ครูณัฐพล บัวอุไร โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ลาลูกกา
ครูณัฐพล บัวอุไร
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ล าลูกกา
การสื่อสารข้อมูล
ระบบการสื่อสารข้อมูล
การถ่ายโอนข้อมูล
เครือข่ายคอมพิวเตอร ์
- ทิศทางการสื่อสาร - ชนิดของสญัญาณ
- รูปแบบของการถ่ายโอนข้อมลู - ตวักลาง - ระบบบสั
- ประเภทของคอมพิวเตอร์ - โครงสร้างเครือขา่ย - ชนิดของเครือขา่ย
การสื่อสารข้อมูล
ระบบการสื่อสารข้อมูล
การถ่ายโอนข้อมูล
เครือข่ายคอมพิวเตอร ์
- ทิศทางการสื่อสาร - ชนิดของสญัญาณ
- รูปแบบของการถ่ายโอนข้อมลู - ตวักลาง - ระบบบสั
- ประเภทของคอมพิวเตอร์ - โครงสร้างเครือขา่ย - ชนิดของเครือขา่ย
• การสื่อสารข้อมูล (Data Communication) คือการรับ ส่ง โอน ย้ายหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลและข่าวสาร (Information) ส่งผู้ส่งไปยังผู้รับ
• ระบบการสื่อสารมี 5 องค์ประกอบ
1. ผู้ส่งข้อมูล (Sender)
2. ผู้รับข้อมูล (Receiver)
3. ข้อมูล (Data)
4. สื่อน าข้อมูลหรือตัวกลาง (Medium)
5. โพรโทคอล (Protocol)
•สามารถแบ่งการสื่อสารข้อมูลตามทิศทางการสื่อสารได้ 3 รูปแบบ 1. การสื่อสารข้อมูลทิศทางเดียว (Simplex Transmission)
2. การสื่อสารข้อมูลสองทิศทางสลับกัน (Half-Duplex Transmission)
2. การสื่อสารข้อมูลสองทิศทางพร้อมกัน (Full-Duplex Transmission)
สามารถแบ่งลักษณะของสัญญาณข้อมูลได้ 2 ประเภท คือ
1. สัญญาณแอนะล็อก (Analog Signal)
2. สัญญาณดิจิทัล (Digital Signal)
การสื่อสารข้อมูล
ระบบการสื่อสารข้อมูล
การถ่ายโอนข้อมูล
เครือข่ายคอมพิวเตอร ์
- ทิศทางการสื่อสาร - ชนิดของสญัญาณ
- รูปแบบของการถ่ายโอนข้อมลู - ตวักลาง - ระบบบสั
- ประเภทของคอมพิวเตอร์ - โครงสร้างเครือขา่ย - ชนิดของเครือขา่ย
การถ่ายโอนข้อมูลในคอมพิวเตอร์มี 2 รูปแบบ คือ
1. การส่งสัญญาณข้อมูลแบบอนุกรม (Serial Data Transmission)
1.1 การส่งสัญญาณข้อมูลแบบอะซิงโครนัส (Asynchronous Transmission)
1.2 การส่งสัญญาณข้อมูลแบบซิงโครนัส (Synchronous Transmission)
2. การส่งสัญญาณข้อมูลแบบขนาน (Parallel Data Transmission)
เป็นสื่อกลางที่ใช้ในการรับ-ส่งข้อมูล โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. ตัวกลางประเภทมีสาย
2. ตัวกลางประเภทไร้สาย
1. สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair Cable)
2. สายตัวร่วมแกนหรือสายโคแอกเชียล (Coaxial Cable)
3. ใยแก้วน าแสง (Optical Fiber Cable หรือ Fiber Optic)
1. แสงอินฟราเรด (Infrared)
- เช่น สัญญาณจากรีโมตคอนโทรล สัญญาณจากโทรศัพท์มือถือที่เรียกว่า Bluetooth
2. สัญญาณวิทยุ (Radio Wave)
- ใช้อากาศเป็นตัวกลาง หากสภาพ
อากาศไม่ดี จะมีผลต่อสัญญาณ
- ได้แก่ สัญญาณโทรทัศน์ วิทยุ
สายการบิน เป็นต้น
3. ไมโครเวฟ (Microwave) เป็นสัญญาณวิทยุแต่มีความถี่ในระดับกิกะเฮิรตซ์ (Gigahertz)
3. ไมโครเวฟ (Microwave) เป็นสัญญาณวิทยุแต่มีความถี่ในระดับกิกะเฮิรตซ์ (Gigahertz)
4. ดาวเทียม (Satellite)
- Uplink และ Downlink
- ใช้สัญญาณไมโครเวฟ
• ระบบบัส คือ วงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ท าหน้าที่รับและส่งสัญญาณข้อมูลระหว่างฮาร์ดแวร์ในคอมพิวเตอร์
1. ความเร็วของระบบบัส คือ ความสามารถในการรับส่งสัญญาณข้อมูล ซึ่งขึ้นอยู่กับความกว้างของระบบบัส
