่ศอ�งก่ฤษเป็ นต�ว่อย�างที่��ด้�ที่��ใช�หล�ก่คื�าพื่�พื่าก่ษาของศาลเป็ นก่ฎีหมายและย�งคืงใช�อย��ตราบจนที่&ก่ว่�นน��

ในป็%จจ&บ�นป็ระเที่ศต�างๆ ม�ร�ฐธรรมน�ญ่ซึ่-�งเข�ยนเป็ นลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษร ผ��พื่�พื่าก่ษาก่8ม�อ�ที่ธ�พื่ลในก่ารสร�าง เป็ล��ยนแป็ลงก่ฎีหมาย หร�อขยายคืว่าม ต�คืว่ามก่ฎีหมายออก่ไป็อ�ก่ เพื่ราะก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ซึ่-�งเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐ เม��อถึ�ก่ต�คืว่ามจาก่ผ��พื่�พื่าก่ษาก่8เป็ร�ยบเสม�อนก่�บก่ารออก่ก่ฎีหมายใหม�น��นเอง

5. บทความทางว�ชั้าการกฎีหมาย (Commentaries) คืว่ามเห8นของน�ก่ว่�ชาก่าร ตลอด้ที่��งก่ารว่�พื่าก่ษ� ว่�จารณ� และก่ารว่�เคืราะห�ในเร��องของก่ฎีหมาย ซึ่-�งเน�นถึ-งคืว่ามย&ต�ธรรม คืว่ามสะด้ว่ก่ คืว่ามเหมาะสม หร�อรว่มเร�ยก่ว่�า ที่�าอย�างไรจ-งจะเป็ นก่ฎีหมายที่��ด้�ได้�น��น น�ก่น�ต�ศาสตร�ที่��ม�ช��อเส�ยงของไที่ย เช�น นายป็ร�ด้� พื่นมยงคื� ก่8เป็ นผ��ที่��ม�อ�ที่ธ�พื่ลต�อแนว่คืว่ามคื�ด้

Page 73: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ของสภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�และคืณะต&ลาก่ารหร�อฝ่Eายบร�หารในก่ารน�า เอาคืว่ามคื�ด้เหล�าน��มาป็ร�บป็ร&งก่ฎีหมายเด้�มให�ด้�ย��งข-�น

6. ร�ฐธรรมนื้"ญ (Constitution) เป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐ เป็ นแม�บที่ของก่ฎีหมายที่��งหลาย เพื่ราะไม�ว่�าก่ฎีหมายใด้ๆ ในร�ฐน��น ถึ�าข�ด้แย�งก่�บก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่แล�ว่ ก่ฎีหมายน��นถึ�อเป็ นโมฆ่ะ ร�ฐธรรมน�ญ่ได้�ก่�าหนด้ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�และก่ระบว่นก่ารออก่ก่ฎีหมายไว่�อย�างช�ด้เจน ฉะน��นก่ารยก่ร�างก่ฎีหมายใด้ๆ ต�องถึ�อเอาแนว่ที่างร�ฐธรรมน�ญ่เป็ นหล�ก่

7. สนื้ธ�ส�ญญาติ1างๆ (Treaties) คื�อ ข�อตก่ลงระหว่�างร�ฐต��งแต� 2 ร�ฐข-�นไป็ ซึ่-�งได้�ตก่ลงที่��จะม�ก่ารร�บผ�ด้ชอบในคืว่ามส�มพื่�นธ�ต�อก่�น เม��อม�สนธ�ส�ญ่ญ่าต�อก่�นแล�ว่ แต�ละร�ฐซึ่-�งเป็ นคื��ตก่ลงในส�ญ่ญ่าก่8อาจจะต�องออก่ก่ฎีหมายต�างๆ ภายในป็ระเที่ศ เพื่��อให�อด้คืล�องก่�บสนธ�ส�ญ่ญ่าน��นๆ ที่��ได้�ก่�าหนด้ข-�น ที่��งน��เพื่��อให�ก่ารป็ฏ�บ�ต�เป็ นไป็ได้�ตามสนธ�ส�ญ่ญ่าน��นๆ

นอก่จาก่น��สนธ�ส�ญ่ญ่าต�างๆ เหล�าน��ก่8ย�งเป็ นแหล�งที่��มาอ�นส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้ของก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศอ�ก่ด้�ว่ย

8. ประมวลักฎีหมาย (Codification) คื�อ ก่ารรว่บรว่มก่ฎีหมายต�างๆ มาจ�ด้เป็ นหมว่ด้หม�� ก่ฎีหมายคืราสามด้ว่งของไที่ยก่8อาจถึ�อเป็ นป็ระมว่ลก่ฎีหมายได้� ส�าหร�บก่ารจ�ด้ป็ระมว่ลก่ฎีหมายหลายป็ระเภที่ หลายชน�ด้ มาป็ร�บป็ร&งแก่�ไขตามาตรฐานที่��ต� �งไว่�น��น ป็ระมว่ลก่ฎีหมายที่��ม�ช��อเส�ยงเป็ นหล�ก่ของป็ระมว่ลก่ฎีหมายที่��ว่ไป็ คื�อ Napoleonic Code หร�อป็ระมว่ลก่ฎีหมายนโป็เล�ยนแห�งป็B คื.ศ.1804 ซึ่-�งได้�อาศ�ยก่ฎีหมายโรม�นน��นเอง ป็ระมว่ลก่ฎีหมายป็%จจ&บ�นของไที่ยก่8ได้�ร�บอ�ที่ธ�พื่ลจาก่ Napoleonic Code มาก่ที่�เด้�ยง

9. ประชั้ามติ� (Referendum) คื�อ ก่ฎีหมายที่��ป็ระชาชนร�ว่มก่�นเสนอร�างก่ฎีหมาย (Initiative)

และม�ส�ที่ธ�ออก่เส�ยงป็ระชามต� (Referendum) ว่�ธ�น��ในป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส สหร�ฐอเมร�ก่า สว่�ตเซึ่อร�แลนด้� ย�งใช�ก่�นอย��เสมอ

ไที่ยได้�พื่ยายามร�เร��มให�ป็ระชาชนม�ส�ว่นในข�อน��มาก่ย��งข-�นในร�ฐธรรมน�ญ่แห�งราชอาณาจ�ก่รไที่ย พื่.ศ.2540

กฎีหมายก�บการร�กษากฎีหมาย (Law and Enforcement)

ก่ฎีหมายในร�ฐจะด้� จะย&ต�ธรรม ม�เหต&ผล หร�อไม�น��น ข-�นอย��ก่�บว่�จารณญ่าณของแต�ละบ&คืคืลซึ่-�งเป็ นป็%ญ่หาของคื�าน�ยม (Value Judgement) หร�อป็%ญ่หาของก่ารต�คืว่าม (Problem of

Interpretation) เพื่ราะฉะน��นเราจ-งคืว่รจะพื่�จารณาก่ฎีหมายในอ�ก่แง�หน-�ง ก่ารร�ก่ษาก่ฎีหมายป็ระเด้8นก่ารบ�งคื�บใช�ก่ฎีหมายจร�งจ-งส�าคื�ญ่เที่�าๆ ก่�บก่ารที่��ร �ฐต�องม�ก่ฎีหมายที่��ด้�

เพื่ราะหาก่ม�ก่ฎีหมายที่��ด้�แล�ว่ไม�ม�ก่ารบ�งคื�บใช�จร�ง ก่8ไม�ม�ป็ระโยชน� ไม�ที่�าให�เก่�ด้ร�ฐที่��ด้� ขณะเด้�ยว่ก่�นหาก่ม�ก่ารบ�งคื�บใช�ก่ฎีหมายจร�งแต�ก่ฎีหมายไม�ม�เหต&ผล ก่8ไม�ก่�อให�เก่�ด้ร�ฐที่��ด้�เช�นก่�น

Page 74: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ารที่��ก่ฎีหมายจะบ�งคื�บใช�ได้�จร�งย�งข-�นอย��ก่�บป็ระชาชนในร�ฐน��นๆ ด้�ว่ย เราพื่อจะแยก่ป็ระเภที่ของก่ารละเม�ด้ก่ฎีหมายออก่เป็ น 2 ป็ระก่าร คื�อ

1. ละเม�ด้เพื่ราะไม�ร� �2. ละเม�ด้เพื่��อผลป็ระโยชน�

1. ลัะเม�ดเพิราะไม1ร". ข�อน��ตามหล�ก่ก่ฎีหมายแล�ว่ฟิ%งไม�ข-�น เพื่ราะคืนที่&ก่คืนจะอ�างว่�าไม�ร� �ก่ฎีหมายไม�ได้� แต�ตามหล�ก่คืว่ามจร�งแล�ว่ม�อย��มาก่ ในข�อน��เองที่��ก่ารศ-ก่ษาจะต�องเน�นถึ-งหน�าที่��ของป็ระชาชนที่��จะเป็ นต�องร� �ก่ฎีหมายตามสมคืว่ร

2. ลัะเม�ดเพิ�+อผู้ลัประโยชั้นื้� ก่ารละเม�ด้ก่ฎีหมายป็ระเภที่น��สามารถึช��ช�ด้ได้�ถึ-งก่ารได้�ร�บก่ารอบรมของพื่ลเม�องน��นๆ อาจจะบ�งถึ-งคืว่ามม�ก่ง�าย เอาคืว่ามสะด้ว่ก่ของตนเป็ นใหญ่� ก่ารม&�งหว่�งที่��จะก่อบโก่ยผลป็ระโยชน�เป็ นจ�านว่นมาก่ให�ต�ว่เอง โด้ยไม�คื�าน-งถึ-งส�ว่นรว่มหร�อก่ฎีหมายที่��งส��น ก่ารละเม�ด้ก่ฎีหมายป็ระเภที่น��เป็ นป็%ญ่หาในก่ารร�ก่ษาก่ฎีหมาย เน��องจาก่ผ��ละเม�ด้ม�ก่จะให�ส�นบนแก่�ผ��ร �ก่ษาก่ฎีหมายร�ว่มก่�นที่�าที่&จร�ต

ย�งม�ต�ว่อย�างอ�ก่มาก่มาย ซึ่-�งถึ�าป็ระชาชนไม�ก่ระต�อร�อร�นเพื่��อแก่�ไขป็%ญ่หา อ�นเป็ นผลป็ระโยชน�โด้ยตรงก่�บต�ว่เองแล�ว่ ก่ฎีหมายก่8ไม�ม�คืว่ามหมาย ฉะน��น ก่ารอบรมส��งสอนป็ระชาชนเพื่��อให�คืว่ามเคืารพื่ก่ฎีหมาย ร� �ก่ฎีหมาย ให�ใช�เป็ น ร� �ส�ที่ธ�ตนเอง จ-งเป็ นส�ว่นป็ระก่อบที่��ส�าคื�ญ่มาก่ที่��ส&ด้ส�าหร�บป็ระเที่ศป็ระชาธ�ป็ไตยที่��งหลาย

บทท*+ 7ประชั้าธ�ปไติยก�บการเม�องไทย

เหติ2การณ�หลั�งการเปลั*+ยนื้แปลังการปกครอง พิ.ศ.2475ป็ระเที่ศต�างจาก่ป็ระเที่ศอ��นๆ ในเอเช�ยตะว่�นออก่เฉ�ยงใต� คื�อ ไม�ได้�ตก่เป็ นอาณาน�คืม

ของป็ระเที่ศจ�ก่รว่รรด้�น�ยมตะว่�นตก่ เพื่�ยงแต�ต�องเส�ยด้�นแด้นบางส�ว่น เช�น มณฑ์ลบ�รพื่า

Page 75: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

(เขมรส�ว่นใน คื�อ พื่ระตะบอง เส�ยมราฐ และศร�โสภณ ให�แก่�ฝ่ร��งเศสในป็B พื่.ศ.2449 และเส�ยไที่รบ&ร� ป็ะล�ศ ก่ล�นต�น ตร�งก่าน� แก่�อ�งก่ฤษในป็B พื่ .ศ.2452) เพื่��อแลก่อ�านาจศาลคื�นมาจาก่ฝ่ร��งเศสและอ�งก่ฤษ และต�อมาในป็B พื่.ศ.2475 ได้�ม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงก่ารป็ก่คืรองจาก่ระบอบสมบ�รณาญ่าส�ที่ธ�ราชย�เป็ นระบอบป็ระชาธ�ป็ไตย

อย�างไรก่8ตาม ป็ระเที่ศไที่ยได้�ม�ก่ารป็ก่คืรองภายใต�ระบอบเผด้8จก่ารที่หารอย�างต�อเน�� องก่�นเป็ นเว่ลาหลายป็B น�บต��งแต�จอมพื่ลแป็ลก่ พื่�บ�ลสงคืราม ผ��ซึ่-�งเป็ นผ��หน-�งที่��ร �ว่มก่�อก่ารเป็ล��ยนแป็ลงก่ารป็ก่คืรองของไที่ยจาก่ระบอบสมบ�รณาญ่าส�ที่ธ�ราชย�มาเป็ นระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยที่��ม�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�อย��ภายใต�ร�ฐธรรมน�ญ่ ในป็B พื่.ศ.2475 จอมพื่ลแป็ลก่ พื่�บ�ลสงคืราม ได้�น�าป็ระเที่ศไที่ยเข�าร�ว่มก่�บฝ่Eายอ�ก่ษะ คื�อ ญ่��ป็&Eน เยอรมน� และอ�ตาล� ในสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 และเป็ นผ��ใช�อ�านาจที่างก่ารเม�องอย�างเด้8ด้ขาด้ระหว่�างป็B พื่.ศ.2481

– 2500 (แต�ระหว่�างป็B พื่.ศ.2488 – 2491 ไที่ยอย��ภายใต�ก่ารป็ก่คืรองของร�ฐบาลพื่ลเร�อน)

ในป็B พื่.ศ.2500 จอมพื่ลสฤษด้�L ธนะร�ชต� ที่�าก่ารป็ฏ�ว่�ต�ย-ด้อ�านาจจาก่ จอมพื่ลแป็ลก่ พื่�บ�ลสงคืราม และข-�นด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�ในป็B พื่.ศ.2502 ได้�ใช�อ�านาจเด้8ด้ขาด้จนถึ-งแก่�อส�ญ่ก่รรมในป็B พื่.ศ.2506 และจอมพื่ลถึนอม ก่�ตต�ขจร ได้�ข-�นส�บต�ออ�านาจและได้�ย&บร�ฐสภาแล�ว่ป็ระก่าศก่ฎีอ�ยก่ารศ-ก่ โด้ยบร�หารป็ระเที่ศภายใต�คืณะก่รรมาธ�ก่ารบร�หารแห�งชาต� ในเด้�อนธ�นว่าคืม พื่.ศ.2515 จอมพื่ลถึนอม ก่�ตต�ขจร ป็ระก่าศใช�ร�ฐธรรมน�ญ่ป็ก่คืรองราชอาณาจ�ก่รที่��ที่�าให�ตนม�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ และได้�แต�งต��งสมาช�ก่ธรรมน�ญ่แห�งชาต�ที่��เป็ นต�ารว่จและที่หารจ�านว่น 200 คืน จาก่จ�านว่นที่��งส��น 299 คืน ธรรมน�ญ่ก่ารป็ก่คืรองฉบ�บน��หล�งจาก่ จอมพื่ลถึนอม ก่�ตต�ขจร หมด้อ�านาจในป็B พื่.ศ.2516 แล�ว่ร�ฐบาลใหม�ที่��ม�นายส�ญ่ญ่า ธรรมศ�ก่ด้�L เป็ นนายก่ร�ฐมนตร�ได้�ใช�ต�อมาอ�ก่ 1 ป็B

ในว่�นที่�� 14 ต&ลาคืม พื่.ศ.2516 ร�ฐบาลที่หารของจอมพื่ลถึนอม ก่�ตต�ขจร และจอมพื่ลป็ระภาส จาร&เสถึ�ยร ได้�ถึ�ก่พื่ล�งป็ระชาชน น�ส�ต และน�ก่ศ-ก่ษาป็ลด้ออก่จาก่อ�านาจเผด้8จก่ารที่หาร (ซึ่-�งได้�บร�หารป็ระเที่ศมาต��งแต�ป็B พื่.ศ.2506) หล�งจาก่เก่�ด้เหต&ก่ารณ�ว่�นอาที่�ตย�นองเล�อด้ (Bloody Sunday) แล�ว่ร�ฐบาลพื่ลเร�อนของนายส�ญ่ญ่า ธรรมศ�ก่ด้�L ได้�ป็ก่คืรองป็ระเที่ศต�อมา

ในว่�นที่�� 6 ต&ลาคืม พื่.ศ.2519 ได้�เก่�ด้ก่ารจลาจลร�ายแรงซึ่-�งม�ผลให�ร�ฐบาลที่��ม�จาก่ก่ารเล�อก่ต��ง ซึ่-�งม� ม.ร.ว่.เสน�ย� ป็ราโมช เป็ นนายก่ร�ฐมนตร�ต�องล�มไป็ (ก่ารจลาจลด้�งก่ล�าว่เป็ นผลที่�าให�คืนไที่ยบางก่ล&�มแบ�งออก่เป็ น 2 ฝ่Eาย ที่�าก่ารรบราฆ่�าฟิ%นจนล�มตายเร��อยมาถึ-งป็B พื่.ศ.2525 จ-งได้�ย&ต�ก่ารส��รบต�อก่�น) และนายธาน�นที่ร� ก่ร�ยว่�เช�ยร ได้�เข�ามาด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�เพื่�ยง 1 ป็B ก่8เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ข-�นอ�ก่คืร��ง ในคืร��งน�� พื่ลเอก่เก่ร�ยงศ�ก่ด้�L ชมะน�นที่� ได้�ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร� และในป็B พื่.ศ.2522 พื่ลเอก่เก่ร�ยงศ�ก่ด้�L ได้�ป็ระก่าศย&บสภาแล�ว่จ�ด้ให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งใหม�ในว่�นที่�� 22 เมษายน พื่.ศ.2522 ซึ่-�งป็ราก่ฏผลต�อมาว่�าได้�ร�ฐบาลใหม�ที่��ม�พื่ลเอก่เป็รม ต�ณส�ลานนที่� ผ��บ�ญ่ชาก่ารที่หารส�งส&ด้ เป็ นผ��ได้�ร�บก่ารเสนอช��อ

Page 76: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ให�ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร� พื่ลเอก่เป็รม ต�ส�ณลานนที่� ได้�ถึ�ก่ก่ล&�มที่หารหน&�มที่��ม�ช��อว่�า “ย�งเต�ร�ก่ ที่�าก่ารร�ฐป็ระหารล�มร�ฐบาลถึ-ง ” 2 คืร��ง คื�อ คืร��งแรก่ในว่�นที่�� 1- 4 เมษายน พื่.ศ.2524 และคืร��งที่�� 2 ในว่�นที่�� 9 ก่�นยายน พื่.ศ.2528 น�าโด้ย พื่ลเอก่เสร�ม ณ นคืร แต�ไม�ส�าเร8จที่��งสองคืร��ง พื่ลเอก่เป็รม ต�ส�ณลานนที่� ได้�ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร� บร�หารป็ระเที่ศถึ-ง 8 ป็B 5 เด้�อน และได้�ขอลาออก่จาก่ต�าแหน�งในเด้�อนก่รก่ฎีาคืม พื่.ศ.2531 เพื่��อเป็=ด้โอก่าสให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็ จ-งได้�พื่ลเอก่ชาต�ชาย ช&ณหะว่�ณ ซึ่-�งเป็ นห�ว่หน�าพื่รรคืชาต�ไที่ยในขณะน��นเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�จ�ด้ต��งร�ฐบาลผสมบร�หารป็ระเที่ศต�อไป็นานถึ-ง 2 ป็B 7

เด้�อน ส�ว่นพื่ลเอก่เป็รม ต�ส�ณลานนที่� ก่8ได้�ร�บพื่ระก่ร&ณาโป็รด้เก่ล�าฯ ให�ด้�ารงต�าแหน�งร�ฐบ&ร&ษและป็ระธานองคืมนตร�ในป็%จจ&บ�น (ส�บแที่นนายส�ญ่ญ่า ธรรมศ�ก่ด้�L ซึ่-�งม�ส&ขภาพื่ไม�ด้� และได้�ถึ-งแก่�อส�ญ่ก่รรมในป็B พื่.ศ.2544 อาย& 95 ป็B)

ต�อมาในว่�นที่�� 23 ก่&มภาพื่�นธ� พื่.ศ.2534 ได้�เก่�ด้ก่ารร�ฐป็ระหารของคืณะร�ก่ษาคืว่ามสงบเร�ยบร�อยแห�งชาต� (รสช.) น�าโด้ยพื่ลเอก่ส&นที่ร คืงสมพื่งษ� ได้�โคื�นล�มร�ฐบาลพื่ลเอก่ชาต�ชาย ช&ณหะว่�ณ และแต�งต��งนายก่ร�ฐมนตร�คืนที่�� 18 คื�อ นายอาน�นที่� ป็%นยารช&น ต�อมาได้�ม�ก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็ ในว่�นที่�� 22 ม�นาคืม พื่.ศ.2535 ป็ราก่ฏว่�า นายณรงคื� ว่งศ�ว่รรณ ห�นหน�าพื่รรคืสาม�คืคื�ธรรมได้�คืะแนนส�งส&ด้พื่ร�อมที่��จะจ�ด้ต��งงร�ฐบาลได้� แต�นายณรงคื� ว่งศ�ว่รรณ ถึ�ก่ก่ล�าว่หาว่�าไป็พื่�ว่พื่�นก่�บก่ารคื�ายาเสพื่ต�ด้ จ-งที่�าให� พื่อเอก่ส&จ�นด้า คืราป็ระย�ร ซึ่-�งไม�ได้�มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��ง แต�อย��ในก่ล&�มคืณะร�ฐป็ระหาร รสช. ได้�เข�ามาเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�คืนที่�� 19 แต�อย��ในต�าแหน�งได้�เพื่�ยง 2 เด้�อน ก่8เก่�ด้ก่ารเด้�นขบว่นป็ระที่�ว่งข�บไล� พื่ลเอก่ส&จ�นด้า คืราป็ระย�ร เหต&ก่ารณ�ล&ก่ลามเป็ นก่ารจลาจลนองเล�อด้ในเด้�อนพื่ฤษภาคืม พื่.ศ.2535

ที่�าให�นายอาน�นที่� ป็%นยารช&น ต�องก่ล�บมาเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�คืนที่�� 20 ต�อมาได้�ม�ก่ารเล�อก่ต��งใหม�ในว่�นที่�� 13 ก่�นยายน พื่.ศ.2535 ป็ราก่ฏว่�า นายชว่น หล�ก่ภ�ย ห�ว่หน�าพื่รรคืป็ระชาธ�ป็%ตย� ข-�นด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�ร�ว่มก่�บคืณะร�ฐบาลที่��มาจาก่หลายพื่รรคื แต�นายชว่น ต�องที่�าก่ารย&บสภาจาก่ก่รณ�อ��อฉาว่ สป็ก่.4-01 และจาก่ก่ารที่��พื่ลตร�จ�าลอง ศร�เม�อง ลาออก่จาก่ก่ารร�ว่มร�ฐบาล ต�อมาม�ก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็ข-�นใหม�ในว่�นที่�� 2 ก่รก่ฎีาคืม พื่.ศ.2538 และเป็ นป็Bที่��ร �ฐธรรมน�ญ่ก่�าหนด้ให�บ&คืคืลที่��ม�อาย& 18 ป็Bบร�บ�รณ� ม�ส�ที่ธ�Lลงคืะแนนเส�ยงเล�อก่ต��งเป็ นคืร��งแรก่ ป็ราก่ฏว่�า นายบรรหาร ศ�ลป็อาชา ห�นหน�าพื่รรคืชาต�ไที่ย ได้�ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�คืนที่�� 21 ของไที่ย บร�หารป็ระเที่ศได้�เพื่�ยง 1 ป็B ก่8ต�องย&บสภาหล�งจาก่ถึ�ก่พื่รรคืป็ระชาธ�ป็%ตย�ซึ่-�งเป็ นฝ่Eายคื�านในขณะน��นก่ล�าว่โจมต�เร��องเช��อชาต�ของที่�านอย�างร&นแรง และถึ�ก่ก่ด้ด้�นจาก่พื่รรคืร�ว่มร�ฐบาล ที่�าให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็ข-�นใหม� ในคืร��งน�� พื่ลเอก่ชว่ล�ต ยงใจย&ที่ธ ห�นหน�าพื่รรคืคืว่ามหว่�งใหม� ได้�คืะแนนเส�ยงเล�อก่ต��งเข�ามามาก่ก่ว่�าพื่รรคือ��นจ-งจ�ด้ต��งร�ฐบาลผสมข-�น โด้ยพื่ลเอก่ชว่ล�ต ยงใจย&ที่ธ ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�เพื่�ยง 9 เด้�อน จ-งได้�ขอลาออก่จาก่ต�าแหน�ง (เน��องจาก่ถึ�ก่ป็ระที่�ว่งข�บไล�รายว่�นจาก่ก่ารที่&�มคื�าเง�นบาที่ก่�บด้อลลาร�สหร�ฐฯ ป็ระจว่บก่�บเศรษฐก่�จฟิองสบ��ที่��เก่�ด้ข-�นมาต��งแต�

