Top Banner
1 เรื่องเลาครั้งผมครองเพศบรรพชิต 49 คืน 50 วัน ที่เปลี่ยนชีวิตลูกผูชายคนนีไมให "หายใจทิ้ง โดยคุณ ฐานวิชโช สมาชิกลานธรรมเสวนา ตอนที1: สมัครบวช เอสาหัง ภัณเต, สุจิระปรินิพบุตัมป ตัง ภะกะวันตัง สะระณัง กัจฉามิ. “ ผมขมวดคิ้วและไหวทานหนึ่งครั้ง กอนที่จะรับแผนกระดาษ 2 ใบจากมือของพระผูมีหนาที่รับสมัครบวชพระใหมของวัดนั้น ทานกําชับใหทองบทขออุปสมบททั้งหมดนี้ใหไดกอนที่จะเขามาเปนนาคเตรียมตัวกอนเขาพิธีอุปสมบทจริงในวันที5 พฤษภาคม ทานได ทองใหฟงเปนตัวอยาง 1 รอบ ซึ่งแนนอนผมจําไมได และที่สําคัญคือ สําเนียงแปลกๆ ดวยซี ผมไมเคยไดยินมากอนเลย ทานวาเปน สําเนียงมคธ นิยมใชกันทั่วไปในการอานหรือพูดภาษาบาลีระหวางประเทศ ถือวาเปนสําเนียงอินเตอรฯ วาอยางนั้นเถอะ เราผูจะขอบวช ตองทองใหถูกไมใหอักขระวิบัติไมเชนนั้นจะถือวาสังฆกรรมนั้นไมสมบูรณ การบวชไมสําเร็จตามพิธี กลายเปนผาเหลืองหมตอไป หลายวันโดยไมรูตัว ผมรับคําทานและกราบลาแบบเบญจางคประดิษฐ 3 ครั้ง กอนเดินลงมาจากกุฏิ ตติยานุสรณ ” 2 ชั้น แลวเดินสํารวจไปรอบๆ วัด ผมไดเขามาวัดนี้เปนครั้งที่สามแลว ครั้งแรกมาเยี่ยมนมัสการหลวงเพื่อนที่มาบวชเมื่อปลายปกลาย ครั้งที่สอง ปลายเดือนมีนาคม หางจากครั้งนี้ไมกี่วัน เพราะครั้งนั้นผมตั้งใจมาสมัครบวชเขาเดือนเมษายน แตก็ไดรับขาวรายวาผูสมัครบวชของเดือนเมษายนเต็มแลว ถาจะบวชที่วัดนี้จริงๆ ตองรอไปเดือนพฤษภาคม ซึ่งผมไมอยากรอนานไปกวานี้แลว อยากบวชเรียนอยูวัดประหยัดเงินตราในกระเปาทีนับวันรอยหรอลงไปเพราะไมมีงานทํามารวมครึ่งป จึงตัดสินใจออกไปสมัครบวชที่วัดอื่นๆ อีก 2-3 แหง ปรากฏวาทุกวัดลวนเต็มหมด ไมมีที่ใหอยู ดวยผมเองก็ลืมนึกไปเสียสนิทวาเปนชวงปดเทอมฤดูรอน ชายไทยเขาชอบบวช ตามประเพณีกันชวงนีที่วัดแหงหนึ่งอยูตางอําเภอออกไปกวา 60 กิโลเมตร เปนวัดของพระอาจารยดังมีชื่อเสียง เมื่อเขาไปถึงก็ไดรับ ความสงบเย็นจากสถานที่ดูสัปปายะดีและพรอมที่จะรับผมบวชทันที แตเมื่อไดไปพบกับพระผูมีหนาที่ดูแลการรับสมัครบวชทานฟง เครื่องเสียงสเตอริโอดอรบี้เซอรราวนรอบทิศในกุฏิทานแลว ก็ถอยฉากออกมากอนเลย เพราะรับพฤติกรรมนี้ไมไดจริงๆ สวนวัดบาง แหงก็ไมรับผมเขาบวชตั้งแตยังเดินทางไปไมถึงในวัดเสียดวยซ้ํา ดวยวาเปนใครที่ไหนไมรูจัก ไมมีใครแนะนํามา ไมมีใครรับรอง สุดทายผมก็ตองหอบตัวเองกลับมานมัสการพระผูมีหนาที่รับสมัครบวชพระใหมของวัดนี้อีกครั้ง และลงทะเบียนวาจะบวชใน เดือนพฤษภาคมอยางแนนอน เนื่องจากไมมีวัดไหนใหผมไดบวชไดเร็วกวานีนับเปนการตัดสินใจที่ถูกตองที่สุดในชีวิตอันเล็กนอยของผมหนึ่งนี้แลว
80

เรื่องเล่า ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

Aug 16, 2014

Download

Documents

greenboy
Welcome message from author
This document is posted to help you gain knowledge. Please leave a comment to let me know what you think about it! Share it to your friends and learn new things together.
Transcript
Page 1: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

1

เร่ืองเลา…คร้ังผมครองเพศบรรพชิต 49 คืน 50 วัน ที่เปล่ียนชีวิตลูกผูชายคนนี้ ไมให "หายใจทิ้ง

โดยคุณ ฐานวิชโช สมาชิกลานธรรมเสวนา

ตอนที่ 1: สมัครบวช“เอสาหัง ภัณเต, สุจิระปรินิพบุตัมป ตัง ภะกะวันตงั สะระณัง กัจฉามิ. “ ผมขมวดคิ้วและไหวทานหน่ึงครั้ง กอนที่จะรับแผนกระดาษ 2 ใบจากมือของพระผูมีหนาที่รับสมัครบวชพระใหมของวัดนั้น

ทานกําชับใหทองบทขออุปสมบททั้งหมดนี้ใหไดกอนที่จะเขามาเปนนาคเตรียมตัวกอนเขาพิธีอุปสมบทจริงในวันที่ 5 พฤษภาคม ทานไดทองใหฟงเปนตัวอยาง 1 รอบ ซึ่งแนนอนผมจําไมได และที่สําคญัคือ สําเนียงแปลกๆ ดวยซ…ีผมไมเคยไดยินมากอนเลย ทานวาเปนสําเนียงมคธ นิยมใชกันทั่วไปในการอานหรือพูดภาษาบาลีระหวางประเทศ ถือวาเปนสําเนียงอินเตอรฯ วาอยางนั้นเถอะ เราผูจะขอบวชตองทองใหถูกไมใหอักขระวิบัตไิมเชนน้ันจะถือวาสังฆกรรมนั้นไมสมบูรณ การบวชไมสําเร็จตามพิธี กลายเปนผาเหลืองหมตอไปหลายวันโดยไมรูตัว

ผมรับคําทานและกราบลาแบบเบญจางคประดิษฐ 3 ครั้ง กอนเดินลงมาจากกุฏิ “ตติยานุสรณ” 2 ช้ัน แลวเดินสํารวจไปรอบๆ วัด

ผมไดเขามาวัดนี้เปนครั้งที่สามแลว ครั้งแรกมาเยี่ยมนมัสการหลวงเพื่อนที่มาบวชเมื่อปลายปกลาย ครั้งที่สอง ปลายเดือนมีนาคม

หางจากครั้งน้ีไมกี่วัน เพราะครั้งน้ันผมตั้งใจมาสมัครบวชเขาเดือนเมษายน แตก็ไดรับขาวรายวาผูสมัครบวชของเดือนเมษายนเต็มแลว ถาจะบวชที่วัดนี้จริงๆ ตองรอไปเดือนพฤษภาคม ซึ่งผมไมอยากรอนานไปกวานี้แลว อยากบวชเรียนอยูวัดประหยัดเงินตราในกระเปาที่นับวันรอยหรอลงไปเพราะไมมีงานทํามารวมครึ่งป จึงตัดสินใจออกไปสมัครบวชที่วัดอื่นๆ อีก 2-3 แหง

ปรากฏวาทุกวัดลวนเต็มหมด ไมมีที่ใหอยู ดวยผมเองก็ลืมนึกไปเสียสนิทวาเปนชวงปดเทอมฤดูรอน ชายไทยเขาชอบบวชตามประเพณีกันชวงน้ี ที่วัดแหงหนึ่งอยูตางอําเภอออกไปกวา 60 กิโลเมตร เปนวัดของพระอาจารยดังมีช่ือเสียง เม่ือเขาไปถึงก็ไดรับความสงบเย็นจากสถานที่ดูสัปปายะดีและพรอมที่จะรับผมบวชทันที แตเม่ือไดไปพบกับพระผูมีหนาที่ดูแลการรับสมัครบวชทานฟงเครื่องเสียงสเตอริโอดอรบี้เซอรราวนรอบทิศในกุฏิทานแลว ก็ถอยฉากออกมากอนเลย เพราะรับพฤติกรรมนี้ไมไดจริงๆ สวนวัดบางแหงก็ไมรับผมเขาบวชตั้งแตยังเดินทางไปไมถึงในวัดเสียดวยซ้ํา ดวยวาเปนใครที่ไหนไมรูจัก ไมมีใครแนะนํามา ไมมีใครรับรอง

สุดทายผมก็ตองหอบตัวเองกลับมานมัสการพระผูมีหนาที่รับสมัครบวชพระใหมของวัดนี้อีกครั้ง และลงทะเบียนวาจะบวชในเดือนพฤษภาคมอยางแนนอน เนื่องจากไมมีวัดไหนใหผมไดบวชไดเร็วกวาน้ี นับเปนการตัดสินใจที่ถูกตองที่สุดในชีวิตอันเล็กนอยของผมหนึ่งน้ีแลว

Page 2: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

2

นอกจากวัดนี้จะรมรื่นไปดวยตนไมใบหญาที่สวยงามมีปายพุทธภาษิตสอนใจอยูทั่วไป เสนาสนะใหญโตและสวยงามตามแบบ

ศิลปะลานนาประยุกต พ้ืนที่พุทธาวาสและสังฆาวาสแบงเปนสัดสวน เปนพระอารามหลวงหนึ่งใน 7 วัดของจงัหวดัเชียงใหมและเปนโรงเรียนสอนธรรมและบาลีศึกษาที่มีผลสอบในอันดับตนๆ ของภมิูภาคแลว

ยังทําใหผมไดสัมผัสกับความเมตตาของพระผูมีหนาที่รับสมัครบวชพระใหมรูปนี้ ซึ่งตอมาทานจะเปนพระพ่ีเลี้ยงของพระใหมและเปนพระอาจารยของผมในที่สุด “พระอาจารยเอก” พระภิกษุที่ตองทําใหผมเสียนํ้าตาในวันลาสิกขา หลังจากไดเรียนธรรมะ ศึกษาพระวินัยและปรนนิบัติรับใชทานตามสมควรเปนเวลากวา 50 วันที่วัดแหงน้ี. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 2: รูจักเพื่อนใหม 1 ผมมีกําหนดเขาพิธีอุปสมบทพรอมกันกับเพ่ือนๆ นาคอีก 6 คนที่พระอาจารยเอกนัดมาอยูวัดพรอมกันในวันที่ 2 พฤษภาคม

เรียกวามาประเดิมลองอยูวัด นอนวัดกันกอนเลย น่ีถาไมแนจริงรับกันไมไดก็จะไดไปหาที่อยูอื่นเสีย ไมตองมาทนอุดอูทนอยูคับที่คับใจกันตอไป

แตอันที่จริงแลวทานตั้งใจจะใหมาซอมขานนาคกันใหพรอมเพรียง ฝกครองจีวรและเรียนรูกฎขอบังคับตางๆ ไปทีละเล็กละนอย เพ่ือท่ีวาเมื่อบวชเปนพระแลวจะไดปฏิบัติอยูในขอวัตรไดทันทีโดยไมเกอเขิน ไมตองมาถาม มาสงสัยกันอีกใหวุนวาย

เพราะฉะนั้นนาคทุกคนที่มาอยูวัดก็ตองตั้งใจเรียนรูสิ่งตางๆ เหลาน้ีใหดีและเร็วดวย เพราะเวลามีนอย เหลืออีก 3 คืนก็บวชแลว ยังครองจวีรไมไดแลวหลุดลุยตอหนาธารกํานัลละก็ดูไมจืด ซึ่งเรื่องสนุกๆ เหลาน้ีผมจะเลาใหฟงอีกครั้งหนึ่ง

แมว คือนาคที่ผมรูจักเปนคนแรก เพราะเขาเดินเขาวัดมาหลังจากผมนิดเดียวเลยไดทักทายกัน อันที่จริงแมวนาจะชื่อวา “แมว” มากกวา เพราะตอนเปนนาคมานั้นผมชี้ๆ ฟูๆ แบบญี่ปุน ตัวเล็กๆ หนาขาวๆ ตาใสๆ ย้ิมแลว

แกมเปนเสนๆ เหมือนหนวดแมว แตแมวไมคอยพูด ดูน่ิงๆ และเงียบเฉย เราไดพักหองติดกันอยูบนชั้นสองของอาคารกุฏิไฮโซ 2 ช้ัน ตางกันตรงที่หองผมวีไอพีกวาที่มีหองนํ้าในตัว สวนแมวตองเดินออกมาที่โถงกลางเพื่อเขาหองนํ้ารวม นัยวาเพราะผมเดินเขาวัดมากอนจึงไดหองพิเศษกวา

Page 3: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

3

ที่ช้ันลางมีนาคอีกหน่ึงคนที่มาถึงกอนพวกเราแลวช่ือ พ่ีวัฒน ที่เรียกพ่ีไดเต็มปากเต็มคําก็เพราะอายุอานามก็ปาเขาไป 29 จะ 30

อยูแลว หนาตาก็ออนวัยกวา 50 ปนิดหนอย อันน้ีก็ตองยกใหเขาละครับ โดยเฉพาะเรื่องสีผิวท่ีดาํเนียน แตเปนคนภาคกลางแถบๆ สิงหบุรี พูดเหนอนิดๆ แถมเจาตัวภูมิใจในความเปน “ปลารักเร” ของตัวเองมาก เน่ืองมาจากวามีความจําสั้นเหมือนปลาทอง แตดวยวาผิวดําเนียนเลยขอเปนปลารักเรจะดูเหมาะสมกวา พ่ีวัฒนเปนคนยิ้มเกง คุยสนุกและคิดถึงแฟนอยูตลอดเวลาที่มาอยูวัด

พูดถึงอาคารกุฏิสองชั้นที่ผม แมวและพ่ีวัฒน มาพักอยูดวยกันนี่ ไดยินกิตติศัพทมานานแลววามีของครับ เพ่ือนๆ ที่เคยมาบวชที่วัดนี้เลาใหฟงถึงปรากฎการณบางอยางที่ประสบพบเจอมา ฟงผานหูมาบางเกี่ยวกับเสียงฝเทาบนหัวนอน

ประหลาดๆ หรือแมกระทั่งจุดแสงสวางที่หาสาเหตุไมได ทันทีที่ไดเห็นอาคารหลังน้ีจิตก็ปรุงแตงไปแลวละครับวา เรื่องที่ไดยินมาทา ทางจะจริงแท เหลือแควาจะมาหลอกกันหรือเปลาเทาน้ันเอง

เมื่อเริ่มกาวเขาที่อาคารชั้นลางที่ปูพรมอยางดีแลว เครื่องเรอืนทุกชิ้นยังเปนไมจริง เกาไมเกาไมตองสาธยายกันละ เม่ือเดินผานโถงโลงๆ ไปแลวขึ้นบันไดไปบนชั้นสอง จะพบกับกลุมโตะหมูบูชาสุดอลังการขนาดเต็มความกวางของอาคารนั้น ประดิษฐานประพุทธรูปขนาดใหญนอยเรียงตามลําดับอยางสวยงาม สะอาดสะอานมันวาวดําขลับ มีเครื่องสัตตภัณฑและของบูชาครบชุด ในความมืดมิดนั้นผมสังเกตทุกอยางไดจากแสงสวางจากภายนอก

เพียงเทาน้ีก็ทําใหผมเขาออนทรุดลงไปไหวสิ่งศักดิ์สิทธประหลกๆ ขออนุญาตทานนอนสักคืนสองคืนแลวจะรีบหาทางไปจาก

อาคารนี้แลวในใจก็คิดวาตัวเองโชคดีแทที่หองพักมีหองนํ้าในตัว ผิดกับแมวท่ีเวลาจะเขาหองนํ้าตองมาเดินผานโถงนี้กอนทุกครั้ง สวิตชเปดไฟที่หองโถงนี่ก็อยูใกลกับโตะหมูนิดเดียว จะเดินไปเปดทามกลางความมืดนี่ก็บาแลว ผมมุดเขาหองไปเลยดีกวา ตอนเชาสวางแลววากันใหม. ติดตามตอนตอไป.

Page 4: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

4

ตอนที่ 3: รูจักเพื่อนใหม 2 ตอนเชา ผมแอบถามแมววานอนหลับสบายดีไหม แมวก็วาสบายดี สวนพ่ีวัฒนก็บนวานอนไมหลับเพราะเสียงไกกับเสียง

หมาในวัด ผมแอบยิ้มยองอยูในใจวาสองคนนี้ชางไมรูอะไร ผมนะนอนไมหลับเลย คอยระแวดระวังเสียงแปลกๆ และจองมองดูแตในความมืดนั้นอยูตลอด ดีนะที่ไมมีอะไรเกิดขึ้นใหผม

ตกใจ ลองสอบถามพระเณรบางรูปในวัดก็เลาลือกันพอสมควร แตพอไดลองเลียบๆ เคียงๆ ถามพระอาจารยเอกแลว ทานก็ตอบวา… ”คุณไมตองกลัววาจะเห็นอะไรหรอก เขาไมมาใหคุณเห็นแนๆ คุณนะเปนใคร มีบุญญาธิการแคไหนใหเขาตองเปลือง

กําลังมาปรากฎตัวใหคุณเห็น ศีลก็ไมไดรักษา บุญก็ไมมี อยากังวลไปเลย”

ดูเหมือนจะจริงครับ ผมน่ีโงแทๆ คิดไปกอนแลว จิตใจก็ไปกังวล ดูแมวสินอนหลับสบาย สวนผมตองงวงนอนทั้งวนัเพราะ

ไมไดหลับไดนอน คราวหนาไมคิดแลว ทุกขใจไปเปลาๆ ปลี้ๆ พ่ีเจมส, อั๋น, เกงใหญและเกงเล็ก เปนนาคสี่คนที่เหลือท่ีผมไดรูจักในเวลาตอมา พ่ีเจมส เปนผูชายตัวใหญ ผิวขาวแตยอมสีแดงมาจนผมระบุสัญชาติไมได นัยวาเปนลูกพ่ีลูกนองมาบวชพรอมกันกับ อั๋น ที่ตัว

ยอมลงมาหนอยแตหัวโต ผิวคล้าํและตาโต ทาทางคุยไมรูเรื่อง ดูแลวไมนาจะเปนสายเลือดเดียวกันเลย สวนทั้งสองเกงน้ันชื่อซ้ํากัน จึงตองมีการะบุใหชัดเจนวาเกงไหน ที่ไดช่ือเกงใหญเพราะอายุมากกวาเกงเล็กน่ันเอง แตใน

ความเปนจริงแลวเกงเล็กน้ันตัวโตกวาเกงใหญเสียอีก ใครที่ไมรูอายุและลําดับการบวชกอนหลังของทั้งสองคนนี้เมื่อไดยินการเรียกชื่อก็จะเขาใจวา เกงใหญหมายถึงคนที่ตัวโตกวาทุกครั้งไป ดูเอาเถิดความสับสนทางโลก น่ีแคช่ือที่สมมติกันก็สรางความสับสนถึงเพียงน้ีแลว

เกงใหญและเกงเล็กน่ีผมจะสนิทมาก ดวยเหตุวาบวชอยูดวยกันนานวันกวาพ่ีอั๋นกับเจมส เกงใหญ น้ันสูงประมาณ 165 เซนติเมตร ตัวปอมๆ หนอยและทาทางประหมา มักจะมีโลกสวนตัวมากสักหนอย สวน เกงเล็ก น้ันสูงกวาผมมาก ตัวผอมบางแบบผูชายภาคเหนือ แตเกงเล็กน่ีสําคัญตรงที่มีมนุษยสัมพันธดีเดน คุยกับใครก็ไดหมดทุกเรื่อง ทุกเพศ ทุกวัย ที่กุฏิเบอร 31 ของเกงเล็กจึงมักเปนที่ชุมนุมของเหลานาคทั้งเจด็ คุยกันเรื่องสัพเพเหระในเวลาวาง

เรื่องที่คุยกันเปนอันดับแรกคือคําถามที่วา “มาบวชที่น่ีไดไง บวชทําไมแลวบวชกี่วัน” ซึ่งตางคนก็ตางมีคําตอบของตัวเอง

Page 5: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

5

จากการแลกเปลี่ยนกันทําใหรูวาพ่ีเจมสจะเปนคนแรกที่จากเราไปกอน เพราะลางานมาไดแค 9 วัน พ่ีวัฒนน่ีเตรียมมาบวช 11

วันบอกกับทุกๆ คนวากอนจะมาวัดนี่ไปทํางานกอนแลวขี่มอเตอรไซตมาที่วัด กะวาจะจอดทิ้งไวจนกวาจะสึกแลวขบัรถไปทํางานตอเลยในวันนั้น นับวาเปนคนเอาการเอางานมาก

เกงใหญและเกงเล็กบอกเหมือนกันวาจะบวช 20 วันจนถึงสิ้นเดือน สวนแมว - - ที่ภายหลังแนะนําคนอื่นวาชื่อ “โอ” - - ยังไมแนใจจํานวนวันที่จะบวช แตลางานมา 1 เดือน จะขอบวชดูสักอาทิตย สองอาทิตยกอน เพราะตอนนี้ยังไมแนใจวามาบวชทําไม (อาว!!)

แตสําหรับคนอื่นๆ แลวลวนมาบวชตามประเพณีทั้งสิ้น คือเม่ืออายถุึงวัยแลว สามารถหาเวลาวางได จึงบวชทดแทนคุณพอแมและบุพการีทันที นับวานาดีใจที่อยางนอยประเพณีไทยยังชักจูงเด็กหนุมใหเขาวัดเขาวาได แมจะเปนระยะเวลาอนัสั้น. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 4: มาบวชทําไม “มาบวชทําไม?” จะเปนคําถามแรกๆ ที่ทุกคนจะตองโดนถาม สําหรับโอ (เปลี่ยนชื่อจากแมวแลวจะ นัยวาไมอยากซ้ํากับนายกฯ) แลวจะโดน

ถามซักไซมากเปนพิเศษ เพราะไมสามารถใหคําตอบกับเพ่ือนๆ นาคไดสักทีวามาบวชทําไม บอกแตเพียงวามาหาอะไรสักอยาง ผมเองก็เลยไมคอยอยากจะถามตอวามาบวชหา…อะไร เพราะจะกลายเปนกวนอวัยวะกันไปเสีย แตเทาที่สังเกตดู เขากําลังหาอะไรสักอยางอยูจริงๆ ซึ่งเปนสิ่งที่ผมอยากรูมาก…..คอยติดตามดูพฤติกรรมเขาอยูตลอด

มีคําคลองจองอยูบทหนึ่งพูดถึงสาเหตุของการมาบวชไววาเปนการ “บวชตามประเพณี หนีทหาร ผลาญขาวสุก สนุกตามเพ่ือน เลื่อนลอยคอยงาน” สําหรับผมแลวหากจะตอบวาบวชตามประเพณีก็ดูดีพอสมควรอยูแลว แตความจริงน่ียังโดนเขาไปอีกสองขอคอืมาบวชผลาญขาวสุกและเลือ่นลอยคอยงาน

Page 6: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

6

เพราะเรื่องราวชวีิตของผมกอนที่จะเขามาบวชนั้นมันออกจะซับซอน แตเพราะผมมีอายุเหมาะสมที่จะบวชเรียนแลว และกํา

ลังมีเวลาวางจากการคอยใหที่ทํางานใหมเรียกตัวไปเริ่มทํางาน ประกอบกับเงินเดือนจากที่ทํางานเกาก็กําลังรอยหรอลง จึงหวังตั้งใจจะบวชเรียน อาศัยกินอยูหลับนอนในวัดนับวาเปนการประหยัดดีแท

ผมตั้งใจบวชอยางนอย 1 เดือนครบั หรือจนกวาทางที่ทํางานใหมจะเรียกใหไปรายงานตัว ซึ่งจะทําใหผมประหยัดเงินที่จะตองใชจายในทางโลกมาก สวนใครที่ชอบมาทักวาผมบวชเพราะวาอายุเขาเบญจเพสพอดีน่ีเสียใจครับ ผมไมเชื่อเรื่องนั้นเลย มันเปนความบังเอิญมากกวาครับที่มาบวชตอนอายุ 25 ป

เหตุผลในการบวชของผมดูจะทุเรศทุรัง แตก็ดูจริงใจดีเวลาตอบคําถามนี้กับใครๆ ครับ พราะในสวนลึกแลว ผมไมยอมปลอยวันเวลาใหเสียโอกาสไปกับการบวชในครั้งน้ีแนนอน

ชวงที่ผมรองานใหมอยูน้ี ไดประกอบอาชีพหลากหลาย ดวยความตั้งใจจะเก็บเกี่ยวประสบการณทํางานหลายๆ รูปแบบ ไวเปนบทเรียนบันทึกชีวติของตัวเอง เรื่องการตัดสินใจบวชนี่ผมคิดเองคนเดียวทั้งสิน้ พอแมก็ไมไดเห็นดีเห็นงามดวยมากไปกวาใหการสนับสนุนในสิ่งที่ผมตองการจะทํา วัดผมก็หาเอง ติดตอขอบวชเอง รวมถึงการติดตอญาติมิตรใหมารวมงานก็จัดแจงเองทั้งสิ้นเทาที่จําเปน เรื่องดีๆ แบบนี้ไมตองใหใครมาบงการครับ ผมจะถือโอกาสนี้เรียนธรรมะและปฏิบัติตามพระวินัย 227 ขอของพระสัมมาสัมพุทธะเจาอยางเครงครัด

บางคนเคยบอกผมวา หากตองการจะศึกษาธรรมะแลวละก็ไมตองบวชก็ได หนังสือหนังหาที่มีขายอยูทั่วไปทางโลกก็มากมาย

มีใหศึกษา แตผมคิดวา มันไมไดอรรถรสครับ มันไมถึงซึ่งการปฏิบัติที่แทจริง ตัวผมมีบุญแคไหนแลวท่ีไดเกิดมาเปนมนุษย เกิดมา

Page 7: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

7

ในประเทศที่มีพระพุทธศาสนาเปนศาสนาประจําชาติ ไดเกิดเปนผูชาย มีอายุรอดตายมาถึงเพียงน้ีแลว เหมาะสมแกการบวชแลว ไมรูวาชาติหนาจะมีคุณสมบัติครบถวนถึงเพียงน้ีอีกหรือไม ก็บวชมันเสียเลยในชาติน้ี ถึงแมวาจะตั้งใจไวแคไมกี่เดือนก็ตาม

อีกอยางหนึ่งคือผมเคยบรรพชาเปนสามเณรมาแลว 20 วัน ทําใหแนใจวาการอุปสมบทเปนพระสักเดือนหน่ึงนี่ไมใชเรื่องเหลือกําลัง ผมทําไดและจะทําใหดดีวย

สาเหตุแหงการบวชนั้นมีหลากหลาย แตเหตุผลเดยีวอันประเสริฐย่ิงคือ การบวชเพื่อหนีสงสาร หรือการมุงหวังใหถึงนิพพานในชาติน้ีน่ันเอง ซึ่งเทากับวาจะเปนการตัดภพตัดชาติกันไปไมเวียนวายตายเกิดกันอีก ชายไทยบางคนที่ตั้งใจบวชตลอดชีวิตเพื่อเหตผุลน้ีและบรรลุถึงมรรคผลนิพพานไปแลวก็มีมาก สวนที่ยังปฏิบัติอยูถือเปนการสั่งสมบุญไวก็ยังคงปฏิบัติตอไป ผมขออนุโมทนากับทานเหลาน้ันดวยครับ. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 5: ภารกิจของนาค ทําไมตองเปนนาค? เปนตัวอื่นไมไดเหรอ? นาคมีจริงไหม? อพิโธ…น่ีไมใชตนฉบับภาพยนตเรื่อง 15 ค่ําเดือน 11 นะครับ หากใครไดชมภาพยนตเรื่องน่ีแลวจะไดเห็นหางนาคอยูไหวๆ

เลื้อยลงแมนํ้าโขงไป นาคมีจริงครับ ถาเปนพระอาจารยเอกก็จะเลาวา “นาคมีจริงนะคณุ ครูบาอาจารยทานเลาไวในประวัติวาไดพบเจอ บางสี

เขียว บางสีแดง…” อันน้ีขอใหไปหาอานกันเอาเองครับ แลวใชวิจารณญาณกันดวย แตถารูสึกวาหาคําตอบเรื่องน้ีจริงๆ จังๆ ไมได ก็อยาสงสัยกันไปเลยครับ เลิกเถอะ

แตจะใหผูเตรียมตัวท่ีจะบวชเปนตัวอื่นที่ไมใชนาคนี่เห็นทีจะไมไดครับ เพราะตามประวัติเลาวา ในสมัยท่ีพระพุทธเจายังคงทรงพระชนมชีพอยู มนุษยผูชายท่ีศรัทธาในพระพุทธศาสนาไดขอประทานอุปสมบทกันมากมาย พญานาคเปนสัตวที่มีใจเปนกุศลอยากบวช จึงแปลงกายเปนคนมาบวช เพราะถาไมใชคนแลวไมสามารถบวชได และในคืนหน่ึงที่พญานาคหลับไป จนลืมสะกดรูปรางของตนเอาไว ความรูถึงพระพุทธเจาพระองคจึงทรงตรสัหามมิใหพญานาคบวชพระ พญานาคเสียใจมาก จึงทูลขอพระองควาตอจากนี้ไปผูชายที่เตรียมตัวกอนบวช ใหเรียนวานาค เพ่ือใหนาคน้ันไดมีโอกาสอนุโมทนากุศลแหงการบวชนั้นดวยทุกๆ ครั้งไป

ภาระกิจที่นาคตองทํากอนบวชนั้นมีหลากหลายครับ

พระอาจารยเอกทานไดกําชับใหเรามานอนวัดกอนสองสามคืนเพื่อเรียนรูสิ่งตางๆทานสอนเรารับบาตร-เก็บบาตรครูบาอาจารยกอนเปนอันดับแรก นอกจากจะเปนการแสดงถึงการรูคุณทานแลวน้ัน เมื่อถึงเวลาที่เราจะตองมีบาตรเปนของตัวเองจะไดดูแลกันเปน

Page 8: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

8

บาตรนั้นถือเปนหนึ่งในเครื่องอัฐบริขารที่สําคัญมากสําหรับพระ จากประสบการณการบวชของผมนั้นคิดวา บาตรเปนเครื่องอัฐบริขารที่สําคญัที่สุด ตามเรื่องเลาประวัติของครูบาอาจารยทานยังเคยบอกวา เวลาไปธุดงคกลางปาไดพบเห็นพระบางรูปนั่งกอดบาตรเสียชีวิตอยูอยางนั้นก็ยังมี เพราะบาตรนี่เกี่ยวของกับปากทอง ไมมีบาตรก็รับอาหารบิณฑบาตรจากชาวบานไมได พระหาอาหารหรือปรุงอาหารเองก็ไมได อดตายก็เทาน้ันเอง

เวลาธุดงคก็อาศัยบาตรเปนเหมือนที่เก็บบริขารอื่นๆ โดยเฉพาะเก็บสังฆาฏิไมใหเปยกฝนเวลาธุดงคในปา เพราะสงัฆาฏิจะกลายเปนผาหมกันหนาวได บาตรใชตักนํ้าอาบก็ได เพราะฉะนั้นรายละเอียดในการบํารุงดูแลรักษาบาตรนั้นจึงมีมาก ถึงกับมีกําหนดไวในพระวินัยก็หลายขอทีเดียว

หลังจากทําวัตรเชาเสร็จตอนหกโมงเชาแลว นาคทุกคนตองวิ่งไปที่กุฏิพระอาจารยที่ตนเองมีหนาที่อุปฏฐาก จะพบกับบาตรที่ไดรับการจัดวางแบบพึ่งลมไวอยางเรียบรอย เก็บของใชทุกอยางทีจ่ําเปนลงในบาตร ไมวาจะเปน ผาเช็ดปาก ผาเช็ดบาตร ผารองนั่ง ถุงชอน-สอมและมีด ของแข็งหามใสลงไปในบาตร เพราะนอกจากจะทําใหเสียงดังแลว บางทียังอาจทํารอยใหกับภายในบาตรเสียหายได

จัดบาตรเสร็จเอาสายบาตรคลองคอเขาไหลแลวรีบมาที่หอฉัน มองหาตําแหนงที่น่ังของพระแตละรปูตามลําดับพรรษาแลวปูผา

รองน่ัง แกะสายบาตรออกจากขาบาตรแลวผูกเขากนบาตรเพื่อเตรียมสําหรับใหพระทานคลองไปบิณฑบาต จัดวางผาเช็ดบาตร ผาเช็ดปาก ชอน-สอมและแกวนํ้าไวทางขวา เพราะมีกระโถนอยูทางซาย แลวคลองบาตรเดินออกไปรอทานที่จุดนั้นพบ ถือเปนจุดรวมผลของแตละสายบิณฑบาต กอนที่จะมอบบาตรใหทานเริ่มบิณฑบาต สวนนาคก็ไปเดินอยูทายแถวตอจากนองเณรทําหนาเจี๋ยมเจี้ยม คอยสอดสองดูสีกาที่มาใสบาตร วาใสอาหารมามากมายจนลนบาตรไหม จะไดจัดแจงหาถุงมาถายเทของออก พระเณรจะไดไมลําบาก. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 6: นาคเดินตามบาตร เรื่องการไปเดินบิณฑบาตนี้เลาขานกันเทาไหรก็ไมจบ พวกเรานาคทั้งเจ็ดคนจะมีเรือ่งมาเลาใหฟงกันเสมอหลังจากการไปเดิน

ตามบาตร เรื่องเจ็บเทาระหวางการเดินระยะทางไกลที่ไมไดใสรองเทาน้ันดูเหมือนจะตองนํามาเกทับกันไมรูจักจบสิ้น วาสายบิณฑบาตไหนโหดกวากัน

Page 9: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

9

พ่ีเจมสกับอั๋น ไดไปเดินบาตสายตลาด ที่ถือวาไดรับของบิณฑบาตเพียบทุกครั้งแตวาอาย…อาย เพราะวาทั้งสองคนมบีานอยูแถวน้ัน เดินไปทางไหนก็มีแตคนรูจัก ถึงขั้นโอดครวญขอเปลี่ยนสายบิณฑบาต เพราะวาอายสายตาชาวบานตอนเปนพระนี่แหละ พระอาจารยเอกเห็นวาไมเปนสาระจึงไมเปลี่ยนให

เกงเล็ก ไดไปเดินบาตรสายที่เรียกวาเปน Off road คือสะเทิ้นน้ําสะเทิ้นบกทุกรูปแบบ ไมวาจะเปนพ้ืนคอนกรีต ยางมะตอยที่ผิวหนาเสียแลว - - คือเปนปุมมาก เจ็บมาก - - พ้ืนหญา คันนาและพื้นในสวน นับวาวิบากมาก หากวันไหนฝนตกแลวทางนั้นดูไมจืดเลย กลับมาขาเละเทะทุกทีไป

โอ ไดไปเดินบาตรสาย Off-road-Hard cape ที่ไมย่ิงหยอนไปกวาสายของเกงเล็ก เพราะวาสายนี้เจอของแข็งลวนๆ ทั้งพ้ืน

คอนกรีต ยางมะตอย เศษกระจกจากตูโทรศัพทที่แตกละเอียด กระจกจากรถชนกัน กรวดเม็ดเล็กๆ ริมถนนและที่สําคัญคือตะแกรงเหล็กทอระบายน้ําที่เจ็บสาหัสจริงๆ

พ่ีวัฒน ไดไปเดินบาตรสายในคายทหาร ไมคอยมีอะไรมาเลาใหฟง เพราะวันหน่ึงหลังจากแกบวชแลว โดนผึ้งกระทํากามิกาเซถวายชีวิตบินแทรกตัวเขาไปตอยฝาเทาทั้งๆ ที่แกก็ใสรองเทาอยู ไดรับความเจ็บปวดทรมาณมาก ไปบิณฑบาตไมไดหลายวัน

เกงใหญ ไดไปเดินบาตรสายน้ําตกน่ีสบายหนอย เพราะครึ่งทางขากลับจะไดน่ังมอเตอรไซตพวงที่โยมจัดถวายมาสงใหถึงวัด สวนผมนี่ไมบนอะไรใหใครฟงเลย น่ังยิ้มแหงๆ อยูเพราะวา ไมมีสายบิณฑบาตใหไปแลว ไมมีใครใหไปดวยเลยเพราะคน

เยอะแลว พระอาจารยเอกเลยใหไปอุปฏฐากแกแทน สายบิณฑบาตแกเดินออกจากวัดไป 100 เมตรรับบิณฑบาตสองบานก็เสร็จแลว เวลากลับมาบอกใครๆ วาไปแคน้ีไมมีใครเชื่อ ตองใหลองมาเดินเองก็จะตะลึงวา แคน้ี จริงๆ เทียบไมไดกับสายอื่นๆ ที่บนๆ กันเลย

หลังจากรับบิณฑบาตบานสุดทายเสร็จ นาคตองรีบวิ่งไปขอพระรบับาตรที่เต็มไปดวยอาหารนั้นมาคลองแทน แลวเดินกลับวัดใหเร็วกอนทีพ่ระทานจะเดินไปถึง เพ่ือมาจัดบาตรเขากับที่น่ังที่เตรียมไว ถอดสลกบาตรออก พับใหเรียบรอยตามรูปแบบที่ครูบาอาจารยสอนกันมา วางบาตร ลงบนขาบาตร หามวางบนพื้นเพราะบาตรจะบุบเปนรอยได เมื่อพระทานเดินมาถึงก็ประเคนอาหารทั้งหมดนั้นพรอมบาตรใหกับทาน เราก็มารอกินขาวกนบาตรพระอยูในหอฉันนั้นเอง

Page 10: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

10

หลังจากพระทานฉันเสร็จแลวจะสงสัญญาณใหเราเก็บบาตรไปลางได วิธีถือบาตรนี่ตองจับขอบบาตรแบบคว่ํามือลง สวนมืออีกขางก็ถอืฝาบาตรที่มีกระโถน แกวนํ้า ชอนสอมและผาเช็ดปากไป

ดวย หลังจากเทเศษอาหารใหนองหมาแลว ที่ลางบาตรจะมีลอยางเล็กๆ ไวรองกนบาตรสําหรับวาง ใชผาเช็ดปากเปนเหมือนสกอตไบรท ลางทําความสะอาดบาตรใหหมดจด ลางผาเช็ดปากใหสะอาดแลวเดินกลับไปหอฉัน ประกอบบาตรใหเปนรูปแบบเดิมกอนที่จะบิณฑบาต

ขั้นตอนนี้ปราบเซียนมานักตอนักแลว เพราะสลกบาตรนั้นถอดก็ยาก ใสก็ยาก พระอาจารยทานจะมัดไวอยางดีเพ่ือไมใหหลุดงายๆ เวลาบิณฑบาต พ่ีเจมสเคยมาแลว ถอดสลกบาตรไมออก ตัดสายที่ผูกไวเฉยเลย หลวงตาถึงกับรองจาก เพราะอัฐบริขารนี่บอกแลววาพระทานสุดรักสุดหวง บางอันเปนของที่ครูบาอาจารยเขามอบใหมา เพราะฉะนั้นนาคเราตองรักษาใหดีๆ ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 7: ซอมครองจีวร ถัดจากเรื่องบาตรแลว สบง จีวรและสังฆาฏิ ถือเปนบทเรียนตอไปของพวกเราเหลานาคเจ็ดตน เครื่องแบบอันทรงเกียรติน้ีถือไดวาเปนธงชัยของพระอรหันตเลยเชียวครับคุณ วากนัวาบอยครั้งเวลาที่พระกรรมฐานเดินทาง

ธุดงคไปในปาเขา รอดชีวิตมาจากคมเขี้ยวของสัตวรายไดก็เพราะจีวรผืนเดียวน้ีมาแลว ผาไตรที่พวกเราจะไดมาหอกายนี้มีสีนํ้าตาลเขมครับ มีช่ือเรียกเฉพาะวา “สีกรัก” เปนแบบพระปานิยมกัน ไมเหมือนกับพระ

บานที่เรามักจะเห็นๆ กันวาออกไปทางสีเหลืองสดๆ หรือไมก็สมๆ หนอย น่ันก็เพราะเวลาทานเดินเหินอยูในเมืองแลวจะไดอยูในสายตาของผูขับขี่ยวดยาน ไมไปเชี่ยวชนทานไดโดยงาย น่ีเปนวิทยาศาสตรนะครับเพราะสีเหลืองน้ันเปนสีที่มองเห็นไดงายที่สุดในตอนกลางวัน

Page 11: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

11

สวนพระปาน้ันเราเพลาๆ ความจี๊ดจาดลงมาหนอย ตมยอมแกนขนุนจนมีสีนํ้าตาลแกๆ เวลาอยูในปาในเขาแลวดูกลมกลืน

ดี ซึ่งคงไมมีชางปาตัวไหนทะลึ่งเดินมาชนพระใหบาดเจ็บ และไมแนวาถาหากพระธุดงคใสสีแจมๆ เดินปาแลว คงเปนที่สนใจของสัตวปามิใชนอย

การครองจีวรเปนศาสตรและศิลปที่จะวาไปแลวสอนกันไมงายเลย นับวาเปน “ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญูหิติ” คือ เปนสิ่งที่ผูรูก็รูไดเฉพาะตน

ในครั้งแรกพระอาจารยเอกไดมอบหมายใหพระพ่ีเลี้ยงรูปอื่นๆ ที่เพ่ิงบวชเมื่อกอนหนาน้ีไมนานสอนพวกเราหม เห็นพระรุนพ่ีหมกันงายๆ ในเวลารวดเร็วกเ็สรจ็เรียบรอยดูสวยงาม แตตอนที่สอนใหเราหมเองนั้นมันยากจัง ตองใชเวลานานกวาจะเรียบรอย พาลใหนึกถึงวาเวลาบวชไปเปนพระแลวคงไมตองทําอะไรนอกจากครองจีวรน่ีก็หมดเวลาไปครึ่งคอนวันแลว

สบง คือ ผาครองที่เหมือนกับกระโปรงนั้นหมงาย เพียงแตจัดใหผาสูงประมาณครึ่งนอง ดานหนาจับจีบสลับฟนปลาความกวางประมาณหนึ่งฝามือพับเขาหากลางลําตัว แลวรัดใหแนนหนาดวยประคตที่ตําแหนงสะดือกลางทองของเรา จากนั้นก็พับปลายผารอบเอวลงมาปดประคตใหเรียบรอย ยกเวนดานหนาใหพับกลับลงไปดานในเปนอันเสร็จพิธี

แต จีวร น่ีสิที่ถือวาเปนของจริง จากประสบการณสอนหมจีวรของผมหลังจากที่ไดเปนพระพี่เลี้ยงแลวน้ัน ไดกําหนดขั้นตอนหมจีวรไว 3 ขั้นตอนงายๆ คือ

สวยในเบื้องตน คือ หลังจากคลุมจีวรหาปลายผาเจอแลว มวนลูกบวบใหแนนเหมือนปลายดินสอใหได 2 ขันธ สวยในทามกลาง คือ เหยียดแขนซายใหสูงสุดตรงแลวมือขวาดึงเก็บลูกบวบบริเวณกลางผาใหแนน และสวยในบั้นปลาย คือ การตั้งทาเตรียมสะบัดลูกบวบ ซึ่งถือเปนขั้นตอนไคลแมกซของเรือ่งทั้งหมด จัดขอบผาคลมุไหลซาย

แลวสะบัดลูกบวบขามไหลคลองแขนซายไปใหดี เทาน้ีรับรองสวยงามไมมีที่ติแนนอน เปนสูตรของผมเองใชทั้งตอนหมเฉียงเปดไหลขวาเพ่ือทําวัตรหรือไหวพระในวัด และหมคลุมไหลเพ่ือบิณฑบาตและเดินทางนอกวัด

Page 12: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

12

ใครเห็น ใครก็ชมละวาผมครองจวีรสวยแนนเปรี๊ยะ ตอนกราบพระไมมีหลุดใหรําคาญใจ มือซายไมตองกําลูกบวบไวตลอดเวลาเพราะกลัววาจะหลุดเลย

แตแนวทางการหมของผมนี่เทียบไมไดกับพระเกาๆ หรือครูบาอาจารยทั้งหลายทานหมกัน เพราะทานจะหมงายๆ พันลูกบวบหลวมๆ ก็ดูดีแลว ไมตองมาเสียเวลานานเหมือนผม ผมจึงมักบอกใครตอใครวาเปนสัญลักษณบงบอกความเปนพระใหม-พระเกา (พระแกๆ) แตที่สําคัญคือ การหมครองจีวรใหสวยงามก็ถือเปนขอหน่ึงในพระวินัย ไมใชวาภิกษุจะติดเรื่องสวยงามดูดี แตทําใหเกิดความนาเลื่อมใสแกสาธุชนทั่วไป วาภิกษุเองก็ดูแลตัวเองอยางเรียบรอยอยางมีสติในทุกอิริยาบถ. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 8: ซอมขานนาค สิ่งที่ยากที่สุดสําหรับนาคที่จะบวช คงไมมีอะไรมากไปกวาการทองจําบทขานนาคขอบรรพชาและอุปสมบท ซึ่งเปนภาษา

บาลีลวนๆ ท่ีเราไมคุนเคย และหากไมสามารถทองจําได ก็ไมสามารถบวชได ถาจะวากันตามตั้งแตสมัยโบราณครูบาอาจารยเกาแกแลว การทองขานนาคนั้นไมเพียงแคตองทองจําแลวผานไป แตเปน

เครื่องบงช้ีสติปญญาของผูที่สนใจจะศึกษาธรรมะวามีความสามารถเพียงพอหรือไม ถาแคสามหนากระดาษนี่ทองจํากันไมไดแลว บทสวดมนตอื่นๆ หรือยอดพระกัณฑไตรปฎกตางๆ ก็คงเรียนไมไหวแน ทานไมใหบวชเลยเชียว

บางคนใชเวลาเปนนาคนับเปนเดือน ซอมทองขานนาคไดคลองปรอ พอถึงเวลาจริงแลวกลับติดขัดหรือลืมไปเสียอยางนั้นทานก็ไลลงอุโบสถไปเลย

แมกระทั่งสําเนียงการออกเสียง อยางที่เคยเลาใหฟงแลววาอักขระจะตองไมวิบัติแลวนั้น เสียงบางเสียงยังออกเสียงไมเหมือนกับภาษาไทย ยกตัวอยางเชน ตัว ณ.เณร นี่ไมไดออกเสียงวา นอ-เนน ธรรมดานะ แตมันตองออกมาจากลําคอและยกลิ้นกดเพดานบนพรอมทั้งอาปากออก อูย..อันนี้ขอไปลองสังเกตฟงกันเอาเองเถิด ผมเองก็ยังออกเสียงนี้ใหเพราะๆ ไมได

พระอาจารยเอกทานเคี่ยวเข็ญเราทั้งเชาและค่ําสําหรับการทองขานนาคนี้ ซอมกันทุกวัน วันละหลายๆ รอบ ถึงขั้นวาเดิน

ไปก็ทอง ทํางานไปก็ทอง อาบน้ําก็ทอง หรือแมแตนอนละเมอเพอพกก็ขอใหทอง อันนี้เปนมาแลว ผมเองในคืนกอนบวชฝนวาทองไมไดกลางฮอลลอุโบสถ ต่ืนขึ้นมายังคิดวาตัวเองบวชไมผาน ตองนั่งงงๆ อยูพักหนึ่งเลย บางคนบอกวาทองมาไดแลว แตพออยูตอหนาพระอาจารยเอกแลวลืม ลืมตอนเวลาทานจองทําตาโตๆ ใส ที่ทองมาในหัวก็มลายสิ้น เพราะทานดูนาเกรงขาม จนกลัวจะทองผิดไปเลย

Page 13: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

13

การทองขานนาคบางบทดีหนอย ทองพรอมกันทั้งหมด 7 คน บางคนยังจะพอออมแอม ถั่วงาๆ แบบเบิรดๆ ไปไดไมอายกัน แตพอบทหลังๆ เริ่มเหลือกลุม 3 คนบาง คนเดียวบางละก็นับเม็ดเหงื่อดูเปนรายคนได โดยเฉพาะบทที่ทองคนเดียว คือ สมาทานศีล 10 นี่บางคนวายากมาก ในหัวมันสับสนอลหมานประหนึ่งวาชาตินี้ขาไมเคยรูจักแมกระทั่งเรียงลําดับศีล 5 ยังไมถูกเลย มานับศีล 10 นี่ฆากันใหตายเลยดีกวา โดยเฉพาะตั้งแตขอ 6 7 8 ขึ้นไปนี่แทบไมเคยไดยิน ยิ่งรูความหมายของสิ่งที่ควรงดเวนแลวยิ่งบอกตัวเองวา ทํามายดายยย…!!!

แตใชวามีเพื่อนทองอยูดวยแลวจะดีขึ้นนะ เพราะถาหากคูนาคเราเขายังทองไมไดเลย แลวคร้ันจะมาเกาะชายผาเหลืองเราขึ้นสวรรคไปดวยละก็ ชิชะอยามาหวังกัน

เพราะที่เราวาทองไดๆ มาเจอคนทองไมไดก็เสียจังหวะ เสียความมั่นไปเหมือนกัน ที่ซอมมาเปนอยางดีก็ตองมาลมกลางหนอง ตองอับอายบรรดาญาติโยมกันก็คราวนี้ นี่จึงเปนเรื่องที่นาคทุกคนไมมีทางยอมเสียหนาในวันสําคัญ เพราะฉะนั้นหลังจากซอมกับพระอาจารยเอกแลว เราก็ไปซุมซอมกันเองอยูที่กุฏิเบอร 10 ของสองพี่นองคนละฝาพี่เจมสกับอั๋นซอมกันอีกหลายๆ รอบดังระงมไปทั่วทั้งวัด

ความไดยินถึงทานพระอาจารยเอกยังอดชื่นชมมาไมไดวาพวกเรานี่ขยันกันจริงๆไมเสียแรงที่อนุญาตใหมาบวชได เพราะวา

ทานเอยวาตองการคนที่ต้ังใจจริงในการศึกษาธรรมะมาโดยตลอดหากใครมาบวชเลนๆ บวชทิ้งขวางไมใสใจแมคําสั่งสอนของครูบาอาจารย ก็นับวาเสียขาวสุกและถือเปนการกันที่คนอื่นที่จะเขามาปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบในพระพุทธศาสนา เมื่อต้ังใจกันดีเชนนี้ บายวันนี้จะโกนหัวใหกับทุกคนเพื่อเตรียมเขาพิธีบรรพชาอุปสมบทในวันรุงขึ้น.

ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 9: เปดตัวแฟนนาค ชวงเวลาสําคัญของนาคในวันนี้คือการโกนหัว มาถึงตอนนี้แลวบอกไดเลยวาไมมีใครรองเสียดายผมเหมือนเด็กๆ สมัยมัธยมที่หนีอาจารยปกครอง เพราะเราไดเรียนรูมาแลว

บางวา ผม ขน เล็บ ฟนและหนังทั้งหลายนั้น เปนของไมสวยงาม ไมนาดูไมนาชม เกิดขึ้นแลวดับไป มีขึ้นแลวหายไป ไมควรไปอาลัยอาวรณถึงสิ่งเหลาน้ีอีกตลอดที่กําลังจะครองเพศบรรพชิตน้ี

Page 14: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

14

แตที่สําคัญกวาน้ันใจในของนาคบางคน คือการไดพบหนาแฟนเปนครั้งแรกนับตั้งแตที่มาอยูที่วัด หางหายไปนานไมได

เจอ คิดถึ๊ง…คิดถึง… พ่ีวัฒน เปนคนแรกที่ออกอาการกระดี๊กระดาที่แฟนสาวจะมาดอมๆ มองๆ การโกนหัววันนี้อยูหางๆ เพราะวายังไมไดเปดตัว

กับทางบานจริงๆ จังๆ เชนเดียวกับ โอ ที่ลือกันมาหนาหูวาแฟนนารักสวยใส พวกเราทุกคนก็อยากจะสัมผัส…ทางตากันสักครั้ง สูแฟน พ่ีเจมส ไมได เพราะคนนี้ตัวจริงเสียงจริง หลังบวชมีเบียดกันแนๆ ไมตองหลบๆ ซอนๆ ครับ มาไดอยางเปดเผย สวนเกงใหญน้ันแฟนไมไดอยูแถวน้ีอดแซวไป ออ…ไอพวกที่แซวนี่คือคนที่ผมไมไดเอยช่ือถึง เพราะลวนแตไมมีแฟนแมเพียงใหหวังวาเขาจะมาหรือเปลาเลย ไมตองหวังเลย มาแตพอแม ญาติมิตรก็ดีใจกันแลว

เรื่องญาติๆ ของนาคนี่ก็นับวาเปนเรื่องสนุกสนาน เพราะอยางที่นาคทราบอยูแกใจแลว พระอาจารยเอกก็เนนย้ําแลววาพิธีโกนหัวไมมีอะไรเลย เพียงแคโกนผมลงบนใบบัวแคน้ันจบ ญาติไมตองมากันมากมายใหเปลืองเวลา แตญาติโยมก็ลวนแตมีใจศรัทธา อยากจะมาย่ํายีหัวของนาคกอนที่จะหมผาเหลืองใหได

ญาติของนาคบางคนมากัน 3 รถกระบะ หวังที่จะมาตัดผมนาค ตัดไปตัดมาพระอาจารยแทบไมตองโกนแลว ญาติบางคนอยากมีพิธีรีตรองมากกวาน้ัน ก็มารับตัวนาคที่โกนหัวแลวออกไปแหแหนเสียรอบเมือง กลับมาแตงตัวชุดขาวราวกับเทวดา มีสายสรางทองคลองกายมาใหยุงเหยิง อันน้ีก็นับวาแปลกสําหรับแนวทางพิธีกรรมของวัดปา

อยากใหบรรดาญาติพ่ีนองและพอแมผูปกครองของนาคและพระใหมแตละคนไดเขาใจวา ที่ทานสงบุตรหลานใหเขามาบวชในวัดตางๆ น้ันก็ขอใหเขาใจปฏิปทาของวัดนั้นๆ ใหดีเสียกอน วาพิธีกรรมตางๆ ของวดันั้นเปนอยางไร เราในฐานะญาติจะจัดใหมีงานเอิก เกริกแบบนั้นจะสมควรอยูหรือไม หากบางวัดไมตองการใหมีพิธีใหญโต เราก็ไมควรฝนเพื่อทําลายความสงบของวัด และถาไมถูกจริตกันจริงๆ ก็ควรจะเปลี่ยนวัดไปเลย หากไปวัดบานจะไดรับความพึงพอใจในการบวชมากกวาก็ขออนุโมทนา

Page 15: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

15

ผมไดเห็นความศรัทธาของบางครอบครัวท่ีกําหนดใหบุตรหลานจะตองมาบวชที่วัดปาทางเหนือ เน่ืองจากชอบใจในพิธีกรรมที่

ไมยุงยาก เรียบงายตรงไปตรงมาตามพระวินัยท่ีปฏิบัติกันมาครั้งเกากอน ทั้งๆ ที่ครอบครัวน้ันพ้ืนเพเดิมอยูนครปฐมที่เวลามีงานบวชทีน้ันจะตองสิ้นเปลืองเงินเปนแสนบาท ตองเชิญคนมาเปนรอย เลีย้งอาหาร จัดโตะจีน มีมโหรีวงปพาทย แหแหนกันสามวันเจ็ดวัน

ครอบครัวน้ันกลบัมีความคิดเห็นวานาจะนําเงินสวนน้ีมาทําบุญพัฒนาวัดมากกวาที่จะเอาไปละลายแมนํ้า สวนเรื่องหนาตาของความเปนเจาภาพนั้นเขาคิดวาไมจําเปนเลย ลูกชายคนเดียวของเขาจึงดั้นดนเดินทางมาสมัครบวชถึงภาคเหนือน่ี หนีจากความวุนวายของสังคมเมือง หนีจากสภาพแวดลอมที่คุนเคย มาอยูอยางลําบากกับคนที่ไมรูจัก มาศึกษาธรรมะของพระพุทธเจา โดยที่ไมตองลงทุนลงแรงอะไรมากกวาจิตใจที่มีความศรัทธาตั้งม่ันนั้นอยางเดียว ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 10: โกนหัว “แกรกๆ…แกรกๆ…” เสียงลงมีดของพระอาจารยเอกดังขึ้นทันทีที่นาคพรอมสําหรับการโกนหัว กอนที่นาคจะบวชจะตองไดรับการยินยอมจากพอแมผูปกครอง เซ็นในเอกสารของทางวัด และหลังจากที่ญาติผูใหญทุกคนได

ตัดผมนาคลงในใบบัวพอเปนพิธีแลว พระอาจารยเอกก็ลงมือทันทีดวยความชํานาญ กับนับพันๆ หัวท่ีทานเปนมือโกนของวัดนี้มานับ 6 ป ประสบการณโชกโชนแตไมโชกเลือดน้ัน สอนใหทานดูลักษณะลูกศิษยที่กําลังจะเปนพระใหมในวันรุงขึ้นนี้ไดจากการโกนหัว

ทานวา ผมคนก็เหมือนจิตใจคน ใครผมแข็งๆ โกนยากๆ น้ันทานวามักจะเปนคนหัวแข็ง ดื้อเงียบอยูภายใน สวนหัวใครโกนงายๆ ผมออนๆ ทานวาคนนี้นิสัยนอบนอมและเชื่อฟงครูบาอาจารย

หัวใครมีเลือดออกมาหลังจากการโกนนี่แสดงวาไมดูแลตัวเอง ไมรักษาความสะอาดหนังหัว ทําใหเปนสิว (ขอน้ีเปนสัจธรรมมาก)

อันที่จริงทานไมไดตัดสินคนดวยเรื่องเพียงแคน้ีหรอกครับ นับตั้งแตพอแมผูปกครองพามาสมัครบวช ทานก็ดูจริตของทุกคนในบานประกอบกับนิสัยของนาคทุกคนไวแลว ทานจําไดแมน เวลาสอนขานนาคหรือมารยาทตางๆ ทานก็มองรูไดจากการสบสายตา ใครตาแปวแหวว ใครหลบสายตา ใครใชหางตา ใครมองหนาตาใส เหลาน้ี ถือเปนกลยุทธที่รูจักนิสัยของนาคไวกอน สอนรอยครั้งก็ชนะกันรอยครั้งทุกทีไป

Page 16: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

16

หลังจากการโกนหัวและคิ้วไปในคราวเดียวกันแลว ก็เปนอันเสร็จพิธี ญาติบางบานก็ยังวาวุนอยูกับการเลือกวิธีจัดการกับผมที่

หออยูในใบบัวน้ีวาควรจะทําอยางไรถึงจะด ี พระอาจารยเอกทานก็มักตอบวา ทําอยางไรก็ไดแลวแตที่เชื่อกันมาของแตละบาน เพราะทานก็ไมอยากขัดใจญาติบางคน อยากเอากลับบาน อยากเอาไปลอยน้ํา อยากไปฝงดินและอยากอื่นๆ อีกมากมาย

สวนในใจพระอาจารยเอกทานจะบอกวาใหทิ้งไปเสีย ก็เพราะอยางที่รูกันแลวน่ีวาของเหลาน้ีไมนาดูไมนาชม แลวจะไปยึดติดพิธีกรรมกับสิ่งที่ไมจีรังอยางนี้อยูทําไม

สวนผมของผมนั้นแมเอาเก็บใสกระเปากลับบานไป ผมก็ไมไดถามอีกวาเอาไปไวที่ไหนแลวเพราะวาไมตองการใสใจกับมันอีก สงญาติกลับบานแลวเตรียมซอมขานนาคเปนครั้งสุดทาย

พระอาจารยเอกจดัใหพวกเราไปซอมกันในโบสถ ซึ่งจะเปนสถานที่จริงในการประกอบพิธีกรรมในวันพรุงน้ี เกงใหญคูนาค

ของผมแสดงความมั่นใจสําหรับการขานนาคที่ผมคอยจ้ําจี้จ้ําไชใหเขาซอมทองมาใหได ผมกับเกงใหญนับเปนคูนาคคูกลางเพราะวานับเรียงตามลําดับอายุ ผมอยากจะประสานเสียงกันออกมาดังๆ ใหดูวาคูดูโอคูน้ีเตรียมตัวมาดีกวากลุมของพี่วัฒน พ่ีเจมสและอั๋น กับคูของเกงเล็กและโอ ทั้งน้ีจริงๆ แลวก็เพ่ือเสริมกําลังใจใหกับคูสุดทายน่ันแหละ ที่ยังทองกันไมคอยได มีใหลุนมีใหเสียวกันทุกบททีเดียว

Page 17: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

17

ครับ!! ผมพรอมแลวครับสําหรับการเขาพิธีบรรพชาอุปสมบท ไมใชประจําปภาคฤดูรอน แตออกจะเปนฤดูเหงาเสียมากกวา เปนชวงเวลาที่วางจากการมีภาระกิจทางโลกทั้งปวงแลว เหงาๆ ก็เขามาบวชตามความตองการของตัวเองที่จะศึกษาธรรมะ พรอมๆ กับเพ่ือนสหธรรมิกอีก 6 คนที่มาบวชพรอมกันที่น่ีโดยไมไดนัดหมาย ไมไดรูจักกันมากอน มีพระพ่ีเลี้ยงคือพระอาจารยเอก ซึ่งนับแตที่พวกเรากาวเขามาในเขตวัด ทานก็จับจองดูแลสอนสัง่เรามาอยางเต็มที่ ทั้งการดูแลบาตร การนุงหมจีวร การซอมขานนาคและมารยาทตางๆ ในวัด ทานโกนหัวใหเราแลว และพรุงน้ีคือวันจริงที่จะไดเห็นผลจากการพยายามมาทั้งหมดตลอด 3 วันที่ผานมาในวัดปาแหงน้ี. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 11: วันบวช เชาวันบวช…พวกเราเหลานาคเจ็ดตนทําวัตรเชาเสร็จแลวไมตองเดินตามบาตร เพราะพระอาจารยเอกสั่งใหทุกคนอาบน้ําเสีย

ใหม ชําระลางรางกายกอนที่จะเปลี่ยนเปนชุดนาคสีขาวที่ทางวัดไดเตรียมไวให แลวไปกินขาวเชาและรอเขาพิธีอุปสมบทในอีกไมกี่ช่ัว โมงขางหนา

เมื่อถึงวันงานใหญๆ อยางงานบวชพระใหมเชนนี้ ผมไมเคยเห็นพระอาจารยเอกลงบิณฑบาตและฉันเชากับเขาสักที แตทานกลับวิ่งขึ้นลงกุฏขิองนาคเพื่อแตงชุดนาคใหกับทุกคนแบบปฏิบัติการสายฟาแลบ

ขณะที่ผมกําลังงวนอยูกับการทบจีบดานหนาของสบงสีขาวเพื่อจะรัดประคดเอวอยูในหองน้ัน พระอาจารยเอกก็เปดประตู “พลั๊ว !” เขามาในหองผมโดยที่ผมยังนุงผาไมเสร็จ ผมจึงรีบรวบผาสบงมาชิดตัวจนรุมราม

“ไมไดเรื่องๆ ถอดกางเกงในออกเดี๋ยวน้ี!” ทานสั่ง “แอะ!” ผมรองอทุานขึ้นในใจ น่ีเราตองจําพรากจากนองลิงไปแลวเหรอ ผาสบงนาคก็สีขาวนะ ผมไมมีเวลาคิดอะไรมากไปกวานั้น เพราะสีหนาดุดันของพระอาจารยเอกสะกดผมไวใหตองทําตาม ในขณะที่ทานก็รวบหัว

รวบหางแตงตัวใหผมเสร็จโดยที่ไมไดพูดอะไรมากไปกวาน้ัน แลวทานก็หายตัวไปขึ้นกุฏิอื่นตอ ทําอยางนี้อยู 7 ครั้งตลอดเชาน่ัน มารูทีหลังวา โอกับพ่ีวัฒน ยังไมยอมหางหายจากนองลิง ยังแอบใสไวอยู นัยวาไมคุนกับความโลงและพูดประหนึ่งวา เราจะไมพรากจากกัน…

Page 18: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

18

วันน้ันกอนเริ่มพิธี ญาติโยมมาไมมากเทาที่คาดคิดไว ก็คงเปนเพราะพวกเราสวนใหญไมคอยนัดใครใหมารวมงาน เพราะรูดีวางานบวชแบบวัดปาน้ีตองการความสงบและไมมีงานรื่นเริง เรื่องทีจ่ะเลี้ยงแขกมากๆ บวชประกาศความยิ่งใหญของฐานะทางบานจึงไมมีทุกคนมารวมพิธีและอนุโมทนาบุญรวมกัน

กอนจะเขาสูอุโบสถเพื่อเริ่มพิธีบวช นาคและญาติๆ จะตองเดินเวียนประทักษิณสามรอบ นาคเดินนํา พอถือบาตร แมถือผาไตรและญาติถือเครือ่งไทยทานอื่นๆ ตามมา เพ่ือเปนการขออนุญาตเขาสูเขตพันธสีมาแหงการที่จะทําสังฆกรรมบวชในครั้งนี้ เมื่อนาคทุกคนน่ังประจําที่ตามลําดับอาวุโส ใครบวชกอนบวชหลัง พระอุปฌชาย พระคูสวด 2 และพระอันดับอีก 12 น่ังพรอมกันแลว พิธีอุปสมบทแบบ “ญัตติ” ก็เริ่มขึ้นอยางเรียบงาย แตยังความปลาบปลื้มในใจของพอแม ญาติมิตรทุกคนที่มารวมงาน

สวนในใจของนาคทุกคนตอนนั้นคิดสะระตะไปตางๆ นานา “กลัวผาหลุด กลัวลืมบททองขานนาค” และสารพัดจะนึกคาดเดาไปกอน แตภาษาฝรั่งบอกไววา “เดอะ โชว มัสต โก ออน” ใชแลวละ “เราจะทําดีที่สุด !”

เมื่อถึงเวลาอันเปนมงคลฤกษ คือ ฤกษสะดวก นาคจะเริ่มจากการเปลงวาจาขอบรรพชาเปนสามเณรกอน คือบท เอสาหัง ภัณเต

ที่ทุกคนทองกันจนขึ้นใจแลว พระอุปฌชายทานจะสอนพระรัตนตรัยและบทกรรมฐานเบื้องตนให หลังจากนั้นใหนาคไปเปลี่ยนชุดครองจีวรเขามาในหัตถบาตใหม พระใหมกลาวขอไตรสรณคมณเปนที่พ่ึง จากนั้นพระใหมกลาวขอสมาทานศีล 10 เปนอันจบไดเปนสามเณรกอนในเบื้องตน

จากนั้นเริ่มขออุปสมบทเปนพระโดยการขอนิสสัยจากพระอุปฌชาย พระกรรมวาจารยบอกบาตรและจีวรวามีพรอมแลวสําหรับการบวช สอนซอมถามถึงอันตรายิกธรรม คือ ถามถึงความเปนผูมีคุณสมบัติพรอมที่จะบวชได เชน เปนผูไมมีโรคติดตอ ไมไดรับราชการ เปนมนุษยผูชาย และพอแมอนุญาตใหมาบวชได สามารถบอกนามของตนเองและพระอุปฌชายได สุดทายพระใหมเปลงวาจาขออุปสมบทเปนขั้นตอนสุดทาย คือบท สังฆัม ภัณเต…และไมมีภิกษุรูปไหนหรือผูใดคัดคานการบวชในครั้งน้ี เปนอันเสร็จพิธีบวชแบบ “ญัตติ” ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 12: ความผิดครั้งแรก

ภายหลังจากพิธีบวชเสร็จสิ้นลง เปนเวลาของญาติๆ และเพื่อนของพระใหมที่จะเขามามะรุมมะตุมขอถายรูปคู รูปหมูไวเปนที่ระลึก ประหนึ่งกับวาเราเปนดารา ผิดเสียแตวาไมมีมาขอลายเซนต

ผมเองเปนพระใหมก็เกกมาก พยายามทําทีใหดูขรึมนาเลื่อมใส จะไปเลนหัวกับเพ่ือนๆ ก็ไมไดแลว เวลาถายรูปก็ไมกลายิ้มหรือชูสองนิ้วสูตายเหมือนเมื่อกอน เดี๋ยวจะเสียภาพพจนพระกรรมฐานเขาหมด

Page 19: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

19

ผมโดนลองของทันทีที่มีคนรูจักนําปจจัยมาถวายไวใหใชยามที่เปนพระ เรื่องน้ีพระอาจารยเอกทานประกาศลั่นไวตั้งแตกอน

บวชแลววา เมื่อรับศีลสิบแลว ชาตะรูปะระชะตะ ปะฏิคะหะนา เวรมณี น้ันหามจับตองใชเงินทองจะอาบัติ ผมจึงแนะนําใหใสตูบริจาคบํารุงวัดเสียใหหมด เปนวิธีแกปญหาที่นึกขึ้นไดในตอนนั้น

แตเรื่องผิดพลาดในชีวิตพระก็เกิดขึ้นกับผมจนได เมื่อมีผูใหญมาถวายสังฆทานใหผมที่โรงฉัน ถึงแมขณะนั้นเปนเวลาจวนจะเที่ยงวนัอยูแลว ดวยความที่ลืมขอหามในกาลิก 4

ประกอบกับอยากโชวเพ่ือนพระใหมวาสามารถใหพรบท ยะถา…สัพพี ไดตั้งแตวันแรกที่บวช ผมก็รับของประเคนมาแลวหันไปสบตากับพระอาจารยเอก ขออนุญาตใหพร ทานก็พยักหนา ผมก็เริ่มใหพรทันที

ปรากฏวาสังฆทานนั้นประกอบไปดวยนมตราหมี มามาและอาหารแหงอื่นๆ ซึ่งลวนแลวแตจะหมดอายุฉันลงทันทีเม่ือพนเที่ยงวันของวันนั้น พระอาจารยเอกทานมองดูผมอยูหางๆ กอนที่จะมากระซิบสั่งใหสละสังฆทานนี้ใหกับนองเณรและเจาหนาที่ของวัดไปใหหมด

“สอนไมจํา!” ทานวาผมหลังจากนั้น “หลวงพ่ีสอนแลวไมใชเหรอวา ของที่มาถวายพระจําพวกอาหารนั้น ถารับประเคนแลวจะมีอายุถงึเที่ยงของวันนั้น สวน

วัตถุดิบจําพวกน้ําออย นํ้าผึ้ง เนยขนและเนยใสมีอายุ 7 วันหลังจากวันที่นับประเคน นํ้าปานะที่เปนผลไมมีอายุ 1 คืนและพวกที่เปนยาเทาน้ันที่พระจะสามารถฉันไดตลอด…นมนี่วัดเราฉันเปนปานะหลังเที่ยงไมได เอาเก็บไวใหนองเณรฉันตอนเชากอนไปโรงเรียน ที่เหลือเอาเขาโรงครัวของผูที่มาพักปฏิบัติธรรมใหหมด หามนํากลับมาประกอบอาหารใหพระอีก”

ครับ…ใชแลวพระอาจารยสอนแลว แตผมกลับไมทันระวังตัวเลย ไมพิจารณาของใหดีกอนที่จะรับประเคน สงสารคนที่มาถวายสังฆทานแกเราที่เปนพระกลับไมไดใช ตองยกใหกับคนอื่นไป กลัววาโยมเขาจะไมไดรับผลที่สุดแหงบุญที่ตั้งใจทําน้ัน เปนเพราะเราเปนพระที่บกพรองน่ันเอง คราวหนาจะตองระวังใหมากและตองกลับไปทบทวนเรื่องการรับประเคนกับกาลิก 4 น้ีใหม่ัน เพราะพระอาจารยเอกทานจะไมมาสอนพวกเราซ้ําซากอีก ใหตนเปนผูเตือนตนเองดีที่สุด

Page 20: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

20

เย็นวันนั้น พระอาจารยเอกเรียกเหลาพระใหม “ขบวนการจูเรนเจอร” ทั้งหมดมารวมกันที่กนกุฏิทาน กําชับพวกเราเรื่องสิ่งของตองประเคนที่เคยมีสะสมกันไวในกุฏิกอนบวช ใหสละออกมาใหหมด ภิกษุหามสะสมอาหารและใหมาฉันปานะรวมกันที่โรงนํ้ารอนใตกุฏิทาน แมแตยาสีฟน พระใหมตองวิ่งโรไปเรียกนองเณรมาประเคนใหม เพราะเปนสิ่งที่อาจกลืนลวงเกินลําคอลงไปได ผาครอง สบง จีวรและสังฆาฏ ิ บาตร รวมทั้งเครื่องบริขารตางๆ พระอาจารยเอกทานสอนใหเราทําพินทุ กับปะและอธิษฐานใชใหมทั้งหมด

“ทําใหถูกตอง ทําใหเหมือนกัน ทําเสียทีเดียว ทําเฉพาะที่บอกใหทําและหามทํานอกเหนือจากที่ไดบอกไป” ทานวาเพื่อไมใหมีขอผิดพลาดแบบเมื่อเชาเหมือนผม ขอใหทุกคนทบทวนขอวัตรปฏิบัติตางๆ ที่พระอาจารยทานสอนไปดวย ตอไปนี้จะสอนอนุศาสนแปดและพระวินัย 227 ขอ ใหรักษาศีล เพ่ือศีลจะกลับมารักษาเราเอง. ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 13: กุฏิ 29 กับวันอัศจรรยของผม ภาคแรก พักเรื่องวินัยละเอียดๆ มาขึ้นกุฏิใหมกันกอนดีกวาครับ. หลังจากที่ผมบวช มีกุฏิในซอยกลางวางอยู 1 หลังคือเบอร 29 เพราะ หลวงพ่ีโตโตทานยายไปอยูกุฏิ 6 หลังกุฏิของพระอาจารย

เอกเพื่อท่ีวาจะไดดูแลโรงน้ํารอนแทนทานและอุปฏฐากพระอาจารยไดทันทวงทีที่เรียกหา กุฏิหมายเลข 6 น้ันถือวาศักดิ์สิทธิ์ย่ิงเพราะวาคนที่รูงานเทาน้ันถึงจะไดมีสิทธไปอยู และตอนนี้หลวงพ่ีโตโตก็เปนลูกศษิยกนกุฏิอันดับหน่ึงของทานแลวจึงไดยายไป

กุฏิเบอร 29 ยกพ้ืนสูงประมาณ 60 เซนติเมตร เปนพ้ืนโครงสรางไม ผนังกุฏิกออิฐฉาบปูนเรียบสีขาวธรรมดาๆ มีระเบียงดาน หนากวางพอประมาณและมีหองนํ้าอยูติดกับสวนหองนอน หลังคามุงกระเบื้องใยหินแบบบานสมัยเกา ขนาดกวางยาวนั้นไมเกินขอกํา หนดในพระวินัยเลย คือ 2.5 x 2 เมตร

หลวงพ่ีโตโตทําความสะอาดเก็บกวาดกุฏิใหแลวก็ไมเหลืออะไรเลย กุฏิน้ีไมมีเครื่องเรือนมากไปกวาโตะญ่ีปุน 1 ตัวสําหรับ

อานหนังสือและเกาอี้พลาสติก 1 ตัววางที่ระเบียง ไมมีเตียงและไมมีตู หองนํ้าขนาด 1 x 2 เมตร พ้ืนปูกระเบื้องโมเสครุนเกา มีโถสวมน่ังราบแบบตักราดกับถังรองน้ําอาบ 1 ใบก็เต็มพ้ืนที่หองนํ้าแลว

“หลวงพ่ีโตโตมีอะไรจะบอกผมไหมเกี่ยวกับกุฏิน้ี” ผมถามเพื่อใหแนใจวากุฏิหลังน้ีคงไมมี ‘อะไร’ แบบที่ผมเสียวไมอยากใหมี อุตสาหไดยายมานอนที่ใหมแลว ตองดีกวาที่เกาสินา…

“ไมมีอะไรนะ ก็นอนดี เออ! ระวังหองนํ้าไวสักหนอยละ ดึกๆ มันชอบออกมา” หลวงพ่ีตอบทําใหผมชักสีหนาไมดี “ตุกแก กับ คางคงนะ มันชอบเขาไปอยูในหองนํ้าถาไมปดประตู” โฮ…ผมละโลงใจ ผมไมกลัวตุกแกผีเหมือนในหนังหลอก

เด็กหรอกนา คางคกก็นาเอ็นดูจะตายไป แตสําหรับ หลวงพ่ีเจมส เรื่องนี้เปนเรื่องสําคัญมาก

Page 21: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

21

ที่กุฏิ 34 ก็มีตุกแกขาประจําอยูเชนกัน เรื่องทราบมาวาตกโตตัวน้ีเดิมทีไมไดอยูที่น่ีแตวานองเณรไปจับมาแกลงพระรุนกอนๆ ที่กลัวสัตวเลื้อยคลานตาโตนี้ขึ้นสมอง บัดนี้ทานไดสึกไปแลว มรดกตกทอดก็มาถึงพ่ีเจมสที่ไดยายจากกุฏิเบอร 10 ที่อยูกับหลวงพี่อั๋นมาฉายเดี๋ยวที่น่ี แถมไดของแถมเปนสัตวเลี้ยงนารัก ที่พ่ีเจมสเกลียดมากๆ แคไดยินเสียงก็ขนพองสยองเกลา ไมกลาเขาใกล กลัววาวันดีคืนดีมันจะพิศวาสมาจูบตนคอ งานนี้พระใหมคงมีกรี๊ด…หลวงพ่ีเจมสไมรีรอขอปรึกษาพระอาจารยเอกทันที

“ผมสอนคุณไปแลวไมใชหรือ เรื่องประวัติของบทสวดเจริญพระพุทธมนตสิบสองตํานาน โดยเฉพาะคาถาขันธะปะริตนะ” พระอาจารยไมไดกลาวอะไรมากไปกวาน้ี แตหลวงพ่ีเจมสกลับรูสึกวาเปนสรณะที่พ่ึงสูงสุด คาถานี้เปนคาถาไลสัตวเลื้อยคลานนี่ พระกรรมฐานทานใชเวลาปกกลดนอนธุดงคกลางปา ไดผลชะงัดนักแล

วาแลวหลวงพ่ีเจมสก็กลับกุฏิมองหาเจาวายราย ขออโหสิหน่ึงทีกอนกมหนากมตารายคาถาเริ้มดวย “วิรูปกเขหิ เม เมตตัง…” หวังวาจะลาแลวลาลับกันเสียที คาถานี้ยาวแคไหนใจทนได หลวงพ่ีเจมสวาจนจบแลวเพ่ิมบทแผเมตตาใหอีกเปนโบนัสพิเศษ แลวจงึเงยหนาดูผลลัพททันที…

“จาก!! มันยังอยูที่เดิม” หลวงพ่ีเจมสเลาใหเหลาพระใหมฟงจนหัวเราะงอหาย หลังจากที่ไปโอดครวญกับพระอาจารยเอกวา

มนตบทนี้ไมไดผลเลย ตกโตยังคงเกาะติดผนังแนนเหมือนเดิม พระอาจารยทานอมยิ้มปลอยใหเปนปริศนาธรรมอยูอยางนั้นเอง. ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 14: กุฏิ 29 กับวันอัศจรรยของผม ภาคหลัง กุฏิเบอร 29 ของผมนั้นอยูเยื้องๆ กับกุฏิเบอร 31 ของเกงเล็ก แตวาขนาดไมเทากันเพราะสรางกันคนละป กลุมกุฏิในแถวของ

ของเกงเล็กมีระเบียงกวางเหมือนกันทั้งหมด หันหนาเขาหากลุมกุฏิในแถวของผม ที่หางออกมาสัก 10 เมตร มีทางเดินผานตรงกลางในสวนลิ้นจี่

หลังจากที่ผมจัดแจงปูเครื่องนอนลงบนพื้นหองแลวก็พบวา หองนอนของผมไมมีอะไรมากไปกวาหมอนสองใบกับใจเหงาๆ และผาหมหน่ึงผืน ที่วางบริเวณหัวเตียงผมเวนไววางหนังสือธรรมะของหลวงพอชาและทานพุทธทาสที่พกมาจากบาน 5-6 เลม วางบาตร สังฆาฏิและกระปองนํ้า ทางดานปลายเทามีเสนลวดขึงอยูระดับเหนือหัวถึงผนังสองดาน เพ่ือตากจีวร เทาน้ีก็เพียงพอแลว เทาน้ีผมก็อยู

Page 22: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

22

ได เพราะถานับเอาตามความจําเปนที่จะตองมีเสนาสะสําหรับจําพรรษาแลว เพ่ือกันความรอน-หนาว เพ่ือกันสัตวตางๆ มาทํารายและปองกันอันตรายอันจะเกิดจากลมฟาอากาศทั้งปวง เทาน้ีก็ดีเกินพอแลว

การจําวัดบนกุฏิที่วัดนี้ ตองอาศยัการปรับตัวและความอดทนมากในชวงแรกๆ เปนเพราะผมนอนบนตึกใหญมากอน โดยไม

รูวาที่กุฏิช้ันเดียวน่ีเขาตองประสบกับปญหาอะไรบางในตอนกลางคืน ในบริเวณสังฆาวาสของวัดผมเปนตนลิ้นจี่สูงใหญครับ ในชวงเดือนพฤษภาคมเชนนี้ ลิ้นจี่ออกลูกออกรวงกันแดง ลิ้นจี่ที่สุก

ก็รวงหลนลงมาราวกับพายุลูกเห็บเวลามีลมกรรโชก ทุกเชาเย็นพระเณรตองมาเก็บกวาดทําความสะอาด เพราะหากปลอยไวนานๆ ลูกลิ้นจี่จะเนาและสงกลิ่นเหม็น อีกทั้งลิ้นจี่ก็ยังเชิญขวนใหผึ้งนอยมาดอมดม เปนผึ้งกลุมเดียวกับที่ถวายชีวิตไปตอยเทาหลวงพี่วัฒนคราวน้ันน่ันเอง

และน่ีเองเปนที่มาของเสียง ตะลุบตุบตั้บ ทั้งคืนบนหลังคากุฏิบริเวณนี้ ยามที่ลูกลิ้นจี่รวงหลนลงบนหลังคากระเบื้องบางๆ เสมือนหน่ึงโดนเครื่องบินทิ้งระเบดิ ทั้งคืน หลนทั้งคืน ไมโดนหลังคาโนน

ก็ลงหลังคานี้ กวาจะทําใจยอมรบักับเสียงน้ีไดก็หลายคืน และโชคประจวบเหมาะอีกวา ชวงนั้นเองนองหมาทั้งวัดก็เปนสัด ถึงเวลาผสมพันธุที่รอคอยกันมายาวนาน กลางค่ํากลางคืน

ถาไมเหาแยงตัวเมียกันแลวละก็ จะตองหอนครวญครางบงบอกอารมณที่เสพสุขใหตัวอื่นๆ ไดรับรู นองหมาตัวอื่นๆ ก็หอนรับประมาณวา “รูแลว ๆ ๆ ๆ” ทั้งคืน หอนทั้งคืน โดยเฉพาะอยางยิ่งตัวไหนมาหอนใตกุฏิดวยละก็ เสียวสันหลังวาบ เพราะนี่ผมกําลังนอนอยูในวัดที่เคยเปนตําแหนงปาชาเกามากอน แลวเสียงหมาหอนก็มักจะคูกับการบงบอกถึงการมาของอาคันตุกะที่ไมไดรับเชิญมาทุกยุคทุกสมัย ก็เราเปนคนนี่ ฟงเสียงหอนไมออกวานองหมากําลังหอนวา “รูแลวๆ ๆ ๆ” หรือวา “ผีมาแลวๆ ๆ ๆ” กันแน

และแลวคืนหน่ึง ผมก็เจอดี !!

Page 23: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

23

ในขณะที่ผมกําลังนอนหลับอยูน้ัน ผมไดยินเสียงอะไรบางอยางอยูหนาประตู มันใกลมากเหมือนมีใครยืนอยูหนาประตูแลวพูดดวยเสียงยานคางวา

…”ป…วาาาา…โลงงงง…ๆ ๆ” น่ันชื่อผมนี่ เสียงที่เรียกชื่อผมซ้ําๆ อยูน่ี ใครมาเลนตลกนะ ผมนอนนึกในใจ เสียงน้ันยังไมหยุด แตในใจผมสะดุดนึกไดวาเสียงเหมือนหลวงพี่อั๋นพระใหมรวมรุนกุฏิ 10 ใกลๆ น้ีมาก หลวงพ่ีอัน๋เรียกชื่อ

ผมอยางนี้เสมอเลย ผมเลยทําไมใสใจตามตํารา ถาเราแสดงวากลัวเดีย๋วเขาจะไดใจ ออุุ รุงเชากอนแสงตะวันจับขอบฟา ผมเจอหลวงพี่อัน๋กอนขึ้นวิหารทําวัตรเลยถามไปทันทีวา เมื่อคืนตอนดึกๆ มาเรียกผมทําไม

คําตอบที่ไดคือ “ไมไดไป! บาเหรอ หลอกภิกษุใหกลัวผี อาบัติชัดๆ ผมไมทําหรอก” หลวงพ่ีอั๋นตอบทําใหผมอึ้งไปสักพัก คิดทบทวนในใจวา

ถาไมใชคนเรียก แลวท่ีเหลือจะเปนอะไร…ถาไมใช…ผี!!! ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 15: หมาวัด ผมเก็บความสงสัยน้ีไวไดไมนาน เรื่องเด็ดๆ แบบนี้ ตองไปไลถามพระใหมทุกคนใหรูเรื่อง สวนตัวผมนะไมกลัวเรื่องแบบนี้แลวนับตั้งแตพระอาจารยสอนสั่งใหสติในคราวนั้น แตที่ตองเลาสูใหรูกันทั่วไปเพราะจะไดเพ่ิม

บรรยากาศความนากลัวใหกับการนอนในวัด พระใหมหลายรูปเปดไฟนอนกันเลยทีเดียว บางรูปไมกลาลุกขึ้นมาเขาหองนํ้ากลางดึก ทุกคนเรงทําความเพียรต้ังใจทําวัตรสวดมนตและรักษาศีล หวังใหศีลรักษาก็นับวาเปนกุศโลบายที่ใชไดเหมือนกัน

หลายคืนตอมา… เสียงเรียกชื่อผมกลางดึกกลับมาอีกครั้ง “ป…วาาาา…โลงงง…ๆ ๆ”แตคราวนี้ไมธรรมดา ที่ประตูหองน้ันเหมือนมีเสียงเล็บกรีด “แกรกๆ ๆ” อยูหลังประตูดวย “โอว…แมเจา! คราวนี้มีซาวน เอฟเฟคประกอบดวย” ผมคิดในใจวาไมไหวแลวนะ จะหลับจะนอนก็มากวนกัน ในเม่ือพระพุทธ

เจาทานตรัสวาทุกสิ่งลวนมีมาแตเหตุ คราวนี้แหละจะขอจะเอตนเหตุกันอยางกระจะๆ ตากันไปเลย ผมลุกพรวดพราดไปเปดประตูทันที “ผลั๊วะ !” สิ่งที่ผมเห็นในระดับสายตาคือความวางเปลา “แตเอะ ! จะดใีจดีไหมนะ ที่ไมเห็นอะไร เพราะถาเปนผีเราก็คงไมเห็นเขาอยูดี” ผมคิดพลางกมลงมองบนพื้นระเบียงหนาหอง

ก็พบกับตนเหตุแหงเรื่องราวทั้งหมด “ไอ แคบหมู!”

Page 24: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

24

แคบหมู เปนหมาวัดพันธุแทที่นารักนาชัง ขนสั้นๆ สีนํ้าตาลออน อยูเปนนายทหารอารักขาประจํากฏุิ 29 มานานแลว หลวงพ่ีโตโตยังไดเคยสั่งเสียใหดูแลใหอาหารมันบาง เพราะวาตัวเล็ก แยงอาหารจากพี่หมาตัวอื่นๆ ไมได แลวในวันนี้ความจริงก็ปรากฏ เมื่อแคบหมูพูดภาษาคนไดงั้นเหรอ? ผมคิดวาคงไมนาใช แตแคบหมูคงพรรณาละเมอเพอพกไปถึงแมหมาตัวเมียอยูนะสิ ทําเสียงครางหงุง หงิงๆ งุงิๆ อยูหนาประตูหองผม คืนนี้คงออกอาการมาตะกรุยประตูหองผมดวยละสิ คนเราก็ฟงไมไดศัพทกลับมาคิดวาหมาเรียกชื่อคน อุย…อุตริกันเขาไป…เปนอันวาจบคคีปริศนาไปอีกเรื่องหนึ่ง

พูดถึงแคบหมูแลว ตองกลาวถึงวงศาคณาญาติของมันดวย เพราะที่วัดนี้มีนองหมามากถึง 20 ตัวหรือมากกวาน้ันที่บางทีมันก็

ชักชวนแขกเหรื่อนอกวัดเขามารวมสังสรรคอาหารกนบาตรกันตอนเชาๆ ‘แคบหมู’ เปนลูกของ ‘แมหมู’ ซึ่งในครอกเดียวกันนั้นยังมีเจา ‘ลูกหมู’ และ ‘นํ้าปู’ ออกมาพรอมกันดวย นองหมารุนลูกทั้งสามตัวนารักนาชังเปนที่เอ็นดูแกพระเณรทั่วไป ทําหนาที่พิทักษรักษาประจํากุฏิตางๆ โดยเฉพาะกุฏิเบอร 14

ของหลวงพี่แจคน้ัน ถือเปนแหลงอาศัยช้ันดีมีขาวกินและบริการอาบน้ําใหเสร็จสรรพ แคบหมูอยูกับผมไดไมนานก็มีอันตองระเห็จไปอยูที่อื่น เพราะวา ‘เจาขาว’ ที่อายุมากกวามาเบียดบังที่นอนหนากุฏิและอาหาร

เชาจากผมบอยๆ เขา แคบหมูก็เริ่มกลัว แตดวยความรักที่ผมมีตอแคบหมูมากอน เปรียบเจาขาวเหมือนเปนตัวอิจฉามาทําเปนเจาขาวเจา ของผมตั้งแตเมื่อไหร ผมเลยมักจะเก็บอาหารดีๆ ไวใหแคบหมูเสมอๆ แตตองระวงัไมใหเจาขาวเห็นเพราะมันจะกัดแคบหมูจนจมเขี้ยวได

ไกลออกไปที่กุฏิเบอร 3 มี ‘เจาเตี้ย’ ‘ไสกรอก’ และ ‘อีดํา’ วนเวียนอยูใตรมเงาของพระอาจารยเชาวน หมานอยเหลาน้ีถือเปนนองหมาชั้นดี มีความนารักนาชังสวนมากจะตัวสีขาวหรอืไมก็ทําตัวเรียบรอยๆ สามารถอยูประจํากุฏิ

ไดตลอดเวลา เรียกวาเปนนองหมาพรรคเทพ สวนนองหมาพรรคมารนั้นสวนมากจะตัวสีดําๆ ไมสะอาดสะอานและชอบสงเสียงขูเวลาใครเดินผานใหเปนที่นาเกรงขาม ผมเองก็ไมอยากเขาใกลเทาไหรเลย. ติดตามตอนตอไป

Page 25: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

25

ตอนที่ 16: ศีลท่ีรักษายาก สองวันแรกของการบวช พระอาจารยเอกจับพวกเรามาเคี่ยวหนักเร่ืองพระวินัยในศีล 227 ขอ ใหรูวาสิ่งไหนทําได สิ่งไหน

ไมควรทํา ทุกคนจะตองมีปาฏิโมกขสังวรศีล เพื่อท่ีจะเปนเกราะปกปองตนเอง ตามคําสวดทุกๆ เย็นวา…บัดนี้เรามีเพศตางจากคฤหัสถแลว กิริยาอาการใดๆ อันบรรพชิตควรประพฤติ เราตองทํากิริยาอาการนั้นๆ…

พระอาจารยเอกย้ําเสมอวาที่เราไดมาบวชนั้นมีโอกาสดีกวาหลายๆ คน จงตั้งใจรักษาศีลใหบริสุทธิ์ มิเชนนั้นแลวก็ไมตางอะไรกับ ‘ผาเหลืองหมตอ’ ไมไดชวยจรรโลงพระพุทธศาสนาซ้ํายังจะทําใหเศราหมองลงไปดวย

“เผี๊ยะ!” หลวงพี่วัฒนกับหลวงพี่เกงเล็กนําทีมตบยุงกอนเพ่ือนเลย ทั้งๆ ที่กําลังเรียนพระวินัยตอหนาพระอาจารยเอก

เรื่องของเรื่องก็คือวาชวงที่พวกเรากําลังบวชนั้น ละแวกหมูบานที่วัดต้ังอยูเปนเขตเตือนการระบาดของโรคไขเลือดออกพอดี มีเด็กนอยเสียชีวิตไปแลวดวย 1 คน และที่สําคัญ หลวงพี่รูปหนึ่งก็ไดรับการวินิจฉัยจากแพทยที่โรงพยาบาลวา ‘อาจจะ’ เปนไขเลือดออก พวกเราก็เลยหนาวๆ รอนๆ ไมอยากใหยุงกัด แตเนื่องจากวัดเราเปนวัดปายุงมหาศาลทั้งกลางวันกลางคืน หลีกเลี่ยงไมไดจะตองโดนกัดกันทุกคน

ใจจริงพี่วัฒนกับเกงเล็กก็ไมไดต้ังใจตบหรอกครับ แตเปนความเคยชินติดมาจากกอนบวชวา ยุงกัดตองตบ ลืมย้ังคิดไปเสียทุกที ตอนหลังพี่วัฒนเร่ิมมีสติมากขึ้น ใชปากเปาไลยุงเอาครับ เปาจนลิ้นแหงเลย

พี่วัฒน นี่มีเรื่องสนุกอีกมาก เนื่องจากเปนคนอารมณดีเหลือประมาณใครพูดอะไรนิดหนอยก็คิดเอาเปนเพลง รองออกมาเสียอยางนั้นแหละ

ผมตองคอยเตือนอยูตลอดวา "พ่ีวัฒน รองเพลงอีกแลว”

แกก็จะซึมๆ ลง นัยวา “ขอโทษทลีืมตัวอีกแวววว” สักพักก็เอาอีกสะกดกลั้นไมใหรองไดแตก็ฮัมออกมาอยูดี บางทีแกนึกอยากจะรองเพลงมากๆ ก็แสรงทําทํานองเปนเหมือนบทสวดมนต มีความพยายามเหลือเกิน ผมขําแกจริงๆ

Page 26: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

26

ย่ิงเรียนพระวินัยผมก็ย่ิงเกิดความสงสัยวาผูท่ีปฏิบัติอยูในศีล 227 ขอนี่จะไดเปนถึงพระอรหันตทุกคนเลยหรือ ? ในเร่ืองเลาคร้ังพุทธกาลสามเณรหรือแมแตคฤหัสถก็สามารถเปนพระอรหันตดับสิ้นกิเลสได แลวทําไมจะตองมีภิกษุท่ีต้ังอยูในศีลตอไปดวย ?

เร่ืองนี้พระอาจารยเอกทานคลายเมฆหมอกแหงมิจฉาทิฎฐิออกจากใจผมวาดังนี้ครับ

“ จริงอยูที่ใครๆ ก็สามารถบรรลุอรหันตได ในสมัยพุทธกาลคุณคงเคยไดยินการมีดวงตาเห็นธรรมที่งายดายของเหลาพระอริยสาวก นั่นก็เปนเพราะทานมีบุญญาธิการมาดวยสวนหนึ่ง และที่สําคัญทานเหลานั้นลวนมีใจตั้งมั่นอยูในความสะอาด สวางและสงบแลว กิเลสไมสามารถครอบงําจิตใจทานไดอีกตอไป แตเมื่อภิกษุมีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสมมติสงฆที่ยังไมรูผิดชอบช่ัวดี ทําสิ่งที่ผิดเพี้ยนไปจากที่สมณะพึงกระทํา พระพุทธเจาจึงตองบัญญัติพระวินัยมาเพื่อปกครองสงฆ ภิกษุทุกวันนี้อยูรวมกันไดเพราะพระวินัย และผลของการมีปาริสุทธิศีลคอืสามารถนําไปสูการละกิเลสไดเร็วขึ้น ในเมื่อตอนนี้ทุกคนมาบวชเพื่ออยางนอยสงผลบุญถึงพอแมบุพการี หากเราไมต้ังมั่นในศีลแลว จะใหเขามากราบไหวใครกัน” สุดทายทานหันมาสบตาผม

“เราเปนสมมติสงฆ ยังตองฝกอีกมากนะ แมจะมีบุคคลที่สามารถบรรลุอรหันตไดโดยที่ไมเคยรูจักขอกําหนดของศีลมากกอน เขาผูนั้นก็เปนคนที่ต้ังอยูในความดีทั้งกาย วาจา สงผลไปถึงใจ ชาวบานธรรมดาถือศีลหาศีลแปด ก็ไปไดชาหนอย เราเปนพระถือศีล 227 ขอแลว ใหเรงทําความเพียรเถอะ” ผมเขาใจแลวครับ.

ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 17: กิจวัตรของพระใหม 1 “ในวันหน่ึงๆ ทําอะไรบาง?” ญาติโยมใหความสนใจสอบถามพระใหมกันแทบทุกคน เพราะอยากรูวาจริงๆ แลวพระน้ันอยู

สบายอยางคําที่ภาคเหนือชอบพูดกันวา “สบายอยางตุ!” หรือไม? พระใหมตองรีบตื่นกอนที่เสียงระฆังทําวัตรเชาจะดังขึ้นในเวลาตีหา เพ่ือหมจีวรดวยความรีบเรงทั้งๆ ที่ยังหมไมคอยคลอง

บางรูปตื่นตั้งแตตีสี่ครึ่งเพื่อหมรอไวแลวจําวัดตอกยั็งมี เพราะกลัววาจะหมไมทันถาตื่นดวยเสียงระฆัง หมเฉียงเรียบรอยแลวอยาลืมนําผาสังฆาฏิขึ้นวิหารไปดวย เดี๋ยวจะขาดผาครอง อาบัตินิสสัคคียปาจิตตียอีก

ผมควาหนังสือสวดมนตและผารองนั่งออกจากกุฏริีบเดินฝาความมืดไปนั่งรอในวิหาร พระใหมควรจะไปกอนครูบาอาจารยมันถึงจะถูก หานาฬิกาตรง เสียงนําสวดมนตจากทานเจาคุณดังผานเครื่องขยายเสียงออกมาแผขยายไปทั่วบริเวณวัดและบานใกลเรือนเคียง เปนสัญญาณของวันใหม พระสงฆสวดมนตทําวัตรเชาใชเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงและนั่งสมาธิภาวนาอีกครึ่งชั่วโมงตอจากนั้น

หกโมง เมื่อออกจากสมาธิ พระทุกรูปจะนําบาตรและอุปกรณตางๆ ไปวางประจําตําแหนงลําดับพรรษาในหอฉัน ยกเวนแต

บางรูปที่มีนองเณรอุปฏฐากก็จะยกมาเตรียมไวให เวลาสักหกโมงนิดๆ จึงเริ่มออกบิณฑบาตกัน ไปเชามากไมไดเดี๋ยวญาติโยมตื่นไมทันลําบากเขาจะตองตามมาจังหันที่วัด จะไปสายกวาน้ันก็ไมไดเพราะเดี๋ยวจะกลับมาไมทันเวลาฉันเชาพรอมกัน พระรูปอื่นจะตองรอนาน

Page 27: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

27

แตละสายบิณฑบาตมีความยากงายแตกตางกัน เพราะฉะนั้นพระที่เดินนําจะตองควบคุมเวลาใหดีเชียว บางครั้งพระใหมก็ถูกทิ้งเนื่องจากมารวมพลบิณฑบาตชา มัวแตหมคลุมไมเสร็จสักที โดนทิ้งน่ังทําหนาเศราๆ อยูบนหอฉันก็มี

กลับจากบิณฑบาตแลวพระทุกรูปทุกสายมารวมกันที่หอฉัน รวมอาหารบิณฑบาตที่ไดมาไวในถาดตรงหนาของตนเอง เก็บไวเฉพาะจํานวนสวนที่เราจะฉัน นอกเหนือจากนั้นสละใหพระรูปอื่นๆ ตอไปตามลําดับ นอกจากนั้นแลวจะมีศรัทธาญาติโยมมาถวายจังหันเพ่ิมเติมบางสวน โดยเฉพาะวันสําคัญทางศาสนาจะมีจังหันมาก พระทานเก็บฉันไวไมหมด ญาติโยมก็ไดอานิสงสกินขาวกนบาตรพระอิ่มบุญกันไปแทน

เรื่องการเลื่อนถาดอาหารเชาน่ีเคยพูดกันเลนๆ วานาเจ็บใจจริงๆ กอนบวชขณะที่เรายังเปนนาคนั้น มีศักดิ์นอยกวานองเณรตองน่ังตอจากนองเณร เพราะฉะนั้นจึงไมเหลืออาหารที่ ‘อยากกิน’ มากนัก โดยเฉพาะนมและนมเปรี้ยวน่ีจะโดนนองเณรเก็บเรียบไมมีมาถึงมือนาคเลย ขนมถงุประเภทมันฝรั่งทอดก็เชนกัน บางวันพวกเรามองตากันปริบๆ พรอมคิดไวในใจวารอบวชกอนเถอะนองเณร หลวงพ่ีจะแยงนม !!