- ความถี่ของช่องสัญญาณเรียกว่าแบนด์วิดท์ (Bandwidth)
- บัส 32 บิต หมายความว่าสามารถส่งข้อมูลได้พร้อมๆ กัน 32 บิต
- การที่คอมพิวเตอร์มีบัสมากจะท าให้ความถี่เพิ่มขึ้น และอาจเกิดการรบกวนต่อการส่งสัญญาณ
2. ส่วนประกอบของระบบบัส ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่
1. เส้น (Line) คือเส้นสัญญาณบนเมนบอร์ด
2. ชิปควบคุม (Control Chip) ควบคุมการท างานของบัส ดูแลการส่งสัญญาณข้อมูล
3. ช่องเสียบต่อขยายหรือสล็อต (Slot) คือช่องเสียบแรม (Ram) หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ
3. โครงสร้างบัส (Bus Structure) บัสสามารถแบ่งตามลักษณะของการส่งข้อมูลได้ 3 ประเภท คือ
1. บัสข้อมูล (Data Bus) เป็นบัสเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ต่างๆ เพื่อส่งข้อมูล
2. บัสต าแหน่ง (Address Bus) บอกต าแหน่งในการรับส่งข้อมูล
3. บัสควบคุม (Control Bus) ควบคุมการรับส่งข้อมูล และระบุว่าจะต้องท าอย่างไรกับข้อมูลนี้
การสื่อสารข้อมูล
ระบบการสื่อสารข้อมูล
การถ่ายโอนข้อมูล
เครือข่ายคอมพิวเตอร ์
- ทิศทางการสื่อสาร - ชนิดของสญัญาณ
- รูปแบบของการถ่ายโอนข้อมลู - ตวักลาง - ระบบบสั
- ประเภทของคอมพิวเตอร์ - โครงสร้างเครือขา่ย - ชนิดของเครือขา่ย
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) คือ การน าคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปมาเชื่อมต่อกันผ่านสื่อ
• เพื่อใช้ทรัพยากรร่วมกัน
• เพื่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูล
• เพิ่มความน่าเชื่อถือในการประมวลผลข้อมูล
• ควบคุมการท างานของคอมพิวเตอร์ระยะไกล
คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในระบบเครือข่ายมีหลายประเภท ดังนี้
1. เครื่องเซิร์ฟเวอร์ (Server)
2. เครื่องไคลเอนต์ (Client)
เครื่อง terminal เครื่อง workstation
1. เครือข่ายแบบบัส (Bus Topology)
• ใช้สายส่งข้อมูลหลัก (Backbone) เป็นแกนกลาง
• ปลายสายจะมีเครื่องเทอร์มิเนเตอร์เพื่อดูดกลืนข้อมูล
• ส่วนใหญ่ใช้สายโคแอกเชียล
• ข้อดี • ใช้สายส่งสัญญาณน้อย ประหยัดค่าใช้จ่าย
• ข้อเสีย • ไม่เหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอร์จ านวนมาก
1. เครือข่ายแบบบัส (Bus Topology)
2. เครือข่ายแบบดาว (Star Topology)
• รูปร่างคล้ายดาว ใช้อุปกรณ์ที่เรียกกว่า ฮับ (Hub)
• ใช้สายคู่บิดเกลียว
• ข้อดี • เชื่อมต่อได้ง่าย
• ถ้าเครื่องใดเสีย ระบบยังท างานต่อได้
• ข้อเสีย • ถ้าฮับเสีย เครือข่ายจะท างานไม่ได ้
2. เครือข่ายแบบดาว (Star Topology)
3. เครือข่ายแบบวงแหวน (Ring Topology)
• การเชื่อมต่อคล้ายวงแหวน
• ส่งข้อมูลในทิศทางเดียวกัน
• ต้องส่งข้อมูลผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องเป็นวงกลม
• ข้อดี • ข้อมูลไม่ชนกัน ใช้สายส่งสัญญาณน้อยกว่าเครือข่ายแบบดาว
• ข้อเสีย • หากสายสัญญาณช ารุด ระบบจะไมส่ามารถท างานได้
3. เครือข่ายแบบวงแหวน (Ring Topology)
1. เครือข่ายแบบส่วนบุคคล (PAN : Personal Area Network
2. เครือข่ายแบบท้องถิ่น (LAN : Local Area Network)
2. เครือข่ายแบบท้องถิ่น (LAN : Local Area Network)
Peer to Peer
2. เครือข่ายแบบท้องถิ่น (LAN : Local Area Network)
Client/Server
3. เครือข่ายแบบเชื่อมโยงภายในเมืองเดียวกัน (MAN : Metropolitan Area Network)
4. เครือข่ายแบบระยะทางไกล (WAN : Wide Area Network)