Page 77: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ร�ฐบาลพื่ลเอก่ชาต�ชาย ช&ณหะว่�ณ ได้�แตก่สลายลง ที่�าให�พื่ลเอก่ชว่ล�ต ยงใจย&ที่ธ ต�องป็ระก่าศให�คื�าเง�นบาที่ลอยต�ว่ (Managed Float) ข-�นในเด้�อนก่รก่ฎีาคืม พื่.ศ.2540 ร�ฐบาลไที่ยต�องไป็ขอคืว่ามช�ว่ยเหล�อและก่��เง�นจาก่ก่องที่&นก่ารเง�นระหว่�างป็ระเที่ศ (IMF) มาก่��เศรษฐก่�จที่��ระบบก่รเง�นก่ารธนาคืารของชาต�ที่��พื่�งพื่�นาศ) พื่รรคืป็ระชาธ�ป็%ตย�ภายใต�ก่ารน�าของห�ว่หน�าพื่รรคื คื�อ นายชว่น หล�ก่ภ�ย ได้�ช�งช�ยก่�บพื่รรคืร�ว่มร�ฐบาลเก่�าและได้�ช�ยชนะจาก่ก่ารแป็รพื่�ก่ตร�ของ 12 ส.ส. จาก่พื่รรคืป็ระชาก่รไที่ยที่��มาเข�าร�ว่มก่�บพื่รรคืป็ระชาธ�ป็%ตย�ด้�าเน�นก่ารจ�ด้ต��งร�ฐบาลผสม เป็ นนายก่ร�ฐมนตร�คืนที่�� 23 ในว่�นที่�� 9 พื่ฤศจ�ก่ายน พื่.ศ.2540 น�บว่�าเป็ นสม�ยที่�� 2 ของนายก่ร�ฐมนตร�นายชว่น หล�ก่ภ�ย ในเด้�อนม�นาคืม พื่.ศ.2543 ไที่ยได้�จ�ด้ให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งว่&ฒ�สภาเป็ นคืร��งแรก่ ม�ก่�าหนด้ว่าระ 6 ป็B ซึ่-�งแต�ก่�อนว่&ฒ�สภามาจาก่ก่ารแต�งต��ง ร�ฐบาลของนายชว่น หล�ก่ภ�ยได้�บร�หารต�อไป็อ�ก่เก่�อบ 3 ป็B จ-งได้�ย&บร�ฐสภา จ�ด้ให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็ในว่�นที่�� 6 มก่ราคืม พื่.ศ.2544 ป็ราก่ฏว่�า พื่.ต.ที่. ด้ร.ที่�ก่ษ�ณ ช�นว่�ตร ได้�เข�ามาด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�คืนป็%จจ&บ�น ในสม�ยร�ฐบาลของนายก่ร�ฐมนตร� นายชว่น หล�ก่ภ�ย ไที่ยได้�เป็ นป็ระเที่ศเจ�าภาพื่จ�ด้ก่�ฬาเอเช�ยนเก่มส� คืร��งที่�� 13 ในเด้�อนธ�นว่าคืม พื่.ศ.2541 ที่��ก่ร&งเที่พื่ฯ ร�ฐบาลได้�เฉล�มฉลองถึว่ายพื่ระบาที่สมเด้8จพื่ระเจ�าอย��ห�ว่ภ�ม�พื่ลอด้&ลยเด้ช ม�พื่ระชนมาย&คืรบ 72 พื่รรษา ในเด้�อนธ�นว่าคืม พื่.ศ.2542 และเป็ นเจ�าภาพื่จ�ด้ป็ระช&ม UNTAD (องคื�ก่ารสหป็ระชาชาต�ว่�าด้�ว่ยก่ารคื�าและพื่�ฒนา ข-�นที่��ศ�นย�ก่ารป็ระช&มแห�งชาต�ส�ร�ก่�ต�Lในเด้�อนก่&มภาพื่�นธ� พื่.ศ.2543 แต�ร�ฐบาลป็%จจ&บ�นต�องมาเผช�ญ่ก่�บก่ารข-�นราคืาน��าม�นของก่ล&�ม OPEC อย�างขนานใหญ่� ส�งผลให�เศรษฐก่�จไที่ยที่��คืาด้ว่�าจะเต�บโตถึ-ง 4.5%

ต�องถึด้ถึอยลงมา โด้ยเขย�บข-�นไป็ไม�ถึ-งก่ารป็ระเม�นของส�าน�ก่งานพื่�ฒนาเศรษฐก่�จและส�งคืมแห�งชาต� (สภาพื่�ฒน�) ได้�ตามส�ต�ป็B พื่.ศ.2533 ไที่ยม�ป็ระชาก่ร 60 ล�านคืน โด้ยป็ระชาก่รร�อยละ 30.4 อาศ�ยอย��ในจ�งหว่�ด้ภาคืก่ลาง ร�อยละ 35.2 อย��ในภาคืตะว่�นออก่เฉ�ยงเหน�อ ร�อยละ 12.5 อย��ในจ�งหว่�ด้ภาคืใต� ร�อยละ 21.9 อย��ในจ�งหว่�ด้ภาคืเหน�อ ร�ฐบาลพื่ยายามที่�าให�ช�องว่�างระหว่�างคืนรว่ยในต�ว่เม�องใหญ่�และคืนจนตามชนบที่แคืบเข�ามาให�ได้� แต�ก่8ไม�ป็ระสบคืว่ามส�าเร8จ ป็ระก่อบก่�บม�ก่ารฉ�อราษฎีร�บ�งหลว่งอย�างมาก่มายในหน�ว่ยงานของร�ฐบาลและม�หน��ที่��ไม�ก่�อให�เก่�ด้รายได้� (NPL) ในหลายๆ ธนาคืารของร�ฐและเอก่ชนภายใต�นายก่ร�ฐมนตร� พื่.ต.ที่. ด้ร.ที่�ก่ษ�ณ ช�นว่�ตร ซึ่-�งเป็ นร�ฐบาลป็%จจ&บ�นก่8ได้�พื่ยายามแก่�ไข ซึ่-�งน�บว่�าเป็ นป็%ญ่หาหน�ก่หน�ว่งที่��ร �ฐบาลจะต�องด้�าเน�นก่ารแก่�ไขอย�างจร�งจ�ง เพื่��อให�เศรษฐก่�จก่ระเต��องข-�นมาให�จงได้�

กลัไกของร�ฐติามร�ฐธรรมนื้"ญฉบ�บใหม1

Page 78: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตามร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�น ซึ่-�งป็ระก่าศใช�เม��อว่�นที่�� 10 ต&ลาคืม พื่.ศ.2540 ม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�ที่��เก่��ยว่ข�องก่�บ ก่ารป็ฏ�ร�ป็ อย��หลายป็ระก่าร โด้ยเฉพื่าะอย�างย��งก่ารป็ฏ�ร�ป็“ ”

ก่ารเม�องซึ่-�งเป็ นห�ว่ใจส�าคื�ญ่ของก่ารจ�ด้ที่�าร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��เราคืงป็ฏ�เสธไม�ได้�ว่�า เพื่�� อให�บรรล&ถึ-งก่ารป็ฏ�ร�ป็ที่างก่ารเม�องด้�งก่ล�าว่ข�างต�น

ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นได้�ก่�อให�เก่�ด้ผลก่ระที่บอย�างใหญ่�หลว่งต�อก่ลไก่ของร�ฐ ซึ่-�งในก่รณ�น��อาจแยก่พื่�จารณาได้�เป็ นส��ก่รณ�ด้�ว่ยก่�น คื�อ ก่ลไก่ของร�ฐในที่างน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ก่ลไก่ของร�ฐที่างบร�หาร ก่ลไก่ของร�ฐในที่างต&ลาก่าร และองคื�ก่รอ��นๆ ตามร�ฐธรรมน�ญ่

1.กลัไกของร�ฐในื้ทางนื้�ติ�บ�ญญ�ติ�ก่ลไก่ของร�ฐในที่างน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ได้�ร�บก่ารเป็ล��ยนแป็ลงจาก่ร�ฐธรรมน�ญ่อย�� 2 ป็ระก่าร

ใหญ่�ๆ คื�อ ก่ารป็ฏ�ร�ป็ระบบผ��แที่นและก่ารป็ฏ�ร�ป็ก่ระบว่นก่ารน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�

1.1 การปฏิ�ร"ประบบผู้".แทนื้ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�น ย�งคืนย�นอย��บนหล�ก่ก่ารของก่ารป็ก่คืรองแบบร�ฐสภา

ที่��ฝ่Eายสภาและฝ่Eายบร�หารม�คืว่ามส�มพื่�นธ�ก่�นอย�างใก่ล�ช�ด้ ก่ล�าว่โด้ยเฉพื่าะฝ่Eายสภาน��น แม�จะม�ก่ารอภ�ป็รายถึก่เถึ�ยงก่�นเป็ นอย�างมาก่ในหม�� สสร. ว่�าคืว่รจะเป็ นแบบสภาเด้�ยว่หร�อสองสภา แต�ในที่�ายที่��ส&ด้สภาร�างร�ฐธรรมน�ญ่ก่8ย�งเล8งเห8นถึ-งคืว่ามส�าคื�ญ่ของก่ารม�ว่&ฒ�สภาในฐานะที่��เป็ นองคื�ก่รก่ล��นก่รองก่ฎีหมายและองคื�ก่รตรว่จสอบ

ก่�อนที่��จะก่ล�าว่ถึ-งองคื�ป็ระก่อบ ที่��มา และอ�านาจหน�าที่��ของสภาผ��แที่นราษฎีรและว่&ฒ�สภา คืว่รจะได้�ก่ล�าว่ถึ-งพื่รรคืก่ารเม�องในฐานะที่��เป็ นองคื�ก่รภาคืมหาชนองคื�ก่รหน-�งที่��จะม�ผลต�อก่ารป็ฏ�ร�ป็ระบบผ��แที่นอย�างแที่�จร�ง

1.1.1 การปฏิ�ร"ปพิรรคการเม�องม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงป็ร�บป็ร&งอย��หลายป็ระเด้8น ที่��งในเร��องก่ารจ�ด้ต��ง ก่าร

ที่�าให�พื่รรคืก่ารเม�องเป็ นป็ระชาธ�ป็ไตย ก่ารเสร�มสร�างระบบพื่รรคืก่ารเม�อง ก่ารให�เง�นอ&ด้หน&นแก่�พื่รรคืก่ารเม�อง และคืว่บคื&มตรว่จสอบพื่รรคืก่ารเม�องได้�แก่�

1) ก่ารให�จ�ด้ต��งพื่รรคืก่ารเม�องได้�ง�ายโด้ยบ&คืคืลอาย& 20 ป็Bบร�บ�รณ� เพื่�ยง 15 คืนข-�นไป็ และยก่เล�ก่ก่ารจัดทะเบ*ยนื้พื่รรคืก่ารเม�อง แต�เป็ล��ยนเป็ นก่ารจัดแจั.งก่ารจ�ด้ต��งพื่รรคืก่ารเม�องแที่น (มาตรา 328 อน& 1)

อย�างไรก่8ตาม ภายใน 180 ว่�น น�บแต�ว่�นที่��นายที่ะเบ�ยนร�บจด้แจ�งก่ารจ�ด้ต��งพื่รรคืก่ารเม�อง พื่รรคืก่ารเม�องต�องด้�า เน�นก่ารให�ม�สมาช�ก่ต��งแต� 5,000 คืนข-�นไป็ ซึ่-�งอย�างน�อยต�องป็ระก่อบด้�ว่ยสมาช�ซึ่-�งม�ที่��อย��ในแต�ละภาคืตามบ�ญ่ช�รายช��อภาคืและจ�งหว่�ด้ที่��นายที่ะเบ�ยนป็ระก่าศก่�าหนด้และม�

Page 79: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สาขาพื่รรคืก่ารเม�องอย�างน�อยภาคืละ 1 สาขา (มาตรา 29 พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ว่�าด้�ว่ยพื่รรคืก่ารเม�อง พื่.ศ.2541)

2) ก่ารจ�ด้องคื�ก่รภายใน ก่ารด้�า เน�นก่�จก่ารและข�อบ�งคื�บของพื่รรคืก่ารเม�องต�องสอด้คืล�องก่�บหล�ก่ก่ารพื่�� นฐานของก่ารป็ก่คืรองระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยอ�นม�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงเป็ นป็ระม&ข (มาตรา 47

ว่รรคื 2)

3) ก่ารเป็=ด้โอก่าสให�สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ซึ่-�งเป็ นสมาช�ก่พื่รรคืก่ารเม�องจ�านว่นไม�น�อยก่ว่�า 1 ใน 4 ของจ�านว่นสมาช�ก่ที่��เป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ก่รรมก่ารบร�หารของพื่รรคืก่ารเม�องจ�านว่นไม�น�อยก่ว่�า 1 ใน 3 ของจ�านว่นก่รรมก่ารบร�หารพื่รรคืก่ารเม�อง หร�อสมาช�ก่พื่รรคืก่ารเม�องจ�านว่นไม�น�อยก่ว่�า 50 คืน (พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ว่�าด้�ว่ยพื่รรคืก่ารเม�อง พื่.ศ.2541 มาตรา 28) ซึ่-�งเห8นว่�ามต�หร�อข�อบ�งคื�บในเร��องใด้ของพื่รรคืก่ารเม�องที่��ตนเป็ นสมาช�ก่อย��น� �น จะข�ด้ต�อสถึานะและก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่��ของสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรตามร�ฐธรรมน�ญ่น�� หร�อข�ด้แย�งก่�บหล�ก่ก่ารพื่��นฐานแห�งก่ารป็ก่คืรองในระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยอ�นม�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงเป็ นป็ระม&ข ม�ส�ที่ธ�ร�องขอให�ศาลร�ฐธรรมน�ญ่ว่�น�จฉ�ยว่�ามต�หร�อข�อบ�งคื�บด้�งก่ล�าว่เป็ นอ�นยก่เล�ก่ไป็หร�อไม� (มาตรา 47 ว่รรคื 3 และ 4

4) ก่ารบ�งคื�บให�ผ��สม�คืร ส.ส.ต�องส�งก่�ด้พื่รรคืก่ารเม�องและหาก่ ส.ส.

พื่รรคืใด้ขาด้สมาช�ก่ภาพื่พื่รรคืเม��อใด้ก่8ต�องขาด้จาก่ ส.ส. ไป็ด้�ว่ยเช�นก่�น เหต&ผลก่8เพื่��อร�ก่ษาเสถึ�ยรภาพื่และส�งเสร�มป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ของระบบผ��แที่นไว่� (มาตรา 117 อน& 8)

5) ก่ารให�ผ��สม�คืรร�บเล�อก่ต��งเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ต�องเป็ นสมาช�ก่พื่รรคืก่ารเม�องที่��ลงสม�คืรไม�น�อยก่ว่�า 90 ว่�น (มาตรา 107 อน& 4)

ซึ่-�งจะม�ผลที่�าให�อนาคืตจะม�ก่ารย�ายพื่รรคืได้�ยาก่ข-�นหร�อแที่บเป็ นไป็ไม�ได้�6) ก่ารให�ม�ก่ารสน�บสน&นที่างก่ารเง�นหร�อป็ระโยชน�อย�างอ�� นแก่�

พื่รรคืก่ารเม�องโด้ยร�ฐ (มาตรา 328 อน& 5) โด้ยในก่ารจ�ด้สรรเง�นสน�บสน&นจะต�องจ�ด้สรรเป็ นรายป็B และให�คื�าน-งถึ-งจ�านว่นสมาช�ก่ซึ่-�งด้�ารงต�าแหน�งเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรของพื่รรคืก่ารเม�อง จ�านว่นคืะแนนเส�ยงจาก่บ�ญ่ช�รายช��อของพื่รรคืก่ารเม�องที่��พื่รรคืก่ารเม�องได้�ร�บในก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็คืร��งหล�งส&ด้ จ�านว่นสมาช�ก่ของพื่รรคืก่ารเม�องและจ�านว่นสาขาพื่รรคืก่ารเม�องตามล�าด้�บ (มาตรา 58 พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ว่�าด้�ว่ยพื่รรคืก่ารเม�อง พื่.ศ.2541)

Page 80: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

7) ก่ารสน�บสน&นก่ารจ�ด้ต��งและพื่�ฒนาสาขาพื่รรคืโด้ยร�ฐ (มาตรา 328

อน& 4)

8) ก่ารจ�าก่�ด้ว่งเง�นคื�าใช�จ�ายของพื่รรคืก่ารเม�องในก่ารเล�อก่ต��งและก่ารคืว่บคื&มก่ารร�บบร�จาคืเง�นของพื่รรคืก่ารเม�อง (มาตรา 328 อน& 5)

9) ก่ารตรว่จสอบสถึานะที่างก่ารเง�นของพื่รรคืก่ารเม�อง รว่มที่��งก่ารตรว่จสอบและก่าร เป็=ด้ เผยที่�� ม าของรายไ ด้� และก่าร ใช�จ� ายของพื่รรคืก่ารเม�อง (มาตรา 328 อน& 6)

10) ก่ารจ�ด้ที่�าบ�ญ่ช�แสด้งรายร�บและรายจ�ายของพื่รรคืก่ารเม�อง และบ�ญ่ช�แสด้งที่ร�พื่ย�ส�นและหน��ส�นของพื่รรคืก่ารเม�อง ซึ่-�งต�องแสด้งโด้ยเป็=ด้เผยซึ่-�งที่��มาของรายได้�และก่ารใช�จ�ายป็ระจ�าป็Bของพื่รรคืก่ารเม�องในที่&ก่รอบป็Bป็ฏ�ที่�น เพื่��อเสนอต�อคืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งเพื่��อตรว่จสอบและป็ระก่าศให�สาธารณชนที่ราบ (มาตรา 328 อน& 7)

1.1.2 การปฏิ�ร"ปสภูาผู้".แทนื้ราษฎีรม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงหลายป็ระเด้8นที่��งในเร��ององคื�ป็ระก่อบ ที่��มา อ�านาจ

หน�าที่�� ได้�แก่�1) สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรม�จ�านว่นที่��งส��น 500 คืน แยก่เป็ น 2

ป็ระเภที่ คื�อ ป็ระเภที่ที่��มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งแบบแบ�งเขตเล�อก่ต��ง จ�านว่น 400 คืน และป็ระเภที่ที่��มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งแบบบ�ญ่ช�รายช��อ จ�านว่น 100

คืน (มาตรา 98)

2) ระบบก่ารเล�อก่ต��งม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงใหม�จาก่ระบบที่�� ส.ส. มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งเขตละ 1 ถึ-ง 3 คืน มาเป็ นระบบก่ารเล�อก่ต��งแบบผสมระหว่�างเขตละ 1 คืน และระบบบ�ญ่ช�ซึ่-�งพื่รรคืก่ารเม�องเสนอ ซึ่-�งได้�แบบมาจาก่ป็ระเที่ศญ่��ป็&Eนและเยอรม�น (มาตรา 99 และมาตรา 102)

ก่ารม� ส.ส. เขตละ 1 คืน นอก่จาก่จะที่�าให�เก่�ด้คืว่ามเสมอภาคืในหม��ผ��ม�ส�ที่ธ�ออก่เส�ยงเล�อก่ต��งแล�ว่ ย�งเป็ นก่ารที่�า ให�คืนด้�ม�คืว่ามสามารถึ สามารถึต�อส��ก่�บผ��ที่��ใช�เง�นได้�เพื่ราะเขตเล�อก่ต��งไม�ใหม�น�ก่

ก่ารม� ส.ส. จาก่บ�ญ่ช�รายช��อก่8เป็ นอ�ก่มาตรก่ารหน-�งที่��ที่�าให�คืนด้�ม�คืว่ามสามารถึและไม�ต�องก่ารใช�เง�นในก่ารเล�อก่ต��ง สามารถึเข�าที่�างานในสภาผ��แที่นราษฎีรได้�

3) ก่�าหนด้ให�ก่ารเล�อก่ต��งเป็ นหน�าที่�� หาก่ผ��ใด้ไม�ไป็เล�อก่ต��งโด้ยไม�ม�เหต&อ�นคืว่ร จะเส�ยส�ที่ธ�หร�อผลป็ระโยชน�ตามที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต� (มาตรา 68)

ขณะเด้�ยว่ก่�น ร�ฐจะต�องอ�านว่ยคืว่ามสะด้ว่ก่ให�ผ��ม�ส�ที่ธ�ที่��อย��นอก่ภ�ม�ล�าเนาด้�ว่ย ว่�ธ�ก่ารน��ม�ข-�นเพื่��อที่�าให�ก่ารซึ่��อส�ที่ธ�ขายเส�ยงเป็ นไป็ได้�ยาก่เพื่ราะผ��ซึ่��อ

Page 81: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เส�ยงจะต�องซึ่��อเส�ยงเป็ นจ�านว่นมาก่และไม�แน�ว่�าจะได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��ง นอก่จาก่น��ย�งก่�าหนด้ให�ร�ฐสน�บสน&นก่ารเล�อก่ต��งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรในเร��องต�อไป็น��

(1) จ�ด้ที่��ป็=ด้ป็ระก่าศและที่��ต�ด้แผ�นป็Aายเก่��ยว่ก่�บก่ารเล�อก่ต��งในสาธารณสถึานซึ่-�งเป็ นของร�ฐ

(2) พื่�มพื่�และจ�ด้ส�งเอก่สารเก่��ยว่ก่�บก่ารเล�อก่ต��งไป็ให�ผ��ม�ส�ที่ธ�ออก่เส�ยงเล�อก่ต��ง

(3) จ�ด้หาสถึานที่��หาเส�ยงเล�อก่ต��งให�แก่�ผ��สม�คืรร�บเล�อก่ต��ง(4) จ�ด้สรรเว่ลาออก่อาก่าศที่างว่�ที่ย&ก่ระจายเส�ยงและว่�ที่ย&

โที่รที่�ศน�ให�แก่�พื่รรคืก่ารเม�อง4) ก่�าหนด้ให�ม�คืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งที่��เป็ นอ�สระ และเป็ นก่ลาง

เป็ นผ��จ�ด้ก่ารเล�อก่ต��งแที่นก่ระที่รว่งมหาด้ไที่ยและน�ก่ก่ารเม�อง (มาตรา 136-148)

5) สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรม�อ�านาจหน�าที่��ส�าคื�ญ่ คื�อ ก่ารตราก่ฎีหมาย (มาตรา 172-174) ซึ่-�งแยก่เป็ นก่ฎีหมายธรรมด้าและก่ฎีหมายป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ (มาตรา 172) ก่ารอน&ม�ต�งบป็ระมาณ (มาตรา 179-180)