พอเราบวชเปนพระแลวก็อัพเกรดมานั่งสูงขึ้น ที่เคยอยากฉันนมก็ไดฉัน ที่เคยอยากไดขนมนั่นนิดโนนหนอยก็พลอยอิ่มทองมากขึ้น แตในใจก็นึกสงสารนองเณรเหมือนกับตอนที่เราตองน่ังขางหลัง จึงนึกขึ้นไดวาหากเราสละความอยากของตัวเองไมหยิบอาหารที่ไหลมาตามถาดแลวคนอื่นไดอิ่มทองขึ้น ก็จะเปนทานอยางหนึ่งเหมือนกัน

โดยเฉพาะอยางยิ่ง มะมวง เปนผลไมสุดโปรดของผม ผมไมหยิบมาฉันเลย สละใหคนอื่นไป เพราะคิดวาถาเราชอบมากก็คงมีคนอื่นชอบมากเชนกัน

ตอนหลังทางวัดเปลี่ยนสถานที่ฉันไปอีกอาคารหนึ่ง จึงสามารถแบงแถวสามเณรตางหากไดอีกหน่ึงแถว นองเณรจึงไดรับของตนจังหันมากขึ้น อุดมสมบูรณดีกินอิ่มกอนไปเรียน ถึงกระนั้นก็ตามบางครั้งพวกเราพระใหมก็เก็บนมหรือขนมที่นองเณรชอบจากแถวพระใหมไปยื่นใหแถวนองเณรเหมือนกัน…

อโหสิใหหลวงพ่ีนะ หลวงพ่ีไม ‘อยาก’ แลวละ ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 18: สงครามในโรงฉัน

หลังจากสวดใหพรแกญาติโยมที่มีจิตศรัทธามาใสบาตรพระและจังหันอาหารแลว พระภิกษุจะพิจารณาสวดบท ตังขะณิกะปจจะเวกขะณะวิธี วาดวยเรื่องของการขบฉันวาเปนไปเพื่อเลี้ยงรางกายนี้ใหมีกําลังเพื่อที่จะปฏิบัติธรรมและศาสนกิจอื่นๆ ตอไปได ไมไดฉันเพราะความอยาก ไมไดเพ่ือปรุงแตงสังขารรางกายแตอยางใดเลย แลวพระทุกรปูก็ฉันกันอยางสงบ

“ แกงงงงง ! “ ยกที่หน่ึงเริ่มขึ้นเมื่อเสียงชอนกระทบกับขอบบาตรทําลายความเงียบสงบระหวางที่พระทุกรูปกําลังฉันกันอยู ทุกสายตาจองมาหาตนกําเนิดเสียงซึ่งก็หาไมยากครับ ตองเปนพระใหมคนใดคนหนึ่งแนนอน มองปราดมาไดเลย ย่ิงใครกําลัง

ทําหนาเออเหรออยูละก็ย่ิงรูชัด บางวันหลายแกงหลายกองจนทานเจาคุณตองเหลยีวมามองบอกใหมีสติหนอยเวลาฉัน เรื่องนี้เกิดจากบาตรของพระใหมมีขนาดฝาบาตรเล็ก แลวย่ิงใชชอนขนาดธรรมดาตักอาหารที่เทรวมกันทุกอยางในบาตรแลว

ดวยย่ิงไมถนัด สวนตัวผมเลือกใชชอนกลางที่สั้นกวาชอนปรกติ จึงมีลีลาในการตักอาหารในบาตรไดอยางคลองแคลว แตก็ไมวายเคยเปนตนกําเนิดเสียงเหมือนกัน

วิธีแกคือเม่ือชอนเรากระทบขอบบาตรแลวใหรีบเอามืออีกขางมาจับบาจรไวเสียงจะเงียบลงทันที และทําสีหนาปรกติเรียบเฉยเขาไวจะดูเนียน เหมือนไมมีอะไรเกิดขึ้น อะไรเหรอ ใครทําเสียงดังนะ บาจริง !

Page 28: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

28

‘หลวงพ่ีฉันเร็ว’ เปนฉายาของหลวงพี่รูปหนึ่งซึ่งภายหลังทราบนามทานวา ‘หลวงพ่ีอั๋น’ ไมใชอั๋นพระใหมนะครับ แตหลวงพ่ี

อั๋นรูปนี้เปนที่เลื่องลือจากพฤติกรรมการฉันของทาน ที่เมื่อจบการพิจารณาปฏิสังขาโย…แลวไมกี่อึดใจทานจะฉันเสร็จ ไหวพระแลวลุกขึ้นยืนถอดจีวร นําบาตรไปลางทันทีเปนรูปแรก ในขณะที่ผมเองเนี่ยยังแกะหออาหารเทลงบาตรไมเสร็จเลยเสียดวยซ้ํา พอผมฉันไปไดสักหนอยทานจะกลับมาเก็บบาตรไปเรยีบรอยแลว นับวาเร็วมาก

พวกเราพระใหมวางแผนกันวาจะสงหลวงพี่วัฒนลงแขงขันเกมสน้ี แตทุกวันพ่ีวัฒนไมเคยลมแชมปได ก็เพราะวาหวงที่จะตองฉันมากๆ เขาไวเน่ืองจากวาหิวไมไดทานขาวเย็น

วันหน่ึง ‘หลวงตาหัวขาว’ รูปหนึ่งทําลายสติโลกดวยการลุกขึ้นยืนกอน ฉันเสร็จกอนหลวงพี่อั๋น พวกเรามองหนากันแลวทําทา เยส! ความเปนแชมปแสดงอนิจจังก็คราวนี้ รูสึกสะใจกันอยูเล็กๆ ทั้งที่ไมไดมีสวนไดสวนเสียกับการขบฉันของพระทานทั้งสองรูปเลย แตหลังจากนั้นไมกี่อึดใจหลวงพี่อั๋นก็ฉันเสร็จตามสเตป แลวไปลางบาตรตีโคงเขาวินโดยการเก็บบาตรออกไปจากหอฉันเปนคนแรกเชนเคย เรื่องนี้ไมขอยอมกันเลยทีเดียว

ภายหลัง หลังจากที่พวกผมเหลาพระใหมเริ่มฉันม้ือเชาม้ือเดียวไมลงเพล ศึกครั้งใหมก็เริ่มขึ้นเพื่อหาตําแหนง ‘หลวงพ่ีฉันชา เปกและปอ เปนพระใหมรุนที่บวชหลังจากพวกผม เปนคูแขงผมเพื่อหาสุดยอด ‘แฟนฉันชา’ ประจําวัน เราสามรูปมักน่ังหัน

หนาเขาหากันเปนสามเหลี่ยมแลวฉันไปเรื่อยๆ สบายอารมณ ใครจะเสร็จแลวไปลางบาตรกลับมาเช็ดบาตรกลับออกไปกุฏิเราก็ไมสน ฉันไปเรื่อยๆ เพราะดวยความคิดทีว่าถาฉันไวนอย ตอนเพลก็ไมไดลงแถมขาวเย็นก็ไมไดกินละก็เปนอันอยูไมไดแนนอน ตอนกลางคืนตองดิ้นพราก เพราะฉะนั้นตองเตรียมเสบียงไวเลี้ยงตัว (ขอยืมศัพทจากพี่ดังตฤณ)

Page 29: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

29

ฉันจนเขาเก็บกวาดหอฉันกันแลวยังไมคอยจะอยากลุกเลย ดวยความที่เก็บอาหารมาฉันมาก ตองรับผิดชอบ ถาฉันไมหมดละก็จะโดนพระอาจารยทานวาละโมบโลภมาก เก็บอาหารไวเกินตัวไมเผื่อแผผูอื่น เพราะฉะนั้นตองฉันใหหมด ผลการแขงขันสลับผลัดเปลี่ยนกันไปแทบทุกวัน…แตพวกเราก็ไมไดสนใจมากไปกวาไดอิ่มทอง มีแรงศึกษาธรรมะไปอีกวันหน่ึง. ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 19: กิจวัตรของพระใหม 2 ฉันเชาเสร็จประมาณเกือบสองโมงเชา ผมเดินคลองบาตรอาดๆ กลับกุฏิดวยความที่แนนทอง ฉันอาหารเกินประมาณ อยางนี้

ตองยอยอาหารสักหนอยดวยการซักผาและกวาดบริเวณวัด การซักผาถือเปนสุดยอดแหงการบริหารงานชั้นนําที่ไมตองเรียน MBA ก็ตองทําใหได เพราะวาพระใหมเราจะไดจวีรเพียงรูป

ละ 1 ผืน สังฆาฏิ 1 ผืน สบง 2 ผืนและอังสะอีก 2 ผืน พระอาจารยเอกทานกําหนดมีไวใหใชเทาที่จําเปน มีมากจํายากสมบัติมากเปนคนฟุมเฟอย ทานวาเชนนั้น

ทุกวันผมจะตองซักอังสะ ซึ่งเปนเหมือนเสื้อขางในตองใสตลอดวัน สวนสบงนี่ 2-3 วันจะซักทีหน่ึงถาหากวาไมตองลุยงานมาก

แตผมมีเทคนิคครับใชสบงครองในตอนเชามืดไปบิณฑบาตจนถึงฉันเชา แลวเปลี่ยนเปนสบงสํารองใสตลอดวันจนนอน ตื่นเชามาเปลี่ยนใสสบงครองใหม อยางนี้ คือผลัดเปลี่ยนใหไดผึ่งแดดผึ่งลมทั้งสองตัว จะไดใชไดนานๆ สวนจีวรน่ีหน่ึงสัปดาหซักเสียหน่ึงครั้งครับ เพราะ วาผืนใหญมาก จะซักทีหน่ึงน่ีสาวจนสุดแขน บิดจนแขนปูดดวยความที่กลัวจะแหงไมทันทําวัตรเย็นจะไมมีใสขึ้นวิหาร และสังฆาฏิผมไมซักเลยตลอดการบวช เพราะวาไดใชนอยมากแคตอนทําวัตรเชากับตอนลงอุโบสถเทาน้ันเอง

แคน้ีใครรูเขาก็หาวาผมเปนภิกษุซกมกกันไปหมดแลว จากนั้นผมก็ลงไปเก็บกวาดทําความสะอาดรอบกุฏิ ดานหนากุฏิเบอร 29 ของผมเปนเหมือนสวนหยอมเล็กๆ แตเต็มไปดวยลูก

ลิ้นจี่และใบไมที่รวงหลนลงมา ทุกเชาผมตองเก็บทุกเชา เพราะวาหากทิ้งลิ้นจี่ไวนานมันจะเนาสงกลิ่นเหม็น อุปกรณที่ใชเปนไมกวาดทางมะพราวดามยาวที่พระในวัดทําขึ้นเอง

เรื่องการทําไมกวาดเองนั้นก็เปนศาสตรอยางหนึ่งที่พระปาอยางเรานาจะตองทําเปน ครูบาอาจารยภิกษุนองเณรวัดไหนเขาก็ทําเองกันทั้งน้ัน เริ่มจากการเหลาทางมะพราวไดเปนเสนๆ มาแลวนําไปรมควันเสียหนอย กอนนํามาจับมัดเล็กๆ สานดวยเชือกทาบกับดามไมของเราจนเปนกําใหญ หากทางมะพราวยาวๆ แลวละก็กวาดมนัสมาก ใชวิธีดันไปขางหนาเก็บกวาดไดเร็วดี

ปอ เปนพระใหมที่เขามาบวชหลังกลุมพวกผม มีความฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสาในการกวาดบริเวณวัดเปนอยางมาก ทุกเชาจะเห็นปอเริ่มกวาดตั้งแตหนากุฏิตนเองเรื่อยไปจนถึงประตูดานขางของวัด วกกลับเขามาขางโบสถ เลียบวิหาร เลี้ยวปราดเขามาแถวๆ หอฉันแลวกลับมาเก็บรายละเอียดที่หนากุฏิตัวเองอกีครั้งหนึ่ง เรียกวากวาดรูปเดียวกส็ะอาดทั้งวัด

Page 30: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

30

โดยเฉพาะอยางยิ่งถาไดไมกวาดคูใจดวยแลวละก ็ ปอจะโฆษณาวาเปน “เครื่องซุปเปอรพุทโธแอปโดมิไนเซอร” อยางดีทีเดียว โอว จอรจ ! ปญหาไขมันสวนเกินจะหมดไปเมื่อหลวงพ่ียืนกลางถนนแลวจับสุดปลายดามไมกวาดเหวี่ยงจากซายไปขวา กลับไปกลับมาเปนมุม 180 องศา เศษใบไมจะตกลงขางทางไปหมดถนนแลดูดีสะอาดตา เอวก็ไดบริหาร หนาทองที่เคยหยอนยานก็กลับกระชับไดรูป…

ผมหลงโฆษณาชวนเชื่อของปอนบัแตน้ัน รูสึกวาไดผลดีและภูมิใจกับการบริหารรางกายดวยไมกวาดมาก เพราะวินัยสงฆมีอา

ภิสมาจารหามไมใหภิกษุออกกําลังกาย ฉะนั้นการกวาดลานวัดเปนทางออกที่ดีทางหนึ่ง การซักผาดวยตัวเองและการกวาดลานวัดนั้น เปนสิ่งที่ผมไมไดคาดคิดที่จะมาเจอเมือ่บวชเปนพระเพราะตอนอยูที่บานก็เปนคุณ

ชายไมไดทําเรื่องเหลาน้ีแตเมื่อไดสัมผัสผมกลับชอบที่จะไดรับผิดชอบตัวเองและขณะทํางานก็แฝงคติธรรม การกวาดลานวัดเหมือนกวาดจิตใจตนเอง พระอาจารยเอกย้ําเสมอ การซักผาก็เหมือนกับการชําระความสกปรกออกจากจิตใจของผมเชนกัน. ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 20: เรียนธรรมะกับพระอาจารย

เกาโมงถึงเวลากอนเพล คือเวลาเริ่มเรียนพระไตรปฏก และในบางวันอาจจะมีสอนเสริมในตอนบายในกรณีที่พระอาจารยกําลังจะสอนไมทัน เน่ืองจากกําหนดการสึกของหลวงพี่เจมสเปนคนแรกที่จะจากเราไปกอนน้ันแคเพียง 9 วันเทาน้ัน พระอาจารยเอกจึงอยากใหพ่ีเจมสไดเรียนเทาๆ กับคนอื่นๆ ดวย

สองสามวันแรกเปนเรื่องการเรียนพระวินัยโดยพระอาจารยเอก มีคําถามมากมายพรั่งพรูออกมาจากพระใหมรวมทั้งผมเองดวยถือเปน “เจาหนูจําไม” อันดับหน่ึงที่พระอาจารยเอกยังตองสบตามามองทุกครั้งที่ทานหยุดพูด เพ่ือท่ีจะดูวา มันมีคําถามอีกไหมเนี่ย?

ก็เรื่องพระวินัยน่ีละเอียดออนผมไมอยากจะพลาดเลยจริงๆ อีกทั้งตนบัญญัติของพระวินัยขอตางๆ กมี็ความสนุกสนาน พระอาจารยเอกทานมีสายเลือดครูมากอนก็มักจะชอบเลาเรื่องราวๆ ตางใหพวกเราฟงเลยเถิดตะเลิดเปดเปงไปไกลสุดกู ยังไงผมและเพื่อนๆ พระใหมก็ชอบที่จะฟง

Page 31: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

31

พระอภิธรรม สอนโดยหลวงพี่ปอม ที่เพ่ิงยายตัวเองมาจากสํานักสงฆไนทซาฟารี สืบมาไดความวาทานไปอยูวิเวกเพื่ออานหนัง

สือเตรียมสอบนักธรรมโทและบาลีไวยกรณศึกษาเพียงลําพังที่น่ัน และผลจากความเพียรน้ันเองทานก็ประสบความสําเร็จดวยดีมาเปนลํา ดับ แตที่นาเสียดายคือหลวงพ่ีสายตาสั้นมากๆ เลนสของแวนนี่หนาเตอะอยางที่ผมก็ไมเคยเห็นมากอน

เคยสังเกตเห็นเวลาหลวงพี่ทําวัตรเชา-เย็น ถึงแมจะใสแวนแลวแตก็ตองยกหนังสือสวดมนตที่พิมพขึ้นเองดวยตัวหนังสือขนาดใหญมาจอท่ีตรงหนาอยูดี ผมนึกขึ้นไดทันทีวาที่สํานักสงฆน้ันคงไมมีไฟฟาใช หรือถาหากมีก็คงไมสวางไสวและไดใชอยางจํากัดจําเขี่ยเพราะวาบานญาติโยมเจาของสายไฟที่ตอลากมาคงตองรับภาระมาก แสงสวางจึงไมเพียงพอสําหรับการอานหนังสือ

พวกเราพระใหมจะไดรับแจกหนังสือเตรียมสอบนักธรรมชั้นตรี เริ่มเรียนไปตั้งแตทุกะ คือ หมวด 2, ติกะ คือ หมวด 3 ไปจนถึงทศกะ คือ หมวด 10 ตัวเลขของแตละหมวดหมายถึงจํานวนขอยอยของหลักธรรมนั้นๆ เชนในจตุกกะ คือ หมวด 4 มีหลักธรรมอันหนึ่งที่เปนหัวใจของพระพุทธศาสนา คือ อริยสัจ ซึ่งประกอบไปดวยขอยอย 4 ประการ ไดแก ทุกข สมุทัย นิโรธและมรรค เปนตน

ผมและเหลาพระใหมสามารถตอบความหมายของหลักธรรมและขอไดก็แบบนกแกวนกขุนทองที่เคยทองมาตั้งแตสมัยเปนเด็กนอย แตหลวงพ่ีปอมทําใหผมเขาใจวาที่ผานมาผมไมเคยเขาถึงหลักธรรมและไมไดนําเอาไปใชในวิถีที่พระพุทธเจาทรงตรัสรูและสั่งสอนไวไดเลย บางหลักธรรมถึงกับเขาใจผิดๆ นําไปใชผิดๆ นาละอายที่จะเรียกตัวเองวาเปนชาวพุทธจริงๆ

พระสูตร หรือพุทธประวัติน้ันสอนโดยพระอาจารยเชาวน ผูเกงกาจสามารถในดานการเรียนตั้งแตครั้งยังเปนฆราวาส จนเมื่อ

มาอยูใตรมกาสาวพัสตรก็สามารถเรียนนักธรรมและบาลีศึกษาจนไดเปน “มหา” พระอาจารยมหาเชาวนรับหนาที่การสอนพุทธประวัติมานาน มีสื่อการสอนเปนภาพเขียนพุทธประวัติของอาจารยเหม เวชกร

เปนอาวุธและที่สําคัญทานมีความจําเปนเลิศในเรื่องราวสมัยพุทธกาล แตพระใหมก็มีความเปนเลิศดานการเขาฌานเชนเดียวกัน เรื่องนี้ไมตองไปร่ําเรียนที่ไหน พระใหมก็เหมือนเด็ก ฟงพระสูตรเหมือนฟงนิทานกอนนอน น่ังฟงไปเรื่อยๆ ตาชักเยิ้มหวาน พอพระอาจารยเชาวนหันมาสบตาอีกทีก็คอพับสัปหงกกันหมด

ดังน้ันกอนเริ่มเรียนวิชาพุทธประวัติ ทุกคนจะตองไปอัดกาแฟสูตรเขมเต็มเทอรโบเสียกอน แตก็มักไมเปนผล เพราะดวยนํ้าเสียงที่ทุมนุมลึกของพระอาจารยประกอบกับอากาศรอนอบอาวในชวงบาย พระใหมที่ไหนจะทานทนได แตพระอาจารยเชาวนทานก็ไมเคย

Page 32: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

32

บนวาเราสักที กลับยิ้มหัวเราะและยังคงดําเนินเรื่องตอไป ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 21: การจากไปของสหธรรมิก ยังไมทันที่พระใหมจะเรียนพุทธประวัติจบ ก็ถึงกําหนดที่หลวงพ่ีเจมสจะตองลาสกิขาไปกอนคนอื่นๆ แตที่นาตกใจมากกวา

น้ันคือโอ ที่ตอนแรกบอกวาจะบวช 2 อาทิตย กลับเปลี่ยนใจขอลาสิกขาออกไปพรอมกัน! ผมมองดูโออยูหางๆ มาโดยตลอด เพราะวาโอเปนคนเงียบๆ ไมคอยพูดกับใครมากนัก และที่สําคญัโอเปนคนที่เหมือนกับมี

แนวทางของตัวเองในการเรียนรูชีวิตของความเปนสงฆ ไมไดเขาหาครูบาอาจารยแตใชวิธีอานหนังสือเอาเอง ทําความเขาใจธรรมะดวยตนเอง ซึ่งนับวาเปนเรื่องอันตรายมากสําหรับพระใหมที่ยังไมรูวาทางไหนที่ถูกที่ควร

ผมเห็นดังน้ันก็เคยเอาหนังสือของตัวเองจากที่บานไปใหโออาน เพราะมั่นใจในแนวทางของหลวงพอชาวาเปนคําสอนที่ดีแลว เพ่ือท่ีวาบางทีโออาจจะเปลี่ยนใจอยูศึกษาธรรมะกับพวกเราตอ

แตโอปฏิเสธการเชื้อเชิญของพวกเราทั้งสิ้น ดวยเหตุผลที่วาเขารูแลววาเขามาบวชเพื่ออะไร กอนที่จะมาวัดเขาสงสยัในชีวิตของนักบวช ตองการรูเพียงวาพระสงฆมีวิถีชีวิตอยางไร ทําตัวอยางไรอยูในศีลในธรรมและถึงเวลานี้มันเพียงพอแลว เขาขอลาสิกขาและขอใชชีวิตแบบมนุษยธรรมดาคนหนึ่งเสียที

ในตอนที่ผมไดทราบเรื่องน้ีจากปากของเกงเล็กซึง่ผมไหววานใหชวยไปเจาะใจโอถึงเหตุผลที่จะตองลาจากกอนเวลาอนัควร ผมรูสึกเสียใจมาก คิดวาอาจเปนเพราะเขาทนที่จะอยูในกรอบของผาเหลืองไมไดแลว ผมก็ไมสามารถไปรั้งจิตใจเขาไวได รูสึกเสียดายที่โอกําลังปลอยโอกาสที่สําคัญที่สุดในชีวิตไป สําหรับพ่ีเจมสแลวกําลังจะสึกออกไปทํางานและเตรียมแตงงานมีครอบครัวกับคนที่เขารัก โอก็บอกวา เรื่องที่ตองไปสะสางเปนอันดับแรกคือเรื่องของหัวใจเชนเดียวกัน เพราะตอนนี้ไมรูจะเลือกใคร

วันที่พ่ีเจมสกับโอสึก ผมและพระใหมที่เหลือไปรวมตัวกันอยูหนากุฏิพระอาจารยเอก มองดูการปลงอาบัติครั้งสุดทายของเพื่อน

สหธรรมิกทั้งสอง กอนที่เขาจะใหทานเจาคุณชักผาสังฆาฏิออกแลวกลาวคําลาสิกขา ทั้งสองเปลี่ยนชุดเปนฆราวาส โอใสชุดเดิมที่ผมไดเจอกับเขาวันแรกที่วัดนี้ตอนเปนนาค ผิดเสียแตวาตอนนี้โอไมมีผมชี้ฟูและ

คิ้วจางๆ ก็หายไป เราไมไดร่ําลาอะไรกันมากมาย เพราะผมไมกลาที่จะพูดอะไรมากไปกวาน้ีแลว บัดนี้เรามีเพศตางกันแลว คงเหลอืแตสายตาของผมที่พยายามบงบอกใหเขาระลึกถึงความทรงจําที่ดีๆ ในวัดนี้ อยาลืมเพื่อนรวมรุนบวชและอยาประมาทในธรรมสําหรับการดําเนินชีวิตในโลกที่ยุงเหยิง

อีกอาทิตยตอมาผมไดเจอกับโอที่วัดหลังการทําวัตรเย็นในค่ําคืนของวันพระจันทรเต็มดวง ผมดีใจหายรีบพาโอไปนมัสการพระอาจารยที่กุฏิ โดยไมไดสังเกตวาวันนี้โอเดินกระโผลกกระเผลก พระอาจารยถามไถสารทุกขสุกดิบและชีวิตหลงัการบวช

Page 33: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

33

โอเลาใหฟงวา…ตั้งแตเขาสึกไปมีแตเรื่องไมดีเกิดขึ้นกับชีวิต อันที่จริงเขาลาที่บริษัทมาหนึ่งเดือนเพ่ือบวช แตเขาบวชไดเพียง 9 วันก็สึกออกไป วันหน่ึงเจานายจับไดวาเขาไมไดบวชแลวเพราะวาขบัรถสวนกัน จึงตองกลับไปทํางานที่เดิมแถมโดนเจานายตําหนิ มิหนําซ้ําเรื่องของหัวใจสุดทายก็ไมไดลงตัวกับคนที่หวังไว สวนคนที่เธอรักโออยูแลว ก็ตองเลิกรากันไป วันหน่ึงเกิดมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเด็กวัยรุนในรานอินเตอรเน็ตถึงกับเลือดตกยางออก ทําใหเขาไดรับบาดเจ็บที่ขายังเดินไมถนัดจนถึงตอนนี้ แลวยังตองเปนคดีขึ้นโรงขึ้นศาลเสยีเวลาและเงินทอง และสุดทายสุดๆ รถยนตที่มีใชอยูกับชนกับคูกรณีพังยับตองเขาอูซอม ยังไมมีรถใชตอนนี้

โอเลาเรื่องของเขาใหฟงแลวผมก็ไมอยากจะเชื่อวา น่ีอาจจะเปนผลของการสึกกอนกําหนดที่ลั่นวาจาไวตั้งแตกอนบวช หรือเปนกรรมที่แมแตการบวชก็ไมอาจจะชดใชได ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 22: ทําวัตรสวดมนต บทที่หนึง่ เย็นวันนั้น ที่น่ังทําวัตรภายในวิหารของพระใหมวางไป 2 ที่ เพราะหลวงพี่เจมสกับหลวงพี่โอลาสิกขาไปแลว พวกเราพระ

ใหมเลือกที่จะนั่งที่สุดทายปลายแถว เพราะวาพรรษาออนกวาพระรูปอื่นในวิหารทั้งหมด ภายในวิหารที่ออกแบบตกแตงอยางวิจิตรน้ัน เมื่อเงยหนาขึ้นจะพบกับโครงสรางหลงัคาแบบมาตั่งไหมเอกลักษณของสถาปตย

กรรมลานนา ตุงหรือธงนับรอยอันถูกยึดติดกับโครงสรางหลังคาทัง้สองดานซายขวา ปลิวไสวเมื่อยามลมตอง เสากลมลงรักปดทองอรามแตก็ไมอาจสูความเรืองรองของพระประธานที่ประดิษฐานอยูในหอแกวทรงมณฑปพรอมทั้งพระพุทธรูปที่เปนบริวารรายลอมอยูบนฐานชุกชี เครื่องสัตตภัณฑชุดใหญ กระถางดอกไมและเชิงเทียนตั้งอยูถัดออกมาและอาสนะของทานเจาคุณพรอมทั้งเครื่องขยายเสียงวางพรอมอยูทุกครั้งที่จะเริ่มทําวัตรสวดมนต

บนพรมสีแดงผืนใหญที่วางตอๆ กันมาบนพื้นวิหารที่ปูดวยหินแกรนิตสีเทานั้น เปนสวนที่น่ังของพระสงฆหันหนาตรงสูพระประธาน ทางเดินที่เลยออกจากแนวเสามานั้นเปนสวนที่น่ังของนองเณร และในบางครั้งก็เปนที่น่ังของนาคที่กําลังจะเจาพิธีอุปสมบท ที่สุดปลายของพรมแดง แมขาวอุบาสิกาทั้งหลายจะนั่งถัดพรมออกไปจนถึงประตูดานหลัง

เมื่อใครไดผานไปผานมาเขาแวะเยี่ยมชมวิหารหลังน้ีตองบอกเปนเสียงเดียวกันวาสวยและงามสงามาก ทุกครั้งที่ผมสวดมนต

ในใจจะนอมระลกึถึงพระพุทธเจามหาศาสดาและมักจะคิดวา กําลังสวดมนตตอหนาพระพักตรของทาน มุมมองที่พระประธานมองลงมานั้น ชางปนไดเสกสรรราวกับวากําลังจับจองทกุคนที่น่ังอยูภายในวิหาร ย่ิงหากคืนไหนจุดเทียนสวางไสวมากเทาไหร ความรูสึกที่วาเหมือนกับไดอยูบนสรวงสวรรคก็ย่ิงชัดเจนเหมือนภาพจริงมากขึ้นเทาน้ัน น่ีเปนอีกหน่ึงคุณคาของชางฝมือลานนาที่อุทิศกายถวายชีวิตสรางเสนาสนะที่เปรียบไดเหมือนกับเปนธงชัยแหงความเจริญของพระพุทธศาสนา ใหผูคนไดเลื่อมใสศรัทธาสืบตอพระพุทธศาสนาตอไป

Page 34: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

34

ตั้งแตวันแรกที่เปนนาค พวกเราไดรับแจกหนังสือสวดมนตคนละหนึ่งเลม ถือเปนอาวุธประจํากายไปไหนไปดวย เพราะนอก จากจะมีบทสวดมนตทั้งตอนทําวัตรเชา วัตรเย็น บทสวดสิบสองตํานานและบทสําคัญๆ ตางๆ ทานเจาคุณไดบรรจุไวในเลมนี้ทั้งหมดพรอมทั้งคําแปลเปนภาษาไทยใหผูทองบนไดเขาใจความหมาย นอกจากนั้นแลวยังมีบทพิธีการที่จําเปนตางๆ ที่พระจะตองรวมประกอบพิธีกรรมกับญาติโยม ขอวัตร กิจปฏิบัติตางๆ รวมถึงคําแนะนํานวกะใหม รวมๆ แลวความหนาเกือบเทาสมุดหนาเหลือง

ผมเชื่อวาน่ีจะเปนหนังสือสวดมนตประจําวัดที่หนาที่สุดเทาที่เคยมีมาในประเทศไทย ทุกเชาเย็น พระใหมจะตองเตรียมตัวใหพรอมสําหรับบทสวดที่จะตองใชในแตละวัน เพราะตลอดทั้งเดือนทานเจาคุณไมเคยสวด

ซ้ําบทเลย เมื่อทานกลาวนําวา “หันทะมะยัง….” เราจะตองรีบจับภาษาบาลีวาวันนี้ทานจะนําสวดบทอะไรแลวรีบพลิกหาหนาน้ันใหทัน พระใหมตอนเริ่มแรกหนาตาเหรอหราเปดหาก็ไมเจอ กวาจะเจอก็พอดีทานเจาคุณสวดจบบทยายไปบทอื่นแลว วุนวายโกลาหลพอประ มาณพระรุนพ่ีทานก็เอ็นดูระยะหลังๆ ทานมานั่งประกบชวยเปดหาใหจะไดสวดทันกัน

มารูภายหลังวาที่วัดนี้มีโพยบทสวดประจําวันอยูในหนังสือสวดมนตน่ีเอง พระใหมขี้เกียจไมยอมเปดศึกษาดู พอพวกเราทราบดังน้ันแลว เวลาเดินสวนกันจะตองเตือนกันกอนเลยวา วันน้ีจะสวดบทอะไรหนาที่เทาไหร เมื่อถึงเวลาสวดจะไดเริม่สวดไดทันที. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 23: ทําวัตรสวดมนต บทที่สอง การสวดมนตเปนกิจที่ภิกษุพึงกระทําทุกๆ วัน นอกจากจะเปนการเรงความเพียรทําสมาธิอยางหยาบแลว การทองบทภาษา

บาลีจะชวยสืบตอพระวจนะของพระพุทธองค ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณและพระสังฆคณุในคราวเดียวกนั ผมเองไดรับความรูดีๆ จากบทสวดมนตประจําวันน้ีมากมาย บางบทผมสามารถนํามาเลาสอนใหกับเพ่ือนที่มานมัสการที่วัดได

เขาใจธรรมะมากขึ้น เวลาทองใหญาติโยมฟงแลวดูดี ดูนาเชื่อถือเหมือนกับวาไดเรียนเปนมหามาหลายประโยคแลว อันที่จริงก็ครูพักลักจําจากคําแปลในหนังสือสวดมนตเอาทั้งสิ้น

ในตอนนั้นผมคิดไดวาถาเราทําวัตรเชาและเย็นไดโดยไมตองเปดหนังสือสวดมนตจะดูดีมากๆ อยางนอยก็บทที่สวดเปนประจําตอนตนๆ เชน โยโสตะถาตะโต อะระหังสัมมาสัมพุทธโธ และบททายๆ ประจําทุกวันอยางบทแผเมตตาหรือวันทาหลวง วันทานอย เมื่อมีเวลาวางผมจะทองจําใหไดในทันที

บทสวดทําวัตรเย็นที่เปนที่นิยมของพวกเราพระใหมและหลวงพี่รูปอื่นๆ น้ันจะเกิดขึ้นทุกๆ คืน 3 ค่ําและ 4 ค่ํา เพราะเปนการสวดบทสิบสองตํานานยอแบบสําเนียงมคธและสังโยค ทั้งสองวันนี้จะตองใชความสามารถในการพลิกหนังสือสวดมนตใหทันในแตละบท เพราะทานเจาคุณจะไมหยุดเวนวรรคระหวางตาํนานเลย เรียกวาใครเปดหาไดกอนแลวเปนคนบอกพระใหมรูปอื่นๆ ใหเปดตามก็จะดูดีมากๆ เชนเดียวกัน ผมจึงพยายามจดเปนกระดาษแผนเล็กๆ ออกมาวาจากหนาไหนบรรทัดไหน ตอไปที่หนาไหนบรรทัดที่เทาไหรเปดไดเร็วมาก เร็วกวาพระใหมรูปอื่นเพราะซอมมาดีกวา

ทําไมผมตองพยายามทําใหคนอื่นมองแลวดูดีอยูเสมอ ผมก็ไมเขาใจตัวเองมากไปกวาตองการที่จะทําทุกอยางใหดีที่สุดในระยะเวลาที่บวชน้ี และในความคิดของผมบทสวดมนตน้ีมี

คามาก นึกถึงความเปนเอกตัคทัคคะของพระอานนทที่เปนผูฟงมากแลวจําไดมาก ทานจําพระวจนะอันมีคาของพระพุทธเจาไดทั้งหมดจนมาเปนบทสวดมนตใหคนทั้งโลกไดศึกษา ผมจึงอยากดําเนินรอยตามทาน จําบทสวดใหไดมากที่สุด เตรียมไวใชสวดกอนนอนทุกคืนเวลาที่เปนฆราวาสดวย

Page 35: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

35

มีความนารักๆ หลายครั้งเกิดขึ้นในวิหารระหวางการทําวัตร เริ่มที่นองเณรตอนเวลาทําวัตรเชา บางครั้งตื่นสายรีบมากๆ คุกเขา

สวดมนตอยูดีๆ สบงและจีวรหลดุลุยตามประสาเด็กที่แตงตัวไมเรียบรอย ตองประคองตัวเองออกจากวิหารไปกอนที่จะโปโชวเณรนอยตอหนาธารกํานัล เมื่อสวดมนตไปไดสักครึ่งหนึ่งนองเณรจะเริ่มหลับ คอพับคอออน เพราะการทําวัตรเชาที่วัดนั้นเริ่มเวลาหานาฬิกา นองเณรก็งวงตามประสาเด็ก

ย่ิงตอนนั่งสมาธิน้ัน นองเณรตัวออนสามารถนั่งขัดสมาธิเพชรแลวเอาหนาผากแตะพื้นวิหารดานหนาเพื่อหลับได ใครไมเขาใจจะพาลคิดวานองเณรกําลังทําโยคะบริหารรางกายอยู

ในระหวางการทําวัตรเย็นคืนหน่ึง ขณะที่หลวงพ่ีนพกําลังหลับตาทองมนตอยูน้ันก็มีเสียง “ตั้บ!!” เขามาแทรกบทสวด เม่ือหลวงพ่ีนพลืมตาขึ้นก็ตองเบิกตาโพลง เพราะวาตกโตที่รักเกิดพลาดตกจากขื่อคานดานบนวิหารลงมาที่หนังสือสวดมนตของหลวงพี่นพพอดี และมันคงกําลังจุกอั้กอยู หันหนามาสบสายตาหวานกับหลวงพ่ีเหมือนเปนเพ่ือนเกา

เมื่อมันหายจุกก็เริ่มปฏิบัติการจูโจมคลานเขาหาหลวงพี่นพทันที ซึ่งปฏิกิริยาตอบโตเร็วกวาความคดิ หลวงพ่ีกระโดดผล็อยขึ้นไปนั่งบนอาสนะดานขางวิหารไดในเวลาเพียงเสี้ยววินาที รอง

อุทาน “เฮย!!” พรอมกับเสียงพระเณรที่วงแตกทันทีเพราะตกโตตัวน้ันไมยอมหยุดวิ่งพลานราวกับวายังหาสรณะที่พ่ึงไมไดสักที เม่ือเราพูดถึงเหตุการณน้ีทีไร นึกขันกันขึ้นมาไดทุกครั้งทีเดียว ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 24: เท่ียวบิณฑบาต 1 การออกบิณฑบาตถือเปนประสบการณของพระใหมที่หางไกลจากกิจกรรมธรรมดาของชาวบานทั่วไปมากๆ เมื่อกอนเคยแต

ใสบาตรใหพระ “นิมนตครับ/คะ” แลวน่ังยองๆ รอรับพร วันดีคืนดีมีการเรียกรองใหพระทานเพ่ิมบทใหพรใหยาวเปนพิเศษดวยเน่ืองวาเปนวันเกิด

แตพอเปลี่ยนสถานะเปนผูรับอาหารใสบาตรแลว ความลับในจิตใจตางๆ ของพระก็เปดเผยขึ้น ผมเพ่ิงจะรูวาพระสงฆก็คงจะรูสึกไมตางจากผมแนๆ

ผมไดไปรวมสายบิณฑบาตกับหลวงพ่ีเกงใหญเปนประจําในตอนหลังๆ เรียกวา “สายน้ําตก” เนื่องจากวาเปนเสนทางถนนไปสูนํ้าตกที่มีช่ือเสียงของจังหวดั เปนสายบิณฑบาตที่สบายที่สุดเพราะไดน่ังรถมอเตอรไซตพวงกลับวัดเปนประจําทุกวัน พระอาจารยครรชิตทานเปนผูนําสายและทานไมเคยปลอยใหพระใหมใหพรเองเลยสักครั้ง ทานตองใหพรดวยตนเอง

Page 36: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

36

เกงใหญชอบใจมากๆ เพราะวายังทองบท “ยะถา…สัพพี” ไมคอยคลอง กลัววาถาตองเปนคนใหพรเองจะทองติดๆ ขัดๆ สวนผมทองไดมากอนแลวและพรรษาออนนาทีกวาเกงใหญที่บวชมาพรอมกัน ยังไงก็ไมถึงคราวผม และเณรทัศนที่เดินตามตอยๆ มาดวยทุกวัน

ชวงเวลาเดอืนพฤษภาคมก็เริ่มมีฝนตกลงมาบางประปราย ทุกเชาหากฝนเพิ่งหยุดเม็ดลงมา ทองถนนลาดยางแอสฟลตจะโรยไปดวยกลีบดอกหางนกยูงสีแดงสดที่ถูกฝนชะลงมา ในชวงถนนใตรมไมครึ้มสีเขียวสดนั้น เพ่ิมพลังความชุมชื่นใหกับชีวิตของผมทุกๆ ครั้งที่ไดเดินผาน เกงใหญก็บอกวาชอบมากโดยเฉพาะเวลาเดินเหยียบลงไปบนกลีบดอกไมน้ัน สัมผัสไดถึงความนุมแทนที่จะเจอความแข็งของถนน

บานแรกที่รอใสบาตรคือลุงรานชําปากซอย แกใสขาวเหนียวกับใสอั่วยาวประมาณ 2 น้ิวทุกวัน พระอาจารยครรชิตเลาวาบาน

น้ีใสบาตรทุกวันเพราะวัดเราทําใหเขามีรายไดจากการขายสินคาพวกเครื่องไทยทานและสังฆทานไดทุกวัน ดวยความละโมบของผมเองก็มักคิดนอยใจวา

“แหมๆ ขายของไดตั้งเยอะ ใสบาตรนิดเดียวเอง” เดินตอไปสักหนอยจะเจอรถกระบะครอบครวัของเกงใหญมารอใสบาตรลูกชายทุกเชา ผมชอบมากๆ เพราะวาบานเกงใหญมี

ของใสบาตรมากครบทั้งเครื่องคาวหวาน ถามเกงใหญภายหลังไดความวาโยมแมใสแตอาหารที่เขาชอบทั้งน้ันเลย สมแลวท่ีเปนแมลูกกัน ผมก็พลอยไดอานิสงสตรงนี้ไปดวย ไดฉันอิ่มอรอย

ระหวางทางที่เดนิรับอาหารบิณฑบาต พระอาจารยครรชิตจะทราบวาโยมหลังไหนมีศรัทธาอยางตอเน่ืองตื่นมาใสบาตรทุกวันทานจะเดินเขาไปในซอยนอยใหญอยางคลองแคลวเปนอัตโนมัติ หากวันไหนโยมไมมาใสบาตร พระอาจารยครรชิตจะแสดงความเปนหวงเปนใยวาอาจจะไมสบายหรือวาเกิดความยากลําบากในชีวิตบางอยางทําใหขาดการทําบุญไป หากวันรุงขึ้นทานไดเจอก็จะตองถามไถดวยความหวงใยทุกครั้ง เพราะคนเคยเจอกันทุกเชา แมนไมคอยไดคุยกันทุกครั้ง แตก็เปรียบเสมือนเปนญาติทางธรรมกันอยางหน่ึง

สายลมเอื่อยๆ พัดมาโดนแกมผมครั้งแลวครั้งเลา รถมอเตอรไซตพวงคันนี้มีโยมออกปจจัยวาจางใหมารอรับพระอาจารยครรชิตและพระลูกศิษยไปรับอาหารบิณฑบาตที่บานของเขาทุกวันจันทรถึงศุกร เนื่องจากวาบานของโยมไกลเกินกวาที่พระจะเดินไปรับบิณฑ บาตไดทุกวันโยมจะตองเสียคาวาจาง 50 บาทและยังตองเตรียมของใสบาตรอีกตางหาก

Page 37: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

37

อาหารคาวหวานของบานนี้ปราณีตมาก ทําใหผมนึกอนุโมทนาในบุญของโยมคนนี้อยูตลอด อวยพรใหมีความสุขดั่งที่พระอาจารยเอกชอบพูดวา “ใหทานปราณีต ยอมไดรับของปราณีต “ฉันใดก็ฉันน้ัน ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 25: เท่ียวบิณฑบาต 2 เชาวันที่ฝนตกพระเณรจะลําบากมากในการออกบิณฑบาต เพราะนอกจากมือหน่ึงจะตองเปดปดฝาบาตรแลว อีกมือหน่ึง

จะตองประคองสายคลองบาตรพรอมกับหนีบคันรมไวในมือดวย รมที่เหมาะสมสําหรับพระเวลาบิณฑบาตรคือรมกานยาวที่มีคันรมตรง โดยเฉพาะสวนที่เปนมือจับไมควรเปนแบบงอๆ

เพราะวาพระเณรประคองจับลําบากจริงๆ ควรเลอืกแบบที่มีความกวางสักหนอยพอที่จะกันฝนไดทุกทิศทาง ในเชาวันนั้นพระใหมตองทําใจวาจีวรจะตองเปยกมาก ปลายดานลางของจวีรจะถกูนํ้าฝนผสมขี้โคลนกระเด็นใส ใหนึก

ลําบากใจตอนเวลาซักจีวรแลวย่ิงหนาฝนเมฆครึ้มขนาดนี้ ซักตากอยางไรคงไมแหง ผมรับอาหารบิณฑบาตรกลับมาที่วัดไดอยางไมทุลักทุเลเพราะวาระหวางทางไดน่ังรถมอเตอรไซตพวงที่มีหลังคาคลุม แตหลวงพ่ีเกงเล็กจีวรเปยกไปทั้งตัวทั้งๆ ที่ถือรมคันใหญไป เพราะวามีสิงหคะนองทางใจบาปขับรถเหยียบนํ้าฝนที่ขังอยูบนถนนสาดเขาใสหลวงพ่ีทั้งแถวบิณฑบาต ชางไมมีความระมัดระวังแกสมณะผูทรงศีล

ย่ิงเดินบิณฑบาตรหลายวันผมก็ย่ิงไดพบกับเรื่องไมพอใจ ชวงหนึ่งผมไดมีโอกาสไปบิณฑบาตรสาย off-road hard cape ซึ่งมีความยากลําบากมากเพียงพออยูแลวกับถนนหนทางที่โรยไป

ดวยกอนกรวดและเศษกระจก ยังตองพบกับโยมที่ไมมีความรูความเขาใจในการใสบาตร ไมมีความเคารพในพระสงฆเอาเสียเลย

บานหนึ่ง ทุกเชาจะใหเด็กประถมตัวนอยมาใสบาตรกอนไปโรงเรียน ผมยังนึกอนุโมทนาอยูในใจวาพอแมของเด็กสองคนนี้ดี

จริง ปลูกฝงใหลูกไดรูจักการทําบุญใสบาตร แตเขาคงตองใสใจมากํากับแนะนําเด็กๆ ดวย ผมนึกเศราใจจริงๆ เวลานองๆ ทั้งสองคนเอาน้ําสําหรับกรวดน้ํามาสาดเลนกันขณะที่ผมกําลังใหพรอยู หรือไมบางวันก็เหมือนจะตั้งใจหยาดน้ําลงดิน แตพยายามเทรดลงในรังมดหรือทางที่มดกําลังเดิน

อุบายแหงการหยาดน้ําอุทิศสวนกุศลหลังจากการทําบุญตักบาตรนั้น แทจริงแลวก็เพ่ือใหผูน้ันสํารวมจิตตั้งใจอธิษฐานสงผลบุญทั้งหมดที่ไดกระทําน้ีใหแกผูลวงลับ โดยใชการหยาดน้ําใหเปนสายไมขาดจากกันเปนเครื่องมือชวยในการทําสมาธิ พอแมของเด็กจะรูไหมวาผลบุญที่ตั้งใจตระเตรียมไวทุกๆ วันไมไดสัมฤทธิ์ผลตามที่ตั้งใจไว

Page 38: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

38

หลายๆ บานมีจิตศรัทธาใสผลไมลงมาในบาตรดวย มะมวงคือท่ีสุดของความปวดราวเวลาที่โยมใสบาตรมาทั้งลูก ชางไมรูเลยวาสิ่งที่ภิกษุจะฉันไดตองเปนของที่ควรผักผลไมที่สามารถนําไปใชเพาะปลูกไดอีก ตองใหอนุปสัมบันทําใหสมควรหรือ ‘กัปปยะ’ เสีย กอนโดยการจรดดวยมีดหรือเล็บก็ได

มะมวงลูกน้ันที่ใสบาตรมา พระสงฆจะไมไดฉัน เพราะทานเองไมสามารถนั่งปอกผลไมเพ่ือฉันเองได พระสงฆประกอบอาหารเองไมไดอยูแลว ครั้นจะไหววานใหโยมในวัดนําไปจัดสํารับมาใหก็เข็ญใจเต็มที และที่สําคัญพระสงฆองคเจาก็ไมอยากทําเชน น้ันเพื่อแสดงถึงความโลบอยากได อยากมีและอยากฉันมากจนเกินงาม

พบบอยมากๆ คือการที่โยมไมยอมถอดรองเทาเวลาใสบาตร บางบานถอดรองเทาแลวแตก็ยังยืนอยูบนรองเทาของตัวเองอยูดี ไมตางอะไรกับการใสรองเทาเลย ที่สะเทือนใจมากคือบานหนึ่งไมยอมออกมารอใสบาตรนอกบาน กลับยืนรออยูในชานหนาบานใตหลังคาคลุมเพื่อใหพระเดินเขาไปหา อยางนี้เทากับวายืนอยูสูงกวาพระสงฆทุกกรณี

ขอสาธุชนทั้งหลายพึงอยาลืมวาพระสงฆทานไมไดใสรองเทามาบิณฑบาต เราตองแสดงความนอบนอมแกทานในฐานะที่ทานคือผูมีศีลสูงกวานิมนตทานใหสุภาพ ไหวลงสวยๆ วางเทาเปลาของคุณลงบนพื้นดินแลวบรรจงใสอาหารดวยความสํารวม น่ังยองประนมมือรับพร ตั้งจิตอุทิศสวนกุศลและดื่มด่ํากับผลบุญของคุณใหเต็มที่สิครับ. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 26: เรงความเพียร “ประมาณสามทุม ถาหลวงพี่สนใจไปสวดมนตรอบดึกตอท่ีพระเจาทันใจก็เชิญนะ”หลวงพ่ีบอย หน่ึงในพระรุนพ่ีไดเขามาชัก

ชวนผมหลังจากที่ผมกําลังเดินกระเผลกๆ ออกจากวิหาร เพราะกําลังสะทานจากอาการเหน็บชาที่มักจะเกิดขึ้นหลังจากการนั่งพับเพียบสวดมนตทําวัตรนานๆ