และยก่เล�ก่งบ ส.ส. (มาตรา 180 ว่รรคื 6) ที่��งน��เพื่ราะสภาผ��แที่นราษฎีรหร�อก่รรมาธ�ก่ารจะแป็รญ่�ตต�หร�อก่ระที่�าก่ารใด้ๆ ที่��ม�ผลให�สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร สมาช�ก่ว่&ฒ�สภาหร�อก่รรมาธ�ก่ารม�ส�ว่นไม�ว่�าโด้ยตรงหร�อโด้ยอ�อมในก่ารใช�งบป็ระมาณรายจ�ายจะก่ระที่�าไม�ได้� และก่ารคืว่บคื&มก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�น ได้�แก่� ก่ารต��งก่ระที่��ธรรมด้า (มาตรา 183) และก่ารต��งก่ระที่��สด้ (มาตรา 184) ยก่เล�ก่ก่ารให�เป็=ด้อภ�ป็รายคืณะร�ฐมนตร�ที่��งคืณะ แต�ให�ม�ก่ารเสนอญ่�ตต�ขอเป็=ด้อภ�ป็รายที่��ว่ไป็เพื่��อลงมต�ไม�ไว่�ว่างใจนายก่ร�ฐมนตร�แที่น (มาตรา 185) ก่ารเสนอญ่�ตต�ขอเป็=ด้อภ�ป็รายที่��ว่ไป็เพื่��อลงมต�ไม�ไว่�ว่างใจร�ฐมนตร�เป็ นรายบ&คืคืล (มาตรา 186) ก่ารต��งก่รรมาธ�ก่ารสาม�ญ่และว่�สาม�ญ่เพื่��อก่ระที่�าก่�จก่ารพื่�จารณาสอบสว่น หร�อศ-ก่ษาเร��องใด้ๆ อ�นอย��ในอ�านาจหน�าที่��ของสภาผ��แที่นราษฎีร (มาตรา 189) และในก่รณ�ที่��ร �างพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ใด้ม�สาระส�าคื�ญ่เก่��ยว่ก่�บเด้8ก่ สตร� และคืนชรา หร�อผ��พื่�ก่ารหร�อที่&พื่พื่ลภาพื่ สภาผ��แที่นราษฎีรจะต�องต��งคืณะก่รรมาธ�ก่ารว่�สาม�ญ่ข-�นป็ระก่อบด้�ว่ยผ��แที่นองคื�ก่ารเอก่ชนเก่��ยว่ก่�บบ&คืคืลป็ระเภที่น��น ม�จ�านว่นไม�น�อยก่ว่�า 1 ใน 3 ของจ�านว่นก่รรมาธ�ก่ารที่��งหมด้ (มาตรา 190)

สมาช�ก่ภาพื่ของสมาช�ก่

สภาผ��แที่นราษฎีร

อาย&ของสภาผ��แที่นราษฎีร

4 ป็B น�บแต�ว่�นเล�อก่

สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร

จ�านว่น 500 คืน

สภาผ��แที่น

Page 82: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ารคื�านว่ณเก่ณฑ์�จ�านว่นราษฎีรต�อสมาช�ก่หน-�งคืน โด้ยคื�านว่ณจาก่จ�านว่นราษฎีรที่��งป็ระเที่ศตามหล�ก่ฐานก่ารที่ะเบ�ยนราษฎีรที่��ป็ระก่าศป็Bส&ด้ที่�ายก่�อนป็Bที่��ม�ก่ารเล�อก่ต��ง เฉล��ยด้�ว่ยจ�านว่นสมาช�ก่สภา ผ��แที่นราษฎีร 400 คืน

(มาตรา 102)

จ�านว่นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรแต�ละจ�งหว่�ด้มาจาก่เก่ณฑ์�จ�านว่นราษฎีรต�อสมาช�ก่หน-�งคืนมาเฉล��ยจ�านว่นราษฎีรในจ�งหว่�ด้น��น จ�งหว่�ด้ใด้ม�ราษฎีรไม� ถึ-งเก่ณฑ์�ให�ม�สมาช�ก่สภา ผ��แที่นราษฎีรได้�หน-�งคืน จ�งหว่�ด้ใด้ม�ราษฎีรเก่�นเก่ณฑ์�ให�ม�สมาช�ก่เพื่��มอ�ก่หน-�งคืนที่&ก่จ�านว่นราษฎีรที่��ถึ-งเก่ณฑ์�

(มาตรา 102)

จ�านว่นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรแต�ละจ�งหว่�ด้รว่มก่�นไม�คืรบ 400 คืน จ�งหว่�ด้ใด้ม�เศษเหล�อจาก่ก่ารคื�านว่ณมาก่ที่��ส&ด้ ให�จ�งหว่�ด้น��นม�สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรเพื่��มอ�ก่ 1

คืน โด้ยให�เพื่��มสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรตามว่�ธ�ก่ารน��แก่�จ�งหว่�ด้ที่��ม�เศษเหล�อในล�าด้�บรองลงมาจนคืรบ 400 คืน

(มาตรา 102)

จ�งหว่�ด้ใด้ม�ก่ารเล�อก่ต��งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรไม�เก่�น 1 คืน ให�ถึ�อเขตจ�งหว่�ด้เป็ นเขตเล�อก่ต��ง จ�งหว่�ด้ใด้ม�ก่ารเล�อก่ต��งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรเก่�น 1 คืน ให�แบ�งเขตจ�งหว่�ด้ออก่เป็ นเขตเล�อก่ต��งม�จ�านว่นเที่�าจ�านว่นสมาช�ก่ สภาผ��แที่นราษฎีรโด้ยให�แต�ละเขตเล�อก่ต��งม�จ�านว่นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร 1 คืน

(มาตรา 103)

จ�งหว่�ด้ใด้ม�ก่ารแบ�งเขตเล�อก่ต��งมาก่ก่ว่�าหน-�งเขตต�องแบ�งพื่��นที่��ของเขตเล�อก่ ต��งแต�ละเขตให�ต�ด้ต�อก่�นและต�องให�จ�านว่นราษฎีรในแต�ละเขตใก่ล�เคื�ยงก่�น

(มาตรา 103)

ย��นบ�ญ่ช�รายช��อผ��สม�คืรร�บเล�อก่ต��งต�อคืณะก่รรมก่าร

พื่รรคืก่ารเม�องจ�ด้ที่�าข-�นพื่รรคืละ 1 บ�ญ่ช� ไม�เก่�นบ�ญ่ช�

ก่ารเล�อก่ต��งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรแบบบ�ญ่ช�รายช��อ

Page 83: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สภาผ��แที่นราษฎีร

ประเด<นื้ส�าค�ญร�ฐธรรมนื้"ญแห1งราชั้อาณาจั�กรไทย

พิ2ทธศ�กราชั้ 2534

ร�ฐธรรมนื้"ญแห1งราชั้อาณาจั�กรไทยพิ2ทธศ�กราชั้ 2540

จ�านว่น ส.ส.จ�านว่น ส.ส. ข-�นอย��ก่�บส�ด้ส�ว่นป็ระชาก่ร 150,000 คืน ต�อ ส.ส. 1 คืน

- ม�จ�านว่น 500 คืน- มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งแบบแบ�งเขตเล�อก่

ต��ง 400 คืน- มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งแบบบ�ญ่ช�รายช��อ

100 คืนคื&ณสมบ�ต�และล�ก่ษณะต�อง

ห�ามของผ��สม�คืรร�บเล�อก่

ต��ง

- ม�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารเก่�ด้ หาก่บ�ด้าเป็ นคืนต�างด้�าว่ต�องม�คื&ณสมบ�ต�ตามก่ฎีหมายเล�อก่ต��งด้�ว่ย

- ไม�จ�าก่�ด้ว่&ฒ�ก่ารศ-ก่ษา- ห�ามบ&คืคืลห�หนว่ก่และเป็ นใบ�

- ม�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารเก่�ด้- ว่&ฒ�ก่ารศ-ก่ษาป็ร�ญ่ญ่าตร�ข-�นไป็หร�อ

เที่�ยบเที่�า- ไม�ห�ามบ&คืคืลห�หนว่ก่และเป็ นใบ�

คื&ณสมบ�ต�ของผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��ง

- ได้�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารแป็ลงส�ญ่ชาต�มาแล�ว่ไม�น�อยก่ว่�า 10 ป็B

- ไม�ก่�าหนด้เว่ลาก่ารม�ช��ออย��ในที่ะเบ�ยนบ�านในเขตเล�อก่ต��ง

- ได้�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารแป็ลงส�ญ่ชาต�มาแล�ว่ไม�น�อยก่ว่�า 5 ป็B

- ต�องม�ช��ออย��ในที่ะเบ�ยนบ�านในเขตเล�อก่ต��งไม�น�อยก่ว่�า 90 ว่�น

ก่ารเล�อก่ต��ง

- คืะแนนของผ��สม�คืรที่��สอบตก่ไม�ม�คืว่ามหมาย

- ผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งต�องลงคืะแนนในเขตเล�อก่ต��งเที่�าน��น

- พื่รรคืก่ารเม�องที่��ได้�ร �บเล�อก่ต��งแบบบ�ญ่ช�รายช��อไม�ถึ-ง 5% จ�านว่นคืะแนนเส�ยงรว่มที่��งป็ระเที่ศถึ�อว่�าไม�ม�ผ��ใด้ในบ�ญ่ช�น� �นได้�ร�บเล�อก่ต��ง

- ผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งนอก่เขตเล�อก่ต��งม�ส�ที่ธ�ลงคืะแนนเล�อก่ต��ง

ก่ารน�บคืะแนนและป็ระก่าศผล

บ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ในก่ฎีหมายเล�อก่ต��งว่�าต�องก่ระที่�า ณ ที่��เล�อก่ต��งน��น

ต�องน�บคืะแนนรว่มก่�นที่&ก่หน�ว่ยเล�อก่ต��งและป็ระก่าศ ณ สถึานที่��แห�งเด้�ยว่ในเขต

Page 84: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เล�อก่ต��งน��น

ก่ารส��นส&ด้สมาช�ก่ภาพื่

- ส .ส . เ ป็ น น า ย ก่ ร�ฐ ม น ต ร� ห ร�อร�ฐมนตร�ได้�ในขณะเด้�ยว่ ก่�นได้� 1 คืน

- สภาผ��แที่นราษฎีรหร�อคืณะต&ลาก่ารร�ฐธรรมน�ญ่ม�มต�ให�พื่�นจาก่สมาช�ก่ภาพื่

- ขาด้ป็ระช&มตลอด้สม�ยป็ระช&ม

- ส.ส. ที่�� ไป็เป็ นนายก่ร�ฐมนตร�หร�อร�ฐมนตร�ต�องพื่�นจาก่ก่ารเป็ น ส.ส.

- ว่&ฒ�สภาม�มต�ให�ถึอด้ถึอนออก่จาก่ต�า แ ห น� ง ห ร�อ ศ า ล ร�ฐ ธ ร ร ม น� ญ่ว่�น�จฉ�ยให�พื่�นจาก่สมาช�ก่ภาพื่

ต�าแหน�ง ส.ส.

ว่�างลงเล�อก่ต��งแที่นต�าแหน�งที่��ว่�าง

- หาก่ต�าแหน�งที่��ว่�างเป็ น ส.ส. ในบ�ญ่ช�รายช��อพื่รรคืใด้ ให�ผ��ม�ช��อในบ�ญ่ช�รายช��อของพื่รรคืน��น ในล�าด้�บถึ�ด้ไป็เล��อนข-�นมาเป็ นแที่น

- หาก่ต�าแหน�งที่��ว่�างเป็ น ส.ส. มาจาก่เขตก่ารเล�อก่ต��ง ให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งแที่นต�าแหน�งที่��ว่�าง

1.1.3 การปฏิ�ร"ปว2ฒิ�สภูาม�ก่ารแก่�ไขเป็ล��ยนแป็ลงหลายป็ระก่ารที่��งในเร��ององคื�ป็ระก่อบ ที่��มาและอ�านาจหน�าที่��1) สมาช�ก่ว่&ฒ�สภาม�จ�านว่นที่��งส��น 200 คืน (มาตรา 121)

1) สมาช�ก่ว่&ฒ�สภามาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งโด้ยตรงของป็ระชาชน (มาตรา 121) ซึ่-�งเป็ นก่ารเป็ล��ยนแป็ลงที่��มาของว่&ฒ�สภา ก่ารเล�อก่ต��งว่&ฒ�สภาใช�เขตจ�งหว่�ด้เป็ นเขตเล�อก่ต��ง (มาตรา 122) แต�ไม�ว่�าจ�งหว่�ด้น��นจะม�สมาช�ก่ว่&ฒ�สภาก่��คืน ป็ระชาชนแต�ละคืนจะลงคืะแนนเส�ยงได้�เพื่�ยง 1 คืะแนน เที่�าน��น (มาตรา 123) ผ��สม�คืรว่&ฒ�สภาจะหาเส�ยงไม�ได้� ซึ่-�งจะที่�าให�คืนด้�ม�คืว่ามสามารถึและเป็ นที่��ร� �จ�ก่อย�างก่ว่�างขว่างในจ�งหว่�ด้น��นๆ เข�ามาเป็ นสมาช�ก่ว่&ฒ�สภาได้� ระบบน��ย�งป็Aองก่�นไม�ให�สมาช�ก่ว่&ฒ�สภาม�ล�ก่ษณะก่ระจ&ก่ต�ว่อย��แต�ในเฉพื่าะก่ร&งเที่พื่มหานคืร

2) ว่&ฒ�สภานอก่จาก่ตะม�อ�านาจในก่ารย�บย��งร�างก่ฎีหมายของสภาผ��แที่นราษฎีร ซึ่-�งเป็ นอ�านาจแต�เด้�มแล�ว่ (มาตรา 175) ว่&ฒ�สภาที่��มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งน��จะม�อ�านาจในฐานะที่��เป็ นองคื�ก่รตรว่จสอบด้�ว่ย

บทบาทในื้ฐานื้ะท*+เป:นื้องค�กรติรวจัสอบนื้�นื้ แสดงออกในื้ 2 ลั�กษณะป็ระก่ารแรก่ คื�อ เป็ นผ��ม�อ�านาจในก่ารแต�งต��งสมาช�ก่ขององคื�ก่ร

ต�างๆ ตามร�ฐธรรมน�ญ่ ได้�แก่� ก่ารต��งผ��ตรว่จก่ารแผ�นด้�นของร�ฐสภา จ�านว่นไม�เก่�น 3 คืน (มาตรา 196) ก่ารต��งคืณะก่รรมก่ารส�ที่ธ�มน&ษยชนแห�งชาต�จ�านว่น 11 คืน (มาตรา 199) ก่ารต��งต&ลาก่ารศาลร�ฐธรรมน�ญ่

Page 85: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จ�านว่น 15 คืน (มาตรา 255) ก่ารเล�อก่ผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�จ�านว่น 2 คืน ไป็เป็ นก่รรมก่ารต&ลาก่ารศาลย&ต�ธรรม (มาตรา 274 อน& 3) ก่ารให�คืว่ามเห8นชอบในก่ารแต�งต��งผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�เป็ นต&ลาก่ารศาลป็ก่คืรอง (มาตรา 279

อน& 3) ก่ารเล�อก่คืณะก่รรมก่ารป็Aองก่�นและป็ราบป็รามก่ารที่&จร�ตแห�งชาต�จ�านว่น 9 คืน (มาตรา 297)

ป็ระก่ารที่��สอง คื�อ ก่ารม�อ�านาจในก่ารถึอด้ถึอนบ&คืคืลต�างๆ ออก่จาก่ต�าแหน�งได้�แก่� ก่ารม�มต�ด้�ว่ยคืะแนนเส�ยงไม�น�อยก่ว่�า 3 ใน 4 ให�คืณะก่รรมก่ารป็Aองก่�นและป็ราบป็รามก่ารที่&จร�ตแห�งชาต�พื่�นจาก่ต�าแหน�ง (มาตรา 299) ก่ารถึอด้ถึอนผ��ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร� ร�ฐมนตร� สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร สมาช�ก่ว่&ฒ�สภา ป็ระธานศาลฎี�ก่า ป็ระธานศาลร�ฐธรรมน�ญ่ ต&ลาก่ารศาลร�ฐธรรมน�ญ่ ก่รรมก่ารตรว่จสอบเง�นแผ�นด้�น ผ��พื่�พื่าก่ษาหร�อต&ลาก่าร พื่น�ก่งานอ�ยก่ารหร�อผ��ด้�ารงต�าแหน�งระด้�บส�ง ตามก่ฎีหมายป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ว่�าด้�ว่ยก่ารป็Aองก่�นและป็ราบป็รามก่ารที่&จร�ตออก่จาก่ต�าแหน�ง ในก่รณ�ที่��บ&คืคืลน��นม�พื่ฤต�ก่ารณ�ร��ารว่ยผ�ด้ป็ก่ต� ส�อไป็ในที่างที่&จร�ตต�อหน�าที่�� ส�อว่�าก่ระที่�าผ�ด้ต�อต�าแหน�งหน�าที่��ราชก่าร ส�อว่�าก่ระที่�าผ�ด้ต�อต�าแหน�งหน�าที่��ในก่ารย&ต�ธรรม หร�อส�อว่�าจงใจใช�อ�านาจหน�าที่��ข�ด้ต�อบที่บ�ญ่ญ่�ต�แห�งร�ฐธรรมน�ญ่หร�อก่ฎีหมาย

ว่&ฒ�สภา

ม�ก่�าหนด้คืราว่ละ 6 ป็B น�บแต�ว่�นเล�อก่ต��ง

1. ไม�เป็ นสมาช�ก่หร�อผ��ด้�ารงต�าแหน�งอ��นของพื่รรคืก่ารเม�อง

2. ไม�เป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรหร�อเคืยเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร และพื่�นจาก่ก่ารเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรมาแล�ว่ย�งไม�เก่�น 1 ป็B น�บถึ-งว่�นสม�คืรร�บเล�อก่ต��ง

3. ไม�เป็ นหร�อเคืยเป็ นสมาช�ก่ว่&ฒ�สภาตามบที่บ�ญ่ญ่�ต�แห�งร�ฐธรรมน�ญ่น�� ในอาย&ของว่&ฒ�สภาคืราว่ก่�อนก่ารสม�คืรร�บเล�อก่ต��ง

4. ไม�เป็ นบ&คืคืลต�องห�ามม�ให�ใช�ส�ที่ธ�สม�คืรร�บเล�อก่ต��ง ตามมาตรา

1. ม�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารเก่�ด้

2. ม�อาย&ไม�ต��าก่ว่�า 40 ป็Bบร�บ�รณ�ในว่�นเล�อก่ต��ง

3. ส�าเร8จก่ารศ-ก่ษาไม�ต��าก่ว่�าป็ร�ญ่ญ่าตร�หร�อเที่�ยบเที่�า

4. ม�ล�ก่ษณะอย�างใด้อย�างหน-�งตามมาตรา 107 (5)

มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งโด้ยตรง

ของป็ระชาชน

จ�านว่น 200

คืน

ที่��มา คื&ณสมบ�ต� ล�ก่ษณะต�องห�าม

ว่าระก่ารด้�ารงต�าแหน�ง

ว่&ฒ�สภา

Page 86: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ประเด<นื้ส�าค�ญร�ฐธรรมนื้"ญแห1งราชั้อาณาจั�กร

ไทยพิ2ทธศ�กราชั้ 2534

ร�ฐธรรมนื้"ญแห1งราชั้อาณาจั�กรไทย

พิ2ทธศ�กราชั้ 2540

จ�านว่นและที่��มาของ ส.ว่.

- ม�จ�านว่น 2/3 ของจ�านว่น ส.ส.

- มาจาก่ก่ารแต�งต��ง- ม�จ�านว่น 200 คืน- มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งโด้ยตรง

คื&ณสมบ�ต�และล�ก่ษณะต�อง

ห�ามของผ��ที่��จะเป็ น ส.ว่.

- ม�อาย&ต� �งแต� 35 ป็Bข-�นไป็- ไม�จ�าก่�ด้ว่&ฒ�ก่ารศ-ก่ษา- ห�ามบ&คืคืลห�หนว่ก่และเป็ นใบ�- ไม�ห�ามข�าราชก่ารป็ระจ�า

พื่น�ก่งานร�ฐว่�สาหก่�จ

- ม�อาย&ต� �งแต� 40 ป็Bข-�นไป็- ว่&ฒ�ก่ารศ-ก่ษาป็ร�ญ่ญ่าตร�ข-�นไป็

หร�อเที่�ยบเที่�า- ไม�ห�ามบ&คืคืลห�หนว่ก่และเป็ นใบ�- ห�ามข�าราชก่ารป็ระจ�า พื่น�ก่งาน

ร�ฐว่�สาหก่�จ

คื&ณสมบ�ต�ของผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่

ต��ง

- ได้�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารแป็ลงส�ญ่ชาต�มาแล�ว่ไม�น�อยก่ว่�า 10

ป็B- ไม�ก่�าหนด้เว่ลาก่ารม�ช��ออย��ใน

ที่ะเบ�ยนบ�านในเขตเล�อก่ต��ง

- ได้�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารแป็ลงส�ญ่ชาต�มาแล�ว่ไม�น�อยก่ว่�า 5 ป็B

- ต�องม�ช��ออย��ในที่ะเบ�ยนบ�านในเขตเล�อก่ต��งไม�น�อยก่ว่�า 90 ว่�น

ว่าระก่ารด้�ารงต�าแหน�ง

4 ป็B 6 ป็B

ก่ารด้�ารงต�าแหน�ง

ป็ระธานและรองป็ระธาน

ก่ารเล�อก่ที่&ก่ 2 ป็B อย��จนส��นอาย&สภา

อ�านาจหน�าที่�� ก่ล��นก่รองก่ฎีหมาย

- ก่ล��นก่รองก่ฎีหมาย- ให�คืว่ามเห8นชอบในก่ารแต�งต��ง

และถึอด้ถึอนผ��ด้�ารงต�าแหน�งในองคื�ก่รตามที่��ร�ฐธรรมน�ญ่บ�ญ่ญ่�ต� เช�น ป็.ป็.ช. , ศาลร�ฐธรรมน�ญ่

ก่ารส��นส&ด้สมาช�ก่ภาพื่

- ส.ว่. เป็ นร�ฐมนตร�ได้�ในขณะเด้�ยว่ก่�น

- ว่&ฒ�สภาหร�อคืณะต&ลาก่ารร�ฐธรรมน�ญ่ม�มต�ให�พื่�นจาก่สมาช�ก่ภาพื่

- ขาด้ป็ระช&มตลอด้สม�ยป็ระช&ม

- เม��อไป็เป็ นร�ฐมนตร� หร�อข�าราชก่ารเม�องอ��น

- ว่&ฒ�สภาม�มต�ถึอด้ถึอน หร�อศาลร�ฐธรรมน�ญ่ว่�น�จฉ�ยให�พื่�นจาก่สมาช�ก่ภาพื่

- ขาด้ป็ระช&มเก่�น 1 ส�ว่น 4 ของ

Page 87: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จ�านว่นว่�นป็ระช&มต�าแหน�ง ส.ว่.

ว่�างลงพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงแต�งต��งบ&คืคืลเป็ นสมาช�ก่แที่น

เล�อก่ต��งข-�นแที่นต�าแหน�งที่��ว่�าง

กระบวนื้การในื้การถอดถอนื้ออกจัากติ�าแหนื้1ง

1.2 การปฏิ�ร"ปกระบวนื้การนื้�ติ�บ�ญญ�ติ�ก่ารป็ร�บป็ร&งก่ระบว่นก่ารน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่มาก่ข-�นด้�ว่ยก่ารก่�าหนด้ให�สม�ยป็ระช&มม� 2 สม�ย คื�อ สม�ยป็ระช&มที่��ว่ไป็ และสม�ยป็ระช&มสาม�ญ่

น�ต�บ�ญ่ญ่�ต� (มาตรา 159 ว่รรคื 2) ซึ่-�งจะที่�าให�สภาผ��แที่นราษฎีรสามารถึตราก่ฎีหมายได้�มาก่ข-�น

ขยายระยะเว่ลาสม�ยป็ระช&มเป็ นสม�ยละ 120 ว่�น (มาตรา 160)

ข�อก่ล�าว่หา

ศาลฎี�ก่าแผนก่อาญ่า

ผ��ถึ�ก่ถึอด้ถึอน

อ�ยก่ารว่&ฒ�สภาลง

ไม�ม�ม�ล ม�ม�ล

ป็.ป็.ช. ไต�สว่น

ป็ระชาชน 50,000 คืนร�องขอต�อ

สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร

ป็ระธาน

Page 88: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่�าหนด้ให�ก่ฎีหมายที่��ส�าคื�ญ่ม�ก่ระบว่นก่ารน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ที่��แตก่ต�างไป็โด้ยระบ&ว่�า ร�างก่ฎีหมายที่��คืณะร�ฐมนตร�ระบ&ไว่�ในนโยบายที่��แถึลงต�อร�ฐสภาว่�าจ�า เป็ นต�อก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�น หร�อร�างก่ฎีหมายป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ใด้ หาก่สภาผ��แที่นราษฎีรม�มต�ไม�ให�คืว่ามเห8นชอบและคืะแนนเส�ยงที่��ไม�ให�คืว่ามเห8นชอบไม�ถึ-งก่-�งหน-�งของจ�านว่นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรที่��งหมด้เที่�าที่��ม�อย�� คืณะร�ฐมนตร�อาจขอให�ร�ฐสภาป็ระช&มร�ว่มก่�นเพื่��อม�มต�อ�ก่คืร��งหน-�ง หาก่ร�ฐสภาม�มต�ให�คืว่ามเห8นชอบก่8จะม�ก่ารต��งบ&คืคืลซึ่-�งเป็ นหร�อม�ได้�เป็ นสมาช�ก่ของแต�ละสภาม�จ�านว่นเที่�าก่�น ตามที่��คืณะร�ฐมนตร�เสนอป็ระก่อบก่�นเป็ นคืณะก่รรมาธ�ก่ารร�ว่มพื่�จารณาเสร8จแล�ว่ก่8ส�งให�ร�ฐสภาม�มต�ต�อไป็ (มาตรา 173)

ก่�าหนด้ให�ก่ฎีหมายที่��คื�างอย��ในสภา สามารถึถึ�ก่หย�บยก่ข-�นมาพื่�จารณาใหม�ได้�โด้ยไม�ต�องก่ล�บไป็เร��มต�นใหม� ในก่รณ�ที่��อาย&ของสภาผ��แที่นราษฎีรส��นส&ด้ลงหร�อม�ก่ารย&บสภา (มาตรา 178)

2.กลัไกของร�ฐในื้ทางบร�หารก่ลไก่ของร�ฐในที่างบร�หารม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงใน 2 แนว่ที่างด้�ว่ยก่�น แนว่ที่างแรก่ คื�อ

ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงที่��เก่��ยว่ข�องก่�บฝ่Eายบร�หารโด้ยตรง แนว่ที่างที่�� 2 คื�อ ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงที่��เก่��ยว่ข�องก่�บระบบราชก่าร ซึ่-�งเป็ นก่ลไก่ของฝ่Eายบร�หาร

1.1 การปฏิ�ร"ปฝ่Aายบร�หารร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นได้�ที่�าก่ารป็ฏ�ร�ป็ฝ่Eายบร�หาร หร�อร�ฐบาลในหลายก่รณ�ด้�ว่ยก่�นป็ระก่ารแรก่ คื�อ ก่ารลด้จ�านว่นคืณะร�ฐมนตร�ให�เหล�อเพื่�ยง 36 คืน จาก่เด้�มที่��ม�

อย��เก่�อบ 50 คืน สาเหต&ส�าคื�ญ่ที่��ม�ก่ารลด้จ�านว่นร�ฐมนตร�ให�เหล�อน�อยลงด้�งก่ล�าว่ ก่8เน��องมาจาก่ก่ารคื�าน-งถึ-งป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ในก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�นของร�ฐบาล เพื่ราะอาจจะก่ล�าว่ได้�ว่�า ในอด้�ตที่��ผ�านมาจนถึ-งป็%จจ&บ�นน��น คืณะร�ฐมนตร�ของป็ระเที่ศไที่ยม�ขนาด้ใหญ่� เพื่ราะไม�ได้�ป็ระก่อบด้�ว่ยร�ฐมนตร�เที่�าน��น แต�ย�งม�ร�ฐมนตร�ช�ว่ยว่�าอ�ก่เป็ นจ�านว่นมาก่ นอก่จาก่น��ป็ระเพื่ณ�ก่ารแบ�งสรรอ�านาจของร�ฐมนตร�และร�ฐมนตร�ช�ว่ยว่�าก่ารก่8ม�ล�ก่ษณะที่��แบ�งแยก่ก่�นเด้8ด้ขาด้ ร�ฐมนตร�ไม�สามารถึเข�าไป็ก่�าว่ก่�ายหน�ว่ยงานที่��อย��ในคืว่ามด้�แลของร�ฐมนตร�ช�ว่ยว่�าก่าร คืว่ามเป็ นเอก่ภาพื่ของหน�ว่ยงานจ-งไม�เก่�ด้ข-�น ก่ารก่�าหนด้จ�านว่นคืณะร�ฐมนตร�มาก่เช�นน��เป็ นผลส�บเน��องมาจาก่ก่ารป็�นบ�าเหน8จที่างก่ารเม�องด้�ว่ย โด้ยไม�คื�าน-งถึ-งคืว่ามจ�าเป็ นในก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�นแต�อย�างใด้ จ�านว่นร�ฐมนตร�ม�ได้�ม�คืว่ามสอด้คืล�องก่�บก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รม ที่��ม�อย�� ก่ารลด้จ�านว่นร�ฐมนตร�ลงจะที่�าให�ก่ารป็�นบ�าเหน8จรางว่�ลเป็ นไป็ได้�ยาก่ข-�น ก่ารบร�หารงานจะม�คืว่ามเป็ นเอก่ภาพื่

Page 89: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

และคืณะร�ฐมนตร�จะสามารถึเป็ นศ�นย�รว่มของก่ารต�ด้ส�นใจป็%ญ่หาของป็ระเที่ศอย�างแที่�จร�ง

ป็ระก่ารที่��สอง คื�อ ก่ารป็ร�บป็ร&งให�ม�ก่ารให�คืว่ามเห8นชอบผ��ด้�ารงต�าแหน�งนาร�ฐมนตร�ในสภาผ��แที่นราษฎีร โด้ยก่�าหนด้ก่ลไก่ไว่�ในมาตรา 202 ว่�าจะต�องม�สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ไม�น�อยก่ว่�า 1 ใน 5 ของจ�านว่นสมาช�ก่ที่��งหมด้เที่�าที่��ม�อย��ของสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร และมต�ของสภาผ��แที่นราษฎีรซึ่-�งต�องก่ระที่ด้โด้ยเป็=ด้เผยจะต�องม�คืะแนนเส�ยงมาก่ก่ว่�าก่-�งหน-�งของจ�านว่นสมาช�ก่เที่�าที่��ม�อย��ของสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ก่ลไก่ตามาตราน��ม�ข-�นเพื่��อให�ก่ารสรรหานายก่ร�ฐมนตร�เป็ นอย�างโป็ร�งใส และเป็ นที่��ยอมร�บของที่&ก่ฝ่E าย หล�ก่เล��ยงก่ารด้�า เน�นก่ารของห�ว่หน�าพื่รรคืก่ารเม�องหร�อเลขาธ�ก่ารพื่รรคืก่ารเม�องที่��ม�ก่จะอาศ�ยก่ารตก่ลงภายในก่�บพื่รรคืก่ารเม�องอ�� น เพื่��อให�บ&คืคืลใด้บ&คืคืลหน-�งข-�นเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�

ป็ระก่ารที่��สาม นายก่ร�ฐมนตร� และร�ฐมนตร�จะเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร หร�อว่&ฒ�สภาในขณะเด้�ยว่ก่�นไม�ได้� ป็ระเด้8นน��เป็ นที่��ม�คืว่ามข�ด้แย�งก่�นเป็ นอย�างส�งในสภาร�างร�ฐธรรมน�ญ่ เจตนารมณ�ของมาตรา 204 คื�อ ก่ารห�ามฝ่Eายบร�หารด้�ารงต�าแหน�งในฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในขณะเด้�ยว่ก่�น ซึ่-�งเป็ นเร��องที่��แตก่ต�างจาก่ ห�าม ส“ .ส. เป็ นร�ฐมนตร�” เพื่ราะในก่รณ�หล�งน��นที่�าให�ไขว่�เขว่ได้�ว่�า ผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ป็ระสงคื�ที่��จะให� คืนนอก่ ที่��ไม�“ ”

ได้�มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งมาเป็ นร�ฐมนตร� ซึ่-�งคืว่ามจร�งหาเป็ นเช�นน��นไม� เพื่ราะแม�จะม�เจตนาม�ให�ฝ่Eายบร�หารด้�ารงต�าแหน�งในฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในขณะเด้�ยว่ก่�น แต�ผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ก่8ป็ระสงคื�ที่��จะให�นายก่ร�ฐมนตร�และร�ฐมนตร�มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��ง หร�อเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรน��นเอง ด้�งจะเห8นได้�มาตรา 204 ว่รรคื 2 ที่��บ�ญ่ญ่�ต�ว่�า สมาช�ก่สภาผ��แที่น“

ราษฎีร ซึ่-�งได้�ร�บก่ารแต�งต��งเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�หร�อร�ฐมนตร� ให�พื่�นจาก่ต�าแหน�งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรในว่�นถึ�ด้จาก่ว่�นที่��คืรบ 30 ว่�น น�บแต�ว่�นที่��ม�พื่ระบรมราชโองก่ารแต�งต��ง”

ก่ารที่��ร �ฐธรรมน�ญ่ไม�ป็ระสงคื�ให�ฝ่Eายบร�หารเป็ นฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในขณะเด้�ยว่ก่�น ม�เหต&ผลที่��ส�าคื�ญ่ 3 ป็ระก่าร คื�อ

1) บที่บาที่ของฝ่Eายบร�หารและบที่บาที่ของฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� เป็ นบที่บาที่ที่��ข�ด้แย�งก่�นโด้ยส��นเช�ง ผ�ายบร�หารม�หน�าที่��ในก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�น ในขณะที่��ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ม�หน�าที่��ในก่ารคืว่บคื&มก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�น ด้�งน��น ในก่รณ�ที่��นายก่ร�ฐมนตร�และร�ฐมนตร�เป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรในขณะเด้�ยว่ก่�น ก่8เป็ นไป็ไม�ได้�เลยที่��บ&คืคืลด้�งก่ล�าว่จะที่�าหน�าที่��ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในฐานะที่��เป็ นผ��คืว่บคื&มก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�น

Page 90: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เฉพื่าะต�ว่ที่��งคืณะ

ก่ารส��นส&ด้คืว่ามเป็ นก่ารออก่เส�ยงป็ระชามต�โด้ย

คื&ณสมบ�ต�และล�ก่ษณะต�องห�าม

องคื�ป็ระก่อบ

1. ตาย2. ลาออก่3. ขาด้คื&ณสมบ�ต�

ห ร�อ ม� ล� ก่ ษ ณ ะต� อ ง ห� า ม ต า ม ม.306

4. ต�องคื�าพื่�พื่าก่ษาให�จ�าคื&ก่

5. ส ภ า ผ�� แ ที่ นราษฎีรม�มต�ไม�ไว่�ว่างใจตาม ม.185

หร�อ ม.186

6. ก่ ร ะ ที่�า ก่ า ร อ� นต� อ ง ห� า ม ต า ม ม.208 หร�อ ม.209

1. คื ว่ า ม เ ป็ นร�ฐมนตร�ของนายก่ร�ฐมนตร�ส��นส&ด้ลงตาม ม.216

2. อาย&สภาผ��แที่นราษ ฎีร ส�� น ส&ด้

ถึ�าหาก่คืณะร�ฐมนตร�เห8นว่�าก่�จก่ารในเร��องใด้อาจก่ระที่บถึ-งป็ระโยชน�ได้�เส�ยของป็ระเที่ศหร�อป็ระชาชนจะขอป็ร-ก่ษาคืว่ามเห8นของป็ระชาชนว่�าจะเห8นชอบหร�อไม�เห8นชอบในเร��องน��นๆ ออก่เส�ยงป็ระชามต� ซึ่-�งก่ารออก่เส�ยง

1. ม�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารเก่�ด้2. ม�อาย&ไม�ต��าก่ว่�า 35 ป็Bบร�บ�รณ�3. ส�าเร8จก่ารศ-ก่ษาไม�ต��าก่ว่�าป็ร�ญ่ญ่าตร�หร�อ

เที่�ยบเที่�า4. ไม�ม�ล�ก่ษณะต�องห�ามตามมาตรา 109 (1-7) (12-14)

5. ไม�เคืยได้�ร�บต�องคื�าพื่�พื่าก่ษาให�จ�าคื&ก่ ต��งแต� 2

ป็Bข-�นไป็ โด้ยก่�อนได้�ร�บก่ารแต�งต��ง เว่�นแต�ในคืว่ามผ�ด้อ�นก่ระที่�าโด้ยป็ระมาที่

6. ไม�เป็ นสมาช�ก่ว่&ฒ�สภา หร�อเคืยเป็ นสมาช�ก่ภาพื่ส��นส&ด้ลงมาแล�ว่ย�งไม�เก่�น 1 ป็B น�บถึ-งว่�นที่��ได้�ร�บแต�งต��งเป็ นร�ฐมนตร�เว่�นแต�สมาช�ก่ภาพื่ส��นส&ด้ลงตามาตรา ม.133 (1)

7. ร�ฐมนตร�จะเป็ นข�าราชก่ารซึ่-�งม�ต�าแหน�งเง�นเด้�อนป็ระจ�านอก่จาก่ข�าราชก่ารก่ารเม�องม�ได้�

8. ร�ฐมนตร�จะด้�ารงต�าแหน�งหร�อก่ระที่�าก่ารใด้ก่8ตามที่��บ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ใน ม.110 ม�ได้�

9. ร�ฐมนตร�จะต�องไม�เป็ นห&�นส�ว่นหร�อผ��ถึ�อห&�นในห�างห&�นส�ว่นหร�อไม�คืงไว่�ซึ่-�งว่ามเป็ นห&�นส�ว่นหร�อ

นายก่ร�ฐมนตร�หน-�งคืน และ

คืณะร�ฐมนตร�

Page 91: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2) เป็ นที่��ที่ราบก่�นด้�ว่�าฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในป็ระเที่ศไที่ยตราก่ฎีหมายได้�น�อยมาก่ในแต�ละป็B แม�จะม�สาเหต&หลายป็ระก่ารก่8ตาม แต�เหต&ผลหน-�งก่8คื�อ ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในป็ระเที่ศไที่ยไม�ได้�ให�คืว่ามสนใจต�อก่ารตราก่ฎีหมายเที่�าที่��คืว่ร ผ��ด้�ารงต�าแหน�งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรม�ก่ให�คืว่ามสนใจก่�บก่ารตราก่ฎีหมายคื�อนข�างน�อย แต�เน�นหน�ก่คืว่ามสนใจของตนเองไป็ที่��ก่ารเป็ นฝ่Eายบร�หารมาก่ก่ว่�า ก่ารห�ามม�ให�ฝ่Eายบร�หารด้�ารงต�าแหน�งเป็ นฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในขณะเด้�ยว่ก่�น จ-งเที่�าก่�บที่�าให�ที่��งฝ่Eายบร�หารและฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�สามารถึที่&�มเที่ก่ารที่�างานของตนได้�อย�างเต8มที่�� สอด้คืล�องก่�บหล�ก่ก่าร แยก่งานก่�น“

ที่�า เพื่��อให�เก่�ด้ป็ระโยชน�ส�งส&ด้ต�อป็ระเที่ศชาต�เป็ นส�ว่นรว่ม”

3) ก่ารให�ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ด้�ารงต�าแหน�งเป็ นฝ่Eายบร�หารได้� ย�งเป็ นช�องที่างให�ม�ก่ารแสว่งหาป็ระโยชน�จาก่ก่ารเป็ นร�ฐมนตร� เพื่ราะสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรที่��งหลายต�างก่8ม&�งหว่�งว่�าตนเองจะสามารถึรว่บรว่มคืะแนนเส�ยงได้�จ�านว่นหน-�ง เพื่��อไป็ด้�ารงต�าแหน�งร�ฐมนตร�ตามโคืว่ต�า ก่ารห�ามม�ให�ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ด้�ารงต�าแหน�งฝ่Eายบร�หารในขณะเด้�ยว่ก่�นจะที่�าให�สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรตระหน�ก่ว่�าเม��อใด้ก่8แล�ว่แต�ที่��ไป็ด้�ารงต�าแหน�งร�ฐมนตร�จะต�องพื่�นจาก่ก่ารเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร และหาก่ม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงคืณะร�ฐมนตร�ก่8จะก่ล�บมาเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรไม�ได้�จนก่ว่�าจะม�ก่ารเล�อก่ต��งใหม�

1.2 การปฏิ�ร"ประบบราชั้การ1.2.1 การปฏิ�ร"ปราชั้การส1วนื้กลัางแลัะภู"ม�ภูาค

1) ร�ฐธรรมน�ญ่มาตรา 230 ได้�เป็=ด้ช�องให�ม�ก่ารจ�ด้ต��ง รว่ม โอน หร�อย&บก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รม ได้� โด้ยก่ารตราพื่ระราชก่ฤษฎี�ก่าแที่นที่��จะเป็ นก่ารตราพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต� น��นก่8หมายคืว่ามว่�าร�ฐบาลจะม�คืว่ามคืล�องต�ว่ในก่ารป็ร�บป็ร&งก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รม มาก่ข-�น ก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รมใด้ที่��ร�ฐบาลเห8นว่�าไม�ม�คืว่ามจ�าเป็ นต�องด้�ารงอย��ต�อไป็ไม�ว่�าจะเป็ นเพื่ราะคืว่ามจ�าเป็ นของสถึานก่ารณ�ที่��หมด้ไป็ ไม�ว่�าจะเป็ นเพื่ราะร�ฐบาลโอนอ�านาจหน�าที่��ด้�งก่ล�าว่ไป็ให�หน�ว่ยงานอ��นที่��ม�ใช� ก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รม คืว่รจะไป็อย��รว่มก่�บก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รมอ��น ร�ฐบาลก่8สามารถึด้�าเน�นก่ารได้�เช�นเด้�ยว่ก่�น และโด้ยเฉพื่าะอย�างย��งในก่รณ�ที่��ร �ฐบาลป็ระสงคื�จะต��งหน�ว่ยงานใหม� เช�น ก่ระที่รว่งจราจร ก่ระที่รว่งส��งแว่ด้ล�อม ก่ระที่รว่งสตร�เด้8ก่และเยาว่ชน อ�นเป็ นนโยบายที่��ร�ฐบาล

Page 92: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ได้�แถึลงต�อร�ฐสภา ร�ฐบาลก่8สามารถึด้�าเน�นก่ารได้�อย�างที่�นที่�ว่งที่�สอด้คืล�องก่�บสถึานก่ารณ�และคืว่ามเป็ล��ยนแป็ลงต�างๆ ที่��เก่�ด้ข-�น

2) ร�ฐธรรมน�ญ่ย�งบ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งเร��องอ��นๆ อ�ก่หลายเร��องอ�นม�ผลต�อก่ารป็ฏ�ร�ป็ระบบราชก่ารส�ว่นก่ลาง และส�ว่นภ�ม�ภาคื เช�น

มาตรา 40 บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ก่ารจ�ด้ต��ง องคื�ก่รของร�ฐที่��ม�คืว่าม“

เป็ นอ�สระ ที่�าหน�าที่��จ�ด้สรรคืล��นคืว่ามถึ��ที่��ใช�ในก่ารส�งว่�ที่ย&ก่ระจาย”

เส�ยง ว่�ที่ย&โที่รที่�ศน� และว่�ที่ย&โที่รคืมนาคืม อ�นจะม�ผลที่�าให�ต�องห�นก่ล�บมาที่บที่ว่น องคื�ก่รน�ต�บ&คืคืลมหาชน ในป็ระเที่ศไที่ยเส�ยใหม�“ ” จาก่แต�เด้�มที่��ม�ส�ว่นราชก่าร ไม�ว่�าจะเป็ นราชก่ารส�ว่นก่ลาง ราชก่ารส�ว่นภ�ม�ภาคื หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น และร�ฐว่�สาหก่�จเที่�าน��น

มาตรา 46 บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-ง ช&มชนที่�องถึ��นด้�งเด้�ม ที่��ม�ส�ที่ธ�ในก่าร“ ”

อน&ร�ก่ษ� หร�อฟิF� นฟิ�จาร�ตป็ระเพื่ณ� ภ�ม�ป็%ญ่ญ่าที่�องถึ��น ศ�ลป็ะ หร�อว่�ฒนธรรมอ�นด้�ของที่��งถึ��น และของชาต� และม�ส�ว่นรว่มในก่ารจ�ด้ก่าร ก่ารบ�าร&งร�ก่ษา และก่ารใช�ป็ระโยชน�จาก่ที่ร�พื่ยาก่รธรรมชาต� และส��งแว่ด้ล�อมอย�างสมด้&ล และย��งย�นอ�านาจหน�าที่��ด้�งก่ล�าว่ เด้�มเป็ นของร�ฐหร�อหน�ว่ยงานของร�ฐ เม�� อมาตรา 46 บ�ญ่ญ่�ต�ไว่�เช�นน��หน�ว่ยราชก่ารต�างๆ ก่8จะต�องป็ร�บที่�ศนคืต�ในก่ารที่�างานเพื่��อให�ช&มชนที่�องถึ��นด้��งเด้�มม�ส�ว่นร�ว่มมาก่ข-�น หน�ว่ยราชก่ารต�างๆ ก่8จะต�องป็ร�บที่�ศนคืต�ในก่ารที่�างานเพื่��อให�ช&มชนที่�องถึ��นด้��งเด้�มม�ส�ว่นร�ว่มมาก่ข-�น หน�ว่ยราชก่ารต�างๆ จะต�องเร�ยนร� �ก่ารที่�างานร�ว่มก่�บเอก่ชน และป็ร�บว่�ธ�ก่ารที่�างานเส�ยใหม� จาก่ระบบ ช��น��ว่ส��งก่าร ผ��อ��นมาเป็ นระบบ “ ” “

ที่�างานร�ว่มก่�น ก่�บคืนอ��น”

มาตรา 58 ร�บรองส�ที่ธ�ของป็ระชาชนในก่ารเข�าถึ-ง และร�บที่ราบข�อม�ล หร�อข�าว่สารของที่างราชก่าร อ�นเป็ นก่ารก่ล�บหล�ก่เก่ณฑ์�เด้�มที่��ถึ�อว่�าข�อม�ลข�าว่สารของที่างราชก่ารน��น ก่ารป็=ด้ล�บเป็ นหล�ก่ ก่าร“

เป็=ด้เผยเป็ นข�อยก่เว่�น มาส��หล�ก่เก่ณฑ์� ก่ารเป็=ด้เผยเป็ นหล�ก่ ก่าร” “

ป็=ด้ล�บเป็ นข�อยก่เว่�น ก่ารร�บรองส�ที่ธ�ด้�งก่ล�าว่ข�างต�นเร�ยก่ร�องให�”

หน�ว่ยราชก่ารต�องป็ร�บต�ว่ในเร��องระบบข�าว่สารที่��งหมด้ ซึ่-�งม�รายละเอ�ยด้จะอย��ในพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ข�อม�ลข�าว่สารของที่างราชก่าร พื่.ศ.2540

มาตรา 59 บ�ญ่ญ่�ต�ร�บรองก่ารม�ส�ว่นรว่มของป็ระชาชนในก่ระบว่นก่ารป็ระชาพื่�จารณ� ซึ่-�งจะที่�าให�ก่ารด้�าเน�นก่ารโคืรงก่ารหร�อ