ในมุมมองที่ผานแวนสายตากรอบสีดําบางๆ น้ัน ผมพบแววตาแหงความตั้งใจจริงที่สงมาให “ถาอึดอัดใจก็ไมเปนไร พรอมเม่ือไหรก็มานะ” หลวงพ่ีบอยลงทายเพราะคงเห็นผมลังเลและแบงรับแบงสู กอนหนาน้ันผมเห็นหลวงพี่เกงเล็กและเกงใหญไปสวดมนตรอบดึกกันมาแลว ไดยินมาวาหลวงพี่ปอมทานนําชุมนุมเทวดา

เสียงดังกังวานเพราะมาก หลังจากนั้นทานก็นําสวดอิติปโส 108 จบ กวาจะเลิกกลบัมาจําวัดที่กุฏิก็เกือบจะเที่ยงคืน “ยุงก็เยอะ เกงนับตามไปดวยวากี่รอบแลวยังเผลอหลับเลย งวงก็งวง เปนเหน็บสับเปลี่ยนขาไปไมรูกี่ครั้ง” ผมไดยินเกง

เล็กบอกเลามาอยางนี้ก็ขยาดไมกลาไปสวดมนตกับเขาดวย ผมบอกตัวเองวาไมพรอมที่จะไปสวดมนตรอบดึก เพราะผมอยากนอนเร็วๆ สักสี่ทุมน่ีควรจะรีบนอน เพราะจะไดมีแรงตื่นตอน

ตีสี่ครึ่งเพื่อไปทําวัตรเชา สวดมนตกอนนอนที่กุฏิคนเดียวแบบลวกๆ ทุกคืนนาจะเพียงพอ เปนอยางนี้อยูหลายราตรี กิติศัพทความเพราะของเสียงสวดมนตดึกยังคงมีเขามาเนืองๆ เกงเล็กกไ็ปทุกวันไมไดขาด ทั้งๆ ที่เจาตัวก็บนอุบออกปานนั้น

เกงเล็กบอกวาเวลาที่เหลืออยูน้ีอยากจะไดฟงเสียงสวดมนตเพราะๆ ทุกคืน นอกจากจะไดมนตแลวยังสรางกุศลแกตัวเองดวย ตอนหลังผมจึงเปลี่ยนใจดวยความฉงนยิ่งนักวาเสียงสวดมนตดึกน้ันไพเราะกวาเสียงทานเจาคุณตอนทําวัตรแคไหนกันเชียว

Page 39: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

39

คืนหน่ึงผมตกลงใจรวมสังฆกรรมสวดพระพุทธมนตที่มณฑปพระเจาทันใจดวย หลวงพ่ีปอมไดยายไปจําที่วัดอื่นแลว เหลือเพียงหลวงพ่ีแจคที่กลาวตอนรับผมและแสดงความยินดีที่ผมเริ่มมาสวดมนตดึกดวย

หลวงพ่ีแจคเลาวาไดตั้งใจอธิษฐานวาจะสวดมนตเชนนี้ทุกคืนไมใหขาด ถือวาเปนการเรงความเพียรไมใหงอนแงนคลอนแคลน ไดอานิสงสแกตัวเองมากมาย อยางนอยพระใหมจะสามารถจําบทสวดมนตได เปดหนังสือวองไวขึ้นและฝกอานภาษาบาลีใหคลอง ออกเสียงใหชัดถูกอักขระก็นับวาไดประโยชนมากแลว

หลวงพ่ีแจค หลวงพ่ีบอย เกงเล็ก เกงใหญและผม น่ังลอมมณฑปพระเจาทันใจทางดานหนา ตางคนตางมีเทียนไขจุดเรียงรายเพ่ือใหแสงสวางในคืนเดือนมืดเชนนี้ที่กลางแจงไหนๆ ก็มืดมิด มีแตแสงเทียนเทาน้ันที่ทําใหผมมองเห็นบทสวดมนตในหนังสือ บางครั้งลมพัดมาแรงแสงเทียนก็วูบ ตองปองมือประคองใหลําแสงเทียนกอตัวตั้งตรงอีกครั้ง เปรียบเสมือนธรรมะของพระพุทธเจาที่เปนแสงสวางสองมรรคาอันจะนําไปสูความสุขสงบใหกับสรรพสิ่งมีชีวิตตางๆ บนโลก ที่ชาวพุทธจะตองชวยกันประคับประคองรักษาความดีงามแหงคําสอนของพระองคใหดํารงอยูอยางสวางไสวยิ่งๆ ขึ้นไป

หลวงพ่ีแจคอัญเชิญเทวดาดวยทวงทํานองที่ไพเราะในแบบฉบับของตัวเอง กอนที่ทานจะเริ่มพาเขาสูบทสวดสิบสองตํานานพรอมคําอธิบายท่ีมาที่ไปของมนตแตละบทใหพระใหมฟง จบทายดวยบทแผเมตตาและนั่งสมาธิสั้นๆ เพ่ือสํารวมจิตใจ

คืนแรกในการสวดมนตดึกของผมนั้นผานไปไดดวยดีถึงแมวาจะโดนยุงกัดและตองพะวงกับเทียนที่จะดับเพราะแรงลมอยูตลอด แตผมรูสึกไดวาน่ีเปนอีกวิถีหน่ึงของภิกษุที่มีความสําคัญไมแพกับกิจวัตรประจําวันตางๆ ของสงฆ หลังสวดมนตแลวผมใจนิ่ง นอนจําวัดไมเคยไดฝนอุตลุดอีกเลย ดังน้ันผมเลือกที่จะไปรวมสวดมนตดึกกับหลวงพี่แจคทุกคนืที่ทําได ผมพยายามเรงความเพียรและรอคอยผลของความเพียรน้ัน เหมือนเด็กที่รอคอยของขวัญอยางใจจดใจจอ. ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 27: วันพระใหญ วันของพระใหม 1

เปนเรื่องที่คาดหมายเอาไวลวงหนาเล็กนอยแลววาในขณะที่ผมครองเพศบรรพชิตอยูน้ี จะไดรวมเหตุการณสําคัญทางศาสนาระดับโลก คือวันวิสาขบูชา เปนโอกาสอันดีย่ิงที่ผมจะไดสัมผัสกิจกรรมของพระสงฆในวันสําคัญอยางนี้วาตองทําอะไรบาง…ในมุมมองที่ฆราวาสไมเคยรูมากอน

กอนวันพระใหญหน่ึงวันเชนนี้ มักจะมีแมขาวอุบาสิกามาถือศีลท่ีวัดกันเปนจํานวนมาก แปลกใจพี่ ‘พอขาว’ ไมเห็นจะมีมา หรือมาก็นอยเต็มที คงเปนเพราะผูชายมีโอกาสไดบวชเรียน จึงเฉยๆ กับการเขาวัดและถือศีลแปด ถาคิดเชนนี้กันหมดอีกหนอยสีกาก็เต็มวัดกันพอดี

แมขาวมักจะมาพรอมดวยของแหงใสบาตรตลอดสองสามวันที่พักอยูที่วัด นองเณรจะไดอานิสงสไดรับนมกลองมากมาย จนบางทีไมอยากจะรับ เพราะเยอะเหลือเกิน เต็มบาตรแลวแมจา…ขอถุงใบนึง น่ีขนาดยังไมไดกาวออกนอกวัดนะนี่

การทําวัตรเชาของวันพระใหญจะคงเหมือนกับวันพระทั่วๆ ไป คือ การสวดบทมหาสมัยสูตร ซึ่งมีความยาวมากและซ้ําไปซ้ํามามากกวา 20 นาทีไมมีหยุด หลังจากนั้นสํารวมจิตใจทําสมาธิเปนปรกติ กอนแยกยายออกไปบิณฑบาต ซึ่งเปนไปตามคาดวาอาหารที่รับมานั้นมากมายเหลือเกิน หลวงพ่ีเกงเล็กไดถุงเพ่ิมมาอีกสามสี่ถุง ถือมาจนแขนตก ดีที่วามีนาคชุดใหมมารอบวชกอนแลว ชวยแบงเบาภาระของพระไปไดบาง สวนผมกับเกงใหญ ไดอาหารตามพอดี เพราะเราเดนิไปทางที่คนไมพลุกพลานมาก แตอยางนอยก็พอชื่นใจวาคนไทยยังระลึกถึงวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา พยายามออกมาทําบุญกันตั้งแตเชา

Page 40: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

40

กิจของสงฆวันน้ีไมปรกติ เนนไปที่เรื่องการทําความสะอาดรอบบริเวณวัด ถึงแมวาวัดเราจะไดช่ือวาเปนวัดที่สะอาดเปนอันดับหน่ึงของประเทศ จากการจัดอันดับของพระใหมที่พวกเราทําความสะอาดกันอยางหนักทุกวัน แตก็ยังไมเพียงพอสําหรับวันที่ญาติโยมจะมากันมากมาย ทานเจาคุณไดสั่งใหเราดูแลทุกซอกทุกมุม จนถึงพระพุทธรูปแตละองคที่เก็บไวตามตูตางๆ ในวิหารหรืออุโบสถ เช็ดถูเครื่องทองเหลืองมันปลาบแวววาว โดยเฉพาะในวิหารน้ันตองสะอาดที่สุด เพราะจะมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานใหประชาชนไดกราบไหวกันอยางใกลชิด

หลวงพ่ีแจค ไดรับมอบหมายจากทานเจาคุณใหดูแลความเรียบรอยสวยงามของวิหาร โดยมีเหลาพระใหมเดินตามเปนพรวนคอยเปนลูกมือ ที่สําคัญวันนั้นมีศรัทธาญาติโยมจากตางประเทศตั้งใจจะมาทําบุญวันพระใหญที่วัด ทานเจาคุณทานตั้งใจจะตอนรับเปนพิเศษดวยการสวดมนตสืบชาตาใหซาบซึ้งตามแบบวิถีชาวเหนือ

ผมตองผูกโยงสายสิญจจากพระประธานในวิหาร คลองสัมพันธกับพระบรมสารีริกธาตุแลวกระจายออกไปลอมรอบแนวเสาเปนสี่เหลี่ยม ผูกโยงเปนตารางสี่เหลี่ยมดานในแลวเตรียมหอยสายสิญจนลงมาทุกตารางเมตรใหญาติโยมไดถือไวประนมมือตอนทําพิธี

พระบรมสารีริกธาตุไดรับการประดิษฐานอยูบนโตะหมูที่จัดต้ังขึ้นมาใหม รายลอมดวยพระพุทธรูปองคสําคัญของวัด เพ่ือรวมความศักดิ์สิทธิ์ใหเปนหนึ่งเสมือนตัวแทนของพระมหาศาสดา จากนั้นหลวงพี่แจดไดใหพระใหมและนองเณรชวยกันจัดเตรียมถางประทีป จัดวางตามจุดตางๆ รอบบริเวณวัด เตรียมถาดเทียนสําหรับจุดภายในวิหารยามที่สวดมนตทําวัตรเย็นในคืนน้ี

ใกลจะหนึ่งทุมแลว พระใหมยังทํางานตัวเปนเกลียวงวนอยูกับการจัดการวิหาร ทั้งนี้ทั้งน้ันก็เพ่ือฉลองศรัทธาญาติโยมที่มีกุศลจิตมาทําบุญเวียนเทียนระลึกถึงพระพุทธคุณ ถึงแมจะเหนื่อย แตก็เปนงานสืบสานพระพุทธศาสนาใหย่ังยืนตอไปในใจของสาธุชน ผล ตอบแทนยอมคุมคาตอความสงบสุขแหงโลกเปนแนแท. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 28: วันพระใหญ วันของพระใหม 2 เนื่องจากเปนวันสําคัญครั้งใหญของพระพุทธศาสนา ทานเจาคุณไดมีดําริใหเพ่ิมบทสวดมนต ‘มหาสันติงหลวง’ หลังจากทํา

วัตรเย็นวันนี้ดวย เปนการสวดเพื่อสืบชาตาเมืองเชียงใหม เหมือนเชนครั้งที่ฉลองอายุเมืองเชียงใหมครบ 700 ป ที่วัดมีการเตรียมพับสา คลายๆ หนังสือกัณฑเทศนเวลาพระทานเทศนสอนเรื่องตางๆ ผมเอามาลองซอมสวดดูกอนแลวจะเปน

ลม เพราะบทสวดมีความยาวมากกวาบทมหาสมัยสูตร ยาวย่ิงกวาขบวนรถไฟสายเหนือจากเชียงใหมไปกรุงเทพฯ เสียอีก สาธุชนหลั่งไหลเขามาที่วัดมากขึ้นเรื่อยๆ จนตองมีการจัดเวียนเทียนเปนสองรอบ รอบแรกนั้นกอนที่จะเริ่มสวดทําวตัรเย็น สํา

หรับญาติโยมที่มีธุระรีบรอนและไมอยากเดินทางกลับในเวลาค่ําคืนดึกดื่น โดยเฉพาะผูที่พาลูกเด็กเล็กแดงมาดวย กลัวนองจะงอแงเวลาสวดมนตก็พาเดินเวียนเทียนเสียแตวันเลยก็นับวาดี

เมื่อถึงเวลาอันเปนมงคลฤกษ ทานเจาคุณนําสวดมนตทําวัตรเย็นแบบแปลทุกบท เพ่ือความเขาใจของสาธุชนที่เขามารวมสวดมนต จากนั้นตอดวยบทธัมมจักรกัปปวัตนสูตร แบบเต็มไมมียอ ซึ่งมีความยาวเหยียดถึงสวรรคช้ันฟาทุกระดับ ยาวย่ิงกวาบทมหาสมัยสูตรตอนเชา

ในตอนทายของบทธัมจักรน้ันจะกลาวถึงการมาชุมนุมกันของเทวดาทั้ง 16 ช้ัน หลวงพ่ีแจคจะเปนผูลั่นฆองกองกังวานไปทั้งวิหารหลวง ในทันทีที่ผมไดยินเสียงฆอง รูสึกขนลุกซูชูชันประหนึ่งวาเทวดาทานมาวนเวียนอยูบริเวณนี้เปนจํานวนมาก

แสงเทียนที่สองสวางทามกลางความมืดมิดของวิหารน้ันกระทบจิตรกรรมฝาผนังและลวดลายสีทองในวิหารวับวาม ในเวลานี้ความงามของเสนาสนะดั่งพระพุทธวจนะเรืองรองทาทับจิตใจของพุทธศาสนิกชนทุกคนที่มารวมกันอยูที่น้ีแลว ยังความปลาบปลื้มในดวงจิต จนคิดหาสรณะที่พ่ึงอื่นใดคงไมมี

Page 41: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

41

หลังจากนั้นทานเจาคุณไดเทศนและใหโอวาทเนื่องในวันวิสาขบูชา ใหทุกคนนอมรําลึกถึงพระพุทธคุณอันยิ่งใหญที่มีตอสรรพ

สัตวและชาวโลกทั้งปวง นําสํารวมจิตใจทําสมาธิกอนที่จะทยอยกันลงไปเวียนเทียนรอบพระเจดีย ทานเจาคุณไดกลาวเชื้อเชิญใหสาธุชนที่ยังมีจิตศรัทธารวมกันสวดบทมหาสันติงหลวงบนวิหารหลวงอีกครั้ง เพ่ือสืบชาตาเมือง

เชียงใหมและเปนสิริมงคลแกตัวเองยิ่งๆ ขึ้นไป ผมและพระรูปอื่นๆ เขาไปนั่งประจําที่ในวิหารเหมือนเดิม เตรียมพรอมสําหรับบทสวดที่มีความยาวที่สุดเทาที่เคยไดสวดมานาคชุดใหมที่รอบวชไดมาถวายน้ําเปลาและปานะใหกับพระทุกรูป เพราะตลอดทั้งวันนี้ก็ทํางานหนัก สวดมนตจนคอแหบแหง เพ่ิงจะเคยเห็นพระสวดมนตไปฉันน้ําไปดวยก็คราวนี้เอง

45 นาทีผานไปสําหรับการสวดบทมหาสันติงหลวงแบบนอนสตอป ผมจิบน้ําไปหลายอึกและยังไมวายมีแอบสติวูบไปเปนพักๆ เนื่องจากวาเริ่มเหนื่อยและตาลายกับตัวหนังสือเล็กๆ ในพับสา

วันพระใหญ เปนวันของพระใหมจริงๆ เราทํางานหนักเหนื่อยทั้งน้ีก็เพ่ือวัดของเราเอง คนที่อยูประจําวัดก็คือพระ เปรียบวัดเหมือนบานของเราเองที่ตองดูแล ยามที่มีงานสําคัญพระทุกรูปก็ตองชวยกัน ผมไมไดมาอยูอาศัยวัดฟรีๆ ใหติดหน้ีสงฆ อีกทั้งกิจอันบรรพ ชิตพึงประพฤติน้ันผมและพระใหมทุกคนก็ไมไดขาด ทั้งเรื่องการกวาดลานวัดหรือสวดมนตภาวนา นับวาผมเหน่ือยมากในวันดังกลาว

แตผม พระใหม หลวงพ่ีแจคและหลวงพี่รูปอื่นๆ ก็ไมไดลด ละ เลิก ในการเรงความเพียร คืนนั้นเราไปสวดมนตรอบดึกเหมือน เดิมที่มณฑปพระเจาทันใจ พรอมทั้งอธิษฐานวา…สพพ ทานํ นิพพานสส ปจจโย โหตุ นิจจํ…ผลทานอันใดที่ขาพเจาไดทําในวันน้ี ขอใหเปนปจจัยสูพระนิพพานอันเปนที่สุด ดวยเทอญ. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 29 : มรณานุสติ ภาคตน

ทานเจาคุณเปนพระผูใหญที่มีผูคนใหความเคารพศรัทธาทานมากมาย ทานจึงมักมีกิจนิมนตตามสถานที่ตางๆ บางครั้งออกตางจังหวัดเพื่อไปเทศนหัวขอธรรม

เชนวันนี้ทานรับนิมนตไปเปนประธานในพิธีและเทศนใหกับชาวบานในสํานักสงฆแหงหนึ่งที่จังหวัดพะเยา เนื่องในวัน

‘อัฐมีบูชา’ เปนวันสําคัญทางศาสนาอีกวันหนึ่งที่ผูคนกลับลืมเลือน หลังจากที่พระพุทธเจาทรงเสด็จปรินิพพานแลว คณะสงฆไดจัด

Page 42: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

42

ประชุมเพลิงพระสรีระของพระองค นั่นก็คือ 7 วันหลังจากวันวิสาขบูชาของทุกป เปนวันอัฐมีบูชา วันแหงไฟที่ประชุมเพลิงพระพุทธสรีระ

พระอาจารยเอกและหลวงพี่แจค ไดรวมเดินทางไปกับทานเจาคุณดวย สวนผมและหลวงพี่ฟลุคพระใหมหมาดๆ จากการอุปสมบทไมถึงสัปดาหเปนผูติดตามไปดวย นัยวาเปนการพาพระใหมไปเปดหูเปดตานอกสถานที่บาง แถมดวยนองเณรอีก 2 รูปเปนเณรอุปฏฐากทานเจาคุณนั่งดานหลังสุดของรถตู เราเริ่มออกเดินทางหลังจากฉันเชาเสร็จ เคลื่อนที่ไปชาๆ จากจังหวัดเชียงใหมมุงสูจังหวัดพะเยา ถนนหนทางก็ดูเรียบรอยดีไมนากลัว แตมีฝนโปรยปรายลงมานิดหนอยระหวางทาง

เปนครั้งแรกตั้งแตบวชมาผมยังไมเคยออกนอกวัดไปไกลๆ แบบนี้นอกจากตอนบิณฑบาต ใจก็คิดสนุกเปดเปงมองดูถนนหนทางในเมืองเชียงใหมวาจะเปลี่ยนแปลงไปมากนอยสักเพียงใด ผานไปยี่สิบกวาวันจะเกือบเดือนแลว ชาวเชียงใหมจะสบายดีไหม จะเจอคนรูจักบางไหม

สวนฟลุคไมใชคนเชียงใหม พอไดออกมาสูโลกภายนอกก็กระดี๊กระดาไมแพผมหละ สักพักคนขับรถก็นึกคึกเปดเครื่องเสียงในรถขึ้นมา คงจะเปนเพราะงวงเวลาขับรถไปนานๆ ในตอนแรกผมนึกเพงโทษโกรธเคืองเขาวาไมรูกาละเทศะเลย พระเณรนั่งเต็มรถอยางนี้เปดเพลงใหฟงไดอยางไร พาลจะผิดศีลกันไปหมด สักพักพอถึงเพลงที่ผมเคยชอบ ใจมันก็วาบหวาม ปากขมุบขมิบจะรองตาม ปลอยใจไปตามเสียงเพลงเสียอยางนั้น

พระอาจารยเอกเห็นทาทางของผมแลวคงไมสบายใจ ตักเตือนผมใหสํารวมประสาทสัมผัสทั้งหาดวย “เห็นสักแตวาเห็น ไดยินสักแตวาไดยิน อยาประมาทปลอยใจไปกับสิ่งยั่วยุทางกามารมย” โอว…มันชางยากแท

ผมนั่งตัวสั่นงันงกหลับตาทองบนบทสวดมนตที่จําไดไปตลอดทาง ไมไดทันสังเกตวามีรถที่ขับมาพรอมๆ กันผลัดกันแซง

ผลัดกันชิงเลนกับรถตูของวัดมาโดยตลอด

แตระหวางทางถนนสูอําเภอวังเหนือเปนทางลาดชันลงเขา ฝนที่ตกปรอยๆ ทําใหถนนกําลังแฉะพอดีๆ ผมเพิ่งจะลืมตามองหนาตางทางดานขวาอยูพอดี จึงเห็นทุกการเคลื่อนที่ของรถโตโยตา อแวนซาสีน้ําเงินคันนั้นที่คิดวาไดจังหวะ ออกตัวแซงขวาลงเนินไปโดยไมไดเห็นวาขางหนาเปนทางโคงที่ลาดชัน

เมื่อแซงพนรถของเราไปได เขาชะลอความเร็วลงทันทีเพื่อเขาโคง ไฟเบรคลุกแดงยาวนานแตก็ไมทําใหสถานการณดีขึ้น รถแวนขนาดครอบครัวคันนั้นทายปดแลวผันตัวลงไปในรองน้ําเชิงเขาขางทางทันที กอนที่จะกระแทกขึ้นมามวนตลบสามรอบครึ่งแลวกระดอนกลับไปหงายทองอยูในรองน้ําอีกครั้งหนึ่งบนถนนเสนเดิม ถนนเสนที่รถตูของเรากําลังขับตามเขาไปติดๆ เชนกัน

ผมและหลวงพี่ทั้งคันรถประสบเหตุรองกันเสียงหลง เพราะภาพที่เห็นทําใหยากจะเชื่อวาจะมีผูรอดชีวิตอยูในรถคันนั้น เวลาที่รถคันนั้นกําลังพลิกควํ่าอยูตอหนาตอตานั้นชางกินเวลาเนิ่นนานใจจิตใจของเราทุกคน จนไมอยากจะคิดวาความรูสึกของคนที่อยูในรถคันนั้นจะเปนอยางไร ทานเจาคุณและพระอาจารยเอกสั่งใหคนขับรถจอดรถทันที มีเพียงรถของวัดคันเดียวที่ประสบเหตุและกําลังมีคนตองการความชวยเหลือ.

ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 30: มรณานุสติ ภาคปลาย ทันทีที่เปดประตูรถตูออก เสียงแผดรองของแตรรถแวนคันนั้นหวีดหวิวเสียดแทงใจของหลวงพี่ทุกคน เขาสงสัญญาณขอความ

ชวยเหลือ แสดงวามีคนรอดชีวิต!!! คนขับรถของวัดรีบรุดไปที่รถแวนที่กําลังหงายทองอยูทันที แตอปุสรรคก็คือรถคนันั้นลงรองนํ้าแบบพอดิบพอดีจนยากที่จะ

เปดประตูใหคนขางในออกมาได ยังไมมีรถคันอื่นมาประสบเหตุและมีอุปกรณชวยชีวิตไมเพียงพอ “โทรเรียกตํารวจ!!” พระอาจารยเอกสั่งผม ซึ่งนับวาเปนเรื่องที่แปลกมาก วันน้ันกอนเดินทางมีความรูสึกแปลกๆ พกโทรศัพทมือถือติดตัวมาดวย ทั้งๆ ที่ตอนอยูในวัดก็

ไมเคยเปด กะวาเผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะไดมีมือถือใช ซึ่งผมก็เปนคนแรกที่หยิบโทรศัพทมือถือออกมาโทรเรียก 191 ใหรีบมาที่เกิดเหตุทันที

Page 43: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

43

หลังจากนั้นไมนานคนขับรถของวัดสามารถแงมประตูออกมาไดนิดหนอย นํารางของเด็กนอยอายไุมเกิน 4 ขวบที่กําลังมึนงงอยูออกมาได หลวงพ่ีแจครีบเขาไปอุมรับเด็กคนนั้นทันที ทั้งที่ผมยังชะงักอยูเล็กนอยเพราะกําลังลังเลไมแนใจวาเปนเด็กผูหญิงหรือเด็กผูชาย

“หลวงพ่ีจะไมชวยเหรอ ตอนนี้ไมมีใครแลวนะนอกจากพระ” หลวงพ่ีแจคพูดเชนนั้นก็เรียกสติผมกลับคืนมา ควักทิชชูที่รอยวันพันปก็ไมเคยพกมาในอังสะ มาใหพระอาจารยเอกซับเลือดที่น้ิวเทาของเด็กคนนั้น พรอมทั้งสงยาดมที่พกติดตัวมาประจําใหเขาไป

ไมกี่อึดใจเริ่มมีรถชาวบานผานมาประสบเหตุบางและเขามาใหความชวยเหลือมากขึ้นเรื่อยๆ กลุมพระจึงทําหนาที่เปนเพียงผูแนะนําอยูหางๆ เครื่องมืออุปกรณจากรถคันตางๆ มีมากมายไมวาจะเปนแมแรงหรือแทงเหล็กเพื่อชวยงัดประตูใหไดกวางขึ้น แลวรางของคนเจ็บก็ทยอยลําเลียงออกมา

ย่ิงกวาปาฏิหาริย เพราะคนแลวคนเลาที่ออกมาจากรถนับรวมได 6 คนไมมีเลือดตกยางออกอยางที่พวกเราไดคาดคิดไวกอนที่จะเขาไปชวยเหลอื ทุกคนมีอาการฟกช้ําดําเขียวและมึนงงกับเหตุการณที่เกิดขึ้น ที่หนักที่สุดเห็นจะมีผูหญิงคนหนึ่งมีอาการเจ็บหลัง และภรรยาของคนขับที่น่ังดานหนาคงจะไดรับบาดเจ็บที่ขา เขาใจวาขาจะหักจากแรงกระแทกกับแผงควบคุมดานหนารถ และในไมชารถตํารวจก็ลําเลียงคนเจ็บไปสงโรงพยาบาลทันทวงที

จากนั้นทานเจาคุณ พระอาจารยเอก พลวงพ่ีแจคและนองเณรขึ้นรถตูเดินทางตอไป แตก็ยังคงวิพากษวิจารณถึงเหตุการณที่เกิด ขึ้นวา โยมคันนั้นโชคดีมาก เพราะในสถานการณเชนนั้นหากเขาขับรถมาคันเดียวแลวตกอยูในทองรองก็ยากที่ใครจะมองเห็นได แตผา เหลืองที่ยืนเรียงรายอยูริมถนนเปนจุดเดนใหคนขับรถคันอื่นๆ ตองสะดุด เพราะชาวเหนือเราพรอมที่จะชวยเหลือกันอยูแลว ย่ิงเห็นวาพระกําลังไดรับความลําบากจะตองรีบมาชวยเหลือทันที

เมื่อมีโยมชวยเหลือมากๆ เขา พระก็ไมตองหวงอะไรอีก ปลอยใหเปนหนาที่ของโยมและตํารวจไปจะดีที่สุด ผมก็นึกภาพไมออกเหมือนกันวาถายังไมมีใครมาชวยแลวพวกเราพระสงฆจะชวยเหลือสีกาทั้งคันรถน้ันไดอยางไร

มีเรื่องตลกรายที่ขําไมออกตามมาจากเหตุการณวันน้ันวา ในสภาพที่เฉียดตายของโยมในรถคันนั้น ทันทีที่มองออกมาเพื่อขอความชวยเหลือ เห็นแตพระสงฆ 5 รูปพรอมนองเณรอีก 2 รูป เปน 7 รูปพอดีกําลังยืนรายลอมอยู จะรูสึกวาตัวเองไดตายไปแลวพรอมที่จะสวดอภิธรรมกันเลยกระมัง เรื่องนี้ที่ผมไดประสบเหตุการณมากับตัวน้ัน ทําใหผมเขาใจในความไมประมาทที่เปนคําสั่งสอนสุดทายของพระพุทธเจาอยางแจมแจง “หลวงพ่ีแจคครบั ผมมีมรณานุสติแลวละ…” ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 31: เดินจงกรม

นับจากวันที่ผมประสบเหตุการณคาบเสนระหวางความเปนความตายของคนเราไปแลวนั้น การสวดมนตรอบดึกกับหลวงพ่ีแจคก็สัมฤทธิ์ผลมากขึ้น ผมยิ่งเรงความเพียรและพิจารณามรณานุสติ ซึ่งเปนหนึ่งในกรรมฐาน 40 กอง การเจริญมรณานุสตินี้ก็เพื่อพิจารณาวาที่สุดแลวมนุษยก็มีความตายรออยูเบื้องหนาทั้งสิ้น จงดํารงตนอยูดวยความไมประมาทเถิด

สิ่งนี้เองยิ่งทําใหผมรูสึกวา นอกจากการทําบุญทําทาน รักษาศีลอยางเครงครัดในขณะที่ครองเพศสมณะอยูนี้ ยังมีสิ่งใดอีกบางที่บรรพชิตพึงประพฤติ เพื่อสั่งสมบุญบารมีใหเขาใกลพระนิพพานมากขึ้น ตัดภพตัดชาติไดเร็วขึ้น การเกิดเปนทุกขแทหนอ

ทําอยางไรจะหลีกนี้ไดพน

พอแมครูบาอาจารยหลายทานมีแนวปฏิบัติหนึ่งที่สั่งสอนถายทอดกันมานาน พระอาจารยหลายรูปในประเทศไทยก็กลาวถึงการเจริญสมาธิภาวนาแบบหนึ่งวาชวยสรางความสงบรํางับในใจไดดีขึ้น ทานเจาคุณทานก็แอบมามองดูพวกเราพระใหมและหลวงพี่แจคสวดมนตดึกและทําสมาธิเองอยูบอยๆ ทานคงเห็นสมควรแกเวลาจึงไดมอบหมายใหหลวงพี่แจคสอน ‘การเดินจงกรม’ ตามแบบที่พอแมครูบาอาจารยสอนกันมา ตามแบบฉบับของหลวงตามหาบัวศิษยกนกุฏิของหลวงปูมั่น ภูริทัตโต ที่พระวัดปาใหความเคารพบูชาสูงสุด

Page 44: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

44

‘การเดินจงกรม’ นิยมเดินยางอยางกับการเดินไปธุระธรรมดา ระหวางเดินจะมีการบริกรรมพุทโธหรือพิจารณาเกี่ยวกับสัง ขารรางกาย เพื่อใหเกิดความสงบ สมาธิและปญญาจะตามมา บางครั้งเปนการเดินจงกรมแกงวงหลังจากการฉันหรือนั่งสมาธินานๆ หลวงพี่แจคจึงแนะนําลําดับของการสวดมนตดึกเสียใหม เริ่มจากการสวดมนตประมาณ 45 นาที เดินจงกรม 45 นาทีและนั่งสมาธิภาวนาอีก 45 นาทีหรือจนกวาที่พระใหมแตละรูปจะพอใจ

ทุกคืนจะเริ่มสวดมนตดึกประมาณสามทุมสิบหนานาที เลิกก็เกือบๆ จะเที่ยงคืนทุกวัน เรื่องนี้พระอาจารยเอกทานเห็นดวยวาพระใหมสมควรจะไดรับการฝกตนดานนี้แลว ทานยังสอบถามพระใหมทุกวันถึงผลของการปฏิบัติและยังไดแนะนําการเอาชนะอุปสรรคตางๆ ในแบบที่ทานเคยประสบมาดวยตัวเอง

หลักสําคัญประการหนึ่งคือ ใหเนนวาธรรมะทั้งหลายอยูภายในกายของเราเองในการภาวนาใหสงจิตเขาภายในกาย ศึกษาภายในกาย ไมใหสงผานออกมาภายนอก เพราะวาจิตที่แสสายนอกจากจะไมเกิดประโยขนแลวยังทําใหเกิดการลองลอยของจิตดวย

เมื่อจิตรวมได สมาธิจะมา ปญญาก็จะเกิด

ทุกคืนหลังสวดมนตดึกเสร็จ ผมจะหยิบเทียนไขติดตัวไปสองเลมจุดที่ดานหัวและทายของทางจงกรมที่เปนอิฐบลอกรูปตัว

หนอนขางๆ โบสถ ที่ปลายทางจงกรมนั้นผมยืนสงบนิ่งประนมมือสวดมนตระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคณุและพระสังฆคุณบทสั้นๆ อธิษฐานจิตแรงกลาถึงความมุงมั่นที่จะสํารวมจิตภาวนาในวันนี้เพื่อใหเปนบุญเปนกุศล จากนั้นลดมือลงประสานพักไวที่บริเวณทอง กมมองต่ําหางจากปลายเทาสักหนึ่งถึงสองเมตร กําหนดลมหายใจเขาออกอยางชาๆ พรอมทั้งบริกรรมพุทโธ กาวเทาออกไปขางหนาอยางไมรีบรอนและไมชาเกินไปจนทรงตัวไมได ควบคุมจังหวะการกาว ยก ยาง เหยียบใหคงที่จนเปนอัตโนมัติ แลวสุดทายใหมีจิตจดจออยูที่ลมหายใจเขาออกที่บริกรรมพุทโธอยูนั้น เดินไปและกลับในทางจงกรมอยูเชนนั้น ควบคุมจิตไมใหแสสายหรือสน ใจสิ่งรบกวนภายนอกไมสนใจกาลเวลาจนกวาจะไดยินเสียงระฆังบอกเวลาของหลวงพี่แจค จากนั้นจึงนั่งสมาธิภาวนาตอ จิตจะสงบไดเร็วขึ้น

ฝกตนอยูอยางนี้ทุกคืน สมาธิละเอียดขึ้นเปนลําดับ จิตที่เคยชอบเพงโทษคนอื่นก็ลดลง ความโกรธโมโหรําคาญในใจก็เกิดชาลง เพราะสามารถกําหนดรูดูใจตัวเองไดแลววา นี่เปนอารมณ นี่คือใจของเราที่เปนทุกขเอง รูเทาทันอารมณของตัวเองอยูตลอดเวลา.

ติดตามตอนตอไป.

Page 45: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

45

จากใจ...ฐานวิชโช ความคิดที่จะเขียนเรื่องเลาฯ นี้มีมาตั้งแตขณะที่กําลังบวชอยู แตตอนนั้นรูสึกวาเรากําลังครองเพศบรรพชิตก็ไมควรจะประ

พฤติตัวเยี่ยงคฤหัสถ จะเขียนหนังสือเปนไดอารี่เก็บไวทุกคืนๆ ขณะที่อยูในกุฎินั้นก็จะดูกุกกิ๊กเกินไปสักหนอย

จนเวลาลวงเลยมาปานนี้ พนกระแสสมณะเพศมาแลวก็คิดแตเพียงวา จะทําอยางไรดีที่จะถายถอดความรูสึกและเรื่องราวตางๆ ที่ถือเปนประสบการณที่ดีที่สุดในชีวิตนี้ใหกับคนอื่นๆ ไดรับทราบกัน ก็กลับไปที่จุดเดิมวา ตองเขียนเลา...เรื่องเลาฯ จึงเกิดขึ้น

จวบจนวันนี้ เลยสามสิบตอนมาแลว สองรอยกวาขอความคิดเห็น หม่ืนกวาผูชมท่ีรวมอนุโมทนา บอกไดคําเดียววาไมเคยคาดคิดวาจะมาไกลถึงเพียงนี้และปลาบปลื้มใจเปนที่สุดครับ.

ขอขอบคุณเจาของเวปไซตลานธรรมเสวนาและผูดูแลระบบทุกทาน ที่รวมดวยชวยใหมีพ้ืนที่จุดหนึ่งบนโลกไซเบอรสํา หรับงานเขียนเล็กๆ นอยๆ งานแรกของผมชิ้นนี้ เผยแผใหกับทุกๆ คนที่ไดผานเขามาดวยใจที่เปยมไปดวยปติแหงกระแสธรรมะ ไดเบิกบาน ขอบคุณผูอานทุกทาน ทุกความคิดเห็นที่ผานเขามาครับ ผมเก็บไวทุกขอความและหวังเปนอยางยิ่งวาจะติดตาม เรื่องเลาฯ

ตลอดไป. ชวงหลังๆ เลาเรื่องชาเพราะเรียนหนักเหลือเกินครับ แบงเวลามาเขียนไดไมมาก แตเมื่อไดเห็นวายังมีผูสงขอความมาให

กําลังใจอยูเนืองๆ ก็เปนเหมือนน้ําทิพยชโลมใจใหผมมีกําลังจะเลาทุกๆ อยางที่ผมไดสัมผัส ใหทุกทานไดรับทราบ จนถึงบทสุดทายครับ.

ขอบพระคุณทุกๆ ทานจากใจจริงครับ

ขอใหเจริญในธรรมครับ. ฐานวิชโช...ผูเลาเรื่อง

ตอนที่ 32: ฟลุค ไมฟลุค 1 ทุกค่ําคืน หลวงพ่ีแจคจะนําพระใหมสวดมนตดึก ย่ิงตอนหลังไดเปลี่ยนสถานที่เปนการสวดมนตในอุโบสถเพราะหนีพายุใน

ฤดูฝนเชนนั้นแลว การสวดมนตก็ดูเปนพิธีที่สําคัญ มีที่ทางสะดวกสบายและมีแสงสวางเพียงพอไมตองลุนวาเทียนจะดับหรือแสงจะรบิหรี่ลงเพียงใดเลย การเรงความเพียรของพระใหมก็ตอเน่ืองและไดผลมากขึ้นตามลําดับทุกคน

นอกจากผม เกงเล็กและเกงใหญที่ตอนนี้ถือเปนพระรุนพ่ีแลว ฟลุค เปก ปอและบอย ก็ถือเปนกลุมพระบวชใหมที่เปนกําลังสําคัญของการสวดมนตดึก ถาไมนับแรงผลักดันที่เกิดจากคําแนะนําของทานเจาคุณใหพระท่ีบวชใหมนับจากรุนผมสวดมนตดึกที่อุโบสถทุกคืนแลว ผมก็คิดวาพระใหมเหลาน้ีมีความตั้งใจดี อยางนอยก็มีความอดทนตอสิ่งที่ทําไดยาก เมื่อทําแลวก็ถือเปนบุญเปนกุศลอยางหน่ึงตลอดระยะเวลาที่ไดบวชเปนบรรพชิตอยูน้ี พวกเขายังตองเรยีนรูอีกมาก

นับแตพระรุนใหมบวชเขามา พระอาจารยเอกและพระอาจารยเชาวนก็ตองอบรมสั่งสอนพระใหมอีกครั้ง เปนวงจรวนเวียนอยูเชนนี้มาชานาน ลูกศิษยก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกไปจากวัดนี้ก็หลายรอยคนแลว เชน ฟลุค เปนตัวอยางของผูที่บวชจากวัดนี้ไปแลวใหความเคารพศรัทธา ติดตอและทะนุบํารุงวัดเสมอมา

ตอไปนี้เปนเรื่องของฟลุค ลูกศิษยวัดคนหนึ่งที่ผมภูมิใจ ฟลุค เปนลูกชายคนเดียวของครอบครัวใหญจากนครปฐม มีฐานะร่ํารวยจากการทําสวนผัก มีพอคามารับซื้อถึงที่สวนและใน

บางครั้งก็มีรายไดจากการใหเชาที่สวนปลูกผัก ปน้ีฟลุคจบปริญญาแลวพอแมจึงตั้งใจอยากใหบวชเรียนในชวงที่รอพิธีพระราชทานปริญ ญาบัตรและยังไมไดเริ่มทํางาน

ครอบครัวของฟลุคเดินทางขึ้นลงเชียงใหมบอยๆ ไดยินวาที่วัดของเรารับพระบวชใหมอยูเนืองๆ จึงไดเขานมัสการพระอาจารยเอก นัดแนะวันบวชใหกับลูกชาย เปนวันหลังวันวิสาขบูชาหน่ึงวัน ขณะนั้นผมเพิ่งบวชไดเพียงย่ีสิบกวาวันเทาน้ันเอง

Page 46: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

46

ฟลุค เลาวา เม่ือถึงกําหนดที่จะตองมาเปนนาคอยูที่วัดกอนวันบวชจริง เขาโดยสารรถทัวรมาคนเดียวถึงจังหวัดเชียงใหมตั้งแต

ฟายังไมแจง ลงที่สถานีขนสงอาเขตแลวก็ไมรูวาจะเดินทางไปวัดอยางไร จึงมีรถแดงรับจางใจดีอาสาพาไปสงใหถึงทารถไปอําเภอแมริม – แมแตง โดนฟนคารถไปสองรอย (คนในพื้นที่จายเพียงสามสิบบาท) จากนั้นฟลุคก็ตอรถเขาอาํเภอ ถามไถชาวบานถึงไดรูวาตองลงกลางทางแลวเดินแยกจากถนนใหญเขาไปอีกประมาณหารอยเมตร ถึงวัดฟลุคก็เปนอันสลบ

ทานเจาคุณถามไถไดความวาฟลุคเดินทางมาไกล มาบวชคนเดียวไมมีญาติโยมที่ไหนมาดูแลจัดแจงเรือ่งตางๆให ทานจึงใหความเอ็นดูกําหนดใหฟลุคอยูกุฏิ 1 เรือนรับรองพระผูใหญหลังเกา มีระเบียงกวาง เครือ่งเรือนไมจริง มีเครื่องปรับอากาศโบราณๆ และที่สําคัญมีนํ้าอุนอยูในหองนํ้าในตัวดวย กุฎิ 1 น้ีอยูใกลกับกุฏิทานเจาคุณที่สุด ตองพบกับทานตลอดเวลาทั้งเชา สาย บายและเย็นไมวาฟลุคจะคิดวาโชคดีหรอืโชครายที่ไดอยูกุฏิดีแตใกลทานเจาคุณ ก็คงมีคนแอบเคืองนิดๆ วาไดรับความสะดวกสบายกวาเขาเพื่อน

ฟลุคมาถึงวัดวันแรกก็ไมสบายอยางหนัก จนเพื่อนๆ และพระอาจารยเอกตองเปนหวง ฟลุคไมรูจะคุยกับใครหรือขอความชวย เหลือจากใครในที่ตางถิ่นแบบนี้ มีแตโทรศัพทมือถือท่ีสามารถติดตอกับคนรูจักที่บานได ฟลุคเลาใหผมฟงภายหลังวาใจจริงเขาอยากจะบวชวัดใกลบาน แตทางบานโดยเฉพาะคุณพอใหความเคารพเลื่อมใสในปฏิปทาของวัดปาทางภาคเหนือ และดวยอกีเหตุผลหน่ึงวาจะไดประกอบพิธีบวชไมยุงยากใหญโต ไมเสียคาใชจายมากเพราะไมตองรับรองแขกเหรื่อมากมาย เขาตามใจพอจึงตองมาโดดเดี่ยวแบบนี้. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 33: ฟลุค ไมฟลุค 2

ในสายตาพระอาจารยเอกและพระใหมอยางผมแลว ฟลุคไมใชเด็กที่เกเรกาวราว แตคงมีปญหาสักหนอยในเรื่องการปรับตัวกับถิ่นที่อยูใหมและสังคมแบบชาวพุทธที่ตลอดทั้งชีวิตย่ีสิบสามปน้ีหางเหินมาโดยตลอด

ทุกคนจึงใหความสนใจเอ็นดูฟลุคเปนพิเศษ อยางเชน เรื่องรองเทาฟองน้ําพระราชทานจากทานเจาคุณน้ันก็ขจรขจายไปไกล นัยวาเมื่อฟลุคบวชเปนพระแลวไมมีรองเทาแตะใส คูที่ติดตัวมาจากบานนั้นเปนสีแดงสดใสไมเหมาะกับสมณะ ทานเจาคุณจึงใหรองเทาแตะปบปาสีนํ้าตาลเขมมาใส ฟลุคชอบใจมากบอกวาเปนรองเทาแตะดีมีแบรนดกําลังฮิตในหมูวัยรุน ตอนหลังรองเทาคูน้ีก็ถูกเวียนใชไปเรื่อยหลังจากที่ฟลุคลาสิกขาไปแลว ผมเองก็เคยลองใส แตรูสึกวาจะดูดีมีชาติตระกูลเกินไป ฟองนํ้าดาวเทียมเทาน้ันที่เหมาะกับผม

ปญหายิ่งใหญสําหรับหลวงพี่ฟลุคคือ อาหารการกิน เพราะเปนคนที่ฉันอะไรไดนอยมาก จัดวาเปนคนที่ ‘เลือกกิน’ ประเภทหน่ึง เพราะฉะนั้นภัตตาหารบิณฑบาตที่รับมาเมื่อถึงหอฉันจะถูกเทออกจากบาตรเสียหมด เพ่ือคนหาแตเพียงหมูปงสักไม ไกทอดหรือไสกรอกสักชิ้น นม ขนมปงและกับขาวบางอยางที่ไมใชผักเทานั้นที่ฟลุคฉันได

เรื่องนี้ยังความเดอืดรอนแกพระรุนราวคราวเดียวกนัตองแบงอาหารที่คิดวาหลวงพี่ฟลุคฉันไดใหเปนกองพะเนิน หรือแมแตเรื่องการออกไปบิณฑบาตแลวตองเจ็บเทา ครั้งหนึ่งโดนเศษกรวดปกเทาจนเปนแผลอักเสบก็ไมไดดูแลรักษาตัวเองจนแทบจะเดินไมไหว

Page 47: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

47

เรื่องที่ใครๆ ก็จะทราบคือหลวงพ่ีฟลุคเสพยติด ‘นํ้าอัดลมน้ําดํา’ มากเปนที่สุด ไมวาฟาถลมดินทลายอยางไรขอใหมีนํ้าอัดลมชนิดนี้ใหหลวงพ่ีไดดื่มแกกระหาย โดยปรกติแลวพระที่วัดจะหลีกเลี่ยงปานะประเภทนี้ ถึงแมวาจะเขาขายนํ้าหวานแตวาประกอบไปดวยกรดที่ทําลายกระเพาะอาหารมาก โดยเฉพาะพระที่ไมไดฉันเพลหรือขาวเย็นดวยแลว ไมสมควรดื่มน้ําอัดลมอยางยิ่ง แตฟลุคไมยอมจะตองยองมาโรงน้ํารอนเพ่ือสิ่งน้ีใหได

หลังๆ ความทราบถึงโยมบางกลุมวาพระชอบฉันน้ําอัดลมจึงซื้อมาถวายยกใหญ ฟลุคก็ไดแตย้ิมแกมปร ิและแลวฟลุคก็คนพบคนคอเดียวกันในวัด หลวงพ่ีแบงค เปนพระที่เพ่ิงบวชไดไมเต็มพรรษาดี กอนหนาน้ีเคยไปฝกปฏิบัติอยูที่

วัดสาขาของวัดเรา ชวงน้ีกลับมาเพื่อรอฤกษลาสิกขา เปนนิสิตจากรั้วสถาบันเดียวกัน คณะเดียวกันกับฟลุค ฟลุคไมรอชารีบเขาหาประ หน่ึงวาพบเพื่อนสนิทหรือคนบานเดียวกันอยางไรอยางนั้น ทุกชวงที่มีเวลาวาง ผมจะพบฟลุคน่ังคุยกับหลวงพี่แบงคในเรื่องความหลังครั้งยังเยาว เรื่องสรรพเพเหระทางโลกบาง หรือตางฝายตางก็เลาประสบการณในชีวิตท่ีผานมาใหกันและกันฟง

ชวงแรกของการมาบวชของฟลุคอาจดูเปนเรื่องสนุก ขําๆ เพราะคดิแตเพียงวา 7 วนัเทาน้ันก็จะกลับบานแลว แตเรื่องนี้พระอาจารยเอกไมอนุญาต เพราะทานจะรับบวชเฉพาะคนที่ตั้งใจบวชตั้งแต 15 วันขึ้นไปเทาน้ัน

ฟลุคเหงาจับจิตเมื่อหลวงพ่ีแบงคลาสิกขาออกไป มีปฏิทินในหองที่กุฏิก็ขีดฆานับวันรอเลยทีเดียว การเรียนการสอนที่พระอาจารยแตละทานจับพระใหมไปอบรมนั้น ฟลุคก็รับฟงเทาที่จําเปนตองปฏิบัติใชใหถูกตองก็เทาน้ัน เรียกไดวาเรื่องธรรมะอื่นๆ ไมไดเขาหัวเลย ถามพระพุทธประวัติก็คงจะตอบไมไดเปนแนแท

ความประพฤติของฟลุคอยูในสายตาของผมตลอด ดวยความที่เปนหวงและตองการใหฟลุคไดดีมากกวาที่เปนอยู บทบาทพระพ่ีเลี้ยงของผมก็เริม่ขึ้นอยางลับๆ ควบคุมกิริยามารยาทและหยิบยื่นเรื่องราวธรรมะ หนังสือหลักธรรมใหฟลุคไดอานอยูเนืองๆ ประกอบกับใหหลวงพ่ีแจคเนนการสวดมนตดึกและการทําสมาธิภาวนากับพระรุนใหมมากขึ้น หวังที่จะใหฟลุคเปนพระแท เปนพระจริงที่ยังบุญกุศลใหแกตัวเองก็เพียงเทาน้ัน. ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 34: ฟลุค ไมฟลุค 3

โชคดีเหลือเกินที่หลวงพ่ีแจคกับฟลุคน้ันมีจริตถูกกัน ฟลุคจึงถูกชักชวนเขามาทางธรรมไดโดยงาย เริ่มจากการไปสวดมนตดึกกับหลวงพี่แจคทุกคืนไมเคยขาด ผมเองก็ขนาบขางไปดวยชวยเปดหนังสือสวดมนตใหกับพระรุนใหมคนอื่นๆ จะไดสวดทันกัน เวลาหลวงพ่ีแจคสวดมนตหรือนํานั่งสมาธิภาวนาดูเหมือนวาพระรุนใหมจะเชื่อฟงและปฏิบัติตามอยางดี เปนผูนําทางดานจิตใจใหแกพระรุนใหมได

ในขณะที่พระอาจารยเอกนั้นทานจะเปนผูนําทางดานขอวัตรและความประพฤติของสงฆ บางครั้งทานทําตาดุๆ วากลาวฟลุคก็หลายครั้งจนฟลุคหงอไปเลย ทุกครั้งที่ฟลุคโดนพระอาจารยเอกวามาจะเดินมาหาผมทําทาเศราๆ บอกวา “ผมทําผิดอีกแลวๆ” ผมก็จะชี้ แจงในรายละเอียดวิธีที่ถูกตองใหกับเขา ใหประพฤติปฏิบัติตัวเสียใหม

เพราะเหตุน้ีฟลุคจึงไมคอยกลาแวะเวียนไปที่กุฏิพระอาจารยเอกเทาใดนัก ติดตรงที่วาโรงนํ้ารอนที่มีนํ้าอัดลมตั้งอยูใตกุฏิทานเทาน้ันเอง จึงตองทําใจดีสูเสือยางกรายเขาไปฉันปานะแลวรีบเผนออกมา

นับเปนเรื่องดีที่หลวงพ่ีฟลุคยังคงติดตอกับโลกภายนอกผานทางโทรศัพทมือถือ เม่ือฟลุคเลาถึงสิ่งที่ไดทําขณะบวชใหทางบานหรือเพ่ือนๆ ที่เคยบวชที่วัดอื่นๆ ฟง ทุกคนก็ประหลาดใจในปฏิปทาของวัดนี้ที่ไมเคยเห็นที่ไหนเครงครัดเทา ทุกคนตางอนุโมทนาบุญการบวชผานมาทางสายโทรศัพท ทําใหหลวงพ่ีฟลุคงงๆ วาบัดนี้เขากําลังทําอะไรอยู ฟลุคบอกผมกอนที่จะถึงกําหนดสึกวา

“อาจจะกําลังพลาดสิ่งดีๆ ในชีวิตไป ทั้งที่อยูใกลแคเอื้อม” ฟลุคกําลังปรับปรุงตัวใหม พรอมที่จะศึกษาธรรมะอยางจริงจังในชวงเวลาที่เหลือนอยเต็มที พรอมๆ กับการทาทายครั้งยิ่งใหญจากพระอาจารยเอกกเ็ริ่มขึ้น

“คุณไมมีทางบวชที่วัดนี้ไดนานถึงเดือนหรอก…ฟลุค เดี๋ยวคุณก็กลับไปมีชีวิตสบายๆ เหมือนคนอื่นๆ เขาแลว ทิ้งผาเหลืองไวที่น้ีแลวเดินหันหลังกลับออกไปเหมือนที่คุณเดินเขาวัดมาเถอะ” พระอาจารยเอกทราบดีวาฟลุคยังมีเวลาอีกมากกอนที่จะเขาพิธีรับปริญญา

Page 48: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

48

ถาฟลุคจะกลาหาญเพียงพอที่จะรับคําทา พระอาจารยก็พรอมที่จะถายทอดสิ่งดีๆ ใหกับฟลุคอยางแนนอน พระรุนใหมที่บวชพรอมกันกับฟลุคน้ันไมมีใครตั้งเปาหมายไวต่ํากวาหน่ึงเดือนเลย ทุกคนตางเกลี้ยกลอมใหฟลุคอยูตอ

และดวยความที่เปนคนไมยอมใคร เขาจึงรับคําทาน้ีและเปนจุดเริ่มตนแหงบุญกุศลของเขาที่ทําไดดวยตัวของเขาเอง อานิสงสแหงการเดินจงกรมและนั่งสมาธิน้ันแรงกลายิ่งกวาหลักธรรมที่ประทับเปนตัวอักษร ดวยความที่ฟลุคไมชอบอานหนัง

สือ แตเนนการถามไถพระอาจารยและฝกปฏิบัติดวยตัวเองเปนหลกั ทําใหเขากําหนดรูมองดูใจของตวัเองมากขึ้น พิจารณาเหตุการณตางๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขาตั้งแตเด็กนอยจนถึงตอนนี้มองไมเห็นสิ่งใดเปนสาระ ทําตัวเปนเด็กเกเรทั้งที่จริงแลวเน้ือแทก็เปนคนดี บาง ครั้งทําใหพอและแมเปนหวง จึงคงเปนสาเหตุหน่ึงที่ทําใหถูกสงมาอยูไกลปนเที่ยงคนเดียวลําพังแบบนี้ แมขณะที่กําลังบวชเปนพระก็ดูเหมือนจะสรางปญหาใหกับคนอื่นๆ ทั่วไป บัดนี้ถึงเวลาแลวท่ีฟลุคจะลด ละ เลิกและเรงความเพียรใหมากขึ้น

เริ่มจากการไมบนเมื่อกลับจากบิณฑบาต สํารวมกิริยา ฉันม้ือเดียวหลังบิณฑบาต ไมขอรับการแบงปนอาหารจากพระรูปอื่น ตั้ง ใจทําวัตรสวดมนตเชาและเย็นไมไดขาด ตอยอดสวดมนตดึกและภาวนาถึงเที่ยงคนืทุกวัน บางเรื่องที่หวนคิดแลวละอายแกใจก็ปรับ ปรุงตัว เชน ไปฉันปานะที่โรงน้ํารอนทุกวันไมเคยทําความสะอาดเลย ก็จัดแจงเปนธุระตั้งแตลางกระติกนํ้าแข็งไปจนถึงปดกวาดเช็ดถู จนถือไดวาหลวงพี่ฟลุคเปนผูนําการทําความสะอาดโรงน้ํารอนนับแตน้ัน โดยที่พระอาจารยเอกไมตองเหนื่อยเหมือนเดิมอีกตอไป ยังความสบายใจแกพระอาจารยและเพื่อนสหธรรมมิกรวมรุนไปตามๆ กัน

หลวงพ่ีฟลุคเปลี่ยนไปแลวครับ จากเด็กที่เคยสุขสบายมีคนดูแลและมีเงินใชสอยบันดาลสิ่งตางๆ ไดไมขาดมือ บัดนี้เงินหรือคนอื่นก็ชวยฟลุคไมได เขาทําดวยตัวของเขาเอง กุศลเกิดขึ้นกับตัวเขาเองแลว ผมเชื่อเหลือเกินวา ระยะเวลาที่เหลือในการครองเพศบรรพชิตของฟลุคจะไมใชการหายใจทิ้ง แตมีเรื่องหนึ่งที่ฟลุคยังไมยอมเปลี่ยน...