Page 93: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่�จก่รรมใด้ของหน�ว่ยราชก่ารที่��อาจม�ผลก่ระที่บต�อส&ขภาพื่ ส��งแว่ด้ล�อม ส&ขภาพื่อนาม�ย คื&ณภาพื่ช�ว่�ต หร�อส�ว่นได้�เส�ยอ�� นใด้ของป็ระชาชน หร�อช&มชนที่�องถึ��น จะต�องให�ป็ระชาชนม�ส�ที่ธ�ได้�ร�บข�อม�ล คื�าช�แจ�ง และเหต&ผล และม�ส�ที่ธ�ในก่ารแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8นในเร��องด้�งก่ล�าว่ได้�

มาตรา 60 บ�ญ่ญ่�ต�ร�บรองก่ารม�ส�ว่นรว่มของป็ระชาชนในก่ารด้�าเน�นก่ารออก่คื�าส��งของหน�ว่ยงานและเจ�าหน�าที่��ของร�ฐ ซึ่-�งป็%จจ&บ�นม�พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ว่�ธ�ป็ฏ�บ�ต�ราชก่ารป็ก่คืรอง พื่.ศ.2539 บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งเร��องน��ไว่�โด้ยตรง ฯลฯ

1.2.2 การปฏิ�ร"ปราชั้การส1วนื้ท.องถ�+นื้ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นได้�ที่�าก่ารป็ฏ�ร�ป็ราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น 6

ป็ระเด้8นด้�ว่ยเช�นก่�น1) โคืรงสร�าง มาตรา 258 บ�ญ่ญ่�ต�ให�

- ที่�องถึ��นที่��งหลายต�องม�องคื�ก่ร 2 องคื�ก่ร ได้�แก่� สภาที่�องถึ��น และฝ่E ายบร�หารที่�องถึ��นซึ่-�งม�ผลก่ระที่บต�อส&ขาภ�บาลที่��เด้�มม�องคื�ก่รพื่�ยงองคื�ก่รเด้�ยว่ คื�อ คืณะก่รรมก่ารส&ขาภ�บาล

- สมาช�ก่สภาที่�องถึ��นต�องมาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งโด้ยตรงเที่�าน��น ซึ่-�งม�ผลก่ระที่บต�อส&ขาภ�บาล องคื�ก่ารบร�หารส�ว่นต�าบล และเม�องพื่�ที่ยา

- ฝ่Eายบร�หารที่�องถึ��นต�องมาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งหร�อคืว่ามเห8นชอบของสภาที่�องถึ��น ซึ่-�งม�ผลก่ระที่บต�อส&ขาภ�บาล และองคื�ก่ารบร�หารส�ว่นต�าบล

- ว่าระก่ารด้�ารงต�าแหน�งของสมาช�ก่สภาที่�องถึ��น และฝ่Eายบร�หารที่�องถึ��น ถึ�อ 4 ป็B ซึ่-�งม�ผลก่ระที่บต�อเที่ศบาล

2)อ�านาจหน�าที่�� มาตรา 284 บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ก่ารก่�าหนด้อ�านาจและหน�าที่��ในก่ารจ�ด้ระบบก่ารบร�ก่ารสาธารณะระหว่�างร�ฐก่�บองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��น และระหว่�างองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นด้�ว่ยก่�นเอง โด้ยจะต�องคื�าน-งถึ-งก่ารก่ระจายอ�านาจเพื่��มข-�นให�แก่�ที่�องถึ��นเป็ นส�าคื�ญ่นอก่จาก่น�� มาตรา 289 และ 290 ย�งบ�ญ่ญ่�ต�ให�องคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นม�หน�าที่��บ�า ร&งร�ก่ษาศ�ลป็ะ จาร�ตป็ระเพื่ณ� ภ�ม�ป็%ญ่ญ่าที่�องถึ��น หร�อว่�ฒนธรรมอ�นด้�ของที่�องถึ��น ก่ารจ�ด้ก่าร

Page 94: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ศ-ก่ษาอบรม และก่ารฝ่Gก่อาช�พื่ตามคืว่ามเหมาะสมและคืว่ามต�องก่ารภายในที่�องถึ��นน��น ส�งเสร�มและร�ก่ษาคื&ณภาพื่ส��งแว่ด้ล�อม

3)รายได้� มาตรา 284 บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ก่ารจ�ด้สรรส�ด้ส�ว่นภาษ� และอาก่รระหว่�างร�ฐก่�บองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��น โด้ยคื�าน-งถึ-งภาระหน�าที่��ของร�ฐก่�บองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��น และระหว่�างองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นด้�ว่ยก่�นเองเป็ นส�าคื�ญ่

4)ก่ารบร�หารงานบ&คืคืล มาตรา 288 บ�ญ่ญ่�ต� ให�ม�องคื�ก่รบร�หารงานบ&คืคืลที่�องถึ��นที่��ม�อย��ก่ระจ�ด้ก่ระจายเขาเป็ นองคื�ก่รเด้�ยว่ เร�ยก่ว่�า คืณะก่รรมก่ารพื่น�ก่งานส�ว่นที่�องถึ��น (ก่.ถึ.) ซึ่-�งเที่�าก่�บเป็ นก่ารยก่เล�ก่ ก่.ก่ ก่.ที่. ก่.จ. และ ก่.สภ. นอก่จาก่น��ย�งก่�าหนด้โคืรงสร�างของ ก่.ถึ. ว่�าจะต�องป็ระก่อบด้�ว่ย ผ��แที่นของหน�ว่ยราชก่ารที่��เก่��ยว่ข�อง ผ��แที่นขององคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��น และผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�จ�านว่นเที่�าๆ ก่�น

5)ก่ารให�ป็ระชาชนม�ส�ว่นรว่มในก่ารป็ก่คืรองที่�องถึ��นมาก่ข-�น ได้�แก่� ก่ารให�ป็ระชาชนถึอด้ถึอนสมาช�ก่สภาที่�องถึ��น และผ��บร�หารที่�องถึ��นได้� (มาตรา 286) และก่ารให�ป็ระชาชนสามารถึเสนอร�างก่ฎีหมายที่�องถึ��นได้� (มาตรา 287)

6)ก่ารก่�าก่�บด้�แล มาตรา 283 ว่รรคื 2 บ�ญ่ญ่�ต�เง��อนที่��ร �ฐจะไป็ก่�าก่�บด้�แลที่�องถึ��นให�เข�มงว่ด้มาก่ข-�น ก่ารก่�าก่�บด้�แลของร�ฐจะต�องม�เง��อนไขด้�งต�อไป็น��

- ต�องที่�าเที่�าที่��จ�าเป็ น- เพื่��อก่ารคื&�มคืรองป็ระโยชน�ของป็ระชาชนในที่�องถึ��น หร�อ

ป็ระโยชน�ของป็ระเที่ศเป็ นส�ว่นรว่ม- จะก่ระที่บถึ-งสาระส�าคื�ญ่แห�งหล�ก่ก่ารป็ก่คืรองตนเอง

ตามเจตนารมณ�ของป็ระชาชนในที่�องถึ��นไม�ได้�- จะก่�าก่�บด้�แลนอก่เหน�อจาก่ที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ม�ได้�

คืณะผ��บร�หารที่�องถึ��นหร�อผ��บร�หารที่�องถึ��น

สมาช�ก่สภาที่�องถึ��น

ราษฎีรผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งในองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นใด้ม�

ราษฎีรผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งในองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นใด้ม�จ�านว่นไม�

1. ส�ที่ธ�ที่��จะจ�ด้ก่าร ศ-ก่ษาอบรมและก่ารฝ่Gก่อาช�พื่และ1. ต�อง 1. ให�มา

ก่ารออก่ข�อบ�ญ่ญ่�ต�ที่�องถึ��นโด้ยป็ระชาชน

ก่ารคืว่บคื&มสภาที่�องถึ��น

หร�อผ��บร�หารที่�อง

ส�ที่ธ�และอ�านาจหน�าที่��

ขององคื�ก่ร

ที่��มาของสมาช�ก่สภาที่�องถึ��นคืณะผ��บร�หารที่�องถึ��นหร�อผ��

บร�หารที่�องถึ��น

ก่ารป็ก่คืรองส�ว่น

Page 95: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2.กลัไกของร�ฐในื้ทางติ2ลัาการ2.1 การปฏิ�ร"ปโครงสร.างศาลั

เด้�มที่�น��นอาจจะก่ล�าว่ได้�ว่�า ป็ระเที่ศไที่ยม�ศาลเพื่�ยงศาลเด้�ยว่ คื�อ ศาลย&ต�ธรรมที่��ที่�าหน�าที่��พื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาอรรคืด้� แม�จะม�ศาลที่หารแต�ก่8เป็ นศาลที่��ม�อ�านาจหน�าที่��อย�างจ�าก่�ด้ นอก่จาก่น�� ต&ลาก่ารร�ฐธรรมน�ญ่ก่8ย�งม�ใช�ศาลอย�างแที่�จร�ง ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นได้�จ�ด้ต��งศาลใหม�ข-� นอ�ก่ 2 ป็ระเภที่ ได้�แก่� ศาลร�ฐธรรมน�ญ่ และศาลป็ก่คืรอง คื��ขนานไป็ก่�บศาลย&ต�ธรรม

2.1.1 ศาลัร�ฐธรรมนื้"ญ1) องคื�ป็ระก่อบของศาลร�ฐธรรมน�ญ่ ตามาตรา 255 ม� 15 คืน

มาจาก่ผ��พื่�พื่าก่ษาศาลฎี�ก่า 5 คืน ต&ลาก่ารในศาลป็ก่คืรองส�งส&ด้ 2

คืน ผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�สาขาน�ต�ศาสตร� 5 คืน และผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�สาขาร�ฐศาสตร� 3 คืน อย�างไรก่8ตาม ในขณะที่��ย�งไม�ม�ศาลป็ก่คืรอง ศาลร�ฐธรรมน�ญ่จะป็ระก่อบด้�ว่ยต&ลาก่าร 13 คืน

2) อ�านาจหน�าที่��ของศาลร�ฐธรรมน�ญ่ คื�อ (1) มาตรา 47 ว่�น�จฉ�ยว่�ามต�หร�อข�อบ�งคื�บของพื่รรคื

ข�ด้ร�ฐธรรมน�ญ่(2) มาตรา 63 ว่�น�จฉ�ยก่รณ�บ&คืคืลหร�อพื่รรคืก่ารเม�อง

ล�มล�างระบอบป็ระชาธ�ป็ไตย อาจส��งย&บพื่รรคืได้�

ราษฎีรผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งในองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นใด้ม�

ราษฎีรผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งในองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นใด้ม�จ�านว่นไม�

1. ส�ที่ธ�ที่��จะจ�ด้ก่าร ศ-ก่ษาอบรมและก่ารฝ่Gก่อาช�พื่และ1. ต�อง 1. ให�มา

Page 96: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

(3) มาตรา 96 พื่�จารณาคื�าร�องจาก่ป็ระธานสภาฯ ว่�าสมาช�ก่ผ��ใด้ขาด้สมาช�ก่ภาพื่

(4) มาตรา 118 (8) พื่�จารณาคื�า ร�องอ&ที่ธรณ�จาก่ ส.ส. ที่��ถึ�ก่พื่รรคืม�มต�ให�พื่�นจาก่สมาช�ก่พื่รรคื

(5) มาตรา 142 พื่�จารณาคื�าร�องจาก่ป็ระธานร�ฐสภา ว่�าก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งขาด้คื&ณสมบ�ต�

(6) มาตรา 177 ว่�น�จฉ�ยก่รณ�เสนอร�างก่ฎีหมายที่��ม�หล�ก่ก่ารเด้�ยว่ก่�นเข�ามาในร�ฐสภาระหว่�างก่ารย�บย��ง

(7) มาตรา 180 ว่รรคื 6-7 ส.ส. และ ส.ว่. จ�านว่นไม�น�อยก่ว่�าร�อยละ 10 เสนอต�อศาลร�ฐธรรมน�ญ่ว่�า ส.ส. ส.ว่.

และก่รรมาธ�ก่ารม�ส�ว่นโด้ยอ�อม ในก่ารใช�งบป็ระมาณรายจ�ายหร�อไม�

(8) มาตรา 198 พื่�จารณาคืว่ามชอบด้�ว่ยร�ฐธรรมน�ญ่ของก่ฎีหมาย ตามที่��ผ��ตรว่จก่ารแผ�นด้�นของร�ฐสภาเสนอ

(9) ม า ต ร า 219 ว่� น� จ ฉ� ย ว่� า พื่ ร ะ ร า ช ก่�า ห น ด้ ข� ด้ร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม�

(10) มาตรา 262 ว่�น�จฉ�ยว่�าร�างก่ฎีหมายที่��ผ�านสภาแล�ว่ แต�ก่�อนลงพื่ระป็รมาภ�ไธยผ�ด้ร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม� ตามที่��สมาช�ก่ร�ฐสภาหร�อนายก่ร�ฐมนตร�เสนอ

(11) มาตรา 263 ว่�น�จฉ�ยว่�าร�างข�อบ�งคื�บก่ารป็ระช&มของสภาผ��แที่นราษฎีร ว่&ฒ�สภา และร�ฐสภา ข�ด้ร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม�

(12) ม า ต ร า 264 ว่� น� จ ฉ� ย ว่� า ก่ ฎี ห ม า ย ใ ด้ ข� ด้ ต� อร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม�ตามที่��ศาลส�งคืว่ามเห8นมา เม��อศาลเห8นเอง หร�อคื��คืว่ามยก่มาโต�แย�ง

(13) มาตรา 266 ว่�น�จฉ�ยคืว่ามเห8นที่�� องคื�ก่รหร�อป็ระธานร�ฐสภาส�งมาก่รณ�ที่��ม�ป็%ญ่หาเก่��ยว่ก่�บอ�านาจหน�าที่��ขององคื�ก่รต�างๆ ตามร�ฐธรรมน�ญ่

(14) มาตรา 315 พื่�จารณาคืว่ามชอบด้�ว่ยร�ฐธรรมน�ญ่ของระเบ�ยบของคืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งที่��ก่�าหนด้ข-�นใช�ก่�อนม�ก่ฎีหมายก่ารเล�อก่ต��ง ส.ส. โด้ยมาใช�บ�งคื�บก่�บก่ารเล�อก่ต��ง ส.ว่.

Page 97: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

(15) มาตรา 319 พื่�จารณาคืว่ามชอบด้�ว่ยร�ฐธรรมน�ญ่ของระเบ�ยบที่��คืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ ต��งก่�าหนด้ข-�นใช�ก่�อนม�ก่ฎีหมายคืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��ง

(16) มาตรา 321 พื่�จารณาคืว่ามชอบด้�ว่ยร�ฐธรรมน�ญ่ของระเบ�ยบ ป็.ป็.ป็. อ�นจ�า เป็ นต�อก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่��ของ ป็.ป็.ช. ก่�อนม�ก่ฎีหมาย ป็.ป็.ช

2.1.2 ศาลัปกครองร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นม�ใช�ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บแรก่ที่��บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ศาล

ป็ก่คืรอง เพื่ราะร�ฐธรรมน�ญ่ พื่.ศ.2517 และร�ฐธรรมน�ญ่ พื่.ศ.2534 ก่8ม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�ในเร��องศาลป็ก่คืรองเช�นเด้�ยว่ก่�น แต�ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ที่��บ�ญ่ญ่�ต�เร��องศาลป็ก่คืรองในระบบ ศาลคื�� ซึ่-�งเป็ นระบบ“ ”

ที่��แยก่คืด้�ป็ก่คืรองออก่จาก่คืด้�แพื่�ง และคืด้�อาญ่าที่��ว่ไป็ คืด้�ป็ก่คืรองม�ศาลป็ก่คืรองที่�าหน�าที่��ว่�น�จฉ�ย คืด้�แพื่�งและคืด้�อาญ่าม�ศาลย&ต�ธรรมที่�าหน�าที่��ช��ขาด้ ศาลป็ก่คืรองและศาลย&ต�ธรรมต�างก่8ม�ศาล 3 ช��นเคื�ยงคื��ขนานก่�นไป็

ร�ฐธรรมน�ญ่มาตรา 276 บ�ญ่ญ่�ต�ให�ศาลป็ก่คืรองม�อ�านาจพื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาคืด้�ที่��เป็ นคืด้�ข�อพื่�พื่าที่ระหว่�างหน�ว่ยราชก่าร หน�ว่ยงานของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น หร�อเจ�าหน�าที่��ของร�ฐที่��อย��ในบ�งคื�บบ�ญ่ชาหร�อในก่�าก่�บด้�แลของร�ฐบาลก่�บเอก่ชน หร�อระหว่�างหน�ว่ยราชก่าร

ศาลป็ก่คืรอง

ศาลป็ก่คืรองช��นอ&ที่ธรณ�

อ��นๆศาลภาษ�ศาลศาลอาญ่าศาลแพื่�ง

ศาลช��นต�น

ศาลอ&ที่ธรณ�

ศาลฎี�ก่าแผนก่คืด้�อาญ่าของน�ก่ก่ารเม�อง

ศาลป็ก่คืรองศาลฎี�ก่า

ศาลที่หารศาลป็ก่คืรองศาลย&ต�ธรรมศาล

ศาล

Page 98: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

หน�ว่ยงานของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น หร�อเจ�าหน�าที่��ของร�ฐที่��อย��ในบ�งคื�บบ�ญ่ชาหร�อในก่�าก่�บด้�แลของร�ฐบาลด้�ว่ยก่�น ซึ่-�งเป็ นข�อพื่�พื่าที่อ�นเน��องมาจาก่ก่ารก่ระที่�าหร�อก่ารละเว่�นก่ารก่ระที่�าที่��หน�ว่ยราชก่าร หน�ว่ยงานของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น หร�อเจ�าหน�าที่��ของร�ฐน��นต�องป็ฏ�บ�ต�ตามก่ฎีหมาย หร�อเน�� องจาก่ก่ารก่ระที่�าหร�อก่ารละเว่�นก่ารก่ระที่�าที่��หน�ว่ยราชก่ารของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น หร�อเจ�าหน�าที่��ของร�ฐน��น ต�องร�บผ�ด้ชอบในก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่��ตามก่ฎีหมาย

2.2 การปฏิ�ร"ปกระบวนื้การท�างานื้ของศาลั2.2.1 การนื้�+งพิ�จัารณาคด*

มาตรา 236 ของร�ฐธรรมน�ญ่บ�ญ่ญ่�ต�ว่�า ก่ารน��งพื่�จารณาคืด้�ของ“

ศาลจะต�องม�ผ��พื่�พื่าก่ษาหร�อต&ลาก่ารคืรบองคื�คืณะ และผ��พื่�พื่าก่ษาหร�อต&ลาก่ารซึ่-�งม�ได้�น��งพื่�จารณาคืด้�ใด้ จะที่�าคื�าพื่�พื่าก่ษาหร�อคื�าว่�น�จฉ�ยน��นม�ได้� เว่�นแต�ม�เหต&ส&ด้ว่�ส�ย หร�อม�เหต&จ�าเป็ นอ��นอ�นม�อาจก่�าว่ล�ว่งได้�”2.2.2 เพิ�+มความอ�สระในื้การพิ�จัารณาพิ�พิากษาอรรถคด*

มาตรา 249 ว่รรคื 2 บ�ญ่ญ่�ต�ว่�า ก่ารพื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาอรรถึคืด้�“

ของผ��พื่�พื่าก่ษาและต&ลาก่ารไม�อย��ภายใต�ก่ารบ�งคื�บบ�ญ่ชาตามล�าด้�บข��น นอก่จาก่น�� มาตรา ” 249 ว่รรคื 5 ย�งบ�ญ่ญ่�ต�ว่�า ก่ารโยก่ย�ายผ��พื่�พื่าก่ษา“

และต&ลาก่าร โด้ยม�ได้�ร�บคืว่ามย�นยอมจาก่ผ��พื่�พื่าก่ษาและต&ลาก่ารน��นจะก่ระที่�าม�ได้� เว่�นแต�เป็ นก่ารโยก่ย�ายตามว่าระที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต� เป็ นก่ารเล��อนต�าแหน�งให�ส�งข-�น เป็ นก่รณ�ที่��อย��ในระหว่�างถึ�ก่ด้�าเน�นก่ารที่างว่�น�ย หร�อตก่เป็ นจ�าเลยในคืด้�อาญ่า

2.2.3 การจั1าย การเร*ยกค�นื้ แลัะการโอนื้ส�านื้วนื้คด*มาตรา 249 ว่รรคื 3 และ ว่รรคื 4 บ�ญ่ญ่�ต�ให� ก่ารจ�ายส�านว่นคืด้�

ต�องเป็ นไป็ตามหล�ก่เก่ณฑ์�ที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต�และก่ารเร�ยนคื�นส�านว่นคืด้�จะก่ระที่�าม�ได้� เว่�นแต�เป็ นก่รณ�ที่��จะก่ระที่บก่ระเที่�อนต�อคืว่ามย&ต�ธรรมในก่ารพื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาอรรถึคืด้�

2.2.4 การให.ผู้".พิ�พิากษาท*+ครบเกษ*ยณอาย2ราชั้การสามารถด�ารงติ�าแหนื้1งผู้".พิ�พิากษาอาว2โสได.เป็ นที่��ที่ราบก่�นด้�ว่�าในป็%จจ&บ�นระบบศาลย&ต�ธรรมของเราน��น เป็ นระบบ

ที่��ม�ก่ารเล��อนต�าแหน�งไป็ตามอาย&ราชก่ารโด้ยระบบอาว่&โส ศาลช��นต�นจ-งแที่บ

Page 99: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ไม�ม�ผ��พื่�พื่าก่ษาอาว่& โสที่��ม�ป็ระสบก่ารณ�น��งพื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาคืด้�เลย อ�นก่ระที่บต�อคื&ณภาพื่ของคื�า พื่�พื่าก่ษาของศาลช��นต�นเป็ นอย�างมาก่ ร�ฐธรรมน�ญ่มาตรา 334 (2) ได้�บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ก่ารตราก่ฎีหมายก่�าหนด้หล�ก่เก่ณฑ์�ให�ผ��พื่�พื่าก่ษาศาลย&ต�ธรรมซึ่-�งจะม�อาย&คืรบ 60 ป็B บร�บ�รณ�ในป็Bงบป็ระมาณใด้ ไป็ด้�ารงต�าแหน�งผ��พื่�พื่าก่ษาอาว่& โส เพื่�� อน��งพื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาคืด้�ในศาลช��นต�น ต��งแต�ว่�นถึ�ด้จาก่ว่�นส��นป็Bงบป็ระมาณที่��ม�อาย& 60

ป็Bบร�บ�รณ� จนถึ-งว่�นส��นป็Bงบป็ระมาณที่��ผ��พื่�พื่าก่ษาผ��น� �นอาย&คืรบ 60 ป็Bบร�บ�รณ� และหาก่ผ��พื่�พื่าก่ษาอาว่&โสใด้ผ�านก่ารป็ระเม�นตามที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต�ย�งม�สมรรถึภาพื่ในก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่�� ก่8ให�ด้�ารงต�าแหน�งต�อไป็จนถึ-งว่�นส��นป็Bงบป็ระมาณที่��ผ��พื่�พื่าก่ษาผ��น� �นม�อาย&คืรบ 70 ป็Bบร�บ�รณ�

2.2.5 การสร.างกลัไกในื้การชั้*ขาดข.อข�ดแย.งระหว1างศาลัติ1างๆเด้�มเร��องน��เป็ นอ�านาจหน�าที่��ของต&ลาก่ารร�ฐธรรมน�ญ่ อย�างไรก่8ตาม

ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นได้�เป็ล��ยน แป็ลงหล�ก่ก่ารด้�งก่ล�าว่ โด้ยบ�ญ่ญ่�ต�ให�เป็ นอ�านาจหน�าที่��ของคืณะก่รรมก่ารช&ด้หน-�ง มาตรา 248 บ�ญ่ญ่�ต�ว่�า ใน“

ก่รณ�ที่��ม�ป็%ญ่หาเก่��ยว่ก่�บอ�านาจหน�าที่��ระหว่�างศาลย&ต�ธรรม ศาลป็ก่คืรอง ศาลที่หาร หร�อศาลอ�� น ให�พื่�จารณาว่�น�จฉ�ยช��ขาด้โด้ยคืณะก่รรมก่ารคืณะหน-�ง ซึ่-�งป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระธานศาลฎี�ก่าเป็ นป็ระธาน ป็ระธานศาลป็ก่คืรองส�งส&ด้ ป็ระธานศาลอ�� น และผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�อ�� นอ�ก่ไม�เก่�น 4 คืน ตามที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต�ไว่�เป็ นก่รรมก่าร

3.องค�กรอ�+นื้ๆ ติามร�ฐธรรมนื้"ญแนว่คืว่ามคื�ด้ที่��ถึ�อว่�าอ�านาจอธ�ป็ไตยแบ�งเป็ น 3 ป็ระเภที่ คื�อ อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�

อ�านาจบร�หาร และอ�านาจต&ลาก่ารน��น ก่ล�าว่ได้�ว่�าเป็ นแนว่คืว่ามคื�ด้ที่��ไม�ได้�ร�บก่ารยอมร�บในป็%จจ&บ�น ที่��งน��เพื่ราะม�อ�านาจอธ�ป็ไตยเพื่�ยงหน-�งเด้�ยว่ แต�แยก่ใช�โด้ยองคื�ก่รต�างๆ ตามร�ฐธรรมน�ญ่เที่�าน��น และในป็%จจ&บ�นร�ฐธรรมน�ญ่ไม�ได้�บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งองคื�ก่รน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� องคื�ก่รบร�หาร และองคื�ก่รต&ลาก่ารเที่�าน��น องคื�ก่รหลายองคื�ก่รได้�ร�บก่ารจ�ด้ต��งข-�นตามร�ฐธรรมน�ญ่ และม�อ�านาจหน�าที่��แตก่ต�างก่�นเป็ นอย�างมาก่ จนน�าจะจ�ด้องคื�ก่รเหล�าน��ออก่มาอ�ก่ก่ล&�มต�างหาก่

ตามร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นม�องคื�ก่รที่��ได้�ร�บจ�ด้ต��งข-�นใหม�อย�� 6 องคื�ก่รด้�ว่ยก่�น

Page 100: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

3.1 สภูาท*+ปร&กษาเศรษฐก�จัแลัะส�งคมแห1งชั้าติ�สภาที่��ป็ร-ก่ษาเศรษฐก่�จและส�งคืมแห�งชาต�ม�หน�าที่��ที่��ส�าคื�ญ่ 2 ป็ระก่าร

(มาตรา 89) คื�อ(1) ให�คื�าป็ร-ก่ษา และข�อเสนอแนะต�อคืณะร�ฐมนตร�ใน

ป็%ญ่หาต�างๆ ที่��เก่��ยว่ก่�บเศรษฐก่�จและส�งคืม(2) ให�คืว่ามเห8นต�อแผนพื่�ฒนาเศรษฐก่�จและส�งคืมแห�ง

ชาต� หร�อแผ�นอ��นตามที่��ก่ฎีหมายก่�าหนด้

3.2 คณะกรรมการการเลั�อกติ�งคืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระธานก่รรมก่ารคืนหน-�งและ

ก่รรมก่ารอ�ก่ 4 คืน ซึ่-�งพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงแต�งต��งตามคื�าแนะน�าของว่&ฒ�สภา จาก่ผ��ซึ่-�งม�คืว่ามเป็ นก่ลางที่างก่ารเม�องและม�คืว่ามซึ่��อส�ตย�ส&จร�ตเป็ นที่��ป็ระจ�ก่ษ� (มาตรา 136)

คืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งม�อ�านาจหน�าที่��ด้�งต�อไป็น��(1) ออก่ป็ระก่าศก่�าหนด้ก่ารที่��งหลายอ�นจ�าเป็ นแก่�ก่ารป็ฏ�บ�ต�

ตามก่ฎีหมายตามมาคืรา 144 ว่รรคื 2(2) ม�ต�าส��งให�ข�าราชก่าร พื่น�ก่งาน หร�อล�ก่จ�างของหน�ว่ย

ราชก่าร หน�ว่ยงานของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น หร�อเจ�าหน�าที่��อ��นของร�ฐ ป็ฏ�บ�ต�ก่ารที่��งหลายอ�นจ�าเป็ นตามก่ฎีหมาย ตามมาตรา 144 ว่รรคื 2

(3) ส�บสว่นสอบสว่นเพื่��อหาข�อเที่8จจร�งและว่�น�จฉ�ยช��ขาด้ป็%ญ่หาหร�อข�อโต�แย�งที่��เก่�ด้ข-�นตามก่ฎีหมาย ตามมาตรา 144 ว่รรคื 2

(4) ส��งให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งใหม�หร�ออก่เส�ยงป็ระชามต�ในหน�ว่ยเล�อก่ต��งใด้หน�ว่ยเล�อก่ต��งหน-�ง หร�อที่&ก่หน�ว่ยเล�อก่ต��ง เม��อม�หล�ก่ฐานอ�นคืว่รเช��อได้�ว่�าก่ารเล�อก่ต��งหร�อก่ารออก่เยงป็ระชามต�ในหน�ว่ยเล�อก่ต��งน��นๆ ม�ได้�เป็ นไป็โด้ยส&จร�ตและเที่��ยงธรรม

(5) ป็ระก่าศผลก่ารเล�อก่ต��งและก่ารออก่เส�ยงป็ระชามต�(6) ด้�าเน�นก่ารอ��น ตามที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต�

ในก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่�� คืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งม�อ�านาจเร�ยก่เอก่สารหร�อหล�ก่ฐานที่��เก่��ยว่ข�องจาก่บ&คืคืลใด้ หร�อเร�ยก่บ&คืคืลใด้มาให�ถึ�อยคื�า ตลอด้จนให�ศาล พื่น�ก่งานอ�ยก่าร พื่น�ก่งานสอบสว่น หน�ว่ยราชก่าร หน�ว่ยงานของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ

Page 101: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น ด้�าเน�นก่ารเพื่��อป็ระโยชน�แห�งก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่��ก่ารส�บสว่น สอบสว่น หร�อว่�น�จฉ�ยช��ขาด้

คืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งม�อ�านาจแต�งต��งบ&คืคืล คืณะบ&คืคืล หร�อผ��แที่นองคื�ก่รเอก่ชน เพื่��อป็ฏ�บ�ต�หน�าที่��ตามที่��มอบหมาย (มาตรา 145)

3.3 ผู้".ติรวจัการแผู้1นื้ด�นื้ของร�ฐสภูาผ��ตรว่จก่ารแผ�นด้�นของร�ฐสภาม�จ�านว่นไม�เก่�น 3 คืน ซึ่-�งพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�

ที่รงแต�งต��งตามคื�าแนะน�าของว่&ฒ�สภา ม�อ�านาจหน�าที่��พื่�จารณา และสอบสว่นหาข�อเที่8จจร�งตามคื�าร�องเร�ยนและจ�ด้ที่�ารายงานพื่ร�อมที่��งคืว่ามเห8นและข�อเสนอแนะต�อร�ฐสภา

3.4 คณะกรรมการส�ทธ�มนื้2ษยชั้นื้คืณะก่รรมก่ารช&ด้น��ป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระธานก่รรมก่ารคืนหน-�ง และก่รรมก่าร

อ��นอ�ก่ 10 คืน ซึ่-�งพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงแต�งต��งตามคื�าแนะน�าของว่&ฒ�สภา โด้ยคืณะก่รรมก่ารม�อ�านาจหน�าที่��อย�างก่ว่�างขว่างที่��งก่ารตรว่จสอบและรายงานก่ารละเม�ด้ส�ที่ธ�มน&ษยชน ก่ารเสนอแนะนโยบาย และก่ารป็ร�บป็ร&งก่ฎีหมาย ก่ารส�งเสร�มก่ารศ-ก่ษาและก่ารว่�จ�ย ก่ารส�งเสร�มคืว่ามร�ว่มม�อและป็ระสานงานระหว่�างองคื�ก่รต�างๆ จ�ด้ที่�ารายงานป็ระจ�าป็B เพื่��อเสนอต�อร�ฐสภา

3.5 คณะกรรมการติรวจัเง�นื้แผู้1นื้ด�นื้คืณะก่รรมก่ารช&ด้น��ป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระธานก่รรมก่ารคืนหน-�ง และก่รรมก่าร

อ��นอ�ก่ 9 คืน ซึ่-�งพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงแต�งต��งตามคื�าแนะน�าของว่&ฒ�สภา ม�อ�านาจหน�าที่��ในก่ารตรว่จสอบบ�ญ่ช�ของหน�ว่ยงานต�างๆ

3.6 คืณะก่รรมก่ารป็Aองก่�นและป็ราบป็รามก่ารที่&จร�ตแห�งชาต� (ป็.ป็.ช.)

คืณะก่รรมก่ารช&ด้น��ป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระธานคืณะก่รรมก่ารคืนหน-�ง และก่รรมก่ารผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�อ��นอ�ก่ 8 คืน ซึ่-�งพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงแต�งต��งตามคื�าแนะน�าของว่&ฒ�สภาโด้ยม�อ�านาจหน�าที่��ที่��ส�าคื�ญ่ 4 ป็ระก่าร คื�อ

(1) ไต�สว่นข�อเที่8จจร�งและสร&ป็ส�านว่น พื่ร�อมที่��งคืว่ามเห8นเสนอต�อว่&ฒ�สภาว่�าผ��ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�อง และบ&คืคืลอ��นที่��มาตรา 303 บ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ม�พื่ฤต�ก่ารณ�ร��ารว่ยผ�ด้ป็ก่ต� ส�อ

Page 102: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ไป็ในที่างที่&จร�ตต�อหน�าที่�� ส�อว่�าก่ระที่�าผ�ด้ต�อต�าแหน�งหน�าที่��ราชก่าร ส�อว่�าก่ระผ�ด้ต�อต�าแหน�งหน�าที่��ในก่ารย&ต�ธรรม หร�อส�อว่�าจงใจใช�อ�านาจหน�าที่��ข�ด้ต�อบที่บ�ญ่ญ่�ต�แห�งร�ฐธรรมน�ญ่ หร�อก่ฎีหมาย เพื่��อให�ว่&ฒ�สภาถึอด้ถึอนออก่จาก่ต�าแหน�ง

(2) ไต�สว่นข�อเที่8จจร�ง และสร&ป็ส�านว่นพื่ร�อมที่��งที่�าคืว่ามเห8นส�งไป็ย�งศาลฎี�ก่าแผนก่คืด้�อาญ่าของผ��ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�อง ในก่รณ�ที่��ผ��ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�องถึ�ก่ก่ล�าว่หาว่�าร��า รว่ยผ�ด้ป็ก่ต� ก่ระที่�าคืว่ามผ�ด้ต�อต�า แหน�งหน�าที่��ราชก่ารตามป็ระมว่ลก่ฎีหมายอาญ่า หร�อก่ระที่�าคืว่ามผ�ด้ต�อต�าแหน�งหน�าที่�� หร�อที่&จร�ตต�อหน�าที่��ตามก่ฎีหมายอ��น

(3) ไต�สว่นและว่�น�จฉ�ยว่�าเจ�าหน�าที่��ของร�ฐร��ารว่ยผ�ด้ป็ก่ต� ก่ระที่�าคืว่ามผ�ด้ฐานที่&จร�ตต�อหน�าที่��หร�อก่ระที่�าคืว่ามผ�ด้ต�อต�า แหน�งหน�าที่��ราชก่าร หร�อคืว่ามผ�ด้ต�อต�า แหน�งหน�าที่�� ในก่ารย&ต�ธรรม เพื่��อด้�าเน�นก่ารต�อไป็ ตามก่ฎีหมายป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ว่�าด้�ว่ยก่ารป็Aองก่�นและป็ราบป็รามก่ารที่&จร�ต

(4) ตรว่จสอบคืว่ามถึ�ก่ต�องและคืว่ามม�อย��จร�ง รว่มที่��งคืว่ามเป็ล��ยนแป็ลงที่ร�พื่ย�ส�น และหน��ส�นของผ��ด้�ารงต�าแหน�งต�างๆ ตามบ�ญ่ช�และเอก่สารป็ระก่อบที่��ได้�ย��นไว่�

หลั�กการเข*ยนื้เร*ยงความ1. ลั�กษณะของย1อหนื้.าท*+ด*1.1 ม�เอก่ภาพื่ ม�ใจคืว่ามส�าคื�ญ่เพื่�ยงหน-�งเด้�ยว่เที่�าน��น ก่�าหนด้จ&ด้ม&�งหมายเป็ น

ป็ระโยคืใจคืว่ามส�าคื�ญ่เน��อหาสาระของข�อคืว่ามที่��น�ามาเข�ยนขยายน��นต�องม�ใจคืว่ามเป็ นเร��องเด้�ยว่ก่�นก่�บป็ระโยคืใจคืว่ามส�าคื�ญ่

Page 103: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1.2 ม�คืว่ามสมบ�รณ� ส�ว่นต�างๆ ป็ระสานเข�าหาก่�นไม�ม�ส�ว่นใด้ขาด้ตก่บก่พื่ร�อง ต�องเข�ยนอย�างม�จ&ด้ม&�งหมาย ม�เน��อหาสาระ ม�รายละเอ�ยด้ ส�ว่นขยายที่��ช�ด้เจนไม�ออก่นอก่เร��องได้�เน��อคืว่ามบร�บ�รณ�

1.3 ม�ส�มพื่�นธภาพื่ ข�อคืว่ามหร�อป็ระโยคืแต�ละป็ระโยคืที่��เร�ยงต�อก่�นน��นม�คืว่ามเก่��ยว่เน��องต�ด้ต�อเป็ นเร��องเด้�ยว่ก่�น จ�ด้ล�าด้�บคืว่ามคื�ด้ให�เป็ นป็ระโยคืต�อเน��องก่�นด้�ว่ยเน��อหา โด้ยอาจจ�ด้ล�าด้�บคืว่ามคื�ด้ตามเว่ลา (เหต&ก่ารณ�ก่�อนหล�ง) ตามพื่��นที่�� (ใก่ล�ไป็หาไก่ล/ข�างบนไป็หาข�างล�าง/ซึ่�ายไป็ขว่า/เหน�อไป็หาใต�) จาก่คื�าถึามไป็ส��คื�าตอบ (คื�าถึามไว่�เป็ นป็ระโยคืแรก่แล�ว่จ�ด้หาป็ระโยคืขยายตามล�าด้�บเพื่��อให�ได้�คื�าตอบเป็ นผลล�พื่ธ�ตอนที่�ายของย�อหน�า) จาก่รายละเอ�ยด้ไป็ส��ข�อสร&ป็ (หร�อจาก่ข�อสร&ป็ไป็ส��รายละเอ�ยด้) และจาก่เหต&ไป็ส��ผล

1.4 ม�สาร�ตถึภาพื่ ย��าเน�นใจคืว่ามส�าคื�ญ่เพื่��อให�ผ��อ�านที่ราบเจตนาโด้ยอาจว่างต�าแหน�งป็ระโยคืใจคืว่ามส�าคื�ญ่ในตอนต�นหร�อตอนที่�ายของย�อหน�า ก่ารย��าเน�นด้�ว่ยคื�าว่ล�หร�อป็ระโยคืซึ่��าๆ ก่�นบ�อยๆ ภายในย�อหน�า (ที่�าให�ผ��อ�านเข�าใจถึ-งจ&ด้ม&�งหมายหร�อคืว่ามคื�ด้ส�าคื�ญ่ที่��ผ��เข�ยนต�องก่ารส��อสารถึ-งผ��อ�าน) รว่มถึ-งก่ารย��าเน�นอย�างม�ส�ด้ส�ว่น

1.5 ใช�คื�าเช��อมได้�อย�างเหมาะสม (คื�าส�นธานหร�อว่ล�) ที่�าให�ข�อคืว่ามสละสลว่ย ไม�ใช�ซึ่��าซึ่าก่ ใช�ภาษาถึ�ก่ต�องตามแบบแผน ใช�ภาษาระด้�บเด้�ยว่ก่�น ไม�ใช�ส�านว่นภาษาต�างป็ระเที่ศ อ�านแล�ว่ไม�ต�ด้ข�ด้เหม�อนได้�อ�านเร�ยงคืว่ามส��นๆ หน-�งเร��อง

2. การเข*ยนื้ประโยคใจัความส�าค�ญเป:นื้ย1อหนื้.า2.1 ให�คื�าจ�าก่�ด้คืว่าม อธ�บายคื�าหร�อว่ล�ให�ผ��อ�านเข�าใจ2.2 ให�รายละเอ�ยด้ เพื่��อให�ได้�ย�อหน�าที่��เน��อหาสาระม�คืว่ามสมบ�รณ�2.3 ยก่ต�ว่อย�าง ที่�าให�เข�าใจคืว่ามคื�ด้ส�าคื�ญ่หร�อป็ระโยคืใจคืว่ามส�าคื�ญ่ได้�

ช�ด้เจนแจ�มแจ�ง2.4 เป็ร�ยบเที่�ยบ ก่ารเป็ร�ยบเที่�ยบส��งใด้ส��งหน-�งก่�บอ�ก่ส��งหน-�ง หร�ออาจจะเป็ น

ในล�ก่ษณะอ&ป็มาโว่หารหร�อยก่เป็ นอ&ที่าหรณ�2.5 แสด้งเหต&และผล เหมาะส�าหร�บงานเข�ยนที่��ต�องก่ารว่�เคืราะห�ว่�จารณ�หร�อ

แสด้งคืว่ามคื�ด้เห8น

3. การเข*ยนื้ค�านื้�า เนื้�อเร�+อง แลัะสร2ป3.1 คื�าน�า เป็ นส�ว่นแรก่ของงานเข�ยนที่��จะสร�างคืว่ามน�าสนใจ ด้-งด้�ด้และ

ที่�าที่ายให�ผ��อ�านอยาก่ร� �อยาก่อ�านข�อเที่8จจร�งและข�อคื�ด้เห8นต�างๆ ที่��ผ��เข�ยนรว่บรว่มมาเสนอในเน��อเร��อง เพื่ราะคื�าน�าที่��ด้�จะที่�าให�ผ��อ�านที่ราบได้�ต� �งแต�ต�นว่�าก่�าล�งจะได้�อ�านเก่��ยว่ก่�บอะไร ต�องม�คืว่ามระม�ด้ระว่�งเป็ นพื่�เศษในก่ารเข�ยนคื�าน�าให�เหมาะสมก่�บก่ล&�มผ��อ�าน

Page 104: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สอด้คืล�องก่�บจ&ด้ป็ระสงคื�ในก่ารเข�ยนและก่ารเสนอเน��อเร��อง ป็ระก่อบก่�บก่ารใช�ศ�ลป็ะก่ารเข�ยนเฉพื่าะตน

3.2 เน��อเร��อง เป็ นส�ว่นที่��ยาว่ที่��ส&ด้ของงานเข�ยน เน��องจาก่เป็ นส�ว่นที่��รว่บคืว่ามคื�ด้และข�อม�ลที่��งหมด้ที่��ผ��เข�ยนคื�นคืว่�ารว่บรว่มมาเสนออย�างม�ระเบ�ยบ ม�ระบบ และเป็ นข��นตอน ที่�าให�ผ��อ�านร�บร� �และเข�าใจสาระส�าคื�ญ่ที่��งหมด้ได้�อย�างแจ�มแจ�ง ก่อป็รไป็ด้�ว่ยเหต&ผลและข�อเที่8จจร�งที่��เช��อมโยงก่�นตลอด้

3.2.1 รว่บรว่มข�อม�ล คืว่ามคื�ด้ ป็ระสบก่ารณ� ข�อเที่8จจร�ง3.2.2 ว่างโคืรงเร��องให�สอด้คืล�องก่�บป็ระเด้8นที่��จะน�าเสนอ3.2.3 น�าห�ว่ข�อต�างๆ มาเข�ยนขยายคืว่ามให�เป็ นย�อหน�าที่��ด้�3.2.4 ม�ป็ระเด้8นมาก่พื่อให�ผ��อ�านสนใจ3.2.5 ต�องใช�ที่�ว่งที่�านองก่ารเข�ยนให�สอด้คืล�องก่�บล�ก่ษณะเน��อหา ตรงตาม

ว่�ยคืว่ามสนใจของผ��อ�าน3.3 ก่ารสร&ป็ เป็ นก่ารบอก่ให�ผ��อ�านที่ราบว่�าข�อม�ลที่��งหมด้ที่��เสนอมาได้�จบลง

แล�ว่ (ในย�อหน�าที่��ผ�านมา) จะเป็ นช�ว่ยย��าให�ผ��อ�านที่ราบว่�างานเข�ยนที่��ได้�อ�านม�จ&ด้ม&�งหมายอย�างไร ได้�ข�อคื�ด้หร�อแนว่ที่างอะไรเพื่��มเต�มจาก่ก่ารอ�านคืร��งน��บ�างที่��ส�าคื�ญ่คื�อก่ารสร&ป็จะต�องม�คืว่ามสอด้คืล�องก่�บเน��อเร��องตรงตามจ&ด้ป็ระสงคื�ของผ��เข�ยนจ-งจะที่�าให�ผ��อ�านเก่�ด้คืว่ามป็ระที่�บใจ

ก่ลว่�ธ�: แสด้งคืว่ามเห8นของผ��เข�ยน (เห8นด้�ว่ย ข�ด้แย�ง เสนอแนะ ช�ก่ชว่น ฯลฯ) / สด้&ด้�เก่�ยรต�คื&ณ คื&ณป็ระโยชน� / คื�าถึามที่��ชว่นให�ผ��อ�านคื�ด้หาคื�าตอบหร�อตอบคื�าถึามที่��ต� �งไว่�ในคื�าน�า / ก่ล�าว่ถึ-งข�อด้� ข�อบก่พื่ร�อง หร�อเสนอแนะให�เห8นป็ระโยชน� / ให�ก่�าล�งใจแก่�ผ��อ�าน / สาระส�าคื�ญ่ที่��ต�องก่ารให�ผ��อ�านที่ราบ / บที่ก่ลอน คื�าคืมส&ภาษ�ต ข�อคืว่าม หร�อคื�าพื่�ด้ของบ&คืคืลส�าคื�ญ่

ต�ด้ตอนและสร&ป็จาก่:

ราตร� ธ�นว่ารชร, “ก่ารเข�ยนย�อหน�า และ เจ�ยรน�ย ศ�ร�สว่�สด้�L” , “ก่ารเข�ยนคื�าน�า เน��อเร��อง และสร&ป็ ใน”

คืณาจารย�ภาคืว่�ชาภาษาไที่ย คืณะศ�ลป็ศาสตร� มหาว่�ที่ยาล�ยธรรมศาสตร�, ก่ารใช�ภาษาไที่ย 1. พื่�มพื่�คืร��งที่�� 4. ก่ร&งเที่พื่ฯ: ส�าน�ก่พื่�มพื่�มหาว่�ที่ยาล�ยธรรมศาสตร�, 2543. หน�า 80-92 และ 105-112

Page 105: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ว�ธ*การติอบข.อสอบอ�ตินื้�ย1. ข.อสอบท*+ม21งให.อธ�บายว�ติถ2ประสงค� ม21งให.อธ�บายว�ธ*การหร�ออธ�บาย

ความร".ในื้เร�+องติ1างๆล�ก่ษณะคื�าถึาม ให�คื�าจ�าก่�ด้คืว่าม / ให�รายละเอ�ยด้ที่��เป็ นข�อเที่8จจร�ง / ให�เป็ร�ยบ

เที่�ยบ : “คื�ออะไร ” / “ม�คืว่ามหมายว่�าอย�างไร ” / “จงอธ�บาย ” / “จงเป็ร�ยบเที่�ยบ”