"ขอเปบซี่ผมสักแกวนะ...หลวงพ่ี" ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 35: โรงน้ํารอน – โรงธรรม

ที่โรงน้ํารอนใตกุฏิพระอาจารยเอกนั้น เปนแหลงรวมตัวของพระใหมในทุกยุคทุกสมัย เมื่อถึงเวลาบายคลอยหลังจากการทําความสะอาดวัดรอบบายเสร็จสิ้นลง พระใหมจะมาพักเหนื่อยที่น่ี และอีกครั้งชวงเวลาหลังจากสวดมนตทําวัตรเย็นที่วิหารเสร็จ ก็จะมาฉันปานะอีกหน่ึงครั้งเพื่อเตรียมตัวไปสวดมนตรอบดึกตอกับหลวงพี่แจคและเขาจําวัด โดยที่ไมบนหิวหรือปวดทองจนจําวัดกันไมได

โรงน้ํารอนน้ันปูกระเบื้องเซรามิกเรียบงาย มีรั้วไมกั้นโดยรอบ ยกพ้ืนที่สูงครึ่งหนึ่งเปนสวนที่น่ังของพระ มีกาน้ํารอน กระติกนํ้าแข็งและเครื่องดื่มปานะสําหรับพระวางจัดอยู สามเณรหรือโยมหามจับตองเด็ดขาด เพราะจะถอืวาของฉันนั้นขาดประเคน พระท่ีไมทราบฉันเขาไปจะเปนอาบัติได

สวนพ้ืนที่อีกครึ่งหนึ่งต่ํากวาที่น่ังของพระก็จะเปนสวนของเณรและโยม มีอุปกรณและสิ่งตางๆ เหมือนกับของพระ และแน นอนวาพระก็ไมสามารถไปหยิบจับสิ่งของเหลาน้ันได เพราะยังไมไดรับประเคน หากจับตองหรือหยิบมาฉันก็จะอาบัติอีก เพราะฉะนั้นพระเณรในวัดจะตองมีสติเตือนตนเองตลอดวา ตรงไหนนั่งได ของชิ้นไหนหยิบจับได ไมเชนน้ันแลวพระอาจารยเอกตวาดใหก็ตัวใครตัวมันละครับ

เมื่อพระใหมมารวมตัวกันก็จะเกิดเรื่องดีๆ ขึ้นมากมาย อันดับแรกคือการเลาเรื่องประสบการณการบวชในแตละวัน เรื่องการออกไปบิณฑบาตพบเจอสิ่งใดแปลกๆ ใหมๆ เรื่องการนั่งสมาธิหรือเดินจงกรมเมื่อคืนเปนอยางไร หรือแมแตทางโลกบางเรื่องที่ไดยินไดรับรูมาจากญาติโยมที่มาเยี่ยมก็เลาสูกันฟง

แตเม่ือใดที่พระอาจารยเอกทานลงจากกุฏิมานั่งเปนองคประธานในโรงน้ํารอนแลว หัวขอสนทนาจะเปลี่ยนไปทันที คําถามแบบพระใหมจะพรั่งพรูออกมาอยางไมขาดสาย มีตั้งแตเรื่องเล็กนอย เชนการทําบุญ ทําบาป ความเชื่อตางๆ ที่กําลังเปน

ขาวอยูในกระแสสังคม หรือแมกระทั่งหลักธรรมบางขอท่ีไมเขาใจ แตทุกครั้งพระอาจารยเอกทานจะยกขอความในพระสูตรมาตอบปญหาของพวกเราไดจนหมดสิ้น หรือแมแตคําสั่งสอนของพอแมครูบาอาจารยก็หยิบยกนํามาตอบคําถามได เพราะพระอาจารยเอกทานเปนนัก

Page 49: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

49

อานตัวยงมีหนังสือมากมายหลากหลาย โดยเฉพาะประวัติพระอาจารยรูปตางๆ ทานจําไดมาก และพระใหมก็ชอบที่จะฟงปฏิปทาของพระอาจารยม่ันและลูกศิษยเวลาธดุงคออกไปในที่ตางๆ

เพราะวาวัดของเราถึงแมจะชื่อวาเปนวัดปา แตก็ตั้งอยูใกลเมือง เรื่องบางเรื่องยังไมเคยประสบพบเจอมากอนจึงเกิดความอยากรูอยากเห็น จนพระอาจารยเอกทานรับปากวาจะพาพวกเราพระใหมไปทัศนศึกษานอกสถานที่บางไปตามวัดปาสาขาตางๆ ที่ทานเคยรูจัก ไปดูชีวิตความเปนอยูของพระปาสายวิปสนาธุระ และถือเปนการเดินทางตามรอยครูบาอาจารยดวย

ผมและฟลุคเองกไ็ดรับความรูจากการสนทนาธรรมงายๆ จากพระอาจารยเอกหลายครั้ง เม่ือไดทราบถึงวิธีการเรงความเพียรของครูบาอาจารยแตละทานแลว ก็เหมือนเปนการเติมเชื้อไฟใหพวกเราตองพยายามมากขึ้น

สุดทายแลวพระอาจารยเอกยังคงยืนยันใหผมอยูกับใจของตัวเองมากขึ้น สํารวมการรับรูทั้งหา ควบคุมแตจิตใจของเราใหสงบน่ิงอยูเปนอารมณเดียวเทาน้ันเปนเพียงพอ เมื่อไดใจที่สงบนิ่งแลวพิจารณาสิ่งใดก็จะรูแจงทะลุปรุโปรง ความสะอาด สวางและสงบจะเกิดขึ้นเปนปติแกตัวของเราเอง

สามทุมสิบหาแลว หมดเวลาสําหรับการสนทนาธรรมยามค่ําคืน แสดงเทียนสีเหลืองทองเรืองรองสดใสลอดผานตาขายบางๆ ของโคมธุดงคทีแ่ขวนใหแสงสวางกลางวงสนทนาดับลงแลว เปนสัญญาณบอกเวลาแหงการเรงความเพียร ที่นับจากนี้ใครก็ชวยเราไมได นอกจากตัวของเราเอง ไดกุศลแกตัวเองเทาน้ัน. ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 36: การเดินทางของพระใหม

ใกลจะถึงกําหนดสึกของหลวงพี่เกงเล็กและหลวงพี่เกงใหญ เพ่ือนสหธรรมิกบวชรุนเดียวกันกับผมแลว ถือวาเปนธรรมเนียมที่พระอาจารยเอกจะตองพาพระใหมไปทัศนศึกษานอกวัด จึงจะถอืวาจบหลักสูตรอยางสมบูรณพรอม

ครั้งน้ีพระอาจารยเอกจะพาไปเยี่ยมเยียนนมัสการพระผูใหญตามวัดปาสาขาตางๆ ที่พระอาจารยเอกไดเคยรูจักครั้งออกเดินธุดงคในพรรษาตนๆไปดูวิถีชีวิตของพระปาที่อยูในปาแทๆ วาสันโดษเพียงใด แตละวัดแตละสํานักสงฆก็มีประวัติเกี่ยวของกับพอแมครูบาอา จารยรุนเกากอนตางกันไป ถือวาเปนการตามรอยความเพียรของทาน เพ่ือเปนแบบอยางนอมเขาสูการปฏิบัติของเราเอง

ทุกครั้ง ตามประสาคนที่นานๆ พบกันที พระอาจารยเอกยอมมีของติดไมติดมือไปฝากเสมอ เชน นํ้าปานะ ยาหรือของใชที่จําเปน โดยมีหนานเอกใหญ หนานตอมและลุงซง ที่มาอาสาผลัดเปลี่ยนกันรับหนาที่ขับรถพาพระใหมไปเที่ยวอยูเปนประจํา

เชาน้ีก็เชนกัน เมื่อจัดของลงรถเสร็จหลังเวลาฉันเชา พระและนองเณรไปลาทานเจาคุณเพื่อขออนุญาตออกนอกวัดแลวหมครองพรอมออกเดินทางสูวัดปาทันที

เรื่องการเดินทางเขา-ออกวัดนั้น มีเรื่องยุงยากอยูเพียงนิดเดียววา ขณะเดินทางอยูบนยานพาหนะหรือเดินอยูนอกวัดตองหมครอง คือปดหัวไหลทั้งซายและขวา เมื่อเขาไปในเขตวัดอีกครั้งก็ตองเปลีย่นกลับมาเปนหมเฉียงเปดไหลขวาเพื่อกราบพระ เปนอยางนี้อยูร่ําไป

มีอยูครั้งหนึ่งหลวงพ่ีแจคพาผมกับหลวงพี่ฟลุคไปนมัสการพระพุทธรูปสําคัญๆ 9 วัดในเมืองเชียงใหมภายในวันเดียว ผมตองหมเปลี่ยนกลับไปกลับมาอยูหลายครั้งจนเหงื่อตก แตก็ชํานาญกวาพระรุนใหมอยางฟลุคที่สุดทายชายจีวรก็เลอะฝุนโคลนเพราะปรกติเคยชินกับการหมจีวรบนกุฏิ ไมเคยหมจีวรบนพื้นดิน แถมยังหมชาอีกดวยผมตองไปชวยจับอีกแรง

เราเดินทางไปไกลเริ่มจากถนนใหญสี่เลนมีเกาะกลางถนน จนเหลือสองเลนสวนกันและสุดทายก็เปนทางลูกรังแคบๆ ลัดเลาะมาในหุบเขา ที่น่ีเขาติดปายบนตนไมวาเปนเขตอุทยานแหงชาติ นับระยะทางมาจากวัดก็เกือบๆ 60 กิโลเมตร มองไปรอบๆ จะเห็นบานคนก็นอยเต็มที

พระอาจารยเอกทานวาเคยผานมาพักอยูที่น่ีชวงออกธุดงคเมื่อหลายปกอน เดิมชื่อ ‘ปางมะไฟ’ เพ่ิงไดขาววาไดรับความเดือด รอนเพราะถูกเผาไลที่ จึงอยากจะมาเยี่ยมเยียน เกิดมาผมก็เพ่ิงเคยไดยินวาพระถูกวางเพลิงไลที่ก็คราวนี้

รถจอดสนิทแลวพระเณรกระโดดลงจากทายรถ เห็นปายชื่อวัดก็พยายามหมเฉียงกันจาละหวั่น ผมมองหาซายขวาก็ไมเห็นเสนาสนะอะไรเลย จนพระอาจารยเอกทานมองไปดานบนภูเขาผมจึงเขาใจ

“ปูน….” เปนภาษาเหนือ แปลวา อยูตรงนูน…อยูไกลมาก วัดปางมะไฟอยูบนภูเขาปูน…. เราตองเดินเทาขึ้นไป

Page 50: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

50

พระอาจารยเอกบอกวาพระใหมยังไมตองหมผา เพราะทามกลางแดดเปรี้ยงกับระยะทางบนภูเขาสูงน้ัน พระก็เปนลมไดเหมือน กัน นองเณรประเคนปานะของฝากบางอยางใหพระใหมชวยถือขึ้นไปบนวัดดวย โดยเฉพาะของที่ประเคนแลวเก็บไวไดนานวัน เชน ยา นํ้าหวานหรือนํ้าตาล สวนของทีจ่ะหมดอายุภายในวันเดียวเชนน้ําผลไม นองเณรจะถือไปเองเพื่อไปเก็บไวในโรงครัวของวัดนั้นๆ ทานจะฉันเมื่อไหรคอยจัดออกมาประเคนกันเปนสวนๆ ไป ของฝากจะไดไมเสียประเคน พระทานก็จะไดไมตองสงสัยในของฉันนั้นๆ

ทุกยางกาวที่ดําเนินไป ใจก็คิดสะระตะวาเหตุใดพระปาตองมาอยูที่เชนนี้ลําบากลําบน เชนที่ปางมะไฟนี้ตองเดินขึ้นลงเขานับรอยๆ เมตร โชคดีที่มีโยมมาถวายปจจัยจางชางชาวบานมาขุดแตงทางใหเปนขั้นบันไดไวใหกาวไดงายขึ้น แตเรื่องสาธารณูปโภคอื่นๆ คงไมมีเหมือนวัดเราเปนแน ทานมาอยูที่น่ีทําไมกัน. ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 37: เท่ียววัดปา…ปางมะไฟ

ขึ้นมาถึงยอดเขาไดเลนเอาหมดแรง แตภาพทิวทัศนที่ปรากฎอยูเบื้องหนาก็ทําใหคลายความออนลาลง บนยอดเขาแหงน้ีสามารถมองเห็นความสลับซับซอนของขนุเขาเมืองเหนือไดอยางเต็มตา

ลมบนพัดเอื่อยๆ มาปะทะตัวผมจนสะทานแลวจึงฉุกคิดไดวาสมควรแกเวลาครองจวีรสักที แตมองหาเสนาสนะสักหลังเพ่ือหมจีวรก็ไมพบ กลิ่นลมผสมขี้เถาลอยมาเตะจมูกจนตองเหลียวกลับมามองจุดที่ตัวเองยืนอยูอีกครั้งก็ตกใจวา ผมกําลังยืนอยูบนกองเถาถานของเพิงไมเดิมที่คาดวานาจะเปนศาลาวัด ที่น่ีถูกไฟไหม !!

ปางมะไฟ เปนสํานักสงฆที่ตั้งอยูบนยอดเขาที่มีบานของชาวบานกลุมเล็กๆ รวมตัวกันอยูที่เชิงเขา พระที่น่ีทั้งหมด 4-5 รูปไดอาศัยบิณฑบาตจากชาวบานกลุมน้ี แตมีชาวบานบางคนไมพอใจการมาอยูของพระบนดอยที่น่ี คงเปนเรื่องผลประโยชนที่ดินซึ่งไมใชครั้งแรกที่วัดโดนเผาไลที่

ครั้งกอนกุฏิทานก็วอดวายไปแลว ลาสุดเพิงศาลาชั่วคราวก็ไหมไปอีกโดยที่พระทานก็ไมสามารถดับไฟไดทัน คืนนั้นมีพระทานจําวัดอยูรูปเดียว และชาวบานก็ขึ้นมาชวยไมไหว ปจจุบันมีการตอกพื้นไมกระดานเรียงตอๆ กันทับที่เพิงศาลาเดิม เอาเสื่อยาวปูตลอดแนวและตัง้เสาขึ้นรอบดานขึงผาพลาสติกซาแลน ทบสองถึงสามชั้นกันแสงแดดสอง

ที่ปลายสุดของไมกระดานนั้นเปนกองอิฐเกาแกเหลือเพียงฐานเชื่อกันวาเปนเจดียบรรจุพระบรมธาตุ ทางวัดไดตั้งโตะหมูบูชา ประดิษฐานพระประธานและมีรูปปนหลวงปูม่ันองคเล็กตั้งอยูที่น่ีดวย

พระทานเลาวาไมไดตอสูอะไร อยูเทาไหนไดก็อยูไปไมลําบากสักเทาไร มีพระพุทธเจาและคําสอนของทานเปนที่พ่ึงอยูในใจเทาน้ันเปนพอ จนถึงบัดนี้ผมก็ยังไมเขาใจวา เหตุใดคนเราถึงอยากได อยากมี อยากเปนกันมากมายจนตองเบียดเบียนผูอื่นถึงเพียงน้ี โลกไมสงบสุข ทุกขก็มาถึงสมณะเพศโดยไมมีขอยกเวน

หลวงพ่ีรูปหนึ่งอาสาพาพระอาคันตุกะไปเที่ยวนํ้าตกที่อยูหางออกไปจากสํานักสงฆ แตมีเงื่อนไขคือตองเดินลงไปจากภูเขาลูกน้ีอีกครั้ง แตเมื่อทุกคนอยากไปผมก็จํายอมเดินตามไปดวยหางๆ

ทุกคนเดินแถวเรียงหน่ึงเพราะทางแคบมาก พระทานเดินนําแบบผูชํานาญทาง หายเขาในในความซับซอนของตนไมใบหญาในปาพรอมกับพระเณรรูปอื่นๆ ผมกับหลวงพี่เกงใหญรั้งทาย จากที่มองเห็นหลังกันไวๆ จนในที่สุดก็ตามไมทัน ผมเดินเดาทางสะกดรอยมากับเกงใหญสองคนแบบวิชาลูกเสือท่ีเคยเรยีนสมัยเด็กนอย เดินลัดลวดหนาม ขามสะพานไมไผแหงเสียงดังเอีย๊ดอาด ลุยลําธารเล็กๆ และกระโดดขามลําธารอีกสายหนึ่งมาดวยความงงงวย

สุดทายภาพที่ปรากฎตรงหนาคือพระพุทธรูปสีขาวองคใหญตั้งอยูกลางความรกชัฏของปา ขางๆ องคทานมีอาคารเพิงเล็กๆ สภาพทรุดโทรม ที่น่ีคงเปนที่ที่พระทานเลาใหฟงวา บางครั้งก็จะมาภาวนากันคราวละ 3 วัน 7 วัน โดยไมไดพบปะใครเลย ผมยังไมคอยเขาใจถึงการปฏบิัติเชนนี้สักเทาใด แคคิดในใจวาคงทําไมไดแนนอน อยางนอยก็หิวขาวเดินซมซานออกมาตั้งแตวันที่สองแลว วาแลวก็จะเดินตอไปเพื่อหาแหลงนํ้าตก

“กลับเถอะ…” เกงใหญพูดพลางฉุดแขนผมไวไมใหเดินหาพระรูปอื่นๆ ตอ “รูสึกไมคอยดี…”

Page 51: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

51

ผมมองหนาเกงใหญแลวก็ฉงน แตสีหนาเกงใหญไมสูดีจริงๆ ตอหนาพระองคขาวน้ีเกงใหญคงกลัวอะไรสักอยาง ผมตามใจเกงใหญแลวเดินกลับทางเกาแบบเรงฝเทาจัด เกงใหญนําหนาไปรวดเร็วเหลอืเกินแมแตตอนเดินขึ้นเขายังทําเวลาไดดีกวาขาขึ้นมาครั้งแรก แถมยังเดินขึ้นทางลัดตรงขึ้นสูเว็จกุฏีทันที

“ผมปวดทอง…ขอเขาหองนํ้ากอนนะ” เกงใหญบอกผมถึงสาเหตุที่เดินกลับมาอยางเร็ว อพิโธ…รูจักไหมครับเว็จกุฎี คือ สวมน่ันเอง.

ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 38: เท่ียววัดปา…โปงเดือด

รออยูนานกวาคณะเที่ยวนํ้าตกจะกลับกันมา ทาทางคงจะเดินไปอกีไกลจากจุดที่ผมกับเกงใหญหลงทาง ทุกคนดูอิดโรยแทนที่จะสนุกสนาน สวนผมกับเกงใหญฉันปานะเย็นๆ รออยูอยางสบายอารมณชมทิวทัศนมาเกือบชั่วโมงแลว

วันน้ีพระเณรจากวัดเราบางรูปไมมีโอกาสฉันเพล พระปาเขาถือธุดงควัตรฉันมื้อเดียวจากการบิณฑบาตกันหมดจึงไมมีโยมมาจัดสํารับเพลถวาย เมื่อนมัสการลาพระทานแลวก็เดินลงเขาเพื่อออกเดินทางไปวัดอื่นตอไป โดยไมลืมที่จะอนุโมทนาบุญแกชางและชาว บานที่มาขุดทําขั้นบันไดขึ้นวัดไวให

รถเคลื่อนตัวออกมาไดไมถึงหากิโลเมตร พระอาจารยเอกก็แนะนําสํานักสงฆอีกแหงที่ไดเคยมาพักอยูครั้งกอน ‘โปงเดือด’ เปนที่ที่มีประวัติของครูบาอาจารยหลายทานยาวนานหลายสิบป หลวงปูชอบทานก็เคยอยูที่น่ี หลวงพอพระสิทธิ์ซึ่งเปนพระอาจารยของพระอาจารยเอกอกีทีทานก็เคยมาพักที่น่ีเชนกัน จนมีศรัทธาญาติโยมมาบํารุงวัดไวในชวงแรกๆ มีทางลูกรังเขาถึงวัด จนไดสรางศาลาไมแบบวัดปาดั้งเดิมหน่ึงหลังดูกวางขวาง แตก็แคบไปถนัดใจเมื่อพวกเราขึ้นไปนมัสการ ‘ครูบา’ บนศาลา

พระอาจารยเอกแนะนําใหพวกเรากราบนมัสการ ‘ครูบาแจค’ และ ‘ครูบาเล็ก’ ดูพระอาจารยเอกสนทิสนมกับพระทานทั้งสองมาก ทักทายพูดจากันเปนภาษาอีสานซึ่งพวกผมฟงไมเขาใจเลย

ภายหลังพระอาจารยจึงไดบอกใหฟงวา คําวา ‘ครูบา’ สําหรับคนอีสานนั้นใชเรียกพระที่เพ่ิงบวชใหมไดพรรษาไมมากถึงสิบป แตบางทีกเ็รียกติดปากกันไปเรื่อยๆ เพราะคุนชินไปแลว สวนในความรูสึกของคนทางเหนือน้ันคําวา ‘ครูบา’ จะใชเรยีกนําหนาชื่อพระผูเปนที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาแกมหาชนหรือวามีอาวุโสมาก เชน ครูบาศรีวิชัย เปนตน ทานเปนคนเหนือ จึงไดรับการยกยองจากชาวเหนือวาเปนครูบา สวนคนอีสานนั้นเรียกพระใหมๆ วาครูบาไปเสียหมด ฉะนั้นผมเองก็เปนครูบาไดเหมือนกัน แตฟงแลวก็ทะแมงๆ เพราะคิดวาตัวเองไมไดนาเลื่อมใสแบบที่คนทางเหนือเขาคิดกันเลย

ที่น่ีเปนสํานักสงฆแบบวัดปาที่ไดรับการจัดการมาในระดับที่นาพอใจแลว มีศาลาไมหน่ึงหลังเปนประธาน มีถังเก็บน้ําฝน มีเพิงหมาแหงนเปนโรงครัวเก็บอาหารแหง มีที่ลางบาตรแบบมาตรฐานวัดปาลอมรอบลานดินกลางพื้นที่ไวสําหรับทํากิจกรรมบางอยาง หองนํ้าอยูไกลจากศาลาออกไปทางดานลางเพื่อใหหางกับบอนํ้าใช สวนกุฏิน้ันที่น่ีมีหาหลังกระจายออกไปในพื้นที่ปาหลังศาลา แตละหลังหางกันมากกวารอยเมตร พระใหมเดินชมไปทั่วทุกกุฏิตองใชเวลานานพอดู

สิ่งที่ทุกคนประทับใจที่น่ีคือความเงียบของปาและทางจงกรมที่สวยมากๆ สวยในที่น้ีคือไดมีการขุดยกรองดินขึ้นมาถมบนทางจงกรมใหสูง รองดานขางจะชวยไมใหนํ้าผิวดินกัดเซาะทางจงกรมพัง แตละกุฏิจะมีทางจงกรมเปนของตัวเอง ผานการเดินภาวนามาอยางยาวนานนับหลายสิบป ทางเดินจึงเรียบเสมอกัน และดวยความที่ดินบริเวณนี้เปนดินลูกรัง เมื่อตากแดดแหงแลวจะกลายเปนผงดินแดงละเอียด

ผมไดลองถอดรองเทาเดินบนทางจงกรมนั้นแลวรูสึกนุมเทามากๆ เหมือนกับวาเทาไมไดสัมผัสพ้ืนเลย ที่ปลายสองดานของทางจงกรมมีตอไมและเทียนพรรษาที่ถูกตัดแบงมาใหความสวางสําหรบัการภาวนายามค่ําคืน วัดปาทุกทีมีแบบนี้เหมือนๆ กัน ราวกับวาไมวาจะมาจากครูบาอาจารยทานไหนก็ตองทําแบบนี้ จนอดนึกไมไดวา ตนสายแบบฉบับแหงแนวทางนี้มีมาแตหลวงปูม่ันเปนแนแท ปจจุบันมีลูกศิษยทานผานมาเกือบสองอายุคนแลว ยังคงดําเนินรอยตามทานอยู ผมจึงเริ่มสนใจในปฏิปทาของหลวงปูม่ันนับแตน้ันเปนตนมา. ติดตามตอนตอไป.

Page 52: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

52

ตอนที่ 39: เท่ียววัดปา…แมแมม พระอาจารยเอกเห็นสมควรแกเวลาบอกใหทุกคนนมัสการลาครูบาทั้งสองทาน และรีบเดินทางไปวัดสุดทายของวันนี้อยาง

เรงดวน เพราะวาเมฆฝนตั้งเคามาแตไกล พระอาจารยเอกทานวาหากฝนตกลงมาตอนนี้จะลําบากมาก รถลัดเลาะพาไปในขุนเขาบนถนนลูกรังอีกครั้ง พ้ืนที่สูงๆ ต่ําๆ พาผมเวียนหัว จนที่สุดปลายถนนแลวก็ยังไมพบวัดหรือสํานัก

สงฆใดๆ ทีน้ีผมเขาใจไดทันทีวา “วัดอยูบนดอยปูน….” อีกเปนแนแท ครั้งน้ีพระอาจารยเอกทานกําชับใหพวกเรานําของติดตัวไปใหนอยท่ีสุด ยามที่พกของสวนตัวมาไมตองเอาไป และอนุญาตให

ไมตองนําจีวรไปดวย สวนปานะของฝากที่นํามาใหถือไปไดคนละหนึ่งชิ้น หามบาพลังถือไปมากกวาน้ันถาไมอยากตองเปนภาระใหกับพระรูปอื่น เพราะหนทางเดินขึ้นเขาในครั้งน้ียาวไกลกวาที่ปางมะไฟมาก และเราตองรีบเพราะฝนกําลังจะตกลงมา

พระเณรเดินเรียงหน่ึงขึ้นไปตามทางที่ชาวบานเดินหาของปา ผมชอบเดินรั้งทายเพ่ือมองไปที่หัวแถวดานบน เปนมุมมองแปลกใหมที่ผมไมเคยเห็นมาเลยตลอดชีวิตน้ี ทิวแถวผาเหลืองเวนระยะหางกันอยางพอดีแทรกความเขียวของพรรณไมในปา มองเปนจุดตอจุดหายขึ้นไปบนยอดเขาสูวัดดานบนนั้น วัดท่ีประดิษฐานคําสอนขององคศาสดา เปรียบไปเหมือนกับครั้งเมื่อตอนพระพุทธองคจําพรรษาอยูบนยอดเขาคิชกูฏและมีผูแสวงบุญหรือแมแตนักบวชเดินทางดวยความยากลําบากขึ้นไปขอรับฟงคําเทศนจากพระองค

นานมากกวาครึ่งชั่วโมงแลวแตก็ยังไมมีวี่แวววาจะเห็นอาคารสักหน่ึงหลัง ปานะที่นํามาฝากเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ แปรผนัตรงตามบุญกุศลที่จะไดรับ

ในขณะที่พระเณรกําลังหมดแรงหลังจากตอสูกับความชันที่ไมมีทาทีจะราบลงไดเชนกัน ฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาโชคดีที่ตนไมใบไมหนาแนนชวยปกคลุมเสนทางในปา แตละอองฝนก็ยังความหนาวสะทานมาสูพระเณรทุกรูปที่ตอนนี้ไมไดพกจีวรมาดวย ทุกรูปเรงฝเทากันสุดแรงเมื่อเริ่มเห็นขั้นบันไดที่กอดวยศิลาแลงแบบโบราณ เดินขึ้นไปจนพบกับศาลาริมทางหลังหนึ่ง ผมคิดวาจะหยุดพักสักครูก็เหลือบไปเห็นศาลาหลักตั้งอยูเหนือขั้นบันไดขึ้นไปไมมาก ผมตัดสินใจใชแรงฮึดสุดทายวิ่งนําฝาสายฝนออกไปขึ้นบันไดอีกนับสิบขั้นจนถึงศาลาไดสําเร็จ พรอมกับพระรูปอื่นๆ ทะยอยตามกันมาเปยกปอนกันไปตามๆ กัน

พระทานสั่งเณรตมน้ํารอนแลวมาประเคนพระเณรทุกรูปที่ตอนนี้หนามืดและตัวสั่นงันงกดวยความหนาวในเวลาเดียวกัน ผมฉันนํ้ารอนผสมน้ําตาลทรายสองชอนโตะและเกลอืครึ่งชอนชา ทําเปนน้ําเกลือแรหลังจากการเสียเหงื่อจึงคอยยังชั่ว

ฝนตกหนักมาขึ้นเรื่อยๆ จนเปนพายุฝนฟาคะนอง ศาลาหลักหลังน้ีมีฝากระดานปดเพียงสองดาน อีกสองดานเปดโลงแบบศาลามาตรฐานวัดปาทั่วไป ไมสามารถกันละอองฝนได พระใหมเชนผมหนีไปซุกอยูที่มุมของศาลาดานในสุด เสียงดัง โครม! ของกิ่งไมหลนใสหลังคาสังกะสีบางๆ จนแทบจะทะลุ พรอมทั้งขาวของบางอยางรอบๆ ศาลาก็กระจัดกระจายออกไปตามแรงลม ฝนแรงมากจริงๆ ดูพระทานที่น่ีไมสะทกสะทานกับเรื่องน้ีเลย ทานยังคงปราศรัยกับพระอาจารยเอกอยางคนคุนเคยกันมานาน

พระเณรผูมาเยี่ยมเยียนติดฝนอยูนานเกือบชั่วโมง เม่ือฝนซาดีแลวจึงนมัสการลาพระทานกลับ ระหวางทางเดินลงมานั้นผมนึกสงสัยในใจวา เวลาพระที่ ‘แมแมม’ ทานบิณฑบาตตองเดินขึ้นลงไกลมากอยางนี้คงไดฉันเชาสักเกาโมง และถาหากเจ็บไขไดปวยขึ้นมาก็ยากที่จะติดตอกับโลกภายนอกได พระปาจะตองเปนผูที่มีความพรอมทางดานรางกายและจิตใจมากจึงจะสามารถอยูในที่แบบนี้ได นึกถึงคําสอนของพระอาจารยเอกวาศีลจะรักษาผูบริสุทธิ์ สําหรับพระปาแลว ศีลคงเปนเหมือนเกราะกําบังอันตรายไดเปนอยางดี. ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 40: วันแดงเดือด

คณะสงฆและนองเณรเดินลงมาจากยอดเขา ‘แมแมม’ ฟนฝาอุปสรรคนานับประการ เรื่องใหญที่สุดคือ สบง ที่เปนเหมือนกระโปรงนั้นมันไมเหมาะกับการเดินปาในสภาพชื้นแฉะอยางนี้เลย

ผมจึงแอบถกสบงขึ้นมาถึงระดับเขาเพื่อใหกาวขามกิ่งไมยอดหญาและลําธารตางๆ ไดงายขึ้น การทําเชนนี้ไมสูจะ 'งาม' นักสําหรับภิกษุแตก็ตองขอระมัดระวงัความปลอดภัยของตัวเองไวกอน เพราะถาเหยียบสบงหกลมหรือชายสบงไปเกี่ยวกับตนไมรอบขางทางเดินหลุดลุยกันก็จะเปนเรื่องที่ ‘ไมงาม’ กวาเปนแน

Page 53: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

53

แตถึงอยางไรก็ดี เดินลงมาถึงรถที่จอดรออยูดานลางแลวชายสบงก็มอมแมมเปยกปอนไปถวนทั่วกัน พระเณรทุกรูปหมครองกันอยางงายๆ แลวขึ้นรถออกเดินทางกลับวัดปาฯ ของเราทันที แตครั้นแลวอุปสรรคก็ไมหมดสิ้น ระหวางทางดินลูกรังบนถนนผสมกับนํ้าฝนและความลาดชันของพื้นที่ ทําใหรถของหนานตอม ‘ติดหลม’ และรถตูของวดัไมอาจไตขึ้นเนินเขาได พระเณรตองลงจากรถเพื่อไปชวยกันเข็น!!!

ครั้งน้ีพระเณรอยูกลางปาและไมไดสนใจเรื่องของ ‘ความงาม’ อีกตอไป เพราะทุกรูปตองชวยกัน ดึงและดัน รถออกจากหลม ชวยกันผลักสงรถตูใหไตระดับบนพื้นลูกรังลื่นๆ ไปใหได

พระรุนพ่ีมีกําลังมากกวานองเณรก็เสียสละดันอยูทายรถ ลอท่ีติดหลมอยูก็ตะกุยดินโคลนเละๆ ใหเลอะเทอะเปรอะเปอนสบงและอังสะไปหมด ดีที่วาสีโคลนกับสีจีวรใกลเคียงกัน นําไปซักก็คงจะดูสะอาดไดอยางงายดาย สุดทายแลวคณะสงฆและสามเณรก็สามารถกลับขึ้นน่ังบนรถไดอีกครั้งหนึ่ง ในสภาพที่เละเทะไมแพถนนลูกรังที่เพ่ิงผานมา

เรานั่งหลับหน่ังคุยกันมากวา 60 กิโลเมตร กอนจะถึงวัดเล็กนอยพระอาจารยเอกทานใหคนขับรถแวะพักที่ปมนํ้ามัน ใหพระเณรทุกรูปไดลางคราบโคลนออกบางสวน เขาวัดไปในสภาพที่ดูดีหนอยทานเจาคุณทานจะไดสบายใจวาไมไดไปลําบากลําบนกันที่ไหนมา

ผมเองเมื่อลงรถแลวมองกลับไปดูที่เบาะของตัวเองดวยความหวงวาจะทําใหรถของวดัเปอนโคลน แตสิ่งที่เห็นเปอนเบาะกลับไมใชโคลนสีนํ้าตาลแดงเขม แตเปนน้ําสีแดงขนๆ เหมือน ‘เลือด!!’ ผมตกใจมากรีบเอี้ยวหลังไปดูที่สบงทันที

“เลือดออก!!!”หลวงพ่ีเกงเล็กอุทานมาทันทีที่เห็นสบงดานหลังของผม พรอมๆ กับความคิดของผมที่กําลังมึนรอยแปดวาเลือดอะไร ออกมาจากไหน ยังไงเนี่ย!!!

วินาทีตอจากนั้นคือความอาย ผมรีบเอามือปดดานหลังไวแลวเดินจ้ําๆ เขาหองนํ้าปดประตูทันที โดยมีคณะสงฆและสารเณรตามมาดูดวยความใกลชิด ที่ไมทราบวาเต็มไปดวยความหวงใยหรือวากําลังรอดขูองแปลกจากผมอยู

ผมผลัดสบงออกทันทีเพ่ือหาตนเหตุแหงเลือดน้ัน หนาขาและตนขาของผมแดงฉานไปดวยเลือดที่บางสวนก็แหงกรังไปแลวและยังมีบางสวนทําทาวาจะไหลออกมาอยางไมหยุดยั้ง เสียงเกงเล็กเดินมาเคาะประตูหองนํ้าถามไถอาการ

“หลวงพ่ี…. เปนอยางไรบาง?” เกงเล็กถาม ซึ่งผมเขาใจวาเปนเสียงแหงความหวงใยเพื่อนบรรพชิตดวยกัน “เลือดออก…” ผมตอบแบบกําปนทุบดิน เพราะไมรูวาจะบอกอยางไรดีแลว เลือดยงัไมหยุดไหลเลย “ออกตรงไหน?” เกงเล็กเริ่มซ้ําซี้ “ตรงนั้นแหละ” ผมตอบเสียงออยๆ เมื่อพบความจริงวาตนกําเนิดเลือดมันไหลออกมาจากบริเวณนั้น “ตรงนั้น!!” เกงเล็กทําเสียงหลงแลวรีบวิ่งออกไปบอกพระเณรที่กําลังรอฟงขาวอยูนอกหองนํ้า หลังจากนั้นผมไดยินเสียง เซ็งแซขานรับกันอีกไมต่ํากวา 5 ครั้งถึงคําวา ‘ตรงนั้น!!” ซึ่งมันเสียดแทงใจผมเหลือเกิน ผมกําลังมีเลือดไหลไมหยุดออกมา

จาก ‘ตรงนั้น’ ที่ผมยังไมทราบสาเหตุ มีเพียงสติเทาน้ันที่ครองใจผมอยูแลวพยายามคิดทบทบทวนวามันเปนไปไดอยางไร ติดตามตอนตอไป ตอนที่ 41: การใหทานดวยชีวิต

พระอาจารยเอกผลุนผลันเขามาเคาะที่ประตูหองนํ้าเมื่อทราบวาผมเปนอะไร ขณะที่ผมพบกับตนเหตุแหงการเสียเลือดเสียเนื้อในครั้งน้ี

“โดนทากกัดใชไหม?” พระอาจารยถามดวยความหวงใยจริงๆ “ใชครับ แตมันแตกตายไปแลว” ผมตอบทานไปตามสภาพที่เห็น โอ...อนิจจาทากตัวนอย มาแอบดูดเลือดผมไมบอกกลาวแถมยังตะกละตะกรามกนิไมรูจักพอพุงแตกตายไปเสียอยางนั้น ตาม

คําสอนครูบาอาจารยทานวาการใหเลือดเหมือนใหชีวิต อานิสงสแรงยิ่งกวาการทําทานไหนๆ แตสวนของผมแลวไมแนใจวาน่ีจะเปนบุญหรือบาป หรือวาผมนั่งหนีบ ‘นองทาก’ จนตัวแตกตายไปก็ไมรู

Page 54: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

54

ติดใจอยูอยางเดียววามาไดยังไง เกงจัง เลือกที่หมายก็แมนยํา ดีนะที่ผมรูตัวกอน ไมเชนนั้นแลวอาจจะเปนลมลมพับเพราะเสียเลือดมากหรือซีดตายไปกอนแลวก็ได

ผมรีบลางเลือดดวยนํ้าและใชทิชชูซับเลือดที่จนถึงตอนนี้ก็ไมมีทีทาวาจะหยุดไหล ปากแผลที่นองทากกัดจมเขี้ยวไวน้ันกวางมาก ผมกดทิชชูปดแผลไวแลวหมสบงกับอังสะตัวเดิม โชคดีที่วันน้ีหมสบงสํารองมา ถึงเปอนมากตองซักคืนนี้ก็ไมหวง เพราะสบงครองสําหรับทําวตัรเชาน้ันยังสะอาดอยู ใสไปไดตลอดทั้งวันไมผิดพระวินัยใหพระวินัยธรตองเอ็ดเอา

คณะสงฆและสามเณรโตเถียงกันอยางถึงลูกถึงคนจนลงความเห็นวา นองทากตัวน้ีรายกาจนัก ดักหาจังหวะที่ผมถกสบงขึ้นแลวเดินลงจากเขามา หรือไมเชนน้ันก็ตอนที่ทุกคนกําลังชวยกันดันรถใหพนจากหลม เพราะมีพยานบุคคลบอกวาเห็นทากตัวหน่ึงกําลังกระดึ๊บอยูขางทางขณะนั้นดวย อาจจะเปนตัวเดียวกัน

สิริรวมแลวก็ตองขอสรุปวา นองทาก ตัวน้ีพิเรนมากๆ ที่จองเลนงานพระสงฆองคเจาโดยไมเลือกที่หมายและสถานที่จูโจม ยังความหวาดกลัวใหกับพระเณรไปหลายวัน เพราะใครจะทราบวาวันดีคืนดี นองทาก ตัวอื่นๆ จะอยากเลียนแบบเปนเจาเหรียญทองกระโดดสูงแบบรุนพ่ีบาง

เมื่อกลับถึงวัด ผมก็กุมดานหลังเดินงุดๆ เขากุฏิไปสํารวจแผลอีกครั้งพบวาเลือดกยั็งไมหยุดไหล พระอาจารยเอกทานจึงเอายาเสนหยิบมือหน่ึงมาใหพรอมกับสําลี ทานวาอุดปากแผลไวแลวเลอืดจะหยุดไหลไดเร็ว ไมตองทานยาสมัยใหม ไมตองทําอะไรใหอยูเฉยๆ เลือดจะหยดุไหลเอง

น่ีเปนความรูใหมในตอนนั้นวา ยาเสน เปนยาชวยแกปญหาเรื่องเกี่ยวกับทากได ทานเลาวาบางครั้งนักทองเที่ยวจะใชยาเสนละลายกับน้ําเพื่อนํามาทาขากอนเดินทางในปา ชวยกันทากได ที่วัดยังมียาอื่นๆ อีกมากมายที่ผมไมเคยรูจัก พระอาจารยเอกทานมีเตรียมไว เชน นํ้ามูตร ขิงดอง ยารอนหรือยาสมทานก็มี แตหวังวาผมจะไมตองไดใชมากไปกวาน้ี

ค่ําน้ันผมขึ้นวิหารเพื่อทําวัตรเย็น ยางกาวดวยความระมัดระวังกลัววาสําลีกับยาเสนจะหลุดออกจากแผล แตเรื่องราวของผมนั้นลือสะพัดไปไกลแลว ทุกสายตาบนวิหารจับจองผมเหมือนกับอยากจะถาม ผมตองทําหนาตาวาสบายดี หายแลวครับไมตองเห็นหวงครับ อยูตลอดเวลา

จนแลวจนรอดก็ไมมีใครกลามาถามผมตรงๆ ยกเวน เณรเที่ยง ที่มีทาทียียวนอยูเสมอ “หลวงพ่ี...โดนทากกัดเหรอครับ?” “อืมม” ผมตอบแบบไมตองการใหถามตอ “ตรงนั้นนะเหรอครับ?” “เออ...” ผมวาผมก็สุภาพพอควรนะถาเณรเที่ยงจะหยุดถามสักที “ตรงไหนอะครบั หลวงพ่ี ?” เณรเที่ยงยังไมหยุด “เอา...ก็ตรงนั้นนะ...ตรงนั้น ใครเลาใหฟงมาละ เขาไมไดเลาใหฟงหรือวา ตรงไหน” ผมรูแลววาเณรเที่ยงมากวนผมแนๆ “ตรงไหนอะครบัหลวงพี่?” เณรเที่ยงยังอยากใหผมระบุใหแนชัด ผมจึงใชฝามือตบไปที่กระหมอมของเณรเที่ยงหน่ึงทีดวย

ความรักแลวบอกวา “ตรงนี้ม้ัง...หลวงพ่ีก็จําไมไดแลว...” ผมตอบใหเณรเที่ยงไดหายสงสัยไปนานเลย ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 42: เวทีนี้ขอเปนพี่เลี้ยง

เมื่อผมอยูที่วัดนานๆ เขาก็เริ่มทราบขนบธรรมเนียมตางๆ ของวัดมากขึ้น โดยเฉพาะพิธีกรรมที่เกี่ยวกับการบวชและการเตรียมตัวตางๆ สําหรับนาคที่กําลังจะบวชเปนพระใหมในเร็ววัน

ดวยความอยากจะแนะนําพระใหมเพราะวาเราผานเรื่องแบบนี้มากอนแลว บวกกับวาตองการชวยเหลือแบงเบาภาระพระอาจารยเอกบาง ผมเดินไปที่บันไดกุฏิทานแบบเชาถึงเย็นถึง“พระอาจารยมีอะไรใหรับใชม้ัยคาบบบ…”

ถามอยางนี้ตลอดเวลาที่เดินผานและตั้งใจเดินผานกุฏิทาน ตอนแรกๆ ทาทางผมคงไมนาไววางใจสักเทาใด ทานไมเคยเรียกใชสักที หลังๆ มาทานคงรําคาญหางานใหผมทําเสียเลย เปน ‘พระพ่ีเลี้ยง’ น่ีแหละ ที่ผมตองการ

Page 55: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

55

ผมชักชวนหลวงพี่เกงใหญและเกงเล็กใหมาทํางานตรงนี้ดวย ถือวาเปนงานชวยวัด ชวยพระอาจารยครั้งสุดทายกอนที่จะลาสิก ขาออกไป เพราะหลวงพี่ทั้งสองบวชรวมรุนเรียงเคยีงพระอุปชฌายกันมากับผม ซึ่งนับวาเปนพระใหมรุนพ่ีที่อยูนานที่สุดแลว