- ข��นตอนก่ารตอบ1) พื่�จารณาล�ก่ษณะของคื�าถึามว่�าม&�งให�ตอบในป็ระเด้8นใด้2) รว่บรว่มคืว่ามร� �ที่��เป็ นข�อม�ลส�าคื�ญ่ซึ่-�งอาจได้�จาก่ก่ารอ�าน ก่ารฟิ%ง ก่ารส�งเก่ต

และก่ารศ-ก่ษาคื�นคืว่�า3) จ�ด้ระเบ�ยบคืว่ามร� �คืว่ามคื�ด้ให�เป็ นหมว่ด้หม��แล�ว่เร�ยบเร�ยงคืว่ามคื�ด้น��นตาม

ล�าด้�บ4) อาจม�ต�ว่อย�าง เหต&ผล หล�ก่ฐานอ�างอ�ง หร�อก่ารเป็ร�ยบเที่�ยบตามคืว่าม

จ�าเป็ น5) ต�องเร�ยบเร�ยงถึ�อยคื�าให�เข�าใจง�าย น�าสนใจ น�าอ�าน และล�าด้�บคืว่ามคื�ด้ให�

ต�อเน��องก่�น อย�าให�ว่ก่ว่น- แนว่ก่ารตอบ

Page 106: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1) ก่ารให�คื�าจ�าก่�ด้คืว่าม อธ�บายให�ส��นร�ด้ก่&มและช�ด้เจน2) ก่ารยก่ต�ว่อย�าง ช�ว่ยให�ก่ารอธ�บายช�ด้เจนและเข�าใจง�ายข-�น3) ก่ารเป็ร�ยบเที่�ยบ ล�ก่ษณะที่��เหม�อนก่�นหร�อล�ก่ษณะที่��แตก่ต�างก่�น บางคืร��ง

อาจต�องบอก่ข�อด้�ข�อเส�ยของส��งที่��น�ามาเป็ร�ยบก่�นเพื่��อให�คื�าตอบก่ระจ�างช�ด้ ในบางก่รณ�ส��งที่��อธ�บายน��นม�ล�ก่ษณะเข�าใจยาก่ ผ��ตอบอาจต�องเป็ร�ยบเที่�ยบก่�บส��งที่��เข�าใจได้�ง�าย

4) ก่ารแสด้งเหต&ผล แสด้งว่�าอะไรเป็ นสาเหต& อะไรเป็ นผล อาจตอบอธ�บายจาก่ผลไป็ส��สาเหต&หร�อจาก่สาเหต&ไป็ส��ผลก่8ได้�

5) ก่ารอธ�บายตามล�าด้�บข��น ถึามเก่��ยว่ก่�บก่รรมว่�ธ�หร�อก่ระบว่นก่ารที่��ม�ข� �นตอน2. ข.อสอบท*+ม21งให.แสดงความค�ดเห<นื้ว่�ตถึ&ป็ระสงคื� ต�องก่ารให�ผ��ตอบใช�เหต&ผลและหล�ก่ฐานอ�างอ�งป็ระก่อบ เพื่��อ

ให�ก่ารแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8นของตนน�าเช��อถึ�อหร�อน�าน�าไป็ป็ฏ�บ�ต�ได้� ล�ก่ษณะคื�าถึาม เห8น“

ด้�ว่ยหร�อไม� ” / “จงแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8น ” / “ที่�าไม”

- องคื�ป็ระก่อบของข�อสอบ1) เร��อง อ�านคื�าถึามให�เข�าใจ และพื่ยายามจ�บป็ระเด้8นว่�า ต�องเข�ยนแสด้งคืว่าม

คื�ด้เห8นเก่��ยว่ก่�บเร��องใด้ แต�ถึ�าล�ก่ษณะข�อสอบเป็ นก่ารต�ด้ตอนข�อคืว่ามหร�อหย�บยก่เร��องราว่มาป็ระก่อบคื�าถึาม เพื่��อให�อ�านและแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8น ผ��ตอบต�องจ�บใจคืว่ามส�าคื�ญ่และต�คืว่ามเพื่��อจ�บป็ระเด้8นส�าคื�ญ่จาก่เร��องให�คืรบถึ�ว่นก่�อนแล�ว่จ-งตอบคื�าถึาม หร�อเสนอคืว่ามคื�ด้เห8นของตน

2) ข�อม�ลหร�อคืว่ามร� �ที่��จ�าเป็ น ต�องม�คืว่ามร� �คืว่ามเข�าในในเร��องที่��ตนเสนออย�างแจ�มแจ�ง และสามารถึเล�อก่ใช�ข�อม�ลได้�อย�างเหมาะสม อาจจะเป็ นได้�ที่��งข�อเที่8จจร�งที่��ได้�ร�บก่ารพื่�ส�จน�แล�ว่และข�อคื�ด้เห8นของผ��อ��นซึ่-�งผ��ตอบใช�อ�างอ�ง ส��งส�าคื�ญ่ก่8คื�อคืว่รเล�อก่แหล�งข�อม�ลที่��น�าเช��อได้� เพื่ราะข�อม�ลที่��จะน�ามาใช�ต�องถึ�ก่ต�องและช�ด้เจน

3) เหต&ผล ม&�งให�เก่�ด้คืว่ามคืล�อยตามและยอมร�บ เหต&ผลที่��อ�างอ�งอาจได้�จาก่ข�อเที่8จจร�งที่��ศ-ก่ษามาหร�อเป็ นป็ระสบก่ารณ�ก่8ได้� คืว่รจะม�น��าหน�ก่น�าเช��อถึ�อ ไม�คืว่รป็ล�อยให�อารมณ�หร�ออคืต�คืรอบง�า เพื่ราะจะที่�าให�ข�อเข�ยนขาด้คืว่ามเที่��ยงตรงได้�

4) หล�ก่ฐาน ม� 2 ป็ระเภที่ ได้�แก่� หล�ก่ฐานที่างตรง (ได้�จาก่ป็ระสบก่ารณ�ของผ��เข�ยนเองจ-งเป็ นหล�ก่ฐานที่��น�าเช��อถึ�อที่��ส&ด้) และหล�ก่ฐานที่างอ�อม (ได้�จาก่เอก่สารหร�อคื�าบอก่เล�าของผ��อ��น ซึ่-�งต�องอาศ�ยก่ารต�คืว่ามป็ระก่อบแต�ก่8เป็ นที่��น�ยมก่�นมาก่) อาจป็ราก่ฏในร�ป็ต�างๆ เช�น ข�อเที่8จจร�ง สถึ�ต� ต�ว่เลย ต�ว่อย�างเหต&ก่ารณ�

- ข��นตอนก่ารตอบ

Page 107: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1) ส�งเก่ตคื�าถึามและพื่ยายามจ�บป็ระเด้8นส�าคื�ญ่จาก่คื�าถึามว่�า ข�อสอบม&�งให�แสด้งคืว่ามคื�ด้เห8นเก่��ยว่ก่�บเร��องใด้ในแง�ม&มใด้บ�าง

2) ผ��ตอบต�องบอก่ได้�ว่�าตนม�คืว่ามคื�ด้เห8นเก่��ยว่ก่�บเร��องหร�อข�อคืว่ามที่��ได้�อ�านอย�างไร ต�องก่ารสน�บสน&น (คืว่รช��ให�เห8นคื&ณป็ระโยชน�หร�อผลด้�) หร�อโต�แย�ง (ต�องช��ข�อบก่พื่ร�องหร�อผลเส�ย) ก่8เข�ยนให�ช�ด้เจน หาก่ในข�อคืว่ามที่��อ�านม�ก่ารเสนอคืว่ามคื�ด้เห8นมาก่�อน ผ��ตอบต�องพื่ยายามสน�บสน&นหร�อห�ก่ล�างคืว่ามเห8นเหล�าน��นด้�ว่ยเหต&ผลและหล�ก่ฐานให�คืว่ามถึ�ว่นที่&ก่ป็ระเด้8น ก่รณ�ที่��ข�อคืว่ามน��นม�ป็ระเด้8นที่��น�าสนใจหลายป็ระเด้8น ผ��ตอบอาจจะเห8นคืล�อยตามคืว่ามคื�ด้เห8นบางป็ระเด้8นและข�ด้แย�งบางป็ระเด้8นก่8ได้� คืว่รเข�ยนเสนอให�ช�ด้เจนว่�าเห8นด้�ว่ยก่�บป็ระเด้8นใด้และไม�เห8นด้�ว่ยก่�บป็ระเด้8นใด้พื่ร�อมที่��งช��แจ�งเหต&ผลด้�ว่ย

3) เสนอคืว่ามคื�ด้เห8นใหม�ๆ ของผ��ตอบเอง เข�ยนได้�อย�างอ�สระ แต�ถึ�าเป็ นก่ารก่�าหนด้ข�อคืว่ามหร�อเร��องราว่มาแล�ว่ ส��งที่��ผ��ตอบพื่-งระว่�งก่8คื�ออย�าเสนอคืว่ามคื�ด้เห8นซึ่��าซึ่�อนก่�บคืว่ามคื�ด้ที่��ม�ป็ราก่ฏอย��แล�ว่ในคื�าถึามโด้ยไม�ได้�เสนอคืว่ามคื�ด้เห8นใหม�ๆ ที่��เป็ นของตนเพื่��มเต�ม ไม�เพื่�ยงแต�ต�องใช�เหต&ผลและหล�ก่ฐานอ�างอ�งเพื่��อเสร�มให�คืว่ามคื�ด้เห8นน��นน�าเช��อถึ�อเที่�าน��น แต�ต�องจ�ด้ล�าด้�บคืว่ามคื�ด้ เพื่ราะก่ารร� �จ�ด้จ�ด้ว่างข�อม�ล อ�างอ�งเหต&ผลและหล�ก่ฐานอย�างเป็ นระบบจะช�ว่ยให�ผ��อ�านเข�าใจและเก่�ด้คืว่ามเห8นคืล�อยตามได้�ง�าย

4) สร&ป็ป็ระเด้8นเก่��ยว่ก่�บคืว่ามคื�ด้เห8นที่��ส�าคื�ญ่ซึ่-�งต�องก่ารเสนอไว่�ตอนที่�ายเร��อง เพื่��อให�คื�าตอบสมบ�รณ�และย�งเป็ นก่ารย��าให�ผ��อ�านได้�น�าข�อคื�ด้ไป็พื่�จารณาใคืร�คืรว่ญ่ต�อไป็

5) ผ��ตอบสามารถึเล�อก่ตอบได้� 2 ล�ก่ษณะ คื�อ ล�ก่ษณะแรก่เป็ นก่ารเข�ยนคืว่ามเร�ยง (คื�าน�า ส�ว่นเน��อเร��องและส�ว่นสร&ป็) ใช�ในก่รณ�ที่��เป็ นก่ารเข�ยนเสนอคืว่ามคื�ด้เห8นที่��ม�หลายป็ระเด้8นต�องอ�างอ�งเหต&ผลหลายป็ระก่ารเพื่��อให�ผ��อ�านเก่�ด้คืว่ามเห8นคืล�อยตาม อ�ก่ล�ก่ษณะหน-�งคื�อ ก่ารเข�ยนแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8นโด้ยตรง ม&�งตอบต�าถึามให�ตรงป็ระเด้8น เห8นด้�ว่ย หร�อ ไม�เห8นด้�ว่ย ต�องแสด้งคืว่ามเห8นให�ช�ด้เจนโด้ยไม�จ�าเป็ น“ ” “ ”

ต�องม�อาร�มภบที่ แต�คืว่รสร&ป็ในตอนที่�ายอ�ก่คืร��งเพื่��อย��าป็ระเด้8นส�าคื�ญ่

3. ข.อสอบท*+ม21งให.อภู�ปรายว่�ตถึ&ป็ระสงคื� ผ��ตอบต�องแยก่แยะป็ระเด้8นของเร��องที่��จะเข�ยนอภ�ป็รายได้�ช�ด้เจน

และว่�เคืราะห�ได้�คืรบถึ�ว่นที่&ก่ป็ระเด้8น ต�องช��ให�เห8นข�อด้�ข�อเส�ย สาเหต&และแนว่ที่างในก่ารแก่�ไขป็%ญ่หา ตลอด้จนข�อเสนอแนะอ�นเป็ นป็ระโยชน� ล�ก่ษณะคื�าถึาม จง“

อภ�ป็ราย”

- องคื�ป็ระก่อบของข�อสอบ

Page 108: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1) เร��อง ม� 2 ล�ก่ษณะ คื�อ ก่. เร��องที่��เป็ นข�อม�ลที่��ว่ๆ ไป็ เพื่��อให�ผ��ตอบได้�เสนอที่�ศนะและข�อม�ลเก่��ยว่ก่�บเร��อง

ด้�งก่ล�าว่หลายๆ ด้�านพื่ร�อมเหต&ป็ระก่อบ ขณะเด้�ยว่ก่�นก่ารได้�อ�านนานาที่�ศนะย�อมที่�าให�ผ��อ�านม�คืว่ามร� �และม�ที่�ศนะที่��ก่ว่�างขว่างย��งข-�น

ข. เร��องที่��เป็ นป็%ญ่หาในส�งคืม ซึ่-�งผ��ตอบต�องก่ารให�ผ��อ�านเป็ล��ยนที่�ศนะหร�อเป็ล��ยนนโยบายใหม� ม�ก่เป็ นป็%ญ่หาส�ว่นรว่มที่��ที่&ก่ฝ่Eายต�องร�ว่มม�อแก่�ไข ที่��งย�งม&�งพื่�จารณาป็%ญ่หาเร��องน��นๆ ที่&ก่ด้�านเพื่��อหาข�อสร&ป็ และแนว่ที่างป็ฏ�บ�ต�ที่��ก่�อให�เก่�ด้ผลด้�

2) ข�อม�ล หร�อคืว่ามร� �ที่��ได้�จาก่หล�ก่ฐานหร�อเหต&ก่ารณ�ที่��เก่�ด้ข-�นซึ่-�งเก่��ยว่ก่�บเร��องที่��อภ�ป็ราย

3) คืว่ามคื�ด้เห8นของผ��ตอบ คืว่รเสนอคืว่ามคื�ด้เห8นที่��แป็ลก่ใหม�นอก่เหน�อจาก่ข�อม�ลที่��ได้�จาก่คืว่ามคื�ด้เห8นของผ��อ��น

4) ข�อเสนอแนะ เสนอแนว่ที่างในก่ารป็ฏ�บ�ต� หร�อว่�ธ�แก่�ไขป็%ญ่หาที่��น�าสนใจและสามารถึน�าไป็ป็ฏ�บ�ต�ได้�

5) เหต&ผล ช�ว่ยเพื่��มน��าหน�ก่ที่�าให�คื�าตอบน�าสนใจย��งข-�น เหต&ผลที่��ใช�ในก่ารเข�ยนอภ�ป็รายจะม�ที่��งเหต&ผลป็ระก่อบคืว่ามคื�ด้เห8นและเหต&ผลป็ระก่อบข�อเสนอแนะ

6) หล�ก่ฐานอ�างอ�ง ใช�สน�บสน&นก่ารเสนอเหต&ผลเก่��ยว่ก่�บเร��องที่��อภ�ป็รายให�หน�ก่แน�นย��งข-�น

- ข��นตอนก่ารตอบ1) อาร�มภบที่ น�าเข�าส��เร��อง เน��อหาส�ว่นน��จะเก่��ยว่ก่�บคืว่ามร� �ที่� �ว่ไป็ คืว่ามส�าคื�ญ่

หร�อคืว่ามเป็ นมาของเร��องที่��จะเข�ยนอภ�ป็รายในก่รณ�ที่��เป็ นก่ารเข�ยนอภ�ป็รายป็%ญ่หาส�ว่นรว่มผ��ตอบอาจจะก่ล�าว่ถึ-งผลก่ระที่บจาก่ป็%ญ่หาน��น

2) เน��อเร��อง ในก่ารน�าเสนอผ��ตอบจ�าเป็ นต�องแยก่แยะป็ระเด้8นต�างๆ อย�างช�ด้เจน ถึ�าเป็ นก่ารเข�ยนอภ�ป็รายป็%ญ่หาส�ว่นรว่ม คืว่รเสนอสาเหต&ของป็%ญ่หา ว่�ธ�แก่�ไข รว่มที่��งข�อเสนอแนะต�างๆ ให�คืรบถึ�ว่น คืว่รพื่�จารณาป็%ญ่หาที่&ก่ด้�านอย�างรอบคือบ ก่ารเข�ยนอภ�ป็รายแต�ละป็ระเด้8นต�องละเอ�ยด้ม�เหต&ผลม�หล�ก่ฐานอ�างอ�งเพื่��อให�ผ��อ�านเข�าใจป็%ญ่หาและร� �จ�ก่ว่�ธ�แก่�ไขป็%ญ่หาได้�อย�างแที่�จร�ง ส�ว่นก่ารใช�ข�อม�ลป็ระก่อบอาจเข�ยนอ�างอ�งโด้ยก่ารให�รายละเอ�ยด้ ก่ารยก่ต�ว่อย�าง หร�อก่ารเป็ร�ยบเที่�ยบเพื่��อให�เก่�ด้คืว่ามคื�ด้เห8นคืล�อยตามได้�ง�าย

3) ข�อเสนอแนะในช�ว่งที่�ายของเน��อเร��อง อาจจะเป็ นข�อคื�ด้หร�อแนว่ที่างแก่�ไขป็%ญ่หาอ�นเป็ นป็ระโยชน�เพื่��มเต�มในก่ารเข�ยนอภ�ป็รายม�ก่ม�ป็ระเด้8นที่��ต�องก่ล�าว่ถึ-งมาก่มาย ด้�งน��นผ��ตอบจ-งคืว่รจ�ด้ล�าด้�บข�อคืว่ามให�เหมาะสมตามหล�ก่ก่ารใช�เหต&ผลและ

Page 109: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จ�ด้เป็ นป็ระเด้8นใหญ่�ป็ระเด้8นย�อยให�ช�ด้เจน ป็ระเด้8นใด้ม�คืว่ามส�าคื�ญ่คืว่รก่ล�าว่ถึ-งก่�อน ส�ว่นป็ระเด้8นที่��ส�าคื�ญ่รองลงมาก่8ก่ล�าว่ถึ-งในล�าด้�บถึ�ด้ไป็

ส�ว่นก่ารเข�ยนอภ�ป็รายเก่��ยว่ก่�บป็%ญ่หาส�ว่นรว่ม ม�ว่�ธ�จ�ด้ล�าด้�บป็ระเด้8นที่��น�าสนใจ 2 ว่�ธ� คื�อ ว่�ธ�แรก่ ก่ล�าว่ถึ-งสาเหต&ของป็%ญ่หาที่��งหมด้ ต�อจาก่น��นจ-งเสนอว่�ธ�แก่�ไขป็%ญ่หาน��นที่&ก่ป็%ญ่หา ส�ว่นว่�ธ�ที่��สองเป็ นก่ารเสนอสาเหต&ของป็%ญ่หาก่�บว่�ธ�แก่�ไขป็%ญ่หาเป็ นข�อๆ ไป็จนก่ระที่��งพื่�จารณาป็%ญ่หาได้�คืรบที่&ก่ข�อ ก่ารร� �จ�ก่ล�าด้�บป็ระเด้8นจะช�ว่ยให�ผ��อ�านไม�ส�บสนและสามารถึอ�านข�อเข�ยนได้�เข�าใจย��งข-�น

4) บที่สร&ป็ คืว่รย��าป็ระเด้8นส�าคื�ญ่ที่��ต�องก่ารเสนอหร�อช��ให�เห8นว่�า ถึ�าสามารถึป็ฏ�บ�ต�ตามแนว่ที่างที่��เสนอแนะได้�ย�อมก่�อให�เก่�ด้ผลด้�

5) ส��งส&ด้ที่�ายที่��ผ��ตอบคืว่รคื�าน-งก่8คื�อ ก่ารจ�ด้ส�ด้ส�ว่นของเน��อหาให�เหมาะสม ส�ว่นที่��เป็ นเน��อเร��องคื�องม�มาก่ก่ว่�าส�ว่นที่��เป็ นคื�าน�าและบที่สร&ป็

4. ข.อเสนื้อแนื้ะในื้การติอบข.อสอบอ�ตินื้�ย1) ก่�อนตอบข�อสอบที่&ก่คืร��ง จะต�องอ�านคื�าถึามแล�ว่ต�คืว่ามคื�าถึามน��นให�

ก่ระจ�างว่�า ถึามเร��องอะไร ม�ก่��ป็ระเด้8น ล�ก่ษณะคื�าถึามม&�งให�อธ�บาย แสด้งคืว่ามคื�ด้เห8น หร�ออภ�ป็ราย

2) ระด้มคืว่ามร� � คืว่ามคื�ด้ เหต&ผล เพื่��อตอบให�ตรงคื�าถึาม3) ว่างโคืรงเร��อง เพื่��อจ�ด้ระเบ�ยบเน��อเร��องเป็ นข��นตอนและเพื่��อให�คืรอบคืล&มที่&ก่

ป็ระเด้8นของคื�าถึาม4) เร�ยบเร�ยงและจ�ด้ล�าด้�บคืว่ามคื�ด้ในแต�ละย�อหน�าให�เหมาะสม5) คืว่รน�าเหต&ผล ต�ว่อย�าง หล�ก่ฐาน ข�อเที่8จจร�ง หร�อป็ระสบก่ารณ�คืว่ามร� �ที่��ได้�

ศ-ก่ษาคื�นคืว่�ามาป็ระมว่ลก่�นเข�าเพื่��อให�คื�าตอบน��นม�คืว่ามสมบ�รณ�มาก่ที่��ส&ด้6) ก่ารใช�ภาษา ในก่ารตอบข�อสอบต�องใช�ภาษาแบบแผนหร�อก่-�งแบบแผน ไม�

คืว่รใช�ภาษาป็าก่ อ�ก่ษรย�อหร�อต�ด้คื�า และต�องใช�คื�าที่��ส��อคืว่ามหมายตรง ส��น ก่ระช�บ แต�ได้�ใจคืว่าม นอก่จาก่น��ในก่ารตอบข�อสอบป็ระเภที่แสด้งคืว่ามคื�ด้เห8นและอภ�ป็รายคืว่รใช�ภาษาโน�มน�าว่ใจผ��อ�านให�คืล�ายคืว่ามคื�ด้ของผ��ตอบด้�ว่ย

7) คืว่รเข�ยนที่ว่นคื�าถึามเส�ยก่�อนแล�ว่จ-งตอบ ยก่เว่�นก่ารตอบข�อสอบที่��ม&�งให�อภ�ป็รายเป็ นคืว่ามเร�ยงคืว่รเข�ยนด้�ว่ยหม-ก่ส�เข�ม ใช�ลายม�อที่��อ�านง�าย ไม�คืว่รม�รอยข�ด้ ลบ ข�ด้ฆ่�า ถึ�าจ�าเป็ นก่8ที่�าอย�างเร�ยบร�อย

9) ต�องคื�าน-งถึ-งเว่ลาซึ่-�งม�จ�าก่�ด้ คืว่รแบ�งเว่ลาให�ถึ�ก่จะได้�ตอบคืรบที่&ก่ข�อ10) คืว่รตรว่จที่าน ถึ-งแม�จะว่างแผนก่ารเข�ยนตอบอย�างรอบคือบแล�ว่ก่8ตาม

แต�ก่ารตรว่จที่านจะช�ว่ยให�เพื่��มเต�มข�อคืว่ามหร�อแก่�ไขข�อบก่พื่ร�องที่��งด้�านเน��อหาและก่ารใช�ภาษาซึ่-�งรว่มที่��งเร��องต�ว่สะก่ด้ด้�ว่ย

Page 110: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ต�ด้ตอนและสร&ป็จาก่: นว่ลที่�พื่ย� เพื่��มเก่ษร และ ม.ล.คื�ายว่ง ว่ราส�ที่ธ�ช�ย, “ก่ารตอบข�อสอบอ�ตน�ย ใน คืณาจารย�ภาคืว่�ชาภาษาไที่ย คืณะศ�ลป็ศาสตร� มหาว่�ที่ยาล�ย”

ธรรมศาสตร�, ก่ารใช�ภาษาไที่ย 1. พื่�มพื่�คืร��งที่�� 4. ก่ร&งเที่พื่ฯ: ส�าน�ก่พื่�มพื่�มหาว่�ที่ยาล�ยธรรมศาสตร�, 2543. หน�า 116-129

ติ�วอย1างข.อสอบอ�ตินื้�ย แลัะเร*ยงความ1. ข.อสอบอ�ตินื้�ย น�ก่เร�ยนที่&ก่คืนจะต�องตอบข�อสอบด้�ว่ยก่ารฝ่นว่งก่ลมลงในก่ระด้าษคื�าตอบ

โด้ยข�อสอบจะม�ที่��งหมด้ 60 ข�อ แต�ละข�อจะม� 5 ต�ว่เล�อก่ ม�เว่ลา 1 ช��ว่โมงติ�วอย1างข.อสอบในื้ป) 2547

1. พื่รรคืไที่ยร�ก่ไที่ยม�ธ&รก่�จภาคืใด้สน�บสน&นมาก่ที่��ส&ด้ตอบ ก่ารส��อสารโที่รคืมนาคืม 2. ระยะเว่ลาของก่ารเล�อก่ต��งป็ระธานาธ�บด้�สหร�ฐตอบ 4 ป็Bต�อคืร��ง 3. จอร�จ ด้�บเบ�ลย� บ&ช (George W. Bush) อย��พื่รรคื ตอบ ร�พื่�บล�ก่�น (Republican)

4. ป็ระเที่ศไที่ยม�ที่��งหมด้ก่��ก่ระที่รว่ง ตอบ 20 ก่ระที่รว่ง5. ใคืรด้�ารงต�าแหน�งป็ระธานคืณะก่รรมก่ารส�ที่ธ�มน&ษยชนตอบ ศ.เสน�ห� จามร�ก่6. เลขาธ�ก่ารสหป็ระชาชาต�ชาว่เอเช�ยคืนแรก่ และคืนเด้�ยว่ คื�อ ตอบ อ�ถึ��น(U Thant)

7. ผ��น�าคืนใด้ลงจาก่ต�าแหน�งหล�งจาก่ก่ารป็ระช&ม APEC ที่��ก่ร&งเที่พื่ฯ ตอบ มหาเธร� (Mahathir)

8. APEC ที่��ก่ร&งเที่พื่ฯ เป็ นคืร��งที่��เที่�าไหร� ตอบ คืร��งที่�� 11

9. ป็ระเที่ศใด้เป็ นพื่�นธม�ตรนอก่ก่ล&�มนาโต�ป็ระเที่ศล�าส&ด้ ตอบ ป็ระเที่ศไที่ย

Page 111: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

10. ผ��น�าในภ�ม�ภาคืเอเช�ยคืนใด้ที่��ก่ล�าโต�แย�งสหร�ฐ ตอบ มหาเธร� (Mahathir)

11. สงคืรามใด้ถึ�อเป็ นสงคืรามฆ่�าล�างเผ�าพื่�นธ&�ในที่ศว่รรษ 1990

ตอบ โคืโซึ่โว่ (Kosovo)

12. ป็ระเที่ศใด้เพื่��งขอก่ล�บเข�าเป็ นสมาช�ก่ย�เนสโก่�ใหม� ตอบ จ�น13. ป็ระเที่ศใด้ที่��ไม�ใช�สมาช�ก่ถึาว่รคืณะมนตร�คืว่ามม��นคืงแห�งสหป็ระชาชาต� ตอบ ญ่��ป็&Eน14. อาเซึ่�ยน + 3 สามป็ระเที่ศที่��มาเพื่��มเต�มนอก่จาก่อาเซึ่�ยน คื�อป็ระเที่ศใด้

บ�างตอบ จ�น เก่าหล�ใต� ญ่��ป็&Eน 15. ผ��น�ามาเลเซึ่�ยหล�งจาก่ที่��มหาเธร�ลงจาก่ต�าแหน�ง คื�อใคืร ตอบ บาด้าว่� (Badawi)

16. ใคืรเป็ นจะเจ�าภาพื่จ�ด้ก่ารป็ระช&มเอเป็คืในป็B 2004

ตอบ ช�ล� 17. ศาลไที่ยม�ก่��ระบบ ตอบ 4 ระบบ18. จ�านว่นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรม�จ�านว่นเที่�าใด้ตอบ 500 คืน19. ศาลฎี�ก่าแผนก่คืด้�อาญ่าผ��ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�องอย��ในศาลใด้ตอบ ศาลย&ต�ธรรม20. ช��อใหม�ของ 14 ต&ลา คื�อตอบ 14 ต&ลาว่�นป็ระชาธ�ป็ไตย 21. ป็ระเที่ศไที่ยม�ก่ารเล�อก่ต��งคืร��งแรก่เม��อป็Bใด้ ตอบ ป็B 2516

22. ป็ระเที่ศไที่ยเร��มม�ก่ารป็ระช&มสภาเสนาบด้�สม��าเสมอเม��อใด้ตอบ ร�ชก่าลที่�� 523. ก่ารป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นของไที่ยในป็%จจ&บ�นม�ก่��แบบ ตอบ 5 แบบ24. ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บแรก่ของไที่ยป็ระก่าศใช�ในว่�นที่��เที่�าไร ตอบ 27 ม�ถึ&นายน 2475

25. พื่�ธ�ฮื�ญ่จ�ป็ระก่อบที่��เม�องใด้

Page 112: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตอบ เมก่ก่ะ (Mecca)

26. ก่ล&�มอ�ก่ษะแห�งคืว่ามช��ว่ร�ายของสหร�ฐป็ระก่อบใด้ชาต�ใด้บ�าง ตอบ อ�หร�านและ เก่าหล�เหน�อ27. มหาเธร�เป็ นนายก่ร�ฐมนตร�ของป็ระเที่ศใด้ ตอบ มาเลเช�ย 28. ใคืรเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�ที่��ไม�ได้�มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��ง ตอบ ธาน�นที่� ก่ร�ยว่�เช�ยร ส�ญ่ญ่า ธรรมศ�ก่ด้�L และอาน�นที่� ป็%นยารช&น29. ผ��อ�านว่ยก่าร WTO คื�อใคืรตอบ ด้ร.ศ&ภช�ย พื่าน�ชภ�ก่ด้�L30. องคื�ก่ารเจรจาก่ารคื�าระหว่�างป็ระเที่ศอย��ส�งก่�ด้ก่ระที่รว่งใด้ตอบ ก่ระที่รว่งพื่าณ�ชย�31. “ธรรมาภ�บาล ภาษาอ�งก่ฤษ คื�อ ”

ตอบ Good Governance

32. ป็ระเที่ศที่��ร�ว่มก่�บสหร�ฐฯ รบก่�บอ�ร�ก่คื�อป็ระเที่ศใด้ตอบ อ�งก่ฤษ 33. ใคืร คื�อ ผ��ก่�อต��งองคื�ก่รส�นน�บาตชาต� ตอบ ว่�ด้โรว่� ว่�ลส�น (Woodrow Wilson)

34. ฉ�นที่ามต�ว่อช�งต�น (Washington Consensus) เก่��ยว่ข�องก่�บเร��องใด้ ตอบ เศรษฐก่�จ [ม�หล�ก่ก่าร 4 ข�อ คื�อ Liberalization, Privatization,

Deregulation, Regulatory]35. ป็ระเที่ศใด้เป็ นสมาช�ก่ของ WTO ล�าด้�บที่�� 147

ตอบ จ�น36. ป็ระเที่ศไที่ยใช�ระบบก่ารป็ก่คืรองแบบใด้ตอบ ร�ฐสภา 37. ป็ระเที่ศใด้ป็ก่คืรองแบบเผด้8จก่ารส�งคืมน�ยม ตอบ คื�ว่บา จ�น และเก่าหล� 38. ใคืร คื�อ ผ��ร �เร��มแนว่คื�ด้ล�ที่ธ�คือมม�ว่น�สต� ตอบ คืาร�ล มาร�ก่ (Karl Marx)

39. “เอ��ออาที่ร เร�ยก่อ�ก่อย�างว่�า ”

ตอบ ป็ระชาสงเคืราะห� 40. สมาช�ก่ว่&ฒ�สภา (ส.ว่.) ไม�ม�อ�านาจ และหน�าที่�ะไรตอบ อภ�ป็รายไม�ไว่�ว่างใจสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร (ส.ส.)

41. ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บที่�� 16 แตก่ต�างจาก่ฉบ�บอ��นย�งไง

Page 113: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตอบ เป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บแรก่ที่��เป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็ระชาชน42. ศาลร�ฐธรรมน�ญ่ม�หน�าที่��อะไรตอบ เป็ นองคื�ก่รอ�สระที่�าหน�าที่��ต�คืว่ามร�ฐธรรมน�ญ่เม��อเก่�ด้ป็%ญ่หาข�อข�ด้แย�ง

ระหว่�างองคื�ก่ร43. ต�าแหน�งข�าราชก่ารป็ระจ�าข�อใด้เป็ นต�าแหน�งส�งส&ด้ ตอบ ป็ล�ด้ก่ระที่รว่ง44. องคื�ป็ระก่อบของร�ฐตามที่��เร�ยนมา 3 อย�าง คื�อ ตอบ ป็ระชาชน ด้�นแด้น ร�ฐบาล [บางต�ารา: อย�างที่�� 4 คื�อ อ�านาจอธ�ป็ไตย]

45. ว่�นใด้ คื�อ ว่�นคืล�ายว่�นสถึาป็นาคืณะร�ฐศาสตร� มหาว่�ที่ยาล�ยธรรมศาสตร�ตอบ ว่�นที่��14 ม�ถึ&นายน

ติ�วอย1างข.อสอบในื้ป) 2548

1. ป็ฏ�ญ่ญ่าพื่&ก่ามม�ป็ระเที่ศใด้เข�าร�ว่มบ�างตอบ ไที่ย ก่�มพื่�ชา พื่ม�า ลาว่2. CITES เก่��ยว่ก่�บเร��องอะไร ตอบ พื่�นธ&�พื่�ช และส�ตว่�ป็Eาหายาก่3. NATO ม�สมาช�ก่ก่��ป็ระเที่ศตอบ 26 ป็ระเที่ศ4. ใคืร คื�อ นายก่ร�ฐมนตร�มาเลเซึ่�ยคืนป็%จจ&บ�น ตอบ บาด้าว่� (Badawi)

5. ก่ารป็ร�บคืณะร�ฐมนตร�คืร��งล�าส&ด้เป็ นคืร��งที่��เที่�าไหร� ตอบ คืร��งที่�� 10 [ณ เว่ลาที่��ที่�าข�อสอบ]

Page 114: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

6. สมาช�ก่อาเซึ่�ยน (ASEAN) ม�ที่��งหมด้ก่��ป็ระเที่ศตอบ 10 ป็ระเที่ศ7. BIMST-EC ม�สมาช�ก่ใหม� 2 ป็ระเที่ศล�าส&ด้ คื�อป็ระเที่ศใด้ตอบ เนป็าล ภ�ฏาน8. ส�ว่นป็ระก่อบของร�ฐม�อะไรบ�างตอบ ด้�นแด้น ป็ระชาก่ร ร�ฐบาล อ�านาจอธ�ป็ไตย9. ร�ฐเด้��ยว่จะม�ล�ก่ษณะใด้ตอบ รว่มศ�นย�ก่ารป็ก่คืรอง และม�ร�ฐบาลเพื่�ยงร�ฐบาลเด้�ยว่ คื�อ ร�ฐบาลก่ลางม�

อ�านาจส�งส&ด้10. ข�อใด้ไม�ใช�จ&ด้ป็ระสงคื�ของพื่รรคืก่ารเม�องตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

11. WTO ที่��ป็ระช&มก่�นรอบล�าส&ด้ เร�ยก่ว่�ารอบอะไร ตอบ รอบโด้ฮืา [เด้�อนพื่ฤศจ�ก่ายน ป็B 2001]

12. สนธ�ส�ญ่ญ่ามาสที่ร�ก่ช� (Maastricht Treaty) ก่�อให�เก่�ด้องคื�ก่ารใด้ตอบ สหภาพื่ย&โรป็ 13. อาเซึ่�ยน + 3 สามป็ระเที่ศที่��มาเพื่��มเต�มนอก่จาก่อาเซึ่�ยน คื�อป็ระเที่ศใด้

บ�างตอบ จ�น เก่าหล�ใต� ญ่��ป็&Eน 14. WTO ถึ�อก่�าเน�ด้ ณ ที่��ใด้ ตอบ โมรอคืโคื [ในเด้�อนเมษายนป็B 1994]

15. ป็ระเที่ศใด้ไม�ใช�สมาช�ก่ APEC

ตอบ อ&ร&ก่ว่�ย [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

16. ป็ระเที่ศใด้ที่��ไม�ได้�ก่�� IMF

ตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

17. NAFTA (North America Free Trade Agreement) ป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระเที่ศใด้บ�าง

ตอบ สหร�ฐอเมร�ก่า แคืนาด้า เม8ก่ซึ่�โก่18. ก่ารป็ก่คืรองที่�องถึ��นคืร��งแรก่ของไที่ย คื�อตอบ ส&ขาภ�บาล19. ก่ารป็ระช&มเสนาบด้�อย�างสม��าเสมอเร��มข-�นเม��อใด้ตอบ ร�ชก่าลที่�� 520. One-Stop Service คื�ออะไร

Page 115: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตอบ เป็ นแนว่คื�ด้ที่��น�ามาจาก่ภาคืเอก่ชน ซึ่-�งในเช�งบร�หารร�ฐก่�จเร�ยก่ว่�า ก่าร“

จ�ด้ก่ารสาธารณะสม�ยใหม�”21. อมาตยธ�ป็ไตย คื�ออะไร ตอบ ก่ารป็ก่คืรองโด้ยม�ระบบข�าราชก่ารเป็ นผ��ก่�าหนด้นโยบายในก่ารบร�หาร

ป็ระเที่ศ22. ใคืร คื�อ บ&คืคืลส�าคื�ญ่ของมหาว่�ที่ยาล�ยธรรมศาสตร�ต� �งแต�อด้�ตจนถึ-ง

ป็%จจ&บ�นตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

23. “ที่�ก่ษ�ณาน&ว่�ตร น�ก่ว่�จารณ�คืนใด้เป็ นผ��เร��มใช�อย�างเป็ นที่างก่าร ”

ตอบ ธ�รย&ที่ธ บ&ญ่ม�24. ป็ระเที่ศไที่ยเสนอใคืรเข�าช�งต�าแหน�งเลขาธ�ก่ารสหป็ระชาชาต� (UN)

ตอบ ด้ร.ส&รเก่�ยรต�L เสถึ�ยรไที่ย25. ก่ารเล�อก่ต��งป็ระธานาธ�บด้�ของสหร�ฐฯ เป็ นแบบใด้ตอบ Electoral Vote

26. ป็ระชาส�งคืม (Civil Society) คื�ออะไรตอบ ล�ก่ษณะส�งคืมที่��ภาคืป็ระชาชนเข�ามาม�ส�ว่นร�ว่มในที่างก่ารเม�องอย�างก่ว่�าง

ขว่าง27. ข�อใด้ไม�ใช�องคื�ก่รอ�สระตามร�ฐธรรมน�ญ่ตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

28. สภาที่��ป็ระชาชนที่��ว่ไป็ 99 คืน ที่��ม�หน�าที่��ให�คื�าแนะน�าต�อร�ฐบาลคื�อ ตอบ สภาที่��ป็ร-ก่ษาเศรษฐก่�จและส�งคืมแห�งชาต�29. ข�อใด้ถึ�อเป็ นส�ที่ธ�ใหม�ตามร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�น ตอบ ป็ระชาชน 50,000 คืนสามารถึเข�าช��อถึอด้ถึอนข�าราชก่ารระด้�บส�งหร�อผ��

ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�อง30. ป็ระเที่ศใด้ป็ก่คืรองแบบก่-�งร�ฐสภาก่-�งป็ระธานาธ�บด้� ตอบ ฝ่ร��งเศส31. ก่ารที่&จร�ตใด้ที่��ป็ระชาชนเร�ยก่ร�องให�ตรว่จสอบแต�ได้�ระง�บก่ารด้�าเน�นงาน

ไป็แล�ว่ ตอบ ที่&จร�ตคืลองด้�าน32. ก่ร&งเที่พื่ฯ โพื่ลช�ว่งเด้�อนต&ลาคืม คื�อ เร��องใด้ ตอบ ก่ารเม�อง ก่ารเล�อก่ต��ง33. ก่ร&งเที่พื่ฯ โพื่ลส�ารว่จพื่บว่�า ว่�ยร& �นชอบพื่�ด้คื&ยเร��องใด้

Page 116: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตอบ ก่�น เที่��ยว่ ช8อป็ป็=� ง34. อาเซึ่�ยน (ASEAN) ก่�อต��งข-�นเม��อใด้ และม�สมาช�ก่ก่�อต��งก่��ป็ระเที่ศ ตอบ ก่�อต��งป็B 1967 ม�สมาช�ก่ก่�อต��ง 5 ป็ระเที่ศ คื�อ (อ�นโด้น�เซึ่�ย มาเลเซึ่�ย

ฟิ=ล�ป็ป็=นส� ส�งคืโป็ร� และไที่ย)

35. ป็%จจ&บ�นสหภาพื่ย&โรป็ (EU) ม�สมาช�ก่ก่��ป็ระเที่ศ ตอบ 25 ป็ระเที่ศ36. ว่�นที่�� 1 เมษายน ของที่&ก่ป็B เป็ นว่�นอะไรตอบ April’s fool day หร�อ All fool’s day แป็ลภาษาไที่ยว่�า ว่�นเมษา“

คืนโง�”37. ฉ�นที่ามต�ว่อช�งต�น (Washington Consensus) ไม�เก่��ยว่ก่�บอะไร ตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

38. ว่�ก่ฤตเศรษฐก่�จป็B 2540 ไม�ได้�เก่��ยว่ก่�บอะไรตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

39. อะไรที่��ไม�ม�ในพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ก่ารจ�ด้ระเบ�ยบก่ารป็ก่คืรองราชก่าร ตอบ ต�าบล หม��บ�าน40. สมาช�ก่ว่&ฒ�สภา (ส.ว่.) ในป็ระเที่ศไที่ยไม�ม�หน�าที่��ใด้ ตอบ อภ�ป็รายไม�ไว่�ว่างใจ41. ศาลไที่ยม�ก่��ระบบ ตอบ 4 ระบบ คื�อ ศาลย&ต�ธรรม ศาลป็ก่คืรอง ศาลที่หาร ศาลร�ฐธรรมน�ญ่42. ศาลฎี�ก่าของผ��ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�องอย��ส�งก่�ด้ศาลใด้ ตอบ ศาลย&ต�ธรรม43. ฝ่Eายบร�หารและฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�คืานอ�านาจก่�นตามร�ฐธรรมน�ญ่ไที่ยได้�

ยก่เว่�นข�อใด้ตอบ ร�ฐมนตร�ต�องไม�ด้�ารงต�าแหน�งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่

ป็ระก่อบ]

44. พื่จนาน&ก่รมที่��บ�ญ่ญ่�ต�ศ�พื่ที่�ใหม�ๆ ของว่�ยร& �น เป็ นของส�าน�ก่พื่�มพื่�ใด้ ตอบ มต�ชน45. ป็ระเที่ศใด้ไม�ใช�สมาช�ก่ OPEC

ตอบ บร�ไน [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

46. ข�อใด้ไม�ใช�ที่บว่งช�านาญ่พื่�เศษของสหป็ระชาชาต� (UN)

ตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

47. ราก่ศ�พื่ที่�ของคื�าว่�า ป็ระชาธ�ป็ไตย คื�ออะไร“ ”

Page 117: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตอบ มาจาก่คื�า 3 คื�า คื�อ Demos (ป็ว่งชน) + Kratein (ป็ก่คืรอง) หร�อ Kratos (อ�านาจ)

48. ป็ระเที่ศไที่ยและจ�นเร��มคืว่ามส�มพื่�นธ�ย&คืสม�ยใหม�ตอนไหน ตอบ ต��งแต� 1 ก่รก่ฎีาคืม 2518 โด้ย ม.ร.ว่. คื-ก่ฤที่ธ�L ป็ราโมช ได้�เด้�นที่างไป็

เย�อนสาธารณร�ฐป็ระชาชนจ�น49. เหต&ก่ารณ� 9/11 เก่�ด้ข-�นในป็Bใด้ ตอบ ป็B 2001

50. แผนพื่�ฒนาเศรษฐก่�จและส�งคืมแห�งชาต�ฉบ�บป็%จจ&บ�นเป็ นฉบ�บที่��เที่�าใด้ ตอบ ฉบ�บที่�� 9 (2545-2549)

56. จ�งหว่�ด้ใด้บ�างของไที่ยใช�ก่ฎีหมายอ�สลาม ตอบ ยะลา ป็%ตตาน� นราธ�ว่าส และสต�ล

2. ข.อสอบเร*ยงความ น�ก่เร�ยนที่&ก่คืนจะต�องเข�ยนตอบด้�ว่ยป็าก่ก่า โด้ยจะม�ก่ระด้าษขนาด้เอ 4 ให�

จ�านว่น 2 แผ�น ม�เว่ลา 1 ช��ว่โมงติ�วอย1างข.อสอบในื้ป) 2547

- สาขาก่ารเม�องก่ารป็ก่คืรอง1. ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นเป็ นฉบ�บที่��เที่�าไหร�? ป็ระก่าศใช�เม��อป็Bใด้? และม�

ที่��งหมด้ก่��มาตรา?2. น�ก่เร�ยนคื�ด้ว่�าเหต&ก่ารณ�คืว่ามร&นแรงที่��เก่�ด้ข-�น ณ อ.จะนะ ข�ด้ต�อ

ร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม�? เพื่ราะเหต&ใด้?

- สาขาก่ารระหว่�างป็ระเที่ศที่�านคื�ด้ว่�าสหร�ฐอเมร�ก่าจะที่�าก่ารบ&ก่อ�ร�ก่หร�อไม� ถึ�าบ&ก่แล�ว่ผลส&ด้ที่�ายจะเป็ น

อย�างไร และที่�านคื�ด้ว่�าสหร�ฐอเมร�ก่าม�เหต&ผลอะไรในก่ารที่�าสงคืราม จงแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8น

- สาขาบร�หารร�ฐก่�จที่�านม�คืว่ามคื�ด้เห8นอย�างไรต�อโคืรงก่ารเอ��ออาที่รของร�ฐบาลช&ด้ป็%จจ&บ�น

ติ�วอย1างข.อสอบในื้ป) 2548

- สาขาก่ารเม�องก่ารป็ก่คืรอง1. ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นเป็ นฉบ�บที่��เที่�าไหร�? ป็ระก่าศใช�เม��อป็Bใด้? และม�

ที่��งหมด้ก่��มาตรา?

Page 118: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. ก่ารที่��ม�พื่รรคืไที่ยร�ก่ไที่ยสามารถึคืรองเส�ยงข�างมาก่ในสภามาก่ก่ว่�า 400

เส�ยง ม�ส�าคื�ญ่หร�อไม�อย�างไร? และส�งผลก่ระที่บต�อก่ารเม�องไที่ยอย�างไร?

- สาขาก่ารระหว่�างป็ระเที่ศก่ารที่��สหร�ฐฯ บ&ก่อ�ร�ก่ถึ�อเป็ นก่ารร&ก่ล��าอธ�ป็ไตยอ�ร�ก่หร�อไม� และอ�านาจอธ�ป็ไตย

หมายถึ-งอะไร?

- สาขาบร�หารร�ฐก่�จจงเข�ยนเร��อง คืว่ามป็ระที่�บใจในก่ารบร�ก่ารของภาคืร�ฐ“ ”