พระอาจารยเอกจงึไดมอบหมายใหเราทั้งสามแบงเปนสามกลุม รับผิดชอบนาคไปกลุมละ 2-3 คน สอนเรื่องการหมผาและการถอดลางประกอบบาตร สอนเรื่องวิธีการเปดบทสวดมนตประจําวันใหทันทานเจาคุณและสอนงานในหนาที่ประจําตางๆ เชน งานประจําหอฉัน งานประจําวิหารหรืองานประจําโบสถ

ในสวนการสอนขานนาคนั้นพระอาจารยเอกทานตองดูแลการผลิตเอง เพ่ือท่ีจะไดเปนมาตรฐานเดียวกัน คงสําเนียงและลําดับขั้นตอน นอกจากนั้นแลวเรื่องตางๆ ที่พระพ่ีเลี้ยงอยางผมสอนไป ทานจะเรียกนาคมาสอบกอนบวชทุกครั้งวาผานหรือไม โดยเฉพาะเรื่องการหมผา พระพ่ีเลี้ยงจะตองไปลุนอยูดวยวานาคสามารถสะบัดลูกบวบขามไหลไปไดหรือไม ถาไดแลวก็ยังความโลงใจใหกับพระพ่ีเลี้ยงทุกคน

เรื่องขอวัตรปฏิบตัิและวินัยตางๆ น้ัน พระพ่ีเลี้ยงเปนอันรูกันวาตองทําตัวเปนตัวอยางและพรอมที่จะตอบคําถามนี้กับพระใหมอยูเสมอ ดวยความที่ผมอยากปฏิบัติตัวใหดีและงามอยางสมณะเพื่อเสริมสรางศรัทธาพระใหมในตัวพระอาจารยและทานเจาคุณที่ไดเคยพรํ่าสอนมา ทําใหตัวเองไมเปนธรรมชาติ จะคิดจะทําสิ่งใดก็ตองตรองดูกอนวาถูกตองหรือไม ทั้งที่ในความเปนจริงแลวเน้ือแทของผมไมทําอะไรผิดขอวินัยไดโดยงาย หรือบางครั้งเวลาเห็นพระใหมทําสิ่งใดไมถูกไมควรก็อดไมไดที่จะเขาตักเตือนหรือเก็บมาคิดหาวิธีอุบายแยบยลอยางไรที่จะสื่อสารใหพระใหมไดเขาใจถึงแนวทางที่ถูกตอง เห็นสิ่งใดผิดก็เพงโทษใสคนอื่นไปเสียหมด

ในบางครั้งผมอดทนรอพระอาจารยเอกตักเตือนพระใหมไมไหว ตองขึ้นไปนมัสการทานบนกุฏิ “พระอาจารยครบั พระใหมเขาทํา…..พระอาจารยเห็นหรือไมครับ?” ผมถาม “เห็น…แลวเรารูสึกอยางไร?” “ผมเห็นแลวทนไมไดจริงๆ ครับ เรื่องนี้อยากจะตกัเตือนเองแตก็คดิวาบารมีไมพอจะบอกพระใหมได” ผมพูดแฝงความนัยไป

ใหทานทราบวาผมอยากใหทานเตือนพระใหมดวยตนเอง แตก็ไมกลาพูดตรงๆ เพราะเปนการไมสมควร “เราหรือใครที่ทําผิด ทําไมจิตใจถึงไดรุมรอนรําคาญ เราก็ชอบที่จะมองดูแตเรื่องของคนอื่นๆ นอกตัวเรา ไมมองดูตัวของ

เราเองใหเขาใจ”ผมเหมือนกับโดนคอนปอนดทุบหัวดังเปรี้ยงเมื่อสิ้นเสียงพระอาจารยตอบกลับมา ทุกขของผมขณะเปนภิกษุก็มีมากเพียง พออยูแลว ยังจะแสสายหาเอาเรือ่งของคนอื่นมาเปนอารมณอีก

“คนทําผิด ยอมไดรับผลแหงการกระทําน้ันทั้งจากในใจของเขาเองและสังคมรอบขาง เขามีความสขุไดไมนานหรอก อยากังวลไปเลย ดูใจของตัวเองเถิด….” พระอาจารยเอกย้ําอกีครั้ง

ทําใหผมเขาใจแลววาเหตุใดทานจึงไมแสดงทาทีเวลาเกิดปญหา เพราะความผิดชอบชั่วดีจะเปนเครือ่งมือจัดการปญหาตางๆ ไดดวยตัวเอง และผากาสายะนี้จะเปนเครื่องเตือนใจใหคนในผาเหลืองไดเกรงกลัวและละอายตอบาป ตราบเทาที่พระพุทธศาสนายังคงเจริญอยูในพุทธภูมิที่มีแตผูปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแลว. ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 43: ทุกขของสมณะ

และแลว วันเวลาของการพรากจากกันก็มาถึงอีกครั้ง ครั้งน้ีหลวงพ่ีเกงทั้งสองจะตองลาสิกขาออกไป หลังจากใชชีวิตในสมณะเพศกวาหน่ึงเดือน

ทั้งสองไมตองซอมพิธีการอะไรมากมาย เพียงทําตามลําดับขั้นตอนที่จําเปน ปลงอาบัติ ขอขมา กลาวคําลาสิกขา ผลัดผาเหลืองออกครองเสื้อผาอยางฆราวาสแลวขอสมาทานศีลหากลับเปนมนุษยปรกติ ก็เปนอันเสร็จพิธี

ผมไดแตมองดูอยูหางๆ เพราะในความรูสึกน้ันผูกพันกับสหธรรมิกทั้งสองคนนี้ยาวนานที่สุดและไมอยากใหเขาลาจากไป ทุกขของการพรากจากสิ่งอันเปนที่รักก็เปนเชนนี้ เพ่ือนทั้งสองตองออกไปใชชีวิตในโลกที่สับสนวุนวายอีกครั้ง สําหรับผูที่ยังดํารงตนอยูอยางผูมีศีลก็ยังตองรักษาใจของตัวเองกนัตอไป

Page 56: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

56

จะรูสึกแปลกสักแคไหนที่เพียงช่ัวขามนาที คนที่เคยเรียกกันวา “หลวงพ่ี” หรือบางครั้งก็เรียกแทนตัวเองกันวา “ทาน” น้ัน บัดนี้มากราบเราเสียแลว ในบทสนทนากอนลาจากนั้นเต็มไปดวยความตลกขบขันเพราะวายังคงติดที่จะเรียกสรรพนามเดิมกันอยู บางครั้งผมก็เรียกโยมเกงวาหลวงพี่บาง ทานบาง ตุ (พระ) บาง และบางทีเกงก็เรียกผมวาทานเหมือนเดิม เมื่อรูตัววาพูดผิดก็จะตองหัวเราะรวนกันเสียทุกครั้งไป

เกงเล็กจะไปเริ่มหางานทําหลังจากที่เพ่ิงเรียนจบมาหมาดๆ สวนเกงใหญน้ันทางบานไดเตรียมที่ทํางานตรงตามสายงานวิศวกรไวใหทําในตัวจังหวัดเรียบรอยแลว ตอไปก็คงกาวหนาในหนาที่การงานขึ้นเปนลําดับ

ผมถือโอกาสที่ยังคงมีศีลในผาเหลืองอวยพรใหเพ่ือนทั้งสองประสบความสําเร็จในสิ่งที่มุงหวังในทางที่ดีและประเสริฐ ขออยาใหเขาไดลืมสิ่งดีๆ ที่ไดจากการบวชครั้งน้ี หม่ันทําบุญ เห็นผาเหลืองเมื่อไหรขอใหนึกถึงวัด ขอใหนึกถึงชวงเวลาที่สงบสุขปราศจากกิเลสกันเปนเครื่องเศราหมองของตัวเอง ที่กําลังจะเริ่มเขามารุมเราพวกเขาอีกครั้ง

เมื่อเพ่ือนรุนราวคราวเดียวกันลาสิขาออกไป ผมจึงเปนพระใหมที่มีอาวุโสมากที่สุดในวัด เน่ืองจากบวชมานานวันกวา การไปรวมตัวเปนหมูคณะกับภิกษุรูปอื่นๆ ก็ลดนอยลงไปดวย มีเพียงบางครั้งที่ไปกราบพระอาจารยเอกขอสนทนาธรรมกับทาน บางครั้งผมเลาเรื่องความทุกขของตัวเองกอนที่จะบวชที่วัดใหทานไดฟง บางเรื่อง บางแนวคิดที่ผมไดประสบพบเจอมา คลายคลึงกับที่พระอาจารยเอกไดผานพนมาแลว ทานชี้แนะใหผมฟงอยางตลอดปลอดโปรง คงเหลือแตเพียงวาผมจะปฏิบัติตามเชนนั้นไดหรือไม ทุกวันผมจึงชอบหาเวลามาปรนนิบัตรทาน เพ่ืออยางนอยจะมีโอกาสไดสนทนาธรรมกับทานบางตามกาลและเวลาสมควร เพราะเมื่อใดที่ผมรูสึกทุกขใจมาเลาใหทานฟง ทานจะรับฟงและใหคติเตือนใจมาโดยตลอด

ทุกขของผมในระหวางที่เปนสมณะนั้นคือการตองรับมือกับญาติโยมที่มาเยี่ยมเยียนที่วัดไมเวนวัน โดยเฉพาะโยมพอและโยมแมของผมไมเหมือนของพระใหมรูปอื่นๆโยมทั้งสองจะเดินทางจากบานกวายี่สิบกิโลเพ่ือมาพบผม

ในเวลาเย็นทุกวัน จนพระในวัดทุกรูปจําไดและตองเปนเรื่องวุนวายตามหาตัวผมใหกลับกุฏิ นานวันเขาผมเริ่มเกรงใจ จึงตองคอยมองสอดสองเอาเองวาโยมทั้งสองมาถึงหรือยังจะไดรีบกลับกุฏิทันทีโดยไมตองรบกวนใคร เปนอยางนี้ทุกวันจนใจผมเองไมสงบเพราะตองคอยหวงคอยกังวลอยูตลอด

โดยเฉพาะอยางยิ่งเมื่อไดพบกับโยมทั้งสองแลว โยมพอมักจะพาคุยเรื่องสัพเพเหระเหตุการณทางโลกนอกกําแพงวัด สวนโยมแมจะเริ่มบทโศก ถามถึงความเปนอยู ความยากลําบากขณะที่เปนพระอยูน้ี ประหนึ่งวาจะเลียบเคียงใหผมสึกกลับไปอยูที่บานจะสะดวกสบายกวา ผมเองยังยืนยันที่จะไมขอรับรูเรื่องทางโลกและมคีวามสุขสบายดีที่อยูที่วัดนี้ แตโยมทั้งสองก็ยังคงปฏิบัติกับผมเชนเดิมจนบางวันผมก็เก็บเอามาคิดจนทุกขใจ. ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 44: มรรคาสูสวรรค

พระอาจารยเอกทานเคยตั้งขอสงสัยถึงการมาเยี่ยมของโยมพอแมของผมวาเพราะเหตุใดถึงไดมาทุกวัน ผมจึงเลาใหทานฟงวาคงเปนเพราะผมเปนลูกคนเดียวที่ทานทั้งรักและหวง โดยเฉพาะโยมแมจะเปนเอามาก บางครั้งก็บนวาคิดถึงแลวนํ้าตาก็คลอออกมา เสียงก็สั่นเครือ

ผมขณะที่เปนพระอยูน้ีก็จิตใจหวัน่ไหวนึกสงสารแม แตอีกใจหนึ่งก็คิดวาเรายังไมไดเรียนรูอะไรอีกหลายอยางในผาเหลือง และการที่ผมมาบวชก็ชวยรักษาสภาพจิตใจและความทุกขหลายๆ อยางจากทางโลกใหคลายลงไดมาก ผมจึงยังไมอยากสึกออกไปทั้งที่เลยกํา หนดที่ตั้งใจไววาจะบวชเพียงหน่ึงเดือนมาหลายวันแลว

ในหนังสือ “พระแท” ที่หลวงพ่ีแจคไดชักชวนใหผมอานนั้น ไดยกเรื่องของ “สามัญผล” คือ อานิสงสของความเปนสมณะ มีใจความหนึ่งกลาวถึงอานิสงสแหงการที่ลูกชายบวชเปนพระนั้น ไมไดหมายความวาจะทําใหพอและแมไดขึ้นสวรรคในทันที แตเม่ือลูกชายบวชแลวตางหากจะเปนเหมือนเนื้อนาบุญอันประเสริฐที่พอแมจะไดมีโอกาสทําบุญกับภิกษุ สงฆและวัดที่พระจําวดัอยู ผมเชื่อในความมีปาริสุทธิศีลของตวัเอง เหมาะสมแลวท่ีจะเพิ่มบุญใหกับพอและแมได พระอาจารยเอกทานก็สนับสนุนเห็นเปนเรื่องดีดวย

Page 57: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

57

ผมจึงไดบอกโยมพอและโยมแมถึงวิธีการทําบุญแบบงายๆ ตื่นเชาสักหนอยมาใสบาตรไดไหม ที่วัดมีพระออกบิณฑบาตกี่สาย ไปทางไหนบางก็บอกโยมไวใหทราบแลว ถาหากอยากใสบาตรลูกก็เปนเสนทางนี้นะ ขอเพียงแตวาใหไปศึกษาอาหารที่สามารถจะถวายพระไดมาใหดี เพราะขณะเปนพระอยูน้ันผมเองก็ไมสามารถบอกกลาวญาติโยมไดวาสิ่งไหนควรไมควร เรื่องน้ีโยมตองรูเทาทันเอาเอง

ในใจของผมนั้นอยากที่จะใหโยมพอและโยมแมมาใสบาตรทุกวันตอนเชาแทนที่จะมานั่งคุยกันในตอนเย็น แตก็เปนเพราะปจจัยหลายอยางของแตละบานก็ไมเหมือนกัน บางบานอยูใกลก็มางาย บางบานติดธุระไปทํางานตอนเชาก็มาไมได

สุดทายผมก็ตองแลวแตเทาที่โยมพอและโยมแมจะทําไดถือเปนที่สุดแลว อนุโมทนาใหเขาทุกครั้งที่พยายามมาใสบาตรตอนเชา แมเพียงสัปดาหละหน่ึงครั้งก็ยังดีกวาไมไดทําอะไรเสียเลย

บางวันโยมมาใสบาตรเจาะจงแตเพียงผมรูปเดียวในหอฉัน ผมก็ตองพยายามบอกใหโยมทราบวาการทําบุญแบบสังฆทาน คือ ไมไดระบุใหกับพระรูปใดรูปหน่ึงในวัดนั้นจะมีอานิสงสมากกวา หลังจากวันน้ัน นอกจากโยมพอและโยมแมจะมาถวายภัตตาหารใหผมแลว ยังมีตมจับฉายชามใหญยักษมาเปนจังหันพิเศษแกพระและสามเณรทุกรูปในหอฉันดวย

ทุกสัปดาหผมจะคอยเตือนโยมทั้งสองวาวันไหนเปนวันพระบางขอใหมานั่งทําวัตรเย็นและเวียนเทียนดวยกันกับอุบาสกอุบาสิกาที่มารักษาศีลอุโบสถ คอยแนะนําแนวทางวิธีปฏิบัติตางๆ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบใหกับโยมบางตามสมควร หลังจากที่โยมทั้งสองไดปฏิบัติตามแลว แมเพียงวินาทีเดียวที่มีความปติ อิ่มในบุญกุศลที่ไดทําแลวน้ันก็นับวาไดเอาใจเขามาฟนฟูในวัด สิ่งน้ีเปนสิ่งหน่ึงที่ผมรูสึกวาประสบความสําเร็จในการครองเพศบรรพชิต ไดชักชวนใหบุพการีทั้งสองมีโอกาสทําบุญและเขาวัด ใกลชิดกับพระ พุทธศาสนามากขึ้น

พุทธศาสนิกชนทุกคนพึงทราบวา วัดไมใชสถานที่ทองเที่ยว วดัไมใชแหลงรับบริจาคสิ่งของเงนิทองแลวเดินตัวปลิวออกไป วัดไมใชที่น่ังปรับทุกขหรือเพ่ือคยุเลนหยอกลอ แตวัดเปนสถานที่อบรมจิตใจ พัฒนาความสุขของมนุษยดวยความสงบภายในใจของแตละคนเอง โดยเฉพาะชาวพุทธทั้งหลายนั้น ที่พ่ึงทางใจอื่นใดลวนไมประเสริฐเทากับความสุข สงบรมเย็นภายใตรมเงาคําสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจาแลว. ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 45: การตัดสินใจ

เวลาลวงมากวาหน่ึงเดือน สิ่งที่ควรทําระหวางการบวชก็ปฏิบัติไดดีมาโดยตลอด บางครั้งแอบไดยินผานหูมาบางวาทานเจาคุณและพระอาจารยเอกทานชมมาวาเปนเด็กดี เปนพระที่ดีอยูในแนวทางของครูบาอาจารยอยางเครงครัด

ผมก็รูสึกวาเปนผลตอบแทนจากการที่ตั้งใจไววาจะไมขาดบิณฑบาต ไมขาดสวดมนตทําวัตรเชาและเย็น รวมทั้งสํารวมกิริยาอาการเอาไว สวนเรื่องการสํารวมใจนั้นตองคอยเปนคอยไปกันอีกที

แตสิ่งหนึ่งที่ผมรูสึกวายังไมถึงการปฏิบัติตามแบบฉบับพระปาก็คือการถือธุดงควัตร 13 ใหไดครบถวน ธุดงควัตร คือขอปฏิบัติเขมงวด เพ่ือความขัดเกลากิเลส เหมาะสมสําหรับภิกษุที่จําพรรษาอยูในปา หรือภิกษุรูปใดจะปฏิบัติเพียงขอหน่ึงตลอดระยะเวลาหนึ่งๆ ที่ตั้งใจไวก็สามารถทําได ประกอบไปดวย 3 หมวดเกี่ยวกับจีวร เกี่ยวกับบิณฑบาตและเกี่ยวกับเสนาสนะ ผมเองตั้งแตบวชมาก็ปฏิบัติไดเพียงการครองไตรจีวรเพียง 3 ผืน การฉันม้ือเดียว ฉันในบาตรและเที่ยวบิณฑบาตตามลําดับบานเทาน้ัน ขออื่นๆ น้ันไมสามารถปฏิบัติไดเลย ผมจึงไปกราบพระอาจารยเอกแลวขอทานวาจะขอธุดงคไปในปา

ครับ! ผมจะไปอยูปาสักครั้ง!!! “จะไปจริงหรือ จะไหวเรอะ?” พระอาจารยเอกถาม แตคงสีหนาเรียบเฉย เพราะอันที่จริงผมเคยเปรยเรื่องน้ีใหทานฟงหลายครั้ง

แลววา หากมีโอกาสจะขอดําเนินรอยตามทาน ไปจําวัดอยูในวัดปาตางๆ ที่ทานเคยธุดงคผานมา “ไหวครับ ผมไมไดเปนคนติดสุขสบายกับสิ่งไหนเปนพิเศษ อยากลองอยูเงียบๆ ในปา เพ่ือท่ีจะไดไมรูไมเห็นอะไรที่คน

อื่นเขาทําวุนวาย ไมคิดฟุงซานและเปนการเรงความเพียรสําหรับการนั่งสมาธิภาวนาดวยครับ” ความตั้งใจจริงผมเปนเชนนั้น

Page 58: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

58

“คนเราเกิดมาในเมืองมนุษย ตองพบมนุษยอยูร่ําไป พระพุทธเจาสอนใหอยูดวยความสงบ วิเวกดวยใจ อยาไปยึดเอาเรื่องของคนอื่นมาไวเปนอารมณของใจ แลวก็จะวเิวกอยูคนเดียว ถาใจไมสงบแลวจะไปอยูปาคนเดียวมันก็ไมสงบอยูดีละ” พระอาจารยเนนย้ํานิสัยเดิมของผมที่แกไมหาย

“แต…” ผมพยายามอธิบาย “ไปเถอะ…เห็นตั้งใจเอาไวนานแลว ก็จะสงไปฝากไวกับครูบาที่เราคุนเคย” พระอาจารยเอกไมขัดขวางการไปในครั้งน้ี แตผม

กลับรูสึกสลดใจอยางประหลาด ความกลาที่จะไปอยูคนเดียว กลับกลายเปนความกลัวท่ีจะไมมีพระอาจารยอยูใกลๆ ทันทีที่ทานอนุญาตใหไป ใจมนุษยเราก็เปนอยางนี้เอง

“ไปบอกทานเจาคุณใหทราบกอน” พระอาจารยเอกบอกใหผมบอกกลาวพระผูใหญตามมารยาท ทานเจาคุณเปนพระผูใหญที่มีเมตตาและมองเห็นความตั้งใจจริงของผมแลวทานก็อนุญาตใหไป แตขอใหดูแลตัวเอง เพราะอยู

ในปาไมเหมือนอยูในเมืองแบบนี้ ผมรับคําทานและบอกกําหนดการทานวาจะไปในอีกสองวันขางหนาหลังจากการฟงปาฏิโมกข ความรูถึงหูของหลวงพี่ฟลุค เด็กนอยจากนครปฐมที่เกิดอยากจะไปพิสูจนตัวเองลบลางขอครหาตางๆ รีบแจนไปขออนุญาต

พระอาจารยเอกเพื่อท่ีจะไปพรอมกับผมดวย แตพระอาจารยทานก็แบงรับแบงสู ผมเขาใจพระอาจารยดีเพราะวาเห็นฟลุคอยูที่วัดนี้แลวไมคอยสะดวกสบายสักเทาไหร เกรงวาจะดูแลตวัเองไมไดเมื่อตองไปออกธุดงค หลวงพ่ีเปกกับหลวงพี่ปอ สองสหธรรมิกของฟลุคก็ไมเห็นดีเห็นงามดวย เพราะกลวัวาฟลุคจะไปทําใหผมตองลําบากเมื่อไปถึงที่โนน ไมเปนอันปฏิบัติตามที่ผมตั้งใจในฐานะพระรุนที่ที่เคยอบรมกันมา ผมไมขัดศรัทธาฟลุคแตก็ขอใหคิดใหรอบคอบเสียกอน ฟลุคเทียวไปเทียวมากุฏิผมหลายครั้งตลอดสองวัน เพ่ือสอบถามถึงสถานที่ที่จะไปอยูและการปฏบิัติตางๆ สุดทายฟลุคก็โบกมือบายบาย ในขณะที่ผมดีใจเปนที่สุด เพราะวาไมอยากใหฟลุคไปดวยตั้งแตตน เพ่ือผลแหงการปฏิบัติสูงสุด ขอทิ้งนองไปสักเจ็ดวันเถอะ! ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 46: การเดินทางครั้งใหม

เมื่อใกลวันเดินทาง ผมจัดเตรียมขาวของที่ไมไดมีอยูมากมายเทาไรใหพอดีกับบาตรใบนอย อันที่จริงบาตรของพระธุดงคน้ันจะขนาดใหญกวาบาตรของผมมาก เน่ืองจากวาตองใสบริขารหลายชิ้น แตผมเปนพระเด็กนอยไมมีบาตรใหญก็ตองพยายามเอาบริการที่จําเปนไปใหนอยท่ีสุด

พระอาจารยเอกมอบถุงยามสําหรับใสบาตรเดินทางของทานใหไปใช พรอมกับมุงและกลดรมสีนํ้าตาลแบบพระปา พระอาจารยเอกแนะนําใหเปลี่ยนขาบาตรเปนแบบที่แข็งแรงขึน้เพราะวาการขึ้นรถลงเรือจะตองกระแทกกระทัน้บาง สิ่งเหลาน้ีที่ไดจากพระอาจารยเอกนั้นผมตื้นตันใจเปนที่สุด ถึงแมทานจะใหผมไปแตทานก็คงจะหวงผมอยูลึกๆ ผมคิดเชนนั้น

ผมบรรจุสบงสํารอง อังสะ ผาเช็ดบาตร ผาเช็ดปาก กระบอกน้ํา ไฟฉาย สมุดโนตเล็กๆ กับปากกา ชอนสอมและเทียนไขกับไฟแช็คไวในบาตร ปดฝาบาตรแทบไมลง จากนั้นก็ผูกยามเขากับขาบาตรแลวดึงรั้งขึ้นมาก็จะมีพ้ืนที่รอบขางบาตรอีกนิดหนอยสําหรับมวนเก็บมุงใหรอบ เสมือนกันตัวบาตรกระแทก แลววางหนังสือสวดมนตและสังฆาฏิดานบนฝาบาตร

ไมนาเชื่อวาของเพียงเทาน้ีจะทําใหพระดํารงชีวิตอยูในปาไดแลว หลังจากฟงสวดปาติโมกขจบ เกงเล็กและอั๋นมารอผมอยูแลวท่ีกุฏิ วนันี้เขาอาสาขับรถไปสงผมถึงที่หมาย พรอมกับหลวงพี่ฟลุค

ที่ขาดเสียไมไดตองไปใหเห็นกับตาและมีเณรทัศนติดตามไปดวยอีกหน่ึงรูป ผมลาทานเจาคุณกอนแลวคอยไปลาพระอาจารยเอก ทานบอกวาสิ่งที่ควรรูก็สอนไปหมดแลว พระอาจารยไมหวงอะไรอีก ขอ

ใหดูแลตัวเองใหดี อีกเจ็ดวันพบกันใหม ผมรับคําทาน กราบลาทานสามครั้งสวยที่สุดในชีวิตแลวเดนิจากมาดวยความรีบรอน กลัวนํ้าตาจะไหลออกมาเสียกอน

รถกระบะของอัน๋เคลื่อนออกจากวัดทันทีที่ผมกาวขึ้นไป จุดหมายครั้งน้ีอยูที่สํานักสงฆโปงเดือด ที่ๆ พระอาจารยเอกเคยพาไปทัศนศึกษาครั้งหนึ่งแลว สําหรับที่ปางมะไฟนั้นถึงแมจะอยูใกลๆ กันแตก็ยังคงมีปญหากับญาติโยมอยูเนืองๆ คงไมสงบ สวนที่แมแมม

Page 59: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

59

น้ันผมไมไดกลัวทาก แตคิดวาการเดินขึ้นลงเขาขนาดนั้นเพื่อรับบิณฑบาต รางกายจะตองพรอมมากๆ ผมเกรงจะสูไมไหว ลําบากพระที่น่ันจะตองเปนหวงผมเปลาๆ ที่โปงเดือดจึงเปนที่เหมาะสมอยางยิ่งแลวในตัวเลือกทีผ่มมีอยู

สํานักสงฆโปงเดือดตั้งอยูในเขตอทุยานแหงชาติ ซึ่งทางสํานักสงฆกับกรมปาไมตางพึ่งพาอาศัยกันอยางถอยทีถอยอาศยั แตเดิมที่น่ีมีประวัติยาวนานมาหลายสิบปตั้งแตสมัยหลวงปูชอบทานมาบุกเบิก สํานักสงฆน้ีจึงเปรียบเสมือนเปนพ้ืนที่ของครูบาอาจารยเรื่อยมาจนถึงสมัยหลวงพอประสิทธิ์ และพระรูปอื่นๆ ที่ผานไปผานมาไดพํานักพักเหนื่อย กอนที่ผืนปาแหงน้ีจะไดรับการประกาศแตงตั้งเปนเขตอุทยานแหงชาติเสียดวยซ้ํา

ดังน้ันสํานักสงฆน้ีจึงตั้งโดดเดี่ยวอยูกลางปา หางไกลบานชาวบานที่ไมสามารถตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ปาได ดวยเหตุน้ีเองจึงมีความสงบเงียบเหมาะสมแกการปฏิบัติสมณะธรรม

ที่สํานักสงฆประกอบไปดวยศาลาหลักหน่ึงหลังยกพ้ืนสูงสรางดวยไมจริงและหลังคามุงสังกะสี มีอาคารบริวารเล็กๆ สองหลัง

คือ โรงครวักับที่ลางบาตรและวางภาชนะ มีกุฏิอยูทั้งหมด 5 หลังหางกันกวารอยเมตรแทรกตัวอยูในปา สรางดวยวัสดุตามมีตามเกิด ตามศรัทธาของชาวบาน

เมื่อรถไปถึงที่วัด ฝนก็ตกลงมาโครมใหญ ผมพาคณะเดินทางขึ้นนมัสการครูบาบนศาลาและบอกความประสงคของผมใหทานทราบ ครูบาบอกใหรอกอนเพราะกําลังจะขึ้นสวดปาติโมกข ผมจึงพาฟลุคเดินชมพ้ืนที่ใหหายอยากมาลําบาก เมื่อฝนซาผมจึงขออนุโมท นาทุกคนที่มาสงแลวใหกลับไป นัดแนะกับเกงเล็กไวเรียบรอยวาอกี 7 วันใหมารับ เพราะวาที่น่ีไมมีสัญญาณโทรศัพทจะผิดนัดกันไมไดเลย. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 47: วันแรกของพระปา หลังจากปาติโมกขเสร็จ ผมเขาไปนมัสการครูบาแจคผูมีพรรษาสูงสุดในสํานักน้ี แลวบอกทานวาพระอาจารยเอกสงตัวมาให

ขอนิสสัยอยูที่น่ี 7 วัน ทานก็อนุญาตแถมบอกวาดีจริงอยูๆ สํานักก็มีพระมากมายอยางไมเคยเปนมากอน เพราะเมื่อสามวันที่แลวก็มีครูบาสองรูปเดินทางมาขอจําวัดที่น่ีเหมือนกัน สรุปแลวตอนนี้มีพระอยู 5 รูป ไมมีเณร ไมมีโยม อยูกันเทาน้ีมีอะไรใหชวยเหลือกัน

ครูบาเล็ก เปนอีกรูปหน่ึงที่อยูสํานักสงฆน้ีมากอนไดจัดแจงหาเสื่อ ผาหมและหมอนหนุนใหผมสําหรับใชที่กุฏิเบอร 4 หลังเดียวที่วางอยูตอนนี้ นับวาผมเริ่มไดธุดงควัตร 2 ขอขึ้นมาทันที คือ ถือการอยูปาเปนวัตร ไมอยูในหมูบานและถือการอยูในเสนาสนะที่เขาจัดไวใหเปนวัตร โดยไมเลือกวาสะดวกสบายหรือถูกใจหรือไม

Page 60: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

60

กุฏิเบอร 4 น้ันอยูหางจากศาลาหลักประมาณเกือบหารอยเมตร เสนทางเดินนั้นเปนทางเดินในปาที่สองขางทางก็เปนตนไมครึ้ม ลื่นเล็กนอยเนื่องจากฝนชะดินใหเปนโคลนและมีตะไครจับเพราะความชื้นมากในฤดูฝน กอนถึงกุฏิจะตองกาวขึ้นเนินเล็กนอย ผมเห็นสภาพของกุฏิแลวก็จําไดวาหลังน้ีเคยมาดอมๆ มองๆ ไวตั้งแตมาคราวแลว

กุฏิตั้งโครงสรางหลักจากทอนไมจริงที่หาไดจากในปา ขนาดกวางยาวไมเกินดานละ 2 เมตร สวนพ้ืนและฝาผนังน้ันเปนทอน

ไมไผตีแตกและคลี่ออกจากกัน ทางเหนือเรียกวา ฟาก มีประตูไมอัดบานหนึ่งที่ติดตั้งแบบเบี้ยวๆ แตพอปดบังลมหนาวและสัตวรายได ที่ผนังอีกสามดานเจาะชองเปนหนาตางบานกระทุงที่จะตองเอาไมค้ําไวดานลาง หลังคานับวาดีหนอยเพราะมุงสังกะสี หากเปนใบตองตึงก็คงจะตองหนาวเหน็บเพราะน้ําฝนหยดลงหัว

กุฏิน้ีมีชานเล็กๆ รับบันไดทางขึ้นกอนเขาสูหองในกุฏิ เปนตําแหนงที่วางถังนํ้าสําหรับลางเทาและคงไวน่ังอานหนังสือในบาง ครั้งทุกยางกาวบนกุฏิน้ันใหความรูสึกยวบยาบเพราะไมฟากไมสูจะแข็งแรงเทาไหร คงฝกใหเราสํารวมในกิริยาอาการตางๆ บนกุฏิ ถาเคลื่อนไหวเร็วมากๆ หรือกระโดดโลดเตนมีหวังจะพังครืน

ขางๆ กุฏิน้ันมีทางเดินจงกรมที่ปรับแตงขุดยกรองไวดีแลว ยาวประมาณ 45 กาว ที่ปลายทั้งสองขางมีตอไมและเชิงเทียนสําหรับวางเทียนพรรษาใหความสวางยามที่เดินจงกรมตอนกลางคืน

Page 61: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

61

บรรยากาศดูสงบเงียบและเย็นยะเยียบจากละอองฝนที่เพ่ิงหยุดตกไปหมาดๆ ผมสํารวจพื้นที่โดยรอบเพื่อจดจําตําแหนงของทาง

เดินที่สิ่งของใหดใีนขณะที่ยังพอมีแสงอาทิตยรําไรอยู อีกทั้งรีบกางกลดและมุงในกุฏิตามแบบที่พระอาจารยเอกไดสาธิตใหดูกอนจะมาที่น่ี ไมงายเลยสําหรับการทําคนเดียวแตก็ตองทําเวลากอนที่พระอาทิตยจะตกดิน เพราะหลังจากนั้นจะไมมีไฟฟาใชแลว

ครูบาเล็กเห็นวาผมจัดแจงทุกอยางพรอมแลวจึงไดขอตัวกลับกุฏ ิ บอกวาพรุงน้ีเชาจะเริ่มบิณฑบาตตั้งแตเวลาหานาฬิกา ขอใหไปรออยูที่ศาลาหลัก ผมรับคําและสอบถามทานเรื่องเวลาทําวัตรเยน็ วัตรเชาและทีส่รงน้ํา ครูบาเลก็บอกวาที่วัดนี้ตางคนตางทําวัตรของตัวเองในกุฏิ สวนเรื่องการสรงน้ําน้ันขอใหไปใชบอนํ้าที่อยูใกลๆ กับศาลาหลัก ผมเขาใจดีแลวขอบคณุครูบากอนที่ทานจะเดินลับหายไปในปา

บรรยากาศรอบดานมืดลงแลว ผมมองไปรอบๆ ตัวในกุฏิเพ่ือหาเทียนมาจุดใหความสวางชั่วคราว แวบแรกคิดแตเพียงวาในความมืดนี้ผมจะอยูไดอยางไร ไมใชวากลัวความมืดแตไมทราบวาจะทําอะไรด ี

ทันใดนั้นผมก็เริ่มไดยินเสียงแกรกๆ ๆ ดังตอเนื่องอยูในกุฏิ ผมรีบมองหาตนเสียงแตก็ไมพบในความมืดนั้น ดวยความที่ไมกลัวจนกวาจะไดเห็นเสียกอนน้ัน ผมจึงหลับตาแลวใชหูฟงหาตนเสียงน้ันที่ไมเคลื่อนที่ ปรากฏวาที่มุมหองน้ันเองในกลองทิชชูมีมดดํากลุมใหญกําลังทํารังอยู ผมรูสึกโลงใจวาน่ีเปนเพียงการรับนองเล็กๆ นอยๆ ที่ตอไปอาจจะเจอมากวาน้ี ตองเตรียมใจไวใหดีอยาประมาทจนจิตใจไมอยูกับเนื้อกับตัว. ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 48: บิณฑบาตกลางปา

คืนแรกในปาน้ันผานไปดวยดี ผมปลดมุงลงมาจากขากลดเพื่อสวดมนตทําวัตรเองอยางที่เคยสวดมนตดึกทุกวันกับหลวงพี่แจ็ค เพราะเปนบทที่สวดไดคลองที่สุดหากตองสวดคนเดียว เทาน้ีก็ใชเวลารวม 40 นาทีแลว

หลังจากนั้นผมก็เริ่มลองนั่งสมาธิโดยมีเสียงมดดําฝูงใหญเปนเพื่อนบริกรรมไปดวยในใจก็แผเมตตาใหมดดําวาอยาไดมาเบียด เบียนกันเลย หลวงพ่ีไมไดรบกวนที่อยูของมดดํานะ มดดําตองอยูกับที่หามเดินมาหาหลวงพี่ตอนกําลังจําวัดอยู หามมาทํารังใหมในบาตรของหลวงพี่ดวยนะ หลวงพ่ีไมชอบมดเลยจริงๆ

ผมตื่นขึ้นมาดวยเสียงนาฬิกาปลุกบอกเวลาสี่นาฬิกา เปดประตูกุฏิออกไปก็พบกับความมืดสนิท มืดชนิดที่วาจะมองไมเห็นแมแตปลายมือของตัวเอง ผมรีบจุดเทียนดวงนอยเพียงดวงเดียวก็ทําใหสวางไสวไปไดทั้งผืนปา ลางหนาแปรงฟนดวยนํ้าที่เตรียมมาลางเทานั้น แลวจึงสวดมนตทําวัตรเชากอนที่จะเตรียมตัวไปบิณฑบาต

Page 62: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

62

ใกลถึงเวลานัดหมายแลวผมเอาบริขารออกจากบาตร เตรียมผาเช็ดบาตร ผาเช็ดปากและกระบอกน้ําใหพรอม สํารวจสบงวาเปนสบงครองหรือไม แลวตองพกสังฆาฏิไปดวย เพราะฟายังไมสางเดี๋ยวจะขาดผาครองผิดศีลในเรื่องงายๆ แคน้ีถือวาดูแลตัวเองไมรอดแลว เมื่อพรอมแลวหมจีวรคราวๆ เพ่ือกันหนาว คลองบาตรกับสังฆาฏิ อีกมือหน่ึงถือไฟฉายเดินตะลุยความมืดออกไปยังศาลาหลัก

หนทางที่มืดมิดบวกกับความไมคุนเคยทําใหดูยาวนาน แตในที่สุดผมก็เดินมาถึงศาลาไดโดยไมหกขะลมระหวางทางทั้งที่ทําทาลื่นๆ มาหลายครั้ง ผมจัดแจงวางสิ่งของทั้งหมดลงบนศาลาแลวยังตองหนีบจีวรกับสังฆาฏิเขาหองสวมดวย เน่ืองจากวาหองสวมกับศาลาไมไดถือวาเปนอาคารเดียวกัน

เมื่อถึงเวลานัด พระทุกรูปทานก็มาพรอมกันที่ศาลา ครูบาใหมอีกสองรูปที่ผมยังไมรูจักทานเอาเสื่อมาปู จัดผารองนั่ง กระโถน

กาน้ําและแกวนํ้าอยางผูชํานาญงาน สวนผม ไดแตยืนมองในครั้งแรกและจดจําขั้นตอนตางๆ ไว เพราะตั้งใจวาในเชาวันพรุงน้ีผมจะเปนคนตระเตรียมสิ่งตางๆ เหลาน้ีเอง เปนสิ่งที่พระใหมพึงกระทําตอพระที่อาวุโสกวา

การบิณฑบาตวันน้ีจึงแบงเปนสองสาย เนื่องจากวามีพระมากขึ้น ผมไดไปกับครูบาเล็กและครูบาใหมรูปหนึ่งที่บัดนี้ก็ยังไมรูจักชื่อทาน สายบิณฑบาตสายนี้ครูบาเล็กเรียกวา สายโปง เพราะเดินไปทางโปงนํ้ารอน มีระยะทางใกลกวาอีกสายหนึ่ง ครูบาทานกลัววาผมจะเดินไมไหวจึงใหลองทางใกลๆ น่ีเสียกอน

สวนสายบิณฑบาตอีกสายหนึ่งน้ันเรียกวา สายถนนใหญ เพราะตองเดินออกจากเขตอุทยานแหงชาติไปจนเกือบถึงถนนใหญ นับระยะทางไปกลับแลวไมต่ํากวา 7 กิโลเมตร เปนเสนทางบิณฑบาตรวมกับพระจากวัดปางมะไฟใกลๆ น้ัน พระจากวัดเราจึงไปเพียงสองรูป เพ่ือท่ีวาจะไดไมเปนภาระแกโยมมากเกินไปและบางทีอาหารอาจจะไมเพียงพอ ครูบาแจค็ทานแข็งแรงเพราะเดินสายนี้ประจํา

ฟาเริ่มสางแลวผมจึงไมตองนําสังฆาฏิติดตัวไปบิณฑบาตดวย นับวาเปนเรื่องโชคดีมาก ครูบาเล็กเดินนําลิ่วๆ เนื่องจากวานับจากสํานักสงฆเราไปนั้นเปนทางลงเขาตลอด

ทามกลางเสนทางราดยางมะตอยสองเลนที่คดเคี้ยวสูงชันนั้น ตนตะเคียนและยางปากลับทะยานสูงเสียดฟา ซึ่งในขณะที่ผมเดินชมความอุดมสมบูรณของผืนปายามเชาอยูน้ัน ผมไมอาจมองเห็นยอดไมไดเลย ยอดเขาปกคลุมไปดวยละอองน้ําที่จับตัวเปนเมฆฝนบางเบา บางครั้งไอน้ําฉ่ําลอยมาปะทะตัวผมใหรูสึกหนาวเย็นแตก็สดชื่น ระคนเสียงนกปาที่รองเรียกเพรียกหากันตั้งแตเชา ยามน้ี ผมเปรียบ เทียบกับที่ตองบิณฑบาตรอยูในเมืองแลวชางตางกัน พระปาไดอยูทามกลางสิ่งแวดลอมแบบนี้แลวก็คงจะไมขวนขวายกลับเขาไปในเมืองอีกเปนแนแท ผมคิดเชนนั้นจริงๆ

Page 63: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

63

ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 49: ผลทานที่ตางกัน การบิณฑบาตนั้นรูปแบบขั้นตอนก็คงจะคลายคลงึกันไมวาพระจะจาริกไปที่ไหน แตสิ่งที่จะตางกันใหเห็นเปนสีสันก็คือโยม

ที่มาใสบาตร ตางที่ตางถิ่นก็ตางกันไป จนตองนํามาเลาถึงเรื่องการบิณฑบาตกันอีกครั้ง โยมที่มาใสบาตรสายโปงน้ันจะรอกันอยูแตในบาน เม่ือพระสงฆเดินเขามายังบริเวณหมูบาน หัวหนาหมูบานจะเคาะไมเรียก

เปนสัญญาณ ผมกับครูบาทั้งสองยืนสงบนิ่งอยูกลางลานของหมูบานเล็กๆ ประมาณ 10 ครัวเรอืนน้ีดวยใจจดจอปนระทึกวาอาหารที่จะนํา มาใสบาตรจะเปนอะไร เพราะนี่เปนวันแรกที่มาอยูที่สํานักสงฆน้ียังไมเคยทราบวาศรัทธาญาติโยมใสบาตรดวยอะไรกันบาง

หลังจากนั้นไมนานผมเห็นผูเฒาผูแกเดินยักแยยักยันออกมาประมาณ 3-4 คนเพื่อมาใสบาตร ผมเห็นสิ่งที่พวกเขานํามาใสบาตรแลวก็ตองแปลกใจ เพราะทุกคนเตรียมเพียงขาวเหนียวใสมาในขันพลาสติก แลวแบงใหพระท้ังสามรูปเทาๆ กัน กับขาวที่ไดน้ันเปนเห็ดถอบตม เห็ดปายําใสพริกแหงหรือแคบหมู อาจจะมีบางที่เปนบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปหรือไสอั่วช้ินเล็กๆ

ในตอนแรกผมรูสึกใจเสียกับอาหารบิณฑบาต แตก็ทําเขมแข็งไวเพราะวาเรามาอาศัยสํานักสงฆทานอยู อาศัยของบิณฑบาตจากชาวพุทธเหลาน้ีเพ่ือประทังใหรางกายนี้อยูรอดเทาน้ันแหละ น่ีคือท่ีสุดของสมณะแลว

แตเม่ือมองไปยังสภาพบานเรือนของชาวบานที่ไมมีความคงทน อยูกันอยางตามมีตามเกิด หาเลี้ยงชีพดวยการเก็บของปาขาย เสื้อผาที่สวมใสก็ขาดวิ่นแลว เด็กๆ ยังคงรองไหโยเยสกปรกมอมแมม อาหารที่พวกเขานํามาใสบาตรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขามี เขาเลอืกอยางปราณีตแลวใหกับเราผูถือศีลอยูน้ันนับวามีใจยิ่งใหญไรความตระหนี่เปนที่ย่ิง ผมไมรูวาขาวเหนียวจํานวนมากมายนี้ถูกแบงมาจากซึ้งที่น่ึงไวสําหรับกี่ชีวิตในครอบครัว แตเขาตั้งใจทําทานแลวสุดทายผมก็เห็นสีหนาอิ่มเอิบในบุญของชาวบานเหลาน้ัน ผมก็รับอาหารเหลาน้ันดวยความเต็มใจและนึกอนุโมทนาบุญใหกับชาวบานทุกคนอยางเต็มที่

หลังจากรับของใสบาตรจากชาวบานโปงแลว ครูบาเล็กพาผมเดินขึ้นเนินสูงอีกหน่ึงลูก เพราะวาที่ยอดสุดของเนินเขานี้มีราน

อาหารสําหรับนักทองเที่ยวฝรั่งอยูรานหนึ่งมักมีศรัทธาตื่นมาใสบาตรอยูเสมอ ระยะทางที่สูงชันนั้นทําใหผมรูสึกเหน่ือยมากและครูบาเล็กก็ทิ้งระยะไปไกล

ผมเห็นทานยืนอยูบนยอดเนินน้ันอยูนานก็ไมมีทาทีวาจะมีโยมออกมาใสบาตร เม่ือผมหอบรางกับบาตรที่บรรจุขาวเหนียวอยูเต็มไปยืนเคียงคูกับครูบาได ก็ไดรับขาวรายวาไมมีใครออกมาใสบาตร เพราะประตูหนาตางทุกบานปดสนิทดี แตผมกับครูบากลับได

Page 64: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

64

ยินเสียงเหมือนกับมีคนอาศัยอยูภายในบาน ผมยืนคอยอยูอึดใจหนึ่ง เพราะบานนี้เปรียบเสมือนเปนความหวังของพระอีกสองรูปที่ไปบิณฑบาตอยูสายถนนใหญ ไมรูวาจะไดรับอะไรมาฉันบาง

ผมกับครูบาอีกสองรูปยืนสงบนิ่งอยูหนาบานเชนน้ัน ไมไดมีอาการสงเสียงเรียกหรือสงสัญญานใหโยมออกมาใสบาตร การทําอยางนี้ผมรูสึกปวดใจมาก วาน่ีเราเปนพระชางเหมือนขอทาน ในกรณีเชนนี้ไดเกิดขึ้นมาแลวในความรูสึกของพระเจาสุทโธทนะที่ทนเห็นพระพุทธเจาอันเปนถึงบุตรของศากยวงศเดินรับอาหารจากชาวเมืองเหมือนดั่งขอทานไมได แตพระพุทธเจาทรงยืนยันวาน่ีเปนพุทธกิจของพระพุทธเจา การเปนสมณะที่แทน้ันตองไมประมาทในการบิณฑบาตและยินดีกับสิ่งที่ไดรับหรือแมไมไดรับก็ตามที

สุดทายวันนี้โยมก็ไมออกมาจริงๆ ผมไมอาจพูดบนอะไรไดเพราะนี่ก็เปนความตั้งใจของโยมเชนกัน บางครั้งผมคงสบายเกินไปและชินกับการไดรับของใสบาตรทุกครั้งที่ออกเดนิ การไดเรียนรูจักกับคําวา ไมมี บาง คงจะเรงความเพียรในการที่จะพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยูไดเปนอยางดี มันคงไมเลวรายสักเทาใด หากอาหารมื้อเชา ม้ือเดียวของวันนี้จะมีเพียงขาวเหนียวและแคบหมูอีกหน่ึงหอเทาน้ัน. ติดตามตอนตอไป.

สวัสดีครับทุกคน เมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคมที่ผานมา เปนวันสงทายปเกาตอนรับปใหมของสากล ผมไมไดไปอยูกับกลุมเพื่อนฝูงที่ไหน แตตั้งใจไปปฏิบัติธรรมที่วัดปาฯ วัดท่ีผมไดเคยบวชเรียนมา คืนนั้นหลังจากทําวัตรเย็นแลว ทานเจาคุณอาจารยพระโสภณธรรมสารไดเทศนเตือนใจอุบาสก อุบาสิกาและภิกษุสามเณร

เกี่ยวกับเรื่องของวันขึ้นปใหมไวนาฟง ดังน้ี... "... วันขึ้นปใหม ทุกแหงหนก็มีการเฉลิมฉลองกันทั่วไปตามเทศกาลสากลนิยม การฉลอง คือ เรื่องของความบันเทิง การกิน การ

เที่ยว การดื่ม จนบางคนถึงกับตองจบชีวิตในวันขึ้นปใหม น่ีคือวิถีของชาวโลก ที่ยึดความสุขทางกามารมณเปนหลัก หากทุกคนมีธรรมะอยูในใจแลว ยอมจะรูจักปลอยวางไปเอง...

...จํานวนปที่ผานไปนั้น ตามจริงเกิดจากการที่โลกหมุนรอบตัวเอง ทําใหเกิดกลางวันกลางคืน เกิดจากการที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตยทําใหเกิดฤดูกาลหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป ทานผูฉลาดจึงไดกําหนดวัน เดือน ปหน่ึงๆ ใหผานพนไป หากทําความเขาใจอยางนี้แลว วันเวลาก็เหมือนเดิม เพียงแตนับเพ่ิมอีก 1 ป เราจะนับสาระประโยชนอะไรจากการนับวันเวลาแบบนี้ นอกเหนือไปจากความชราภาพ...

...ความจริงน้ัน จุดดับของรางของชีวิตของแตละคน คือ ความตาย ที่กรรมของแตละคนไดกําหนดเอาไวแลว ไมทราบวาจะมาถึงเมื่อไหรแมไมตองถึงกับแกตัวลง บางครั้งความตายก็มาเยือนไดโดยที่ไมรูตัว เหตุน้ันคือ กรรม ปจจัยก็คือผลที่ไดรับนั้น...

...ถาคิดอยางนี้จะเขาใจไดวา เราใกลความตายเขาไปทุกทีแลว เวลาในการครองชีวติสั้นลง จึงสรุปลงวา อยาประมาท อยาปลอยชีวิตใหไรคา จงบริหารชีวิตใหเปนใหเกิดประโยชนสูงสุด...

...เพราะฉะนั้นปใหมที่กาวผานไป พึงระลึกเสมอวาเวลาเราเหลือนอยลงทุกขณะ มีสิ่งใดใหจงรีบทํา ดั่งเวลาและวารีไมเคยคอยใคร น่ีเปนสิ่งสําคัญที่สุด...

...พึงตรวจตราวาหน่ึงปที่ผานมา มีภัยสิ่งใดเขามาเบียดเบียนเราบาง ทั้งความเจ็บไขไดปวย อุปสรรคขัดขวาง วิบากอันใดและความรูสึกไมไดดั่งใจตางๆ น้ันเกิดขึ้นไดเชนใดบาง กิเลสคงเปนคําตอบที่มาแหงภัยตางๆ ที่เราประสบพบเจอได โดยเฉพาะโลภะ (ความโลภ) โทสะ (ความโกรธ) และโมหะ (ความหลง) จะทําใหเราเขาใจจุดบกพรองของตัวเองในปที่ผานมา... ...ตนเตือนตนของตนใหพนผิด ตนเตือนจิตตนไดใครจะเหมือน ตนเตือนตนไมไดใครจะเตือน ตนแชเชือนไมเตือนตนใหพนภัย..." สวัสดีปใหม 2549 ทุกคนครับ ฐานวิชโช

Page 65: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

65

ตอนที่ 50: รูจักพระจาริกธรรม กิจวัตรของพระปาหลังจากที่บิณฑบาตรกลับมาแลวก็ไมตางไปจากวัดในเมืองที่ผมเคยอยูสักเทาไร ตางกันเพียงแค “สภาพ” ของ

พระเทาน้ันที่ออกจะดูโทรมไปสักหนอยเพราะวาตองเหนื่อยกับการเดินทางไกล ย่ิงผมกับครูบาอีก 2 รูปที่ดูจะออนพรรษากวาใครๆ น้ัน จะออกอาการชัดวาน่ังหมดแรงเหงื่อไหลไคลยอยไปตามๆ กัน

จีวรท่ีเปยกชุมไปดวยเหงื่อจึงไดรบัการตากผึ่งลมเอาไวสักครูหน่ึง กอนที่พระทุกรูปจะหยิบมาครองเพื่อฉันเชาบนศาลาอีกครั้ง นาเลื่อมใสเปนอยางยิ่งวาถึงแมพระปาจะอยูในปาลึกไมมีใครเขามาเห็น แตวินัยสงฆที่พึงกระทําน้ันก็ตองไดรับการปฏิบัติอยูเสมอไมมีขอ ยกเวน กอนจะฉันตองหมเฉียง กราบพระประทานและนั่งประจําที่ มีอุปกรณ กาน้ํา กระโถนวางไวเปนระเบียบเรียบรอยแลวทานก็ฉันดวยจริยวัตรอันงดงาม

สิ่งเหลาน้ีเปนความประพฤติที่ไดรับการสั่งสอนอบรมมาจากรุนตอรุนแลว เวลาพระภิกษุจาริกไปที่ไหน หากมีมารยาทปฏิบัติตามเสขิยวัตรที่พึงกระทําแลว ไปอยูที่ไหนก็ไมลําบาก แถมยังไดรับการชื่นชมสงผลไปถึงพระพี่เลี้ยง พระครูอุปชฌายอาจารยวาสั่งสอนมาดีอีกดวย ผมเองก็ไดช่ือวาถูกฝกมาแลวเชนกัน จึงไมไดรูสึกเกอเขินที่จะปฏิบัติตนตามแบบที่สํานักสงฆฯ ที่น่ีทานปฏิบัติกัน

หลังฉันเชาและลางบาตรเปนที่เรียบรอยแลว พอจะมีเวลาสักครูหน่ึงกอนที่พระแตละรูปจะแยกยายกันไปปฏิบัติกิจของตนที่กุฎิ ผมจึงไดทักทายกับครูบาออนพรรษาทั้ง 2 รูปถึงชื่อและที่มาที่ไป จนถึงไดมาถึงสํานักสงฆฯ แหงน้ี เพราะตอนที่มาทัศนศึกษากับพระอาจารยเอกครั้งทีแ่ลวไมเคยเห็นทานมากอน

ครูบารูปแรก ช่ือวา “ครูบากลด” ทานเปนคนผิวขาวรูปรางทวมแบบลูกคนจีน ใสแวนสายตากลมๆ แตชอบมองลอดเหนือเลนสออกมาทุกครั้งไป ทานเลาใหฟงวาเปนคนจังหวัดกระบี่ เปนลูกชายเจาของรานขายทองในตัวจังหวดั แตดวยความศรัทธาในพระพุทธ ศาสนาจึงออกบวชหลังจากจบการศึกษามาได 2-3 ป ตอนนี้บวชไดหน่ึงพรรษากวาๆ แลว จาริกจากภาคใตไปอยูภาคอีสานเมื่อพรรษาที่ผานมา ครูบากลดเปนคนพูดนอยสงบปากสงบคํา แตชอบใชสายตามองเวลาพระรูปอื่นๆ ทานคุยกัน เขาใจวาทานคงฟงอยูแตไมไดพูดแสดงความคิดเหน็ออกมา แตทานก็ดูเปนมิตรและไมมีพิษมีภัย

สวนครูบาอีกรูป ช่ือ “ครูบานอย” เปนลูกอีสานขนานแท นอกจากจะตัวจอย จนทานเลาวาชื่อนอยน่ีก็มาจากตอนเด็กๆ ถูกเรียก วา “บักหํานอย” แลว ทานก็ยังผิวคล้ําและเคาโครงใบหนาเฉกเชนเดียวกับพ่ีนองดินแดนที่ราบสูงทั่วไป ทานเลาใหฟงวาตั้งใจบวชทดแทนคุณบุพการีที่ไดเคยทําเรื่องเดือดเนื้อรอนใจใหมาตลอด และตั้งเปาหมายไววาจะบวชไมนานเพราะวามีกําหนดแตงงานกับสาวนางหนึ่งซึ่งอีก 2 ปจะเรียนจบจากสถาบันอุดมศึกษา ทานบวชที่วัดปาแหงหนึ่งในภาคอีสาน ผมจําชื่อวัดไมไดแตทานเลาวาเปนวัดที่พระอาจารยเครง ครัดวินัยมาก เมื่อไดรับการยอมรับจากพระเดชพระคุณวาสามารถรักษาศีลดูแลตัวเองได ทานจึงขออนุญาตลาจากวัดเพื่อตามหาญาติผูใหญทานหนึ่งที่บวชเปนพระแลวจาริกมาอยูเมืองเหนือ

เหตุที่ผมตองเรียกพระทั้งสองรูปวาครูบานั้นเพราะทานยังบวชพรรษานอยและถือไดวาเปนพระสายอีสานดวยกันทั้งคู ครูบาทั้งสองพบกันที่เมืองพิจิตร ครูบากลดมีความตองการมาจาริกที่เชียงใหมอยูแลวเพ่ือตามรอยครูบาอาจารย สวนครูบานอยก็ไดรับขาวมาวาญาติที่ทานตามหานั้นจําวัดอยูไมไกลละแวกนี้ ทั้งสองจึงชักชวนรวมกันเดินทางมาจนถถึงสํานักสงฆแหงน้ีกอนหนาที่ผมจะมาถึงเพียงวันเดียว

มินาเลา…ครูบายังหอบแฮกๆ หลังบิณฑบาตอยูเลยเพราะวายังไมชินน่ีเอง… ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 51: ปฏิบัติอยางพระปา

ความรูสึกแรกของการที่มาอยูที่สํานักสงฆ กลางอุทยานแหงชาติน้ีก็คือ ความวาง ความวางในที่น้ีไมไดหมายถึงจิตที่วางเปลา ละแลวซึ่งกเิลสความอยากได อยากมี อยากเปนทั้งปวง แตเปนความไมมีอะไรทําเสียมากกวา เพราะหลังจากพระทุกรูปแยกยายกันไปประ จํากุฏิแลว ก็จะไมมีใครไดพบหนากันอีกเปนเวลาไมนอยกวา 6-7 ช่ัวโมงในตอนกลางวันและอีกไมนอยกวา 10 ช่ัวโมงในเวลากลาง คืน พื้นที่วัดท่ีรกครึ้มไปดวยพรรณไมตางๆ อยูแลวกลบัดูหนาแนนมืดทึบยิ่งขึ้นไปอีก ประหนึ่งวาไดอยูแตเพียงผูเดียวกลางปา

Page 66: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

66

ผมทบทวนภาระกิจของตัวเองที่ตัดสินใจมายังที่แหงน้ี จะมามัวน่ังเศราเหงาหงอยอยางนี้คงจะไมเกิดประโยชนเสียดายเวลาที่ผานพนไป ทานเจาคุณเทศนสอนอยูเสมอวาความเพียรเปนสิ่งที่ตองทําวันนี้ ใครจะลวงรูความตายแมเพียงพรุงน้ีน้ันเปนจริงเสมอ ผมสูดลมหายใจเขาเต็มปอดหนึ่งครั้ง จัดเตรียมพ้ืนที่ในกุฏิ คลายมุงออกจากขากลดแลวแทรกตัวเขาไป ชองวางระหวางอิริยาบทนั่งกับนอนนั้นหางกันนิดเดียว ผมเลือกน่ังภาวนากอนเปนอันดับแรก สวนจะลมตัวลงนอนหรือไมน้ันตองใหความตั้งใจจริงเปนเครื่องพิสูจน

การมีมุงครอบระหวางการนั่งสมาธิน้ันเปนประโยชนมากในการปองกันเหลือบยุงริ้นไร ไมใหมาทําความรําคาญขวางกั้นความเพียร แตเหนือสิ่งอื่นใดนั้นคือความปวดเมื่อยขา ความเหน็บชาที่แสนจะทรมาณจิตใจ

ครูบาอาจารยทานเลาใหฟงเสมอวาเมื่อเริ่มน่ังใครๆ ก็ปวด แตเม่ือจิตใจอยูเหนือกายแลวก็จะไมพะวงกับความเจ็บปวดนั้นอีกตอ ไป บางทานก็บอกวาใหอดทนกับความปวดนั้น จนในที่สุดเราจะหายปวดเมื่อยไปเอง ผมเคยนั่งสมาธิรอบดึกกับหลวงพี่แจดที่วัดบอย ครั้ง ก็พบความจริงดังวามีบางวันที่สามารถนั่งติดตอกันไดนานโดยที่ไมเมื่อยขบเลย รูสึกอัศจรรยใจมาก มาที่สํานักสงฆฯ แหงน้ีก็จะขอลองปฏิบัติเชนนั้นอีกครั้งหนึ่ง

คําบริกรรม พุทโธ น้ันเปนสิ่งที่งายที่สุด ถึงแมวาจะมีคําแนะนําบอกถึงการบริกรรมคําอื่นๆ ก็ไดผลเชนเดียวกัน เชนทองอิติปโสฯ ไปเรื่อยๆ น้ันผมพบวา เมื่อจิตเรายังไมน่ิง ยังคิดเรื่องอื่นใจแสสายออกไปโดยตลอด สักพักก็จะลืมคําบริกรรมนั้นวาทองถึงคําไหน จะมัวพะวักพะวงนึกใหออกวาจิตหลุดไปเมื่อไรจะพยายามตอบทสวดใหจบนั้นก็นับวาฟุงซานไปเหลือประมาณแลวไม พุท ก็ โธ เทาน้ันทองงาย เม่ือพลั้งเผลอไปก็ตอไดทันที

อีกสิ่งหนึ่งที่ผูปฏิบัติสมาธิภาวนาจะสัมผัสไดน้ันคือ เสียงของลมหายใจ หากยิ่งอยูในที่สงบเงียบแลว เสียงกองแหงความคิดในจิตใจลดนอยลงไปจนเหลือเพียงแคพุทโธแลว เสียงลมหายใจจะแจมชัดดังขึ้นเรื่อยๆ ครั้งหนึ่งผมลองเปลี่ยนไปกําหนดที่ลมหายใจเขาและออกนับตั้งแตปลายจมูกเริ่มสัมผัสไดวามีอากาศพัดผานไปเขาสูชองจมูก โพรงจมูกไปจนถึงลําคอและในทางกลบักันเมื่อมีลมหายใจออก หากใครไดเรียนเกี่ยวกับสรีระรางกายของมนุษยที่เกี่ยวกับการหายใจมาดวยแลวจะคิดตอเน่ืองไปจนถึงขั้วปอดตลอดไปถึงถุงลมกันเลยทีเดียว

เสียงลมหายใจนี่นับเปนเสียงที่แปลก เพราะลมหายใจเปนสิ่งที่มีอยูตลอดแตนอยคนนักที่จะนําสิ่งน้ีมาพิจารณาใสใจ ทุกคนคุนเคยกับการแปรเปลี่ยนของอารมณตัวเองแตหารูไมวาลมหายใจก็เปลี่ยนแปลงตามไปดวย เมื่อใดที่รูสึกโกรธเราก็หายใจรุนแรงฟดฟาด เมื่อใดที่ตื่นเตนก็หายใจรัวดั่งจังหวะกลอง เวลาเศราหรือทุกขใจกท็อดลมหายใจเสียยาวเหยียด หรือแมแตตอนรองไหก็คร่ําครวญเสียจนสําลักนํ้าตาก็มี

ในการปฏิบัติสมาธิภาวนาน้ัน ผมไดยินเสียงลมหายใจ ผมควบคุมลมหายใจใหสมํ่าเสมอไดพรอมๆ กับพัฒนาปญญาไปดวยวา เพราะลมหายใจนี้เราจึงมีชีวิตอยู จงถนอมลมหายใจนี้ไวใหอยูกับเราเชนเดียวกับครองสติเราไวใหม่ัน ไมออนไหววูบวาบไปกับสิ่งเราใหเกิดอารมณตางๆ เทาน้ีเราก็ใกลความสุขสงบเขาไปทุกขณะแลว ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 52: เรื่องหมูๆ กลางวันวันหน่ึง ขณะผมนั่งภาวนาอยูในกุฏิ หูผมก็พลันไดยินเสียงอะไรบางอยางอยูดานหลังไกลออกไปสักสิบเมตร เปนเสียงของสัตวบางชนิดเดินและคุยเขี่ยพุมไม บางครั้งก็ไดยินเปนเสียง “ตุบ ตุบ” เปนจังหวะ ดวยความอยากรูอยากเห็นจึง

ออกจากสมาธิแลวคอยๆ ยองไปที่ริมหนาตางบานกระทุงของกฏุิเพ่ือมองหาตนเสียง ความรูสึกตอนนั้นเหมือนกับเขาไปสองสัตวในปา ตอนนี้เราอยูในนั่งรานและนาจะมีสัตวปาหายากตัวหน่ึงออกมาใหผมไดยลโฉม แตก็มองไมเห็นสักที

บายแกๆ เม่ือถึงเวลาชวยกันทําความสะอาดบริเวณวัด ผมลองถามครูบาแจคและครูบาเล็กที่จําพรรษาอยูที่สํานักสงฆมานานแลววาเปนเสียงของสัตวอะไร ทานบอกวาเปนหมูปา…จริงดวย หมูปา เพราะบริเวณสํานักสงฆน้ีใกลกับพ้ืนที่โปงซึ่งเปนแหลงอาหารอุดมสมบูรณแบบที่หมูปาชอบ

เรื่องหมูปาน้ีทําใหผมดีใจไปไดนาน เพราะรูสึกเหมือนวามีเพ่ือนเม่ืออยูในปา ตอนนั่งภาวนาหมูปาจะมาทุกครั้ง ทําใหใจคิดไปวาน่ีเรามาภาวนาก็เปนบุญ สัตวนอยใหญที่เขามาใกลน้ันไมไดจะเขามาทําอันตราย บางครั้งเขาอาจจะอยากมาอนุโมทนาบุญกับเราดวย

Page 67: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

67

กระมังน่ี อาจจะดูคิดเขาขางตัวเองไปสักหนอย แตก็เปนเครื่องยึดเหนี่ยวในจิตใจวาถาเรารักษาศีลแลว ภาวนาแลว จิตคงเข็มแขง็ตอการสกัดกั้นกิเลสแตก็ออนโยนตอสรรพสัตวทั้งปวงได

เรื่องนี้เห็นจะจริงเปนอยางยิ่งเมื่อตอนผมอยูที่วัด เพราะนองหมาไมเคยแมแตแยกเขี้ยวยิงฟนใสผมที่อยูในผาเหลืองเลย ทั้งๆ ที่ไมเคยเจอหนาคาตาหรือคุนกลิ่นกันมากอน

ทันใดนั้นเอง เสียงปนลูกซองยาวดัง “ปง!” ตามดวยเสียงแหวกอากาศของลูกกระสุนเฟยวฟาวเสมือนกับวาผานหลังผมไปจากซายไปขวา ดังติดตอกันสามครั้ง ชาวบานคงเขามาหาของปา และสิ่งที่ไดกลับไปคงเปนสัตวใหญขนาดที่ตองใชปนยิงกันแบบนี้ ผมอดคิดถึงหมูปาไมได บัดนี้

มันคงไมไดอยูตรงนั้นแลว “มันนาจะหนีรอดไปได” ใจผมคดิ นายพรานคงไมแมนเพราะยิงออกไปตั้งสามลูก แตถามันตองมาจบชีวิตเอาตอนนี้แลวผมคง

เสียใจมากๆ เลยทีเดียว หลังจากเสียงปนนั้น แมผานไปหลายชั่วโมงก็ไมมีแวววาหมูปาจะกลับมาคุยเขี่ยหาอาหารรอบๆ กุฏิผมอีก จากที่น่ังภาวนาเฉยๆ

กลับใจรอนรนรอฟงเสียงหมู น่ีแหละหนอเอาเรือ่งอื่นๆ มาเปนทุกขเสียแลว สงสารหมู ผมนึกสงสารหมูและตลอดการนั่งภาวนานั้นตั้งใจสงกระแสจติแหงบุญใหกับมัน ทั้งที่เห็นหรือไมไดเห็นก็ดี ทั้งที่อาจจะรอดชวีิตอยูหรือกําลังหารางใหมก็ดี ขอใหดวงวิญญาณหมูไดรับผลแหงบุญนี้ดวย

เชาวันรุงขึ้น ผมออกบิณฑบาตขามเขาเหมือนเคย แปลกแตเพียงวาวันนี้ชาวบานเตรียมของมาใสบาตรมากเปนพิเศษในจังหวะที่ผมมองปออุย

(คุณตา) หยิบกวยเตี๋ยวถุงใหญลงในหมอน้ันมีเนื้อสัตวมากมาย ทั้งๆ ที่รับบิณฑบาตมาไมเคยมีวันไหนเยอะเทาน้ีมากอน ปออุยย้ิมๆ แลวบอกวา “เมื่อวานไดเนื้อมาดี” “โฮ….” ผมแอบน้ําตาไหลอยูในใจลึกๆ ตั้งใจวายังไงก็จะไมกินกวยเตี๋ยวถุงนี้เด็ดขาด เพราะในความเปนจริงแลวพระสงฆจะ

ฉันเนื้อท่ีเห็นการฆาหรือแมแตไดยินเสียงเขาฆาแลวนํามาถวายไมไดอยูแลวดวย ผมไมฉันแนๆ ครูบาเล็กทานเห็นผมไมฉันกวยเตี๋ยวซึ่งนับวาเปนอาหารหลักของวนันั้นเลยทานก็แปลกใจ แตผมก็ไมกลาที่จะบอกเหตุผลออก

ไป มันอาจจะเปนเรื่องจริงหรือผมคิดไปเองก็สุดแลวแต แตผมคงทําใหทานเปนหวงมากเรื่องปากทองและความเปนอยูในปา ครูบาเล็กจึงบอกวาวันนี้จะพาไปเที่ยวโปงเดือดแบบไมเสียคาธรรมเนียม ใจผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศอยูแลวดวยจึงรับคําทานแลวตกลงกันวาเกาโมงเชาจะออกเดนิทาง ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 53: โปงเดือด ผมเพ่ิงทราบเดี๋ยวน้ันเองวาโปงเดอืด สถานที่ทองเที่ยวระดับอันซีนของประเทศไทยนั้นอยูหางจากสํานักสงฆฯไปอีก 5

กิโลเมตร น่ันหมายความวาผมตองเดินไปและกลับรวม 10 กิโลเมตร ผานเสนทางบิณฑบาตเหมือนเชนทุกเชาแลวเดินตอไปอีกหนอย แคคิดวาจะตองเดิน ผมก็เหน่ือยใจไปกอนแลว

เมฆฝนลอยต่ําเลียดยอดไมและปลายเขาเหมือนเชนทุกๆ วันในฤดูฝนเชนนี้ ครูบาแจ็คและครูบาเล็กเรงรัดใหพวกเราออกเดิน ทาง ทุกรูปไมมีอะไรติดตัวไปเลยนอกจากผาอาบน้ําฝนอีกคนละหนึ่งผืน เอาไวผลัดตอนลงแชนํ้ารอน นึกถึงตอนเปนฆราวาสเวลาไปเที่ยวจะตองคิดเตรียมนั่นโนนนี่ เสื่อสาด อาหารปคนิค เตรียมรถเติมน้ํามันสารพัดจะวุนวาย

สุดทายก็ไมรูวาไปเที่ยวแบบชาวบานนี่เขาเปนสุขสนุกกันจริงหรือเปลา แตพระเราทิ้งไปหมดแลว กองทุกอยางไวขางหลัง สบายตั้งแตยังไมเริ่มกาวเดินออกจากสํานักสงฆเลย

ทัศนียภาพสองขางทางยังงดงามเหมือนเชนเคย ปาเขาที่มีตนไมอยูคูกันยอมสวยงามสําคัญกวาภูเขาหัวโลนโดดเดี่ยวหรือแมแตทอนไมแกะสลักในหองทํางานของเจาใหญนายโต สิ่งนี้บอกใหเรารูวาความโลภนั้นเปนกิเลสที่มาบดบังปญญาของมนุษยเสียสิ้น เมื่อไรที่มนุษยคิดได เมื่อน้ันโลกคงสงบสุขเพราะไมมีการเบียดเบียนกัน

Page 68: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

68

และแลวฝนก็ปรอยลงมา พระอยางเราไมวิ่งหรือเรงรีบเดินจนเกินงาม เพราะกลางถนนแบบนี้รีบไปก็เปยกอยูดี ทันใดนั้นเองผลบุญอันใดไมทราบดลใจใหมีรถกระบะมาจอดรบัพวกเราไปสงถึงโปงเดือดทั้งๆ ที่เราไมไดโบกมือเรียกหรือรองขอ น่ีแหละน้ําใจชาวเหนือท่ีมีจุนเจือใหกับศาสนาและผาเหลืองมานานแสนนาน อีกทั้งคาธรรมเนียมเขาชมอุทยานก็ไมตองเสีย เพราะเจาหนาที่อุทยานเขามีศรัทธาดีอยูกับสํานักสงฆฯ

โปงเดือด เปนนํ้าพุรอนแบบกีเซอร คือพุงขึ้นจากระดับผิวดินเปนครั้งคราวตลอดเวลา ครอบคลุมพ้ืนที่ประมาณสนามวอลเลย บอลและมีนํ้าพุพุงขึ้นมา 4-5 จุดสลับกันเปนจังหวะของมันเอง ทั่วท้ังบริเวณยังคงปกคลุมไปดวยปาไมและกลิ่นกํามะถันออนๆ ทางอทุ ยานแหงชาติไดจัดเสนทางชมธรรมชาติและทํารั้วไมเตี้ยๆ กั้นไวพรอมทั้งติดปาย “หามคนเขา” ไปใกลนํ้าพุรอน

ครูบาแจ็คผูอาวุโสทานกาวขามรั้วไมไปแลวหันมาบอกกับผมดวยสีหนาเรียบเฉยวา “เราเปนพระ…” วาแลวทานก็กาวผานลําธาร กอนหินนอยใหญไปถึงกอนหินลูกใหญที่สุดในบางครั้งไอความรอนของน้ําพุปก

คลุมรอบตัวทานจนเราแทบทองไมเห็น มองไปอีกครั้งทานนั่งภาวนาอยูบนกอนกินกอนน้ันเสียแลว ทามกลางความรอนและไอกํามะถัน ครูบาแจ็คทานไมสะทกสะทานเลย

ครูบาเล็กเลาใหผม ครูบากลดและครูบานอย พระขาจรออนพรรษาฟงวา สถานที่แหงน้ีเดิมทีครูบาอาจารยของเรามาอยูกอน หลวงปูชอบ ฐานสโมทานก็เคยธุดงคผานมาอาศัยในปาที่น่ี ปฏิบัติเชนเดียวกับที่ครูบาแจ็คทําอยูน้ี ความรอนและกํามะถันชวยรักษาโรคไขขอของทานไดเปนอยางดี แตมาภายหลังรัฐบาลเขาครอบครองพื้นที่ปาเพื่อสงวนไวเปนเขตอุทยานแหงชาติและจะพัฒนาเปนแหลงทองเที่ยว

หลวงปูทานพิจารณาแลววาตอไปสถานที่น้ีจะวุนวายไมเหมาะสมกับการภาวนา จึงไดตัดสินใจยายสํานักสงฆไปตรงที่ปจจุบันและหลังจากนั้นก็มีพระอาจารยหลายรูปชวยกันสรางศรัทธามาสูสํานักสงฆฯ ไดมีพออยูอยางที่ผมเห็น

สักพักหน่ึงครูบาแจ็คทานกลับมาพรอมทั้งบอกวาสดชื่นสบายดี เดี๋ยวจะพาพวกเราไปแชที่ปลายน้ํา ที่น่ันมีนํ้าเย็นมาผสมใหอุนพอเหมาะลงแชไดทุกคน

ทานเดินนําลัดเลาะเขาไปในปาดูวกวน มาเจอกับแองนํ้าเล็กๆ มีนํ้าตกไหลมาลงเปลี่ยนน้ําใหมอยูเสมอดูสะอาดสะอานแมเปนแหลงนํ้าในปา ครูบาเล็ก ครูบากลดและครูบานอยผลัดผาอาบน้ําฝนลงแชกันสบายตัว สวนผมไมกลาลงไปดวยเพราะไมเคยชินกับการผลัดเปลี่ยนสบงกลางแจงแลวลงนํ้าแบบนี้ อาจมีโชวดีไมมีชารจได หรือไมก็ยังฝงใจกับทากตัวนอยท่ีคอยดูดเลือดเราอยู จึงขอเดินสํารวจรอบบริเวณอยูลําพัง ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 54: พระปากับโยม อันที่จริงการเดินทางไกลนั้นไมเหนื่อยเลย หากเราควบคุมลมหายไดและที่สําคัญนี่เปนอานิสงสของการเดินจงกลมทุกวัน

ทําใหรางกายแข็งแรง เดินทนเดินไดนานเดินไดไกล เหมาะสําหรับพระธุดงคตองฝกซอมรางกายไวอยูตลอด เรื่องนี้หลวงตาบัวทานเคยแนะนําไวในหนังสือแนะนําวิธีปฏิบัติภาวนาที่ผมเคยอาน เพราะฉะนั้นขาเดินกลับจากโปงเดือด

ผมจึงเหนื่อยไมมาก เดินจงกลมทุกวัน บิณฑบาตทุกเชาชวยไดมากทีเดียว

คณะสงฆกลับถึงสํานักสงฆฯ ประมาณเที่ยงวันแลว แยกยายกันไปภาวนาอีกไมเทาไรก็ถึงเวลาปฏิบัติกิจของสงฆประจําวัน คือ กวาดวัดและทําความสะอาดศาลา ขอใหมาดูเถิดวาวัดที่อยูในปาหลายๆ แหงสะอาดสะอานกวาวัดในเมืองเปนไหนๆ แมทางเดินในปาทานก็กวาด ไมเห็นมีใบไมตกมาสักใบ ลานดินลูกรังที่กวางกลับไมมีสิ่งใดเจือปนเลย เรากวาดกันทุกวันเหมือนกวาดใจใหสะอาดอยูเสมอฉะนั้น

ประมาณบายสี่โมงเปนเวลาไดรวมหมูคณะสนทนากันบางที่ศาลาเพื่อฉันน้ําปานะ ปานะที่นี่ไมเหมือนกับวัดที่ผมเคยอยู แน นอนอยูแลววาสิ่งของไดมาลวนยากเย็น เครื่องชงดื่มตางๆ ถาไมไดมาจากถังสังฆทานที่เก็บไวต้ังแตครั้งมีงานบุญพระใหญสําคัญ ๆ ก็จะไดมาจากวัดสาขาตางๆ สงมาเจือจุน

Page 69: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

69

สิ่งที่ขาดไมไดเลยคือ ชา น้ําผึ้งและน้ํารอน ผมเห็นมีผงครีมเทียมอยูกนขวดแตก็ไมมีกาแฟหรือโกโกใหชงฉัน บางครั้งโอ กาสเหมาะๆ จะไดน้ําอัดลมมาจากศรัทธาที่เดินทางผานไปมามาถวาย ครูบาทานก็จะเก็บไวครั้งจนใจจริงๆ จึงจะนําออกมาใหฉันกัน นี่ไมใชพระสะสมอาหาร แตหากใหโยมถวายไวหมดในวันนั้นแลว ก็จะไดฉันแควันเดียว ของหมดอายุขาดประเคนไปก็ไมคุมคากับที่โยมเขาทําบุญมา

เรื่องของโยมกับวัดนั้น ผมเห็นเปนเรื่องสําคัญก็ครั้งนี้ ปรกติแลวที่วัดจะมีพระจําอยูไมกี่รูป แตมาชวงนี้มาใหมพรอมกันถึงสามรวมพระเกาเปนหาแลว ปานะก็พรองลงไปอยางเห็นไดชัด เพื่อใหถูกตองตามวินัยสงฆพระจะตองใหโยมประเคนของใหกอน ที่จะฉันได แตสํานักสงฆนี้ไมมีโยมอยูเลย บานใกลเรือนเคียงก็ไมมี ถาเปนเชนนี้ครูบาเล็กจะตองบอกโยมที่ใสบาตรตอนเชาวาใหตามมาที่วัดดวย วันนี้ทานลืมบอกและปานะก็ไมมีเหลือพอเพียงสําหรับพระหารูปแลว ดูทานเปนหวงเรามากๆ เพราะคงเห็นวาเปนพระใหมจะไมทนกับความหิวไดนาน หากทานกับครูบาแจ็คอยูดวยกันสองรูปแลว ปญหาแบบนี้คงไมเกิดขึ้นแนนอน

ครูบาเล็กชวนผมและครูบานอยไปยืนคอยอยูริมถนน เดินออกไปจากสํานักสงฆฯ สักหนอยเพ่ือคอยโบกรถที่ผานไปมาใหชวยแวะเขาไปที่ศาลา ประเคนของใหพระใหดวย ถึงตอนนี้ผมก็รูสึกถึงความยากลําบากของพระอีกครั้ง จริงอยูที่ชาวบานก็มีศรัทธากับสํานักสงฆฯ อยูบาง แตก็ไมเทาทันถึงเรื่องตางๆ ที่พระไมสามารถบอกใหทําได

ดังเชน การบิณฑบาตที่พระไมเคยรองขอ โยมที่มีจิตศรัทธาเทานั้นที่ทราบวาตองมาใสบาตร เรื่องการอุปฏฐากพระแบบนี้ก็เชนกัน เปนเรื่องลึกๆ ที่พุทธศานิกชนนอยคนนักจะทราบวาจะตองปฏิบัติใหพระอยางไรใหพอเหมาะและพอสมควรวันนี้ผมที่กําลัง เปนพระตองมายืนขอความชวยเหลือจากโยมที่ผานไปมา คิดแลวไมสบายใจเลย วัดที่ขาดโยมอุปฏฐากนั้นลําบากจริงๆ พระปาก็ตองทนกับสภาพแบบนี้ใหไดเชนเดียวกัน พระปาตองอดได ขมใจได ตัดไดละไดซึ่งความอยากกิเลสตางๆ เพื่อเปนหนทางไปสูความสุข สวางและสงบดังที่พระสัมมาพุทธเจาทานไดนําทางไว

ความพยายามไมสัมฤทธิ์ผล เพราะเปนเวลาเย็นมากแลวนักทองเที่ยวไมเขาไปในโปงเดือด ขณะที่ชาวบานก็เตรียมหุงหาอาหารอยูกับบานไมไดขับรถออกมา ปานะของผมวันนี้จึงเปนน้ําตาลชงน้ํารอนแกวใหญสามแกวติดๆ กัน ใหน้ําตาลแปรเปลี่ยนเปนพลังงานไวเตรียมภาวนาในค่ําคืนนี้ ที่ถือเปนสุดยอดปรารถนาของพระกรรมฐานอยางเราแลว

ติดตามตอนตอไป. ตอนที่ 55: การคนพบในปา

ตลอดระยะเวลาเจ็ดวันที่อยูที่สํานักสงฆ ทุกเวลาทุกขณะจิตลวนแตเปนการภาวนาทั้งสิ้น ผมพบวา ตั้งแตเชามืดตองปลุกจิตใหตื่น ควบคมุสมาธิเดินฝาทางเดินในปาออกมาเพื่อรอไปบิณฑบาต แสงไฟฉายที่ริบหรี่ลง

ทุกวันทําใหผมตองเอาใจใสกับหนทางที่เดินมากขึ้น เพราะหากพลาดพลั้งลื่นไปกับดินโคลนหรือตะไครนํ้าที่ปกคลุมไปทั่วชวงฤดูฝน คงจะรักษาเยียวยากันไดยาก

ผมพบวา การเดินบิณฑบาตขามเขานั้นวิธีที่ทําใหไมเหน่ือย คือ การเดินกําหนดลมหายใจเขาออกเปนจังหวะสัมพันธกับการกาวเทา ไมวาจะขึ้นเขาหรือลงหวย เดินดวยความเร็วสมํ่าเสมอยอมหายใจสม่ําเสมอ ไมพูดไมคุย ใจจดจออยูที่การเดินอยูตลอด

ผมพบวา การน่ังสมาธิภาวนาตอนกลางวันในปานั้นพาใจเงียบสงัดขนาดที่ไมไดยินเสียงอื่นใด นอกจากเสียงลมหายใจของตัว เอง การน่ังสมาธิติดตอกันเปนเวลานานหลายๆ วันทําใหเราเปนคนนิ่งขึ้น สุขุมและเยือกเย็นเปนหน่ึงเดียวกับธรรมชาติแวดลอม จนรูสึกไดวามีหมูปามาขุดหาหนอไมรอบๆ กุฏิ มีสัตวตัวเลก็ๆ ออกมาทักทายเราอยางไมไดกลัวเกรงวาจะเกิดอันตราย

ผมพบวา การเดินจงกรมตอนกลางคืนในปาทึบกับเทียนสองเลมน้ัน ไมทําใหผมรูสึกกลัวแมแตนอย เพราะผมจะไมสามารถมองเห็นอะไรไดนอกจากสิ่งที่รัศมีของแสงเทียนสองไปถึง ฉะนั้นผมจึงไมรูสึกกลัวเพราะผมมองไมเห็นอะไรที่จะตองกลัว

ผมพบวา การมาอยูในปาแบบนี้คลายกับการมาอยูคนเดียวไมใชก็ใกลเคียง หากพระที่ปรารถนาการปฏิบัติใหถึงนิพพานเปนที่สุดแลว ไมมีกิจธุระหรือเรื่องราวอะไรใหเดือดเนื้อรอนใจแบบสังคมโลก ตัวขัดขวางมรรคผลที่สาํคัญที่สุดคือ ความเหงา

Page 70: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

70

ผมเหงาจับจิตในชวงสามวันสุดทายกอนเดินทางออกจากโปงเดือด เมื่อไหรที่ไมไดควบคุมจิตใหอยูในสมาธิ ไมไดจดจออยูที่การภาวนาแลวความเหงาจะเขามาครอบงําเราทันที ไมวาจะพยายามทองจําบทสวดมนตใหลืมความเหงานั้นเสีย หรือแมแตการกวาดใบ ไมรอบกุฏิชนิดที่วาเดินไปกวาดทุกครั้งที่เห็นใบไมรวงลงมาเลยทีเดียว แตความเหงาก็ยังมาอยูเปนเพื่อนเราในเวลาอยางนี้ที่เราไมตองการ

ผมพบวา ในความเหงานั้นมีบุคคลอยูหาคนที่ผมนึกถึงเขาอยูตลอด ในเวลาที่น่ังอยูเฉยแลวไดยินเสียงคลายกับฝเทาคนเดินมาที่กุฏิ ใจจะนึกพองโตอยากใหเปนใครก็ไดหน่ึงในหาคนนี้เดินมาหาผม

ทานแรกคือพระอาจารยเอก เพราะผมทบทวนถึงคําสอนคําแนะนําของทานเสมอเวลาที่มาปฏิบัติที่น้ี ใจคิดไปมากมายวาบางทีทานอาจจะคิดถึงและมาเยี่ยมผมบาง เหมือนดังเชนเวลาอยูที่วัดปาฯ ทานจะเดินขึ้นมาบนกุฏิผมเพ่ือเปดโอกาสใหผมสนทนาธรรมกับทานบาง วันน้ันจะเปนวันที่ผมจําวัดสบายตลอดคืนไมฝนรายเลยทีเดียว

อีกสองทานคือพอกับแม ผมอยากใหทานมาเห็นวาผมอยูอยางไรไดในปาที่หางไกลบานมากกวา 60 กิโลเมตร ผมคิดถึงทานจนกลับกลายเปนวาในตลอดหนึ่งสัปดาหที่ไมไดพบกันนั้นมีแตความเปนหวงวาเขาจะสบายดีกันหรือไม ไมเหมือนตอนที่ผมอยูที่วัดปาฯ

บางครั้งทานมาเยี่ยมผมทุกวันจนผมอึดอัด แตตอนนั้นไมไดสํานึกเลยวาการที่ทานมาเยี่ยมที่วัดทําใหผมทราบอยูเสมอวาเขาสบายดีกันอยูทุกๆวัน ในตอนนั้นผมอยากมีทานอยูดวยมาก

คนที่สี่คือเพ่ือนสนิทที่สุดของผม ที่มีกําหนดการเดินทางไปศึกษาตอท่ีประเทศอังกฤษ ผมไมไดมีโอกาสติดตอกับเขาบอยนักขณะที่บวชเปนพระจนทําใหไมทราบกําหนดการที่แนนอนวาเขาจะออกเดินทางเมื่อไหร กลัวเขาจะเดินทางไปโดยที่ผมยังไมไดร่ําไดลา ซึ่งผมคงจะเสียใจมาก

และคนสุดทายคอื เกงเล็ก ผมกลัวเกงเล็กจะลืมวันนัดที่จะมารับผมกลับไปยังวัดปาฯ เพราะตอนนี้ผมอยากกลับวัดปาฯ เสียแลว

ผมพบวา หนทางแหงความสงบเพื่อตัดขาดจากทางโลกนั้นไมใชเรื่องงาย การที่ใครสักคนตัดสินใจวาจะละแลวซึ่งทุกสิ่งทุกอยางมาอยูในปาเพื่อบําเพ็ญเพียร กลับจะมีความเหงาเพราะตองการไขวควาใครสักคนที่เรารักมาเคียงขาง ตัดสิ่งน้ีไดเมื่อไหรใจคงสงบขึ้นมาทันที ติดตามตอนตอไป

ตอนที่ 56: กอนกลับ และแลวก็ถงึคืนสุดทายที่ผมมาอยูภาวนาที่โปงเดือด หลังจากที่เดินมาถึงกุฏิไดกอนฟาจะมืดแลว ผมจัดแจงยายสบงและอังสะที่ตากผึ่งลมไวที่ชานดานนอก นํามาตากไวดานในกุฏิ

แทน เพราะดูทาทางฝนคงจะลงเม็ดในคืนนี้ จีวรผืนเดียวผืนนั้นนํามาหมกายแบบหลวมๆ กันยุงกัด ผมปกเทียนลงบนทอนไมไผผาครึ่งหาเลม ใชแทนแสงจากไฟฉายที่เตรียมมาดวยเพราะวาถานหมด ผมใชแสงเทียนสองบทสวดมนตที่ยังจําไมไดสําหรับการทําวัตรเย็นมาหลายวันแลว คืนนี้คืนสุดทาย

Page 71: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

71

บทอัญเชิญเทวดาไดเริ่มขึ้นหลังจากที่ผมสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณและพระสังฆคุณเรียบรอยแลว คืนนี้ผมตั้งใจวา

ดวยบุญที่ไดสั่งสมมาตลอดระยะเวลาการบวชและที่ไดปฏิบัติภาวนาทุกวันอยูที่ผืนปาแหงน้ี ขอใหสงไปถึงยังสรรพสัตว สิ่งมีชีวิตรวมทั้งสิ่งที่ไมมีตัวตนก็ดีไดรับในผลบุญน้ีไป และผมจะสวดพระปริตและธัมมจักรกัปวัตนสูตรเพ่ือเปดโอกาสใหเขาทั้งหลายไดสดับรับฟงธรรมะของพระพุทธเจา ซึ่งเปนเพียงหนทางเดียวท่ีเขาเหลาน้ันจะสรางบุญใหกับตัวเอง เพ่ือสะสมบารมีใหหลุดพนเริ่มตั้งแตชาติน้ีไปจนถึงชาติตอๆ ไป เปนการตอบแทนที่เขาทั้งหลายไดดูแลปกปกรักษาผืนปาและรักษาตัวผมผูรักษาศีลใหอยูรอดปลอดภัยในถิ่นที่ไมคุนเคย

กอนจบการสวดมนตผมตั้งจิตแผเมตตาอีกครั้งถึงบุคคลอันเปนที่รักในชีวิตของผมดวย การภาวนาหลังสวดมนตสําหรับคืนสุดทายน้ันไมเครงเครียด เพราะผมไมตองเพียรพยายามคนหาหรือพยายามตอบขอสงสัยอื่น

ใดตอไปอีก วิจิกิจฉาหรือความลังเลสงสัยท่ีเริ่มคิดขึ้นมาตั้งแตสมัยยังบวชใหมๆ ไดสลายหมดไปจากใจสิ้นเมื่อผมไดมาปฏิบัติดวยตนเองที่น่ี เวลานี้ผมทราบดีแลววามรรคาแหงความสุขน้ันมีจริง สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจาตรัสไว สิ่งที่พอแมครูบาอาจารยเจริญรอยตามทานมานั้นเปนจริง ประจักษแลวในมโนจิตอันเคยโงเขลาของผมนี้ บัดนี้มองเห็นทางแลว แตที่เหลือท่ีตองทํา คือการทําความเพียร ละกิเลสและทําความสงบตอไปเรื่อยๆ แมในชาติน้ีจะมีเวลานอยไมเห็นผล ก็จะขอตั้งใจมัน่สะสมบุญตามแนวทางนี้ตลอดทุกชาติไปจนถึงวันที่บารมีเต็มเปยม ดวงจิตน้ีจะไดไมตองเวียนวายตอไปอีก

หายใจเขา พุท…หายใจออก โธ…หายใจเขา พุท…หายใจออก โธ…หายใจเขา พุท…หายใจออก โธ… รุงเชา ผมออกบิณฑบาตเปนวันสุดทาย นับวาโชคดีสงทายเพราะวามีโยมเด็ดสมโอท้ังลูกลงจากตนมาใสบาตรและผมก็รับหนาที่ถือสมโอน้ันขามเขากลับสํานักสงฆ

หนักก็สุดประมาณ ที่สําคัญจะปอกอยางไรไดใจก็คิดไปเชนนั้น โถ…โยมหนอโยม ระหวางทางเจอโชคสองชั้นอีกเมื่อมีฝูงวัวฝูงใหญนอนขวางอยูกลางถนน มีเพียงชองทางเดินแคบๆ ใหผมกับครูบาเดินผาน ขณะ

ที่ผมกําลังเดินแทรกตัวในฝูงวัวอยูทายแถว แมวัวตัวดีก็ “อึ๊” พุงลงมากองอยูหางจากเทาผมไมถึงหนึ่งฟุต สะเก็ดระเบิดก็กระเด็นมาทํารายจีวรและอังสะที่ผมไมไดซักมากวาเจ็ดวันแลวอยางรายกาจ

ทันทีที่ผมชักเทาหลบระเบิด ฝูงวัวก็สะดุงลุกขึ้นแตกตื่นรองเสียง “มอ...อออ” จนโกลาหล คณะสงฆก็จ้ําพรวดออกมาจากฝูงวัวทันที ดีที่มันไมวิ่งไลแบบที่เขาสูวัว เพราะงานนี้พระคงเหนื่อยแน และผมตองเหนื่อยมากเพราะตองรักษาสมโออีกหน่ึงลูกน้ีไวเทาชีวิต

Page 72: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

72

หลังฉันเชาเสร็จ ผมเก็บขาวของและอัฐบริขารออกจากกุฏิ ทําความสะอาดเรียบรอยแลวตั้งใจวาจะไปรอเกงเล็กที่ศาลาหลังใหญ พอดีกับที่ครูบากลดและครบูานอยพระนักเดินทางจะขอถือโอกาสออกตามหาพระผูใหญของทานตอ ครูบาแจค็ทานทราบเรื่องน้ีกอนแลว จึงนัดแนะใหโยมจากถนนใหญเขามารับพระทุกรูปกลับเชียงใหม สวนทานและครูบาเล็กจะติดตามไปดวยเพ่ือไปเยียมเยียนครูบาอาจารยที่วัดสาขาตางๆ สิบโมงเชาคณะสงฆจากโปงเดือดจงึออกเดินทาง ติดตามตอนตอไป.

ตอนที่ 57: กลับสูจุดเริ่มตน เมื่อพนเขตอุทยานแหงชาติ ผมรีบความือถือท่ีนําติดตัวมาแตปดเครื่องไวนับเดือนโทรหาเกงเล็กทันทีที่มีสัญญาณ เพราะกลัว

วาเกงเล็กจะตองออกมาเกอ ระหวางทางกลับ ครูบาแจ็คไดสงครูบากลดและครบูานอยที่วัดปาหมูใหม เพ่ือถามถึงพระผูใหญที่ทานทั้งสองยังคงตามหา และ

ทายที่สุดครูบาทั้งสองก็ตัดสินใจพักอยูที่วัดปาหมูใหมสักระยะหนึ่งกอนเดินทางตามหาตอไป สวนครูบาเล็กก็ชวนเณรโตสองรูปจากที่วัดใหไปชวยงานที่สํานักสงฆฯ หน่ึงสัปดาห เพราะงานบางอยางเณรทําได พระทําไมได ดูเณรทั้งสองกระตือรือรนอยากไปมาก รีบเก็บขาวออกพรอมขึ้นรถมาดวยกันทันที

เมื่อรถเคลื่อนเขาสูเขตวัดปาฯ ผมรูสึกอบอุนใจอยางบอกไมถูก นมัสการพระธาตุ พระประธานในวิหาร รูปปนหลวงปูม่ัน พรอมทั้งเหลือบมองรูปปนเสด็จพอรัชกาลที่หาและพระราชชายาเจาดารารัศมี ผูพระราชทานที่ดินสวนหน่ึงดานหลังตําหนักของทานสรางเปนวัดที่ผมไดมาบวชมาอาศัยศึกษาธรรมะอยูน้ีดวยความเคารพ แลเห็นกุฏิของพระอาจารยเอกอยูดานหนาแลวผมยิ่งสบายใจวาไมมีที่ไหนใหความอบอุนไดมากเทาที่น่ีตราบเทาที่ผมยังครองเพศบรรพชิตอยู ผมรีบขึ้นไปนมัสการทาน

“เปนยังไง โดนทากกัดหรือเปลา?” ทานถามติดตลกถึงเรื่องครัง้กอน “ไมครับ เรียบรอยปลอดภัยดีไมมีปญหาครับ” ผมมองใบหนาทานเฉกเชนคนที่จากกันไปนาน “ภาวนาหรือเปลา อยูไดไหมในปานะ” “ภาวนาทุกวันครับ แตบิณฑบาตไมไดอะไรเลยมีแตขาวเหนียวกับแคบหมู” ผมยิ้มๆ แอบบนเรื่องเดิม พระอาจารยเอกทานก็ย้ิมเชนกัน ทานรูดีหมดแลววาผมตองพบกับเรื่องใดบาง เพราะทานเคยไปอยูมากอนที่น่ี ทานถามถึง

ชาวบานบางคนที่เคยใสบาตรและถามถึงพระที่วัดปางมะไฟใกลๆ กันน้ันวาเห็นวาสุขสบายดีหรือไม กอนที่ทานจะไลใหผมไปเก็บของในกุฏิหลังเดิมและพักผอน สวนทานจะไปตอนรับครูบาแจ็คและครูบาเล็กใหพักผอนในโรงน้ํารอน ผมลงจากกุฏิไปเตรียมปานะชุดใหญใหอาคันตุกะทั้งสองที่โรงน้ํารอนกอน เพราะอยากใหทานไดมีฉันเต็มที่ในวันน้ี กลับสํานักสงฆฯ ไปไมรูวาเมื่อไหรจะไดฉันแบบนี้อีก

เมื่อเก็บของเรียบรอย ผมลาครูบาทั้งสองอีกครั้ง ขอบคุณทานทุกสิ่งทุกอยางที่ชวยดูแลและแนะนําสั่งสอนแมเพียงเวลาสั้นๆ มาทราบภายหลัง หลังจากที่ครูบาทั้งสองเดินทางออกจากวัดไปแลววาทานชมผมมากมายถึงการปฏิบัติตัว แมเปนพระใหมก็อดทนกับความยากลําบากตางๆ ได งานนี้พระอาจารยเอกคงโลงใจวาที่สั่งสอนไปไมเสียทีและไมเสียช่ือที่เปนพระพี่เลี้ยงสอนกันมา

วันน้ันผมอยูกับพระอาจารยเอกทั้งวัน เลาเรื่องทุกอยางที่เจอมาเหมือนเด็กนอยเจอเรื่องตื่นเตนมาเลาใหพอแมฟง ทบทวนเรื่องผลของการภาวนาและทานก็ยังสอนสั่งใหจําเรื่องดีๆ นําไปไวใชเตือนตนเองเมื่อถึงคราวเปนฆราวาสจะไดอดทนตอความยากลําบากได

พอกับแม และโยมอั้ม-เพ่ือนรวมงาน มาหาผมในวันนั้นทันทีที่ทราบขาววาผมกลับมาวัดปาฯ แลว พรอมทั้งแจงขาววาตนสังกัดเรียกเขารายงานตัวแลวในอีกสองอาทิตยขางหนา น่ันหมายความวาผมมีกําหนดสึกในอีกหน่ึงสัปดาห เพ่ือเวลาที่เหลือจะไดเตรียมตัวเรื่องเอกสารและปรับตัวสูการกลับสูโลกแหงความเปนจริงอีกครั้ง

โยมอั้มบอกวาไดติดตอกับพระอาจารยเอกเรื่องขอบวช 15 วันกอนจะไปทํางานพรอมกันกับผมไวแลว ผมก็ขออนุโมทนากับเขาดวยและมองเห็นทันทีวาในระยะเวลาเจ็ดวันที่เหลือผมจะตองทาํอะไร ผมจะขอเปนพระพ่ีเลี้ยงอีกครั้ง แบงเบาภาระพระอาจารยเอกเปนงานสุดทาย และสงอั้มเพื่อนรักใหไดรับแตสิ่งดีๆ ตลอด 15 วันของการบวชดังเชนที่ผมไดรับมาแลวจากวัดแหงน้ี. ติดตามตอนตอไป.

Page 73: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

73

ตอนที่ 58: กลับวัดกลับใจ แทบไมนาเชื่อเลยวาประสบการณที่โปงเดือดน้ันสามารถเปลี่ยนแปลงผมไปมากมาย แมเมื่อกลับมาอยูวัดปาฯ แลวกิริยาอาการ

ตางๆ ของผมก็เปลี่ยนไป จากที่เคยดูเปนคนนิ่งๆ อยูแลว กลับนิ่งสนิท เพราะยังคงติดที่จะสํารวมจิตอยูแทบจะทุกลมหายใจ เรื่องการขบฉันก็เปลี่ยนแปลงไปมาก จากที่เคยจองจะเปลี่ยนอาหารที่รับบิณฑบาตมาไดกับจังหันที่ญาติโยมมาถวายเพิ่มเติม ถึงคราวนี้กลับหยิบสวนที่จะทานไมหมดออกแลวฉันเทาที่ไดรับบิณฑบาตมาเอง เพราะเพียงเทาที่ไดมาก็เปนของปราณีตมากมายกวาที่ไดรับจากที่โปงเดือดอยูแลว ฉันแคพออิ่มหลอเลี้ยงกายนี้ใหอยูไดก็พอ ที่ลําบากกวาน้ีเรายังเคยมาแลวเลย

ปานะจากโรงน้ํารอนที่มีอุดมสมบูรณถึงคราวนี้ก็เลือกฉันเฉพาะเวลาที่เหมาะสมเพียงสองครั้งตอวัน จากที่เมื่อกอนเดินเขาเดินออกไมเวนชั่วโมง หมอนที่เคยมีสองใบก็เก็บออกไปใบนึง ที่ปูที่นอนมากเกินไปก็นุมน่ิมหยิบเอาออกเสียบาง เรียกไดวาเกิดการลด แลก แจก แถม กอนที่จะลาสิกขา มอบสิ่งของตางๆ ทียั่งมีคนอื่นตองการใหเขาไวใช จนกวาเขาจะเห็นวามีมากเกินพอแลวเขาคงสละไปใหคนอื่นเชนกัน

พระแทไมตองการอะไรมาก สําคัญที่ขางในใจของเราจริงๆ มุงภาวนากับระยะเวลาที่ยังครองเพศบรรพชิตน้ีอยูใหมากที่สุดเทา น้ัน

กวาจะเขาใจวาพระแทอยูอยางไรนั้น เวลาก็เหลือนอยเต็มที… ฟลุค บอย เปก ปอและผมเปนพระใหมรุนลายครามที่สุดตอนนี้ที่พระอาจารยเอกทานอบรมสั่งสอนมาเปนเวลามากกวาหน่ึง

เดือนแลวทุกคน ทานจึงไววางใจที่จะมอบความรับผิดชอบใหสอนนาคหมจีวรและจัดการกับบาตร รวมทั้งสะกิดสะเกานาคบางคนที่ยังปฏิบัติตัวไมเรียบรอยออกนอกลูนอกทาง แตพระใหมเชนพวกเราก็ไมคิดที่จะสั่งสอนอะไรใหกับนาคมากนัก เพียงแคทําเปนตัวอยางที่ดี เรื่องการซอมขานนาคและอบรมสั่งสอนนั้นพระอาจารยเอกทานจะตองแนะนําอยูแลว

สําหรับผม ดวยความที่สนิทกับอั้มเปนพิเศษ จึงใหความใสใจที่จะเดินเขาไปทักทายและถามสารทุกขสุกดิบ พรอมที่จะใหอั้มถามถึงขอสงสัยตางๆ ในการวางตัวแบบพระ ซึ่งอั้มก็ดูตั้งใจดีและมีความพยายามทํา ถึงแมวาในบางครั้งจะบนใหผมฟงถึงความเปนหวงครอบครัวท่ีบานในขณะที่ไมมีเขาอยูดวย หรือเพ่ือนสาวที่เพ่ิงถอยรถใหมออกมาไดไมนานและยังขับรถไมคลอง กลัวจะตองมีเรื่องยุงยากและอันตรายใน 15 วันน้ี ผมก็ไดแตแนะนําใหเขาทําใจใหสบายเพราะตอนนี้ชะตาชีวิตของเขาเหลาน้ันไมไดอยูในมือเราแลว ตอนนี้อั้มมีหนาที่บวชก็ตองทําเต็มที่ เชื่อวาผลบุญที่อั้มทําตองชวยสงผลดีใหแกครอบครวัและคนที่อั้มรักแนนอน

นึกไปถึงหนังสืออานิสงสแหงการบวชที่ผมไดอาน มีตอนหนึ่งเขากลาวไววาอันตรายตอความดีของภกิษุใหมน้ันมีอยู 4 ประการ คือ อดทนตอคําสั่งสอนไมไหว เห็นแกปากทองเกินไป เพลิดเพลินติดใจในเรื่องที่กอใหเกิดกามารมณและสุดทายคือเรื่องรักผูหญิง สี่ประ การน้ีหนังสือเขาวารายนัก

สวนตัวผมแลวก็เห็นดวยและตองขอเสริมไปดวยวา การเลือกวัดที่บวช พระพ่ีเลี้ยงหรือพระเกาในวัด พระใหมดวยกันเอง เพ่ือนหรือญาติของพระใหมเองก็ดีมีสวนตอความดีของภิกษุใหมเชนกัน แตสุดทาย ตัวตนของเรานี้เองตางหากเปนอันตรายสูงสุด ตนตองรูจักเตือนตนใหได เม่ือเปนพระใหมแลวตองสํารวมในปาฏิโมกข สํารวมอินทรีย มีหิริโอตตัปปะ มีสติสัมปชัญญะในทุกชวงเวลา มีขันติและอดทนตอสิ่งที่บีบคั้นใหได ผมบอกใหอั้มฟงไปดังน้ัน

ในสองถึงสามคืนกอนที่จะมีการบวชพระใหม ทานเจาคุณมักจะเทศนหลังจากการทําวัตรเย็นเรื่องปกิณกะกอนบวช เพ่ือการปฏิบัติตนที่ถูกตองแกนาค นาคทุกคนจะไดรับฟงและทําความเขาใจในการบวช ปรับทรรศนะคติเสียใหมและเตรียมกายและใจใหพรอมสําหรับการบวชที่จะมีขึ้นในอีกไมกี่วันขางหนา สวนพระเกาที่รับฟงอยูก็ถือเปนโอกาสทบทวนตัวเองไปดวย พรอมที่จะเปนแบบอยางแกภิกษุใหมตอไป. ติดตามตอนตอไป.

Page 74: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

74

ตอนที่ 59: เกาไป ใหมมา พิธีบรรพชาอุปสมบทเริ่มขึ้นอีกครั้งบนอุโบสถหลังงามของวัดปาฯ ซึ่งในปน้ีน้ันมีการบวชพระใหมกันทั้งสิ้นเปนจํานวนครั้ง

นับไมถวนแลวแตสําหรับครั้งน้ีมีความพิเศษสูงสุดแกผมและพระใหมรุนพ่ีทุกรูปที่ไดมีโอกาสขึ้นทําสังฆกรรมเปนพระอันดับในการบวชพระใหมดวยความเมตตาของทานเจาคุณที่ใหโอกาสทําหนาที่ที่สําคัญสักครั้งหนึ่งของสงฆ ผมจึงไดช่ือวาเปนพระอันดับบวชใหกับอั้ม นํามาเลากันไมรูจบเมื่อลาสิกขาออกมา

การเปนพระอันดับนั้นไมยาก เพียงทราบจังหวะที่ตองขานรับวา “สาธุ..” สามครั้งและใหศีลใหพรไดก็เปนอันใชได แตที่สําคัญคือตองสามารถอดทนนั่งน่ิงๆ ไดนานๆ โดยที่ไมเผลอหลับตอหนาญาติโยมที่มารวมพิธี ที่สําคัญอีกอยางคือตองผลัดผานาคแลวเปลี่ยนเปนครองผาไตรใหแทน

ซึ่งในวันนั้นชุลมุนวุนวายที่สุด ผมและพระใหมรุนพ่ีไมเคยตองแตงตัวใหพระรูปอืน่ ถึงแมจะเคยสอนครองผากันมาแตถึงเวลาจริงที่รีบเรงแลวหมกันไมสวยสักรูป ผมจําไดวาหลวงพี่เปกหมครองจีวรใหพระใหมไปทั้งๆ ที่นาคยังไมไดผลัดชุดนาคออกดวยซ้ํา ตองมาลวงกระตกุเอาสบงสีขาวของนาคออกในตอนหลัง

สุดทายพระอาจารยเอกตองคอยๆ พาพระบวชใหมออกไปครองผาใหมกอนที่จะดําเนินพิธีตอ ผมเชื่อวาคราวหนาพระใหมรุนพ่ีคงไมมีโอกาสไดเปนพระอันดับอีกแลว

หลังพิธีบวชพระใหม ผม หลวงพ่ีฟลุคและหลวงพี่บอยนัดแนะกันเรื่องวันลาสิกขา เปนวันที่ผมจะบวชไดครบ 49 คืน 50 วันพอดี สวนหลวงพี่ฟลุคกับหลวงพี่บอยครบ 30 วันพอดีเชนกัน แตหลวงพ่ีเปกกับหลวงพี่ปอนั้นยังยืนยันไมอยากลาสิกขา ดวยใจหนึ่งอยากครองเพศบรรพชิตใหนานที่สุดกอนจะถึงชวงเขาพรรษาและอีกใจหนึ่งทั้งสองรูปเปนหวงพระอาจารยเอก กลัววาจะไมมีใครอุปฏ ฐากและชวยเหลอืงานสอนพระใหมซึ่งชวงน้ียังคงมีเขามาเรื่อยๆ และพวกเราพระใหมรุนพี่ก็รูงานแบงเบาภาระทานไดมาโดยตลอด

โดยเฉพาะหลวงพี่เปกรักเคารพและเปนหวงพระอาจารยเอกเปนพิเศษ ถึงแมวาจะมีกําหนดการรับสมัครงานและรอสัมภาษณงานอยูขางหนาแลวก็ยังไมอยากลาสิกขาไปในตอนนี้ ผมเองก็ไมไดรักทานนอยกวาใครเพียงแตมองวาทุกคนตางมีหนาที่เปนของตัวเอง ตองเคารพในหนาที่ของตัวเองดวย

ผมเตือนสติหลวงพ่ีเปกไปวา กอนหนาน้ีพระอาจารยเอกครองผาเหลืองมาไดหลายปทานก็สามารถครองตนอยูได ทานบวชพระใหมผานมามากกวารอยรูปแลวทานก็ยังทําได เราเขามาชวงระยะเวลาเดียวจะมายึดวาเปนหนาที่ที่สําคัญของเราเพียงคนเดียวน้ันไมไดหรอก ที่ผานมาพระใหมก็ชวยเหลือกันมาเปนทอดๆ เราตองใหโอกาสผูอื่นเรียนรูงานนี้ดวย และที่สําคัญพระอาจารยคงจะไมเห็นดวยนักที่เราจะทอดทิ้งภาระการเลี้ยงดูครอบครัวที่บานมาเสียเวลาที่วัด หากไมชาไมนานเราก็ตองลาสิกขาออกไปอยูดี พระอรหันตที่บานยังคงรอคอยการเลี้ยงดจูากเรา เราตองไปทําหนาที่ของเราใหดีที่สุดกอน เม่ือลาสิกขาไป หากเรายังมีธรรมะอยูในใจ กลับมาแวะเวียนหาสูทานบอยๆ พระอาจารยทานก็ช่ืนใจแลว

ในคืนสุดทายกอนลาสิกขา หลังจากสวดมนตทําวัตรเย็นเสร็จ พระอาจารยเอกเรียกผม หลวงพ่ีฟลุคและหลวงพี่บอยมาซักซอมพิธีลาสิกขาบนกุฏิของทาน แลวพระใหมรุนพ่ีก็มารวมตัวกันที่โรงนํ้ารอน

น่ีเปนการฉันน้ําปานะมื้อสุดทายในเพศบรรพชิตของผมทามกลางแสงไฟเหลืองนวลที่สองผานโคมที่ครอบเทียน เวลานี้แสงเทียนที่ตกกระทบลงบนใบหนาของใครคงเหลืองนวลดูงามดี แตผมกลับขอหลบเรนตัวเองใหอยูในเงามืดเชนน้ันเถิด เพราะไมอยากใหใครเห็นวาบัดนี้นํ้าตามันปมลูกตาทั้งสองของผมแลว เออลนพรอมที่จะไหลลงมาอาบแกม วันน้ีเปนวันสุดทายที่ผมจะไดอุปฏฐากทานในฐานะพระสงฆกับพระสงฆ ทานจึงเรียกพวกเรามารวมกันเพ่ือพูดคุยในฐานันดรศักดิ์เสมอกันเปนครั้งสุดทาย. ติดตามตอนจบตอนตอไป. ตอนที่ 60: ลาสิกขา

“ออกจากวัดกลับบานไป ผมจะอยูอยางไร...” ผมสงคําถามชวนฉงนออกไปใหพระอาจารยเอกไดยิน

“ก็อยูอยางที่เคยทํามา 25 ปกอนหนานี้ลืมแลวหรือ อยูวัดไมถึงสองเดือนจะออกไปทําอะไรไมเปนเลยหรืออยางไร ฆราวาสเขาทําอยางไรกันก็ทําเชนนั้น ขอใหทําแตความดี” พระอาจารยเอกตอบแบบกลั้วหัวเราะ

Page 75: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

75

“ไมใชเชนนั้นครับ คือตอนนี้พวกเราทุกคนรูแลววาอะไรดีไมดี สิ่งไหนเปนมงคลไมเปนมงคล แตโลกภายนอกนั้นมันไมเปนเหมือนในวัด บาปบุญคุณโทษไมรูจัก รักแตความสุข สนุกที่เปนปจจุบัน อนาคตชาติหนาชาติไหนก็ไมสนถึงเวรกรรม ที่นาประหลาดใจคือประเทศไทยเปนสังคมพุทธ แตทําไมกิจการขายสุราถึงทํารายไดเปนอันดับหนึ่งของประเทศ แลวอยางนี้คนดีจะอยูอยางไรครับ” ผมอัดอั้นตันใจ

“คนดีอยูกับความดีของตนเอง บุคคลใดมีธรรมะเปนเครื่องคุมครองใจ บุคคลนั้นยอมเปนมนุษยที่สมบูรณ เมื่อเปนมนุษยที่สมบูรณ การงานก็สมบูรณ ความสุขความเจริญก็สมบูรณตามไปดวย ทําไมคนดีถึงจะอยูไมไดละ เราเตือนหลายครั้งแลวใชไหมเรื่องใจ เปนเรื่องของเราเองไมไดขึ้นอยูกับใคร ใครจะทําช่ัวมั่วสุมที่ไหน เราไมจําเปนตองไปทําตามเขาใชไหม...” พระอาจารยตอบ

“บางครั้งผมก็คิดวาอยากจะบวชตอไปเรื่อยๆ...” ผมเปรยออกไปเชนนั้น

“เปนฆราวาสอยูบานก็บวชไดเนาะ เขาเรียกวาบวชใจ ทําไดไหม เมื่อกอนทําอยางไรไมสน แตพรุงนี้ตอไปตองสวดมนตทุกวันนะ นอบนอมพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆเปนที่พ่ึง รักษาศีลหาและศีลอุโบสถในวันพระ หมั่นทําบุญตักบาตรและควบคุมจิต ใจไมใหเศราหมองดวยกิเลส ที่เจามาบวชนี้ก็ถือไดวาเปนญาติกับพระศาสนา ไดเปนญาติของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆทางจิตวิญญาณแลว ฆราวาสที่ปฏิบัติธรรมตรงกันก็ถือเปนญาติกัน มีศรัทธาเหมือนกัน มีศีลเสมอกัน มีปญญาเหมือนกัน มีการบริจาคเหมือนกัน เขาก็ช่ือวาเปนญาติกันเปนเพื่อนทางธรรมที่จะมีแตความสุข ความเจริญ ความกาวหนาในชีวิตการงาน”

“แลวเพื่อนเกาๆ ที่เคยคบกันมาละครับ จะไปพูดกับเขาอยางไรใหเขาเชื่อในสิ่งที่ถูกที่ควร” ผมถามตอ

“เอาอีกแลวหวงแตคนอื่น บอกแลวใหทําตัวเองใหดีกอน เราเชื่อวาเมื่อสึกออกไปแลวก็จะเปนคนดี สังคมจะมีพลเมืองดีเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน เปนผูนําในการทําความดีแลวคนรอบขางจะชื่นชม คนรอบขางจะพลอยรูไดรับความรูและหันมาสนใจในหนทางซึ่งเปนสิ่งที่ถูกที่ควรเองละ เจาก็ไดบุญเขาก็ไดบุญ นี่เปนอานิสงสที่ผูอื่นจะไดรับจากการที่เราไดบวชเรียนมา จําไว” พระอาจารยเอกทิ้งทายใหผมกับนองๆ ไดปฏิบัติตาม

...

รุงขึ้นผม หลวงพี่ฟลุคและหลวงพี่บอยออกบิณฑบาตและฉันเชา ปฏิบัติกิจชวงเชาตามปรกติ กอนที่ตางคนตางเขาไปหาพระอาจารยเอกเพื่อขอทานปลงอาบัติกอนที่จะลาสิกขาใหสําหรับพระที่จะลาสิกขาไปในตอนนี้จะไดเปนผูที่มีศีลที่บริสุทธิ ์

หลังจากนั้นนําพานธูปเขาไปกราบทานเจาคุณขออนุญาตลาสิกขา กลาวคําขอลาสิกขาแลวโนมตัวไปใหทานเจาคุณชักผาสัง ฆาฏิออกจากบาซาย ถือวาเปนการสิ้นสุดการครองเพศบรรชิต หลังจากนั้นเราทั้งสามคนออกไปเปลี่ยนเปนเครื่องนุมหมธรรมดากลับ มารับศีลและพรจากทานเจาคุณอีกครั้ง ทานเจาคุณกลาวชมเชยที่ตลอดระยะเวลาการบวชพวกเราทั้งสามคนไดปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแลวและขออวยพรใหประสบความสําเร็จในกิจการงานที่แตละคนมุงหวังในอนาคตตอไป

ผม ฟลุคและบอยเดินกลับไปหาพระอาจารยเอกอีกครั้งเพื่อขอพร ภาพที่เห็นทานนั่งอยูบนกุฏิและกําลังสอนพระวินัยใหกับพระที่เพิ่งบวชใหมไปนั้นไมตางอะไรกับที่ผมทั้งสามคนเคยไดผานมาแลว พระอาจารยเชาวนที่อยูกุฏิขางๆไดหยิบเอารูปภาพประ กอบการสอนพระพุทธประวัติมาปดฝุนซอมแซมเพื่อเตรียมสอนพระใหม ในขณะที่โรงน้ํารอนนั้นหลวงพี่เปกกับหลวงพี่ปอก็กําลังสอนหมจีวรใหกับนาคที่จะเขาพิธีบรรพชาอุปสมบทในสัปดาหหนาเชนกัน

ผมเชื่อวาปรากฏการณเชนนี้เปรียบเสมือนภาพยนตรที่โลดแลนบนแผนฟลมไมรูจบ บทภาพยนตรเรามีอยูแลวเปนแนวทางของพระสัมมาสัมพุทธเจาซึ่งอยูบนพื้นฐานของความจริงมากวา 2500 ป ขอเพียงแตเลือกสถานที่ถายทําที่ดีเปนอารามที่มีสัปปายะ 4

ประการ คือ เสนาสนะคือที่อยูอาศัยปลอดภัย สามารถบิณฑบาตไดอาหารพอฉัน มีผูรูและมีความเห็นตรงกันอยูรวมกันและสุดทายคือเปนสถานที่มีธรรมะที่ถูกตองปฏิบัติดีและปฏิบัติชอบ

ทายที่สุดคือผูแสดงคือผูที่จะเขามาบวชเองตองมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเปนอยางดีและต้ังใจแนวแนในการศึกษาทั้งทางปริยัติและปฏิบัติ เทานี้พระพุทธศาสนาก็จะยังคงเรืองรองอยูในสังคม สรางสรรคพลเมืองดีพลิกฟนวิกฤติของบานเมืองเราไดดวยธรรมะที่ปรากฏอยูในใจของเราทุกคน. …

Page 76: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

76

ผม ฟลุคและบอยตางคนตางมีผูปกครองมารับกลับบาน วินาทีนับจากกาวพนวัดออกไปจะกลับเขามาที่วัดนี้อีกครั้งก็ไมใชฐานะเดิมเสียแลว ผมไมไดครองเพศบรรชิตที่จะตองดํารงตนใหสมควรแกการกราบไหวอีกตอไป และผมก็จะไมใชแคคนธรรมดา แตผมจะเปนพุทธศาสนิกชนที่ดี ผมตองเปนฝายกราบไหวบูชาทาน

เพราะผมมองเห็นแลววาหนทางอันประเสริฐนั้นมีอยูจริงในใจของเราเอง หลักธรรมคําสั่งสอนของพระพุทธเจานั้นเปนจริง สาวกและพระสงฆของพระพุทธองคนั้นยังคงมีอยู แลวเราจะชาอยูไยที่จะทําความดี เรงความเพียรของตัวเราเสียแตวันนี้ เพื่อความ สุข คือ นิพพานอันเปนที่ต้ังสูงสุดของผูมีธรรมะตลอดกาลนาน.

จบบริบูรณ...

สวัสดีครับ...แฟนๆ เรื่องเลาฯ ทุกทานครับ... ผม ฐานวิชโช ครับ ขอขอบคุณอกีครั้งสําหรับการติดตามเรื่องเลาฯ มาโดยตลอดครับ ทั้งน้ีและทั้งน้ัน ผมเชื่อวา การที่มีผูติดตามมากๆ ยอมเปนผลดีแกพระพุทธศาสนาของเราอยางแนนอนครับ ไมไดหมายความวา เรื่องเลาฯ ของผมนั้น ถูกตองแลว ดีแลว สมบูรณแลวหรอกนะครับ เพราะบางเรือ่งบางอยาง ตางกรรมก็

ตางวาระ ลางเนื้อชอบลางยา ตางวิถี ตางแนวทาง ตางความคิดเห็นและมุมมอง หลากหลายอุดมการณ เพียงแตวา...หากเรื่องเลาฯ ทําใหพุทธศาสนิกชน สนใจ ในสังคมเล็กๆ ของชาวพุทธเราบาง ศาสนาเราก็ย่ังยืนนานไดตอไปครับ

เรื่องเลา...ครั้งผมครองเพศบรรพชิต เปนเรื่องจริง ที่ผมไดมีประสบการณบวชมาดวยตัวเอง แฟนๆ หลายทานไดอานบทความแลวมีแรงบันดาลใจที่จะบรรพชาอุปสมบทบาง ผมไดรูดังนั้นก็ขออนุโมทนาครับ ขอเพียงอยางเดียววา อยายึดมั่นกับสิ่งที่ไดอาน สิ่งที่ไดยินหรือแมแตสิ่งที่ไดเห็นดวยตาครับ....เมื่อโอกาสเปดทางแลวลองเปดใจเขาไปศึกษาดวยตนเอง พินิจวิเคราะหดวยเหตุผลและความถูกตองตามแบบแผนของพระสัมมาสัมพุทธเจา สิ่งน้ียอมเปนที่ยึดเหนี่ยวครองใจเราเพื่อตัดสินไดวา สิ่งไดควร สิ่งใดไมควร เหมาะสมแลวหรือไมเหมาะสม สมควรแกการเคารพ หรือแมแตเคารพตัวเองไดดวยหรือไมครับ

บางทานอานเรื่องเลาฯ แลววาด ีตอนไปบวชเองทําไมไมไดแบบนี้ หรือบางทานอานแลวไปบวชตองการใหไดตามที่ผมเคยประสบมา ไมไดก็รูสึกเสียใจ บางทานอานแลวเห็นขัดแยงวาไมจริง เรื่องจริงไมเปนดั่งน้ัน...ขอทานผูอาน ตัดสิน ดวยตนเองเถิดครบั

แตอยางนอย หวังเปนอยางยิ่งวา แฟนๆ เรื่องเลาฯ จะไดความ บันเทิงในธรรมะ สมกับบอรดที่เรื่องเลาฯ ไดมาพักพิง...บันเทิงธรรม...

เรื่องเลา...ครั้งผมครองเพศบรรพชิต จบลงแลวครับ และเปนที่แนนอนวาเรื่องเลาครั้งเปนฆราวาสคงเกิดขึ้นและจบลงไดยากในเวลาเดียวกัน เพราะผมยังครองเพศฆราวาสอยูนานเชียวครับ...ตอจากนี้ไป พบผมไดตามกระทูตางๆ จะแวะเวียนไปเยี่ยมครับ คิดถึงกนัก็สงขอความมาคุยกันไดครับ ผมรักลานธรรมจะเดินวนเวียนอยางนี้อยูนานเชียวครับ...

ขอบพระคุณทุกๆ ทานที่เกี่ยวของ ที่ทําใหเรื่องเลาฯ ไดยืนหยัดอยูตรงนี้เพ่ือผูที่สนใจในพระพุทธศาสนาทุกทานไดรวมกันอนุโมทนาครับ. ขอใหเจริญในธรรมทุกทานครับ ธรรมะสวัสดีครบั ฐานวิชโช นามะ

Page 77: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

77

เรื่องเลา…ครั้งผม “ลาสิกขา” จากเพศบรรพชิต บทสงทาย

เมื่อไมไดหมผาเหลือง เรื่องเลา…ก็ไมอาจเปนเรื่องเลา…ครั้งผมครองเพศบรรพชิตไดอยางสมบูรณแบบเชนเดิม แตผมก็ยังมีเรื่องใหเลาอยูบางสวนเปนเกร็ดเล็กเกร็ดนอยครั้งผม “ลาสิกขา” จากเพศบรรพชิต พรอมกับคําตอบที่แทจริงของคําถามที่ผมไดถามพระอาจารยเอกไวในคืนกอนลาสิกขาวา…“ออกจากวดักลับบานไป ผมจะอยูอยางไร...”

“กางเกงหลวม” เปนความรูสึกแรกสุดที่สัมผัสไดหลังจากผลัดผาเหลืองแลวใสชุดลําลองตัวเกงทั้งๆ ที่หัวยังเหมงอยู กับทั้งกางเกงยีนสอีกหลายๆ ตัวท่ีบานที่พับเก็บใสกลองรอบริจาคแลวกลบัหยิบมาใสไดใหม ผมดีใจมากเพราะเขาหลักประหยัดพอเพียงในสภาพที่มีทรัพยไมเพียงพอ การบวชทําใหนํ้าหนักลดลงไป 7 กิโลกรัม เอวลดลงไป 3 น้ิวในระยะเวลา 50 วัน ผมคิดวาแมแตซารากับจอรจและพระเจาของเขาคงตกตะลึงไมนอยกับผลลัพทจาก “เครื่องซุปเปอรพุทโธแอปโดมิไนเซอร” ที่ผมใชกวาดลานวัดทุกเชาเย็น

ตื่นเชาขึ้นมาวันแรกที่บานก็เกิดอาการงงเล็กนอยวาที่น่ีที่ไหน ไมคุนชินกับการไมมีเสียงระฆังเรียกทาํวัตรเชาและเสียงไกขันใหระงมกอนฟาสาง อยากจะลุกขึ้นมาสวดมนตทําวัตรเชาก็คงไมสะดวก เพราะวาที่บานไมมีพ้ืนที่บริเวณที่เปนสัดสวนที่เปนสวนตัว เกรงใจพอกับแมที่อาจตื่นขึ้นมาแลวเห็นลูกสวดมนตอยูแลวเกรงใจไมกลาที่จะเดินผาน เกรงใจกันไปเกรงใจกันมาแบบนี้เลยไมไดสวดมนตเหมือนอยางเคย

เจ็ดโมงเลียบๆ เคยีงๆ มองหาอาหารเชา จากที่เปนพระสงฆไมเคยเดือดรอนเรื่องปากทอง เพราะเพียงถือบาตรเดินไปก็มีศรัทธาสาธุชนจัดอาหารอันปราณีตมาใหแลว แตที่บานตองหาทานเอาเอง จากที่เคยทานมากๆ ตอนเชาเพียงม้ือเดียว ตองเผื่อใจไวทานมื้อเที่ยงและม้ือเย็นกับครอบครัวดวย คนเรานี้วุนวายเรื่องปากทองมากเสียจริง

ตลอดสัปดาหแรกหลังจากลาสิกขามา ไมไดออกจากบานไปไหนไกล เตรียมเอกสารสําหรับที่ทํางานใหมและติดตามขาวสารบานเมืองที่ผานมากวา 2 เดือน กลับเขาไปดูแลระบบอินเตอรเนตที่รางคนดูแลไปนาน น่ังคุยกับพอและแมไปเยี่ยมญาติผูใหญอาวุโส นําบุญบวชไปใหทานรวมอนุโมทนาดวย แตสวนใหญอยากที่จะอยูบานเหมือนอยูเงียบๆ ที่วัดดูบาง ไมไดบอกเพื่อนมากนักวากลับมาอยูบานแลว แตสุดทายเพ่ือนๆ ก็รูกัน เพราะทุกคนตั้งหนาตั้งตารอคอยการกลับมาสูโลกแหงความเปนจริงในอดีตของผม

“เปนไง…..สึกมาแลวใชไหม น่ีเช่ือไหมวาสองเดือนที่ผานมาคิดถึงแกมากๆ ไมมีแกคนนึงทําใหไมไดไปแดนซที่ไหนเลย ไมมีเพ่ือนคุยดวย ไปบวชเปนไงบาง…ซึ้งมากไหม เออ…ไมตองเลาตอนนี้หรอก ไปเลาใหฟงที่รานเกาเวลาเดิมนะ วันน้ีเพ่ือนตรึมเลยเลี้ยงวันเกิดเพื่อนสามคนติด ฉันจองโตะไวแลว แลวเจอกัน อยาไปชาละ…” เสียงตามสายจากเพื่อนกวนสนิทโทรมานัดแนะกําหนดการโดยที่ผมยังไมทันไดตั้งตัว

“เออ….ได….” ผมรับคําไปดวยความมึนๆ แตเพราะไมเคยชินกับการปฏิเสธ คืนนั้นจึงเปนบททดสอบชุดแรกหลังจากสึกออก มาจากเพศบรรพชิต ไดเวลาออกจากบานเพื่อไปใหทันสองทุมที่ราน ผมแตงตัวดวยเสื้อผาตัวเกงตัวเดิมที่ชอบออกงาน แตในใจกลับไมใช ใจนี้ไมใชใจเดิมที่พองโตเมื่อจะไดออกไปทองราตรี ใจนี้ฉุดรั้งตัวเองวาอยาไปเลย ในหัวคิดแตเสาะหาเตรียมคําพูดปฏิเสธไวมากมายสําหรับทุกสถานการณ กังวลวาจะผานคืนนี้ไปไดอยางไร ทําไมตองเอาตัวเองเขาไปอยูในที่ที่ลําบากใจเพราะการที่ตองรักษาสัญญากับเพื่อนดวยนะ ผมคิดเชนนั้น

โปรดติดตาม บทสงทาย ตอนตอไป

บทสงทาย (ตอ)

ผมไปถึงกอนเวลาเสมอ จึงตองน่ังจองโตะไวใหเพื่อนที่ชอบมาสาย “โซดามะนาว”คือเครื่องด่ืมที่ดูดีที่สุดถัดมาจากน้ําเปลาและนํ้าอัดลม ธรรมดาหากผมมานั่งคนเดียวคงส่ังเบียรเล็กเย็นๆ สักขวดมาคลอไวในมือแกเขิน แตคืนน้ีไมใชแลว เครื่องด่ืมมึนเมาไมใชเครื่อง

Page 78: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

78

ประดับโกหรูและไมใชส่ิงจําเปนอีกตอไป ถึงแมจะมีเด็กๆ นุงนอยหมนอยมาคอยเชียรใหอุดหนุนสินคาที่ทํารายไดเปนอันดับหนึ่งในสังคมที่มีพระพุทธศาสนาเปนศาสนาประจําชาติก็ตามทีเถอะ

กอนที่วงดนตรีจะเริ่มเลน แสงไฟก็ดับวูบลงคงเหลือแตแสงสีเขียว แดง เหลือง ฟาและชมพูกวัดแกวงไปมาสะทอนใสลูกโลกเกล็ดกระจกที่แขวนอยูเหนือเพดานนั้น การบรรเลงดนตรีก็เริ่มขึ้นพรอมกับผูคนที่ลุกขึ้นยืนกวัดแกวงมือไมไปมาดวยอารมณสนุกสนาน เพ่ือนๆ ก็ทะยอยกันเขามาจนเต็มโตะพรอมทั้งสั่งเครื่องดื่มและอาหารอยางเคย พรอมกับคําถามที่พรั่งพรูออกมา “ไปบวชเปนอยางไรบาง ผอมไปนะ อดอยากมาเลยเหรอ…” “ทําไมบวชนานจัง ใครๆ เขาก็บวช 9 วัน 15 วันกันทั้งน้ันแหละ ซึ้งใจอะไรมากนักหนา” “เขาบอกวา พระกินขาวเย็นไมได หามเคี้ยวใชไหมวะ แลวถากลืนลงไปโดยไมเคี้ยวอะ บาปไหม” “พระเณรแถวบานยังตมมามาฉันกันอยูเลย กูเห็นกับตา มึงไมลองม่ังวะ” “ศีล 227 ขอมีอะไรบางวะ ขอไหนยากที่สุด มึงผิดศีลบางไหมเนี่ย แลวศีล 5 น่ีมันเรียงขอไหนขึ้นกอนวะ” “เราก็เคยไปไหวพระดังๆ ตามที่ตางๆ นะ บางทีก็ไมน่ังวิปสนากับแมดวย สงบมากๆ เลยตอนนั้น” “อนุโมทนานะ เราอยากบวชบาง แตเปนผูหญิง”

ในตอนแรก ผมพยายามอยางยิ่งยวดที่จะตอบทุกคาํถามใหถูกตองตรงกับที่เพ่ือนๆ สงสัยเพ่ือปรับความเขาใจของพวกเขาเสียใหม และแลวผมก็พบวาในสถานที่เชนน้ีไมเหมาะที่จะอธิบายเรื่องแบบนี้ เมื่อจิตของเขาไมพรอม ฟงไปเทาไหรก็คงไมเกิดประโยชน เมื่ออธิบายใหคนนี้ฟง คนนั้นก็เรียกชนแกว เมื่อมีเพลงใหมดังขึ้นมาชอบใจก็กรี๊ดกราดโหรองวาโดนใจ นาเสียดายเวลาที่พวกเขากรอกเอกสารทางราชการบางอยางที่ระบุศาสนาของตนเองวา “พุทธ” น้ันไมไดแสดงวาพวกเขามีความเขาใจในความเปนพุทธเลย แลวเม่ือไหรคนเหลาน้ีจะพรอมที่จะมีธรรมะในหัวใจเพื่อความสุขที่แทจริงของตัวเองบางนะ

ผมขอหลบกลุมเพื่อนไปนั่งอยูในมุมสุดของโตะที่มองเห็นบรรยากาศทั้งหมดของราน รานที่แตเดิมผมชมวาตกแตงไดสวยและมีสไตลเหมือนสถาปนิกมืออาชีพออกแบบ บัดนี้ผมมองเห็นเปนสถานที่ที่หนุมสาวที่กําลังมึนเมาดวยฤทธิ์ของแอลกอฮอลทําลายเซลลสมอง กอดกายนัวเนียด้ินกันพรากๆ ในความมืดน้ัน ยามใดที่เน้ือตัวตองแสงไฟก็จะออกเปนสีเขียว แดง เหลือง มวง บางหลับตา บางลืมตาปะหลับปะเหลือก รองเสียงดังกรี๊ดกราดโหยหวน ควันบุหรี่คลุงกระจายเต็มรานเห็นไดชัดเมื่อมีแสงไฟสองมา บรรยากาศทีเ่ย็นดวยเครื่องปรับอากาศ บัดน้ีเรารอนดวยทวงทํานองเสียงดนตรีที่นักดนตรีและนักรองทุมแรงกายทั้งหมดลงไปแผดเสียงออกมากลบใหหูดับลงไปได น่ีมันดูไมตางจากนรกในตํานาน “เอา… รับไป ชนแกว…” เพ่ือนชักชวนใหผมรับแกวเหลาไวในมือ “ไมเปนไรขอบใจ เราถือศีลหลังสึกอยู และที่สําคัญกินเหลามันก็ไมดีกับตัวเรานะ” ผมพูดไปตามคําตอบที่เตรียมไว “มึงอยามาธรรมะธัมโมแถวนี้ เห็นไหมชาวบานเขามาดื่มกัน น่ีอะไร…พระนุงกางเกงยีนสหรือไง” และน่ันคือคําพูดสุดทายของผมในวันนั้น ผมลาเพื่อนกลับบานพรอมบอกกลาวคําสุขสันตวันเกิดใหแสนสุข โปรดติดตาม บทสงทาย ตอนตอไป.

บทสงทาย

ผมไมกลาออกจากบานอีกหลายวันหลังจากไปทําธุระเรื่องที่ทํางานใหมเสร็จ

ที่วัด…

ผมกลับไปที่วัดอีกครั้งพรอมกับดวงใจที่ออนลา นมัสการทานเจาคุณขออนุญาตนอนคางที่วัดสักคืนสองคืน เขาไปกราบพระอาจารยเอกแลวเลาถึงสิ่งตางๆ ที่ผมไดพบเจอมาหลังจากที่สึกออกไปใหทานฟง ทานยิ้มแลวถามผมวา

“ไมสนุกเหรอ เห็นแตกอนเลาใหเราฟงวาชอบไปเที่ยว” พระอาจารยถามกลั้วเสียงหัวเราะในลําคอ

“ดูไมไดเลยครับ มันดูเหมือนอยูในนรกอยูในความมัวเมา แลวคนรอบขางก็ไมมีใครที่จะพยายามเขาหาสิ่งที่ถูกที่ควรทํา มีแตความเขาใจผิดในสังคม มีแตมิจฉาทิฏฐิเทานั้นครับ อธิบายอยางไรก็ไมเกิดประโยชน” ผมตัดพอ

“นิสัยเหมือนเดิมไมเปลี่ยน” พระอาจารยหลับตาแลวพูดออกมาเชนนั้น

Page 79: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

79

“อยามัวแตเพงโทษไปที่คนอื่นไดไหม ตัวเองทําตัวเองดีแลวหรือยัง สอนไมจํา อยาพยายามแตหยิบคําสอนที่เราเขาใจไปอธิบายใหคนอื่นฟงโดยที่เราเองก็ไมไดถองแท เขาจะเรียกไดวาเปนพวกตูเอาคําสอนของพระพุทธเจาไปพูดเรื่อยเปอย ตองทําดวยตัวเองนี่ ดูใจของตัวเอง คุมใจของตัวเอง”

“บัดนี้เธอก็ไมไดเปนพระแลว พูดไปใครจะเชื่อเทากับทําความดีใหเขาเห็น ใหปรากฏเปนของจริง เปนคนจริงเปนมนุษยที่สมบูรณ หมั่นใหทาน รักษาศีลและภาวนา ทานจะสองประกายความอิ่มเอิบออกจากตัวเรา ศีลจะชวยรักษาและภาวนากอ ใหเกิดปญญา ขี้ครานเมื่อคนอื่นเห็นเปนเชนนั้นจะเขามาหาเราเอง เมื่อใดที่จิตเขาพรอม เมื่อนั้นธรรมะจะยังประโยชนใหแกเขา จําไว” พระอาจารยสอนเรื่องเดิมที่ผมไมเคยจําสักที แตคราวนี้ผมจะหยุดแลว ดวยความเจ็บปวดในฐานะที่เปนเพียงฆราวาสเชนเดียวกับคนทั่วไปในสังคม สั่งสอนกันไมได ไปทุกขรอนแทนเขาก็ไมไดเชนกัน ไดเจอกับตัวเองจึงไดรู

นับจากวันนั้น คราใดที่ผมมองเห็นความไมดีไมงามของคนในสังคม มักจะขมใจ สอนตัวเองวานี่แหละหนาความเปนมนุษยยอมมีรัก โลภ โกรธ หลง ราคะ โทสะ โมหะเหลานี้เปนเหตุของการเกิดเปนมนุษยแลวทั้งสิ้น เมื่อเขาใจในเหตุ เห็นผลจึงเขาใจ สวนตัวเราเองรูแลวถึงแนวทางที่สามารถพนจากทุกขเหลานี้ได แนวทางอันประเสริฐที่เคยไดสัมผัสมาระหวางที่ครองเพศบรรพชิตนั้นมีจริง เริ่มที่ผมกอน ทํากอนยอมถึงจุดหมายกอน

แลวสหธรรมิกของผมละ…

แมว/โอ หลังจากผานเรื่องรายๆ หลังจากการสึกกอนกําหนดเวลา เปนที่นาดีใจมากที่ไดทราบวาโอเขาวัดมาทําวัตรเย็นคนเดียวบอยๆ บางครั้งมากับเกงเล็กเพราะสองคนนี้เขาซี้กัน และที่สําคัญผมไดรูจักกับพี่คนหน่ึงในลานธรรมที่รูจักกับโอเปนอยางดี พ่ีเขาไดแนะนําพูดคุยธรรมะกับโออยูเสมอ จึงรูสึกวาโอจะไมหางธรรมะและพระพุทธศาสนา ชีวิตโอจะดีขึ้นแนนอน

เกงเล็ก เนื่องจากบานอยูใกลวัด หลังจากที่สึกไปจึงกลับมาทําบุญตักบาตรอยูเสมอ เกงเล็กเคยบอกผมไววาหลังจากสึกไปก็คงจะทําตัวเหมือนเดิมเหมือนกอนที่จะเขามาบวช แตที่จะเพ่ิมเติมขึ้นมาคือการทําบุญ ผมนึกขึ้นไดแลวยังรูสึกขําไมหาย หนึ่งวันหลังจากเกงเล็กสึกออกไป เกงเล็กซื้อน้ําปานะชุดใหญเต็มที่เก็บของทายรถแจซมาถวายโรงน้ํารอน เพื่อทดแทนในสวนที่เกงเล็กไดฉันไปเมื่อตอนบวชเปนพระ อยางนี้ก็นารักดีเหมือนกัน

พี่เจมส แตงงานแลวก็ยังคงดูเปนผูใหญอยูเสมอ เคยพาเจาสาวมาใหพระอาจารยเอกดูตัวดวย เปนคนที่มาบวชตรงตามประเพณีจริงๆ คือบวชกอนเบียด อยางนอยธรรมะก็จะชวยใหพ่ีเจมสมีธรรมะในการครองเรือนนับต้ังแตเริ่มสรางครอบครัวอั๋นต้ังหนาต้ังตาเรียนตอและสนุกสนานกับการเลนฟุตบอลกับหมูเพื่อนทุกๆ เย็น เพราะอั๋นเปนคนที่ไมทุกขไมรอนไมคิดมากและดูชีวิตจะมีความสุขอยูเสมอ ธรรมะคงจะไมยังประโยชนใหกับอั๋นในตอนนี้

เกงใหญกับพี่วัฒน ไมไดติดตอกันเลย

ฟลุค กลับไปรับปริญญาและเริ่มงานในสิ่งที่เขาชอบ แตสิ่งที่ฟลุคยังติดใจอยูคือการเลือกทําบุญกับกลุมพระที่เขาคิดวาปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแลว ยึดติดกับสีของผากาสายะโดยที่ลืมมองแกนแทของการทําบุญไป เรื่องนี้พระอาจารยเอกย้ําแกฟลุคเสมอที่ฟลุคกลับมาเยี่ยมนมัสการ ฟลุคกับผมมักจะนัดกันเดินทางจากกรุงเทพฯ มาขอนอนที่วัดอยูเสมอๆ ฟลุคบอกผมวาอยากจะมาสวดมนตทําวัตรที่วัด บางครั้งก็ถือโอกาสทองเที่ยวไปในจังหวัดเชียงใหมดวย นับวาฟลุคก็จะไมหางจากวัดเชนกัน

เปก กลับมาเยี่ยมนมัสการพระอาจารยเอกบางที่เขามีโอกาส มักมีของติดไมติดมือมาทําบุญ แตปจจุบันเปกตองไปทํางานตางถิ่นที่ไกลออกไป มาไดไมบอยเทาใดที่ก็ยังคงไดติดตอกับพระอาจารยเอกนานๆ ครั้ง

บอย กลับไปทํางานกับกิจการของครอบครัวที่ตางอําเภอ บอยไดรับภาระกิจใหญคือการดูแลอุปฏฐากวัดใกลบานของเขา ซึ่งเปนวัดในสายครูบาอาจารยเดียวกันกับวัดเราที่พระอาจารยเอกเคยพาพระใหมไปทัศนศึกษา บอยบอกวาเมื่อกอนไมเคยคิดจะทํา บุญใสบาตรกับพระที่บิณฑบาตผานหนาบานเลย เดี๋ยวนี้จะดูแลพระสงฆและบํารุงวัดใกลบานนี้ใหดีใหสมกับเปนวัดของครูบาอา จารยที่เขาเคารพศรัทธาหลังจากการบวช

Page 80: เรื่องเล่า   ครั้งผมครองเพศบรรพชิต

80

สวนผม เริ่มงานกับที่ทํางานใหม ดวยที่ยังคงติดความนิ่งๆ และดูธรรมะธัมโม เพื่อนๆ จึงเรียกผมวา “หลวงพี่” เวลามีงานสําคัญเกี่ยวกับประเพณีทางพระพุทธศาสนามฃมักจะใหผมเปนคนดําเนินการอยูเสมอ อยางนอยเรื่องนําสวดมนตนี่ก็ไมไดขาด และตรงจุดนี้เองทําใหผมรูวา เพื่อนๆ ที่ทํางานใหมนี้แมแตบทอิติปโสก็ทองไมได ออมแอมถั่วงาๆ กันแทบทุกคนเลย

เพื่อนๆ ในที่ทํางานใหมมีความสนใจในพระพุทธศาสนาเปนอยางมาก หลายคนเขามาถามไถขอสงสัยในเรื่องเล็กๆ นอยๆ ตาง บางคนมาถามขอความกระจางเรื่องการทําบุญไปจนถึงอิทธิฤทธิ์ปาฏหาริยของครูบาอาจารยทานตางๆ ที่ไดยินไดฟงมา คําถามเหลานี้ผมระมัดระวังในการตอบทุกครั้ง เพราะหากเราไมรูจริงจะไปเพิ่มความเห็นผิดใหแกเขาได ผมมีหนังสือหลักธรรมะ พุทธประวัติและรายละเอียดตางๆ ของพระพุทธศาสนาติดตัวมาจากเชียงใหม ใชเปนหนังสืออางอิงอยูเสมอ หากเรื่องไหนจนปญญาที่จะตอบ ผมจะสอบถามไปที่พระอาจารยเอกทันที

ผมพยายามสวดมนตและภาวนาทุกๆ วันเทาที่โอกาสจะเอื้ออํานวย หลวงพี่แจคยังคงย้ําใหผมปฏิบัติทุกวันตอเนื่องอยูเสมอ และดวยจุดนี้เองที่ผมดูเปนคนมีธรรมะ จึงไดรับความไววางใจจากเพื่อนในหลายๆ เรื่อง ทั้งเปนที่ปรึกษาและการทํางานใหญๆ ผมรูสึกเปนดั่งที่พระอาจารยเอกวาไววา เมื่อเราทําดีใหเปนที่ประจักษแกคนทั่วไป เขายอมเชื่อใจและเขามาหาเราเอง เมื่อใดที่ใจเขาพรอมมีศรัทธา เมื่อนั้นเราจะแนะนําธรรมะใหแกเขาโดยงาย เพื่อนๆ มักจะเขามาขอยืมหนังสือธรรมะไปอานเองเพิ่มเติม บางครั้งขอยืมแผนซีดีบรรยายธรรมะไปฟงกอนนอน บางคนถึงกับขอใหผมชวยนําสวดมนตทําวัตรเย็นใหแกเขาดวยเพราะวาสวดมนตคนเดียวแลวเหงา อยางนี้เปนตน ผมรูสึกดีใจที่พวกเขาสนใจในเรื่องนี้กันมากขึ้นในสังคม การทํางานของเราก็จะมีแตคนดีมีธรรมะปญหาตางๆ ยอมเกิดไดยาก สังคมจะสงบสุข

ปจจุบันผมมีความสุขมากกวาความทุกขในการดําเนินชีวิต บางครั้งมีทุกขเขามามากก็รูวิธีที่จะขจัดไปใหเบาบาง ทําบุญและชักชวนใหคนรอบขางโดยเฉพาะพอแมไดมีโอกาสทําบุญอยูเสมอ เลี้ยงดูพอแมและกลับไปนมัสการพระอาจารยเอกทุกครั้งที่มีโอกาสไดกลับไปเชียงใหม ตลอดระยะเวลาที่ทํางานในที่ใหม ทุกเสารอาทิตยจะเขาไปภาวนาในวัดที่อยูใกลเคียง อยางนอยเพื่อเปนการเติมพลังใหแกชีวิต เตือนตนเอง ดูจิตและทบทวนใจของเราเพื่อตอสูกับการทํางานในอาทิตยตอๆ ไป

สุดทาย คือสิ่งที่มุงหวังอยูในในเสมอคือการรอคอย เมื่อใดจะถึงเวลาอันสมควรที่ผมจะไดสัมผัสความสงบและมีสุขที่แท จริงอยูในผาเหลืองอีกครั้ง เพื่อการปฏิบัติสูงสุด เพื่อกาวพนใหหลุดซึ่งวัฏสงสารวังวนแหงทุกขนี้เสียที.

จบบทสงทายอยางบริบูรณ.

ขอความสุข สวัสด ีจงมีแกทุกคนทุกทาน...เทอญ